 |
เรื่อง Auto Gate แล้วไม่ประทับตราน่าจะเป็นส่วนนึง
แต่ส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก เวลาปะฉะดะกับ ตม.เกาหลี ตามประสบการณ์ที่ผมเจอเองนะครับ "เราต้องมีความมั่นใจ และต้องสร้างความมั่นใจว่า เราคือนักท่องเที่ยว เรามาเที่ยวเดี๋ยวเราก็กลับ มีลูกเมีย มีพ่อแม่ เอ้ยมีหนี้สิน เอ้ยมีกิจการการงานหน้าที่ที่ต้องกลับไปทำอยู่ ไม่มาสิงประเทศนี้อยู่หรอกจ้า"
She จะแสกนเราหัวจรดเท้าเลย ดูหน้าตาท่าทางว่าเราเป็นไงลักษณะบุคลิกเข้าข่ายต้องสงสัยหรือไม่ หลังจาก She สแกนเราเสร็จ ก็จะดูประวัติเราในพาสปอร์ต อย่างคนที่เดินทางบ่อยๆ พาสปอร์ตถูกปั๊มจนพรุน หรือมีวีซ่าประเทศนั้นประเทศนี้ติดอยู่ในเล่ม ก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนะครับ แต่คนที่ใหม่ถอดด้าม ไม่เคยหรือไม่ค่อยได้ไปไหน อันนี้อาจจะโดนเพ่งหน่อย หลังจากนั้น She ก็จะเริ่มยิงคำถามรัวครับ .... -- มากี่วัน? -- จะกลับวันไหน (ขอดูตั๋วกลับหน่อยซิ ??) -- จะไปเที่ยวไหนบ้าง (เล่นแพลนทริปคร่าวๆ ไป N Seoul Tower, Everland, Suwon, Shopping at เมียงดง ฯลฯ ก็ว่าไป) -- พักที่ไหน (ขอดูใบจองห้องพักหน่อยซิ ??) -- ทำงานอะไรอยู่ (แสดงใบยืนยันการทำงาน หรือบัตรประจำตัวพนักงาน/นักศึกษา โชว์ให้ดูเลย)
คือถ้าเค้าถามมา เราตอบได้ทุกประเด็นแบบทันที ไม่ต้องภาษาอังกฤษเป๊ะ แต่มีความจริงใจ และสบตาเจ๊ ตม. ตลอด เจ๊อยากดูอะไรมีให้เจ๊ดูหมด เค้าก็ให้ผ่านครับ ของผมเลือกให้คุณเธอเข้าไปก่อนด้วยแล้วผมเดินตามมา บอกว่ามาด้วยกัน ยิ่งฉลุยเลย (ยังดีที่ไม่ขอดูใบจดทะเบียนสมรส 555)
----------------------------------------------------------------------- ทีนี้ผมจึงเดาว่า พอคุณแม่ จขกท. เข้าคิว เป็นไปได้ว่าอาจจะแยกไปเข้าคิวกับชาติอื่นๆ ไม่ได้ต่อร่วมกับแก๊งค์ในทัวร์เดียวกัน และอาจจะไม่ได้มีการเตรียมตอบคำถามไว้ก่อน เช่นภาษาง่ายๆ ว่า I travel with tour. (พร้อมกับชูกเอกสารของทัวร์ขึ้นมา) หรือย้ำประโยคว่า I'll fly back to thailand on 19 June. (ยังไงชั้นก็กลับแน่ๆ)
พอคุณแม่เจอภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีเข้าไปอาจมีอึ้งสิครับ พออึ้ง ก็เลยตะกุกตะกัก ไปไม่ถูกเลยทีเดียว ทำท่าทางหลุกหลิกๆ ไม่กล้าสบตา ตม. ก็โดนเลยสิครับ งานนี้ใครก็เลยช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ หัวหน้าทัวร์ก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่งั้น หัวหน้าทัวร์อาจจะเป็นผู้ถูกสอบเสียเอง ลุกทัวร์อีก 20-30 ชีวิตก็ต้องรอต่อไป เกิดหัวหน้าทัวร์โดนส่งกลับด้วยคงไม่สามารถ operate ทัวร์ต่อไปได้แน่ๆ จริงไหมครับ ....
งานนี้ .... ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียน เวลาลูกหลานจะส่งพ่อ-แม่ที่สูงวัยไปเที่ยวต่างประเทศตามลำพัง อย่างน้อยท่านควรมีประสบการณ์ หรือสนทนาภาษาอังกฤษพื้นๆ ได้บ้าง ควรมีการเตรียมตัวท่านไว้ ว่าจะต้องตอบอะไรยังไง บางทีตอบไม่ตรงคำถาม แต่เค้าเห็นว่าเรามีความจริงใจที่จะตอบ มีเอกสารยืนยันตัวตน แสดงความบริสุทธิ์ใจ เค้าก็ให้ผ่าน ทั้งนี้ ทางที่ดีที่สุด ยังไงก็สู้คุณลูกพาพ่อ-แม่ไปด้วยตนเอง โดยเป็นหน่วยกล้าตายเข้า ตม. ก่อน่ กรุยทาง บอกว่า อีก 2 คนข้างหลังเป็นพ่อ-แม่ชั้นเองนะ พูด Eng ไม่ค่อยได้ แต่เป็นพ่อแม่ฉัน อย่างน้อย ตม. เค้าก็จะได้ไม่โหดร้ายกับพ่อแม่เรามากนัก นั่นเองครับ
ปล. ขนาดพ่อแม่ผม เคยไปต่างประเทศมาหลายครั้ง พอจะให้เดินทางเอง ผมยังอดเป็นห่วงไม่ได้ พยายามเลือกวิธีการที่อำนวยความสะดวกให้ท่านมากสุด เช่นจองแอร์เอเชีย ก็ต้องเลือกแบบ Fly-Thru ไม่ใช่ให้ท่านไปเดินเหรอหร๋าเด๋อด๋างงๆ อยู่กลาง LCCT และต้องแนะนำท่านว่า พอบินไปถึง LCCT ต้องทำไงต่อ ส่งท่านไปถึงปลายทางให้ได้ ช่วยท่านเตรียมตัวทำการบ้านด้วยนะครับ น่าจะเป็นทางออกที่ดี และเป็นบทเรียนสำหรับลูกๆ หลานๆ ที่จะส่งผู้ใหญ่ไปเที่ยวต่างประเทศ หรือเดินทางเองตามลำพัง แบบไม่แข็งแรงภาษาอังกฤษนักครับ
จากคุณ |
:
ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
|
เขียนเมื่อ |
:
19 มิ.ย. 55 00:00:00
|
|
|
|
 |