ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากทานกันจนอิ่ม.... เอาล่ะ ได้เวลาฤกษ์งามยามดี ลงเรือกันเถอะ เรากดลิฟท์ลงไปที่ชั้น 2 เพื่อออกจากประตูเรือที่จอดเทียบท่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เบียดพวกคนจีนที่ต่อคิวกันยาวเป็นกรุ๊ปๆ เพราะพวกนี้ยังออกจากเรือไม่ได้ ต้องรอเรียกจากหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์ที่ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เสร็จผมล่ะทีนี้ พวกเราลงจากเรือ อิสรภาพ และสายลมของญี่ปุ่น มันช่างสดชื่น อากาศกำลังสบาย เราเดินไปที่ออฟฟิศที่ท่าเรือ ซึ่งอยู่ไม่ไกลเลย เข้าไปถึงโต๊ะ information พร้อมทั้งถามทาง และวิธีการไปท่าเรือที่จะไปเกาะซากุระจิม่า ผมขอเกริ่นแผนการเที่ยวด้วยตัวเองของผมในวันนี้ก่อนนะครับ ผมตั้งใจว่า ช่วงเช้าของวันนี้ ผมจะพาครอบครัว นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามจากคาโกชิม่าที่เรือของเราจอดเทียบท่าอยู่นี้ ไปที่เกาะซากุระจิม่า เกาะนี้มีอะไรดี ?? ถึงต้องขนาดนั่งเรือไปเที่ยวให้ได้ บอกได้เลยว่า เกาะนี้มีจุดเด่นที่มีภูเขาไฟซากุระจิม่า ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังคงพุ่งเขม่าควันออกมาให้เห็นอยู่ตลอดเวลา แล้วชีวิตคนไทยอย่างเรา จะได้เห็นภูเขาไฟแบบตัวเป็นๆ ได้ที่ไหนเล่า ดังนั้น ช่วงเช้าของวันนี้ ยังไงๆ ผมก็ต้องจัดเต็มไปที่เจ้านี่ให้ได้ ไปถึงที่เคาท์เตอร์ของท่าเรือ ถามพนักงานว่า ผมจะไปท่าเรือที่จะไปเกาะซากุระจิม่าครับ ผมจะไปเรียกแท็กซี่ได้ที่ไหน และราคาประมาณเท่าไหร่ (คือท่าเรือที่ royal carribean จอดอยู่นี้ เป็นคนละท่าเรือกับท่าเรือที่จะไปเกาะซากุระจิม่านะครับ ดีนะที่เมื่อคืนผมไปถามข้อมูล แผนที่ท่าเรือมาจาก Shore Excursions Desk บนเรือมาก่อนแล้ว) พนักงานสาวบอกว่า ให้เรานั่งแท๊กซี่ไป โดยเขาก็ให้ทั้งแผนที่ และแผ่นพับแนะนำการท่องเที่ยว และการเดินทางของคาโกชิม่าแก่ผมเต็มเลย แล้วยังมีตารางค่าแท็กซี่ ว่าหากเราไปที่ท่าเรือนั้น เขาคิดราคาเท่าไหร่ (เพื่อเช็คว่า ราคาตรงกับมิเตอร์จริงของแท็กซี่หรือไม่) โอ้วววว.....อันนี้ ประทับใจมากเลยครับ รู้สึกได้ถึงความจริงใจ ไม่มีการหลอกลวง อาจเพราะเราคนไทย มักเจอประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับแท็กซี่เมืองไทยด้วยกันเอง แต่แท็กซี่ที่นี่ ขอบอกว่า ไว้ใจได้เลยครับ ประทับมากขึ้นไปอีก เพราะเขาให้กระดาษเล็กๆ 2 แผ่น แผ่นหนึ่งคือเป็นข้อความภาษาญี่ปุ่นที่บอกว่า ช่วยพาพวกเราไปที่ท่าเรือที่จะไปเกาะซากุระจิม่าหน่อย และอีกแผ่นคือ ช่วยพาเราไปส่งที่ท่าเรือของบริษัท royal caribbean หน่อย พูดง่ายๆคือ เมื่อเรานั่งแท็กซี่ เราสามารถยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆนี้ ให้แท็กซี่อ่านได้เลย คุณเห็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมล่ะเห็นถึงความเข้าใจ และพยายามช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรามาก เขารู้ว่าแท็กซี่ญี่ปุ่น พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก เมื่อเรารับเอกสารและข้อมูลมาจากเคาท์เตอร์ เขายังใจดีนำพวกเรามาถึงรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ที่ท่าเรือเลย โดยบอกกับแท็กซี่อีกด้วยว่า เราต้องการไปที่ไหน บรรยากาศภายในรถ ผมนี้เหมือนพวกบ้านนอกมาก ด้วยความที่เกิดมาไม่เคยไปประเทศญี่ปุ่นเลย เห็นอะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปซะหมด แม้กระทั่งถนนหนทาง ที่ทั้งกว้าง สะอาด และไม่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างภูเก็ตบ้านผม ทั้งคนใช้รถและคนเดินเท้า ต่างก็เคารพในกฎจราจร เมื่อถึงไฟแดงให้รถหยุด เพื่อให้คนข้ามถนน รถทุกคันจะพร้อมใจกันหยุด ไม่เหมือนที่เซี่ยงไฮที่ผมเจอมา คุณอย่าได้ไว้ใจในสัญญาณไฟแดงของรถ เพราะนั่นไม่ได้หมายความว่ารถจะหยุดจอดเสมอ เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองใหญ่ แต่คนไม่เคารพกฎจารจรกันเลย ยิ่งกว่าเมืองไทยบ้านเราอีก ไฟแดงแท้ๆ ยังบีบแตรไล่คนเดินถนน ว่ากรูจะขับออกไป มรึงจะเดินข้ามถนนทำไม จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:20:04

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อแท็กซี่พาผมมาจนถึงท่าเรือที่จะไปเกาะซากุระจิม่า พวกเราจ่ายเงินเสร็จ เขาผงกหัวอย่างนอบน้อม ผมประทับใจมาก จึงขอเค้าถ่ายรูป เค้าก็ยินดี พร้อมผงกหัวอีกครั้ง โอ้วววว...ประเทศนี้ คนนอบน้อม และไม่หยิ่งเลย รถออก พวกเราก็เริ่มหาหนทางเข้าท่าเรือ เพื่อจะไปซื้อตั๋วเรือ งานนี้ได้ Backpack กลางญี่ปุ่นกันอีกรอบ พวกเราเดินเข้าไปในท่าเรือ ขึ้นบันได เดินตามป้ายที่พอจะมีภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ไปถึงก็เห็นเหมือนเป็นเคาท์เตอร์ information เล็กๆ ก็เลยเดินไปสอบถามว่าซื้อตั๋วตรงไหน จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:21:40

ความคิดเห็นที่ 3 พนักงานค่อนข้างง่อยภาษาอังกฤษเอามากๆ สรุปข้อมูลที่ได้จากการคุย มาจากภาษามือกันซะมากกว่า แต่นี่แหละคือภาษาสากล ไม่น่าเชื่อว่า ผมว่าภาษาผมพิการมากแล้ว เขาพิการซ้ำซ้อนมากกว่าผมอีก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาทั้งสำหรับผม และเค้าเลยจริงๆ เราสื่อสารกันจนรู้เรื่องอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีอารมณ์หงุดหงิดให้เห็นแม้แต่น้อย จากการใช้ภาษาใบ้กันไม่นาน ทำให้รู้ว่า เราต้องเดินไปทางไหนเพื่อขึ้นเรือ และยังไม่ต้องซื้อตั๋ว เพราะเขาจะค่อยเก็บค่าตั๋วเมื่อเราไปถึงเกาะปลายทาง เราเดินดุ่ม เข้าเรือที่ประมาณเรือเฟอรี่บ้านเรา นี่คือบรรยากาศภายในเรือเฟอรี่ครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:22:26

ความคิดเห็นที่ 4 อีกมุมครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:24:38

ความคิดเห็นที่ 5 ภายในมีทั้งร้านขายอาหารเล็กๆ พอประทังหิว มีทีวีให้ดู และห้องส้วมที่สะอาดน่าใช้ เรือลำนี้จะออกทุกๆ 15-20 นาที เราภาวนาให้เรือออกเร็วๆ เพราะกลัวว่า คนจีนกลุ่มแรกที่ซื้อทัวร์มาจะมาทันเรือรอบของเรา 55555 ร้านขายอาหารเล็กๆ บนเรือ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:26:01

ความคิดเห็นที่ 6 แต่อะไรก็ไม่เป็นไปตามที่เราคาดไว้ เพราะมีกลุ่มคนจีนกลุ่มแรกจาก royal Caribbean ของเรานี่แหละ ตะลุยวิ่งเข้าเรือเฟอรี่มาพร้อมเสียง 5555+ นี่แหละที่เขาบอก เกลียดอะไร ก็ได้อย่างนั้น เราใช้เวลาในการเดินทางเพียง 15 นาที ก็ถึงเกาะซากุระจิม่าแล้วครับ เรือกำลังออกจากท่าเรือครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:26:48

ความคิดเห็นที่ 7 ปลายทางเราอยู่ตรงโน้น ลิบๆ เราเห็นภูเขาไฟซากุระจิม่า ความฝันของผม อยู่ไม่ไกลแล้ว..... จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:28:44

ความคิดเห็นที่ 8 เอาล่ะ ถึงแล้ว พวกเราเดินดุ่มๆ ขึ้นเรือตามคนท้องถิ่นไป เมื่อเข้าไปถึงประตูทางออก ซึ่งเราต้องทำการจ่ายเงินค่าเรือ ผมซัดภาษาอังกฤษไปก่อนเลย ว่าต้องทำยังไง ที่ผมต้องทำอย่างนี้เพราะ หน้าตาอย่างผม ไปเดินที่ไหน เค้าก็มักจะซัดภาษาท้องถิ่นใส่ ผมเลยเหมือนจะประกาศตัวให้เค้าทราบเลยว่า ผมไม่ใช่คนญี่ปุ่นนะ พนักงานได้ยินปุ๊บ ชะงักเล็กน้อย แล้วยิ้ม พร้อมพยายามสื่อสารภาษาอังกฤษว่า ผมต้องทำยังไงบ้าง บวกภาษาใบ้อีกเช่นเดียวกัน ได้ความว่า ผมต้องเอาเงินที่เป็นแบ๊งค์ ไปเข้าเครื่องแลกเหรียญอัตโนมัติก่อน ผมยืนเอ๋อนิดนึง ด้วยความที่เกิดมา เมืองไทยไม่เคยเจอเครื่องแบบนี้ เขาน่ารักมาก เดินเข้ามา แล้วเอาแบ็งค์ของผมไป แล้วแลกให้เลยเสร็จสรรพ เป็นการบริการของพนักงานที่ผมประทับใจมากๆ ผมไม่คิดว่า กับอีแค่นักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ 3 คนกลุ่มนึง เค้าแค่บอกก็โอเคแล้ว แต่นี่ เขาบริการทำให้เลย แล้วยังซื้อใจผมได้ด้วยการพยายามจะสื่อสารบอกผมให้รู้ว่า ผมต้องเดินไปทางไหนต่อ เพราะผมบอกว่า ผมต้องการหาซื้อ one day tour ของเกาะนี้ เพื่อไปดูภูเขาไฟ เราเดินลงบันไดเลื่อนตามคำบอกของพนักงานคนนั้น แล้วก็เจอเคาท์เตอร์เล็กๆ ข้างที่จอดรถประจำทาง จึงเดินเข้าไปบอกว่า เราต้องการซื้อตั๋วรถบัสแบบ one day เค้าก็เลยเสนอ sightseeing bus มา ราคา 500 เยน ไปแวะประมาณ 13 จุด หน้าตาของตั๋วก็เป็นแบบรูปนี้ครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:31:22

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเปิดตั๋วขึ้นมา ก็จะมีช่องว่าง วัน เดือน ปีให้เราขูด เพื่อระบุวันเดินทาง สำหรับผมก็ต้องเป็นวันนี้สิครับ จะให้ใช้วันไหนล่ะ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:32:13

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อขูดเสร็จ..... จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:33:07

ความคิดเห็นที่ 11 แต่รถยังไม่มา เราต้องรอรถอยู่ประมาณ 50 นาที ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเร่งรีบอะไร ผมเลยพาพ่อแม่ออกมาเดินเล่นแถวท่ารเอนั่นแหละ พบเจอต้นซากุระเยอะเลยครับ กำลังบาน ดอกเต็มต้นพอดี เลยเห็บภาพมาฝากกันครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:37:02

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงตอนนี้  ผมก็พอใจมากแล้ว กับการเริ่มต้นของวันที่ได้พบเจอกับคนที่ดีๆ และที่อยากเห็นก็ได้เห็น จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:37:53

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วรถก็มา หน้าตาแบบนี้ครับ ให้คุณลองสังเกตภาพรถที่ตั๋วตอนผมซื้อนะ มันคือรถที่มีสีเดียวกับที่มาจอดรับพวกเราตอนนี้เลย นี่คือหนึjงในความใส่ใจของการท่องเที่ยวเค้า ที่มันทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบ้านเค้าเลย รู้ว่า ตั๋วใบนี้ ต้องขึ้นรถคันไหน จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:38:52

ความคิดเห็นที่ 14 จะขึ้นรถล่ะนะ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:39:41

ความคิดเห็นที่ 15 บรรยากาศภายในรถครับ มีคนญี่ปุ่นมาเที่ยวด้วยพอประมาณ แต่ด้วยความที่รถบัสเป็นคันเล็กๆ ดังนั้น ทุกอย่างจึงดูน่ารัก และสะอาด ผู้ร่วมโดยสารของเรา แต่ละคนก็เรียบร้อยดี ไม่เสียงดังให้หนวกกูเลย โดยคนขับจะพูดภาษาญี่ปุ่นน่ะครับ บรรยากาศภายในรถบัส จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:40:35

ความคิดเห็นที่ 16 และนี่คือหน้าตาของสถานที่ที่เราบัสจะหยุดให้เรา แต่เอาเข้าจริงๆ สถานที่สำคัญที่ควรค่าแก่การแวะมีอยู่ไม่กี่ที่หรอกครับ ดังนั้น บริเวณที่ไม่สำคัญอะไร เขาก็แค่หยุดรถให้ เรามองวิวจากในรถ แล้วเขาก็ขับรถออกไปต่อ น่าเสียดายที่เขาบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผมรู้แค่คำว่า ขอบคุณ และสวัสดี ดังนั้น จึงไมได้ทราบข้อมูลอะไรมากนัก ในรถบัสยังมีทีวีติดไว้ เพื่อบอกถึงสถานที่รถกำลังจะไป และคำบรรยายทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:42:26

ความคิดเห็นที่ 17 สถานที่แรกที่เขาแวะจอด ให้เราลงไปถ่ายรูปเลยครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:43:27

ความคิดเห็นที่ 18 ด้วยความที่บัสจอดแต่ละที่ให้เวลาเราลงไปเที่ยวไม่เท่ากัน โดนก่อนที่เขาจะจอดรถ เขาจะบอกว่า แต่ละที่เนี๊ยะ รถจะจอดให้เที่ยวนานกี่นาที แต่ก็อีกนั่นแหละ เขาบอกเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วผมจะฟังออกมั๊ย แต่เค้ามีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องการสื่อสารกับผมได้น่ารักมากครับ นั่นคือ เขาหยิบเอากระดาน white board บนมาอันนึง (คิดดูว่าเขาเตรียมอุปกรณ์พวกนี้ไว้ในรถพร้อมเลย) แล้วก็วาดเป็นรูปนาฬิกา ทั้งเข็มสั้น และยาว พอรถจอด เค้าก็วาดรูปเข็มนาฬิกาเข็มยาวให้ไปตรงกับเวลาที่เราต้องกลับมาขึ้นรถอีกครั้ง 5555 เป็นการสื่อสารที่แจ่มมากๆ คิดได้ไง ผมล่ะโคตรประทับใจเลย เพราะไม่ต้องพูดอะไรมาก ภาษาใบ้แบบนี้ใช้ได้ผลชะงัดนัก สถานที่ต่อไป ตรงนี้ เหมือนเป็นจุดชมวิว ซึ่งเราต้องเดินขึ้นบันไดไป จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:48:01

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อขึ้นไปถึง ก็จะเห็นภูเขาไฟซากุระจิม่าที่กำลังพ่นควันที่ใกล้ขึ้น จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:49:36

ความคิดเห็นที่ 20 เราไปต่อกันที่สนุสาวรีย์อะไรสักอย่าง จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 21 มีป้ายบอกรายละเอียดด้วย จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:51:34

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นเมืองคาโกชิม่าอยู่ลิบๆ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 23:53:18 จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:52:33

ความคิดเห็นที่ 23 มาแล้วๆ หายไปนาน มาติดตามต่อครับ จากคุณ : aquanoxx เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:53:57

ความคิดเห็นที่ 24 ภูเขาไฟซากุระจิม่าที่ใกล้เข้าไปอีก จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:54:28

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ aquanoxx.......ขอบคุณครับที่ยังติดตาม นึกว่าแฟนคลับหายหมดแล้ว 5555+ ---------------------------------------------------------------------------------------- รถบัสเริ่มพาเราขึ้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:56:26

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าจจะจัดทริปญี่ปุ่นเมื่อไร จะมาช่วยตอบครับผม Sakurajima ก็น่าเที่ยวนะครับเนี่ย ดูเป็นธรรมชาติมากๆ จากคุณ : realp** เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:56:35

ความคิดเห็นที่ 27 จนถึงตรงนี้ที่เราจะเห็นภูเขาไฟซากุระจิม่าได้ใกล้ที่สุดแล้วล่ะ คงใกล้กว่านี้มากไม่ได้ เพราะภูเขาไฟลูกนี้ มันยังพร้อมที่จะพ่นบางสิ่งบางอย่างออกมาได้ตลอดเวลา เพราะมันยังเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับทีนั่นเอง จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:57:44

ความคิดเห็นที่ 28 อีกภาพครับ เนี๊ยะ....ผมว่า ผมคุ้มแล้วที่ลงมาเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้ ขอบคุณตนเองที่ตั้งใจมาเที่ยวเอง ไม่ได้ซื้อทัวร์บนเรือมา ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่ได้ภาพวิวที่สวยงาม ปราศจากผู้คนอย่างนี้หรอก รถบัสจอดตรงจุดนี้นานที่สุด คงเพราะเป็นจุดที่สูง และสวย ได้ใกล้ชิดจุดขายของเกาะมากที่สุด จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:59:57

ความคิดเห็นที่ 29 จากนั้น รถบัสก็พาเรามาส่งที่เดิม ใช้เวลาในการทัวร์ประมาณ 2 ชั่วโมง ดูน้อยไปหน่อย แต่สำหรับผม มันก็คุ้มแล้ว เพราะวันนี้ เรายังมีโปรแกรมเที่ยวที่เมืองคาโกชิม่า เมืองที่เรือเราจอดเทียบท่าอีก จะมามัวโอ้เอ้ เดี๋ยวก็ได้ตกเรือกันอีกรอบ แค่คิดก็เสียวแล้ว จากนั้น เราก็ขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อที่จะไปที่เคาท์เตอร์ พนักงานใจดีคนเดิมอีกครั้ง เพื่อซื้อตั๋วเรือเฟอรี่กลับไปยังคาโกชิม่าเหมือนเดิม (ตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเกาะซากุระจิม่านี่ ผมไม่ผมเจอกรุ๊ปทัวร์ของเรือผมเลยล่ะครับ ^^) ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยง พวกเรานั่งเรือเฟอรี่กลับสู่เมืองคาโกชิม่า ผมคิดในใจว่า เราจะไปเที่ยวไหนดีในเมืองนี้ จากการศึกษาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในเมืองนี้ที่ค่อนข้างอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมากว่า มันมี one day pass ขายอีกเหมือนกัน โดยรถบัสจะจอดในที่สำคัญๆ และสวยๆในเมืองเยอะมาก แต่ด้วยความที่สถานที่สวยๆ และสำคัญนั้น มันเยอะ ย่อมใช้เวลามาก ในใจจึงกลัวจะตกเรือรอบ 2 เพราะครอบครัวผม รวมทั้งผมเอง ยังหลอนจากการเกือบตกเรือที่ผ่านมา ผมจึงตัดสินใจไม่ซื้อ one day tour ประกอบกับแม่อยากจะไปเดินซื้อของฝาก และเดินดูสินค้าในเมืองอะไรพวกนี้ ผมจึงตัดสินใจจะพาแม่ไปที่ Tenmonkan Tenmonkan เป็นสถานที่ช้อปปิ้งของเมืองคาโกชิม่า และเป็นจุดหนึ่งที่รถบัสนักท่องเที่ยวจะจอด แต่ด้วยความที่ผมจะไปแค่จุดเดียว กะว่าจะทิ้งเวลาไว้ที่นี่เลย (กำหนดการขึ้นกลับเข้าไปบนเรือของวันนี้คือ 17.00) เรือเฟอรี่จากเกาะซากุรุจิม่า พาเรากลับไปถึงท่าเรือเดิม ผมนำทางแบบไม่รู้ทาง 5555+ หาทางออก พอดีไปเจอป้าย Tenmonkan พอดี เลยถ่ายทั้งรูปและชื่อ Tenmonkan ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น กะว่าเอาไปให้แท็กซี่ดูว่า เราต้องการไปไหน (หลังจากหลง เงอะๆเงิ่นๆ กันมาเยอะ จึงเริ่มฉลาดกันมั่ง) ผมเรียกแท็กซี่ แล้วให้แท็กซี่พาเราไปที่ Tenmonkan ภาพที่ผมถ่ายมาช่วยได้มากจริงๆ ผมพยายามจำทาง เพราะเท่าที่ทราบว่า คือมันไม่ไกลจากท่าเรือที่ผมเรียกแท็กซี่เลย Dolphin Port คือสถานที่ที่ไม่ไกลจากท่าเรือ จึงเป็นทางผ่านที่จะไป Tenmonkan ผมจึงถ่ายมา ขณะที่ยังนั่งอยู่ในแท็กซี่นั่นแหละ เพราะลึกๆ แอบหวังว่า ถ้าขากลับมีเวลาเหลือ ก็อยากมาเดินเล่นที่นี่ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:02:11

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ  realp** ........ใช่เลยครับ ซากุระจิม่า ยังเป็นธรรมชาติอยู่มากๆเลย ผู้คนส่วนใหญ่ อยู่กันแบบไม่วุ่นวาย และบ้านเรือนสะอาดตา น่าจะเป็นสถานที่ของผู้ที่ชอบความสงบและชอบธรรมชาติมากๆครับ แม้แดดจากจ้า แต่ไม่ร้อนเลยครับ น่าเที่ยวมากๆ (ถ้าผมอยู่ได้นานกว่านี้ 5555+) --------------------------------------------------------------------------------------------------- แล้วแท็กซี่ก็มาจอดที่ Tenmonkan ซึ่งเราใช้เวลาในการนั่งรถไม่นานเลย พอจะจำทางได้ลางๆ เอาวะ เดี๋ยวขากลับลองเดินกลับดู แต่หากไปไม่ถูกจริงๆ ก็ค่อยโบกรถแท็กซี่ละกันนะ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:06:07

ความคิดเห็นที่ 31 อืม....สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยว และช้อปปิ้งของที่นี่จริงๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:07:25

ความคิดเห็นที่ 32 ร้านอาหารก็ตกแต่งได้น่าเข้าไปใช้บริการ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:08:32

ความคิดเห็นที่ 33 รวมถึงอาหารเอง จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:09:40

ความคิดเห็นที่ 34 หรือจะเป็นขนมที่ดูแล้ว แบบนี้ หาไมได้ในเมืองไทยแน่ๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:12:59

ความคิดเห็นที่ 35 อีกร้านครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:14:04

ความคิดเห็นที่ 36 มีอีก ดูตามกันมาเรื่อยๆนะครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:15:01

ความคิดเห็นที่ 37 ทางเดินภายใน Tenmonkan ที่มีหลังคากั้น ทำให้เดินสบาย และอากาศกำลังดีเลยครับ ไม่ร้อน แดดไม่แรง และไม่หนาว จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:15:58

ความคิดเห็นที่ 38 ผ่านร้านขายเสื้อผ้า และสูท ซึ่งน่าซื้อมา เพราะสูทที่ญี่ปุ่นออกแนว slim fit ที่ออกแบบโดนใจหลายตัว ติดที่กระเป๋าผมเต็มหมดแล้ว ไม่รู้จะแบกกลับเมืองไทยยังไง จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:17:01

ความคิดเห็นที่ 39 เดินไปเดินมา เจอร้านอาหารอยู่แระ ร้านอาหารมีเยอะมากจริงๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:18:26

ความคิดเห็นที่ 40 อันนี้เป็นศาลเจ้าอะไรสักอย่าง จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:19:20

ความคิดเห็นที่ 41 ตุ๊กตาตัวนี้ยินรับแขกได้น่ารักเชียว จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:20:16

ความคิดเห็นที่ 42 ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ เวลาจะซื้อไม่ยากครับ ให้สอดเหรียญหรือแบ็งค์ ตามราคาที่แปะบอกไว้หน้าตู้เครื่องดื่ม แล้วกดเลือกว่าจะเอาเครื่องดื่มขวดไหน แล้วขวดก็จะหล่นออกมาพร้อมเงินทอนครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:22:17

ความคิดเห็นที่ 43 เราเดินมาได้สักพัก เริ่มหิว จึงหาซื้ออะไรกินข้างทาง ก็แค่อยากรู้รสชาติอาหารญี่ปุ่น แบบญี่ปุ่นจริงๆ ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นที่ขายในเมืองไทย เลยลองซื้อเจ้านี่มากินดู ก็อร่อยใช้ได้ และอิ่มมากเลยครับ ที่พวกเราไม่แวะเข้าร้านที่เปิดอยู่มากมาย เพราะเกรงจะไม่ทันเวลา ด้วยความที่เวลาในการเที่ยวจำกัดนะครับ ไม่ได้งกแต่อย่างใด 5555+ อันนี้ของผม จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:24:20

ความคิดเห็นที่ 44 ส่วนอันนี้ของพ่อ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:25:25

ความคิดเห็นที่ 45 นี่ก็เป็นอีกร้านอาหารที่น่าเข้าไปใช้บริการมาก แต่เรากลัวเสียเวลาครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:26:20

ความคิดเห็นที่ 46 แล้วเราก็ได้ของฝากนิดหน่อยที่ร้านแห่งหนึ่ง ตอนแรกเข้าไป ไม่ได้กะซื้ออะไรหรอกครับ เป็นร้านขายของที่เป็นญี่ปุ่น พวกชุด กิโมโน ผ้าพันคอ กระเป๋าอะไรพวกนี้ แต่คนขายน่ารักมากมาย หมายถึงนิสัยนะครับ ไม่ใช่หน้าตา 5555 เพราะเค้าดูมีอายุพอสมควร แต่ที่บอกว่านิสัยน่ารักคือ ยิ้มตลอดเวลา คนขายที่นี่เป็นอะไรไม่รู้ เค้ายิ้มตลอดเวลาจริง เราจะเอาไม่เอา ไม่มีทำหน้าบึ้งใส่ แถมใส่ชุดประจำชาติขายของด้วยแหนะ สื่อสารก็ใช่จะรู้เรื่อง ก็ภาษามือกันอีกนั่นแหละ แต่ดูเค้าเต็มที่ในการเสนอ และเป็นกันเองมาก สุดท้าย เลยได้ของติดไม้ติดมือไปหลายพันเยนสำหรับร้านนี้ เสียดายที่ไม่ทันถ่ายรูปมาให้ดู จากนั้น ได้เวลากลับ จึงเดินๆออกจาก Tenmonkan แล้วลองเดินไปตามทางที่เมื่อกี้แท็กซี่ขับรถมาส่ง แบบจำทางไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่กลัวครับ เพราะถ้าเราไปไม่ถูก หรือหลงยังไง ก็เรียกแท็กซี่กับท่าเรือของ Royal Caribbean อยู่แล้ว นี่คนถนนหนทางระหว่างทางเดินกลับครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:28:18

ความคิดเห็นที่ 47 อีกภาพ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:30:39

ความคิดเห็นที่ 48 เราเดินอยู่พักนึง จนมาเจอตึกของ Dolphin Port จนได้ 5555 บอกแล้วว่าพอจำทางได้ เราจึงเดินเข้าไปใน Dolphin Port เพราะแอบคิดในใจแล้วว่า ถ้ามีเวลา ก็อยากเข้ามาแวะดูว่าที่นี่มีอะไร แต่ไม่ได้มีเวลามากมาย จึงได้แค่มาขอเข้าห้องน้ำ 555+ และเดินสำรวจรอบๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:39:57

ความคิดเห็นที่ 49 เรายังสามารถพบเจอร้านๆอาหารสวยๆน่านั่งอยู่มากมาย จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:41:05

ความคิดเห็นที่ 50 หลายร้านเลย จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:42:13

ความคิดเห็นที่ 51 หรือแม้แต่อาหารก็ยังน่ากินเหมือนเดิม จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:44:31

ความคิดเห็นที่ 52 จนในที่สุด เราก็เลือกแท็กซี่คันหนึ่งที่จอดอยู่ที่นี่แหละ กลับท่าเรือ โดยยื่นเศษกระดาษเล็กๆที่ทางเคาท์เตอร์บนเรือให้ไว้ตอนลงเรือ ที่เขียนว่า โปรดนำเราไปส่งที่ท่าเรือของ Royal Caribbean ด้วยนะครับ ^^ ไม่อยากจะเชื่อว่า ค่าแท็กซี่ขามา กับขากลับจะเท่ากันเด๊ะ!! แสดงถึงความซื่อสัตย์ของแท็กซี่ที่นี่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว สรุปรวมึความรู้สึกที่ได้รับการจากการได้ไปเหยียบเมืองคาโกชิม่า ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะคิวชู ของประเทศญี่ปุ่น คือความประทับใจในทุกสิ่ง โดยเฉพาะความเป็นมิตรของผู้คน ผมจึงไม่แปลกใจเลย ที่ใครๆต่างบอกว่า ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ใครไปแล้ว มักจะหาโอกาสกลับไปเยี่ยมเยือนอีกครั้ง เพราะมันเป็นอย่างนี้นี่เอง มาถึงท่าเรือให้สบายใจไว้ก่อนว่าเราจะไม่ตกเรืออีกแน่ กลุ่มทัวร์จีนกลับมาบ้างแล้วบางส่วน กำลังทยอยต่อคิวกันเสียงดัง เพื่อขึ้นเรือ เราจึงขอชิลๆ หามุมถ่ายรูปเรือ และท่าเรือสวยๆก่อน ไมได้เร่งรีบอะไร อีกอย่าง ตั้งแต่เราขึ้นเรือมา เรายังไม่ได้เห็นเรือของเราแบบเต็มตาที เพราะตอนขาขึ้นเรือที่เซี่ยงไฮ้ ก็รู้ๆอยู่ว่า เราเร่งสปีดไม่คิดชีวิตกันซะขนาดไหน มาตอนนี้ เราจะได้อิ่มเอมกับเรือสำราญของเราได้อย่างเต็มที่ล่ะ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:46:29

ความคิดเห็นที่ 53 จากด้านหน้าของเรือ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:48:08

ความคิดเห็นที่ 54 ตามมาแล้ววว จ้าาา จากคุณ : ATM รุ่นนี้กดง่าย แค่ใช้รหัสใจ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:48:32

ความคิดเห็นที่ 55 จากนั้น ไม่นาน เราจึงไปต่อคิวกับพวกคนจีนที่ทยอยกันกลับมาจากทัวร์ที่เขาซื้อไว้ ระหว่างต่อคิวรอขึ้นเรือนั้น ก็ต้องทำใจในทุกพฤติกรรมเดิมๆ ทั้งเสียงดัง วุ่นวาย และการแซงคิว มีการตะโกนใส่หูพ่อของผม เพื่อที่จะคุยกับคนที่อยู่ข้างๆ พ่อผม จนพ่อต้องเอามือมาปิดหู แต่ก็เค้าก็หาได้รู้สึกสะทกสะท้าน หรือเกรงใจอะไรเลย เฮ้ออออ........ ในที่สุด ผมและครอบครัว ที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบก็จบลง.... เรารีบบึ่งขึ้นห้อง เพื่อเอาของไปเก็บ แล้วออกมากินไอติม ก็อย่างที่บอก ไอติมคือสิ่งที่คู่กับผมตั้งแต่เกิด แล้วนี่ได้กินตลอดเวลา ขึ้นเรือปุ๊บ เราก็มุ่งตรงต่อแหล่งหากินของเรากันเลย 5555+ จากนั้น เพิ่งระลึกได้ว่า พรุ่งนี้ เรือจะเทียบท่าที่เกาะเชจูแล้ว และตามโปรแกรมการเที่ยวที่ผมวางไว้คือ จะซื้อทัวร์บนเรือ เพราะจากการค้นข้อมูลพบว่า เกาะเชจู เป็นสถานที่ที่เที่ยวโดยรถสาธารณะยากมากในเวลาที่จำกัดเพียงวันเดียวเช่นนี้ แล้วการสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นคน หรือป้ายบอกทางยังง่อยอีก สรุปรวมแล้ว ผมจึงคิดว่าขอไปกับทัวร์เป็นการดีที่สุด เลยไปที่เคาท์เตอร์ booking แล้วดูในโปรแกรมทัวร์ ที่จริง โปรแกรมทัวร์ เวลาแวะที่ต่างๆนี่ คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จากเวปไซด์ของทาง Royal Caribbean ตั้งแต่คุณอยู่เมืองไทยได้เลย แต่จากคำแนะนำของทีมงานของ Royal Caribbean Thailand บอกว่า ไม่ต้องทำการ booking ทัวร์ก่อนก็ได้ เพราะหากเราเกิดทำ booking ไปแล้ว เกิดเปลี่ยนใจตอนอยู่บนเรือ เพราะบนเรือจะมี package ที่เยอะกว่า จะเปลี่ยนไอ้ที่ booking มาก่อนไมได้แล้ว ผมก็เชื่อตามคำแนะนำ แต่พอมาที่เคาท์เตอร์ bookimg กลับพบว่าโปรแกรมทัวร์น้อยมาก ไม่อยากจะบอกให้ royal Caribbean เสียชื่อไปมากกว่านี้ ว่ามันไม่เห็นเหมือนอย่างที่บอก (อีกแล้ว) แถมพนักงานบอกว่าบางทัวร์บนเรือที่เขียนไว้ ทัวร์นี้ไม่มีแล้ว ผมอยากรู้ว่า ในเมื่อไม่มีแล้ว คุณจะพิมพ์มาให้ลูกค้าดูกันทำไม สุดท้าย.....ผมก็เลือกโปรแกรม 49 ดอลล่า ไป 2 ที่คือ ภูเขาไฟที่ดับแล้ว Seongsan IIchulbong ที่ผมสนใจที่นี่เพราะ เขาว่ากันว่าเป็นที่ที่มีทัศนียภาพสวย และเป็นเอกลักษณ์บนเกาะเชจู แล้วองค์การยูเนสโก้ยังจัดให้ภูเขาไฟลูกนี้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย น่าสนมั๊ยล่ะ ใน package นี้ ยังไปอีกที่คือ หมู่บ้านพื้นเมืองของคนบนเกาะเชจู ก็ผมอยากไปดูบ้าน วิถีชีวิตอะไรพวกนี้ แล้วในโปรแกรมยังบอกอีกว่า อาจพาไปซื้อของพื้นเมือง หรือช้อปปิ้งอะไรประมาณนี้ด้วย ผมเลยตัดสินใจจอง package นี้แหละ โดยระบุพนักงานไปเลยว่า ของกรุ๊ปที่ไกด์พูดภาษาอังกฤษนะ รู้ทั้งรู้ว่า ถ้าไกด์พูดภาษาอังกฤษ พ่อและแม่ผมใบ้กินแน่ ผมก็แค่กล้อมแกล้ม แต่จากการปรึกษาพ่อกับแม่แล้ว ท่านยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะขืนเราเอากรุ๊ปที่มีไกด์เป็นคนจีน มีหวังรถบัสแตกกระจุยด้วยเสียงคุย และความโสโครกของคนพวกนี้ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:49:37

ความคิดเห็นที่ 56 เอาล่ะ เข้าเรื่อง.... งานนี้ อีกหลายชั่วโมงกว่าเรือจะออก แต่ก็เย็นพอสมควร จำได้ว่า ผมเช็คเวลาใน Cruise compass ถึงกิจกรรมการปีนผาในชั้น 10 มาแล้ว ว่าตอนนี้มีเปิดให้ปีน เพราะกิจกรรมนี้ ไม่ได้มีตลอดเวลา ที่สำคัญ กิจกรรมหนี่งที่ผมตั้งใจที่จะทำบนเรือสำราญแห่งนี้ คือการปีนผาจำลองนี่แหละ แต่เราต้องใส่รองเท้า และถุงเท้ากีฬาไปด้วย ไม่อย่างนั้น เขาจะไม่ยอมให้เราปีน ว่าแล้ว เราก็มุ่งตรงต่อชั้น 10 ด้วยความที่กิจกรรมนี่เพิ่งเปิด ดังนั้น คนจึงยังไม่มากนัก ผมยื่น Sea pass ให้เจ้าหน้าที่ พร้อมบอกเบอร์รองเท้า เพราะแม้ว่า เราจะมีรองเท้าไปเอง แต่เขาก็จะให้เราเปลี่ยนเป็นรองเท้าของเขาอยู่ดี ใส่รองเท้าเสร็จปุ๊บ เจ้าหน้าที่เริ่มเอาสายอะไรๆไม่รู้ระโยงระยางมาสวมรัดให้ คราวนี้รอคิวปีน ตอนนี้มีคนกำลังปีนก่อนหน้าผมอีกคนนึง เขาปีนได้เร็วมาก ปุ๊บๆ ถึงยอดหน้าผาแระ ทำเอาผมใจแป๊ว เพราะเกิดมาก็ไม่ใช่เคยปีน แต่เอาวะ ไหนๆก็ตั้งใจจะลองแล้ว นี่คือหน้าตาของหน้าผาจำลองที่ผมกำลังจะเจอกับมัน จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:51:52

ความคิดเห็นที่ 57 พอถึงคิวผม ผมบอกโค้ชที่เป็นฝรั่งเลยว่า ผมไม่เคยปีนนะ นี่เป็นครั้งแรกของผม แต่ดูเหมือนเค้าจะเฉยๆ อาจเป็นเพราะเค้าคงเจอลูกค้าแบบนี้มาเยอะแล้ว ประเภทปีนครั้งแรก 555+ เค้าก็อธิบายคร่าวๆว่าต้องปีนยังไง รวมถึงพอไปถึงยอดหน้าผา แล้วต้องโรยตัวลง ต้องจับเชือกยังไง เส้นไหน มือไหนบ้าง เอาล่ะ ตื่นเต้นดีจริง มือสั่นไปหมด แถมรอบข้างยังมีคนจีนมากมาย คอยมองลุ้นอยู่อีก โอ๊ยยยย!!!....กดดันนะเฟร้ยยย!!!! ว่าแล้ว ผมก็เริ่มก้าวขา 2 ข้างเหยียบปุ่มหินจำลองที่โผล่ออกมาจากกำแพง พอให้เราเอาปลายเท้าเหยียบก้อนแรก แล้วเริ่มเอามือทั้ง 2  หาแง่งหินที่ยื่นออกมา เพื่อจับให้แน่น ก่อนที่จะใช้แขนทั้ง 2 ข้างดึงตัวเอง พร้อมๆกับขาที่ก้าวขึ้นเพื่อเหยียบก้อนหินที่สูงขึ้นถัดไป มันหวิวๆแฮะ !!!!!!! ไม่รู้ว่า ปีนมาได้ไกลแค่ไหนแล้ว แต่รู้ว่า ทำไมมันนานจัง -*- ทำไมไม่ถึงสักทีล่ะเนี๊ยะ?? ตาก็ไม่กล้าก้มมองด้านล่าง ผมปีนไปได้สักพัก มือยังสั่นอยู่ ใจนี้เต้นเป็นกลองรัวเลย ทำไมไม่ถึงสักทีฟระ.... มือเริ่มหมดแรงในการยึด อากาศก็หนาว แขนเริ่มหมดแรง แม้กำลังขาในการก้าวยังดีอยู่ แต่ถ้าใครเคยปีน จะรู้ว่า ตอนปีนขึ้นนั้น กำลังแขนต้องดีกว่ากำลังขา แล้ววันนี้ ผมก็เดินๆๆ ตะลุยญี่ปุ่นมาทั้งวัน เพิ่งมาค้นพบว่า ตัวเองหมดแรงก็ตอนปีนไปได้สักพักแล้วแหละ รู้สึกตัวตอนนี้ จะได้อะไร จะยอมแพ้ก็ขายขี้หน้าคนจีนที่จ้องมองอยู่ข้างล่าง ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นไทย (เกี่ยวกันไหมนี่) ผมกัดฟัน พาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ พยายามเลือกก้อนหินที่เหยียบถนัด และมั่นคงที่สุด พักถอนหายใจระหว่างทางบ้าง แล้วฮึดกำลัง ใช้แขนลากตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ในภาพคือผมเอง กำลังสั่นได้ที่ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:55:36

ความคิดเห็นที่ 58 ในภาพดูเหมือนคนปืนเป็นเนอะ 5555+ แต่ก็ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:58:17

ความคิดเห็นที่ 59 จนในที่สุด ระฆังก็มาอยู่เหนือศีรษะผมแล้ว ดีใจสุดๆ ว่ากรูถึงแล้วหรือนี่ ทำไมมันนานจัง แล้วก็เอื้อม เอามือข้างหนึ่งไปสั่นกระดิ่ง เป็นสัญญาณบอกกับคนข้างล่างว่า ผมถึงแล้ว  เย้ๆๆๆๆๆ ทีนี้ โค้ชก็จะบอกว่า ให้เราปล่อยมือ แล้วเอามือทั้ง 2 จับไว้ที่เชือกหลักเพียงเส้นเดียว ขาให้ผละออกจากกำแพงหน้าผาได้ ตอนนั้น บอกได้เลยว่า หวีดมาก เพราะตามสัญชาติญาณ การที่เรายังสามารถยืนหยัดอยู่ปลายหน้าผา โดยไม่ร่วงลงมาได้นั้น เพราะปลายเท้าเรายังเหยียบอยู่กับแง่งหินของหน้าผาอยู่ แล้วจู่ๆ จะให้เลื่อนเท้าออกจากแง่งหินนั่นน่ะนะ ให้ผมปีนลง เสี่ยงน้อยกว่ามั้ย??? แต่ใครจะทำ ยังไงๆก็ต้องทำใจเอามือจับเชือกเพียงเส้นเดียว เส้นนั้น ขาต้องผละออกจากแง่งหิน แล้วปล่อยให้ตัวเองห้อยต่องแต่ง อย่างไม่รู้ชะตากรรม เชือกเพียงเส้นเดียวที่เราใช้มือทั้ง 2 กำจนแน่น  ไม่ได้รู้สึกให้ผมอุ่นใจเลยแม้แต่น้อย ยังไม่ทันได้หายตกใจ โค้ชฝรั่งข้างล่าง ก็ปล่อยเชือก เพื่อให้ตัวผมโรยตัวลงสู่พื้นแบบไม่มีการผ่อนเชือกเลย ผลที่เกิดขึ้นคือ เกือบได้กรี๊ดสาวแตก ขี้เล็ดกันตรงนั้น คุณลองนึกดูนะ เค้าเล่นปล่อยเชือกเพียงเส้นเดียวเส้นนั้น ให้ตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงโลกเลย โดยไม่ชะลอค่อยๆคลายเชือก มันเหมือนเราตกจากที่สูงในแนวดิ่ง ฉี่แตกกันได้เลยนะ สรุปแล้ว ขาลง โหดหินกว่าตอนขึ้นมากนัก ถ้าผมจะมาปีนอีกรอบ ที่จะกลัวที่สุด ก็คงเป็นตอนที่โค้ชปล่อยเชือกเรานั่นแหละ หลังจากลงมาถึงพื้น ขาแทบทรุด ฮาตัวเอง จนหยุดหัวเราะไมได้ กรูทำอะไรลงไป แต่มันส์ดีว่ะ 55555+ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:59:06

ความคิดเห็นที่ 60 มีคนจีนวัยรุ่นต่อจากผม คนนี้ ดูสูงยาว เข่าดี อายุไม่น่าจะเกิน 20 เรียกได้ว่าแข็งแรงเต็มพิกัด ปีนต่อจากผม ด้วยความเกร็ง เพราะมีเพื่อนสาวมาเชียร์หลายคน แต่ละคนก็บอกให้ปีนยังงั้น ยังงี้ เซียนกันทั้งนั้น ตะโกนบอก เค้าคงเครียดมั๊ง ปีนไปปีนมา ปรากฎเหยียบแง่งหินพลาด ก็เลยหลุดออกจากหน้าผา แต่แทนที่โค้ชที่จับเชือกอยู่จะเห็นว่า เขาปีนพลาด จะปล่อยเขาลง แต่ไม่เลย โค้ชยังคงปล่อยให้เค้าห้อยต่องแต่งอยู่แบบนั้น จนเค้าพอมีแรง ก็เริ่มโยกตัวเองเข้าหาหน้าผา แล้วหามุมที่จะเอาเท้าไปเหยียบแง่งหินอันใหม่ สุดท้าย เค้าก็สามารถพิชิตยอดผา ขึ้นไปสั่นกระดิ่ง ประกาศความสำเร็จได้อีกคน ต่อจากคนนั้น ผมไม่ได้สนใจแล้ว เพราะผมมีอะไรแปลกๆ ใหม่ให้ลองอีก นั่นคือสนามกอล์ฟจำลอง มันอยู่ติดกับกิจกรรมปีนผาเลย จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 01:00:50

ความคิดเห็นที่ 61 เดี๋ยวคืนนี้ขอไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้บ่ายๆ จะเข้ามาอัพเพิ่มอีก ขอขอบคุณทุกคนที่ยังเข้ามาติตดามนะครับ ช่วงนี้กระทู้ตกเร็วมากเลย ถ้าไม่ใช่เพราะตามมาจากกระทู้ตอนที่ 1 คงยากที่จะเห็นนะครับ คืนนี้ใครยังไม่นอน ก็ขอให้นอนแล้วหลับฝันดีนะครับ ^^ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 01:46:01

ความคิดเห็นที่ 62 สนุกมาก ติดตามอยู่นะครับ เขียนจริงใจดี จากคุณ : ผมเชื่อในสันติภาพ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 01:48:25

ความคิดเห็นที่ 63 ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ น่าสนุกอะ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 08:41:11

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาเที่ยวผ่านรีวิวด้วยค่ะ คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ไปแน่ๆเลย จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:35:57

ความคิดเห็นที่ 65 รีบมาต่อนะคะ ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรกเลย กำลังอยากพาแม่ไปพอดี จากคุณ : เมฆสีชมพู เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:56:55

ความคิดเห็นที่ 67 รีวิวสนุก อ่านแล้วได้บรรยากาศ เหมือนได้ตามไปเที่ยวด้วยครับ ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : ไฮเปอร์ แมเนีย เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:29:03

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านตามแล้วสนุกดีครับ ผมไปลำนี้มาเมื่อ2 ปีก่อน จากเซี่ยงไฮ้ไป yokohama แต่จองผ่าน cruise.com ข้อดีของ จองผ่าน cruise.com คือเวลาเรือเปลียนลดราคาลงคุณสามารถโทรไปหาเขาแล้วขอ rateนั้นได้เลย ตอนผมไปตอนแรกจอง inside state room พอช่วงใกล้ๆเกิด suite ลดราคาลงมาเยอะมาก ผมโทรไปสามารถเปลี่ยนจาก inside เป็นห้อง suiteชั้น 8  เพิ่มเงินไปประมาญ 20 usd เอง อีกอย่างผมว่าอย่าว่าคนจีนเลยครับคนอ่านเราส่วนใหญ่ก็มีเชื้อสายจีนทั้งนั้น จากคุณ : darkz123 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:43:20

ความคิดเห็นที่ 69 รีวิวเยี่ยมเลย..รอชมต่อ จากคุณ : heang เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:47:41

ความคิดเห็นที่ 70 สุดยอด........ตามไปเที่ยวด้วยคนครับบ...... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:13:32

ความคิดเห็นที่ 71 ตามอ่านต่อครับ... ชอบสำนวนของ จขกท. มากๆ เลย เหมือนอ่านหนังสือสนุกๆ เล่มนึง สนุกมาก แอบมีสำเนียงภูเก็ตเล็กน้อย เหมือนคุยกับเพื่อนๆ เลยครับ อิอิ จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:17:28

ความคิดเห็นที่ 72 รออ่านต่อนะค่ะ  สนุกดีค่ะ จากคุณ : MMTaro เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:44:43

ความคิดเห็นที่ 73 รออ่านอยู่นะคับ จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:02:11

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:27:15

ความคิดเห็นที่ 75 มาแล้วครับ ^^ ------------------------------------------------------------------------------------------------ จากนั้น ก่อนที่เรือจะออกจากท่าเรือของคาโกชิม่า ญี่ปุ่นเขาทำ surprise ด้วยการนำเอาทีมนักตีกลอง เข้ามาแสดงการตีกลองโชว์ตรงท่าเรือ ขณะที่เรากำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ เสียงกลองตีได้จังหวะ และเป็นสิ่งที่ประทับใจที่ได้รับจากประเทศนี้จริงๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:44:14

ความคิดเห็นที่ 76 นี่คือภาพที่เราได้จากการถ่ายลงมาจากดาดฟ้าเรือ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:47:16

ความคิดเห็นที่ 77 จากนั้น เรือก็ค่อยๆออกจากท่า ขณะที่เรากำลังถอยออก ก็มีประชาชนชาวญี่ปุ่น ยืนอยู่ริมท่าเรือ โบกไม้โบกมืออำลา เป็นภาพที่ประทับใจผู้คนที่นี่ซะจริงๆ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:48:30

ความคิดเห็นที่ 78 ไกลออกไป จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:49:58

ความคิดเห็นที่ 79 กลับมาที่เรือของเรา ก็ได้เวลากลับห้องไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาทาน Dinner เมื่อเข้ามาถึงห้องพัก วันนี้เราเจอเจ้าตัวนี้ห้อยต่องแต่งอยู่ครับ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:51:35

ความคิดเห็นที่ 80 โดยการแต่งกายในคืนนี้จาก Cruise compass คือแบบ casual ดังนั้น ผมจึงไม่ซีเรียสอะไรมาก รูปปั้นหน้าห้องอาหาร Romeo & Juliet จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:52:50

ความคิดเห็นที่ 81 มาดูอาหารที่เราจิ้มสั่งของวันนี้กัน อันนี้ของผม จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:54:07

ความคิดเห็นที่ 82 มาดูกันต่อ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:54:48

ความคิดเห็นที่ 83 แล้วก็ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:55:36

ความคิดเห็นที่ 84 ก็อย่างที่บอก หากจานไหนไม่มีข้าว เราสามารถขอข้างและผักสดเพิ่มได้จาก Hasly ต่อไปก็เป็นของหวาน จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:56:41

ความคิดเห็นที่ 85 แล้วก็ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:57:39

ความคิดเห็นที่ 86 อันนี้ของผม สั่งได้สิ้นคิดมาก 5555+ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:58:35

ความคิดเห็นที่ 87 จากนั้น ก็ได้เวลาไปนั่งรอการแสดงที่ Entertainment Theater ณ ชั้น 4 แต่คืนนี้พ่อกับแม่ขอบาย เพราะคงเหนื่อยจากการเดินสำรวจ และเที่ยวในคาโกชิม่า ผมจึงไปส่งท่านที่ห้องก่อน หลายคนอาจถามว่า ทำไมผมต้องไปส่ง ในเมื่อทุกคนก็ได้ Sea pass ซึ่งสามารถเสียบเข้าห้องตัวเองได้อยู่แล้ว และห้องพักก็แน่นอน ไม่ได้เปลี่ยนไปมา แต่ผมจะบอกว่า ที่ต้องไปส่งเพราะเรือมันลำใหญ่มาก แม้จะจำได้ว่าอยู่ห้องไหน ชั้นไหน แต่พอกดไปที่ชั้นห้องพัก อย่างของผมคือ อยู่ชั้น 7 แต่พอไปถึง ก็ใช่ว่าจะเดินหาห้องเจอง่ายๆ วันแรกๆ ผมเดินวนอยู่ชั้น 7 นานเลยทีเดียว เพื่อหาห้อง 5555+ การแสดงคืนนี้เป็นเดี่ยวเปียโน จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:00:19

ความคิดเห็นที่ 88 ไปถึง คนยังไม่เยอะ คืนนี้ ผมเลยได้ทำเลดี จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:05:41

ความคิดเห็นที่ 89 แล้วการแสดงก็เริ่มขึ้น จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:06:41

ความคิดเห็นที่ 90 แรกๆ ก็ตื่นตาตื่นใจดี แต่ไม่นาน..... ไม่รู้เป็นเพราะเสียงเปียโนที่ฟังแล้วละมุนหูเป็นทุนเดิม หรือเขาเล่นได้ลื่นหูมากไม่รู้ ผมผลอยหลับคาที่นั่ง แบบหลับสบายตัวด้วย เอ....หรือเราเหนื่อยจากการตะลุยญี่ปุ่นในวันนี้กันนะ 555+ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:07:36

ความคิดเห็นที่ 91 ในที่สุด ผมก็เคลิ้มหลับ.... รู้สึกเกรงใจคนข้างๆไงไม่รู้ เหมือนว่า ไอ้นี่ จะมานอน ทำไมไม่ไปนอนที่ห้อง มานอนตรงนี้ทำไม และดูเหมือนไม่ให้เกียรติคนแสดง แต่เขาคงไม่รู้หรอกว่า การนอนตรงนี้ พร้อมฟังเสียงเปียโนไปด้วย มันโคตรจะสบายเลย 5555 แต่แล้วผมก็ทนหน้าด้านไม่ไหว จึงต้องขอลุกออกกลางคัน หลังจบเพลงไปหลายเพลง เดินออกมาข้างนอก ทีนี้ เรามาดูบรรยากาศของห้องโถงกลางเรือกันดีกว่า บริเวณชั้น 4 กลางเรือจะมีดนตรีสดแสดงขับกล่อมตลอดเวลา คืนนี้ ผมขอยกนิ้วให้นักร้องคนนี้เลย เธอร้องเพลง I will always love you ของวิทนีย์ได้เพราะจนน่าขนลุก และอีกหลายเพลง จัดได้เลยว่า นักร้องคนนี้เป็นตัวแทนของเรือที่ทำให้ผมประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:10:14

ความคิดเห็นที่ 92 นักร้องแต่ละคืนจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คืนแรกๆ ผมรับได้เลยครับ อย่างที่บอกว่าประทับใจในคุณภาพและลีลาการร้องของนักร้อง แต่คืนหลังๆ นี่ชักไม่ไหว โดยเฉพาะคืนสุดท้าย ขอบอกว่า ห่วยมาก เพราะเหมือนเอานักร้องจีนที่ไหนมารู้มาร้อง แล้วร้องแต่เพลงจีน ดังจนหนวกหูเลยทีเดียว มีบางคนบอกว่า สมาชิกในห้องนี้หลายคนมีเชื้อสายจีน จึงอย่าไปพูดอะไรมากเลย ผมจะบอกว่า ไม่ต้องใครที่ไหนหรอกที่มีเชื้อสายจีน บ้านผมนี่แหละ เชื้อสายจีนเต็มตัว ปีๆ เข้าวัดนับครั้งได้ แต่ศาลเจ้า และเทศกาลของจีนน่ะเหรอ ไม่มีพลาดสักเทศกาล สงกรานต์สำหรับบ้านผมนี่เฉยมาก แต่ตรุษจีนล่ะก็ ถ้าไมมารวมกัน เป็นเรื่องแน่ ดังนั้น ที่ผมรังเกียจ ไม่ใช่คนเชื้อสายจีน แต่เป็นพฤติกรรมของคนจีนต่างหาก แลหากใครบอกอีกว่า เราควรจะเข้าใจธรรมเนียม หรืออุปนิสัยของคนแจ่ละชาติ เพราะนั่นถือเป็นสีสันของการท่องเที่ยวในโลกกว้าง ซึ่งก็ถูกครับ เพราะผมก็ไมได้ไปต่อว่าอะไรเค้า แต่ถ้าจะไม่ให้รู้สึกอะไรเลย ก็คงไมได้ ก็เรพาะเรามีวัฒนธรรมที่ต่างกัน ผมเข้าใจในวิถีปฏิบัติของเค้า แต่ถ้าจะใช้ปลื้มคงเป็นไปไมได้ เพราะหลายพฤติกรรม มันรับไม่ได้จริงๆ อีกอย่าง การมาตั้งกระทู้รีวิว สำหรับผมคือการรีวิวความจริง ไม่มีเฟค ใครตามอ่านตั้งแต่ตอนที่ 1 จะเข้าใจดี อะไรที่ชอบ ก็บอกเลย อะไรที่ไม่ปลื้ม หรือถึงขั้นเสียความรู้สึกก็จะบอก เพื่อเป็นเสียงสะท้อนให้คนที่เข้ามาอ่านทราบ แล้วตัดสินใจได้ และก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามผมทุกเรื่อง เพราะผมบอกไปตั้งแต่ต้นกระทู้ตอนที่ 1 แล้วว่า มันเป็นความเห็นส่วนบุคคล เอาล่ะ มาต่อดีกว่า จากคุณ : stevyboy26 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:19:11