ถ้าพูดถึงขนมอันลือชื่อของฮอกไกโดก็ให้นึกถึงจตุรเทพแห่งขนมไว้ก่อน (555) อันประกอบไปด้วย
Ishiya (ซัปโปโร) - ผู้ผลิต "ชิโร่ย โคอิบิโตะ" อันลือชื่อนั่นเอง นอกเหนือจากเจ้าชิโร่ยโคอิบิโตะแล้วก็ยังมีขนมอย่างอื่นที่พยายามโปรโมตอย่าง "บามคูเฮน" หรือ "มิลฟี" อยู่เหมือนกัน แต่รสชาติก็แล้วแต่คนชอบ (โดยส่วนตัวแล้วผมว่าไม่อร่อยเท่าไหร่นะครับเมื่อเทียบกับราคา) ถ้าเอาแบบไม่ผิดหวังแถมยังเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ก็ต้องชิโร่ยโคอิบิโตะเท่านั้นครับ
Royce (ซัปโปโร) - อันนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีครับ แม้จะเกิดทีหลัง แต่ก็เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีการโปรโมตอยู่เสมอ ถ้าซื้อช็อคโกแลตของที่นี่ก็ไม่ผิดหวังครับ เพียงแต่บางอย่างอาจจะไม่สามารถซื้อฝากได้เพราะจะละลายซะก่อน สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของรอยส์เลยก็คือ "รอยส์ นามะ ช็อคโกแลต" ครับ (ตัวนี้ก็ละลายเหมือนกัน แต่ถ้าเก็บดีๆ ก็พอจะเอามาถึงเมืองไทยได้ แล้วก็ต้องรีบเอาเข้าตู้เย็นนะครับ และให้ซื้อที่สนามบินจะดีที่สุด) แต่ถ้าไม่สะดวกก็ให้ซื้ออะไรก็ได้ที่เป็นช็อคโกแลตครับ รับรองไม่ผิดหวัง
Rokkatei (โอบิฮิโระ) - ร้านขนมชื่อดังจากแหล่งผลิตนมที่อร่อยที่สุดและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีขนมหลายประเภทครับ แต่ให้เลือกประเภทช็อคโกแลตหรือจำพวกนม ถ้าจะให้แนะนำก็จะเป็น "มาร์กเซย บัตเตอร์แซนด์" (รูปในคห.1) ครับ
Le Tao (โอตารุ) - ร้านขนมอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ เสียดายที่ร้านนี้ของที่อร่อยจะซื้อเป็นของฝากกลับประเทศไม่ค่อยได้ ส่วนที่ซื้อกลับได้ก็จะอร่อยแต่ไม่ถึงกับโดนใจนัก แนะนำว่าให้ซื้อกินเองหรือไม่ก็ชิมที่ร้านเยอะๆ ครับ ฮ่าๆๆ ส่วนขนมที่แนะนำคือพุดดิ้งและจำพวกเค้กครับ
สี่ร้านที่แนะนำไปข้างบนจะเป็นมาตรฐานที่ค่อนข้างมั่นใจได้ในเรื่องรสชาติและความเป็นฮอกไกโดครับ และมีของที่เหมาะจะนำไปเป็นของฝากเยอะอยู่ นอกเหนือจากข้างบนที่ไม่ควรพลาดก็จะเป็นเยลลี่ เมลอนของยูบาริ, Snaffles ออมเล็ตชีสเค้ก ของฮาโกดาเตะ (ตัวนี้ละลายเร็ว), ขนมที่ทำจากมันฝรั่งอย่าง "จากาป็อกเกิล" ในคห.6 (ทำจากมันฝรั่งที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น) ทั้งหมดนี้หาซื้อได้ที่ชั้นใต้ดินห้าง Esta ที่สถานีซัปโปโรและร้านค้าในสถานีครับ (ยกเว้น Le Tao ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามีขายที่นั่นรึเปล่า)
นอกเหนือจากข้างบนแล้วก็มีสิ่งที่น่าลองแต่คงนำกลับไปเป็นของฝากไม่ได้คือวานิลาซอฟท์ครีมของโมริโมโตะ (ชั้นใต้ดินของสถานีซัปโปโรฝั่งไดมารู หรือที่สนามบินจิโตเสะก็มีครับ), ซอฟท์ครีมรสลาเวนเดอร์ที่ฟุราโนะ (ได้ความแปลก), รสเมลอน (ได้ความอร่อย หาซื้อได้ทั่วไป) แล้วก็ถ้าไปสวนสาธารณะโอโดริก็ให้ลองชิมข้าวโพดปิ้งกับมันฝรั่งดูครับ เค้าว่ากันว่าข้าวโพดปิ้งฮอกไกโดอร่อยมากกกกก (ถึงเอาไปทำเป็นราเมงข้าวโพด แต่ผมว่าที่จังหวัดโทจิกิอร่อยกว่านะครับ หุหุ) ส่วนถ้าไปโอตารุช่วงนั้นก็จะมีเมลอนตัดแบ่งขาย กับแผงขายหอยย่าง สองอย่างนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ 55
มาดูด้านอาหารกันบ้างครับ
มิโสะราเมง (ซัปโปโร) - ถ้าเอาในเรื่องรสชาติ ผมเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบมิโสะราเมงของที่นี่เท่าไหร่ครับ เนื่องจากความมัน ความเค็ม และความเข้มข้นที่เป็นคนละแบบกับซุปกระดูกหมู แต่เหตุผลที่อยากให้ลองกินจะเป็นเรื่องของความเฉพาะตัวมากกว่า การทำมิโสะราเมงของซัปโปโรนั้นจะต่างจากราเมงที่อื่นๆ คือเค้าจะเอาผักไปผัดในกะทะก่อนครับ (บางร้านก็จะมีหมูสับหรือเครื่องอย่างอื่นด้วย) บวกกับมิโสะสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน บางร้านก็จะผัดไปแล้วใส่ซุปลงไปในกะทะเลย ซึ่งถือเป็นวิธีทำเฉพาะของที่นี่ครับ (วิธีนี้ทำให้ราเมงร้อนได้นาน โดยเฉพาะเวลาหนาวๆ แล้วได้กินนี่เหมือนขึ้นสวรรค์เลยล่ะครับ ฮ่าๆๆ) ราคาอยู่ที่ประมาณ 700-1000 เยนครับ (ถ้าเป็นพวกราเมงเนยหรือข้าวโพดก็จะแพงขึ้นอีกครับ)
เดิมทีราเมงของฮอกไกโดก็มีแค่โชยุกับชิโอะ (เกลือ) เหมือนที่อื่นๆ แหละครับ แต่ร้านที่เป็นต้นกำเนิดของมิโสะราเมงแล้วทำให้ดังไปทั่วญี่ปุ่นคือร้าน "Aji no Sanpei" ถ้ามีโอกาสลองแวะไปทานดูนะครับ (แต่บอกไว้ก่อนว่าเป็นต้นกำเนิดกับอร่อยที่สุดเป็นคนละเรื่องกันนะครับ)
ซุปแกงกะหรี่ (ซัปโปโร) - เป็นอาหารที่ผมชอบที่สุดในฮอกไกโดครับ อารมณ์เหมือนต้มยำน้ำข้น,น้ำใสบ้านเรานั่นแหละครับ แต่เครื่องจะเป็นพวกไก่, เนื้อวัว, ลิ้นวัว (บางที่จะมีกวางด้วย) กับผักอย่างพริกหยวก, มันฝั่ง, แครอท, บร็อคโคลี่, ไข่ต้ม ที่สนุกคือรสชาติของแต่ละร้านจะแตกต่างกัน เวลาแวะไปร้านใหม่ๆ นี่จะสนุกมากครับ 55 โดยเราจะเลือกประเภทของซุปและระดับความเผ็ดได้ (บางร้านจะแบ่งกว้างๆ เป็น 1 ถึง 5 บางร้านล่อไปตั้งแต่ 0 ถึง 70 เลย) โดยซุปจะมากับข้าวพร้อมช้อนกับส้อม (ซึ่งถือว่าแปลกมากสำหรับวิธีกินแบบคนญี่ปุ่น) วิธีกินจะแตกต่างจากบ้านเรานิดหน่อยคือ เราจะใช้ช้อนตักข้าวก่อนแล้วจุ่มไปในน้ำซุปแล้วค่อยกินครับ (บางคนเอาข้าวเทลงไปในชามซุปหมดเลย) โดยควรกินคู่กับลัชชี่ (เครื่องดื่มทำจากโยเกิร์ต) จะช่วยให้แสบลิ้นและท้องน้อยลงครับ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1000-1500 เยน และส่วนใหญ่จะเป็นเซ็ตคู่กับเครื่องดื่มหรือลัชชี่อยู่แล้วครับ
ซุปแกงกะหรี่จะหากินได้ทั่วไปซึ่งที่ซึซึกิโนะจะมีร้านเยอะมาก จะไปร้านไหนก็ได้ครับ (ยกเว้นในห้างที่ไม่แนะนำให้ไปเลย) โดยส่วนตัวร้านที่แนะนำคือ "Lavi"ที่แถวๆ รถไฟใติดินสถานีมารุยามะครับ
เนื้อแกะย่างเจงกีสข่าน (ซัปโปโร) - เป็นของลือชื่ออีกอย่างหนึ่งของซัปโปโรครับ แต่ที่แปลกก็คือ เนื้อทั้งหมดนำเข้าจากออสเตรเลียครับเพราะเนื้อฮอกไกโดไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ 55 เวลาทำบาร์บีคิวหรือไปตั้งแคมป์ของชาวฮอกไกโดนี่ เนื้อแกะจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยล่ะครับ เลยอยากให้ลอง (ถ้าไปร้านดีๆ นี่อร่อยแน่นอนครับ รับประกัน)
ถ้าในแผนเที่ยวของจขกท.มีไปโรงเบียร์อยู่แล้วก็สามารถกินบุฟเฟท์ที่นั่นได้เลย (หัวละ 2-3 พันเยน) แต่ถ้าอยากลองแบบบ้านๆ จริงๆ ก็แนะนำที่ร้าน "เจงกีสข่าน ฮอนเทง" ジンギスカン本店 ที่ซึซึกิโนะดูนะครับ ราคาเริ่มต้นที่ 800 เยนครับ (แต่ในร้านควันจะโขมงมาก ไม่แนะนำให้เอาเสื้อหนาๆ ไป ถ้าจะเอาไปให้เก็บในกระเป๋าหรือซุกให้มิดชิดครับ ส่วนหัวเอาไว้ค่อยกลับมาสระที่โรงแรมเอา)
ปู (ซัปโปโร) - จริงๆ แล้วผมไม่เคยกินปูที่นี่หรอกนะครับ (เคยชิมๆ นิดหน่อย) ก็คงบอกไม่ได้ว่าที่ไหนดีต้องลองดูรีวิวท่านอื่นๆ หลักๆ ที่นิยมกันก็จะเป็นปูทาระบะ, ปูสุไว แล้วก็ปูขนครับ ถ้าเป็นแบบคอร์สหรือบุฟเฟท์จะอยู่ที่ 2500-4000 เยน แต่ถ้าเป็นข้าวหน้าปู (คานิด้ง) ก็จะอยู่ที่ 900เยนได้ครับ ร้านมีเยอะตั้งแต่เส้นหน้าสถานีซัปโปโรไปจนถึงซึซึกิโนะเลยล่ะครับ
ซูชิ (โอตารุ) - ผมไม่เคยคิดว่าซูชิจะอร่อยมาก่อนจนกระทั่งได้มากินที่โอตารุเนี่ยล่ะครับ ที่นี่จะมีถนนซูชิให้เลือกได้ตามสบาย ถามว่าร้านไหนอร่อยก็คงตอบไม่ได้เพราะมือสมัครเล่นอย่างเรากินร้านไหนก็อร่อยครับ แนะนำให้ดูรีวิวท่านอื่นๆ เอา หรืออยากลองเองก็แนะนำให้ดูราคากับซูชิที่จะได้แล้วตัดสินใจครับ และราคาเฉลี่ยของร้านไม่ควรต่ำกว่า 1800 เยน เพราะผมเคยพลาดเลือกร้านถูกๆ แล้วผิดหวังมาแล้ว แม้ว่าน่าจะมีร้านถูกๆ แต่อร่อยซ่อนอยู่ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราอยากได้ความประทับใจก็ไม่อยากให้เสี่ยงครับ
โดยส่วนตัวแนะนำร้าน "Fuku" ตรงเส้น Sakaimachi (เส้นที่ตรงไปยังห้าแยกนาฬิกาไอน้ำ ที่สองข้างทางจะมีร้านรวงเยอะๆ) ถ้ามาจากคลองโอตารุร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ แต่ถ้ามาจากห้าแยกร้านจะอยู่ด้านขวามือครับ สนนราคาอยู่ที่ 1800-3000 เยนครับ (ร้านนี้จะไม่ได้อยู่ที่ถนนซูชินะครับ)
อุด้งแกงกะหรี่ (ฟุราโนะ-บิเอ) - ใครจะคิดว่าอุด้งกับแกงกะหรี่มันจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้วครับที่ฟุราโนะ จะบอกว่าอร่อยไหมผมว่าอร่อยกว่าที่คิดนะครับ (คือไม่ได้คาดหวังว่าจะอร่อย แต่ดันอร่อยซะงั้น) แนะนำให้ลองครับ เพราะที่ฟุราโนะก็ไม่ค่อยมีอาหารอร่อยๆ หรือมีชื่อเท่าไหร่อยู่แล้ว และถ้าจะสั่งอาหารพื้นๆ จำพวกราเมง, ข้าวผัด, โอยาโกะด้ง อันนี้ขอให้วางไปเลยครับ (แล้วจะหาว่าไม่เตือน) แม้อาหารจำพวกสเต๊กหรือเนื้อหมูจะอร่อยใช้ได้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอให้ลองจำพวกแกงกะหรี่ครับ (ไม่ใช่ซุปแกงกะหรี่นะครับ อย่าสับสน)
ถ้าเป็นของกินหลักๆ น่าจะประมาณนี้ จริงๆ ของอย่างอื่นก็อร่อยนะครับ อย่างเช่นอาหารที่ทำจากเนื้อวัวและไก่ แต่ไหนๆ ก็ไปถึงโน่นแล้วขอให้ลองของใหม่ๆ ครับ ^^
มีอาหารแนะนำแล้วก็มีอาหารไม่แนะนำบ้าง พวกเกี๊ยวซ่าหรือราเมงสูตรโบราณนี่ไม่แนะนำครับ แล้วก็พวกข้าวราดแกงกะหรี่ ข้าวผัด พวกนี้รสชาติธรรมดา โอกาสเจอร้านไม่อร่อยก็มีสูงด้วย ที่พอไหวคืออาหารอิตาลี ออมเล็ตไรส์ ข้าวหมูทอด พวกนี้อร่อยครับ แต่ถ้าไปโตเกียวจะอร่อยกว่าเลยอยากให้ไปทานที่โน่นมากกว่าครับ
สถานที่ช็อปปิ้งหลักจะมีที่สถานีซัปโปโร (ตรงห้าง), ส่วนย่านซึซึกิโนะถ้าจะเอาแบรนด์ให้ไปในห้าง แต่ถ้าจะเอาเหมือนถนนคนเดินให้ไปย่านทานุกิโคจิครับ สุดท้ายคือ Rera Outlet ใกล้ๆ สนามบิน โดยจะมีรถรับส่งฟรีครับ (จริงๆ มี Outlet เปิดใหม่ที่แถวๆ Kitahiroshima แต่ต้องมีรถถึงจะไปได้เลยไม่แนะนำครับ)
สุดท้ายไม่รู้ลืมไปได้ไง Sapporo Beer รส Classic ครับ ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่น ลองโลดครับ ฮ่าๆ