Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ว่าด้วยเรื่อง ... วีซ่าญี่ปุ่น แบบ Multiple เพื่อการท่องเที่ยว ... กับ Statement และคำถามอื่นๆ ครับ ติดต่อทีมงาน

สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่น
ได้ออกวีซ่าแบบ Multiple ให้กับบุคคลสัญชาติไทย ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพื่อการท่องเที่ยว, เยี่ยมญาติ และอื่นๆ

โดยจะเริ่มออกให้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 นี้
ตามกระทู้เก่าๆ ที่ได้พูดคุยกัน แต่พอดีผมก็สงสัยในบางประเด็น
จึงไปสอบถามด้วยตนเอง ที่สถานกงศุลญี่ปุ่นเชียงใหม่ ครับ

สำหรับรายละเอียดและเอกสารที่ต้องใช้ ตามลิ๊งค์นี้นะครับ
http://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/visa14.htm

ระเบียบการขอวีซ่าประเภทการพำนักระยะสั้น
แบบ Multiple เพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ และอื่นๆ


นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายที่จะออกวีซ่าแบบ Multiple ให้กับบุคคลสัญชาติไทยที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น และมีจุดประสงค์ที่จะไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ และอื่นๆ วีซ่าจะมีอายุการใช้งาน 3 ปี หรือน้อยกว่าแล้วแต่กรณี และระยะเวลาการพำนักที่ประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน (สูงสุด 90 วัน) ต่อครั้งขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ยื่น และหลักเกณฑ์การพิจารณาของสถานทูตฯ หรือ สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่

คุณสมบัติของผู้ยื่น

บุคคลสัญชาติไทยที่พำนักอยู่ในประเทศไทย และประสงค์ที่จะขอวีซ่าประเภทการพำนักระยะสั้นแบบ Multiple เพื่อการการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ และอื่นๆ ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

(A) ผู้ที่เคยได้รับวีซ่า และเคยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นภายในระยะเวลา 3 ปี
(หมายเหตุ) ผู้ที่มีความสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับแสดงตราประทับเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นซึ่งสามารถตรวจสอบหลักฐานได้จากหนังสือเดินทาง

(B) ผู้ที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง
(C) คู่สมรสและบุตรของผู้ยื่นคำร้องที่มีคุณสมบัติตามข้อ (B)

*วีซ่าที่ออกให้มีระยะเวลาการพำนักไม่เกิน 15 วัน (สูงสุด 90 วัน) ต่อครั้ง อายุการใช้งาน 3 ปี หรือน้อยกว่าแล้วแต่กรณี


เอกสารประกอบการยื่น

1. หนังสือเดินทาง(ในวันยื่นขอวีซ่ามีหน้าว่างที่ไม่มีตราประทับมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาแสดงด้วย)

2. ใบคำร้องขอวีซ่า (ท่านสามารถพิมพ์จากโฮมเพจสถานทูตญีปุ่นประจำประเทศไทย หรือรับได้ที่ศูนย์ JVAC) 1 ชุด หรือพิมพ์จากลิ๊งค์นี้
http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/PDF/Tourist_application_thai_120412.pdf

3. รูปถ่าย (ขนาด 2 x 2 นิ้ว สีหรือขาวดำ ที่มีพื้นหลังเป็นสีอ่อน ไม่มีลวดลาย ไม่มีการแต่งภาพถ่าย จะต้องเป็นรูปถ่ายที่ชัดเจน และถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน พร้อมติดรูปถ่ายลงในใบคำร้อง) 1ใบ

4. แบบสอบถามเพื่อการยื่นขอวีซ่า(กรุณากรอกโดยเลือกตามวัตถุประสงต์ในการเดินทาง และลงลายเซ็นตามหนังสือเดินทาง) 1ชุด ดาวน์โหลดตามลิ๊งค์นี้ได้เลย
http://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/PDF/visa_questionaire_thai_24_03_2012.pdf

5. ทะเบียนบ้าน ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด (สำหรับการยื่นแบบ STP ไม่ต้องใช้)

6. หนังสือรับรองการทำงาน/การศึกษา
6.1 ในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นพนักงาน หรือข้าราชการ ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงานจากหน่วยงานที่สังกัด (ให้ระบุตำแหน่ง วันเริ่มทำงาน อัตราเงินเดือน และระยะเวลาวันลาพักร้อน)

6.2 ในกรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ (ไปขอหนังสือรับรองที่สำนักงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือที่ธนาคารกรุงไทยก็ได้เช่นกันครับ หรือถ้าเป็นร้านค้าทั่วๆ ไปก็ใบใบรับรองการจดทะเบียนร้านก็ได้)

6.3 ในกรณีนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ให้แสดงหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษา และหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าของผู้อุปการะ (ใช้ของพ่อ-แม่หรือผู้ปกครองเป็นหลัก ให้บุพการีเตรียมเอกสารได้เลย)

6.4 ในกรณีผู้อยู่ภายใต้อุปการะเลี้ยงดู เช่น แม่บ้านที่ไม่ได้ทำงาน ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าของผู้อุปการะ (เอกสารทุกอย่างจะต้องออกไม่เกิน 3 เดือน ในกรณีที่ผู้ยื่นไม่มีอาชีพ หรือประกอบอาชีพที่ ไม่สามารถแสดงหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าได้ กรุณาทำหนังสืออธิบายอาชีพและรายได้โดยละเอียด) ฉบับจริง 1 ชุด

7. ผู้ที่เดินทางเป็นครั้งแรก หากเคยเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล หรือผู้ที่ได้เปลี่ยนชื่อตัว-สกุลหลังจากเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ให้เตรียมเอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล ใบสำคัญการสมรส ใบสำคัญการหย่า ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด

8. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร(ของผู้ยื่นคำร้อง หรือผู้อุปการะ) ฉบับจริงและสำเนา(ทุกหน้า)1 ชุด
## สำหรับการขอวีซ่าแบบ Multiple จะต้องแสดงสิ่งนี้ด้วย ไม่สามารถเลี่ยงได้ ##
(กรณียื่นขอวีซ่าแบบ STP ไม่ต้องแสดงสิ่งนี้ครับ)

9. หนังสือแสดงเหตุผลในการขอวีซ่าแบบ Multiple

10. กรณีที่ผู้ยื่นมีคุณสมบัติตรงตามข้อใดข้อหนึ่งในข้อ (A)-(C) ให้แสดงเอกสารประกอบดังต่อไปนี้
กรณี (A) ให้แสดงเอกสารที่ระบุว่าเคยเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นภายในระยะเวลา 3 ปี
กรณี (B) ให้แสดงหลักฐานที่ระบุว่ามีฐานะทางการเงินที่มั่นคง
กรณี (C) ให้แสดงเอกสารที่ระบุความสัมพันธ์ว่าเป็นคู่สมรสและบุตรของผู้ยื่นที่มีคุณสมบัติตามข้อ (B) เช่น ใบสำคัญการสมรส (สำหรับคู่สมรส) หรือสูติบัตร (สำหรับบุตร)

--- สำหรับผู้ติดตามที่มายื่นในภายหลัง ให้เตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
   1. กรณีที่ผู้ยื่นที่มีคุณสมบัติตามข้อ (B) และได้รับวีซ่าแบบ Multiple แล้ว ให้แนบสำเนาหนังสือเดินทางของคู่สมรส (หน้าที่มีชื่อและรูป และหน้าที่มีวีซ่าแบบ Multiple ของประเทศญี่ปุ่น)
   2. กรณีที่ผู้ยื่นที่มีคุณสมบัติตามข้อ (B) แต่ยังไม่ได้รับวีซ่าแบบ Multiple ให้แนบหลักฐานที่แสดงว่ามีฐานะทางการเงินที่มั่นคง

หมายเหตุ
1. กรุณาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ด้วยว่าท่านมีจุดประสงค์ที่จะยื่นขอวีซ่าแบบ Multiple
2. หากเอกสารที่เตรียมมาไม่ครบถูกต้องตามระเบียบที่ได้ระบุไว้ข้างต้น กรุณารับทราบด้วยว่าทางสถานทูตฯ / สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ จะไม่สามารถรับพิจารณาคำร้องขอวีซ่า
3. ในบางกรณีทางสถานทูตฯ ไม่สามารถพิจารณาเรื่องระยะเวลาของการพำนักที่ประเทศญี่ปุ่น และอายุการใช้งานของวีซ่าตามความประสงค์ของผู้ยื่นได้
4. ในกรณีที่มีวีซ่าแบบ Multiple ซึ่งยังมีอายุการใช้งานอยู่ แต่ประสงค์จะขอวีซ่าประเภทอื่น ดังนั้นทางสถานทูตฯ /สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ จำเป็นต้องยกเลิกวีซ่าแบบ Multiple อันเก่าก่อนที่จะออกวีซ่า ประเภทอื่นๆ ให้ได้ เช่น กรณีที่มีวีซ่าซึ่งมีระยะเวลาการพำนักในประเทศญี่ปุ่น 15 วันอยู่แล้ว แต่ประสงค์จะขอวีซ่าที่มีระยะเวลาการพำนักในประเทศญี่ปุ่นเกิน 15 วันนั้น ทางสถานทูตฯ จะต้องยกเลิกวีซ่าอันเก่าก่อนพิจารณาออกวีซ่าอันใหม่ให้ได้ เป็นต้น

5. ในบางกรณีทางสถานทูตฯ อาจมีการเรียกขอเอกสารเพิ่มเติม

* กรุณาสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ แผนกกงสุล สถานทูตญี่ปุ่น หรือ แผนกกงศุล สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ สามารถสอบถามได้ด้วย ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2207-8503 0-2696-3003
(โฮมเพจของสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย http://www.th.emb-japan.go.jp/)
สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-203367
(โฮมเพจของสถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ http://www.chiangmai.th.emb-japan.go.jp )

หรือ ศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC) กรุงเทพฯ
TEL: 02-632-1541-4
FAX: 02-231-3671
E-mail: info.jpth@vfshelpline.com
Website: http://www.jp-vfsglobal-th.com/

---------------------------------------------------------------

ทีนี้คำถามที่ตัวผม และหลายๆ ท่านที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วอาจสงสัยในเรื่อง Multiple ??
จริงๆ คำถามหลักที่สุดของผม ก็คือ ...

Q : เคยไปญี่ปุ่นมาหลายรอบแล้ว ไม่โชว์ Statement ไม่ได้เหรอ ??

A : ผมคิดว่าหลายๆ คนอาจจะคิดเหมือนผม ว่า statement เราไม่สวยเลิศเลอ แต่เรามีปัญญาจองตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกปีเลย จะขอวีซ่าแบบ Multiple ได้ไหม? ....
โดยผมคิดว่าตัวเองเข้าจำพวก (A) ในข้อ 10 ครับ
เพราะไปญี่ปุ่นมา 3 รอบในระยะเวลา 3 ปี (53-54-55)
แต่รู้สึกไม่อยากโชว์ Statement ยังไงก็ไม่รู้ .... (โชว์ไปมีผงะแน่นอน)

เจ้าหน้าที่บอกได้ประมาณว่า ... "ความไปบ่อย" ไม่ได้มีผลเท่ากับ
"ความแน่นของเงินในกระเป๋า และความสวยงามของ Statement ซึ่งบังคับต้องโชว์
หากจะขอวีซ่าแบบ Multiple ... ถ้าไม่มั่นใจเรื่อง Statement ให้ขอแบบ Short-Term Repeater ดีกว่า"
(หงายเงิบเลยจ้ะ)

ซึ่งสำหรับท่านที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้ว และเข้าข่ายสามารถขอวีซ่าแบบ Short Term Repeater อันมีจุดเด่นคือ "ไม่ต้องโชว์ Statement" แต่จะได้วีซ่าแบบ Single ครั้งละไม่เกิน 15 วัน ค่าขอครั้งละ 1,120 บาท+ค่า JVAC ซึ่งถ้าใครที่ไม่มั่นใจใน Statement ของตัวเอง ก็จำเป็นต้องขอแบบ STP เป็นรายๆ ครั้งไปครับ
รายละเอียดการขอวีซ่าญี่ปุ่นแบบ Short Term Repeater แจ่มมากสำหรับคนที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วไม่เกิน 3 ปี

ซึ่งคิดง่ายๆ ว่า ไปขอครั้งละ 1,120 บาท+JVAC (ของผมและชาวเชียงใหม่ไม่ต้องเสียค่า JVAC เพราะขอที่เชียงใหม่ได้) ถ้าไปญี่ปุ่นแน่ๆ มากกว่า 2 ครั้งภายใน 1-3 ปี ก็ขอแบบ Multiple ไปเลยครับ แต่ถ้าความถี่น้อยกว่านี้ ขอแบบ Short Term Repeater สบายใจกว่ากันเยอะเลย เอกสารก็ใช้น้อยกว่า และน่าจะอนุมัติชัวร์ 100% ครับ

สรุปว่า ถ้าผมจะได้ไปญี่ปุ่นอีก ก็คงขอแบบ Short Term Repeater ดีที่สุดครับ smile

---------------------------------------------------------------

Q : ถ้าอยากได้วีซ่าแบบ Multiple ต้องทำยังไงบ้าง ?
A : 1. มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงในระดับหนึ่ง มี Statement และสมุดบัญชีธนาคารที่แลดูสวยงาม เปิดมาแล้ว จนท.เค้าไม่ผงะ มีรายได้เข้าอย่างสม่ำเสมอ และมีเงินเก็บพอสมควร (คำว่าพอสมควร ถ้าเป็น Multiple ผมคิดว่าน่าจะต้องมากกว่า 6 หลักครับ) ถ้าอยากได้แบบ Multiple ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจุดนี้ได้ ต้องโชว์ Statement ทุกครั้งครับ

2. เขียนหนังสือแสดงเหตุผล ให้ชัดเจนว่า "จะไปญี่ปุ่นบ่อยๆ เพื่ออะไร?" ซึ่งทางสถานทูตจะอนุมัติวีซ่าให้ ขั้นต่ำที่ครั้งละ 15 วัน (จนท.แจ้งว่าส่วนมากน่าจะได้แค่ 15 วันเท่านั้นหล่ะ) ถ้าอยากได้ถึงครั้งละ 90 วันก็ต้องมีเหตุผลที่สมควรที่จะทำให้สถานทูตอนุมัติให้ 90 วันด้วยเช่นกัน ซึ่งระยะเวลาอายุของวีซ่าก็เป็นไปได้ทั้ง 1-3 ปี (ผมเข้าใจว่าน่าจะสัมพันธ์กับ "เหตุผล" ที่เขียนลงไป รวมไปถึงความหนาแน่นของ "เงิน" ในกระเป๋าครับ)

----------------------------------------------------------------

Q : ไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย แต่มีคิวได้ไปบ่อยแน่ๆ จะขอแบบ Multiple เลยได้ไหม ?
A : ตามเงื่อนไขหลักๆ ที่สำคัญสุดก็คือ ต้องมีเงินในกระเป๋าแน่นหน่อย Statement สวย และมีเหตุผลที่ดีเขียนในหนังสือแสดงเหตุผลว่าต้องไปบ่อยเพราะอะไร เค้าก็น่าจะอนุมัติอยู่ดีครับ

Q : กรณีเป็นนักศึกษา หรือยังว่างงาน หรือไม่แน่ใจในรายได้ของตนว่าจะสวยพอหล่ะ ?
A : งานนี้อาจต้องใช้บารมีบุพการี หรือคู่สมรสเข้าช่วยครับ โดยสามารถแสดง Statement และใบรับรองการทำงาน-รายได้ของบุพการี หรือคู่สมรส ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นว่า มีเงินส่งไปญี่ปุ่นได้แน่ๆ และไปแล้วก็ต้องกลับมาได้ด้วยนะ

----------------------------------------------------------------

ของแถมครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่อง Multiple แล้ว
เป็นคำถามนอกเรื่องที่เคยมีคนชอบถามก็เลยแถมให้เพิ่มเติมครับ haha

Q : การขอวีซ่าแบบ Short-Term Repeater คือ ???
A : ก๊อปมาตอบจากลิ๊งค์นี้ครับ http://www.chiangmai.th.emb-japan.go.jp/thai/mado/str.html

ระเบียบการเตรียมเอกสารสำหรับการขอวีซ่าพำนักระยะสั้น ในกรณีเฉพาะผู้ที่เคยพำนักที่ญี่ปุ่นไม่เกิน15วัน และมีความประสงค์ไปพำนักที่ญี่ปุ่นในครั้งต่อไปไม่เกิน15วัน

ผู้ที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ มีสิทธิได้รับการยกเว้นการเตรียมเอกสารบางประการในการยื่นขอวีซ่าดังกล่าว
1. ผู้ที่เคยเดินทางไปพำนักที่ญี่ปุ่นระยะสั้นไม่เกิน15วัน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากหนังสือเดินทางที่มีตราประทับเข้า-ออกของกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น ณ.วันที่ยื่นคำร้อง
(ยกเว้น ผู้ที่เคยพำนักในประเทศญี่ปุ่นด้วยเงื่อนไขอื่นที่ไม่ใช่การพำนักระยะสั้น หรือผู้ที่เคยไปพำนักระยะสั้นแต่ระยะเวลาเกิน15วัน หรือผู้ที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานตราประทับเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นครั้งล่าสุดในหนังสือเดินทางเล่มเก่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น หนังสือเดินทาง
สูญหายเป็นต้น จะไม่สามารถยื่นขอวีซ่าดังกล่าวนี้ได้)

2. ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะขอวีซ่าเพื่อการพำนักระยะสั้นที่ ไม่เกิน15วัน

ซึ่งเอกสารสำคัญที่ใช้มีแค่ ...
1. หนังสือเดินทาง 2.แบบฟอร์มคำร้อง 3.รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 4. แบบสอบถาม 5. ใบรับรองการทำงาน/ใบจดทะเบียนการค้า/ใบรับรองสถานภาพนักศึกษา(แนบพร้อมใบรับรองการทำงานของผู้อุปการะ) เท่านั้นจบครับ !! นี่หล่ะ สะดวกกว่ามากมายเลย ....

---------------------------------------------------------------------

Q : จองโปรฯบินไปชมซากุระที่ญี่ปุ่นปีหน้า ได้ตั๋วแล้ว จะขอวีซ่าเลยได้ไหม ??
A : วีซ่าญี่ปุ่น มีอายุของวีซ่า 3 เดือน จะต้องเข้าประเทศญี่ปุ่นภายใน 3 เดือน
หลังจากที่ได้รับวีซ่า ดังนั้น ถ้ามีโปรแกรมเดินทางล่วงหน้าชัดเจน
ค่อยๆ ก่อนการเดินทางซัก 1-2 เดือนค่อยขอวีซ่าก็ยังไม่สายครับ

Q : ถ้าไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย ... จะยื่นขอวีซ่าอย่างไรดีให้เค้าอนุมัติ
A : สำคัญคือ เตรียมเอกสารให้พร้อม เงินในกระเป๋าแน่น Statement งดงามในระดับนึง
หรือถ้าเงินกระเป๋าตัวเองไม่แน่น ก็หาคนค้ำ (บุพการี หรือ คู่สมรส) ให้รับรองให้
โดยบุพการี หรือ คู่สมรส จะต้องแสดงใบรับรองการทำงานและรายได้ พร้อม Statement ด้วย
สิ่งหนึ่ง ที่ผมเคยเจอ เจ้าหน้าที่เค้าขอเอกสารเพิ่ม นั่นก็คือ
"Trip Planning" ครับ หมายถึงแผนการเดินทางคร่าวๆ ว่าจะไปไหนยังไงบ้าง พักที่ไหน เดินทางอย่างไร สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าเป็นครั้งแรก บางทีเจ้าหน้าที่อาจจะถามถึง ก็เตรียมไปด้วยก็ดีครับ อย่างครั้งล่าสุด ที่ผมยื่นขอวีซ่าแบบ STP จนท. ก็ถามว่าคราวนี้จะไปเมืองไหนบ้าง และพักที่โรงแรมอะไร อยู่ย่านอะไร คือเค้าอาจจะซักว่าเรามีความรู้ หรือเตรียมทำการบ้านที่จะไปเที่ยวเมืองเค้ายังไง และที่สำคัญที่สุดคือ ไปแล้วจะกลับมาแน่ๆ ไม่ได้ไปหลบหนีเข้าประเทศเขา !!

----------------------------------------------------------------
## คำถามด้วยเรื่องสถานที่การยื่นวีซ่าผ่าน JVAC ##

ซึ่งก็มีข้อดีคุ้มค่ากับค่าธรรมเนียม 535 บาทคือ จะส่งเอกสาร-รับเล่มวีซ่าช่วงเวลาไหนก็ได้
ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะว่างวันธรรมดา เช้าหรือบ่าย โดดงานไปยื่นเอกสารหรือรับเล่มด้วยตนเอง
แถมถ้าเสียเพิ่มอีก 125 บาทเค้าก็ส่งพาสปอร์ตกลับคืนถึงมือที่บ้านหรือที่ทำงานผ่านทางไปรษณีย์เลย ไม่ต้องเหนื่อยออกไปรับอีก (แต่เสียตังค์)

ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC) กรุงเทพ
ชั้น 15 ยูนิต C สีลมคอมเพล็กซ์ 191 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 มีข้อดีคือ ยื่นเอกสาร-รับวีซ่าได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น 8.30-17.30 น. แถมรับเล่มคืนวันเสาร์ช่วงเช้าได้ด้วย 8.30-12.00 น.

ที่ทำการไปรษณีย์กลางในแต่ละจังหวัด/พื้นที่
เปิดตามเวลาทำการไปรษณีย์ 8.30-16.30 น. จันทร์-ศุกร์ สะดวกตอนไหนก็ไปยื่นและรับได้
เลยในที่ทำการไปรษณีย์ 11 แห่งตามด้านล่างนี้เลย

ศรีราชา, ระยอง
พิษณุโลก, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบุรี
นครราชสีมา,ขอนแก่น, อุบลราชธานี
ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, หาดใหญ่


----------------------------------------------------------------
Q :ไม่อยากจ่ายค่า JVAC ทำไงดี ?

A : สามารถยื่นขอวีซ่าได้ด้วยตนเองที่ สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
อาคารแอร์พอร์ตบิสิเนสพาร์ค ตรงข้ามห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต
แต่ ... "จะต้องเป็น" ผู้ที่พำนักอยู่ในเขตภาคเหนือครอบคลุมพื้นที่ 9 จังหวัด (ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, ลำพูน, แพร่, น่าน และ อุตรดิตถ์) คำว่า "พำนัก" นี้หมายถึง ....
1. มีทะเบียนบ้าน+ทำงาน/เรียน ในพื้นที่ 9 จังหวัดนี้
2. ทำงาน/เรียน ในพื้นที่ 9 จังหวัดนี้ (ทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดไหนของประเทศก็ได้ ไม่สนใจ อิงตามใบรับรองการทำงานหรือสถานที่เรียนเป็นหลัก)

ในกรณีที่มีทะเบียนบ้าน อยู่ใน 9 จังหวัดนี้จริง แต่พลัดถิ่นไปทำงานในเมืองกรุงหรือที่อื่นๆ ของประเทศ หรือชาวกรุงที่ไม่อยากจ่ายค่า JVAC แล้วมีคิวจองโปรฯ 0 บาทบินมาเที่ยวเชียงใหม่ รวดไปยื่นเอกสารที่เชียงใหม่พร้อมกันเลยก็ไม่ได้ครับ หากไม่ได้ทำงานหรือเรียนที่เชียงใหม่ก็ต้องไปยื่นที่กรุงเทพ หรือที่อื่น จ่ายค่า JVAC ตามปกติครับ ....
(พูดง่ายๆ ก็คือ สถานกงศุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ พร้อมให้บริการสำหรับคนที่ทำงาน/เรียน ใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเท่านั้น ไม่ต้องจ่ายค่า JVAC จ้า แต่ต้องมายื่นเอกสารเองนะ )

Q : ความไวในการของวีซ่าที่เชียงใหม่ ??
A : ขอให้เตรียมเอกสารให้ครบ ไม่ต้องกลัวเรื่อง จนท.เจ๊เขี้ยว เพราะเดี๋ยวนี้เจ๊ก็ไม่ได้เขี้ยวมากแล้ว แต่ .... เอกสารต้องครบนะครับ เรียงให้ถูกต้องตามลำดับ 1-10 ขาดไปแม้แต่อันเดียวก็ไม่ได้ แต่บางทีถ้าเอกสารอันไหนไม่สมบูรณ์ ... เช่น รูปถ่ายเก่าเกินไป อ้าว แอบเอารูปเก่ามาใช้คราวนี้หนิ ถ้า จนท. ตรวจเจอเค้าจะโทรมาบอกให้เอารูปถ่ายใหม่มาส่ง ภายในบ่ายวันนั้น หรือวันไหนก็ได้ แต่วีซ่าก็จะได้ช้าไปอีก 2 วันหลังจากที่เอาเอกสารใหม่มายื่นครับ
ยื่นเอกสารได้ตั้งแต่ 8.30-11.30 น. โปรดตรงต่อเวลานะครับ เค้าเป๊ะจริงอะไรจริง
และรับเล่มพาสปอร์ตคืนได้เวลา 13.30-16.30 น. วันจันทร์-ศุกร์ ครับ

ยื่นเอกสารเช้าวันจันทร์ ได้เล่มวีซ่าคืนบ่ายวันพุธ, ยื่นเอกสารเช้าวันศุกร์ ได้เล่มวีซ่าคืนวันอังคารบ่าย ถ้ายื่นแบบ STP มีเอกสารครบตามที่เค้ากำหนด ผมเชื่อว่าอนุมัติ 100% ครับ
เตรียมตังค์ 1,120 บาทมาจ่ายในวันรับเล่มวีซ่าได้เลย
แต่ถ้ายื่นครั้งแรก แล้วมีอะไรที่เค้าติดขัดสงสัย เค้าจะโทรมาแจ้งให้ยื่นเอกสารเพิ่มครับ

-----------------------------------------------------------------

เอาเป็นว่า เป็นข้อมูลในเบื้องต้น สำหรับใครที่วางแผนอยากจะยื่นวีซ่าแบบ Multiple กันนคะรับ
ส่วนตัวผม ผมแฮปปี้กับ Short Term Repeater ดี ไม่ต้องยื่นอะไรมาก อนุมัติชัวร์ ยังไงก็ไม่ได้ไปบ่อยถี่กว่าปีละ 1 ครั้งอยู่แล้วครับ smile

แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 20:59:26

 
 

จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:47:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com