ความคิดเห็นที่ 1 ปกติผมก็ใช้ Ketchup แต่ว่าผมไปอินโดฯ ใช้ไม่ได้ครับพูดอยู่นานพอพูดว่า Tomato Sauce เขาก็ Yes ขึ้นมาทันที จากคุณ : heang เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 16:54:04

ความคิดเห็นที่ 2 งั้นโหวตให้ตามคำขอล่ะจ้าาา จากคุณ : บุ๋นคุง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 16:59:24

ความคิดเห็นที่ 3 ของเราเคยที่บาหลีค่ะ สั่งเหมือนจะเป็นไก่ทอดมา แล้วก็เลยอยากจิ้มกับซอสพริก บอกเค้าว่าขอ chilli sauce เค้าก็เอาซีอิ้วดำผสมกับพริกเหมือนพริกชีฟ้าหั่นๆ มาให้ถ้วยนึงค่ะ แต่ก็อร่อยดี จากคุณ : สหายสันติ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:04:31

ความคิดเห็นที่ 4 เคยไปบริษัททัวร์ แล้วถามพนักงานขายว่ารับบัตรเครดิตมั้ย น้องตอบว่า....รับทุกบัตร ยกเว้นบัตร American Standard !!! จากคุณ : pam_ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:22:20

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ^ ^ 55555555555555 จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:33:05

ความคิดเห็นที่ 6 เสี่ยขอแจมกะ จขกท สักเรื่องน่ะครับ คลายเครียด เรื่องที่ฮ่องกง อันเป็นตำนาน กบ มี 2 ภาค เอาภาคแรกมา ให้อ่านก่อนน่ะครับ How To.....กบ In Hong Kong! Vol.1 แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาเนิ่นนานแรมปีแล้วก้อตามที แต่ความทรงจำดีๆ เปรียดประดุจแผลเป็นจากรอยสิวเม็ดแรกบนหน้าผาก เสี่ยยังคงอยู่มิสูญหาย ตายจากเหมือนซากจิ๊งจกหนีบวงกบประตู ณ วันนั้น.... ที่สนามบิน ฮ่องกง แช๊ป แล๊ป ก๊อก เสี่ยต้องเดินทางกลับสู่มาตุภูมิ สยาม เสี่ยใช้คำว่า มาตุภูมิ ฟังดูฟุ้งๆ เหมือนวีรบุรุษ อย่างไรก้อไม่รู้น่ะ  ฮ่าๆๆๆๆ เสี่ยมีเวลาเหลือน้อยมาก เนืองจากคำนวนเวลาผิดพลาด ทันทีที่ถึงสนามบิน เสี่ยรีบๆ จ้ำพรวด.... กดลิฟท์ ลงมาชั้นล่างสุด เพื่อต้องการเปลี่ยนไปยัง เทอมินอล 2 เพื่อรีบเข้าเช็คอิน ชีวิตเสี่ย บ้านนอก ปกติก้อไม่คุ้นกับลิฟท์ ซักเท่าไหร่? ทันทีที่ ลิฟท์ หยุดลงที่ชั้นล่างสุด และเป็นชั้นที่เสี่ยต้องการจะกระโจน ออกไป ห่า....... ลิฟท์ไม่ยอมเปิดประตู เสี่ยทั้งฉุดกระชาก กดปุ่มให้ประตูมันแง้ม มันก้อไม่แง้ม ดูเหมือนลิฟท์ มันเพิกเฉยต่ออำนาจรัฐ เสี่ยลองๆเอามือ ไปง้างเพื่อให้ประตูลิฟท์เปิดในโหมด เมน่วล ประตูก้อไม่เปิด.... เสี่ยต้องรีบออกจากลิฟท์เพื่อไปเช็คอินให้ทัน.. เสี่ยรีบ และกระวนกระวายใจมาก... เสี่ยตัดสินใจ..... กดที่รูป โทรศัพท์สีแดง อันเป็นเครื่องหมายฉุกเฉินสุดๆ เพื่อเรียกให้ จนท. เข้ามาช่วยเสี่ย เสี่ยกด รั่วๆ ติดๆกัน แว่ปเดียวเสี่ยก็ได้ยินเสียงตามสาย.... พูดเป็นเสียงจีน เข้ามาในลิฟท์..... เสี่ยฟังไม่รู้เรื่อง ..... ยิ่งฟังไม่รู้เรื่อง เหมือนเรายิ่งแย่ เหงื่อเริ่มแตกๆ พลั่กๆๆๆๆ ภาพคลิปวีดีโอ เวลาเด็กจีน ติดในท่อ ค้างในลิฟท์ เริ่มเข้ามาป๋วนเปลี๋ยน ง่ามสมอง บทเพลงของพี่เบริด์ ก็ค่อยๆ ลอยมากระทบเบาๆ "กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง" เสี่ยแทบอยากกรี๊ดดดดด ใครก้อได้ช่วยนำกรูออกไปที กรู...... หมดสิ้นไร้ซึ่งทางออก.......... กรู.... เหลียวไปหาใครก้อไม่มีใครช่วยฉัน........ เสียงตามสาย ภาษาจีน ยังคงพล่ามอะไรซักอย่าง เสี่ย.... แปลไม่ออก......... ยิ่งแปลไม่ออกก็ยิ่งยั๊ว! ใจนึกอยากจะด่า อีเจ้ เสียงตามสายนี่มาก แต่..เสี่ยไม่มีเวลามากพอจะมาด่าใคร... เสี่ยหันรี หันขวาง และ สุดท้ายตัดสินใจหันหลัง 180 องศา ด้วยความบังเอิญสุดๆ ................. มองไกลๆ ออกไป...................... .................... ห่าราก................................. ประตู แมร่ง มันกำลังเปิดๆ-ปิดๆ...... เข้าๆ ออกๆ อย่างนั้นเป็นสิบๆ รอบแล้ว............ โคตร! อายเลย..... หน้าแหกยับ! วินาทีนั้น...กรูรู้เลย กรูเดินได้ทางมาถึงระบบฝากข้อความเสียง "กบ" สุดๆแล้ว ง่าวววววว จ๊าดดดดด! คือคำพูดแรกที่เสี่ย รู้สึกอุทานในใจแทนเสียง อ๊อบ อ๊อบ! และทันทีที่เสี่ยเห็นแสงเดือนแสงตะวัน รู้สึกเหมือนตัวเองค่อยๆ กระโดดเด้ง ออกมาจากปากบ่อลิฟท์ และเสี่ยก้อเห็น ............. คนกลุ่มหนึ่ง ที่ม้านนั่งกงประตูลิฟท์ที่เปิดรออยู่ด้านหลัง ม้านนั่งหัวเราะกรู ท้องคด ท้องแข็ง..................... เสี่ยอายสุดๆๆ อายจนแทบจะเข็นรถเข็นกระเป๋าออกมา พุ่งชน พวกหมวยตี๋กลุ่มนั้น แล้วแมร่ง พุ่งล้ม.... เรียกจุดโทษซ่ะเลย เฮ้อ...... ประตูลิพท์ แมร่ง มีสองด้านก้อไม่บอก จะจดจำใส่กะโหลกกะลาไว้เลย ว่าต่อนี้ไปไม่ใช่เหรียญเท่านั้นที่จะมีแค่สองด้าน....... ประตูเปิดลิฟท์ ม้านก้อมีสองด้าน ด้วยเหมือนกัน.... How To กบ ชิปหาไม่เจอ!!!!!!! และทันทีที่ เท้าเสี่ยย่างก้าวเหยียบแผ่นดินเกิด กลับถึงมาตุภูมิ สุวรรณภูมิ ความรู้สึก....... "วีรบุรุษ กบ ณ สนามบิน แช๊ป แล๊บ ก๊อก  ฮ่องกง" ม้านติดตัวเสี่ยมาอย่างงั้ย อย่างงั้นเลย... ทุกวันนี้ นึกคราใดแล้วก้อ อดขำ ตัวเองเองไม่ได้ซักที 55555! ...................................... .......................... ............ จบและกราบงามๆ 3 ที คับ! จากคุณ : เสี่ยศักดิ์ดา (กบฎ ความเครียด) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:34:22

ความคิดเห็นที่ 7 555 จากคุณ : puk ka bee เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:39:05

ความคิดเห็นที่ 8 มาเชียร์ครับ  ไม่มีเรื่องแชร์  ความจำสั่น เอ๊ย...สั้น..................................... จากคุณ : มาอีกแล้ว เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:45:59

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนไปฮ่องกงครั้งแรก ....จำทางกลับโรงแรมไม่ได้ ตีสองกว่าแล้ว ถามใครก็เจอแต่คนส่ายหัวหนี.....สุดท้ายกางแผนที่กลางสี่แยกกะว่าไม่ช่วยก็ไปไหนกันไม่ได้เช่นกัน....สุดท้ายแล้วมีพระเอกขี่ม้าขาว(เสียดายไม่หล่อ) มาช่วยพากลับโรงแรม.....ระหว่างทาง.........เนื่องจากภาษาไม่แข็งแรง........จะถามเค้าว่าต้องผ่านมาแถวนี้หรอ......กลายเป็นชวนเค้าขึ้นโรงแรมเสียชิบ ดีที่ว่า.......เค้าเห็นหน้าเรา.....เลยคิดได้ว่า เด็กดอยนี้มันคงพูดผิดดดดด... จากคุณ : Nana_naru เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:46:04

ความคิดเห็นที่ 10 ทริปแบ๊คแพ็กยุโรปครั้งแรกปี 2530 (1987) สมัยยังไม่มีอินเทอร์เน็ต เจอสารพันปัญหาตั้งแต่เรื่องวีซ่า ขึ้นรถลงเรือ ที่พัก แต่ก็สนุกดีค่ะ ข้ามช่องแคบโดเวอร์จากฝรั่งเศสไปนอน Bed & Breakfast ในลันดั้น(London) เจ้าของบ้านบอกเวลาอาหารเช้า 7 โมง  เราตื่นก่อน 7 โมงเล็กน้อย สักครู่ใหญ่ แม่บ้านมาเคาะถาม "จะรับอาหารเช้าตอนนี้เลยไหม" เราก็พยักหน้ารับซิ ก็มันเจ็ดโมง 20 แล้ว เขาก็เอาขนมปัง กาแฟมาให้ เราสองคนก็มองหน้ากันว่ามีแค่นี้เหรอ คุณซะมีก็ว่าน่ามีไข่ดาวหมูแฮม แต่รอสักครู่ก็ไม่เห็นมาเสิร์ฟอะไรอีก ก็เลยพากันลงมือกินของที่มีมาให้ จนกาแฟและขนมปังเกือบจะหมด มีเสียงเคาะประตู แม่บ้านมาเสิร์ฟไข่ดาวหมูแฮม พอเห็นว่าเราจัดการขนมปังกาแฟเกือบหมด เธอก็ทำท่าตกใจว่าทำไมรีบกิน ไม่รอ เราบอกเธอว่านึกว่ามีแค่นี้ เธอบอกว่า "ขอโทษที มันยังไม่ถึงเวลาอาหาร แต่เห็นว่าเราตื่นเช้าก็เลยเสิร์ฟก่อนเวลา ไปทำไข่ดาวหมูแฮมช้าไปนิด" เราก็มองนาฬิกาด้วยความงง ๆ อีกไม่กี่นาทีจะ 8 โมงแล้วนี่ แม่บ้านรีบบอกว่า " That's French time" จริงด้วย ! เวลาแพรีสเร็วกว่าลันดั้น 1 ชม. จากคุณ : สะหวอย7 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:50:06

ความคิดเห็นที่ 11 555 ขำเสี่ยศักดิ์ดา จากคุณ : บ้านสามออ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:49:02

ความคิดเห็นที่ 12 มีอีกเรื่อง พิมพ์ไม่ค่อยจะขำ(หรือเปล่า)แต่ตอนพี่เราเล่า ขำสุดๆ พี่ชายคนเดิมได้ทุนไปเรียนเมกา แล้วมีกลุ่มรุ่นน้องทุนเดียวกันเพิ่งมาจากไทย ก็มีมือถือมาด้วยเนอะ มีซิมอะไรเรียบร้อย ลงเครื่องมา ก็นัดแนะกันแล้วว่า จะโทรมาแจ้งว่าจะให้ไปรับที่ไหน เพราะ จะเข้าไปในเมืองกันก่อน น้อง -  พี่ครับ มารับผมหน่อยครับ ผมอยู่ตรงแยกมีห้าง *** พี่ - โอเค พวกคุณอยู่ถนนอะไร ผมจะได้ไปรับถูกฝั่ง น้อง - เดี๋ยวนะครับ (เสียงตะโกนไถ่ถามกัน ให้ไปเดินดูชื่อถนน) พี่ครับ ถนนนี้ชื่อ Dont walk walk ครับพี่ พี่ - เอ่อ ....( นั่นมันสัญญาณให้คนข้ามถนน) จากคุณ : + มะนาวหวาน + เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:57:55

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาเสียกีบสุดท้ายของเดือนให้เสี่ยศักดา เรื่องขำๆ (รึเปล่าไม่รู้) ของเรา สมัยเด็กๆ ไปเที่ยวสิงคโปร์กับที่บ้าน เป็นทริปต่างประเทศ ทริปแรกในชีวิต เราก็ไปซุบซิบกับน้องสาว จะหลอกขอเงินพ่อไปซื้อของ ก็เข้าไปขอพ่อ บอกว่า "ขอเงินพันนึงสิ" พ่อเปิดกระเป๋าตังค์แล้วดันรู้ตัวก่อน ว่าที่ขอน่ะเป็นดอล ไม่ใช่เป็นบาท เกือบได้ช้อปแล้วเชียว จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 20:30:15

ความคิดเห็นที่ 14 เล่ามั้ง ขอเผาสามีหน่อยหนึ่ง ไม่รู้เล่าจะขำไหม แต่ตอนนั้นเราขำมากน้ำตาไหลเลยเชียวล่ะ เหตุเกิดปลายปีที่แล้ว ทริปอิตาลี สามีเราออกไปหาซื้อหมูสับที่ซูปเปอร์มาเก็ตกะว่าจะมาปรุงอาหารทานกันหน่อย ใกล้ๆที่พักเราจะมีร้านหนึ่งใหญ่ใช้ได้ที่ขายประจำ เคยซื้อวันก่อนกะว่าจะไปซื้ออีก เพราะมันมีตู้แช่แข็งอารมณ์เหมือนท็อป เราเดินดูและหยิบเอามาจ่ายตังค์เอง ไม่ต้องสื่อสารหรือเจรจาใดๆกับคนขาย ...แต่ร้านมันดันปิด ทุ่มเดียวปิดแล้ว(จะปิดเร็วไปไหน!!!!) สามีเราเลยเดินหาร้านละแวกนั้น เจอร้านเล็กๆประมาณโชว์ห่วย มีขายทุกอย่างตั้งกะของสดยันของคาว อาหารแห้ง น้ำปลา พริก โดยเฉพาะของจากเมืองจีนมีเต็มร้านเชียว ....ปัญหามันเกิดตรงนี้ ตรงที่จะต้องบอกเจ้าของร้านว่าเราอยากได้หมูสับ สามีิเรา: do you have minced pork? คนขาย: :@;)(฿&-,!;"'dh อิตาเลียนรัวมา อ้อ ไม่พูดอังกฤษ สามีก็ไม่ละความพยายาม ใส่เสียงเข้าไปช่วย: อู๊ดๆๆๆๆ I want อู๊ดๆๆ คนขายทำหน้าตางงกว่าเดิม....... สามีเรานึกขึ้นได้ว่าหมูฝรั่งคงไม่ร้องแบบนี้แน่ จัดไปเสียงร้องแบบหมูฝรั่ง: you!!! oink oink I want oink oink คนขาย ยังไม่เข้าใจอี๊ก สามีเราเลยงัดไม้ตายสุดท้าย.... ....โดยเอานิ้วชี้ขวา งัดปลายจมูกตัวเองขึ้นทำจมูกหมูพร้อมใส่เสียงเข้าไปอีกรอบกะว่าเข้าใจแน่ .....แต่ฝรั่งอิตาลี ช่างเข้าใจอะไรยากเสียจริง ยังึงไม่เข้าใจอีก สามีเราหมดปัญญา เลยเลิก ....แต่ก็ไม่เสียเที่ยวนะค่ะ เพราะได้กุนเชียงห่อหนึ่งกลับมาด้วย เพราะก่อนจะเลิกหันหลังกลับ ตาก็มองไปเห็นกุนเชียงพอดี ก็เลยเอานิ้วชี้ไปและรีบจ่ายตังค์ออกจากร้าน เพราะอายตัวเองมาก แต่ก็กลัวเมียจะว่ามากกว่าถ้ากลับมามือเปล่า คิดไปก็อายแทนนะนี่ เข้ามาเพิ่มว่าโหวตให้แล้วนะค่ะ ชอบอ่านสนุกดี คลายเครียดจากกระทู้มาม่า อิอิ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 20:57:55 จากคุณ : love me do เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 20:55:46

ความคิดเห็นที่ 15 ฮาดีค่ะ ช่วยโหวตน๊า ^ ^ มารอภาคสองของเสี่ยด้วย อิอิ จากคุณ : fantastic GiRL เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:06:05

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาฮาเสี่ยค่ะ เป็นเหมือนกันเลย อิประตูสองข้างเนี่ย ทำหน้าแหกมาแล้วเหมือนกันค่ะ 555+++ จากคุณ : ยายปลุก...มาแว้ว... เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 22:33:53

ความคิดเห็นที่ 17 ขำเสี่ย เราไปเที่ยวอิตาลี เดินผ่านกลุ่มชายหนุ่ม พวกแซวกันใหญ่เลย มิสแวย์ยูฟอร์ม ? แอมมิสไทยแลนด์!!!! จากคุณ : เขียนบน iPhone (Gabi) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 23:40:31

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านแล้วมีฟาร์มสุข และความสุขมากๆ ยิ้ม หัวเราะ  ขอบคุณทุกท่านค่ะ จากคุณ : SOYU_K เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 00:07:55

ความคิดเห็นที่ 19 เคยแอบเข้าไปอ่านในบล็อกเสี่ยสาก เรื่องนี้กะอีกเรื่องตอนถามทางที่สถานีรถไฟ ฮามาก ถึงขั้นแอบเอาไปแปะใน FB หนูต้องขอโทษที่ไม่ได้บอกเสี่ยก่อนนะคะ แฟนขับ จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 00:12:50

ความคิดเห็นที่ 20 เสี่ยอย่างฮา   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 00:21:46

ความคิดเห็นที่ 21 นึกถึงครั้งแม่ส่งไปเรียนที่อเมริกา ตอนไปถึงใหม่ๆ ภาษายังไม่แข็งแรง ที่จริงประมาณว่าห่วยสุดๆ เดินเข้าไปในลิฟท์พร้อมเพื่อนคนไทยกลุ่มนึง(ที่เค้าเก่งกว่าเรา) โดยมีลุงฝรั่งรออยู่ข้างในก่อนแล้ว แกก็ถามว่า what floor? อันนี้พอฟังเข้าใจ เลยตอบไปว่า five please. พอลิฟท์ขยับ แกก็หันมาทักทายเรา How're you doing? ในตอนนั้นไม่เข้าใจว่ามันคือคำทักทายว่าคุณเป็นอย่างไร สบายดีมั้ย ในสมองคิดแต่คำว่า doing doing ต้องเหมือนกับคำว่า What're you doing แน่ๆเลย ตอบไปอย่างมั่นใจ พร้อมเสียงอันดังว่า I'm student. ลุงฝรั่งทำหน้างง หลังจากนั้น2วินาที เพื่อนๆคนไทยทั้งลิฟท์ หัวเราะดังก๊ากเลย อายสุดๆ จำมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : Onibaku_Nueng เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 01:59:37

ความคิดเห็นที่ 22 กดโหวตให้แล้ว จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 02:47:09

ความคิดเห็นที่ 23 จริงๆมีหลายเรื่องมากแต่ขอเอาเรื่องคล้ายๆ จขกท. แล้วกันนะคะ เรื่องนี้ made in Thailand ค่ะ เลยเล่าในทู้รีวิวไปทีนึง ด้วยความขำ ปน อึดอัด 555 พูดถึงซอสมะเขือเทศวาเคยสั่ง ที่โรงแรมหรูที่นึง  สั่งสเต็กมาทาน แล้วก็ขอซอสมะเขือเทศเพิ่มเหมือนกัน วา : ขอซอสมะเขือเทศหน่อยค่ะ   พนง : ครับ  ketchup นะครับ วา : ค่ะ เอาซอสมะเขือเทศค่ะ  พนง : ครับ ketchup นะครับ วา : อ่ะค่ะ  ketchup ก็ ketchup ค่ะ (อ่อ ลืมนึกไปมันก็คือซอสมะเขือเทศนี่หว่า) พอไปทานสเต็กที่ Red Sky กลัวจะหน้าแหกเพราะมันหรูหรา  เลยจัดเต็ม สั่งเต็มยศแบบมั่นใจมากๆ วา : ขอ  ketchup หน่อยค่ะ พนง : ค่ะ ซอสมะเขือเทศนะคะ  วา : ค่ะๆ ขอซอสมะเขือเทศค่ะ  (- -")..... โลกช่างไร้ความปราณีใดใดแก่ชั้นจริงๆ ทำไมไม่หัดเรียกให้เหมือนกัน!! จากคุณ : นังนู๋วา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 07:24:32

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนผมไปเที่ยวเมืองจีน นั่งเครื่องจากหังโจว มากวางโจว แอร์ก็เสิร์ฟแฮมเบอร์เกอร์ให้ 1 ชิ้น แต่ไม่มีซอสมะเขือเทศ ผมเลยถามว่า ผม - Can I have some ketchup? แอร์ - ทำหน้าเหวอๆ ผม  - Can I have some ketchup? (ออกสำเนียงให้ดูอินเตอร์ขึ้น 55) แอร์ - ทำหน้างง ผม  - Can I have some ketchup? (ออกเสียงให้ช้าลง)   แอร์ - ทำหน้าไม่เข้าใจ ผม  - Can I have some ketchup, K-E-T-C-H-U-P? (ก็เค้าอยากได้มากกก เบอร์เกอร์หน้าตาจืดบรม กินไม่ลงแน่ๆ) แอร์  - ทวน K-E-T-C-H-U-P แล้วก็ยังไม่เข้าใจมันคืออะไรหว่า ผม  - Can I have some tomato sauce ? แอร์ - ทำหน้าเก๊ตทันที ได้มา สองซอง 5555 ต่างกรรมต่างวาระกับ จขกท. เลยครับ ******** อ้าว เพิ่งมาเห็น post เสร็จ ก็เป็นเรื่อง ketchup ต่อจากคุณวา เลยแฮะ 555+ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 07:30:37 จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 07:29:28

ความคิดเห็นที่ 25 อันนี้สมัยที่ผมไปอยู่อเมริกามา 6 เดือนครับ เป็นเรืองที่ทำผมขำที่สุดในรอบ 6 เดือนที่ผมไปอยู่มาเลยมั้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของเพื่อนสนิทผมที่ไปเรียนภาษาระดับ Beginner ที่ San Francisco ในวันแรกของโรงเรียน ด้วยความที่เพื่อนผม ชีเป็นคนคุยเก่ง และ friendly แต่ภาษาอ่อนแอไปหน่อย พอไปโรงเรียนวันแรก ก็มีสาวชาวจีนมาคุยด้วย จึงมีบทสนทนาเกิดขึ้นว่า สาวจีน - Hi, where are u from เพื่อนผม - I come from Thailand and u สาวจีน - I come China เพื่อนผม - Can you speak "Chinese Medium" ?? สาวจีน - เหวอแDก ทำหน้างงๆทันที เพื่อนผมยังกลับมาเล่าให้ฟังอีก นี่ๆแก วันนี้ชั้นไปโรงเรียนมา แล้วมีคนจีนมาคุยด้วย พอชั้นถามไปว่า Can you speak Chinese Medium  ทำไมมันไม่เข้าใจวะ??? พอจบประโยคนี้ปุ๊ป ผมกับเพื่อนอีกคน ขำกร๊ากกก ไป 5 นาที ขำจนน้ำตาเล็ดกันเป็นแถบๆ นอกจากจะใช้ภาษาผิดแล้ว การวางคำขยายชียังผิดอีก 55555+ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 07:38:08 จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 07:37:12

ความคิดเห็นที่ 26 แต่ละคนฮ่ามาก รออ่านของเพื่อนๆ ต่อนะคะ จากคุณ : บูตะ กะ กิมจิ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 07:48:11

ความคิดเห็นที่ 27 โทเมโทซอส จริงๆคือไอ้มะเขือเทศบดเน่าๆที่เอาทาแป้งพิซซ่าก่อนแต่งหน้านั่นไม่ใช่เหรอ? เคยขอแล้วได้ทีนึง กินไม่ได้เลย แหวะมาก จากคุณ : Ethanol เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 08:03:07

ความคิดเห็นที่ 28 ขำเรื่องของเสี่ยมากๆ ค่ะ นึกภาพตามออกเลย อืม...เรื่องของตัวเองทำไมจำไม่ค่อยได้หว่า >_< มีัปัญหาเรื่องภาษาเหมือนกันค่ะ แต่เป็นภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ กับภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ไม่ค่อยฮาเท่าไหร่ ^^ ตอนนั้นไอซ์เรียนอยู่อังกฤษ ไปเยี่ยมน้องชายที่เรียกอยู่อเมริกา จากสนามบินบอสตัน นั่งแท็กซี่ไปหาน้องที่หอ ((มันไม่มารับ T^T)) แท็กซี่ ((ชวนคุย)) - Why are you in Boston? ดิฉัน - Oh...I'm on holiday. แท็กซี่ - What??? ดิฉัน ((หรือว่าสำเนียงพลาด เอาใหม่ พูดช้าๆ)) - I'm on ho-li-day. แท็กซี่ - What???? ดิฉัน - ฮอลิเดย์ ฮอลี้เดย์ ฮ่อลี้เด๋ย์ ฯลฯ ((หลายสำเนียงมาก)) แท็กซี่ ((หลังจากอึ้งไปนาน พอเข้าใจแล้วก็สั่งสอนด้วยคำที่คุณพี่คิดว่าถูกต้อง)) - Oh...you're on vocation! ดิฉัน ((ตูพูดผิดตรงหนายยยย)) - -_-" มีหลายคำที่คนอเมริกันกับคนอังกฤษใช้ไม่เหมือนกันอะค่ะ มีตอนที่เพื่อนคนไทยจากอเมริกามาที่อังกฤษ แล้วไอซ์พาเที่ยว เจ้าพวกเพื่อนก็สื่อสารกับพนักงานร้านต่างๆ ในอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน อะไรจะเวอร์ขนาดน้าน พูดภาษา((เกือบ))จะเดียวกันแท้ๆ -*- แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 08:13:04 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 08:11:46

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาเก็บข้อมูลครับ จะได้ไม่ทำ..55 ปล...เรปบน น่าจะเป็น tomato paste น่ะครับ จากคุณ : เครียดไปก็เท่านั้น เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 08:13:19

ความคิดเห็นที่ 30 เนื่องจากเมืองที่เราไปเรียนเป็นเมืองเล็กๆในอเมริกา  คนใช้จักรยานไปเรียนกัน มีน้องใหม่ที่เป็นทหารมาจากเมืองไทย บังเอิญน้องทำกุญแจล็อกจักรยานหาย เลยพยายามจะเอาเลื่อยเอาล็อกออก เจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยเดินมาพอดี หน้าอย่างดุ : What are you doing?!! น้องทหารน้อย: I am fine. Thank you and you? จากคุณ : เกิดมาเพื่อเที่ยว เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 08:45:45

ความคิดเห็นที่ 31   เสี่ย...เรื่องเสี่ยเจ๋งอ่ะ อยากฟังอีก ชอบ ชอบ จากคุณ : pinkhug เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:08:05

ความคิดเห็นที่ 32 เล่าด้วยๆ คือไม่ถึงกับขำ แต่รู้สึกหน้าแตกยับค่ะ จำประโยคที่คุยจริงๆ ไม่ได้ แต่ประมาณนี้นะคะ .. ไปเมืองนอกครั้งแรก ไปอยู่โรงแรมหรูเชียว ณ เวลาอาหารเช้า น้องชายก็บอกว่า ไม่กินกาแฟ อยากได้โอวัลตินหรือโกโก้ร้อน แล้วเราก็มั่นใจมาก เฮ่ย เดี๋ยวชั้นขอให้ เรา : Hot cocoa please.. พนักงาน : (ทำหน้าฉงน) Again please.. เรา : Hot cocoa pleaseee.. พนักงาน : (หยุดไปนาน) .. อ่า Hot chocolate? เรา : อ่า เอิ่ม yes yes yes Hot chocolate, thank you. อ่า .. โกโก้ร้อน .. ก็ไม่รู้นิว่าเค้าเรียก ฮ๊อต ช็อคเคล็ท Hot chocolate ก็แปลเอาอ่ะ โกโก้ร้อน มันก็ต้อง Hot cocoa สิ จำมาจนถึงทุกวันนี้เลยแหละค่ะ >.< จากคุณ : Select Star เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:26:00

ความคิดเห็นที่ 33 ที่ญี่ปุ่น งง เรื่องร้าน 100 เยน เพราะเห็นของหลายชิ้นมันไม่ได้ 100 เยน เลยไม่แน่ใจว่า นี่เป็นร้าน 100 เยน รึป่าว ก็เลยถามพนักงาน ด้วยความมั่นใจว่า ที่นี่คือร้าน 100 เยน ใช่หรือไม่ ...... แต่คำ่ว่า 100 เยน ผมไม่ได้พูดว่า one hundred yen พนักงานก็ทำหน้างง ก็เลยถามไปอีกครั้ง ด้วยคำถามเดิม 5555+ เพื่อนได้ยินเลยเดินมาขำ .... นี่!!! ไปถามเขา 100 เยน ภาษาไทย เขาจะรู้เรื่องม๊ายยยยยยย FAIL ^ ^" จากคุณ : kito_hunsamu เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:38:40

ความคิดเห็นที่ 34 ขำ คห 30 อะ  มันเป็นเหมือนอะไรที่สอนมา   ได้ยินอะไร ........ are you doing ?  ก็ตอบเป็นอัตโนมัติเหมือนนักเรียน I'm fine thank you, and you ? ของเสียก็อ่านแล้วขำอะ  นึกภาพออกเลย  ตอนนั้นถ้าพูดภาษาอียิปต์ได้คงพูดไปแล้วมั้ง  555 จากคุณ : I_love_Somtum เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:52:02

ความคิดเห็นที่ 35 เคยเจอเหมือน จขกท เป๊ะเลยครับ ตอนเด็กๆ ไปอยู่ออสเตรเลีย ไปถึงอาทิตย์แรกๆ แมคนี่โน่น เค้าไม่มีซอสมะเขือเทศให้ (ถ้าไม่ขอ) เลยไปขอ  Tomato Sauce เค้าทำหน้างง พูดซ้ำไปซ้ำมาสามสี่รอบก็ไม่เข้าใจ เลยบอกไปว่า for eat with French fries อ่ะ ปรากฏเค้าหันไปตัก French fries มาให้เฉย เลยรีบเดินหนีออกจากร้านเลย จากคุณ : se7o1 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:01:52

ความคิดเห็นที่ 36 นึกถึงตอนไปเรียนอเมกาใหม่ๆ ไปเที่ยว Disneyland กับเพื่อน เพื่อนเรามันใส่นาฬิกา Casio Baby G แบบเรือนใหญ่ๆ มีฝรั่งชายหนุ่มตรงปรี่เข้ามาหา ไม่มองหน้า แต่มองต่ำลงมาหน่อย เพื่อนมันระแวงทันที เพราะมันเป็นคน Size บิ๊กบึ้ม แล้วฝรั่งก็ยิ้มและถามว่า "Do you have the time?" อีเพื่อนตกใจมาก นึกมาฝรั่งจะมา flirt ใส่ มาขอเวลาเวลาอะไร มันหน้างอ หันไปตอบสะบัดใส่ว่า "No, I don't have!" ฝรั่งงงมาก ชี้ที่ข้อมือมันแล้วทำหน้าเหวอ เราเลยบอกว่า เค้าถามเวลาแค่นี้ ทำไมไม่บอกอ่ะ มันก็ อ่าว...เหรอ ทำไมมันไม่ถามว่า What time is it? เหมือนเวลาที่เราเรียนมาหละ ไอ่ Do you have time? ไม่เคยเรียนวุ้ย เลยไม่รู้ว่าถามเวลาอ่ะ... ก็ได้อายกันไป ขำขำ คคห ที่ 40 >> ขอบคุณค่ะ ที่แก้ให้ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 11:08:33 จากคุณ : Cheesier เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:16:58

ความคิดเห็นที่ 37 เคยไปดูงานที่ฮ่องกงแล้ว แล้วเจ้าของบริษัทที่ติดต่อด้วยที่นั่นกำลังจะพาเราไปกินข้าวที่ Peak ชื่อโรเจอร์  ได้เจอกันบ่อยพี่โรเจอร์มาไทยครั้งสองครัง ผมก็ไปรับแกไปเที่ยวกินข้าวบ้าง พี่โรเจอร์แกก็ขับรถจากัวร์มารับพวกเราครับ  ผมก็เลยได้มีบุญตูดได้นั่งรถจากัวร์จริงๆกับเค้า ระหว่างทางก็ได้คุยเกี่ยวกับเรื่องรถที่ใช้ในฮ่องกง  ค่าที่จอดรถอะไร ไปเรื่อย ( มารู้ตอนหลังมีไกด์เล่าให้ฟังว่าที่ฮ่องกงตอนหลังเค้าห้ามไม่ให้ใช้รถกะบะกันแล้ว  เพราะว่าเคยมีเหตุของที่บรรทุกตกลงมา แล้วเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ) แต่ตามประสาที่แกกำลังจะพาเราไปกินฟรีแถมท่าจะแพงด้วย  ก็เลยต้องอวยแกหน่อย   ผม  " โอวววว  โรเจอร์  ยูรวยมากเลยนะ ที่ขับรถจากัวร์เนี๊ยะ บ้านไอถ้าใครมีรถจากัวร์แสดงว่ารวยมากๆเลย " โรเจอร์  "โอววววววววว  ไอไม่รวยหรอก  ถ้ารวย ไอต้องขับโรลสลอยด์ซิ....." ผม    "............................"     จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:35:44

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาฮา 555 เล่าบ้าง เรื่องสมัยพระเจ้าเหา ^^ ร่วม 20 ปีที่แล้ว โดนญาติผู้ใหญ่ลากไปดูงานแสดงสินค้าที่กวางเจา  ไม่ต้องถาม ภาษาจีนไม่มีกระดิก ภาษาอังกฤษไม่มีปัญหาพูดได้ ไม่กี่ประโยค อิอิ เช้าๆออกจากโรงแรมจะไปงานแสดงฯก็จะเจอคุณแม่บ้านรอเข้าไปทำห้อง แกก็จะทักทุกวัน หนีเห่ามา เราก็ยิ้มแล้วพยักหน้าตอบ  คนเดิมทุกวัน เป็นแบบนี้ทุกวัน จนผ่านไป 3-4 วัน จะเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมวันนั้น นึกสนุกปนทะเล้น วันนี้ถามแกก่อนดีกว่า เจอหน้าแกยังไม่ทันทัก ทักแกไปแบบ สบายใจไทยแลนด์ว่า หนีหมาเห่ามา  55555 ผมพูดภาษาไทยนะ แกทำหน้างง งง แล้วก็งง แล้วมองหน้าผม มองตามจนผมลงลิฟต์ ผมก็เอะใจ ลงมาถึงหน้า LOBBY รอน้ามาแล้วถามแกว่า ไอ้เจ้า หนีหมาเห่ามา เนี่ย ไปพ้องเสียงกับภาษาจีนว่าอะไร  น้าผมเลยถาม พอฟังจบแกนั่งหัวเราะ ผมก็งง เลยถามว่า คืออะไร  น้าบอกว่า ภาษาจีนเค้าออกเสียงว่า หนี่ มา เห่า มา แปลว่า คุณแม่ของคุณสบายดีมั้ย ผมก๊ากกกกกก เลย ยิ่งนึกยิ่งขำปนสงสารคุณแม่บ้าน  คุณแม่บ้านแกคงงง ไอ้ตี๋นี่รู้จักแม่ฉันได้ไงวะ จากคุณ : บูชิโด เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:42:02

ความคิดเห็นที่ 39 เรากับแฟนคน ต่างจังหวัด. พาญาติสองคนที่เพิ่งกลับจากเมืองนอก ไปเที่ยว กทม. หาของกินอร่อยๆ ไปแบบไม่ค่อยรู้ทางเท่าไร..โทรถามทางคนโน้นนี้ตลอด ขับรถวนอยู่ด้านใหนของถนนก็ไม่ทราบ ย่านนึง ที่รถติดมากกก..ติดไฟแดงยาวว.. รถแน่นน.. มอไซด์เวสป้า วิ่งเบียดเสียดด หน้าตาคนขับเวสป้าแต่ละคน ไม่ใช่คนไทย ออกแขกๆ อินเดียกันหมด ร้านค้าข้างทาง..แทบจะไม่มีภาษาไทย.... ความรู้สึก นี่เราไม่ได้อยู่ประเทศไทย...นี่มัน อินเดีย ? ปากีสถาน?..ที่นี่มัน? "จะไปกันทางใหนดี"  แฟนหมุนกระจกลง ถามคนขับเวสป้า ที่ติดไฟแดง พูดเป็นภาษาอังกฤษ แบบพยายามมาก  " เอ่อๆ Sorry..You know...Where is China town " มันจะรู้เรื่องมั๊ยว๊าเนี่ย.. คำตอบที่ได้กลับมา "ต้งไป๋..ต้งไป๋...แล่ว เหนแย่ก แล่ว ก็เลี้ยวไซ๋ๆ " เฮ่ย!..พูดไทยได้ด้วย... อ้าววววว..ก็นี่มันประเทศไทย.. 5555..ประเทศไทย..คนไทย...แต่ไปถามทางแขก......ต้งไป๋ๆ จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:42:17

ความคิดเห็นที่ 40 คคห.36 >> Do you have the time? = นี่กี่โมงแล้ว Do you have time? = คุณมีเวลาหรือเปล่า (ฉันจะชวนไปกินกาแฟ) จากคุณ : Pat :o) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:42:39

ความคิดเห็นที่ 41 ขอแจมหน่อย เคยเจอตอนไปจีน ไปปักกิ่ง ตอนนู้นนนนนนนนน  ตอนมี Blue tooth ไปปถามที่ร้านคอมพ์ว่า Blue tooth ที่เสียบ USB น่ะ เท่าไหร่ ถามเป็นภาษาอังกฤษ รวมๆ พนักงานดูเข้าใจ แต่เค้าไม่เข้าใจว่าถามถึงอะไร ถามกันอยู่ตั้งนาน ชี้ก็แล้ว อะไรก็แล้ว ทันใดนั้นเพื่อนที่ไปด้วย พูดจีนได้ ก็เดินตามมาถึง เลยถามให้เป็นภาษาจีน แล้วหันมาบอกกับเราว่า "Blue tooth เค้าไม่เข้าใจ คนจีนไม่เรียกกัน ต้องเรียกว่า ฟันสีฟ้า(ในภาษาจีน)" แล้วมันจะแปลไปทำไม ทับศัพท์ไม่ได้เรอะ?????????? จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:47:17

ความคิดเห็นที่ 42 ฮา ความคิดเห็นที่ 30 ผมฮาพวกที่ชอบ Chat กับชาวต่างชาติแล้วใช้ 5555555 แทนการหัวเราะ เค้าจะรู้กับเรามั้ยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:49:26

ความคิดเห็นที่ 43 ขอเ่ล่า้บ้างครับ โดยส่วนตัวไม่มีประสบการณ์เรื่องฮา ๆ แบบนี้ครับ แต่มีเรื่องเล่าจากเพื่อน ๆ มาเล่าให้ฟังแล้วกัน ขอรับรองเป็นเรื่องจริงครับ คนแรก พี่ชายผมเองครับ พี่ชายผมได้รับมอบหมายจากที่ทำงานให้ไปดูงานที่สิงค์โปร์ ด้วยความที่พื้นฐานพี่ชายผมเป็นคนที่ไม่แข็งแรงเรื่องภาษาเป็นอย่างมาก  (ขนาดที่ทำงานเจ้านายเค้าทิ้งโน๊ตไว้ว่า "Pls see me" พี่ชายผมยังเอากลับไปถามพี่สาวผมเลยว่าเจ้านายเขียนโน๊ตว่าอะไร)  ต่อเรื่องสิงค์โปร์ต่อ งานนี้พี่ชายผมต้องไปคนเดียวโดยมีนามบัตร 1 ใบ ให้ไปตามที่อยู่ในนามบัตร พอลงเครื่องเข้าด่านตรวจทาง ตม. ก็ให้เอกสารมากรอกปรากฎว่าพี่ชายผมกรอกได้แต่ Name-Surname ที่เหลือไม่รู้ว่าจะกรอกว่าอะไร จนคนอื่น ๆ เขาเข้าประเทศหมดแล้ว จนท. ตม. เข้ามาถามพี่ชายผมว่า "Where do you come from?" พี่ชายเลยตอบว่า "Thailand" เจ้าหน้าที่เลยปั๊มตราให้เข้าเมืองได้เลย อีกเรื่องนึงพอพี่ชายผมไปถึงที่อยู่ตามนามบัตรแล้วก็ต้องอยู่ดูงาน มีอาซิ้มเข็นน้ำมาขายประมาณว่าเป็นร้านน้ำชา พี่ชายผมอยากกินชาดำเย็น และเห็นอาซิ้มน่าจะพูดจีนได้ (ที่บ้านผมมีเชื้อสายจีน) ก็เลยไปสั่งชาดำเย็นกินบอกอาซิ้มไปว่า "แต้โอเลี้ยง" ซึ่งถ้าแปลตามตัวก็คือ ชาดำเย็น นี่แหละครับ แต่สิ่งที่อาซิ้มทำให้คือ "น้ำชาใส่น้ำส้ม" ซึ่งอาซิ้มคงได้ยินเป็น "แต้ + orange" นั่นแหละครับ จากคุณ : red_devil เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:06:31

ความคิดเห็นที่ 44 นั่งรอรถเมล์อยู่ที่สนามบินซิดนีย์ สาวๆมาดูตารางเวลา แล้วเห็นเรานั่งคอยอยู่ถามว่า How long have you been here ? เรา: About a year already, I'm studying master degree จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:18:05

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนนั่ง Taxi ที่พม่าในเมืองย่างกุ้ง อากาศร้อนจัดมาก พวกเราก็อยากจะเปิดกระจกรถ เพราะหายใจกันไม่ออก ปรากฎว่าหาที่เปิดกระจกไม่เจอ เราก็พูดกันเป็นภาษาไทย "ที่เปิดอยู่ไหนเนี่ย ของประตูหลังด้านเธอมีมั้ยอ่ะ" ก้มหากันทุกประตูก็ไม่มี คนขับคงเห็นก้มๆเงย คงเดาได้ แกก็เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักแล้วของสิ่งหนึ่งส่งมาให้ เอ่อ..มันคือมือหมุนสำหรับไขกระจก มี 1 อัน เวียนกันใช้ทุกประตูเลย หุหุ จากคุณ : Cheesier เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:19:46

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องเราเกิดในประเทศใกล้อย่างสิงคโปร์ค่ะ ปีนั้นที่ออฟฟิสมีทริปไปเที่ยวสิงคโปร์ ก็ไปแบบไม่ซื้อทัวร์ เพราะเที่ยวไม่ยากอยู่แล้ว และเรามีเพื่อนอยู่ที่นั่นด้วย หลังจากมาถึงได้ 1 คืน วันรุ่งขึ้น เราก็ให้เด็กๆไปหาเที่ยวกันเอง แล้วเราไปหาเพื่อนค่ะ วันรุ่งขึ้น เจอกันตอนกินอาหารเช้าที่โรงแรม เราก็ถามว่าไปไหนมาบ้าง คิดในใจว่าน้องๆคงไปสถานที่เที่ยวยอดฮิต ปรากฎว่าเกือบหมดกลุ่มบ่นกระจายว่าแทบไม่ได้ไปไหนเลย มัวแต่ไปเดินหาห้างอยู่ห้างหนึ่ง เพราะมีน้องในกลุ่มคนนึงบอกว่าอยากไปห้างเนี๊ยะ เพราะจะไปซื้อปกหุ้ม passport แล้วน้องคนนี้ก็จำชื่อห้างว่าชื่อ "ไซอิ๋ว" ทุกคนก็ไม่ได้เป็นอันไปเที่ยวไหน ขึ้นรถไฟลงรถเมลล์ตามหาห้างไซอิ๋วนี่ หาเท่าไรก็ไม่เจอ หานานๆเข้าก็ไม่ไหว เริ่มถามคนโน้นคนนี้ก็ไม่มีใครรู้จักห้างไซอิ๋วซ้ากราย ท้ายสุดมีฮีโร่คนนึงรู้จัก แล้วเขาก็บอกทางค่ะ ให้เด็กๆขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีนึง แล้วเดินไปนิดเดียว พอไปเห็นตึกทุกคนก็ถึงบางอ้อ ว่าทำไมถึงหากันไม่เจอ....ก็ห้างมันชื่อเซยู (Seiyu) ค่ะ ไม่ได้ชื่อไซอิ๋ว ถ้าฮีโร่คนนั้นเดาชื่อห้างไม่ออก สงสัยประชาชนกลุ่มนี้คงได้เดินหาทั้งวันแน่ ส่วนคนที่บอกว่าห้างชื่อไซอิ๋วก็โดนประนามไปตลอดทริปค่ะ ^^ จากคุณ : yhumo เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:23:13

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาชื่นชม idea ของ จขกท. ที่ตั้งกระทู้ดีดี  สร้างบรรยากาศครื้นเครงให้ห้อง BP   เหมาะสมแล้วที่ได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำจ้า   จากคุณ : sailyacht เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:45:55

ความคิดเห็นที่ 48 อีกเรื่องที่พม่าคือ เวลาบิน Domestic จะมีพี่หม่องมาคอยแย่งรับกระเป๋าของเรา เอามาให้แล้วเราก็ต้องทิป เนื่องจากเราบินหลายตุ้บ ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ พุกาม แล้วกลับมาย่างกุ้ง หลังๆให้ทิปไม่ไหว พวกเราหลายคน กระเป๋าหลายใบ พี่หม่องหลายคนยกมาคนละใบ ขอทิปทุกคน หลังๆ เลยจะพยายามไปยกเอง คือเค้าจะเอารถเข็นแบบเข็นผัก คันใหญ่ๆ ไปรับกระเป๋าเราจากเครื่อง มากองไว้ ไม่มีสายพานใดๆทั้งสิ้น เราต้องใช้ความสามารถของเราจ้องดู มองหากระเป๋าเราให้ดี แล้วพุ่งตัวไปหยิบให้ได้ ก่อนที่จะมีหม่องคนไหนมาหยิบกระเป๋าเรา ทีนี้สามีเรากับพี่สาวก็รับหน้าที่ไปเอากระเป๋า สายตาก็จับจ้องอยู่ที่รถเข็น พอเห็นกระเป๋าของพวกเรา ก็พุ่งตัวไปหยิบทันที สามีเราหยิบ ทันใดนั้นก็มีอีกคนมาหยิบ สามีเราก็คิดว่าพี่หม่องนี่ร้ายจริง ยังจะมาแย่งอีก ยื้อไปยื้อมา ปากก็ว่า "no no ... it's mine" เงยหน้ามามองอีกที เอ่อ..นี่มันพี่สาวเรานี่นา แย่งกันเองเฉยเลย.. จากคุณ : Cheesier เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:02:02

ความคิดเห็นที่ 49 หลังจากที่กินมาม่าท้องอืดมา 6 สัปดาห์ โดนกระซวกกันคนละแผลสองแผล แผลกายเดี๋ยวก็หาย แต่แผลใจคงจะยากหน่อย เก็บไว้ในใจละกัน อันนี้เป็นทริปญี่ปุ่นล่าสุดเลยครับ ... ผมกะคุณเธอออกไปตะลุย Supermarket ยามดึก เพราะเรารู้ว่ายิ่งดึกๆ ของยิ่งชอบ Sale อาหารการกินราคาถูกๆๆ ทั้งหลาย อันดับแรกเรื่องรูดบัตรเครดิต เราก็สงสัยว่าร้านนี้รับบัตรหรือเปล่า ... พอใช้คำว่า Credit Card แคชเชียร์ถึงกับงงเลย ... ผมก็เลยรีบควักบัตรพลาสติกรูดปรี๊ดๆส่วนตัวออกมา แล้วจิ้มไปที่โลโก้ VISA แกก็นึกออก พยักหน้าๆ ว่ารับๆๆ บาง Supermarket ก็จะมีการติดสติกเกอร์ลดราคา พร้อมกับพนักงานยืนประกาศ(เป็นภาษาญี่ปุ่น) ว่ากำลังลดราคาแล้วจ้าๆๆๆๆ (ไอ่เราก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ ได้แต่เดาเอา) เห็นซูชิเซ็ทลดราคาแล้วน้ำลายไหลครับ .... ยืนกระดิกหางอยู่ตรงแถวๆ นั้น เขาก็เดินติดเรื่อยๆ ผมก็ยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน เพราะคิดว่านาจะถูกได้อีก ตอนนี้ลด 30% แล้ว รอดูว่าเค้าจะติดสติีกเกอร์ลด 40% เมื่อไหร่ คุณพนักงานคนนั้นยืนคุมเกมส์อยู่ เห็นผมเดินไม่ไปไหน ก็ทำท่าไม่สนใจ เราก็ภาวนาว่าติดซะทีๆๆ อยากกลับแล้ว พนักงานคนนั้น ได้แต่ยิ้ม แล้วก็ประกาศไปเรื่อยๆ (ผมรู้สึกว่าเวลาเค้าทำงานมีความรู้สึกเหมือนเค้าเป็นเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์จริงๆ ทำงานตามโปรแกรมเป๊ะ) ไอ่ผมก็รอไปเกือบครึ่งชั่วโมง คุณเธอช๊อปไปรอบ Supermarket ตุนเสบียงมาได้ครบแล้ว เธอบอกว่า ถ้าหล่อนยังจะรออยู่ชั้นจะกลับก่อนละนะรอไม่ไหว และไม่คุ้มค่ารอ .... แฮ่ๆๆๆ และก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง(อีกที่หนึ่ง) ที่เราก็ช๊อปปิ้งเอาของใส่ตะกร้ามากมาย ด้วยความที่ตะกร้าหนักมาก ผมก็เลยหามุมเหมาะๆ ที่ไม่เกะกะใครวางของ แล้วก็เดินไปเลือกของเอาของมาใส่ตะกร้า ปรากฎว่า เราก็ใส่ของไปเรื่อยๆ ราวๆ 20 นาที ตะกร้าหายไปทั้งตะกร้าเลยครับ !! ยังไม่ทันได้จ่ายเงินเลย !! เราสองคนเดินตามหาตะกร้าของของเราทั่ง Supermarket (ขนาดเท่าๆ กับตลาดโลตัส)ก็หาไม่เจอ ผมก็เลยคิดว่าไปหยิบตะกร้าใหม่มาก็ได้ ... ผ่านช่องแคชเชียร์ เจออีลุงกำลังเอาของจากตะกร้าผม(ที่หายไป) ออกมาแยกแล้วเอาไปเก็บไว้ พอผมแสดงตนเป็นเจ้าของตะกร้า ก็เลยโดนอีลุงจัดหนักเป็นภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่รู้เรื่อง แต่รู้ว่าเค้ากำลังด่าเราแน่ๆ ว่าทำงี้ได้ไง บลาๆๆๆๆๆ เอ่อ วัฒนธรรมไม่เหมือนกันแฮะ แต่แกด่าเสร็จ แกก็หันกลับไปเอาของที่เราเลือก ใส่กลับตะกร้าให้ดังเดิม แต่เสียดาย ... ข้าวราดแกงกะหรี่ 158 เยนโดนคนอื่นซัดโบ๊บไปแล้ว เหอๆๆ ตาไวกันจริงๆ หนุกหนานดีครับ เรื่องหลายๆ ท่านสนุกดี คลายเครียดครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:28:39

ความคิดเห็นที่ 50 ขำทั้งมุขซอสมะเขือเทศ กับโกโก้ร้อนค่ะ เพราะโดนมาเหมือนกัน อยู่ต่างบ้านต่างเมืองหน้าแตกเป็นเรื่องสนุก แต่พอบ้านเรา ดูเหมือนเราเป็นคนละชนชั้น พูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทย กลายเป็นเรื่องตลกร้าย T_T ห้างเซ็นทรัล เราออกเสียงว่าเซนทั่ล บางคนบอก เซน - ทรั่อลล จากคุณ : auntie newS เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:29:16

ความคิดเห็นที่ 51 หลายปีก่อน ไปเขมรกับเพื่อน ไปทานร้านอาหารแห่งหนึ่ง จะขอแก้วเค้า ก็พูดภาษาอังกฤษว่า Can I have a glass please? พนักงานเสิร์ฟเขมรฟังไม่เข้าใจ พูดหลายครั้ง glassๆ ก็ไม่เข้าใจ ทำท่ายกแก้วขึ้นดื่มก็ไม่เข้าใจ จนปัญญาเลยหันไปคุยกะเพื่อนว่า ทำไงดี เค้าไม่เข้าใจคำว่า แก้ว เท่านั้นแหละ พนง บรรลุเลย พูดเสียงดัง อ้อ แก้วๆ แล้ววิ่งไปหยิบแก้วมาให้ใบนึง กลับมาที่โรงแรมเปิดทีวีดู ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเค้าฟังออก เพราะนั่งดูละครไทยในทีวีเหมือนๆ พวกเรานี่เอง จากคุณ : Rurujung เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:29:29

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องของน้าสาวผู้น่ารัก อายุอานามก็ปาเข้าไป 50กว่าๆ แกชอบบบบบบบไปคาสิโนมากกก ตามประสาสาวใหญ่ตัวคนเดียว ความฝันแกคือ  อยากไปเวกัส  เพราะเล่นแถวมาเก๊า สิงคโปร์มาบ่อยแล้ว อยู่มาวันนึงสามีเราซึ่งเป็นอเมริกัน  ถามน้าสาวเราว่า ได้ข่าวว่าอยากไปเวกัสเหรอ น้าเราเค้าก็ตอบด้วยความภูมิใจ " Yesssss I'd love to go to Vegas and play Cabaret" สามีเราก็ทำหน้าบอกไม่ถูก  งงqว่าทำไมน้าสาวเราถึงอยากไปเต้นคาบาเรต์ แต่ก็ตอบไปอย่างสุภาพว่า "Good for you! I hope you enjoy it" พอตอนหลังสามีมาถามเราหัวเราะจนปวดท้อง เพราะน้าเราเค้าหมายถึงบาคาราต์ Baccarat  เกมไพ่ในคาสิโนชนิดหนึ่ง  แต่ดันไปตอบเป็นคาบาเร่ต์   สามีเรานึกว่าน้าอายุ 50กว่าฝันจะไปเต้นโชว์ที่เวกัสอ่ะ จากคุณ : factorygirl เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:32:01

ความคิดเห็นที่ 53 พาลูกค้า พิเศษ ท่านนึง ไปดำน้ำ แบบ สกินไดร์ฟ  ที่เกาะ พีพี หน้ามาหยา ลูกค้าพิเศษ มาก เป็น ลูกท่าน  ผู้ใหญ่ ท่านนึง เป็น สตรี อายุราว 21 ปี พอไปถึงจุดโอเค ผมก็สอนการใช่ แว่นการหายใจ ในท่อ ซึ่งเธอใหม่มาก ไม่เคยเลยแต่อยากลอง พอ ลงน้ำปั๊บ ผมให้เธอเทส ด้วยการ ให้ดำลงไป เพื่อลองดูว่าน้ำเข้าแว่นไหม ? เธอพุ่งขึ้นมา หน้าซีด แล้วก็พูดไม่เป็นภาษา แล้วเกาะผมแน่นมาก "ในระหว่างที่กำลัง ประมวลเหตุการ์ณ ว่าอะไร เกิดอะไรขึ้น " ในกรณีแบบนี้ มันหมายความว่า ใต้น้ำที่เธอดำลงไป ต้องมี "สักอย่างนึง"  ไม่ งู ก็ ฉลาม หรือไม่ก็ อะไรสักอยาก แล้วละ ซวยละ ผมคิดในใจ  แม้มีประสพการ์ณ แต่ถ้าเป็นอะไรที่น่ากลัว ก็ ไม่อยากเจอหรอกนะ พอได้สติ ผมก็ ถาม น้องเขาว่า "เป็นอะไร เมื่อกี้ลงไปเจออะไร ? " "เจอปลาค่ะพี่ น่ากลัวมาก ให้หนูขึ้นเถอะค่ะ" เดี๋ยวๆๆ  ปลาอะไรครับ (ฉลาม ฉนาก กระเบน อะไรหว่า ?)   "ไม่รู้ปลาอะไร ค่ะ แต่หนูเป็นโรคกลัวปลา " ปลาทุกชนิดเหรอครับ ? ค่ะ แล้วมาดำน้ำ ทำไมครับ ? ( งงมาก งงสุดๆ) ถ้าไม่ลองดำ กลับไปก็ โม้กับเพื่อนไม่ได้ น่ะสิ หนูไม่เอาละ พี่บรรยายมาละกัน หนูจะได้จำไปเล่า หนูขึ้นละ น่ากลัว -อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก-  แบบนี้ก็มีในโลก   "กลัวปลาทุกชนิด แต่อยากดำน้ำ " จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 13:37:47

ความคิดเห็นที่ 54 - เราสั่งพายแอ๊ปเพิ้ล 1 อัน ที่ร้านMC  พนักงานบอกไม่มีพายแอ๊ปเพิ้ล มีแต่พายสัปรด กับพายข้าวโพด คิคิ -ไปเล่นน้ำกับแฟน คนไทยสองคนนินทาเผาขน "ดูดิเธอ ผู้ชายข๊าวขาว ผู้หญิงโครตดำเลย"น้ำเสียงส่ะใจมาก  เรานึกในใจนี่เค้าคิดว่าตรูเป็นนิโกลป่าวฟร่ะ 5555 ฮาป่ะเรานึกทีไรฮาทุกที -พูดกับแฟน คุยกันไม่รู้เรื่อง เราบอกว่าเราชอบหนังเรื่อง อมาเกดอน เราก็ออกเสียงตามที่คนไทยพูด ปรากฏว่าเค้าไม่เข้าใจ เห้ยถึงจะออกเสียงผิดแต่มันยากที่จะเดาขนาดนั้นเลยหรอ เราก็ลองพูดแล้วพูดอีกก็ยังไม่เข้าใจ อธิบายตัวแสดง แกเลยรู้หัวเราะกลิ้งเลย น่าขำตรงไหนฟร่ะ วันนั้นเลยไม่ทำกับข้าวให้กิน สมโมโห ไม่เกทเลย (เรื่องประเภทนี้เกิดทุกวัน) -ไปเที่ยวชายหาด ฝนตก มีรุ้งกินน้ำ แฟนเราชี้ให้ดู เราบอกเห้ยๆอย่าชี้ๆๆ กลับไปห้องเอานิ้วไปจิ้มก้นเลยนะ แฟนหัวเราะเกือบตาย -ตอนทำงานร้านอาหาร เอาน้ำล้างมือมาให้แขกตอนกินเสร็จ แต่ทั้งหมดยกซดซ่ะเรียบแถมบอกว่าอร่อย แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 13:45:31 จากคุณ : สาวลพบุรี เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 13:42:59

ความคิดเห็นที่ 55 ขอเล่ามั่งค่ะ   แต่เป็นเรื่องของแฟนเราค่ะ  เขาไปเที่ยงฮ่องกงกะเพื่อนๆ  เราไม่ได้ไป   เหตุการณ์คือลงลิฟต์โรงแรมที่พักมากะเพื่อน  แล้วลิฟต์ก็จอดอีกชั้น  มีผู้หญิงอย่างสวยก้าวเข้ามา 1 คน  แฟนเรามันก็พูดขึ้นมาท่ามกลางเพื่อนๆ ว่า  แม่ng   ผู้หญิง here อะไรวะ  สวย here ๆ เลยว่ะ   แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้หันมามองแต่อย่างใด ครั้นพอลิฟต์ถึงชั้น 1 ทุกคนก็เดินออกจากลิฟต์  ผู้หญิงคนนั้นเดินนำหน้า  มุงหน้าไปหาเพื่อนอีกกลุ่มที่ยืนรออยู่  พวกแฟนเราก็เดินตามหลังมา  ผู้หญิงคนนั้นคุยกะเพื่อนๆ ของเขาเป็นภาษไทยค่ะ สรุป  เธอคือคนไทย   แฟนเรางี้รีบเดินหนีเลยค่ะ  แบบว่าอายมากๆ     ******ขออภัยนะคะ  ถ้าไม่สุภาพ จากคุณ : liww14 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 13:48:55

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องของเราเกิดที่สิงคโปร์ค่ะ แถวๆ ย่านเกลัง โรงแรมฟราแกรนซ์ ซัฟไฟร์ นั่นแหละค่ะ เรากับแฟนไปถึงวันแรกยังไม่รู้จะกินอะไรกันดี ก็เลยเดินมาปากซอย เลยร้านวัตสันไปเจอร้านข้าวแกงที่มีคุณลุงอาแปะขายอยู่ เวลาสั่งเรากับแฟนก็ชี้ๆ ค่ะ เอาอันนั้น อันนี้กี่อย่างก็ชูนิ้วไป แปะก็เข้าใจ ทีนี้ความฮามันเกิดขึ้นตอนคิดเงินค่ะ เราก็ถามไปว่า How much? แปะตอบว่า "เซ็กซ์โดนแล้ว" เรากับแฟน ห่ะ! again pls แปะก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเซ็กซ์โดนแล้ว สรุป แปะยกนิ้วมา 6 นิ้ว แล้วบอก เซ็กซ์โดนแล้วๆ 55555 ที่แท้ "ซิกซ์ ดอลล่าห์" นั่นเอง 55555555555555555555 จากคุณ : iczii colly เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 14:39:59

ความคิดเห็นที่ 57 ตอนไปเวิร์ค ทำงานอยู่สวนสนุก แบ่งชื่อโซนเป็นชื่อประเทศต่างๆค่ะ มีฝรั่งมาถามว่าไอ้เครื่องเล่นยอดฮิตอยู่โซนไหน เราตอบไปว่าโซนอิ-ตา-ลี่  แบบที่คนไทยพูดอ่ะ แต่ฝรั่งฟังไม่ออกค่าาา!!! เลยลองเปลี่ยนสำเนียง ฝรั่งฟังอยู่นาน สุดท้ายฝรั่งพูดว่า "โอ้วววว......อิ๊ท-ทะ-ลี่" แง้....จำจนตายเลย จากคุณ : Avalanche เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:00:23

ความคิดเห็นที่ 58 ของเราเกิดเรื่องที่ตม.จีนค่ะ ณ สนามบินเซียงไฮ้ กำลังต่อแถวยาวมากๆ ไปกับเพื่อนอีก2คน เรายืนห่างจากเพื่อนๆมาหน่อย เพราะมัวแต่หาพาสปอร์ต เลยไปจีนติดกับคู่ผัวเมียคนจีน ซักพักได้ยินเสียง "ปรู๊ดดดดดดดด!!!!!" ดังมากกกก ประนึ่งว่าจะมีชิ้นเนื้อตามมาด้วย เรารู้แน่ๆล่ะว่ามาจากตาผัวคนจีนชัวร์ เพราะลมร้อนมันมากระทบแขนเราเบาๆ แต่อีกผัวเมียคู่นี้หันมามองเราเต็มที่ ประมาณว่าเธอนี่แหระตดดัง คนนี่มองเรากันทั้งตม.เลย อายแทบแทรกแผ่นดินใหญ่หนี ลุงนะลุง ตดใส่แขนแล้วยังมาโยนความผิดให้อีก จากคุณ : เสียสวย เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:07:18

ความคิดเห็นที่ 59 อ่าน คห ที่ 30 แล้วจินตนาการไปด้วย ถึงกับหงายเงิบ 555 จากคุณ : Chompuly เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:22:38

ความคิดเห็นที่ 60 ฮา คห.6 จัดไป 3 กีบ... จากคุณ : หัวโตแก้มลายกนก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:32:58

ความคิดเห็นที่ 61 ไปเที่ยวซานฟราน เพื่อนพาไปตลาดจีนเพื่อซื้อของมาทำกินกัน เพื่อน(เดินชนคุณป้าคนจีนคนหนึ่ง) : I 'm sorry. ป้า(สวนทันควัน) : No. thank you. ==' จากคุณ : jasssilp เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:43:31

ความคิดเห็นที่ 62 เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานมากเกือบ 20 ปีแล้วครับ นึกถึงทีไรก็หัวเราะทุกที เคยไปทัวร์อังกฤษตอนอายุ 15-16 ปี ที่อังกฤษตอนนั้นเวลาเราเดินจากห้องที่พักในโรงแรม ลงมาทานอาหารเช้า จะไม่มีคูปองอาหารเช้าแต่จะต้องบอกเบอร์ห้องกับพนักงาน เนื่องจากภาษาอังกฤษผมในตอนนั้นได้เกรดไม่เกิน 2 มาตลอดในโรงเรียนรัฐบาลธรรมดาๆ ดังนั้นเวลาจะทำอะไรก็เกาะติดพ่อกับแม่ตลอด พอถึงเวลาเคราะห์หามยามร้าย ดันเข้าห้องน้ำนานพ่อกับแม่ลงมาก่อนแล้ว ผมเลยถูกปล่อยเดี่ยว ที่เค้าเตอร์ห้องอาหาร สาวอังกฤษ: What is your room number? กระเหรี่ยงไทย: ที ที เอิ๊ก (ห้อง 338) สาวอังกฤษ:Pardon กระเหรี่ยงไทย:ที ที เอิ๊ก สาวอังกฤษ:Whattttttttttttt กระเหรี่ยงไทย:เอาปากกาเขียนลงฝ่ามือผม 338 สาวอังกฤษ:ok ถึงตอนนี้ผมใช้มือไม้ช่วยเต็มที่ เพื่อจะถามว่าเค้าได้ยินผมพูดว่าอะไร สาวอังฤษยิ้ม ยื่นมือเธอมาจับมือผม แล้วเขียนรูป...................ต้นไม้สองต้นกับไข่ 1 ใบบนฝ่ายมือผม จากคุณ : oh wow เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:45:30

ความคิดเห็นที่ 63 จำได้แต่เรื่องเล่าเรื่องตัวเอง -_-! จำไม่ค่อยได้ จำได้แต่เค้าเล่าว่ามีสาวไทยนางหนึ่งภาษาไม่ค่อยแข็งแรงไปเที่ยวผับ ฝรั่งเข้ามาจีบแล้วถามว่า ฝรั่ง:What do you live? สาวไทย: I live near for separate... ฝรั่ง:...??? ฟังเค้าเล่าเราก้อ งง อะไร(ฟระ)โฟร์เซพเพอร์เรท เพื่อนบอกว่า... . . . . . . . สี่แยกงั๊ยยยยยยยยยยย -_-! อ่ออออ จากคุณ : patj เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:49:34

ความคิดเห็นที่ 64 ฉิปหายละ......  อ่านแต่ละกระทู้ ตีนกาขึ้นเต็มหน้าเลย  555 ปล.ฮาเสียมากเลยค่ะ 5555 จากคุณ : nuch9981 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 15:50:41

ความคิดเห็นที่ 65 รุ่นพี่ผมไปเทรนเมืองนอก ห้องอาหารที่โรงแรมมันอยู่ชั้นสอง พอแกทานอาหารเสร็จ แกก็เดินลงมาเจอเพื่อนที่เทรนด้วยกันเป็นฝรั่ง เค้าก็ถามแกว่า ห้องอาหารอยู่ไหน แกก็ตอบไปเลย 1 ก็ one , 2 ก็ two อ่อ two floor two floor เพื่อนฝรั่งก็ขอบใจใหญ่เลย แล้วก็ขึ้นไปโน่นเลย อีกสองชั้น - -" จากคุณ : phinixer เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:10:44

ความคิดเห็นที่ 66 ชอบกระทู้อย่างนี้มากค่ะ จัดโหวตไปก่อนหนึ่งดอกก่อนจะขอเล่าบ้าง! เรื่องของเราเกิดที่ร้านหนังสือในโซลค่ะ เราแว้บเข้าห้องน้ำก่อนจะออกมาเดินหาหนังสือ ระหว่างเดินเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายเรียกชอกีโยๆ ทีแรกไม่แน่ใจว่าเป็นตัวเอง แต่ได้ยินเขาีเรียกไม่หยุดสักทีเลยหันไปมองทางต้นเสียง อั๊งงงงง เจ้าของเสียงนั้นเป็นหนุ่มน้อยน่ารักกำลังนั่งขัดสมาธิพิงหลังกับชั้นหนังสือค่ะ พอเห็นเราหันไปทำหน้าเหรอหราว่าเรียกฉันเหรอ หนุ่มน้อยก็รัวภาษาเกาหลีใส่เป็นชุด พร้อมกับชี้ไม้ชี้มือที่รองเท้าเรา เราก็ทำหน้าเหวอใส่เขา (ฉันฟังเธอออกแค่ชอกีโยจ้ะ TTvTT) สงสัยว่า หา? รองเท้าบูทฉันทำไม? อยากรู้ว่าซื้อที่ไหนเหรอ? (คิดอย่างนั้นจริงๆ นะ-กร๊ากกก) เขาเห็นเราทำหน้าฟังไม่ออกก็ทำหน้า อ๋อ คุณคนนี้ไม่ใช่เกาหลีแหงๆ แล้วก็ลุกขึ้นเดินมาหาเราค่ะ (กรี๊ดดดดด เดินมาหาทำม้ายยย ใจเต้นนะรู้มั้ยยย) หนุ่มน้อยชี้ที่ส้นรองเท้าเรา เรายกเท้าขึ้น และพบว่า... มีกระดาษทิชชูติดส้นรองเท้าอยู่แผ่นนึงยาวๆ =[]=!? ชิบเป๋ง ติดมาจากห้องน้ำแหงๆ กรี๊ดดดดดดดดดด อายยยยยยยยยย เรารีบดึงกระดาษออก บอกขอบคุณหนุ่มน้อย แล้วก็เดินหนีไปอีกฝั่งร้านโดยไม่ย้อนกลับไปหาหนังสือฝั่งนั้นอีกเลยค่ะ ฮือออออ ณ จุดนั้นอายมาก คิดถึงทีไรก็เขิน และเสียดาย (?) ฮาาาาา จากคุณ : จามะริด เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:16:08

ความคิดเห็นที่ 67 เราเคยไปเวริคแล้วไปทำสวนสนุกที่มีแบ่งโซนเป็นประเทศ (อิตาลี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ...) ที่เดียวกันกับคห.ที่ 57 ป่าวหว่า ^_^ เรื่องเกิดขึ้นคือเราไปทำงานพิเศษที่ร้านอาหาร แล้วก็ไปรู้จักฝรั่งคนนึง คุยๆไปคุยมา เค้าเห็นว่าเราเป็นคริสก็เลยจะพาไปดูโบสถ์ที่นั่น แล้วเค้าจะมารับ ที่เราพักอยู่ชื่อว่า International Housing Village ก็พยายามจะบอกเค้าไป เรา : อินเตอร์เนชั่นแนล เฮ้าส์ซิ่ง วิลเลจ (ก็พยายามพูดไป สำเนียงพอประมาณไม่ถึงกับแย่) ฝรั่ง : Where?? เรา : อินเตอร์เนชั่นแนล เฮ้าส์ซิ่ง วิลเลจ (ลองอีกครั้งซักครั้ง สำเนียงเราก็ไม่ถึงกับแย่นี่นา เมืองนี้ก็เมืองเล็กๆนะ น่าจะรู้จักสิ) ฝรั่ง : Where?? เรา : ไม่บอกชื่อก็ได้พยายามอธิบายที่ตั้ง !@#!@*&$%# อธิบายกันอยู่นาน ก็ยังไม่เข้าใจ(นานมากกก)     จนสุดท้ายหยิบกระดาษขึ้นมาวาดแผนที่ ฝรั่ง : Oh I Know. International Housing " V " illage. เท่านั้นล่ะถึงบางอ้อเลย ตัว V ตัวเดียวออกเสียงไม่ถูกคุยกันอยู่เป็นสิบนาที (- -") จำขึ้นใจจนถึงทุกวันนี้เลยคร้าบบ ปล.กระทู้นี้อ่านแล้วผ่อนคลายมากๆเลย จากคุณ : SupeR-NinJa!! เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:19:21

ความคิดเห็นที่ 68 เป็นเหมือนกันค่ะ ไอ้ลิฟท์ทูเวย์นี่ เข้าไปหลังสุดก็ยืนหันหน้าเข้าประตู ลิฟท์จอดประตูไม่เปิด รอตั้งนาน หันดูคนอื่น ทำไมเค้าเงียบกันจัง ไม่มีใครสงสัยอะไรเลยเหรอ อ้าววว ออกกันไปหมดแล้วไม่สะกิดกันมั่งเลย แงๆๆๆ จากคุณ : beermania เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:26:39

ความคิดเห็นที่ 69 French fries and chips ไปฝึกงานถึงเมือง Leed ที่  UK วันธรรดมา กินอาหารที่โรงแรมที่พัก กับที่ทำงาน วันเสาร์ออกตะลุยเมือง Leed ตั้งแต่เช้า พอตอนเที่ยง แวะเข้า Mc ซึ่งผมเคยเข้า Mc มาหลายประเทศแล้ว แถบๆ บ้านเรา ก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ดันมาติดอยู่ที่  Mc ใน Leed นี่แหละ สั่งเบอเกอร์ กับ French fries แต่ตอนทวนรายการอาหารเพื่อจะจ่ายเงิน เด็กรับออเดอร์ บอกเป็น เบอเกอร์ กับ chips ซึ่งเข้าก็เข้าใจถูกแล้ว แต่เรา : No..No..No Chips , French fries please เด็กรับออเดอร์ : yes, Chips เรา : No, French fries งัดกันอยู่พักใหญ่ จนรายการอาหารจัดเสร็จ มาวางอยู่ตรงหน้าเรา เราเลยรีบชี้ไป ที่  French fries พร้อมกับย้ำว่า " French fries" เด็กรับออเดอร์ เขาก็ไม่ยอม  ชี้มาเหมือนกันแล้วย้ำว่า "Chips" เท่านั้นแหละ ต่างคนต่างฮ่า....... จากคุณ : kim008 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:44:14

ความคิดเห็นที่ 70 ขอแจมด้วยเดี่ยวโน้ต 9.5 จ้า ต๊อด ไม่ทราบว่ารับเครื่องดื่มอะไรดีคร้าบ หญิงสาว ขอ Ice tea ต๊อด ไอซ์ทีจะรับเป็นร้อน หรือ เย็นดีคร้าบ อึ้งไปเลย อิ อิ จากคุณ : boontarika เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:51:11

ความคิดเห็นที่ 71 กระทู้แบบนี้เพลินมากมาย ชอบค่า 555555555 กลับมาอีกรอบ นึกได้อีกเรื่อง ตอนไปฮ่องกงกับแกงค์ลูกหมู ----------------------------------------------------------- เข้าไปร้านอาหารร้านนึง สั่งอาหารเรียบร้อย เค้าก็เอาน้ำอุ่น มาเสริฟให้ 3 คน 3 แก้ว หน้าตาเหมือน ชา ที่เสริฟคู่กับ กาแฟโบราณบ้านเรา พอวางปุ๊บ ด้วยอากาศเย็นๆตอนนั้น เห็นน้ำอุ่นๆมาเสริฟ ก็ ปลื้มใจ ยกซดอย่างมีความสุข พลางพูดว่า  เออดีเนอะ อากาศแบบนี้ เสริฟชาร้อนให้ด้วยดีจัง ซักพักมีคนฮ่องกงคน มานั่งโต๊ะข้างๆ เค้าสั่งอาหารเสร็จ ก็ได้น้ำชาอุ่นๆนี่เหมือนกัน พอแก้ววางบนโต๊ะปุ๊บ สิ่งที่เค้าทำคือ เอาช้อน จุ่มลงไป แกว่งๆ ล้างช้อน แล้วเอาขึ้นมาวาง รออาหารมาเสริฟ !!!!?????!!!!!! เราก็ตกตะลึง จ้องเค้าตาค้างเลย เค้าก็คง งงๆ ว่าทำไมแก้วของอิโต๊ะฝั่งนี้ น้ำมับยุบลงไปด้วยอ่ะ   เมื่อกี้ ตูทำอะไรลงป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ตกลงเค้าเอาไว้ล้างช้อน หรือ กินได้ กันแน่ แต่ที่แน่ๆ .. อายมากกก  จากคุณ : นังนู๋วา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:53:16

ความคิดเห็นที่ 72 ดีใจจังเลยทำให้เพื่อนๆชอบ และได้ขึ้นโหวตแล้ว ต้องขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านเลยนะคะ ที่แบ่งปันเรื่องราว มาสร้างรอยยิ้มให้เพื่อนๆ ได้  รออ่านต่อค่ะ กิ๊ฟหมดแล้ว ขอโทษ คคห หลังๆด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 17:13:24 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 17:02:46 จากคุณ : + มะนาวหวาน + เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 17:02:08

ความคิดเห็นที่ 73 ตอนฝึกงานอยู่โรงแรม เราเป็นพนักงานเสริฟค่ะ ลูกค้า (เป็นอาม่า) : May I have เหาะ เวาะ เรา :  pardon ลูกค้า : เหาะ เวาะ ๆๆ (พูดซ้ำๆ ) เราเลยเรียกซุปให้เดินมาฟังให้ ปรากฎว่าคือ Hot Water ค่ะ TT ************************** ตอนฝึกงานอีกเหมือนกัน ลูกค้าฝรั่ง ชาย วัยรุ่น เดินเข้ามาในห้องอาหาร ทำท่าเหมือนจะถามอะไรสักอย่าง เรารีบเดินไปแสดงความช่วยเหลือ : May I have you ? ลูกค้าอึ้ง มองหน้าเรา.... เราพอนึกได้ว่าพูดผิด เรารีบบอกว่า Sorry ๆ แล้วรีบวิ่งหนีไปหาเพื่อนให้เพื่อนไปคุยแทนค่ะอายมาก จากคุณ : ปลาวัวตัวอวบอัด เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 17:10:11

ความคิดเห็นที่ 74 อื้ม...นึกออกอีกเรื่องค่ะ ตอนนั้นไปเรียนที่อังกฤษใหม่ๆ ไปเรียนภาษาค่ะ มีเพื่อนสาวคนหนึ่ง ((จำชาติไม่ได้แล้วอะ)) เธอจะออกเสียงคำว่า Excuse me ว่า Kiss me อะค่ะ มีครั้งหนึ่ง เธอจะขอให้หนุ่มอังกฤษหลีกทางให้ เธอก็บอกเขาว่า "Excuse me." เขาตอบว่า... "No, thank you." ^^" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:34:39

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบอกค่ะ เป็นกระทู้ที่เปลืองกิฟท์มากๆๆๆๆค่ะ เหนื่อยมากด้วย ยิ่งอ่านยิ่งเหนื่อย ไม่ไหวแล้วนะ งานนี้เป็นความผิดของจขกท.แต่ผู้เดียวเลยค่ะ จากคุณ : RATANAPORN@chon เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:36:39

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาเพื่อที่จะบอกว่า.... อยากให้มีกระทู้แบบนี้ ..ทุกวัน... :-) จากคุณ : กระปุก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:52:36

ความคิดเห็นที่ 77 ผมไปมาเลเซีย จะขอน้ำปลา fish sauce ขอหลายครั้งเลิก ยอมกินจืดๆ จากคุณ : Sofus เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:53:53

ความคิดเห็นที่ 78 นั่งอ่านบนรถไฟใต้ดิน เค้าคงจะว่าเราบ้า นั่งหัวเราะคนเดียว แต่แบบ ขำอ่ะ จากคุณ : nuengcpe เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:02:26

ความคิดเห็นที่ 79 ฮา เสี่ยศักดามาก 555555 จากคุณ : inizz เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:18:14

ความคิดเห็นที่ 80 ครับผม ส่วนเรื่องดราม่าขอไปนึกก่อนนะครับ จากคุณ : จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:21:44

ความคิดเห็นที่ 81 แวะเวียนเข้ามาเก็บตก  อ่านเพิ่มเติมอีกรอบนึง   อยากแจก give ให้กระจายอีกหลายๆๆๆๆ  คห. เล๊ยย... แต่หมดเรียบเล๊ยยย...   งั้นแจก //จุ๊บ//จุ๊บ  แทนน๊าาา...   ว่างว่างจะแวะมาอ่านอีก  อยากให้ติดกระทู้แนะนำไปเรื่อยๆๆๆๆๆ  เล๊ยยย.... จากคุณ : sailyacht เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:22:53

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณทุกท่านที่เอาความฮามาแบ่งปันนะคะ แต่กิ๊ฟหมดตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ^ ^" จากคุณ : น้องงัว (น้องงัว) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:17:28

ความคิดเห็นที่ 83 ทริปญี่ปุ่นครั้งแรก ของครอบครัว เมื่อสงกรานต์อาทิตย์ที่ผ่านมา พ่อ แม่ ลูกสาว 9 ขวบ การอาบน้ำ แบบอองเซ็น ทีแรก ก็เถียงกันกับแฟน เรา     "วันนี้ชั้นขอไม่อาบน้ำดีกว่า อายตายห่..ใครจะไปกล้า" ยัยลูก "ถ้าแม่ไม่ไปงั้นหนูไปคนเดียวหนะ" เจ๊นี้เค้าชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น อยากจะมาแช่มาก พ่อ  " ไปอาบเถอะ ไม่มีใครเค้าแก้หมดหรอก เค้าก็จะไปอาบไม่แก้ร่อก" ลูก " ป่ะป๊า แต่ในรูปภาพ เค้ามีกากบาทสีแดงคนที่ใส่กางเกงน่ะ" พ่อ "เอ่อ ไปเหอะ ไม่ต้องแก้ร่อก" เราก็ เอ๊า ! ไปก็ไปวะ ถ้าไม่อาบ เดี๋ยว อิพ่อลูกมันกะแนะกะแหนแน่ ว่าแม่ตัวเหม็นไม่อาบน้ำอยู่คนเดียว พอไปถึงห้องอาบน้ำ สรุปเราก็ต้องถอดหมด แต่เรารอจนคนที่อาบอยู่ข้างในขึ้นจนหมด นั่งอาบน้ำล้างตัวที่เก้าอี้เล็กๆ กะลูกสาวที่ดี๊ด๊า อยากแช่มาก หลังจากนั้นเราก็ลงไปแช่ก่อน ทีแรกก็ร้อนสักพักก็อุ่นสบายดี.. เรา " มันร้อนนะลูก ค่อยๆ เอาเท้าแช่ลงมาก่อน" ยัยลูกพอเอาเท้าแตะลงไปครั้งแรก ร้องดัง "โอ๊ย ๆ ร้อน ๆๆๆๆ....โอย ร้อนๆๆๆ ร้อนแท้ๆๆ" ดูเดี่ยวโน๊ตมากเกินไป "ร้อนแท้เหลาๆ" ทำยังไงก็ไม่ยอมลง จนพักนึงรุ้สึกจะมีคนอีกกลุ่มเข้ามาเรารีบขึ้น ลูกไม่ยอมขึ้นขอลองใหม่ หนสุดท้าย เธอก็ไม่ได้แช่ ทนร้อนไม่ไหว.. เจอหน้าแฟนที่ห้องพัก เป็นไงตัวเอง ตกลงแก้ปะ แฟน "แหะๆ หมดเปลือกๆ เลย" ...5555.... จากคุณ : มินจุน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:24:05

ความคิดเห็นที่ 84 เคยเรียกแท็กซี่ไปแถวสนามหลวง บอกพี่คนขับขึ้นทางด่วนลงยมราช แต่ปากเร็วกว่าสมอง บอกไปว่า ลงยมโลก ดีที่เจอคนขับฮา จากคุณ : ตัวเล็กแต่กินจุ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:34:10

ความคิดเห็นที่ 85 ขำมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ ท่านนะคะ ที่นำรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมาฝาก จากคุณ : finaldevil เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:39:03 A:223.207.13.109 X: TicketID:193636

ความคิดเห็นที่ 86 นานมากแล้วล่ะ..สมัยวัยรุ่น เพื่อนทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียว ตกเย็นหิวข้าวเลยออกไปกะว่าจะหาอะไรกินง่ายๆที่ไม่ต้องสั่งให้ยุ่งยาก ภาษาก็งูๆปลาๆ เข้าไปในKFC สั่งไก่ทอดอย่างมั่นใจ พร้อมกับชี้ไปที่รูปที่มีหมายเลขกำกับ กะว่าง่ายๆแค่นี้ก็จบ แต่ไม่รู้ว่ามันมีแบบต้นตำหรับและแบบกรอบ พนักนักงานก็ถามอยู่หลายหนว่า Do you wan't original or Crispy? ผมฟังไม่รู้เรื่องจับใจความได้เพียงตอนท้าย เลยตอบไปว่า I wan't ปี้ๆ!!  พนักงานถึงไปจัดมาให้กว่าจะได้กินเล่นเอาเหงื่อแตกทีเดียว จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:56:18

ความคิดเห็นที่ 87 เสี่ยศักดิ์ ^^ ขำอ่ะ จากคุณ : prettyfit เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:23:56

ความคิดเห็นที่ 88 ยังไล่อ่านไม่หมด แต่ส่วนมากจะฮากันเพราะเรื่องการสื่อสาร ของตัวเองกะเพื่อนๆก็มีเรื่องฮาทุกทริปที่ไป มีอยู่รอบที่สิงคโปร์ นั่งแท็กซี่จะไปตึกซันเทค ทีนี้ คนขับก็ถามจะลงตรงไหน เพื่อนก็บอก คาร์ฟูร์ แกก็ทำท่ามึนๆ บอกไปว่าตรง fountain ก็ยังคงมึนกันต่อไป สุดท้ายเพื่อนงัดไม้ตาย ประโยคเด็ดออกมา จนเรากะรุ่นน้องอีกคนหัวเราะลั่นรถ เพื่อนบอกขนขับว่า "water พิ้วๆ" พร้อมทำท่าน้ำพุ่งประกอบ ที่สิงคโปร์เหมือนกัน แต่คนละรอบ อันนี้ไม่ฮาเท่าไร แต่ขำกันเอง ตอนขึ้นแท็กซี่กลับโรงแรม เพราะว่าเมื่อย + ของเยอะ ก็นั่งเม้ากะน้องสาวเพื่อนเป็นภาษาไทยลั่น คนขับหันมาถามคนไทยเหรอ แถมชวนคุยภาษาไทยซะงั้น ได้ความว่าลุงได้เมียไทยเป็นคนเชียงใหม่ มาไทยทุกปี เหอๆๆ .... มีอยู่หนไปปักกิ่ง ไปหาเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นู่น ระหว่างรอเพื่อนมาหาที่ห้อง เพิ่งเชคอินเข้าไป เพื่อนที่ไปด้วยกันก็จัดแจงขอหมอนเพิ่มจากแม่บ้านทันที แถมพ่วงด้วยขอจัดเตียงชิดกันได้ไหม แต่.... แม่บ้านที่โรงแรม ภาษาอังกฤษไม่กระดิกเลย - -" เพื่อนพยายามสื่อสารกะแม่บ้านมาก เราเลยจัดให้ด้วยภาษาสากลโลก "ภาษามือ" เดินไปหยิบหมอนมาให้แม่บ้านดูเท่านั้นแหละ เกททันที แถมบอกให้แม่บ้านขยับเตียงให้ได้ด้วย เมื่อเราทำท่าเอามือมาชิดกันแล้วชี้ไปที่เตียง เท่านั้นแหละ แม่บ้านก็ถึงบางอ้อ ขยับเตียงชิดกันให้ทันที ที่ปักกิ่งรอบเดียวกันนี่แหละ ตอนที่ไปอากาศยังเย็นอยู่ อุณหภูมิเลขตัวเดียว น้ำในทะเลสาปยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย แถมก่อนไปไม่กี่วันหิมะเพิ่งตกไป 3 สาวเดินเข้า สตาร์บั๊ค แต่ละนางสั่งเครื่องดื่มดีมาก ทุกอย่างที่สั่งไปเป็นของเย็นทั้งหมด เพื่อนที่เรียนอยู่ที่นั่นสั่งกาแฟเย็น(มั้ง จำได้แค่ว่ากินเย็น) ของเราชอคแลตปั่น เพือนอีกคนก็ชอคแลตปั่น พนักงานขายคงคิดว่าอิหมวย 3 คนนี้สั่งผิดสั่งถูก ตอนทีพูดเป็นภาษาจีน (เพื่อนที่พูดน่ะ เรียนมาหลายปีแล้ว ) มีการย้ำว่า ปั่นน่ะ มันใส่น้ำแข็งนะ รับทราบค่าคุณพนักงาน ถึงอากาศจะหนาว แต่สาวจากเมืองไทยก็บ่ยั่น ขอให้ได้กินน้ำแข็งเหอะ ทั้งหมดพยักหน้าหงึกๆ ว่าน้ำแข็งน่ะแหละที่คือสิ่งที่ปรารถนา (เพื่อนหันมากระซิบบอก ที่จริงแล้วอีก 2 คนน่ะใบ้รับทาน ฟังไม่ออก ได้ยินแต่ ปิงๆ น้ำแข็งๆ แต่ที่เหลือพูดไรมาไม่รู้) .... ทุกครั้งที่ไปเที่ยวกะเพื่อน ต้องมีเรื่องให้ฮาได้ตลอด แต่จำได้มั่ง ไม่ได้มั่ง ไม่รู้ว่าคนไปมันโก๊ะ หรือว่ามีแต่ตัวฮาไปด้วยกัน นั่งขำ นั่งหัวเราะกันได้ตลอด + + + อ่านของคนอื่นแล้วเพิ่งนึกได้อีกเรื่อง เหตุเกิดที่ฮ่องกง ตอนนั้นไปกะเพื่อนแล้วก็น้องสาวเพื่อน ทางเข้าโณงแรมจะเป็นประตูกระจกแบบหมุนๆ เข้าออกมา 3-4 วันไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่าน เข้ากันคนละช่องมาโดยตลอด แต่เช้าวันจะกลับ พอดีเพื่อนเดินเข้าไปก่อน ไอ้เราก็เห็นว่าเข้าทัน แถมที่เหลือก็เลยรีบมุดเข้าไปด้วย แต่สักพักก็รู้สึกว่าโดนดันหลัง แล้วประตูกระจกก็หยุดหมุนทันที - -" เจ้าน้องสาวเพื่อนดันพรวดเข้ามาอีกคน เพื่อนหันมาถามเราว่าเข้ามาทำไม เราก็เลยตอบไปว่าเห็นมันโล่งแถมน่าจะเข้ามาทัน แล้วก็หันไปถามน้องสาวเพื่อน รายนั้นก็ตอบมาเหมือนที่เราตอบเืพ่อน สรุป 3 สาวทำประตูติดแหง่ก ดีนะค่อยๆเดินเบียดกันเข้ามาจนประตูพอหมุนจนถึงทางออกได้ แต่ขายหน้านี่ดิ ฟร้อนต์กะเบลบอย ยืนหัวเราะคิกๆกันสนุกสนาน อายนะนั่น - -" ดีนะเป็นวันสุดท้ายจะหนีกลับไทยแล้ว แต่ละคนตัวไม่ใช่เล็ก ดันเข้าไปอยู่ช่องเดียวกันได้ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 22:42:02 จากคุณ : หมีปุ๊ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:29:48

ความคิดเห็นที่ 89 นึกได้เรื่องนึง..แระ... ย้อนเวลากลับไปซักยี่สิปกว่าปีก่อน(อัยย่ะ...เฉลยฟามแก่ตัวเองซะงั้น) สมัยนั้นไปเที่ยวทัวร์จีนสมัยยังไม่เปิดประเทศดีชนิดยังมีเงินสองสกุลอยู่เลย มีอยู่วัน...ทัวร์พาไปกินอาหารเย็นที่ภัตาคาร ก็ กินๆๆๆๆกัน จนมาถึงจานสุดท้ายพนักงานสาวสวยยกชามใส่น้ำเอามาวางบนโต๊ะ... คนในโต๊ะไม่พูดไม่จาด้าวยความมั่นใจ...ผลัดกันเอามือจุ่มลงไปเพราะเข้าใจว่า... เค้าให้เอามาล้างมือ -_-" ล้างมือกันเสร็จสรรพ นังหนูที่ยกน้ำออกมาเมื่อตะกี้ออกมารอบสองพร้อมกับจาน บรรจุไปด้วยแอปเปิ้ลหั่นเป็นชิ้นๆราดน้ำตาลเชื่อมเหลวๆร้อนๆแบบ Caramel มาเลย วางแปะแล้วก็บอกว่า...ให้จิ้มแอปเปิ้ลไปจุ่มในน้ำ(น้ำตาลก็จะแข็งเป็น Toffee เคลือบแอปเปิ้ล) พลางก็ชิ้ไปไอ้ชามเจ้ากรรมที่เพิ่งล้างมือกันเสร็จ เลิ่กลั่นฮากันทั้งโต๊ะ...โดยเฉพาะอาแปะ อาเจ็กที่นำทีมล้างมือ เป็นของหวานที่น่าจดจำมวากกกกกกกกกกก... จากคุณ : patj เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:41:57

ความคิดเห็นที่ 90 เรื่องนี้เคยเล่าไปรอบนึงนานมาแล้ว สมัยทำงานโรงแรมใหม่ๆ นั่งหน้า Front กับเพื่อนในกะเดียวกันอีกคน เราทั้งคู่ก็นั่งในเคาน์เตอร์ดูทีวีจอยักษ์ที่เปิดไว้ที่ Lobby  พอดีมีแขกฝรั่งวัยรุ่นเดินเข้ามาบังจอพอดี คุณเพื่อนชีก็บ่นๆแบบมีเสียงขึ้นมา "ฝรั่งนี่มาบังกูอีก ขยับไปหน่อยก็ไม่ได้ อีนี่นี่" ฝรั่งหันหน้ากลับมาแล้วก็ตอบกลับมาเป็นภาษาไทยว่า "เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะครับ" สำเนียงไทยชัดเจนมากๆ คุณเพื่อนหน้าจ๋อยไปเลย 55555+ จากคุณ : nickyblood เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:59:59

ความคิดเห็นที่ 91 เล่าบ้าง ... เหตุเกิดในสปีดโบ้ทพาดำน้ำแถว ๆ ภูเก็ต ไปจอยกรุ๊ปทัวร์เอา ทั้งลำเป็นต่างชาติหมดยกเว้นเรากะเพื่อน ๆ อีกสองคนที่เป็นคนไทยเท่านั้นเอง ด้วยความไม่ตั้งใจ ผู้หญิงต่างชาติคนหนึ่งทำกระเป๋ากระแทกใส่หัวเรา เค้าก็รีบขอโทษทันที "Sorry!" ไอ้เราด้วยความที่ท่องมาเป๊ะตั้งแต่ประถมยันปัจจุบันว่า "ไม่เป็นไร" น่ะมีอยู่หลายคำ เลือกใช้ตามอัธยาศัย (- -") ก็เลยโพล่งออกไปว่า "That's ok." ผู้หญิงต่างชาติคนนั้นเดินหน้างง ๆ กลับไปแก๊งค์ของเค้าแล้วก็ฮากระจัดกระจาย ว่าคนไทยคนนี้มันอยากเจ็บตัว - -" ตอนนั้นเนี่ย อ๊ายอายจริง ๆ นอกจากอายต่างชาติแล้วยังอายเพื่อนอีกแน่ะ T^T ปล. ที่ถูก ควรใช้คำว่า Never mind นะคะ (บอกเผื่อไว้ แหะๆ) จากคุณ : :D keigo :D เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:05:09

ความคิดเห็นที่ 92 นึกขึ้นได้อีกเรื่องนึง ตอนนั้นเป็นคนไทยคนเีดียวนั่งรถบัสจากข้าวสารจะไปวังเวียง ตอนเช้าตรู่รถมาจอดที่ร้านอาหารริมโขงแห่งนึงในหนองคาย เพื่อให้ผู้โดยสารทานอาหารเช้าและแจกใบตม.ให้เขียนเพื่อข้ามด่าน ระหว่างยืนแจกใบตม. ผู้โดยสารก็มายืนมุงๆกันเพื่อมารับในตม.สำหรับชาวต่างชาติ สักพักน้อง Staff เค้าเห็นผมแล้วก็นึกขึ้นได้ "เออ...พี่เป็นคนไทยนี่ เดี๋ยวผมไปเอาของคนไทยมาให้ ขอ Passport ด้วยครับ" ระหว่างที่ผมหยิบ Passport ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ "อุปกรณ์ซองสีแดงสด" เจ้ากรรมที่หมกอยู่ในนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็กระเด็นออกมากลางวงที่เค้ายืนมุงกันอยู่นั่นแหละ ด้วยความตกใจ ก็เลยยื่นเท้าไปกลางวง เพื่อเหยียบ"อุปกรณ์ซองสีแดงสด"ที่ตกอยู่โดยทันที ฝรั่งที่เห็นของที่ตกไม่ทันก็หันไปถามเพื่อนของเขาทันที "What?" (เมื่อกี้อะไรวะ) แล้วก็มีคนตอบว่า "Condom" (ถุงยางไงเมิง) ทั้งฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ต่างก็มองอมยิ้มคิกคักกันทั้งวง อืม...แล้วเราก็ต้องนั่งรถคันเดียวกันไปอีกหลายชั่วโมงด้วย T_T แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 23:35:50 จากคุณ : nickyblood เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:34:32

ความคิดเห็นที่ 93 ไม่รู้เอาแม่มาเผาไหม สมัยก่อนแม่ทำทัวร์ แล้วแกก็เป็นคนพูดเก่ง ทำทัวร์จีน แต่วันนึงต้องรับแขกสิงคโปร์ ซึ่งพูดจีนกันไม่ค่อยได้ แม่จะบอกเค้าว่า เดี๋ยวเราจะไปต่อที่สวนสามพราน สวนจระเข้ แต่แม่บอกว่า we will go coconut farm, very dangerous.... เราคนขับรถ หัวเราะตัวงอ ไม่กล้าออกเสียง กลัวแม่อาย ลูกทัวร์ก็แสนน่ารัก บอกเหรอ ๆ อันตรายไงหล่ะ แล้วแม่เราไปต่อไม่ถูกละ เลยโบ๊ยมาหาเรา เราก็เลยบอก อ้อ it should be crocodile farm not coconut farm เท่านั้นหล่ะ ความฮาดังสนั่นลั่นรถเลยค่ะ จากคุณ : atmayday เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:12:19

ความคิดเห็นที่ 94 มีอีกเรื่อง เพื่อนสนิทเค้าเป็นผู้ชาย ไปเรียนที่นิวซีแลนด์ ภาษาอังกฤษ งู ๆ ปลา ๆ มาก เค้าเล่าผ่าน MSN ให้ฟังว่า เค้าอยู่กะ family ที่ทางสถาบันจัดให้ วันนั้น เค้าเจออุบัติเหตุรถชนกัน เค้าก็อยากเล่าให้พวกเค้าฟัง ก็เริ่มเลย one car come, one car go..... two car กระเด็น จากคุณ : atmayday เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:15:14

ความคิดเห็นที่ 95 เข้ามาฮา ค่ะ ^^ ตอนนี้ยังนึกเรื่องน่าอายของตัวเองไม่ออก (เอาไว้นึกออกแล้วจะขอคิดอีกทีว่าจะกล้าเล่ามั้ย ) ขอบคุณทุกๆ ประสบการณ์ที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะก่อนนอนนะคะ ^^ จากคุณ : หน่อย (tuarlek) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:19:28

ความคิดเห็นที่ 96 ไปแมคกับเพื่อนสนิทชาวไต้หวันที่ออสเตรเลีย ช่วงกำลังรอรถไฟ อยากหาอะไรกินเล่นค่ะ เพื่อนสาวเข้าไป order ว่า เพื่อน: Can I have medium fried rice? Cashier: I'm sorry? แล้วทำหน้างง เพื่อน: Can I have medium fried rice? พร้อมกับชี้ไปที่รูปข้างบน แล้วบอก that one, that one! เรางี้ขำก๊ากเลย ละถามว่า what fried rice? Did u mean french fries? เพื่อนบอก Yes yes แล้วขำจนหน้าแดง Cashier ก็อมยิ้มตาม คงไม่กล้าหัวเราะ แต่เรากับเพื่อนหัวเราะท้องแข็งเลย ยังล้อกันต่ออีกหลายปี 555+ จากคุณ : *Stolen Kiss* เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:26:22

ความคิดเห็นที่ 97 ขอเล่าบ้างครับ ตอนไปแอฟริกาใต้ ก็แวะที่เคปทาวน์แถววอเตอร์ฟร้อนท์เพื่อช็อปปิ้ง ผมก็ด้วยความที่ว่ากลัวที่บ้านจะเป็นห่วงเพราะเดินทางยาวนานนั่งจนก้นกบยุบ ก็รีบขอแยกตัวจากกลุ่มใหญ่ออกมากะเพื่อนเพื่อมาหาซื้อซิมการ์ดโทรกลับเมืิองไทย ไอ้ผมกับเพื่อนก็ด้วยความที่ว่ากลัวสำเนียงไม่ได้ก็เอาซิมของเมืองไทยออกมาประกอบ การถามตามร้านค้าและคนแถวนั้น คนแรก: .......... you can pay คนที่สอง: ......... you can pay คนที่ สาม สี่ ........you can pay ผมกับเพื่อนก็บ่นกัน (ขออนุญาตใช้คำไม่เหมาะสมนิดนึงนะครับเพื่ออรรถรส) พูดอะไรของมันกันฟะ ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ฟังออกแต่ you can pay กรูรู้แล้วว่ากรูจ่ายได้ กรูก็อยากจะจ่ายจะตายอยู่แล้ว แต่ฟังพวกมรึงม่ายออก ไอ้ ...... นั่น ฟังไม่รู้เรื่องเลย พี่ๆลองนึกถึงผิวสีคนนึง ที่เล่นตลกก่อนบ่ายช่อง3 บ้านเรา คนที่ชอบพูดรัวๆเร็วๆ แบบนั้นเลยครับ สรุปนั่งพักกินอาหารไทยในฟู้ดคอร์ท ก็ได้พี่คนไทยที่เค้ามาทำงานที่ร้านนี้ช่วยบอกทางไปซื้อ แล้วอธิบายว่า you can pay คือประมาณ คุณหาซื้อได้ที่นั่นนะ จากคุณ : js เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 02:34:01 A:124.120.220.165 X: TicketID:331441

ความคิดเห็นที่ 98 ความคิดเห็นที่ 42     ฮา ความคิดเห็นที่ 30 ผมฮาพวกที่ชอบ Chat กับชาวต่างชาติแล้วใช้ 5555555 แทนการหัวเราะ เค้าจะรู้กับเรามั้ยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : tottui .............................................................................................................. อ่านถึงตรงนี้ขอตอบก่อน ฝรั่งเดี๋ยวนี้รู้ค่ะว่า 5555555 เนี่ยคืออะไร ไม่ใช่เพียงแค่ฝรั่งนะคะ ลามไปถึงเอเชียด้วยกัน จีน ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลฯ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ รู้หมดค่ะว่า 5555555 นี้คือ hahahahaha นี่แหละ คนไทยแชทกับต่างชาติก็ใช้ 555555จนพวกต่างชาตินี่แหละไปสรรหาที่มากันเองทั้งนั้น (แล้วบอกต่อกันวงกว้างด้วย) มีเรื่องฮาเกี่้ยวกับ 555555555 ของเรานี่แหละ คือเราดีลงานกับลูกค้าทางอีเมล์แล้วเราเผลอพิมพ์ 5555555 ไป เขาตอบกลับมาว่า "Good job!! you come from 5555555land" เราก็เหวอสิ นั่นเราเผลอพิมพ์ไป คุณลูกค้าดันเล่นมุขตาม แล้วเขาขยายความต่อด้วยว่า ตอนนี้กลุ่มของพวกเขาเรียกประเทสไทยว่า 555555555land กันหมดแล้ว เราก็นึก เออ!!~ ดีเนอะ น่ารักไปอีกแบบ ประมาณว่าฮากันทั้งประเทศ เข้าคอนเซพท์สยามเมืองยิ้มจริงๆเลย เราว่า 5555555555 ของคนไทยในห้องแช็ทรูมนี่แหละ เป็นยูนีคมากๆ เป็นด้านบวกนะคะ และ 55555555 ก็เป็นที่ยอมรับสู่สากลแล้ว 555555555 ปล. แต่เราชอบพิมพ์ ๕๕๕๕๕๕๕๕ อ่ะ เคยได้หลังไมค์จากใครสักคนในนี้แหละว่า ทำไมต้องพิมพ์เลขไทย เราก็ตอบเขาไปว่า ก็เราอนุรักษ์ไทยไง คนไทยก็ใช้เลขไทย (แทต่ที่ไหนได้ที่ต้องพิมพ์เลขไทยเพราะขี้เกียจกดเปลี่ยนฟ้อนท์ไปๆมาๆ กดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากลายเป็นภาษาต่างดาวคุยกันไม่รู้เรื่องอีก ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕) จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 07:33:28

ความคิดเห็นที่ 99 สอนเพื่อนฝรั่งที่ทำงานพูดคำว่ากล้วย แต่เค้าพูดแล้วกลายเป็นคำว่ากล้วยแบบอื่นค่ะ อิอิ จากคุณ : lingdom เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 08:16:19

ความคิดเห็นที่ 100 ขอเล่าด้วยคนค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเด็กและจำฝังใจมาจนทุกวันนี้   กาลครั้งหนั่งเมื่อครั้งยังเด็ก ไปตลาดกิมหยง ตลาดของฝากอันเลื่องชื่อของหาดใหญ่เป็นครั้งแรก ลงจากรถสองแถวเจอผลไม้ใต้และมาเลย์มากมายเรียงรายอยู่ตามแผงข้างทาง เดินไปเดินมาสายตาไปสะดุดผลไม้ชนิดนึงที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต เลยถามแม่ค้าว่า   "พี่ๆ นี่ลูกอะไรคะ"    "ลูกไหน" แม่ค้าก้มหน้าก้มตาตอบกลับมา เราก็เอ๊ะ    "ลูกนี้ค่ะพี่" คราวนี้ชี้ด้วยเพื่อไม่ให้พลาด แต่แม่ค้าก็ยังก้มหน้าก้มตาจัดผลไม้ในแผงต่อ แล้วตอบ     "ลูกไหนน้อง" คราวนี้เริ่มปรี๊ดๆแล้วค่ะ ก็มือชี้อยู่เนี่ย ยังจะมาถามอีกว่าลูกไหน    " พี่คะ ลูกที่หนูชี้อยู่เนี่ยค่ะ มันคือลูกอะไรคะ" คราวนี้แม่ค้าเงยหน้ามอง พร้อมสายตาแบบว่าอะไรของแกนักเนี่ย    " ก็อิลูกที่น้องชี้อยู่เนี่ย มันชื่อว่า"ลูกไหน" ชัดเจนมั้ย" โอย อายก็อาย กลัวโดนแม่ค้าตบก็กลัว รีบขอบคุณค่ะ แล้วเดินหนีออกมาอย่างไว แห่ะๆ...เพิ่งรู้ว่าในโลกนี้มีผลไม่ชื่อว่าลูกไหนอยู่ด้วย ...แม่เจ้า...อายและฮาที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ จากคุณ : LadyRyder เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 08:35:00

ความคิดเห็นที่ 101 ซื้อบุหรี่ที่สิงคโปร์ครับ ปกติจะพกไปด้วยตลอด แต่คราวนั้นต้องอยู่หลายวัน ราคาไม่รู้ ไม่ได้ดูเพราะไม่เคยซื้อ เลยจ่ายแบบ ปลอดภัยไว้ก่อน คือจ่ายไป 10 SGD (ประมาณ 240 บาท) พนักงานมองหน้าผมอยู่นาน จนผมเริ่มโมโห เลยถามไปว่า ผม: What is taking so long? พนง: It's 12 and you paid only 10 ใครจะไปรู้หล่ะ บุหรี่ที่โน่นแพงมาก จากคุณ : Special Force เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 09:25:57

ความคิดเห็นที่ 102 จากคุณ : next to you เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 09:37:51