ความคิดเห็นที่ 1 พูดถึงตั๋วเครื่องบินขึ้นมาแล้วก็กลุ้มกันเลยดีกว่า เพราะพี่หางแดงเลิกบินไปยุโรปซะแล้ว ความหวังจะเอาตั๋วถูกเลยยากขึ้นอีกนิด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ล่าสุดเห็นสายการบินของอินเดียอย่างเจทแอร์เวย์ มีโปร กทม-มิลาน ไปกลับ ราคาราวๆ 17000 บาท รวมทุกอย่างแล้ว ก็ต้องจ้องตามข่าวกันดีๆ เผื่อว่าจะดวงดีได้ตั๋วราคางามๆ มาครอบครอง ส่วนเรามีความอยากเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว พอมีโปรตั๋วเครื่องบินโผล่มาทีก็รีบคว้า เลยได้ตั๋ว กทม-ปารีส มาในราคา 8000 บาท ของสายการบินแอร์เอเชีย ยอมเสียเวลาเปลี่ยนเครื่องที่มาเลย์ แต่ราคานี้ก็จัดว่าคุ้มละนะ ส่วนตั๋วกลับเราใช้บริการอิยิปต์แอร์ กลับเป็นเส้นทาง โรม-กทม. ราคา 13500 บาท ยอมจองตั๋วไปก่อนเพื่อให้ได้ราคาโปรถูกสุด ทั้งที่วีซ่ายังไม่ได้ยื่นเลย (แน่ล่ะวีซ่ายื่นได้ก่อนวันเดินทางแค่ 90 วัน แต่เราจองตั๋วกันล่วงหน้าเกือบปี) ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องแบกรับ เคยเห็นกระทู้ถามว่า คิดยังไงถึงยอมจองตั๋วทั้งที่ยังไม่มีวีซ่า ส่วนหนึ่งตอบตรงๆ ว่าต้องยอมเสี่ยง หลายคนบอกว่าต้องประเมินตัวเองก่อนว่าน่าจะได้วีซ่าไหม บอกตามตรง เราเป็นคนหนึ่งที่เสี่ยงสูงมาก เพราะไมได้ทำงานประจำ อาชีพอิสระมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะเอกสารพร้อม (ซึ่งจะกล่าวต่อไป) และเหตุสำคัญที่สุดที่กล้าจองตั๋วทั้งที่ไม่มีีวีซ่าก็เพราะว่าอยากไปมากๆ และถ้า เรายังไม่ยอมจองตั๋ว เราก็คงจะเลื่อนกำหนดการไปยุโรปออกไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่มีวีซ่า แล้วจะรีบทำรายละเอียดของทริปไปทำไม หรือไม่คือมองในทางกลับกัน เพราะเราจองตั๋วก่อนทำวีซ่านี่ละ ถึงทำให้เราหันมาจริงจังกับการจัดทริปไปยุโรปมากมายขนาดนี้ได้ ตรงจุดนี้ขึ้นคำเตือนให้ให้วิจารณญาณส่วนบุคคลนะจ๊ะ ฮ่า ในภาพ ราคานี้ เหลือแค่ตำนานแล้ว จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:45:09

ความคิดเห็นที่ 2 เกาะขอบรอชมค่ะ จากคุณ : กระต่ายลอยคอ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:50:17

ความคิดเห็นที่ 3 เอาละเมื่อได้เส้นทาง ได้ตั๋วแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือขอวีซ่า มาถึงตรงนี้หลายคนเริ่มกลุ้ม เพราะวีซ่าเชงเก้นก็ขึ้นว่าหินโหดเจ้าหนึ่งในโลก แต่อย่าได้กลุ้มไป มันมีวิธี ไม่ยากอย่างที่คิด เราแค่ไม่เคยทำก็เลยกลัว+กังวลไปก่อนเท่านั้นเอง มีกฏง่ายๆ ในการขอวีซ่า(เท่าที่นึกออก) -*- คือ -ขอได้ก่อนเดินทางไม่เกิน 90 วันเท่านั้น -ถ้าไปหลายประเทศ ให้ดูว่า อยู่ที่ไหนนานสุด นานสุดคือนับกลางคืนว่านอนที่ไหน กลางวันไม่สนใจว่าอยู่ไหน อยู่ไหนนานสุดให้ขอของสถานทูตประเทศนั้น แต่ถ้านานพอๆ กันหลายที่ให้ขอประเทศแรกที่เข้าไปเยือน -อัตราค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น(ท่องเที่ยว)อยู่ที่ 60 ยูโร แต่ละช่วงค่าเงินบาทจะไม่เท่ากัน ค่าวีซ่าขึ้นลงได้ตามค่าเงินบาท และหลายประเทศต้องผ่านตัวแทน VSF ต้องเสียค่าธรรมเนียน เอ๊ย ธรรมเนียมเพิ่มอีก 535 บาท (ขออภัยหากตัวเลขผิดพลาด) -ถ้าไม่ได้ไปประเทศ ก. แต่พอดีได้ข่าวมาว่าประเทศ ก. คิววีซ่าโล่ง+วีซ่าของ่าย เลยจะไปขอ แบบนี้ไม่แนะนำให้ทำ เพราะเจ้าหน้าที่เขาตรวจสอบค่อนข้างละเอียด มีแววที่เขาจะจับได้สูงทีเดียว -ถ้าไปขอวีซ่าจากประเทศ ก. มาแล้ว แต่พอดีเปลี่ยนแผนไม่ได้เข้าประเทศ ก. นั้นไม่เป็นไร เดินทางได้ปกติค่ะ จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:50:56

ความคิดเห็นที่ 4 เอกสารในการขอวีซ่าเชงเก้น 1. รูปถ่าย 2 ใบ (ขนาด 5 x 3 cm. หรือ 2 นิ้ว ฉากหลังของรูปเป็นสีขาว) 2. สมุดบัญชีธนาคาร หนังสือรับรองการเงินจากธนาคาร พร้อมสำเนา (บบางครั้งเขาจะขอดูเล่มจริงแล้วคืนให้) 3. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ที่มีวงเงินประกันสูงเพียงพอ (ไม่ต่ำกว่า 30,000 เหรียญยูโร หรือ 1,500,000 บาท) และมีผลคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่ผู้ร้องพำนักอยู่ในกลุ่มประเทศสัญญาเชงเก็น ประกันการเดินทางหาได้ทั่วไป เจ้าที่ฮิตๆ มีอยู่ไม่กี่เจ้า เลือกได้ รายละเอียดคล้ายๆ กันหมด แต่ส่วนมากถ้าวีซ่าไม่ผ่านไม่ได้เดินทางจะคืนเงินได้นะคะ 4. แบบฟอร์มวีซ่ากรอกข้อมูลครบถ้วนและเซ็นต์ชื่อ 1 ชุด ตรงนี้ถ้าไปกันหลายคน ก็ดูดีๆ กรอกทุกอย่างให้เหมือนกัน พวกคำถามที่ว่า เข้ายุโรปกี่วัน นับวันได้เท่ากันด้วย บางครั้งเข้าใจผิดกันได้ ว่าจะนับวันที่ขึ้นเครื่องบินด้วยหรือไ่ม่ ก็นับให้เท่ากันทุกคนก็พอ 5. หนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางจะต้องมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 3 เดือน โดยนับจากวันสิ้นสุดวีซ่า 6. ใบจองตั๋วเครื่องบิน หรือหลักฐานแสดงเส้นทางการเดินทาง เช่น ใบจองเที่ยวบินโดยสารทั้งขาไป - ขากลับ หรือใบจองโรงแรม / ที่พัก ข้อนี้แนะนำให้ใช้ใบจองตั๋วเครื่องบินจากเอเย่น (บางรายคิดค่าบริการ 300 บาท พอยื่นเสร็จแล้วจะไม่เอาตั๋วก็ไม่ว่ากัน) ส่วนที่พักแนะนำ booking.com เลือกโรงแรมที่มีเงื่อนไขการจองว่า ไม่มีการหักมัดจำล่วงหน้า และไม่หักเงินกรณียกเลิกก่อนการเข้าพักมากกว่า 1 วัน 7. แผนการเดินทาง หากในแผนการเดินทางของคุณมีการจองอย่างอื่นเพิ่ม เป็นต้นว่ารถไฟยุโรปที่จองล่วงหน้าแล้วจะถูกเว่อๆ และเผลอจองไปแล้วก็แนบไปด้วยเพื่อความน่าเชื่อถือ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 21:58:26 จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:56:17

ความคิดเห็นที่ 5 ดูเหมือนว่าเอกสารทั่วไปจะไม่มีอะไรยาก แต่หลายคนมาติดตรงที่เอกสารรับรองการทำงาน ก่อนอื่นเริ่มจากมนุษย์เงินเดือน(เผื่อใครไม่มีตัวอย่างฉบับร่าง) วันที่ To whom it may concern, This is to certify that Miss. ......ชื่อ...... has been working as a ......ตำแหน่ง..... of ..ชื่อบริษัท... Co., Ltd. with salary ..จำนวนเงิน... Baht (..ย้ำจำนวนเงินเป็นตัวสะกด.. Baht) since ..เดือนและปีที่เริ่มทำงาน. She was granted to take the vacation to Europe during ..วันที่จะไปยุโรป... 2012 and she will be back to work on ....วันที่กลับไปทำงาน... 2012. It would be highly grateful for any kind assistance the Embassy can extend to Miss ...ชื่อ...’s visa application. I hereby certify that the above mentioned are true and correct. Yours sincerely, ลงชื่อ+ตำแหน่ง หากคุณทำงานอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน ลักษณะการเขียนจดหมายก็คล้ายๆ ข้างบนนี้ เพียงแต่คุณต้องเพิ่มการอธิบายว่างานของคุณคืออะไร ลักษณะงานนี่ทำอะไรอยู่ที่ไหน รายได้เป็นยังไง ใครเป็นเจ้านาย หรือเป็นนายตัวเองและเซ็นชื่อรับรองตัวเองข้างท้าย ตรงนี้ใครไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ต้องลองหาเพื่อนเก่งๆ มาเขียนแทนดู เขียนอธิบายมันตรงๆซื่อๆ นี่ล่ะ ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน ปรับปรุงจากฉบับข้างบนนี้ จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:08:11

ความคิดเห็นที่ 6 ทีนี้มาถึงอีกข้อสำคัญของวีซ่า คือการจองคิว สถานทูตหลายแห่งต้องจองคิวล่วงหน้า บางแห่งวิกฤติถึงขั้นต้องล่วงหน้ากันถึงสองสามเดือนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ยิ่งถ้าคุณจะไปยุโรปช่วงที่คนไทยนิยมไปมาก(เช่นเดือนเมษายนเช่นนี้) คุณต้องวางแผนล่วงหน้า หนึ่งในนั้นคือการจองคิววีซ่า ตรงนี้ต้องขออภัยที่ไม่มีข้อมูลมานำเสนอมากนัก เพราะที่เราเคยไปขอเขาก็เปลี่ยนกฏไปแล้ว แต่โดยรวมแล้วไม่มีอะไรยาก ส่วนมากแค่โทรไปตามเบอร์ที่เปิดให้โทรไปจองคิว บอกชื่อของคุณ+หมายเลขพาสสปอต เท่านี้ก็เรียบร้อย(และค่าโทรอีกหลายสิบบาท) ถ้าเดินทางหลายคนแนะนำให้ไปขอวีซ่าพร้อมกัน มันช่วยให้วีซ่าผ่านทุกคนได้ง่ายขึ้นจริงๆ ตอนเราไปขอวีซ่า ตอนนั้นสถานทูตอิตาลี ยังให้ระบบเก่าโทรไปจองคิว ไม่มีการผ่านนายหน้า เราจองล่วงหน้าถึงเกือบ 6 เดือนก่อนวันเดินทาง คือคิวที่ได้มันอีก 3เดือน และ 3เดือนถัดจากวันที่ได้คิว เราก็จะเดินทางจริง มันช่างยาวนานเหลือเกิน -*- อ้อ สิ่งหนึ่งที่มีคนมาตั้งกระทู้บ่อยๆ คือถามว่า มีเงินเท่านี้ๆๆ ไปขอวีซ่า จะได้ไหม ตรงนี้เรายืนกรานว่าจำนวนเงินไม่เกี่ยว เขาดูความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอของบัญชีมากกว่า มันดูน่าเชื่อถือกว่าการที่อยู่ๆ ก็มีเงินก้อนใหญ่โอนเข้ามาแช่อยู่สักสามเดือน ก็เถอะนะ ตรงนี้ขอยืนยัน เพราะเพื่อนเรา มีเงินในบัญชีไปยื่น เหลือแค่ 2000กว่าบาทเท่าน้น และได้วีซ่ามาแล้วววววว แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 22:17:13 จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:14:16

ความคิดเห็นที่ 7 เอาๆๆ แจกกิ๊ฟ กันก่อนเลยยย จากคุณ : @มะตูม@ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:15:33

ความคิดเห็นที่ 8 ระหว่างรอคิววันไปยื่นวีซ่า เราก็มาวางแผนการเดินทางกันดีกว่า เราเริ่มจากโจทที่ว่า เริ่มต้นปารีส ปิดท้ายที่โรม นับวันจากปารีส ถึงโรม มีเวลาเที่ยวทั้งหมด 18 วันเต็ม รวมวันบินเข้าไปเป็น 20 วัน ทีนี้ก็เปิดแผนที่ดูสิว่าจากปารีสถึงโรม มีอะไรบ้างที่เราอยากไป หลังจากคัดเลือกอยู่จนปวดหัว ชื่อของหลายเมืองผุดขึ้นมาแย่งกันจะเป็นทางผ่านของเราทั้งนั้น ระหว่างเลือกเมือง เราก็เริ่มต้นลงมือจอง โรงแรมไปด้วย ผ่านบุคกิ้งดอทคอม แล้วดันตาลายคล้ายจะเป็นลมเพราะเผลอไปจองผิดเสีย 2 คืน ซึ่งเป็นโรงแรมที่จองแล้วคืนเงินไม่ได้ แงๆๆ ตอนนั้นสติแตกหน่อยๆ เพราะโรงแรมบ้านี่อยู่ไหนยังไม่รู้เลย สุดท้ายทำใจยอมรับมันแล้วก้าวต่อไปฮาาาา มันคือเมืองนี้เอง Trier , Germany เมืองเก่าแก่เล็กๆ ที่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เราประทับที่สุดของยุโรป ไม่น่าเชื่อเลยว่าความผิดพลาดวันนั้นจะกลายเป็นความประทับใจอย่างมาก นอกเรื่องหน่อย เพราะยุโรปวันอาทิตย์ ไม่ได้คึึกคักเหมือนเมืองไทย หลายเมือง ร้านค้าปิดหมด ไม่มีอะไรให้ไปเที่ยว และวันนั้นที่เราจองโรงแรมผิดก็เป็นวันอาทิตย์แห่งเมืองเทียร์ เยอรมัน ทำเอาห่อเหี่ยวกันเลยทีเดียว แต่พอไปถึงทุกอย่างมันตรงกันข้ามมาก เพราะเราโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อมันเป็นวันอาทิตย์ 1 ใน 2 วันของปี ที่เืมืองเทียร์ มีการออกร้านขายของคึกคักกันตั้งแต่ช่วงกลางวันเลยไปยันสองทุ่ม เมืองที่ไม่ได้ตั้งใจเลยกลายเป็นความสุขไปในพริบตา จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:31:55

ความคิดเห็นที่ 9 บรรยากาศที่เทียร์ ฟ้าครึ้มไปหน่อย แต่ไม่มีฝน และผู้คนคึกคักกันทั้งเมือง เรานั่งรถไฟไปถึงแล้วลากกระเป๋าเดินไปที่พักราวๆ 20 นาที ไปทางไหนก็มีแต่คนมองฮ่าๆ เพราะนักท่องเที่ยวไม่ค่อยมี แต่ที่นี่เราได้พบกับตลาดกลางแจ้ง และเจอกระทั่งงานวัดตั้งชิงช้าสวรรค์ สวนสนุกย่อมๆ มีเบียร์เยอรมันรสชาตเยี่ยม กับไส้กรอกที่อร่อยสุดยอดขายในราคา 2 ยูโรด้วย แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 22:34:30 จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:33:04

ความคิดเห็นที่ 10 กระทู้ดีมีประโยชน์ กดกิ๊ฟ กดโหวต กดเข้าคลั งกระทู้ เรียบร้อยแล้วค่ะ จากคุณ : SweetRainbow เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:34:49

ความคิดเห็นที่ 11 ในทีสุดเราก็คัดเลือกเส้นทางสำเร็จ โชทมีเพิ่มมาอีกหน่อย เพราะต้องแวะหาเพื่อนที่แฟรงค์เฟิร์ต และแวะหาคนรู้จักที่มิวนิค สุดท้ายมันลงเอยที่ ปารีส-บลัสเซล-ลักแซมเบิร์ก-เทียร์-แฟรงค์เฟิร์ต-มิวนิค-ซาวบรวก-เวนิส-มิลาน-ฟรอเรนซ์-ปิซา-โรม 12เมือง กับ 18 วัน ฟังดูเหนื่อยมาก แย่มาก ชะโงกทัวร์มาก แต่ความเป็นจริงแล้ว มันก็เหนื่อย(ไม่มาก) แต่สนุกมากๆๆ เราได้แกรนด์อิตาลีโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะพี่พนักงานตรวจตั๋วรถไฟที่เยอรมันใจดี ไม่ปั้มของเรา 1 วัน ทำให้เรามีตั๋วเพิ่มมาอีกวัน เลยมีโอกาสไปได้เพิ่มอีกอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เยอรมันขึ้นชื่อว่าตรงเดะเป็นไม้บรรทัด แต่เขาคงใจดี เห็นสาวไทยเซ่อๆ อย่างเราแล้วสงสาร ถึงได้ไม่ปั้มวันบนตั๋วไปซะหนึ่งวัน ก่อนจะไปมีคนมาโพสตอบว่าแฟรงค์เฟิร์ตไปทำไมไม่มีอะไรเลย แต่พอเราได้ไปเข้าจริงกลับเป็นอีกเมืองที่น่ารักนะ ใจกลางเมือกงสวยมากและเริ่มเสียดายมากๆ ที่มีเวลาที่นี่น้อยเกินไป บรรยากาศริมน้ำดีสุดๆ ผู้คนก็เป็นมิตรการเดินทางสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องเดินหนีบระวังตัวเหมือนที่อื่น(จริงๆ เยอรมันเป็นแบบนี้ทุกเมือง) ในภาพเป็นมุมใบไม้เหลืองที่ลักแซมเบิร์ก ซึ่งเป็นอีกเมืองที่สะอาดปลอดภัยและของแพงมากๆ ขนาดเพื่อนเราบ้าซื้อของที่ละรึก ยังซื้ออะไรแทบไม่ลงเลย แงๆๆ วันแรกๆ ที่ไปถึง ตื่นเต้นมากไม่เคยเห็นใบไม้เหลืองมาก่อน ถ่ายรูปมันทุกต้นที่เห็น เท่าที่ทำได้ แต่วันหลังๆ เจอเป็นป่าแล้วก็ยังเฮ้อเบื่อแล้ว ฮาาาา จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:45:56

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพลักแซมเบิร์ก ใบไม้เหลือง จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:46:42

ความคิดเห็นที่ 13 อะฮ้าาาา..Trier , Germany จำได้แล้ว คุณ จขกท เคยโพสต์ถามเรื่องที่พักในเมืองนี้ ดีใจด้วยคะ ที่เรื่องเหมือน " ร้าย " ในตอนนั้น กลับกลายเป็น " ดี และ ประทับใจ " ไปได้  โชคดีจริงๆ จากคุณ : สิบล้อชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:49:19

ความคิดเห็นที่ 14 แฟรงค์เฟิร์ตยามค่ำคืน จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:49:46

ความคิดเห็นที่ 15 หากใรจะแวะไปแฟรงค์เฟิร์ตด้วยรถไฟแนะนำให้พักที่นี่เลยค่ะ อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟกลาง เดินทางสะดวกเว่อๆๆๆๆๆ ราคาก็ถูกมาก จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:51:45

ความคิดเห็นที่ 16 พรุ่งนี้มาติดตามต่อ คืนนี้ขอลาไปนอนก่อน เป็นกำลังใจนะคะ รีวิวดี ๆ แบบนี้ จากคุณ : ที่มีแสงสว่าง เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:53:26

ความคิดเห็นที่ 17 กลับมาที่การวางแผนการเดินทางกันต่อค่ะ พอได้เมืองคร่าวๆ แล้วว่าจะไปไหนบ้าง เราก็กำหนดว่าวันไหนจะอยู่ที่ไหน แล้วถึงใส่สถานที่เที่ยวลงไปว่าจะไปไหนกันบ้าง ใครอยากอยู่เมืองไหนนาน เมืองไหนแวะชะโงกก็ตามแต่ความชอบ สำหรับเราเน้นหนักไปที่ปารีส มิวนิค และโรม นอกนั้นเป็นเมืองทางผ่านทั้งหมด ด้วยความโลกมันถึงได้มากถึง 12 เมือง ใน 18 วัน พอได้เมืองและจำนวนวันแล้วก็จดลงกระดาษเลยกันความสับสนในการจองโรงแรม ไล่จองตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ตั้งแต่ปารีสถึงโรมกันไปเลย พยายามจองทีละเมืองตามลำดับ อย่าสลับ เพราะเลาจองเยอะๆ มันจะสับสนมาก -*- ถึงจะจองกับบุคกิ้งดอทคอมซึ่งเลือกแบบคืนได้ไม่เสียเงินแต่เราก็เลือกโรงแรมที่เราอาจจะเข้าพักจริงๆ ไปด้วยเลย เพือความสมจริงฮาๆ จริงๆ คิดเผื่อไว้ ถ้าได้วีซ่าแล้ว เกิดเปลี่ยนใจอยากจองที่อื่นแล้วโรงแรมราคาดีๆ เต็มหมดก็ยังมีที่เดิมนี่ละว้า ทริปนี้ไปกัน 4 สาว ค่ะ ไม่ได้พักหรูหรือแพง แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดพักแบบห้องน้ำรวม ถ้าเมืองไหนมีที่พักแบบห้อง 4 เตียง (เตียง 2 ชั้น 2 อัน)ได้ จะเวิร์คมากเพราะราคาถูกได้โล่ห์ ตกหัวละ 20-25 ยูโร ต่อคืนเท่านั้น แต่บางเมืองก็ต้องทำใจยอมจ่ายแพงบ้างเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เช่นปารีส หรือโรม ซึ่งค่าที่พักจะแพงกว่าเมืองอื่นๆ อยู่แล้ว จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 22:59:14

ความคิดเห็นที่ 18 แผนการคร่าวๆ ก็คือ 24 ตุลาคม นอนบนเครื่อง 13.00 น. เช็คอิน เจอกันที่เคาท์เตอร์ดี 15.15 น. เดินทางสู้เคแอล Flight AK 743 18.20 น. ถึงเคแอล แล้วนั่งรถไฟเที่ยวตึกเปรโตนัส 23.00 น. กลับมาสนามบินแอลซีซีที เพื่อเช็คอิน 25 ตุลาคม นอนปารีส 1.20 น. เดินทาง Flight D7 2012 9.00 น. ถึงปารีส เข้าที่พักเอากระเป๋าไปฝาก 12.00 น. มื้อเที่ยง+ ไปเที่ยว Hotel des Invalides, Musee Rodin6 ยูโร ล่องเรือแม่น้ำแซน 14 Euro ช่วงค่ำ ไปหอไอเฟล 26ตุลาคม นอนปารีส เที่ยวพิพิธภัณฑ์ลูฟ 9.5 ยูโร, Place de la Concorde, Champs Elysees, Are de Triomphe 27 ตุลาคม นอนปารีส เที่ยว Musee Picasso / ไปแวร์ซาย 28 ตุลาคม นอนปารีส เที่ยว Sacre-Coeur -Notre Dame Cathedral -Musee d’Orsay 7.5 ยูโร+ ห้างแกลอรี่ ลาฟาเยต 29 ตุลาคม นอนบลัสเซล 5.00 น. เช็คเอ้าท์จากโรงแรม 5.30 น. ถึงสถานีรถไฟ การ์ดูนอร์ท รับตั๋วที่ตู้คีออส 6.01 น. รถไฟไปบลัสเซล 7.23 น. ถึงบลัสเซล -เที่ยวแกรนด์พาเลส+รอบเมืองบลัสเซล 30 ตุลาคม นอนเทรียร์ 5.30 น. เช็คเอ้าท์จากที่พัก 6.00 น. ถึงสถานีรถไฟ 6.33น. ไปเมืองเทรียร์ เยอรมัน 11.07 น. ถึงเทรียร์ เข้าที่พักเอากระเป๋าไปเก็บ เที่ยวเมืองเทียร์ Porta Nigra-Hauptmarkt-Dom St Peter-Liebfrauenkirche จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:01:50

ความคิดเห็นที่ 19 31 ตุลาคม นอนเทรียร์ นั่งรถไฟไปเที่ยวลักแซมเบิร์ก 1 Nov นอนแฟรงเฟิร์ต 8.00 น. เช็คเอ้าท์จากโรงแรม 9.09 น. นั่งรถไฟไปแฟรงค์เฟิร์ต 10.35 น. ถึงสถานี Koblenz Hbf เปลี่ยนขบวนรถไฟ 10.48 น. ต่อรถไฟไป 12.13น. ถึงแฟรงค์เฟริ์ต -เที่ยวแฟรงค์เฟิร์ต 2 พ.ย. นอนมิวนิค 8.30 น. เช็คเอ้าท์จากที่พักไปสถานีรถไฟ 9.45 น. รถไฟขบวน ICE 529 13.09 น. ถึงมิวนิค -เที่ยววังเก่า เรซิเด้น+ตัวเมืองมิวนิค 3 พ.ย. นอนมิวนิค ไปปราสาทนอยชวาย 12 ยูโร 4 พ.ย. นอนซาวบรวก เที่ยวซาวบรวก บ้านโมสาร์ท 5 พ.ย. นอนรถไฟ เที่ยวปราสาทกลางน้ำ ที่เยอรมัน ต้นกำเนิดเทพนิยาย แล้วกลับมิวนิค 20.00 น. ไปสถานีรถไฟ 21.02 น. รถไฟไปเวนิส 6 พ.ย. นอนเวนิส 6.38 น. ถึงสถานรถไฟเวเนเซียซานตาลูเซีย 7.00 น. เข้าที่พักเอากระเป๋าไปฝากไว้-เที่ยวเวนิส ตลอดทั้งวัน 7 พ.ย. นอนเวนิส นั่งรถไฟไปเที่ยวมิลานแบบเช้ากลับเย็น 8 พ.ย. นอนโรม 9.00 น. เช็คเอ้าท์แล้วไปสถานีรถไฟ 9.27 น. รถไฟขบวน 13.13 น. ถึงกรุงโรม ช่วงบ่ายไปเที่ยว น้ำพุเทรวี่, บันไดสเปน Palazzo del Quirinale-Moses Fountain-Palazzo della Repubblica 9 พ.ย. นอนโรม เที่ยวนครวาติกัน วิหารพาเธน่อน, โรมันฟอรั่ม, คอลอสเซี่ยม-Basilica of Neptune Remains-San Climente/ -Santa Maria del Popolo-Pazza del Popolo 10 พ.ย., นั่งรถไฟไปฟรอเรนซ์ และปิซา กลับมานอนโรม 11 Nov 10.00 น. ไปสนามบิน/ นอนบนเครื่องบิน Flight MS 0792 เวลา 13.45 น. 17.55 น. ถึงไคโร รอเปลี่ยนเครื่อง 22.40 น. Flight MS 960 12 Nov. ถึง กทม. เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:05:06

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนแรกอ่านแผนแล้วทำใจ เหนื่อยมากแน่นอน พอทำเข้าจริง ก็เออไหวแหะ ไม่น่าเชื่อฮาๆ แล้วก็มีหลายอย่างไม่เป็นไปตามแผน วันแรกว่าจะแวะตึกเปรโตนัสก็ไม่ได้ไป แกร่วอยู่ LCCT เพราะวันนั้นฝนตก โชคดีจริงๆ เลยนั่งรอยันต่อเครื่อง มีอีกหลายอย่างไม่เป็นไปตามแผน แต่ไม่เป็นไร เราได้เรียนรู้ว่ามันไม่จำเป็นจะต้องเป็นไปตามนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็ยังมีความสุขกับการเยือนยุโรปอยู่ดี ในเมืองใจมันลอยไปซะแล้วฮาๆ ในภาพเป็นภาพประตูชัยที่ปารีสยามค่ำคืน อากาศหนาวได้ที่ รถวิ่งมาทีลมแรงหนาวสั่นกันเลย แต่เราก็ยังสนุกอยู่ดี เดินควงแขนกับเพื่อนฮัมเพลง ลาแมร์ไปด้วย แล้วเริ่มพูดกันว่าไม่น่าเชื่อเนอะ เราจะได้มาเดินช้อปปิ้งกันที่ถนนชอมเอลิเซ่ (หมายถึงเดินดูของเฉยๆ ไม่ได้ซื้อ) ชีวิตคนเราก็แค่นี้ ความสุขที่คว้ามาได้ มันยิ่งกว่าความภูมิใจเสียอีกเพราะมันประทับใจไปอีกแสนนาน จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:09:48

ความคิดเห็นที่ 21 พอได้เส้น ได้เป้าหมาย เราก็เริ่มใส่แผนการเดินทางแบบละเอียดเอาไว้ไปขอวีซ่า ถึงวันทำจริงทำงี้ไหม นั่นอีกเรื่องนึง ไม่มีใครมาตรวจเช็คหรอก เปิดเวิร์ดขึ้นมาเลย ตีตาราง ใส่วันที่ โรปรแกรมลงไป วันไหนจะไปไหนทำอะไรบ้าง ถ้าต้องขึ้นรถไฟ เครื่องบินอะไรทีไ่หนก็กรอกลงไปให้ครบ ถามว่าเอาที่ไหนมากรอก ก็ง่ายนิดเดียว เปิดเวปรถไฟยุโรปขึ้นมากรอกต้นทางปลายทางแล้วกดเลย มันมีรายละเอียดรถไฟให้เราเอาไปใส่ในแผนการเดินทางของเราได้เลย รถไฟขบวนอะไร ออกจากเมืองนี้ๆ กี่โมง ไปถึงที่หมายกี่โมง ราคาเท่าไหร่ด้วยเอ้า อันนี้เป็นตัวอย่างตารางแผนการเดินทางไว้ไปขอวีซ่า กรอกให้ครบวันแรกยันวันกลับ รับรองว่าช่วยให้คุณได้วีซ่าง่ายขึ้นแน่ๆ วันไหนมีรถไฟก็ใส่รายละเอียดลงไปด้วย ถ้าไปกันหลายคนก็ถ่ายเอกสารแผนการเดินทางแจกทุกคนคนละชุดไปยื่นวีซ่าด้วยจะได้รู้ว่าไปเหมือนๆ กันนะคะ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 23:16:04 จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:14:26

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ^_^ จากคุณ : โกโก้ปั่นไม่ใส่วิปครีม เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:15:34

ความคิดเห็นที่ 23 เวปนี้ก็มีประโยชน์มาก เอาไว้หาเที่ยวรถไฟที่ต้องการ บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าเมืองที่เราจะไปมันมีรถไฟกลางวันหรือกลางคืนอะไรยังไงบ้าง นานไหมกว่าจะถึง ถึงจะไม่ซื้อ ไปกดดูเวลาเดินรถก็สนุกดี เรากดไปกดมาเล่นเอาปวดหัวเลย เพราะมันเยอะจัด มีหลายเส้นทางที่อยากไปมากๆ กว่าจะลงตัวก็ปวดหัวไปหลายตลบ จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:19:10

ความคิดเห็นที่ 24 ทีนี้พอได้แล้วเราก็ต้องมาดูว่าเราจะไปนั้น กี่เมือง จากไหนไปไหนบ้าง แล้วกดดูให้ครบเลยว่า ต้องขึ้นรถไฟกี่ครั้ง แต่ละเส้นทางแพงไหม แล้วคำนวนออกมาว่าถ้าซื้อเป็นเที่ยวๆ (รถไฟชั้น2) ผ่านเวป กับการซื้อยูเรลพาส อันไหนคุ้มกว่ากัน ตรงนี้ต้องอธิบายเพิ่มอีกยาวก่อนอื่นขอทำความเข้าใจก่อนว่า EURAIL PASS คือรถไฟระหว่างเมืองภายในยุโรป ไม่ได้รวมถึงรถไฟในเมืองแต่อย่างใด อารมณ์เหมือนรถไฟฟ้าบนดินใต้ดิน ไม่เหมือนกับรถไฟหัวลำโพงนั่นล่ะ เผื่อมีท่านใดเข้าใจผิด ยูเรลพาสใช้ได้กับรถไฟต่างเมืองเท่านั้น และหากเดินทาง 2 คนขึ้นไป ในเขตเชงเก้น (เขตอังกฤษไม่ได้) จะได้ราคาตั๋วชั้น 1 แบบประหยัด (ถ้าเขตอังกฤษต้อง 3 คนขึ้นไป) ก่อนอื่นมาดูก่อนว่ายูเรลพาส มีอะไรบ้าง? จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:23:17

ความคิดเห็นที่ 25 ยูเรลพาสจะมีคร่าวๆ ดังนี้ 1. พาสของประเทศนั้นๆ เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปแค่ประเทศเดียว แต่ไปหลายเมือง 2. พาสของเขตประเทศติดกัน อันนี้ มีตั้งแต่ 2 ถึง 4 ประเทศมีหลายราคาและจำนวน เช่น ฝรั่งเศส+อิตาลี, เยอรมัน+เบเนลักซ์ **เบเนลักซ์ คือกลุ่มประเทศเนเธอร์แลนด์+เบลเยี่ยม+ลักแซมเบิร์ก** 2ประเทศนั้นยังไม่ค่อยงง แต่ถ้าเป็น 3หรือประเทศ จะเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น อาจสับสนเล็กน้อย คือถ้าสมมติว่าคุณจะเดินทางจากฝรั่งเศสไปเยอรมันแล้วไปอิตาลี (โดยไม่ได้ย้อนกลับเข้าไปที่ฝรั่งเศสอีก) คุณจะซื้อพาส 3 ประเทศไม่ได้เพราะเยอรมันไม่ได้มีอาณาเขตติดกันอิตาลี แต่ถูกคั่นด้วยสวิส และออสเตรีย เพราะฉะนั้น คุณต้องซื้อเป็นพาส 4 ประเทศ จะเลือกสวิส หรืออสเตรีย ก็ได้ตามแค่ว่ารถไฟที่คุณจะไปนั้นผ่านประเทศใดเป็นหลัก ถามว่าเราจะซื้อพาสแบบไหน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปไหนบ้าง และขึ้นรถไฟทั้งหมดกี่วัน นับกันไปเลย แล้วลองบวกดูว่าถ้าเราซื้อเป็นเที่ยวๆ ในรถไฟชั้นสองในเวป กับซื้อพาส+ค่าจองที่นั่งแล้ว อันไหนคุ้มกว่ากัน แต่โปรดอย่าลืมว่าการซื้อพาส จะเป็นรถไฟชั้น 1 เท่านั้น ไม่มีชั้น2 (ชั้น 2 มีพาส แต่ขายให้เฉพาะนักศึกษาอายุไม่เกิน 26 ปีเท่านั้น) ท่จริงรถไฟชั้น 2ก็ดีใช้ได้เลย แต่ถ้าบวกราคาแล้ว ซื้อพาสคุ้มกว่า การขึ้นรถไฟชั้น 1 ย่อมคุ้มขึ้นอีกอย่างแน่นอน แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 21:37:10 จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:30:44

ความคิดเห็นที่ 26 วันนี้ขอตัวไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อเรื่องยูเรลพาส การวางแผน ไปจนถึงสรุปบัญชีว่าทำไมเงิน85000 ถึงท่องยุโรปได้ถึง 3 อาทิตย์ และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่ะ ขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่เห็นว่าความรู้จากมือใหม่หัดท่องยุโรปอย่างเราพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ทำให้กระทู้นี้ไม่สูญเปล่า ค่ะ จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:32:11

ความคิดเห็นที่ 27 รอเก็บข้อมูลดีๆนะคะ ^^ จากคุณ : PeeT@party เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:37:15

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาเก็บข้อมูลค่ะ ชอบเที่ยวแบบไม่ง้อทัวร์ เน้นประหยัดค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มารออ่านตอนต่อไป ^^ จากคุณ : คุณหนูแพนด้าตัวน้อย เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 23:46:19

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากเลยค่ะ กระทู้มีประโยชน์กับแอนมากเลย กะลังวางแผนไปเที่ยวยุโปรหนึ่งเดือน โดยมีเงิน 30,000 แบบไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินอะค่ะ แอนกำลังงงยูเรลพาสเลยค่ะ พอดีกะจะซื้อเยอรมันสวิส แต่งงว่า รถในเมืองนั่งได้มั้ย อ่านเงื่อนไขแล้วก็งงอยู่ดี เรื่องขอวีซ่าแอนก็ค่อนข้างเครียดปนไม่เครียด ฮ่าๆ คือประมาณว่าแอนเป็นนักศึกษาเพิ่งจบ ยังไม่มีงานทำเป้นหลักเป็นแหล่ง เลยกลัวเรื่องการขอวีซ่าอะค่ะ  แต่ที่ไม่เครียดเพราะขอเป้นแบบวีซ่าเชงเก้นเยี่ยมเยียน ที่คนรู้จักที่โน่นเค้าทำให้อะค่ะ ปล แอนขอวีซ่าที่เยอรมัน ซึ่งแอนเรียนเยอรมันเป็นวิชาเอก แอบคิดว่าตรงนี้น่าจะช่วยบ้าง(มั้งงงง) ปล2 ตั๋วเครื่องบินแอนเพิ่งจอง ได้ของ ศรีลังกาแอร์ไลน์ 27,000 (เมื่อต้นเดือนเมษามันยัง 26,000 อยุ่เลยยย แง่งง) จากคุณ : LittleEntchen เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:01:56

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์จริงๆ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ จากคุณ : ColaGirl เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:20:33

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่า จากคุณ : MoMMaMjAnG เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:37:42

ความคิดเห็นที่ 32 เขียนได้น่าอ่านมากค่ะ มาต่อเร็ว ๆ นะคะ (ถ้ามาต่อแล้วรบกวนหลังบ้านมาเรียกด้วยได้ไหมคะ กลัวหากระทู้ไม่เจอ) จากคุณ : nowan เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:44:05

ความคิดเห็นที่ 33 โปรแกรมเดินทางเที่ยวคล้ายๆของญาติเลย มากันห้าคน เช่ารถขับเที่ยวกันเอง เริ่มต้นที่บอนน์ Trier, Luxemburg ฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม ปารีส สวิส Salzburg มิวนิค จอดรถไว้ที่สนามบินในเมืองมิวมิค นั่งเครื่องบินไปชมกรุงโรม เพราะบริษัทรถเช่าห้ามนำรถขับไปประเทศอิตาลีและประเทศยุโรปตะวันออก จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 00:44:06

ความคิดเห็นที่ 34 รอชมอยู่นะค่ะ จากคุณ : กู๋จี๋ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 01:05:00

ความคิดเห็นที่ 35 ขอเสริมอีกอย่าง ไปเที่ยวเองไม่ได้ไปทัวร์ ถ้าอยากสนุกไม่เหนื่อยมาก อย่าเอากระเป๋ามาเยอะ มันหนักเหนื่อยมากตอนย้ายเมือง ตอนนี้อยู่ interlaken แล้ว ผมบอกแฟนก่อนมาแล้วว่าอย่าเอามาเยอะ แฟนไม่ยอม ก็ต้องลองมาเจอตอนนี้บอกคราวหน้าไม่เอามาเยอะแล้ว จากคุณ : tan_www เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 01:49:27

ความคิดเห็นที่ 36 ไปเช็คข้อมูลมาแล้วนะครับ บัตรพาสคลาส 2 สามารถซื้อได้นะครับ ตั๋วที่ใช้แล้ว (เก็บเป็นที่ระลึก) ยังอยู่่ในมือผมเลยครับ (อายุประมาณ 30 แล้วครับ) แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 05:37:36 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 05:26:35 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 05:25:27 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 10:52:14 จากคุณ : jiwyeefun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 06:14:40

ความคิดเห็นที่ 37 สำหรับคุณ LittleEntchen ขออนุญาต จขกท. ตอบแทนนะครับ สำหรับยูโรเรลรถในเมืองไม่สามารถใช้ได้เลยครับ ไม่ว่าจะรถเมล์ รถราง หรือว่ารถไฟฟ้า ใช้ได้แค่รถไฟเท่านั้นครับแต่รถไฟในเมืองใช้ได้นะครับ เหมือนรถไฟบ้านเราที่มีสถานีรถไฟหัวลำโพง สามเสน ดอนเมือง แบบนี้ใช้ได้ครับ จากคุณ : jiwyeefun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 06:19:47

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังวางแผนอยากไป สวิส ฝรั่งเศส ปีหน้าอยู่เลย มีประโยชน์มากค่ะ อ่านหลายกระทู้ก็น่าไปหมดเลย เลือกเมืองไม่ถูก ^ ^ กำลังคิดว่า ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีอยู่เลย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 07:04:57

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดีค่ะ แต่..... รู้ปะ !!   บิ้วป้าหนิงอีกแร้ววววววววววว   อิอิ อยากตามรอยอ่ะ จากคุณ : my_tabo เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 08:38:25

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากครับ...ผมฝันอยากไปยุโรปเหมือนกัน เพราะชาตินี้ยังไม่เคยไปไกลเกินตะวันออกกลางเลย T-T จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 09:55:04

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี และเป็นประโยชน์มากมายสำหรับคนที่จะไปยุโรปค่ะ จากคุณ : tappa เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:28:08

ความคิดเห็นที่ 42 ดีมากเลยครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:48:26

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามารออ่าน จะไปต้นเดือน พค. ค่ะ แต่ 80,+++ เอาไม่อยู่ จากคุณ : T_Nida เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:56:43

ความคิดเห็นที่ 44 เจ๋งมากค่ะ ชอบที่สุด มีกำลังใจจะเก็บเงินไปตะลุยแบบนี้แล้ว ^^ จากคุณ : Angel_Gracious เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 11:00:15

ความคิดเห็นที่ 45 กลับมาสวัสดีอีกครั้งค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามา ที่จริงแล้วตัวเราเองก็ไม่ใชผู้เชี่ยวชาญอะไร เป็นมือใหม่ที่ต้องมนต์เสน่ห์ของยุโรปอีกคนหนึ่งเท่านั้น แต่หากสิ่งที่เรารู้มาพอจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างก็จะดีใจมากค่ะ หากมีตรงไหนผิดพลาดทักท้วง+แก้ไขได้ตามสบายนะคะ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญค่ะ แต่พยายามจะทำความเข้าใจและมีความสุขกับการจัดทริปยุโรป พูดถึงตรงนี้แล้วนึกถึงลอคอินที่ชื่อ "วางแผนดีๆ แล้วคุณจะหลงรักยุโรป" ตอนนี้มันใช่เลยค่ะ ถึงจะไม่แน่ใจนักว่าแผนเราดีพอรึยัง แต่ก็หลงรักไปแล้วค่ะ ฮาาาา จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 11:29:24

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านความคิดเห็นของคุณแอนแล้วนึกขึ้นมาได้ เรื่องการขอวีซ่าเยี่ยมเยือน มีคำแนะนำมาฝากกันค่ะ เพิ่มเติม เรื่องการขอวีซ่า หากคุณมีคนรู้จักอยู่ที่โน้น ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ลูกป้า น้องสาวเจ้านาย บลาๆๆๆ ใครก็ตาม และคิดอยากจะใช้วีซ่าเยี่ยมเยียน โดยให้คนที่โน้นช่วยเหลือรับรองให้ มันมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะค่ะ จะว่าช่วยให้วีซ่าง่ายขึ้นก็ไม่เชิง จะว่ายากขึ้นก็ไม่ใช่อีก เหมือนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือ มีคนรับรองให้แล้ว ถ้าคุณหนีเข้าเมืองไปทำงาน คนรับรองโดนเสียประวัติ+โดนปรับ ทำให้การขอวีซ่าระยะสั้นของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ข้อเสียคือ สถานทูตยิ่งมีโอกาสจะซักถามและสงสัยในตัวคุณมากขึ้นอีก เพราะคุณมีคนรู้จักอยู่ที่โน้น แล้วอาจทำให้คุณมีลู่ทางในการหนีวีซ่าไปทำงานในประเทศเขาได้ ทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนจะค้านกัน ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่คุณมีในมือและคนรู้จักของคุณว่าจะน่าเชื่อถือขนาดไหนด้วย จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 11:38:19

ความคิดเห็นที่ 47 กรณี 1 – ญาติสนิทอยู่ยุโรป เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีญาติสนิทอยู่ที่ยุโรปค่ะ สนิทแบบนับสายเลือดกันได้ใกล้ๆ บอกเล่าสาแหรกครอบครัวได้สบายๆ แต่ตอนไปยื่นวีซ่า เราเลือกที่จะตอบเจ้าหน้าที่ว่า “ไม่มีคนรู้จักอยู่ยุโรป” เพื่อปิดข้อสงสัยว่าเราอาจจะหนีวีซ่าไปทำงานได้ กรณี 2 – คนรู้จักอยู่ยุโรป ข้อนี้น่ากลัวกว่าข้อแรกเยอะ และก็แปลกกว่าเยอะ เพราะมีไม่น้อยเลยที่มีคนรู้จักอยู่ยุโรป เป็นฝรั่งยุโรปนี่ล่ะ แล้วก็ไม่ได้สนิทอะไรนักหนาหรอก แต่เขาใจดีมีน้ำใจจะออกใบรับรองให้ เคยเจอไหม คุยกับเพื่อนว่าจะไปเที่ยวยุโรป แล้วเพื่อนบอกว่า ให้มิสเตอร์ เอ ออกใบรับรองให้สิ วีซ่าจะได้ผ่านง่ายๆ มีคนรับรองทางโน้น เราก็ถามกลับทันที นายนี่เป็นใคร เพื่อนก็ตอบ อ๋อ เขามาเที่ยวไทยแล้วเคยคุยกัน ตอนนี้ก็เมลคุยกันเป็นปีๆ แล้วนะ เขาบอกว่าถ้าจะไปอิตาลีก็บอกเขาได้ เดี๋ยวรับรองให้เลย เราก็เอิ่ม... ขอวีซ่าด้วยตัวเองง่ายกว่าไหม หากมีใครมาบอกคุณว่าจะออกใบรับรองให้ไปเที่ยวยุโรป คิดก่อนนะว่าสนิทกันแค่ไหน ถ้าไม่ได้สนิทอะไร ต่อให้เนเพื่อนจริงๆ เคยเห็นตัวเป็นๆ กันมาก่อนก็เถอะ แน่ใจหรอว่าเขาจะอยากรับรองให้เราจริงๆ พึ่งตัวเองดีที่สุดค่ะงานนี้ พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่มีใครอยากออกใบรับรองให้เราจริงๆ หรอก ถ้าเขาไม่ได้รู้จักเราจริงๆ จากประสบการณ์ตรง ตัวเราเองเจอแต่ราคาคุยทั้งนั้นไอ้ใบรับรองเนี่ย เท่าที่ทราบมา สถานทูตเยอรมันเป็นหนึ่งในแนวหน้าของการตรวจสอบอย่างเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของวีซ่าเชงเก้น หากมีชาวเยอรมันรับรองให้ หรือคนไทยที่ได้วีซ่าถาวรอยู่ที่เยอรมันรับรอง ทราบมาว่าต้องไปติดต่อที่อำเภอที่โน้น เพื่อออกหนังสือให้ว่าจะรับรองคนไทย ชื่อนี้ๆๆ มาเที่ยว ออกเป็นหนังสือราชการ แล้วส่งมาไทย ให้คุณเอาไปยื่นขอวีซ่าได้ การขอวีซ่าเยี่ยมเยือน เขาจะซักประวัติคุณละเอียดเสียยิ่งกว่าจะรับคุณเป็นสะใภ้เข้าบ้านเสียอีก จากประสบการณ์ เคยได้ยินมากับหู เห็นกับตา มีผู้หญิงคนหนึ่งขอวีซ่าเยี่ยมเยนไปเยอรมัน โดยมีคนที่นั่นรับรองให้ เจ้าหน้าที่ถามละเอียดตั้งแต่ว่า คนรับรองเป็นใคร รู้จักกันนานรึยัง (ถ้าเป็นญาติกัน จะให้เล่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดโดยละเอียด) รู้จักได้ยังไง ทุกวันนี้ติดต่อกันบ่อยไหม ผ่านเส้นทางไหน สนิทมากแค่ไหน คนรับรองทำงานอะไรอยู่ที่ไหน บางทีมีถามว่าเขาชอบกินอะไร -*- คำถามทั้งหลายอย่างอาจฟังดูไร้สาระ แต่เชื่อเถอะ เขาถามเพื่อจะจับพิรุธคุณว่าโกหกรึเปล่า แง่หนึ่งเราอาจจะมองว่าสถานทูตเข้มงวดไร้สาระ จะเอาอะไรนักหนา ฉันไปเที่ยวนะยะ ไม่ได้คิดจะไปทำงาน ถามอะไรไร้มารยาทที่สุด แต่อีกแง่อยากให้รับรู้ด้วยว่าเป็นเพราะก่อนหน้าเราน่ะ มีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่หนีวีซ่าเข้าประเทศไปสร้างปัญหาให้ทางเขามาก่อน เขาถึงต้องมาเข้มงวดกับเรา (ก็ขนาดเข้มงวดแล้วก็ยังมีปัญหาคนหนีวีซ่าอยู่บ่อยๆ) เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เจ้าหน้าที่มาเล่า คนไทยนี่ทริคเยอะ ขนาดว่า ขอวีซ่าเชงเก้น 3 เดือน ให้เหตุผลว่าแม่ไม่สบาย จะไปดูลู่ทางหาหมอเก่งๆ จะได้พาแม่ไปรักษาตัว ทางสถานทูตก็ฟังแปลกๆ เลยโทรไปคุยกะเจ้านายที่ออกหนังสือรับรองให้ นายก็บอกว่าใช่ ผมให้ลาเอง 3เดือน โดยมีเงื่อนไขไม่รับเงินเดือน สงสารเขา อยากให้แม่หายป่วย สถานทูตจึงยอมออกวีซ่าให้ 3 เดือน ผลก็คือนายคนนี้หนีวีซ่าหายเข้ายุโรปไปเลยยันบัดนี้ อ่านแล้วก็อึ้งๆ แบบนี้ก็มีด้วยนะคนเรา คิดได้ไง? วกกลับมาที่วีซ่าเยี่ยมเยือนกันต่อ ที่เล่ามาทั้งไม่ได้จะขู่ว่าอย่าทำเลย แต่ถ้าจะทำวีซ่าชนิดนี้ ก็ควรจะไปเยี่ยมเยือนจริงๆ ไม่ใช่หาช่องทางไปทำงาน หรือแม้แต่จะไปเที่ยว แต่บอกว่าไปเยี่ยมเยือน ซึ่งคนรับรองก็ไม่ได้สนิทอะไร รึว่าตั้งใจจะอยากเจอสักเท่าไหร่ มันไม่คุ้ม เวลาสถานทูตถามละเอียดขึ้นมา คุณก็ตายน้ำตื้นเปล่าๆ แต่หาคนรับรองเป็นญาติสนิท, เพื่อนสนิทไว้ใจได้ แบบมาเถอะ คิดถึงไม่ได้เจอกันนานแล้ว ถ้ามายุโรปต้องมาหานะ ไม่งั้นมีโกรธ แบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ยังยืนยันว่าถ้าเราจะไปเที่ยวแค่ไม่กี่วัน ไม่ถึงเดือนน่ะ ขอวีซ่าท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีใครรับรอง ง่ายที่สุดแล้ว จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 12:25:08

ความคิดเห็นที่ 48 ยุโรป 3 อาทิตย์ ด้วยตัวเอง งบ 85000 บาท ไม่ยาก อย่างที่คิด ตอน 2 จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 12:36:37

ความคิดเห็นที่ 49 ยอดเยี่ยมค่ะ จากคุณ : sueko เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 13:30:23

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องเงินในบัญชี อยากจะบอกว่าเขามีตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายมาให้เลยนะครับ  ยกตัวอย่างของสถานทูตอิตาลี เขาจะดู proof of economic means of support มีตัวอย่างการคำนวณ requirement คร่าวๆไว้ตามลิ้งค์ http://www.esteri.it/visti/sussistenza_eng.html เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่าเขาไม่พิจารณาเรื่องเงินที่เหลือในบัญชีเลยดูแค่กระแสหมุนเวียน มันก็คงไม่ใช่   เพียงแต่ในบางกรณีที่บางคนที่มีเงินเหลือในบัญชีไม่กี่พัน  แต่ขอวีซ่าผ่านอาจจะเพราัะหลายๆปัจจัย เช่นมีผู้สนับสนุนทางการเงินออกค่าใช้จ่ายให้ (ซึ่งก็ต้องแสดงหลักฐานทางการเงินของผู้สนับสนุนด้วย) ไม่ใช่หมายความว่าในกรณีของคนอื่นๆที่มีเงินติดในบัญชีน้อยๆเหมือนกันจะต้องผ่านเสมอไป มันไม่แน่ครับ  เพราะงั้นเพื่อความชัวร์ก็ทำตาม requirement ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้น จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 13:43:36

ความคิดเห็นที่ 51 เข้าใจที่คุณ คคห. 50 ว่ามาค่ะ เราเล่าตามที่เราเจอมา เพื่อนเรายื่นไป มีเงินหมุนเวียนตลอด และยอดสุดท้ายคือ 2000 กว่าบาทไม่มีเงินหรือทรัพย์สินอะไรยื่นไปนอกจากนั้น และไม่มีใครรับรองค่าใช้จ่ายให้ค่ะ แต่ก็ขอบคุณที่มาแชร์กัน ตรงนี้เราบอกในสิ่งที่เราเจอมาเท่านั้น ลองพิจารณากันไปแล้วกันค่ะ จากคุณ : meaw-angle เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 13:51:27

ความคิดเห็นที่ 52 สักวัน...จะไป ตอนนี้มองไปถึงสิ้นเดือน...จะมีเงินเหลือซัก 850 บาทยังยากเล้ยยย T T จากคุณ : fossil05 เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 14:09:41

ความคิดเห็นที่ 53 กระทู้มีประโยนช์มากเลยค่ะ กำลังแพลนกับเพื่อนๆว่าจะไปเที่ยวยุโรปกันปีหน้าข้อมูลของ จกขท เป็นประโยชน์มากมาย ยังไง ขอละเอียดๆเลยน่ะค่ะ จากคุณ : natchi_smile เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 15:00:37

ความคิดเห็นที่ 54 เล่าได้ละเอียดมากครับ มีประโยชน์มากสำหรับคนที่วางแผนจะไปยุโรป จากคุณ : redm@chine เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 15:35:31

ความคิดเห็นที่ 55 วีซ่าเชงเก้นนี่ขอหลักฐานเยอะเหมือนกันน่ะเนี่ย ต้องทำประกันด้วยอ่ะ โห จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 15:47:20

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้ละเอียดมว้ากกก... มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ ชื่นชมๆ ... จากคุณ : Spirited A's way เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 17:01:14

ความคิดเห็นที่ 57 สำหรับเราคิดว่าทำวีซ่าเยี่ยมไม่เหมาะถ้าจะไปเที่ยวระยะสั้นๆ อย่างแรกชื่อวีซ่ามันก็บอกอยู่แล้วเนอะ  อีกข้อคือ วีซ่าเยี่ยมใช้เวลานานมาก ก่อนเราจะย้ายมาอยู่สเปน เคยทำวีซ่าเยี่ยม ต้องติดต่อสถานีตำรวจในท้องที่เพื่อถามเอกสารที่เขาต้องการ จากนั้นเอาเอกสารทั้งหมดที่เขาบอกไปรับรองที่กงสุลและแปลภาษา(ของประเทศนั้นๆ)แล้วเอาไปรับรองที่สถานทูต แล้วส่งไปเพื่อออกหนังสือเชิญ  พอได้หนังสือเชิญจากสถานีตำรวจแล้วก็ส่งกลับมาที่ไทยเพื่อใช้ยื่นวีซ่า ค่าแปลเอกสาร ค่ารับรอง ค่าส่งเอกสารไปมา ค่าออกหนังสือเชิญ ระยะเวลา เราจ่ายไปร่วมหมื่นค่ะ เวลาที่ใช้ทำอีก2เดือนกว่า (ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้แปลและที่ๆออกหนังสือเชิญ) และการมีหนังสือเชิญก็ไม่ได้การันตีว่าวีซ่าจะผ่านทุกกรณี ถ้าคนรู้จักเราจะมาเที่ยวแถบที่เราอยู่ เราเลือกจะไม่ทำหนังสือเชิญ ให้เขาทำวีซ่าเที่ยวนั่นล่ะ  แต่จะเขียนจม.รับรองที่พักให้ ว่าเรารู้จักคนนี้ และยินดีจะให้ที่พักเขากี่วันก็ระบุไป โดยที่ผู้ขอวีซ่าเที่ยวสปอนเซอร์ค่าเที่ยวค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง ส่วนใหญ่วีซ่าเชงเก้นจะเน้นหลักฐานความผูกพันทางไทยมากกว่าเงินในบัญชี ถ้างานการมั่นคง เอกสารพร้อม โอกาสได้วีซ่ามีสูงค่ะ จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 17:26:25

ความคิดเห็นที่ 58 ชอบๆๆๆขอบคุณคะสำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจ....^^ จากคุณ : Nana_naru เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 19:33:49

ความคิดเห็นที่ 59 จาก คคห.ที่ 25 ... ขออนุญาตแก้ครับ กลุ่มประเทศ เบเนลักซ์ (BENELUX) คือ เบลเยี่ยม (BElgium) เนเธอร์แลนด์ (NEtherland) และ ลักเซมเบิร์ก (LUXemburg) ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : teaseah เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 20:30:53

ความคิดเห็นที่ 60 เยี่ยม ครับ คิดถึง ICE จังเลย next ...Switzerland ...นะครับ Forded จากคุณ : ForDed เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 20:40:46

ความคิดเห็นที่ 61 เก็บเงินเตรียมไปปีหน้า สู้ๆๆๆ กระทู้ดีมากค่ะ จากคุณ : เอี่ยมเซ้ง เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 20:58:08

ความคิดเห็นที่ 62 เป็นกระทู้ที่สมควรได้ขึ้นเป็นกระทู้โหวตเป็นอย่างยิ่ง ข้อมูลเยอะ เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นมากๆ อยากให้มีกระทู้แบบนี้อีกเยอะๆ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 23:38:40

ความคิดเห็นที่ 63 www.deutschland.de Official and independent web-based portal of the Federal Republic of Germany www.germany-tourism.de The website invites users to come on a virtual trip through Germany and presents the federal states, regions and cities. www.germany.travel.de www.trivago.de www.myswitzerland.com จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 00:35:34

ความคิดเห็นที่ 64 โอ้โฮ ข้อมูลแน่นปึ้กเลย เยี่ยมไปเลยค่ะ สุดยอด ๆ จากคุณ : triyapa เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 13:00:08

ความคิดเห็นที่ 65 คคห 9 ถ้าไปเมือง Trier ไม่ได้เยี่ยมชมบ้านเกิด Karl Marx ก็เหมือนกับไปไม่ถึ่งเมือง Trier www.trier.de www.tourist-information-trier.de เช่นเดียวกับหากไปเที่ยวเมืองบอนน์ ไม่ได้เข้าชมบ้านเกิดเบโธเฟ่น เหมือนไปไม่ถึงเมืองบอนน์ www.bonn.de www.bonn-region.de www.frankfurt-tourismus.de จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 13:04:40

ความคิดเห็นที่ 66 อยากจัดทริปแบบนี้บ้างจัง สักวันนะ .. สักวัน จากคุณ : pucca twin (Pucca Twin) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 23:46:21

ความคิดเห็นที่ 67 เจ้าของกระทู้เก่งจัง  สุดยออออด!! จากคุณ : cabill เขียนเมื่อ : วันเนา 55 10:13:30

ความคิดเห็นที่ 68 กำลังมีแผนจะไปยุโรปปีหน้า  กำลังคิดว่าจะไปกะเที่ยวหรือจะไปเองดี  ถ้าจะไปเองปัญหาคือไม่มีความรู้เอาซะเลย จากคุณ : cabill เขียนเมื่อ : วันเนา 55 10:15:11

ความคิดเห็นที่ 69 เขียนได้ละเอียดมากค่ะ เป็นข้อมูลชั้นดีให้กับหลายๆคนที่กำลังคิดจะไปเยือนยุโรปครั้งแรกได้เลย   จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : วันเนา 55 11:35:49

ความคิดเห็นที่ 70 อืม เคยยื่นของวีซ่า ไป เยอรมัน ไปก็โง่ๆ ไป ได้ใบเชิญจากพี่สาว(ที่จริงคือพี่เขย) เรากะไม่ร่วมงานแต่งงานของพี่สาวที่โน้น รู้สึก ว่าขอวีซ่า แบบเพื่อท่องเที่ยวนะ ไม่ได้ขอเพื่อเยี่ยมเยือน เชงเก้น นี่หลักๆ คือ ทำให้เค้ารู้ว่า เราไม่หนีไปทำงานที่โน้นแน่นอน เราขนไปทั้ง ใบประกอบวิชาชีพ โฉนดที่ดิน แบบรับรองการทำงาน ให้เห็นว่า เราผูกพันทางนี้ แต่คนออกใบรับรองให้ นี่เค้าก็ต้องยุ่งเหมือนกันนะ ต้องไปติดต่อ จ่ายตังค์ขอใบเชิญด้วย แล้วก็ใช่ว่าใคร จะออกใบเชิญได้ง่ายๆ เหมือนกับมีข้อจำกัดที่ว่า ถ้าเราหายไป คนรับรองที่ออกใบเชิญ ต้องมีปัญญาจ่ายค่าิติดตามตัวเรากลับ (ทำนองนี้อ่ะ) ปล ตอนไปยื่น เจ้าหน้าที่ถามแค่... ไปทำอะไร >>เราก็ "ไปร่วมงานแต่งงานของพี่สาว" ญาติเป็นใคร >>ก็เราลำดับสาแหรกไป "พี่สาวคนนี้เป็นลูกป้า ป้าเป็นพี่แท้ๆ ของแม่" แค่เนี้ยะเองง่ะ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : วันเนา 55 14:07:10

ความคิดเห็นที่ 71 เที่ยว 3 อาทิตย์ เป็นแค่ลูกจ้างจนๆ คงไปไม่ได้ พักร้อน ครั้งนึงยังได้ไม่เกิน 2 วัน T T จากคุณ : ฟูนัน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:16:21

ความคิดเห็นที่ 72 กรีดดดดร้องงงงงง อยากไปบ้างงงงงค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (sweetiiz_me) เขียนเมื่อ : วันเนา 55 22:50:40

ความคิดเห็นที่ 73 น่าสนุกจังเลยค่ะ แต่ว่า จขกท นี่วางแผนไว้นานมากเลย เตรียมตัวไปดีด้วย แล้วเราจะทำได้บ้างมั้ยนะ ฮ่าๆๆ แต่สักวันจะไปให้ได้เลย คอยดู!!! จากคุณ : กันทราในราตรี เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 00:50:18

ความคิดเห็นที่ 74 เจ๋งมากเลยครับ ข้อมูลแน่นมากๆ @^_^@! จากคุณ : noomplayboy เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 05:34:28

ความคิดเห็นที่ 75 กระทู้ดีมีประโยชน์ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 14:44:24

ความคิดเห็นที่ 76 ข้อมูลละเอียดยิบ... น่ารักจัง  อุตส่าห์สละเวลามาทำรีวิวให้เพื่อนๆ ... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:05:43

ความคิดเห็นที่ 77 ไอ้เก็บเงินให้ได้ 85000 เนี่ยยเส่ มันยากกว่าที่คิด!! หุหุ อยากไปเที่ยว แบบ จขกท. บ้างจัง จากคุณ : ATM รุ่นนี้กดง่าย แค่ใช้รหัสใจ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 21:49:21

ความคิดเห็นที่ 78 เล่าเก็บรายละเอียดได้ดี กระทู้เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ไม่เคยจัดทริปเอง ไปเอง ไปหลายๆวัน ผมมองว่าการเดินทางคือการค้นหาตัวเอง คุณ จขกท มาถูกทางแล้วครับ ลองมีใจรักในการทำแผนเที่ยว รับรอง ชีวิตนี้มีสีสันแน่นอนครับ จากคุณ : livetune เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:47:55

ความคิดเห็นที่ 79 ^^เป็นกระทู้ที่ดีมากๆเลยค่ะ  เชียร์ให้คนที่มีเวลา และพอมีกำลังทรัพย์(บ้างไม่ต้องเยอะหรอกค่ะ)    ลองตะเวนเที่ยวแบบนี้    ปีที่แล้วเราไปตะเวนยุโรปคนเดียวมา45วันหมดไปราวๆ150000 (จำไม่ค่อยเป๊ะๆ)  อันนี้คือรวมหมดทุกอย่าง ตั้งแต่เตรียมตัว ขอวีซ่า  ซื้อกระเป๋าเดินทาง  ทุกอย่างเลย  ราวๆนี้ล่ะ        เป็นประสบการณ์ที่ดีและต้องไปอีกแน่นอน     อยากฝากนิดเรื่องขอวีซ่า   จากปสก   เราคิดว่า   ขอแบบตรงไปตรงมาีดีที่สุด  ไม่ต้องเมคตารางเที่ยว     ของเราขอสถานทูตอิตาลีเพราะอยู่นานสุด   ผู้หญิง เดินทางคนเดินทางคนเดียว แถมลางานตั้ง45วัน   โดนเรียกสัมภาษณ์ค่่ะ   แต่สุดท้ายก็ผ่านได้เพราะเราเตรียมตัวพร้อม   เพราะงั้นการขอวีซ่าอาจจะลำบากหน่อย แต่เชื่อเถอะค่ะถ้าวางแผนดีๆ  คุยกับจนทให้รู้เรื่อง ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เรารักการเที่ยวคนเดียวค่ะ  เจอเพื่อนระหว่างทางมากมาย  เพราะเราพักโฮสเทล  เที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตรงไหนชอบมากก็พักนาน  ตรงไหนใครบอกว่า  พลาดไม่ได้  สวยสุดๆ  แต่เราไม่อินเราก็ไม่ไป  ต่างกับทัวร์ที่ไปเฉพาะไฮท์ไลท์   ขณะที่เที่ยวเอง  เสน่ห์ของการเที่ยวเองอยู่ที่ความไม่รู้  หลงมั่ง  เดินมั่วมั่ง  สนุกค่ะ อยากให้ลองซักครั้งแล้วจะติดใจค่ะิ จากคุณ : สาวน้อยกระป๋องแป้ง เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 17:37:02