|
เอ่อ คืออ่านมาทุกความเห็นแล้ว เราเริ่มรู้สึกว่าบางความคิดเห็นชักจะโฟกัสผิดจุดประสงค์ที่ จขกท ต้องการจะสื่อนะคะ ไปโฟกัสเรื่องสีเสื้อพนักงาน เรื่องถามทั้งๆที่เห็นป้ายบ้างล่ะ บางความเห็นก็ลามไปถึงประเทศไม่พัฒนาก็มี
ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด จขกท น่าจะต้องการสื่อว่า สาเหตุที่ต้องมาตั้งกระทู้นี้ มาจากการใช้คำพูกที่ไม่เหมาะสมของคนที่ขึ้นชื่อว่าทำ "งานบริการ" มากกว่า อย่างที่เล่ามาเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในสนามบิน ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานทุกคนที่ทำงานในสนามบินไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ก็ย่อมต้องเป็นงานบริการอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำงานอยู่ในตำแหน่งใด จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับสายการบินที่ลูกค้ามาถามหรือไม่ คุณก็ควรที่จะทักษะในการใช้คำพูดที่ดีกับผู้รับบรการด้วย (ในจุดนี้จะไม่กล่าวถึงเรื่องมารยาท เพราะเราไม่ได้เห็นท่าทีของพนักงานขณะตอบคำถาม) ในฐานะที่เราก็ทำงานบริการมาเหมือนกัน และก็เจอผู้มารับบริการถามคำถามที่คิดว่าไม่น่าถามมาไม่น้อย แต่เราก็มั่นใจว่าเราไม่เคยตอบคำถามคลุมเครือ หรือทำให้ผู้รับบริการรู้สึกไม่ได้รับความช่วยเหลือแบบนี้
ในเคสนี้เราว่าเรื่องจะไม่เป็นประเด็นถ้าพนักงานรู้จักใช้คำพูด เช่น 1. กรณีที่เป็นพนักงานประจำเครื่อง Self Check in นี้ แล้วมีลูกค้ามาถามทั้งๆที่ป้ายก็ติดอยู่(อาจมีคิดในใจว่าป้ายก็ติดอยู่ไงทำไมมีแต่คนมาถามวะ) แต่ก็ควรจะตอบไปว่า >> "อ๋อตอนนี้เครื่องยังใช้ไม่ได้ครับเพราะ... (อะไรก็ว่าไป) รบกวนลูกค้าติดต่อเช็คอินที่ช่องปกตินะครับ" 2. กรณีเป็นพนักงานสายการบินนี้ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแผนกเช็คอินเลย หรือ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายการบินนี้เลยแค่บังเอิญไปยืนแถวนั้นเฉยๆ ก็อาจตอบไปได้ว่า >> "อ๋อ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ พอดีผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้เครื่องนี้(หรือผมทำงานอยู่แผนกอื่น ไม่เคยใช้เหมือนกัน) ต้องขอโทษด้วยนะครับ ยังไงลูกค้าลองใช้เครื่องที่ไม่ติดป้ายดูก่อนไหมครับอาจจะใช้ได้(อาจมีท่าทีอยากช่วยเหลือเข้าไปช่วยดูด้วย) หรือถ้าไม่ได้ยังไงคงต้องไปติดต่อที่เค้าเตอร์ดูน่ะครับ"
นี่อาจไม่ใช่คำพูดที่ดีที่สุดแต่เราว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าคำว่า "ลองดูสิครับ"
*************************** สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ การติดป้ายไว้นั่นไม่ได้หมายถึงว่าลูกค้าจะไม่มีสิทธิ์ถาม เพราะนี่คือสนามบินคุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าทุกคนทุกเชื้อชาติจะอ่านและแปลความยหมายบนป้านออก ถึงจะเป็นภาษาอังกฤษก็เถอะ แต่คนต่างชาติที่อ่อนภาษาอังกฤษก็มี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีคนมาถาม
อย่างเรา เมื่อหลายปีก่อนเราได้มีโอกาสไปทำงานที่อเมริกาในองค์กรหนึ่ง เป็นงานบริการที่คนหลายเชื้อชาติแวะเวียนมาใช้บริการเหมือนกัน วันดีคืนดีเครื่อง electronic ในฝ่ายที่เราดูแลมันพัง หัวหน้าเราก็ยังให้เราไปเฝ้าอยู่หน้าเครื่องทั้งๆที่มีป้ายติดประกาศอยู่แล้วว่าพัง แต่ก็ยังมีลูกค้าแวะเวียนมาถามอยู่เรื่อยๆทั้งคนที่อ่านป้ายออก และอ่านป้ายไม่ออก เราก็เต็มใจตอบว่าตอนนี้ยังใช้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จ และแนะแนวทางอย่างอื่นให้ก่อน แค่นี้เอง ไม่เห็นต้องตอบว่า ก็ลองดูสิ เลย ,,, เพราะเข้าใจว่าคนที่มาถามเค้าถามเพื่อความแน่ใจ ไม่ได้ถามเพื่อกวน >> ที่ยกตัวอย่างนี้เพราะอยากให้เห็นว่าถึงเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าก็ยังคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ
แต่อย่างว่านะคะ นี่มันเป็นงานบริการ จะดีไม่ดีมันอยู่ที่จิตบริการซึ่งสามารถสอนกันได้ แต่บังคับให้มีกันทุกคนมันไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวบุคคล >> เจอแบบนี้เข้าไปคนที่รับผลการกระทำก็คือผู้รับบริการ
จากคุณ |
:
ILovePinkColour
|
เขียนเมื่อ |
:
17 มิ.ย. 55 05:38:43
|
|
|
|
|