|
ตอนตัวเองนั่งเครื่องครั้งแรกๆก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ..กลัวทำอะไรๆที่เปิ่นๆอายเขา เข้าใจความรู้สึก จขกท. เลยค่ะ
สำหรับครั้งแรกที่เจอกันมากเรื่องของเหลวที่ถือขึ้นเครื่องค่ะ..โดนโยนทิ้งซะส่วนใหญ่
สายการบินอื่นๆมักไม่เคร่งครัด..เราถือกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องได้(ไม่จำเป็นต้องโหลดใต้เครื่อง) เมื่อขึ้นเครื่องบินแล้วจะมีที่วางกระเป๋าเหนือที่นั่งของผู้โดยสาร หรือจะโหลดใต้เครื่องก็ได้ โดยปกติมักให้น้ำหนักกระเป๋าที่ 15, 20 Kg ฟรี แต่หากเกินน้ำหนักจะต้องเสียเงินเพิ่ม , ยกเว้นแอร์เอเชียที่กำหนดน้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 kg. และขนาดต้องประมาณกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก (ศึกษารายละเอียดของแต่ละสายการบินนะค่ะ) หากจะโหลดกระเป๋าใต้เครื่องต้องเสียเงินค่ะ
ที่นี่กระเป๋าและของที่เราถือขึ้นเครื่อง มีข้อจำกัดว่าของเหลวต้องไม่เกิน 100 ML (ดูขนาดจากภาชนะบรรจุ ไม่ใช่ปริมาณของเหลวที่เหลือในขวด) จำนวน 10 ขวด หากขวดใหญ่หรือจำนวนเกิน ต้องทิ้งอย่างเดียวในตอน scan กระเป๋าน่ะค่ะ, พวกของเหลวก็ได้แก่ สบู่เหลว ยาสีฟัน แชมพู ลูกกลิ้ง โลชั่น อะไรทำนองนี้
สำหรับคอมพิวเตอร์notebook, Tablet อะไรพวกนี้ ถือขึ้นเครื่องได้ และแนะนำว่าอย่าโหลดใต้เครื่องเพราะเสี่ยงต่อการหาย
ขั้นตอนหลังจากจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เหมือนอย่าง คห.ข้างบนแนะนำมาน่ะค่ะ 1. ปริ้นท์ใบจองหรือตั๋ว (มีหมายเลข booking no.) มายื่นที่เคาท์เตอร์สนามบินพร้อมบัตรประชาชนหรือ passport เพื่อทำการเช็คอิน ปกติ เคาท์เตอร์จะให้เช็คอินตามลำดับเครื่องที่บินขึ้น ให้สังเกตที่ไฟวิ่งว่าถึงลำดับไฟล์ทของเราแล้วยัง (สามารถเช็คอิน 2-3 ช.ม.ก่อนเวลาบิน) ถ้ามีกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง ก็ให้ทำการชั่งน้ำหนักและมอบกระเป๋าที่นี่..รอดูจนแน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ติดสติ๊กเตอร์ที่กระเป๋าเราเรียบร้อยด้วย 2. ได้ใบ Bording Pass มา เก็บไว้ให้ดี แล้วเดินเข้า Gate ส่วนที่เป็นขาออก-ในประเทศ 3. เข้าคิวเพื่อผ่านเครื่องscan 3.1 กระเป๋าสตางค์ มือถือ กุญแจ อะไรที่นอกกายเอาออกมาใส่ถาด เพื่อผ่านเครื่องสแกน(รับป้ายหมายเลขถาดไว้) 3.2 คอมพิวเตอร์Notebook tablet เอาออกจากกระเป๋าใส่ถาดเหมือนกัน โชว์ให้เจ้าหน้าืที่เห็น 3.3 กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ วางลงบนสายพานเพื่อผ่านเครื่องสแกนเลย ไม่ต้องใส่ถาดก็ได้ 3.4 สำหรับตัวเรา ให้เดินทางช่อง scan ถ้าผ่านมาแล้วมีเสียงดัง เจ้าหน้าที่จะมาคลำตัว(ให้เรายืนตรงกางเขน) ปกติจะดังเพราะหัวเข็มขัดเป็นโลหะ 3.5 รับสัมภาระต่างๆในถาดของเราที่ผ่าน scan แล้วให้ครบถ้วน 4. เดินไปรอเรียกขึ้นเครื่องที่ Gate ตามหมายเลขที่ระบุไว้ใน boarding pass 5. ตอนขึ้นเครื่องก็โชว์ Boarding Pass กับ บัตรปชช.หรือ passport 6. นั่งตามที่นั่งรัดเข็มขัด ปรับที่นั่งตรง ขณะเครื่องบินขึ้น-ลง จังหวะนี้บางคนมักปวดแก้วหู มีผู้แนะนำวิธีแก้ ทำให้โดยให้เคี้ยวหมากฝรั่ง (ถ้าไม่มีหมากฝรั่ง ก้อทำท่าเสมือนกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งก็ช่วยได้)
เที่ยวให้สนุกนะค่ะ
จากคุณ |
:
ดำมอมแมม
|
เขียนเมื่อ |
:
7 พ.ค. 55 17:10:54
|
|
|
|
|