|
อันนี้"ตอบตามใจหัวข้อกระทู้"ของเจ้าของกระทู้นะครับ
ถ้าไป 4 วัน 3 คืน อยู่แต่โฮจิมินห์ ก็ทำได้ครับ รายการก็ประมาณนี้เลย...
วันที่ 1 (ไม่ว่าจะถึงเช้าหรือเย็น คงไม่ทันไปเที่ยวทัวร์แล้วล่ะ) ถ้าถึงเช้า ก็นั่งรถสนามบินสาย 152 ราคา 4,000 ดองต่อคน แต่ถ้ามาเย็น และออกมาไม่ทันรถสาย 152 เที่ยวสุดท้าย ก็คงแท็กซี่ลูกเดียว (ให้หาแท็กซี่ยี่ห้อ Vinasun นะครับ เพราะไม่ใช่รถแท็กซี่มิเตอร์ติดเทอร์โบ "โกงได้โกงดี" เจ้านี้มิเตอร์เค้าขึ้นทีละ 3600 ดองตามปกติ) ไปถึงฟามงูเหลา ก็หาที่พัก วอค์กอินเอาจะดีกว่า (เพราะถูกกว่าหน้าเว็บ) แล้วจองทัวร์เที่ยวไว้ก่อน เลือก แม่โขง Mekong Delta แบบ 2 วันไปเลย (วันแรกไปเที่ยวแม่โขง วันที่ 2 ไปเที่ยวตลาดน้ำ) นอนค้างคืนแรกที่โฮจิมินห์ อาหารเย็นมื้อแรก อย่าลืมไปร้าน Quan 94 ตรงถนน Dinh Tien Hong ด้วยล่ะ ไปกินเฝอใส่ปู (เนื้อปูนี่ให้แบบว่า ญาติสนิทถูกหวยทำกับข้าวแจก ยังอาย) ราคา 60,000 ดองครับ ตามด้วยกุ้งซอสมะขาม (อันนี้ก็อร่อยแบบไม่เกรงใจใคร ถ้าไปคนเดียว ขอให้เขาทำชุดเล็กได้ เยอะไป กินไม่หมด แพงด้วย) ปูนิ่มชุบแป้งทอด ก็อร่อยใช้ได้ (ให้เขาทำแบบ 2-3 ตัวก็ได้ เดี๋ยวเยอะไป) ห้ามพลาดร้าน Quan 94 นะครับ อ้อ เกือบลืม มีอยู่ 2 ร้านที่เหมือนกัน แถมเปิดใกล้ๆกัน ให้เลือกร้านที่อยู่ใกล้สี่แยกนะ (แต่การเดินทางไปนั้น ร้านนี้อยู่ไกลมาก ต้องนั่งแท็กซี่ไป แต่ถ้าอยากนั่งรถเมล์ไปก็ได้ สาย 19 ไง แต่จะไม่วิ่งผ่านถนนเส้นนี้นะครับ มันจะเลี้ยวไปอีกทางก่อน ซึ่งถ้าเกิดคนไม่เคยไปแถวนั้น จะงงแน่นอน แนะนำว่า ให้นั่งแท็กซี่ไปดีกว่า เลือกแท็กซี่ยี่ห้อ Vinasun เหมือนเดิม จากฟามงูเหลาไป ค่ารถไม่เกิน 7 หมื่นดองครับ) กินเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งรีบกลับจากละแวกนั้น ให้เดินขึ้นมา (ไม่ใช่เดินไปทางสี่แยกนะครับ ให้เดินไปอีกทางนึง) จะเจอชาวบ้านจอดมอเตอร์ไซค์นั่งเก้าอี้เตี้ยติดพื้นเป็นทิวแถวยาวเฟื้อย กินไอติม น้ำผลไม้ปั่น หรือเบียร์ ได้ฟีลมากๆ ผมถูกใจบรรยากาศจริงๆ (แอบโรแมนติกอีกต่างหาก มันต้องแบบนี้แหละ) น้ำผลไม้ปั่นก็ราคา 2 หมื่นดองครับ (ซื้อทั่วไปตามร้านตอนกลางวันก็ 1 หมื่นดองครับ) แล้วก็กลับมาเดินเล่นหรือซื้อของติดมือที่ตลาดเบนถันต่อ อย่าลืมไปฝ่าด่านอรหันต์ข้ามถนนตรงวงเวียนด้วย แล้วคุณจะรู้ว่า คนข้ามถนน ถ้า"ใจกล้าไปก่อน ใจอ่อนไปทีหลัง"มันเป็นเช่นไร
วันที่ 2 ไปเที่ยวทัวร์แม่น้ำโขง ค้างโรงแรมที่ทัวร์จัดให้ (ถ้าไปเดี่ยว จะคิดเพิ่มนิดนึงเพราะเรานอนในห้องคนเดียว) อ้อ ทัวร์วันแรก ต้องทำใจเรื่องรสชาติผลไม้ตอนทัวร์เค้าพาไปที่สวนผลไม้นะครับ เพราะรสชาติผลไม้ที่เวียดนามอย่าให้เซดเลยครับ ผิดหวังอย่างแรง โดยเฉพาะแตงโมเนี่ย กินมันแกวบ้านเรายังหวานฉ่ำคอกว่าเลย น้ำก็ไม่ชุ่ม แห้งๆแล้งๆ ผลไม้อื่นก็รสชาติธรรมดาบ้างแย่บ้าง (แต่ถือว่า ไปหาประสบการณ์ชีวิตครับ ชมท้องไร่ท้องสวนในเวียดนามดูละกัน) ที่ชอบก็คือ ล่องเรือในคลองต้นจากครับ ได้ฟีลธรรมชาติทีเดียว ส่วนซุ้มขนมที่ทำจากมะพร้าว ก็งั้นๆ เที่ยวประเทศไทยเวิร์คกว่าครับ (ไปจ้างเรือเข้าสวนมะพร้าวตรงตลาดน้ำท่าคาดูชาวบ้านทำน้ำตาลมะพร้าว ธรรมชาติกว่าเยอะครับ) แต่ตอนล่องเรือชมแม่น้ำโขง อันนี้โอเค ยอมรับว่า แม่น้ำโขงที่เวียดนามอลังการงานสร้างจริงๆ ส่วนอาหารเที่ยงที่เลี้ยงบนเกาะเต่า เฉยๆนะ (ถามทัวร์ด้วยว่า เมนูไหนฟรี เมนูไหนเสียตังค์ แต่น้ำดื่มเสียตังค์แน่นอน)
วันที่ 3 ไปเที่ยวตลาดน้ำแต่เช้าในวันที่ 2 ของโปรแกรมทัวร์ เพลิดเพลินกว่าเยอะ (เช็คกับทัวร์ก่อนนะครับว่า โปรแกรมการเดินทางใช่แบบนี้หรือเปล่า) เราไปดูสีสันของชาวบ้านเค้าขายผลหมากรากไม้กันดีกว่า (โปรแกรมนี้ แนะนำให้ไปแบบ 2 วัน ถ้าไป Floating Market แบบวันเดียว พอไปถึง ตลาดน้ำก็วายแล้วครับเพราะเสียเวลานั่งรถออกจากเมืองโฮจิมินห์อีก ควรนอนใกล้ๆแล้วออกแต่ไก่โห่ไปตลาดน้ำเลย จะสวย) กลับมา ก็น่าจะ 5 โมงเย็นได้มั้ง แล้วจองทัวร์ Night Life ไปดูโชว์หุ่นกระบอก นั่งรถซิโคล แล้วจบด้วยการล่องเรือกินอาหาร (ผมว่า บรรยากาศล่องเรือเฉยๆนะ แต่ถือว่า เปลี่ยนบรรยากาศไปละกัน เสริมความแปลกใหม่ให้ชีวิต)
วันที่ 4 (หวังว่า คงกลับเย็นนะ ถ้าใช่ ก็ตามโปรแกรมนี้) จองทัวร์ล่วงหน้าไปมุดอุโมงค์กุจิ ก่อนมุดอุโมงค์ ตรงนั้นเค้ามีให้ลองหัดยิงปืนด้วย สนุกดี แต่เสียงดังมาก ถ้าใครคิดว่า เปลืองตังค์ ไปดูนักท่องเที่ยวยิงปืนตรงสนามซ้อมเฉยๆก็ได้ เพราะกระสุนนัดนึง แพงอยู่นะ มี 2 แบบคือ กระสุนราคา 2 หมื่นดองต่อนัดและกระสุนราคา 3 หมื่น 5 พันดองต่อนัด แถมบังคับซื้อที่ 10 นัดขึ้นไปต่อการยิ่ง 1 ครั้งด้วย) แต่เสียงปืนดังมาก (อุดหูด้วยล่ะที่ตอนไปยิงหรือตอนไปดูชาวบ้านยิงที่สนาม) ส่วนไฮไลต์ก็อยู่ตรงมุดอุโมงนี่แหละ บางคนกลัวความแคบกับความมืด ก็ออกมาก่อน เพราะยิ่งเดิน ทางมันยิ่งแคบลงหน่อยนึง (คือพอดีตัว แต่ผมตัวเล็กครับ เลยสบายหน่อย) และทางเหมือนจะลึกลงไปเรื่อยๆ แต่ก็มีทางออกในที่สุด ถ้าคุณเริ่มกลัวตรงไหน จะมีทางให้ออกอยู่เป็นระยะครับ ยกเว้นช่วงสุดท้าย ยิงยาวเลย อ้อ มุดเข้าไปแล้ว ไม่มีการถอยหลังกลับนะครับ ห้ามปอดแหก ถ้าคิดว่า ชัวร์ ก็โลดดด... กลับจากทัวร์ประมาณบ่ายสอง จริงๆยังมีเวลาอยู่อีกนิด อยากเดินไปลองขนมข้างทางร้านคุณป้าตรงซอยตัดระหว่างถนน Nguyen Du กับถนน Nguyen Thi Dieu หน่อย กินกันแบบนั่งยองๆล้อมร้านป้าริมถนนที่รถวิ่งเฉี่ยวได้เลย (ดีนะที่ไม่ใช่ถนนใหญ่แบบรถสิบล้อวิ่งผ่านได้ แต่ถ้าใครรับไม่ได้กับสภาพร้าน ก็ไม่เป็นไรนะครับ แต่ผมว่า น่ารักดีอะ) อาหารร้านป้าแกก็ประมาณบัวลอย ปลากริมไข่เต่า และผลไม้ใส่ถ้วยราดน้ำเชื่อมกับน้ำแข็ง (ลองกินเล่นๆดูครับ ราคาไม่แพงด้วย) จากนั้น ก็เตรียมตัวเดินทางไปสนามบินกลับมาตุภูมิครับ
แนะนำแค่นี้แล้วกัน จริงๆมีอีกเยอะแต่พิมพ์ไม่ไหวแล้ว (เช่น อยากชวนไปดูหนังใหม่ชนโรงที่วัยรุ่นช่วงนี้กำลังคลั่งทั้งเมือง ไปดูคอนเสิร์ตลุกทุ่งมันส์ๆแบบเสียบัตรเหมือนชาวบ้านเค้าตามลานกั้นรั้ว หรือไปจิบเบียร์ย้อมใจอารมณ์เหมือนหน้าเซ็นทรัลเวิร์ดแบบนั้น เป็นต้น)
หมายเหตุ ช่วงนี้ ฝนตกทุกวัน แต่แบบโครมประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วหยุด ไม่มีเปาะแปะทั้งวัน สบายใจได้ (แต่ถ้าคุณโชคดี อาจไม่เจอก็ได้)
รูปภาพประกอบร้านคุณป้าขายขนมบนถนนในซอยครับ...
จากคุณ |
:
ตี๋หล่อมีเสน่ห์
|
เขียนเมื่อ |
:
2 พ.ค. 55 16:32:26
|
|
|
|
|