|
เมื่อไปถึงสถานี Gare Du Nord แฟนเราเข้าไปถามหาสถานีตำรวจกับนายตำรวจคนหนึ่งที่เดินตรวจตราอยู่แถวชานชาลาที่รถไฟจอดเทียบ เราเดินไปถึงออฟฟิศแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่หญิงคนนึง โดยแฟนเราเป็นคนพูดภาษาฝรั่งเศส (แฟนเราเป็นคนฝรั่งเศสค่ะ) เราเองพูดไม่ได้ แต่เนื่องจากพอรู้ภาษาสเปนและภาษาอิตาเลียน ก็เลยเดาได้ว่า เจ้าหน้าที่หญิงไม่ต้องการออกเอกสารใด ๆ ให้เรา แฟนเราก็คุยกับเค้าอยู่นาน แต่เค้าไม่ยอม เราทนไม่ไหว โพล่งถามเป็นภาษาอังกฤษออกไป "Teerak, what did she say???" แฟนเราบอกให้เราเงียบ เค้าจะจัดการเอง การพูดคุยดำเนินต่อไปอีก 10 นาที จนกระทั่งมีตำรวจอาวุโสคนหนึ่งในชุดลำลองเดินออกมา แล้วถามประมาณว่า มาทำอะไรกันเนี่ย แฟนเราก็เลยเล่าให้เค้าฟัง โดยที่เจ้าหน้าที่หญิงก็ยังยืนยันไม่ทำ เมื่อเจ้าหน้าที่ชายที่อาวุโสกว่าได้ฟัง เค้าก็ถามว่ามีเอกสารอะไรไหม แฟนเราเค้าก็เอาก๊อปปี้พาสปรอ์ต ทั้งหน้าแรก และหน้าที่มีตราวีซ่า พร้อมก๊อปปี้จดหมายชวนจากพ่อแม่แฟนเราที่ฝรั่งเศส และมีก๊อปปี้บัตรเครดิตทุกใบที่เค้าเอามา เจ้าหน้าที่ท่านนั้นพอได้เห็นเอกสาร เค้าก็บอกให้เจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นออกใบแจ้งความให้ คือเราก็ฟังไม่ได้ครบ แต่จับใจความได้ประมาณว่า ทำไมไม่ทำให้มันใช้เวลาแค่ 5 นาทีเอง ณ นาทีนั้นเราดีใจมากเลย เพราะมันจะเป็นเอกสารให้เราไปติดต่อกับสถานทูตได้
ระหว่างนั้นเราก็โทรไปสถานทูต แต่ปรากฎว่าวันนั้นสถานทูตหยุด และพวกเราก็ต้องต่อรถไฟไปอีกเมืองนึง ไม่ได้ค้างที่ปารีส พวกเราก็รีบไปที่ Gare Du Montpranasse แล้วแฟนเรารออยู่ที่นั่น ในขณะที่แฟนเรารอที่สถานีรถไฟ
แต่เราไปสถานทูตก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ มีเบอร์มือถือก็ติดต่อไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ เราก็เลยต้องนั่งรถกลับไปที่สถานีรถไฟเพื่อต่อรถลงใต้ โดยคาดหวังว่าจะกลับมาติดต่อสถานทูตอีกครั้งก่อนกลับบ้าน เพราะตามแผนเดิม เราจะมีเวลาอยู่ปารีส 4-5 วัน ซึ่งก็น่าจะพอกับที่จะออกเอกสารกลับบ้านได้
จากคุณ |
:
Travel Animal
|
เขียนเมื่อ |
:
18 เม.ย. 55 21:32:55
|
|
|
|
|