ความคิดเห็นที่ 1 Day 1 ตื่นเช้ามาตีสี่ เพื่อไปถึงสนามบินตีห้าครึ่ง เพื่อเดินทางกับมาดากัสการ์แอร์ ตอนเจ็ดโมงกว่าๆ เครื่องบินโบอิ้ง 767-300 เก่าแต่ไม่มีกลิ่น เป็นไฟล์ที่บินมาจากที่อื่น (เข้าใจว่ามาจากมาดากัสการ์เลย) สำหรับการบิน 2 ชม.กว่าๆ เราก็ว่าพอทนได้ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:12:23

ความคิดเห็นที่ 2 อาหารเช้าบนเครื่อง จัดเต็มทั้งครัวซอง ขนมปัง ผลไม้ และโยเกิร์ต แบบยุโรป และหมี่ผัดแบบจีนๆ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:13:55

ความคิดเห็นที่ 3 เกาะปีกไปเที่ยวด้วยค่ะ จากคุณ : homdinn เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:26:41

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อเดินทางถึงกวางเจา ก็ต้องตะลึงกับความใหญ่โตของสนามบิน คนก็เยอะมาก ตอนนี้รีบๆเกาะไกด์ไว้เลย ทัวร์นี้จะว่าดีก็ดี คือมีแต่คนที่โปรฯกันทั้งนั้น แต่บางทีโปรฯไปหน่อย เช่นตอนลงเครื่องนี้ มีบ้านนึงได้กระเป๋าก็เดินลิ่วออกข้างนอก แต่คนอื่นพอได้กระเป๋าก็ยืนจับกลุ่มรอไกด์ ทำให้รอกันไปรอกันมาอยู่ซักพัก แต่ก็ไม่เสียเวลามาก เพราะยังไงก็ต้องรอคุณอาคนหนึ่งที่กระเป๋าพัง แล้วไกด์ไปทำเคลมกระเป๋ากับสายการบินให้ ไกด์คนนี้ดีมาก พอคุณอาโชว์กระเป๋าที่หูหลุดปั๊บ ก็หยิบไปเคลมกับสายการบินทันที ที่บ้านเราก็เคยหูกระเป๋าหลุดระหว่างเดินทางเหมือนกัน แต่ไกด์ในตอนนั้น ไม่ได้ทำอะไรให้เลย ก็มีสองอย่างคือ ถ้าเค้าไม่รู้ ก็ไม่บอกเพราะกลัวเสียเวลา *** ภาพที่เห็นคือแผนที่สนามบินกวางเจา เหตุที่นำมาโชว์เพราะแผนที่ฉบับนี้มันไม่ใช่กระดาษค่ะ! มันเป็นยางๆ หรือพลาสติกก็ไม่ทราบ คือเรียกว่าทนไม้ทนมือ ทนแดด ทนฝน ทนน้ำ ซึ่งอันนี้ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าจะทำดีไปทำไม เพราะคนคงไม่ได้นำติดตัวไปใช้ที่ไหน ควรเอาไปทำกับแผนที่เมืองกวางเจามากกว่า คนจะได้ใช้ประโยชน์เยอะกว่า เราเห็นมันแปลกดี เลยหยิบมาหนึ่งแผ่น เผื่อเอามาบังหัว เวลาฝนตกปรอยๆ (หรือว่าจะกางไว้ใต้เสื้อ แถวๆพุง เพื่อกันลมกันหนาว ก็ได้นะเอ้อ พ่อเราทำประจำเวลาที่หนาวๆแล้วไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้พอดี) จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:31:14

ความคิดเห็นที่ 5 *** ถ้าดูตาราง จะเห็นว่าวันนี้เดินทางทั้งวันนะคะ ไม่ได้เที่ยวที่ไหน ก็เลยจะเล่าแต่เรื่องวิถีชิวิตคนจีนที่ได้ไปเจอมาก็แล้วกัน ก็ที่เคยเห็นมาจากการเริ่มเที่ยวปักกิ่งตั้งแต่ก่อนปี 2000 มันก็เกินสิบปีแล้วสินะเนี่ย *** ออกจากสนามบินมาก็มุ่งไปกินข้าวกันเลย ไกด์บอกว่ามากวางเจาแล้วรับรองไม่มีอด เพราะมันคือศูนย์รวมการกิน "บนฟ้า ถ้ามีปีก ยกเว้นเครื่องบิน ก็กินหมด ในน้ำ ยกเว้นแต่เรือ ก็กินหมด บนบก ถ้ามีสี่ขา ยกเว้นโต๊ะเก้าอี้ ก็กินหมด" นี่คือคติประจำตัวของคนกวางเจา รับรองว่าถ้าใครไปทัวร์จีน ไกด์ต้องบอกเรื่องนี้แน่นอน สำหรับอาหารทัวร์นี่ เดี๋ยวนี้ประเทศจีนพัฒนาไปมาก ครั้งแรกที่ไป อาหารมีแต่พวกผัดผักกับเต้าหู้ จะมีไข่เจียวอยู่จาน กับเนื้อสัตว์อีกซักสองจาน แต่เดี๋ยวนี้มีเนื้อสัตว์เกือบทุกจาน ซึ่งมันไม่ดีกับการขับถ่ายของคนไปเที่ยวจริงๆ ในส่วนของน้ำ แต่ก่อนจะเป็นน้ำชาร้อน แต่เดี๋ยวนี้ข้ามขั้นมากๆ มีแต่โค้กกับเบียร์สองขวด ซึ่งเบียร์นี่ถูกกว่าน้ำ ถ้าอยากเอาเบียร์แลกน้ำ ต้องเอาทั้งสองขวด ทริปนี้มีพวกคุณอาเฮียกันหลายคน ก็เลยซดเบียร์กันอิ่มหนำ ไม่ได้แลกเป็นน้ำเปล่า หรือน้ำอัดลมเหมือนครั้งอื่นๆ เปลี่ยนร้านก็เปลี่ยนยี่ห้อ มีเบียร์ให้ลองเยอะจริงๆ ส่วนเราก็ได้แต่ดูเค้าซดเบียร์กันหน้าละห้อย เพราะแม่เราห้ามกินเหล้าเบียร์ อีกอย่างคือ ก่อนสงกรานต์ ที่บริษัททำบุญ เราก็รับศีลห้ามาด้วยค่ะ *** สำหรับบางคนที่ไม่เคยไปเมืองจีน ขอให้ทำใจเรื่องน้ำซุป (เห็นโถดินที่อยู่บนซ้ายไหมคะ?) ไว้เลย เพราะซุปจีนนี่จืดจริงอะไรจริง โดยเฉพาะถ้าไปทางปักกิ่ง แต่ทางใต้ๆนี่ รสชาติพอใช้ได้เลย เพื่อนปักกิ่งเราเคยบอกว่า กินข้าวอิ่มแล้ว ก็ค่อยซดซุป (ไม่เหมือนคนไทยที่ซดแกล้มกันไป) เสร็จแล้วก็แทบไม่ต้องดื่มน้ำตามเลย (ก็เพิ่งรู้ว่าเป็นเพราะมันโคตรจืดนี่แหละค่ะ) ทัวร์ครั้งนี้ อย่างที่บอกว่า ไม่สามารถแลกเบียร์เป็นน้ำได้ เราก็เลยได้อาศัยน้ำซุปนี่แหละ กินแทนน้ำแทบทุกมื้อ (จริงๆเค้าก็มีน้ำอัดลมให้หนึ่งขวด แต่แบ่งกันสิบคน ก็ได้กันคนละแก้วก็เกือบหมดแล้วค่ะ) แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 16:51:20 จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:49:36

ความคิดเห็นที่ 6 คคห. 5 ลงผิดรูปนะคะ จริงๆจะลงรูปนี้ค่ะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:50:54

ความคิดเห็นที่ 7 กินข้าวเสร็จ ไม่มีอะไรทำก็มาเดินเล่นหน้าร้านอาหาร สังเกตว่าที่นี่เค้าใช้มอร์เตอร์ไซค์กันคันใหญ่ๆทั้งนั้น มีรูปแบบแปลกตาดี โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่เค้าเอาเหล็กมาต่อที่นั่งด้านหลัง ทำให้นั่งได้สามคนแบบเซฟๆ แถมกางร่มได้อีกต่างหาก! ขออย่างนี้ที่ซอยบ้านเราซักคันสิค๊า เลิฟมากกกก จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:54:17

ความคิดเห็นที่ 8 *** ใกล้เลิกงานแล้วค่า ขอคคห.นี้เป็นอันสุดท้ายแล้วจะไปต่อกันที่บ้านเราตอนดึกๆนะคะ *** หลังจากทานอาหารแล้ว เราก็ต้องเดินทางต่อโดยรถบัส ไปที่สถานีรถไฟ กวางเจาใต้ เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าความเร็วสูงไปฉางซากันต่อค่ะ ซึ่งการขึ้นรถไฟความเร็วสูงนี่ ทางบริษัทได้แจ้งแล้วว่า ลูกทัวร์ต้องลากและขนกระเป่าขึ้นรถไฟกันเอง ซึ่งพวกเราแต่ละคนก็โปรฯกันมากแล้ว ไม่มีปัญหาค่ะ เตรียมตัวมาพร้อม จัดกระเป๋ากันอย่างเบา การเดินทางจากร้านอาหารไปสถานีรถไฟนี่ก็ประมาณครึ่งชม. ถ้ารถติดก็นานกว่านั้น (กวางเจาเป็นเมืองใหญ่ ฝนตกก็น้ำท่วม ยังกับกทม. หรือถ้ามีงานกวางเจาแฟร์ คนเข้างานประมาณห้าแสน ก็จะติดมาก โชคดีที่เรากลับก่อนวันมีงานกวางเจาแฟร์หนึ่งวัน) สถานีรถไฟนี้อยู่ไกลสนามบินค่ะ อีกฟากเมืองเลย มีคนถามว่า สถานีใกล้กว่านี้มีไหม ไกด์ก็ตอบว่ามี คือสถานีกวางเจาเหนือ แต่เป็นสถานีเล็ก รถไฟจะจอดแค่นาทีเดียวเท่านั้น! ส่วนสถานีกวางเจาใต้เป็นสถานีใหญ่ จะจอดสามนาที กรี๊ด! ฟังไม่ผิดค่ะ สามนาทีจริงๆ+ ณ จุดนี้ ดิชั้นเห็นใจไกด์ทั้งสองท่านมากๆที่ต้องดูแลลูกทัวร์ 39 ชีวิต กับกระเป๋าเดินทางอีกเกือบ 80 ใบ -_-" ระหว่างทางเราจะเห็นการก่อสร้างมากมาย มีหมู่คอนโดกำลังก่อสร้างและเปิดให้จองเยอะมากกกกก โครงการนึงก็มีตึกอย่างน้อยยี่สิบชั้น ไม่น้อยกว่าห้าตึก เราสงสัยจริงๆว่า เค้าจะขายหมดจริงๆเหรอเนี่ย? ที่อะเมซิ่งกว่านั้นคือ เมืองจีนกำลังจะสร้างสตาร์เกทค่ะ! สร้างกันแบบไม่หลบซ่อนเลย ใหญ่มากๆ   (^ _ ^) โปรดสังเกตขนาดของเสาไฟฟ้าแรงสูงทางด้านข้าง จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 17:05:05

ความคิดเห็นที่ 9 ปูลู เราตั้งกระทู้แบบพิมพ์สดนะคะ ถ้าพิมพ์ผิด เล่าพลาด ก็ทักก็ถามได้ จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง ชัดเจนที่สุด จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 17:13:44

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท. น่าจะไปช่วงเดียวกับผมเลย ผมเพิ่งกลับมาเมื่อเช้ามืด flight ของผมบินตรงไปลงฉางซาเลยครับ เป็น Air Asia แบบเหมาลำ สำหรับทัวร์จีน เท่าที่ทราบ ไปกับ agent ไหนก้อเหมือนกัน เพราะเค้าจะรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่แล้วส่งให้บริษัทที่ขายส่งจัดการอีกทีหน่ะครับ ผมบินคืน 11 กลับมาเมื่อคืน ราคาทั้งหมด 26,900 ของผมตารางคล้ายๆจขกท. แต่ ไกด์ผมสลับวันให้หมดเลยครับ ทุกอย่างเป็นไปตามสภาวะอากาศ ไกด์มาเล่าว่า วันเสาร์ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนไทยหลายกลุ่มขึ้นเทียนจื่อซาน แล้วตอนเย็นๆ กลับโรงแรม ไกด์ทัวร์อีกกลุ่มมาเล่าบอกว่า ตั้งแต่ทำทัวร์มาหลายปีไม่เคยเจอแบบนี้ คนเยอะมาก นรกชัดๆ อย่างฮา ผมว่า ใครเจอไกด์ท้องถิ่นคนจีนดีๆ ก้อโชคดีไปนะ จากคุณ : muangsombut เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 17:45:00

ความคิดเห็นที่ 11 เกือบลืม ฝากเตือนเพื่อนๆที่จะไปจีนนะครับ ช่วงคืนวันอังคาร ก่อนจะบินออกจากฉางซา มีเรื่องวุ่นวายมาก เพราะ ตรงเครื่องที่ scan เค้าให้ค้นกระเป๋า ทุกใบที่มีน้ำมันงู เค้าไม่ให้เอาขึ้นเครื่อง แต่ผมก้องงมากๆว่า ทำไมทางร้านของรัฐบาลถึงยังขายของตัวนี้อยู่ แนะนำ ใครจะไป ช่วยระวังเรื่องพวกนี้ด้วยนะครับ ราคาขวดละเป็นพัน เสียดายมากๆ ต้องทิ้งกันทุกคนเลย จากคุณ : muangsombut เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 17:47:10

ความคิดเห็นที่ 12 มารอชมจ้า จากคุณ : Aromdee Jang เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 18:34:34

ความคิดเห็นที่ 13 คห.11 ถ้าเราโหลดลงใต้เครื่องก็ผ่านได้รึเปล่าคะ เพราะห้ามเอาน้ำขึ้นเครื่องอยู่แล้ว   หรือว่าห้ามโหลดลงใต้เครื่องด้วย จากคุณ : nongnoo+aom เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 19:00:18

ความคิดเห็นที่ 14 #13 น้ำขวดแบบปกติ โหลดใส่กระเป๋าใหญ่เข้าใต้เครื่องได้อยู่แล้วครับ น้ำมันงูเนี่ย มันติดไฟได้ครับ เพราะงั้น เค้าจะไม่ให้เอาขึ้นเครื่องไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ จากคุณ : muangsombut เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 19:46:48

ความคิดเห็นที่ 15 รอชมต่อนะครับ จากคุณ : จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 20:00:06

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามารอดูรีวิวต่อครับ :) จากคุณ : korkiat เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 21:30:38

ความคิดเห็นที่ 17 มาติดตามจ้า เล่าได้น่าติดตามมากเลย จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 22:24:05

ความคิดเห็นที่ 18 *** ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ*** แต่ว่ากลับลืมรูปไว้ที่ทำงานซะงั้น ขออนุญาตเล่าต่อพรุ่งนี้นะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อน รับรองอยู่กันอีกนานเลย เพราะบอกว่าจะเล่าละเอียดก็จะละเอียดจริงๆนะ *** คุณ muangsombut คะ เราไปตอนก่อนที่คนจะเยอะค่ะ เลยไม่ได้แย่งกัน นับว่าเป็นจังหวะดีมากเพราะว่าเป็นช่วงที่หมอกลงสวยมาก เดี๋ยวเห็นภาพต่อๆไปจะเห็นว่าคนไม่มากเท่าไหร่ ส่วนทัวร์ที่คุณ muangsombut ไปแบบเหมาลำลงฉางซานั่น ตอนแรกเราก็อยากไปค่ะ เพราะประหยัดเวลาไปได้สองวันเลย แต่สุดท้ายแม่เราเลือกโปรแกรมที่บินไปลงกวางเจา เพราะแม่เราบอกว่า "อยากนั่งชมวิวรถไฟ กับรถบัส" ค่ะ พอไปถึงก็คิดว่าแม่ก็มีส่วนถูกนะคะ เพราะวิวสองข้างทางมันน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ เมืองจีนนี่ อะไรก็ใหญ่โตไปหมด เราชอบดูชีวิตชาวบ้าน มีป่าเขา มีทุ่งนา ดอกไม้ให้ดู ดูแล้วสดชื่นดีค่ะ ส่วนเรื่องการซื้อของฝากนี่ก็มีเรื่องเล่าเหมือนกันค่ะ คุณไกด์บอกว่า แต่ก่อนที่เมืองฉางซานี่เค้าจะมีร้านขายมีดเล่มเดียวใช้ทั้งชิวิต (เป็นไงหว่า?) ซึ่งแต่ก่อนจากฉางซากลับกวางเจาเป็นอย่างไรไม่รู้ อาจจะนั่งรถบัสเอา ก็ไม่เป็นไร ตอนกลับเมืองไทยก็เอาเข้ากระเป๋าใหญ่ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามาเกิดเมื่อต้องนั่งรถไฟความเร็วสูง เพราะเค้ามีการรักษาความปลอดภัยเหมือนเครื่องบิน (จนท.ในรถไฟก็สวยอย่างกับแอร์ คุณไกด์ดิชั้นสองคนมองตามกันคอเคล็ดเลย) แล้วมันไม่ได้มีการโหลดใต้เครื่อง เลยทำให้ไม่สามารถพกมีดขึ้นรถไฟได้ ทริปนั้น ลูกทัวร์ก็โดนยึดมีดไปตามๆกัน บริษัททัวร์ก็เลยต้องเลิกพาลูกทัวร์เข้าร้านมีด ยกเว้นแต่ว่าจะมีเครื่องเหมาลำมาจากเมืองไทย ไม่รู้ว่าทัวร์เค้าพาคุณ muangsombut เข้าร้านมีดไหมคะ? จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 23:09:47

ความคิดเห็นที่ 19 *** มาต่อกันค่ะ *** เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟกวางเจาใต้ ก็ต้องตะลึงกับความใหญ่โตอีกรอบ ดูแล้วเหมือนสนามบินมากๆ พอเข้าไปถึงเค้าก็จะให้เอากระเป๋าตรวจเอ็กซเรย์กันแต่ข้างหน้าเลย พอตรวจเสร็จก็เข้าไปนั่งตามเกทที่ระบุไว้ในตั๋ว เกทจะทำยาวเป็นทางไปมีสิบกว่าเกท แต่ละด้านก็จะเป็นร้านขายของและร้านอาหาร สังเกตว่าตรงกลางยังโล่งอยู่ เราว่าถ้าเป็นวันตรุษจีนคงคนเยอะมาก เรื่องนี้คุณไกด์ก็เล่าให้ฟังอีกเช่นกันว่า เวลาตรุษจีนเนี่ย บริษัทต้องหยุดให้พนักงานกลับบ้านประมาณ 5-10 วันก่อนวันตรุษจีน เพราะการจองตั๋วรถไฟ บางทีต้องมาต่อคิวกันข้ามวัน (ตั๋วรถไฟจะเปิดขาย 10 วันล่วงหน้าก่อนเดินทาง) และก็จะมีปัญหาเรื่องคนกวาดซื้อตั๋วไปขายต่อราคาแพง รัฐบาลจีนก็เลยมีการจัดระเบียบ โดยประกาศว่าภายในประมาณปีนี้ (จำเดือนไม่ได้นะคะ) การซื้อตั๋วรถไฟจะต้องใช้เลขบัตรประชาชน ดังนั้น คนนึงจะซื้อตั๋วได้ใบเดียวเท่านั้น มาตรการนี้ของรัฐบาลเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว โดยเป็นการกดดันให้ "ประชากรสีเทา" ออกมาจดทะเบียนกับรัฐมากขึ้น เพราะอีกปัญหานึงของจีนคือการมีคนเถื่อน หรือ "คนสีเทา" ก็คือคนที่เกิดมาแล้วพ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนเกิด เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการลูกคนเดียวของรัฐบาล ดังนั้น ถ้าเกิดรัฐบาลใช้นโยบายตั๋วรถไฟ ก็จะทำให้คนสีเทาพวกนี้เดินทางทางรถไฟไม่ได้อีกต่อไป จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:53:44

ความคิดเห็นที่ 20 ขอไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : vidar_boyzai เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:10:13

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อเข้ามาในสนามบินก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เข้าไปจะเห็นส่วนที่เค้ากันไว้ให้ที่นั่ง First Class ช่างหรูซะไม่มี (และไม่มีคนนั่งเลย) ส่วนพวกโลว์คลาสอย่างเรา ก็หากินกันเองตามมีตามเกิด เพราะร้านอาหารสองข้างมีมากมาย ทั้ง McDonald , KFC, แล้วก็ร้านฟาสฟูดจีน "กังฟู" ที่มีรูปพี่บรูซลียืนจังก้าอยู่ข้างหน้า หรือถ้าใครไม่อยากนั่งกิน ก็มีร้าน familymart ขายพวกอาหารกล่อง ขนมปังแบบญี่ปุ่น มาม่ากล่อง เรื่องห้องน้ำห้องท่าเค้าก็จัดไว้ทุกมุมสถานี รู้สึกว่าจะมีสี่จุดได้ และข้างๆห้องน้ำก็จะจัดตู้บริการน้ำดื่มไว้ มีทั้งน้ำเย็นและน้ำเดือด ... ใช่ค่ะ ดูที่รูปสิคะ มันเป็นน้ำเดือด 100 องศาค่ะ ตอนไปกดน้ำกับแม่ รีบบอกให้ดูให้ดีๆเลย ต้องระวังหน่อย ก๊อกน้ำร้อนกับน้ำเย็นมันอยู่คู่กัน เผลอกดผิดไป ลวกไม้ลวกมือไปแล้วจะยุ่ง จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:16:33

ความคิดเห็นที่ 22 ***คุณมีเวลาขึ้นรถ 3 นาที*** บอกรายละเอียดเรื่องรถไฟความเร็วสูงกันก่อน ก้อปมาจากในเน็ตนี่แหละ ***สถานีรถไฟความเร็วสูง บริการรถไฟที่เร็วที่สุดในโลกของจีนออกวิ่งอย่างเป็นทางการแล้ว การเดินทางระยะยาว 1,069 กม. ใช้เวลาเพียง 188 นาที หรือราว 3 ชั่วโมงเศษเท่านั้น เทียบการเดินทางโดยทางรถไฟก่อนหน้าที่ต้องใช้เวลา 630 นาที หรือ 10 ชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ ปฏิบัติการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ สามารถปรับปฏิบัติการในอัตราเร็วสูงสุดถึง 394.2 กม./ชม. .ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง  *** นี่คือสิ่งที่อยู่ในรายการทัวร์ แต่ความเป็นจริงคือ จากกวางเจาไปฉางซา มันระยะทางประมาณ 7xx กม. ก็เท่าๆกับ กทม.-เชียงใหม่ ใช้เวลาวิ่งประมาณสองชั่วโมงกว่า ขึ้นกับสภาพอากาศ ขาไป ฝนตก ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี เค้าจะวิ่งที่สองร้อยปลายๆ แต่ขากลับแดดดี เค้าจะวิ่งที่ประมาณ 307 กม ต่อชม. จริงๆคุณไกด์บอกว่าคราวที่แล้วที่มา เค้าวิ่งถึง 340 กม./ชม. แต่แสดงว่าตอนนี้เค้าคงจำกัดความเร็ว (อาจจะเป็นผลมาจากที่รถไฟตกรางเมื่อเร็วๆนี้) *** เนื่องจากมีเวลาขึ้นรถไฟเพียงสามนาที พอไกด์แจกตั๋วให้ลูกทัวร์ปุ๊บ เหล่าอาเฮียอาม่าก็ยืนจดๆจ้องๆตั๋ว เล็งหาว่า มันจะต้องสอดเข้าทางด้านไหน เตรียมไว้ก่อนจะได้ไม่เสียเวลา แต่จริงๆแล้ว ตั๋วรถไฟของเค้าจะเป็นแผ่นแม่เหล็กบางๆ ลักษณะเหมือนตั๋วรถชินกันเซนของญี่ปุ่น เท่าที่เราเคยใช้ในญี่ปุ่น มันสอดด้านไหนก็ได้ ขนาดสอดเอาด้านหลังขึ้น มันก็ยังได้เลย พอผ่านที่ตรวจตั๋วแล้ว ก็ต้องไปยืนรอที่ชานชาลา เค้าจะมีติดป้ายเขียนว่าตู้ที่เท่าไหร่ๆ คนก็ไปยืนออตรงป้าย แต่จริงๆแล้ว พอรถมา ไอ้ตรงที่เค้ายืนออกันอ่ะ มันไม่ได้ตรงประตูค่ะ ! ก็ต้องวิ่งไปหาประตูกันอีก ประตูก็แอบแคบคนไปออกัน รวมถึงกระเป๋า วุ่นวายน่าดู แถมที่วางกระเป๋า ก็เล็กเท่านี้ เท่านั้นไม่พอ ลูกทัวร์บางคนเห็นประตูถัดไปว่าง ก็วิ่งไปขึ้นประตูนั้น ทำให้กระเป๋าเค้าอยู่ไกลออกไป คุณไกด์ก็เลยต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เวลารถจอดสถานีกลางทาง คุณไกด์ (โชคดีที่มีสองคน) ก็ต้องเดินไปคอยดูว่า มีใครหยิบกระเป๋าลูกทัวร์ลงไปผิดหรือเปล่าด้วย จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:29:57

ความคิดเห็นที่ 23 สภาพภายในรถไฟ โอ่โถง นั่งสบาย มีคนจีนมาเนียนนั่งที่เราแล้วทำเป็นหลับด้วย ต้องเขย่าปลุกไล่ให้ออกไป เก้าอี้นี้ ถ้ามาเป็นกรุ๊ปแล้วอยากนั่งหันหน้าเข้าหากัน ก็หมุนได้นะคะ ใครจะรำพัดรำไพ่กันก็ไม่มีปัญหา จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:32:02

ความคิดเห็นที่ 24 รถไฟวิ่งไปซักครู่ก็ออกนอกเมือง ประมาณครึ่งชม.แรก วิวจะเหมือนกับแถวๆชลบุรี ที่เป็นทุ่งนาสลับนิคมอุตสาหกรรม หลังจากนั้นก็จะเริ่มเป็นเนินเขา แต่ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็มีแต่พื้นที่ทำกิน เป็นไร่นาไปหมด ไม่มีป่าเลย เราถ่ายรูปวิวไว้เยอะ เอาไว้ดูเอง ไม่ใช่รูปที่สวย แต่เป็นรูปวิถีชีวิตชาวบ้าน บ้านดิน บ้านอิฐ อะไรแบบนี้ เลยไม่ได้เอามาลง ถ่ายๆไปก็ได้ยินเสียงแม่แว่วๆมาบอกว่า "นี่ไง เห็นไม๊ นั่งรถไฟวิวสวย แม่บอกแล้ว" อันนี้ก็ต้องยกประโยชน์ให้มารดาไปค่ะ ^-^ นั่งไปซักพัก แม่ก็คอมเม้นว่า "อุโมงค์เยอะเนอะ" ก็แน่ล่ะค่ะ รถไฟความเร็วสูงมันต้องตรงแหน่ว ไม่งั้นมันก็เร่งความเร็วไม่ได้ เวลาเจอภูเขา เค้าก็ต้องขุดอุโมงค์ลอดเลย ก็อธิบายแม่ไป แต่เค้าก็เออๆออๆ จากนั้นก็เริ่มนั่งนับอุโมงค์ นับไปได้ซักอันที่ 13 (นับบ้างลืมบ้าง) ก็เบื่อแล้ว ก็เลยเลิก หลับดีกว่า ฮา ไหนว่าจะมีดูวิวไงแม่! แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 11:37:59 จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:35:01

ความคิดเห็นที่ 25 เรามาถึงฉางซาประมาณหกโมงกว่า คราวนี้ไม่ต้องรีบลง เพราะเป็นสถานีปลายทาง ออกมาแล้วก็ฉายภาพกับสถานีซักหน่อยก่อนไปกินข้าว กินข้าวเสร็จกำลังนั่งคุยๆกัน ก็มีเสียงตูมตามด้านนอก ได้ยินพนักงานร้านบอกว่าเค้าจุดพลุ ก็เลยเดินออกมาดู ก็สวยพอประมาณ แต่ว่าจุดนานมากกกก ไกด์บอกว่า เค้าจุดกันทุกวันเสาร์ รัฐบาลเมืองฉางซาอยากโปรโมตการท่องเที่ยว (แต่จริงๆขากลับมานอนที่ฉางซาวันพฤหัส-ศุกร์นี่แหละ ก็เห็นเค้าก็จุดกันโป้งป้าง จุดติดๆกันตั้งแต่สองทุ่มไปยันสามทุ่ม ไม่รู้ใช้เงินไปเท่าไหร่ แต่น้องเราบอกว่า "เมืองจีนพลุมันคงถูกมั๊ง?" อืมมมมม ก็อาจจะจริงของเค้า...) บริเวณหน้าร้านอาหารเค้าก็จะมีรถเข็นขายผลไม้ มีส้ม มีแห้วสด ลูกใหญ่ยังกับกำปั้นเด็ก แม่ค้าก็ปอกแล้วก็เสียบไม้ขายตรงนั้นเลย ก็ไม่เคยรู้ว่าแห้วนี่เค้ากินกันสดๆได้ด้วย แต่พ่อเราห้ามไม่ให้เราซื้อ เพราะว่าแห้วสดมันมีพยาธิจ้า! หลังจากนี้เราก็เข้าโรงแรมนอนล่ะ ด้วยความที่ทริปนี้ เค้าเตรียมตัวกันมาลากกระเป๋าเต็มที่ เลยไม่มีใครยอมรอเบลบอย เบลบอยที่เดินมารออยู่หน้าโรงแรม เลยโมโห เดินตูดปัดไปเลย แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 13:47:00 จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:45:37

ความคิดเห็นที่ 26 วันแรกจบแล้วค่ะ ประเทศจีนใหญ่จริงๆ หมดเวลาไปกับการเดินทางเป็นวันๆ แต่จริงๆเราก็รู้สึกเหมือนได้เที่ยวแล้วนะคะ สองข้างทางที่เป็นภูเขาก็สวยจริงๆ ไปแล้วคุ้มค่ะ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:46:44

ความคิดเห็นที่ 27 ปล. เอาหน้าตาตั๋วรถไฟความเร็วสูงมาฝากค่ะ พร้อมกับคำแปลนิดหน่อย สำหรับคนที่อ่านภาษาจีนไม่ออก บุ๊กจังก็รู้ภาษาจีนกลางแบบงูๆปลาๆแค่พอได้ แต่หลังจากทริปนี้แล้วอยากฟังภาษาแต้จิ๋วออกจัง จะได้เม้าส์กะอาม่าในทริปให้มันส์ไปเลย อยากให้เห็นราคาตั๋วค่ะ เจ็ดร้อยกว่ากิโล ราคา 315 หยวน ก็ประมาณ พันห้าร้อยบาทต่อ 1 ขา ราคาแพงกว่ารถไฟไทยไปเชียงใหม่หน่อยเดียว แต่ถึงภายในสองชั่วโมง บุ๊กจังอยากให้ประเทศไทยมีรถไฟความเร็วสูงซักที จะได้ไปเชียงใหม่ได้บ่อยๆ ปล.ทำใน mspaint แล้วเซฟเป็น jpeg อ่ะค่ะ แตกลายงาเลย อ่านออกกันหรือเปล่าเนี่ย -_-" แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 16:12:22 จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 14:25:53

ความคิดเห็นที่ 28 #18 ผมเข้าร้านมีด ร้านหยก ร้านนวดฝ่าเท้า ที่จางเจียเจี้ยอ่ะครับ จากคุณ : muangsombut เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 16:31:39

ความคิดเห็นที่ 29 อยากชมต่อครับ ถ้ารีวิวเพิ่มรบกวนส่งข้อความหลังไมค์ด้วย ได้มั้ยครับเพราะกระทู้ห้องบลูฯ เดี๋ยวนี้ตกเร็วมากๆเลย จากคุณ : จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 07:59:20

ความคิดเห็นที่ 30 [CR] รีวิวจางเจียเจี้ย 8 วัน 7 คืน : บรรยายกันแบบละเอียดยิบสำหรับคนที่จะไปกับทัวร์ : Day 2 : จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 10:20:23

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นแล้วอยากไปบ้างจังคะ จากคุณ : ผึ้งน้อยafet เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 15:10:50

ความคิดเห็นที่ 32 จขกท. ขยันจังเลยค่ะ  เล่าเรื่องได้ละเอียดมาก  ตัวเองได้ไปมาเมื่อปีที่แล้ว ช่วงต้นเดือนมีนาคม ประทับใจมากเหมือนกันค่ะ  เส้นทางเที่ยวคล้ายๆ กัน แต่ตัวเองไม่ได้ไปหมู่บ้านฟ่งหวง แล้วก็ไม่ได้ดูโชว์นางพญาจิ้งจอกขาว แต่ดูอีกโชว์หนึ่งแทน เพราะวันน้อยกว่าค่ะ แล้วไกด์ที่มารับที่ฉางซา พานั่งรถจากฉางซาไปจางเจียเจี้ย ชื่อหนูลิลลี่เหมือนกันด้วยค่ะ ใช่คนเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่น้องเค้าน่ารักนะคะ ตัวเล็กๆ แต่ยังพูดไทยไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ (เทียบกับคนที่เคยเจอมากครั้งก่อนๆ) เดี๋ยวถ้าหารูปที่ถ่ายกับไกด์เจอจะเอามาลงให้ดูนะคะ  จะติดตามอ่านจบครบทุกวันนะคะ  เป็นกำลังใจในการเล่าเรื่องค่ะ แก้ไขพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 16:24:55 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 16:23:08 จากคุณ : xmzhang2011 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 16:21:18

ความคิดเห็นที่ 33 ^ อิอิ อาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้นะคะ ลิลลี่ของเราฟันกระต่ายหน่อยๆ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 22:10:18

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนเชงไป เลือกที่จะนั่งเครื่อง เพราะมีผู้สูงอายุไปด้วย เลยอดนั่งรถไฟความเร็วสูงเลยอ่า....... ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : ฮุยเฉง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 07:34:51

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ  muangsombut ไป - กลับ วันเดียวกัน และ Airasia เหมือนกัน  กรุ๊ปเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย จากคุณ : มดแดงหน่อย เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 16:39:50