ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อมองกลับไปยัง Flam จะเห็นเมืองเหลือเล็กนิดเดียวท่ามกลาง Fjord สูง ลาก่อน เมืองเล็กๆที่สุดแสนประทับใจ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:27:32

ความคิดเห็นที่ 2 เรือแล่นผ่าน Fjord ไปเรื่อยๆ โดยเป็นภูเขาสูง หน้าผาตัดลงสู่ผิวน้ำ ดูแล้วน้ำคงลึกน่าดู จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:28:05

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วงเรือแล่น หากผ่านสถานที่น่าสนใจอันไหน เช่น น้ำตก หมู่บ้าน หรือสถานที่ที่มีความสำคัญ บนเรือจะมีเสียงบรรยายเป็นระยะๆ ทั้งภาษานอร์เวย์ อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และอีกหลายๆภาษา (ทำไมไม่มีภาษาไทยนะ T_T) ส่วนบนเรือ ผู้คนบนชั้นด่านฟ้าจากที่เคยแย่งที่นั่งกันเพื่อหาจุดชมวิวสวยๆ ก็เรื่อยทยอยหายกันไปทีละคน 2 คนเนื่องจากทนความหนาวของอากาศไม่ไหว (เนื่องจากในเวลาดังกล่าวก็หนาวอยู่แล้ว แถมยังโดนลมอยู่ตลอด) คนที่ทนไม่ไหวก็จะลงไปด้านล่าง พักในห้องโดยสารที่มีร้านขายของ สามารถหากาแฟร้อนๆ ขนมและของกินเบาๆ หรือจะซื้อเบียร์มาจิบแก้หนาวก็ไม่เลว ตลอดเวลาที่เรือแล่นไป จะมีบรรดานกนางนวลบินตามเรือไปตลอด เนื่องจากพวกญี่ปุ่นบนเรือพยายามโปรยเศษขนมปัง ผมสังเกตเห็นว่าพวกฝรั่งบางคนไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ บางคนก็ออกแนวไล่นกด้วยซ้ำ คงกลัวเรื่องเชื้อโรคที่มากับนก เหมือนพวกนกพิราบเป็นแน่ ตลอดการเดินทางผ่านหมู่บ้านที่อยู่ริมน้ำหลายที่ ดูสงบจนน่าอิจฉา จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:28:55

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากถึงฝั่งที่ Gudvangen เรือเข้าเทียบท่า บรรดานักท่องเที่ยวต่างทยอยออกจากเรือไปยังท่ารถซึ่งอยู่ติดกัน (คนที่กังวลว่าจะไปขึ้นรถบัสที่ไหน ไม่ต้องกลัวครับเพราะป้ายรถอยู่ติดกับท่าเรือเลย) ผู้ที่จะเดินทางไป Voss ที่ไม่ได้มากับ group ทัวร์สามารถขึ้นรถที่มีป้าย Norway in Nutshell ได้เลย และหากไม่ได้ซื้อ package มา ผมเข้าใจว่าสามารถซื้อตั๋วได้โดยตรงกับคนขับได้เช่นกัน เมื่อรถบัสเริ่มออกจากป้าย จะแล่นไปตามทางที่จะไป Voss แต่จะไปอ้อมถนนเส้นนึง ซึ่งเป็นทางแคบๆขึ้น-ลงเขา ถามว่าไปอ้อมเพื่ออะไร?? คำตอบคือ อ้อมเพื่อให้บรรดานักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปครับ วิวข้างทางสวยมาก โดยเฉพาะช่วงที่รถบัสอยู่บนยอดเขา แนวถนนซิกแซกที่มองลงไปเห็นวิวหมู่บ้านที่อยู่เบื้องล่าง ขอบอกว่าน่าประทับใจและน่าถ่ายรูปเป็นอันมาก (ผมแนะนำให้รีบขึ้นรถและหาที่นั่งริมหน้าต่าง) จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:29:39

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นถนนแล้วดูน่ากลัวทีเดียว จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:30:11

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากเดินทางได้พักใหญ่ รถบัสก็เดินทางมาถึง Voss โดยรถจะจอดที่สถานีรถไฟเลย เหมาะสำหรับผู้ที่จะเดินทางต่อไป Bergen หรือกลับ Oslo โดยทันที แต่สำหรับผมที่จะนอนค้างที่ Voss จะต่อเดินต่อไปที่ Hostel โดยผมได้จอง Hostel ชื่อ Voss Vandrarheim AS ไว้ ตอนที่ลงจากรถ ผมหันรี หันขวางอยู่ซักพักว่าต้องเดินไปในทิศทางไหน พี่คนขับรถ (หน้าดุแต่ใจดี) ถามว่าผมจะไปไหน เมื่อผมบอกจุดหมายไป แกก็ชี้ทิศทางที่ผมจะต้องไปให้ โดยถ้านับจากสถานีรถไฟ ตัว Hostel จะอยู่คนละด้านกับเมือง ทางที่เดินไปไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่นัก เพราะข้างถนนมีแนวที่ปิดและทำการก่อสร้างอยู่ ทำให้ต้องเดินผ่านทางเดินซึ่งผมเข้าใจว่าทำไว้ชั่วคราว อ้อมผ่านบ้านคน ลัดไปเดินข้างทางรถไฟบ้าง ขึ้นเนิน ลงเนิน ถนนโรยกรวดซึ่งคงไม่ค่อยสะดวกนักถ้าเป็นกระเป๋าแบบลาก หลังจากเดินไปเรื่อยๆ ซึ่งบางครั้งผมคิดว่าหลงแล้ว แต่ในที่สุดก็เจอ Hostel จนได้ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:31:19

ความคิดเห็นที่ 7 Hostel ที่ Voss ผมจองมาได้ในราคา 325 NOK/คืน โดยเป็นห้อง 6 Bed Mixed dorm ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วย ในที่พักจะประกอบด้วยห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำในตัว ด้านนอกมีห้องครัวซึ่งสามารถประกอบอาหารเองได้ โดยมีอุปกรณ์ให้ครบครัน มีตู้เย็นซึ่งคุณสามารถหาซื้ออาหารมาแช่ได้ ในส่วนของ wi-fi สามารถใช้ได้ที่ lobby ของโรงแรม หรือในบริเวณครัวก็ยังสามารถรับสัญญาณ wi-fi ได้ชัดเจน บริเวณระเบียงในส่วนของ lobby มีวิวที่สวยงาม หากอากาศไม่หนาวจนเกินไปนัก ก็เป็นบริเวณที่น่านั่งมากทีเดียว จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:31:57

ความคิดเห็นที่ 8 หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะไปหาอะไรกินในเมือง โดยเดินย้อนกลับมาเมือง ผ่านโรงแรมที่ออกแบบได้ดี แต่น่าจะมีราคาต่อคืนแพงพอควร จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:32:34

ความคิดเห็นที่ 9 ผมตรงดิ่งไปที่ Tre Bror Café ซึ่งเป็น Top Choice ของ Lonely Planet อาหารมื้อนี้ เป็น recommend จากพนักงานในร้าน โดยเป็น burger แสนอร่อย เมื่อกัดไปแล้ว cheese ภายในเนื้อแทบจะไหลทะลักออกมาเลยทีเดียว สนราคามื้อนี้อยู่ที่ 231 NOK จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:33:10

ความคิดเห็นที่ 10 Voss เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง Activity เป็นอย่างมาก มีทั้ง hiking, kayak, canoe ตกปลา หรือกีฬาจำพวก extreme game ต่างๆ เช่น ร่มบินและล่องแก่ง Activity ต่างๆเหล่านี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับนักเดินทางอย่างผม หลังจากจัดการอาหารเช้า check-out ออกจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว จึงไปนั่งชิลๆริมน้ำ รับแดด (ก็มันหนาวนี่นา) เลยรีบเดินทางต่อไปยัง Bergen โดยทันที รถไฟจาก Voss ไป Bergen เดินทางผ่าน ริมทะเลสาบและสายน้ำเชียวกราด ซึ่งเหมาะกับการล่องแก่ง จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:34:18

ความคิดเห็นที่ 11 ในที่สุดรถไฟก็เข้าเทียบชานชลาที่ Bergen  ที่ Bergen ผมจองที่พักไว้ที่ Hostel ชื่อยาก Marken Gjestehus ในราคา 250 NOK/คืน ห้องเป็นแบบ 4 beds male dorm จากสถานีเดินไปที่พักใช้เวลาประมาณ 5 นาที โดยจะเห็นป้ายชื่อ Hostel อยู่ด้านหน้าตึก โดยตัว Hostel อยู่ที่ชั้น 4 ลิฟท์ของตึกเป็นลิฟท์แบบโบราณ ในตอนแรกผมไม่กล้าที่จะขึ้น เรื่องของเรื่องคือ ไม่รู้จะใช้งานยังไง ก็เลยจะเดินขึ้นบันได้แทน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเดินได้เพราะบันไดจบแค่ชั้น 2 เท่านั้นเลยจำเป็นต้องใช้ลิฟท์ ประตูทางเข้าลิฟท์เป็นประตูแบบเปิดออกไม่ใช่ประตู slide แบบลิฟท์สมัยใหม่ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:34:54

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อเปิดลิฟท์เข้าไปจะเจอลูกกรงเหล็ก เมื่อเข้าไปแล้วต้องดึงลูกกรงเหล็กเพื่อปิดประตูก่อนจากนั้นจึงกดลิฟท์ในชั้นที่ต้องการ ลิฟท์จึงจะขึ้นไปในชั้นที่เราต้องการ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:35:37

ความคิดเห็นที่ 13 ห้องนอนที่ผมจองไปเป็นห้อง 4 เตียง กุญแจเข้าห้องเป็นแบบ key card และมีลูกกุญแจสำหรับตู้ในห้องนอนให้ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมที่อยู่ด้านนอก โดยแยกห้องส้วม และห้องอาบน้ำออกจากกัน มีบริเวณห้องนั่งเล่นที่อยู่ภายนอก สามารถไปใช้ wi-fi ได้บริเวณนั้น และมีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน เมื่อเก็บข้าวเก็บของเสร็จแล้ว จึงไปเดินเล่นในเมือง Bergen เป็นเมืองท่าที่สำคัญของนอร์เวย์ มีตึกสีสันสดใสมากมายในเมือง จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:36:12

ความคิดเห็นที่ 14 เดินดูข้างทางมาเรื่อยๆจนถึงบริเวณท่าเรือ หนึ่งใน signature ของ Bergen คือตลาดปลาอันเรื่องชื่อ ต้องขอบอกว่ามันไม่ได้เหมือนกับที่จินตนาการไว้เท่าไหร่ ของที่ขายไม่ได้เป็นพวกปลาสดๆที่ยังดิ้นได้พึ่งขึ้นมาจากท้องทะเล แต่จะเป็นจำพวกเนื้อปลาที่แล่แล้วแช่ในน้ำแข็ง มีอาหารจำพวกไข่ปลาแซลมอนบรรจุขวดขาย นอกจากนี้ทุกร้านยังประกอบอาหารเช่น grill salmon, grill shrimp หรือ เนื้อปลาวาฬย่าง เป็นต้น จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:36:47

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อเดินผ่านแถวนั้นจะได้กลิ่นแซลม่อนสเต็กอันหอมกลุ่น จนผมไม่อาจห้ามใจได้เลยต้องขอซื้อมาลองชิมดู รสชาติดีมากๆ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:37:28

ความคิดเห็นที่ 16 เดินลัดเลาะไปตามท่าเรือจะเห็นตึกรูปทรงโบราณอยู่เป็นระยะๆ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:38:03

ความคิดเห็นที่ 17 ตึกค้าขายแบบโบราณทำจากไม้ บริเวณริมท่าเรือเป็นเมืองมรดกโลกตามประกาศของ Unesco จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:38:36

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อเดินเข้าไปข้างในจะเจอบรรยากาศแบบไม้ๆ ผมมีความรู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในเพลินวานยังไงยังงั้นเลยทีเดียว จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:39:09

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อเดินบริเวณท่าเรือจนเบื่อแล้วจึงเดินไปขึ้นกระเช้าเพื่อขึ้นไปดู Bergen จาก top view ดูบ้าง จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:39:43

ความคิดเห็นที่ 20 วันรุ่งขึ้นเป็นการเก็บส่วนที่เหลือเล็กๆน้อยๆใน Bergen ผมตัดสินใจเลือกที่จะไป Maritime museum ระหว่างทางเดินผ่านโบสถ์ใหญ่ในเมือง จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:40:21

ความคิดเห็นที่ 21 ในที่สุดก็มาถึง Maritime museum ภายในมีแบบจำลองรูปเรือสมัยต่างๆตั้งโชว์อยู่มากมาย จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:40:54

ความคิดเห็นที่ 22 รวมถึงเรือจำลองไวกิ้ง จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:41:24

ความคิดเห็นที่ 23 อากาศใน Bergen วันนั้นค่อนข้างดี อากาศเย็นแต่แดดออก ดังนั้นจึงเห็นผู้คนนั่งเล่น นอนเล่นอยู่ตามสนามหญ้าในที่สาธารณะกันมาก จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:42:11

ความคิดเห็นที่ 24 วันรุ่งขึ้น ผมรีบออกจาก hostel ตั้งแต่ไก่โห่เพื่อจะไปสนามบินมุ่งหน้าสู่ Tromso เมืองสุดท้ายของ trip นี้โดยผมจองตั๋วผ่านทางหน้าเว็ปของ SAS แต่เครื่องที่บินเป็นเครื่องของ Wideroe (เข้าใจว่าคงเป็น code share) จากตัวเมือง Bergen เราสามารถเดินทางไปสนามบินได้โดย Airport shutter bus จากตัวเมือง Bergen ถึงสนามบินประมาณ 30 นาที เมื่อถึงสนามบิน สิ่งที่ต้องทำคือ check-in แต่มันไม่ได้มี counter check-in แบบบ้านเรา ต้องไปทำ self check in กับเครื่องเท่านั้น โดยเครื่องจะถามว่าเรามีสัมภาระจะโหลดไหม กี่ใบ เมื่อทำเสร็จเครื่องจะออก boarding pass พร้อม tag ติดกระเป๋า คือเราต้องติดเองนะครับ หลังจากติดเสร็จก็เอากระเป๋าเราไปตรง bag drop จากนั้นก็เอาเครื่อง scan bar code มา scan tag ที่กระเป๋า กระเป๋าก็จะไหลไปตามสายพาน เป็นอันเสร็จพิธี ระหว่างการเดินทางจาก Bergen ไป Tromso ได้เห็นวิวของประเทศนอร์เวย์จากมุมสูง ต้องยอมรับว่าประเทศนี้สวยและมีเสน่ห์จริงๆ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:43:09

ความคิดเห็นที่ 25 เครื่องบินบินผ่านเมฆทึบดูน่ากลัวเนื่องจากรอบๆสนามบินเป็นภูเขาสูง ในที่สุดเครื่องบินก็แตะพื้นที่สนามบิน Tromso หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินทางเข้าเมืองโดย Airport shuttle bus ใช้เวลาจากสนามบินถึงในเมือง 15 นาที เนื่องจากผมต้องลงที่ป้ายสุดท้ายของ Shuttle bus ซึ่งตอนนั้นเหลือผมเพียงคนเดียว คุณพี่คนขับรถใจดีหันมาถามว่าผมนอนโรงแรมไหน พอผมบอกแกไป แกบอกว่ายังไม่ต้องลงป้ายสุดท้าย เดี๋ยวจะไปส่งให้ใกล้ๆโรงแรม รถบัสจอดอยู่บนทางขึ้นเนินเตี้ยๆ บนยอดเนินคือโรงแรมที่ผมจองไว้สำหรับเมืองสุดท้ายของทริปนี้ AMI Hotel AMI Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆคล้ายๆ Home stay ผมจองโรงแรมนี้มาได้ในราคา 700 NOK/คืน (ที่พักใน Tromso หาถูกไม่ค่อยได้ จะมีก็ไกลค่อนข้างมาก) ราคานี้รวมอาหารเช้า ผ้าปูเตียง และผ้าเช็ดตัวเรียบร้อย ห้องเป็นห้องเตียงเดี่ยวแบบมีอ่างล้างหน้าในตัว ห้องน้ำและห้องส้วมเป็นห้องรวมอยู่ด้านนอกห้องนอน จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:43:58

ความคิดเห็นที่ 26 วิวจากโรงแรมที่จะเห็นตัวเมืองอยู่ด้านล่างของเนิน จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:44:34

ความคิดเห็นที่ 27 หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยก็ออกไปหาอะไรรองท้องในเมือง เนื่องจากวันที่ผมไปเป็นวันเสาร์เลยมีงานออกร้านที่ถนนกลางเมือง เดินผ่านไปได้กลิ่นหมูสเตะหอมกลุ่น พอหันไปมองก็เห็นกลุ่มคนไทยมาออกร้านขายอาหาร หลังจากได้ข้าวสวยราดเขียวหวานแสนอร่อยแล้ว ผมมุ่งหน้าไป Polaria Polaria เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับขั้วโลกและ Svalbard ดินแดนเหนือสุด ใกล้ขั้วโลกเหนือของนอร์เวย์ ภายในมีโชว์ภาพยนตร์เกี่ยวกับ Svalbard ลักษณะจำลองพื้นผิวขั้วโลกให้ลองเดิน สัตว์น้ำจากดินแดน Svalbard และแมวน้ำเป็นๆในพิพิธภัณฑ์ ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ออกแบบได้แปลกตาดี จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:45:17

ความคิดเห็นที่ 28 เสร็จจากพิพิธภัณฑ์ ผมออกมาเดินเล่นด้านนอก เก็บภาพบริเวณท่าจอดเรือบริเวณนั้น จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:45:56

ความคิดเห็นที่ 29 หลังจากนั้นผมเดินเล่น ลองสำรวจ Night life แบบแดดจ้า เข้า Pub รอเวลาเที่ยงคืน ในที่สุดก็เก็บภาพพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ตามที่ฝัน จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:46:31

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนเที่ยงคืนสว่างขนาดนี้ พระอาทิตย์ตกอีกทีต้องรอไปอีก 2 เดือน จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:47:05

ความคิดเห็นที่ 31 หลังจากฉลองพระอาทิตย์เที่ยงคืนจนดื่มด่ำถึงตี 3 กว่าก็ได้เวลาเข้านอนเพื่อมาลุยต่อในวันรุ่งขึ้น วันสุดท้ายของทริป ผมใช้เวลาส่วนใหญ่เดินเล่นในเมือง เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ร้านรวงส่วนใหญ่จะปิดเกือบหมด เมื่อไม่มีอะไรให้ดูมากนักเลยตัดสินใจไป Fjellheisen Fjellheisen เป็น cable car ขึ้นไปยังเขาซึ่งจะมองเห็นเมือง Tromso ทั้งหมดจากมุมสูง ระหว่างทางไป cable ผ่านโบสถ์ style Arctic รูปร่างแปลกตา จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:47:52

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อขึ้น cable car ไปบนยอดเขาจะเห็นวิวของ Tromso สุดลูกหูลูกตา จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:48:33

ความคิดเห็นที่ 33 บนยอดเขาในเวลานั้นพื้นยังเต็มไปด้วยหิมะ แต่พอได้เห็นวิวแล้วก็รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้ขึ้นมาจริงๆ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:49:19

ความคิดเห็นที่ 34 หลังจากลงจากยอดเขา ผมตามหาร้านอาหารที่มีเมนูซึ่งพี่ที่ทำงานผมแนะนำมาจากเมืองไทยว่าควรลองเมื่อมาถึงนอร์เวย์ สเต็กกวางเรนเดียร์ เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ผมเลยไม่ค่อยมีตัวเลือกมากนักแต่ในที่สุดก็เจอร้านนึงเข้าจนได้ รสชาติจะนุ่มกว่าเนื้อวัวมากแต่มีกลิ่นสาบอ่อนๆ มื้อนี้ผมยอมทุ่มทุนหมดไปเกือบ 450 NOK เลยทีเดียว จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:50:00

ความคิดเห็นที่ 35 ทริปนี้เหมือนทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี จนกระทั่งวันสุดท้าย ผมต้องเดินทางจาก Tromso – Oslo ด้วยสายการบิน SAS เวลาเครื่องออก 10:15 ถึง Oslo 12:05 จากนั้นจึงต่อการบินไทยกลับกรุงเทพ โดยเครื่องออกประมาณบ่าย 2 ผมมีเวลา Transit ประมาณ 2 ชม. ซึ่งน่าจะพอดีๆ แต่เนื่องจากผมบิน SAS ต่อการบินไทยเลยทำให้ไม่แน่ใจว่าผมสามารถ check through กระเป๋าได้หรือไม่ ผมจึงวางแผนไปสนามบินค่อนข้างเร็วเพื่อไปต่อรองเรื่องกระเป๋า จากเวลาของรถ shuttle bus ที่วิ่งเป็นรอบๆ มี 2 รอบที่ผมควรจะขึ้นคือ 7:15 กับ 8:35 ซึ่งจากตัวเมืองไปถึงสนามบินใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ด้วยความที่เป็นคนชอบไปก่อนเวลาพอสมควร ผมตัดใจไม่กินข้าวเช้า และรีบไปขึ้นรถรอบ 7:15 (ซึ่งคิดถูกเป็นอย่างมาก) Airport shuttle bus มาถึงสนามบินเวลา 7:30 แต่สนามบินเงียบมาก บน departure board ไม่ขึ้น flight ที่ผมจะต้องบิน ตายละวา!! มันเกิดอะไรขึ้น เดินไปที่ check in counter แล้วถามพนักงานว่า เอ..ทำไมบน departure board ไม่มี flight ของผมนะ เจ้าหน้าที่หันมาบอกผมว่า “นี่ยูไม่รู้เหรอ วันนี้เจ้าหน้าที่ รปภ. สนามบินเขาประท้วงทำให้งด flight จาก tromso ไป oslo ยูต้อง transfer ไปอีกสนามบินนะ นั่งรถไป 2 ชม. เดี๋ยวเราจะมีรถไปส่งให้ ส่วนตั๋วยูอ่ะ เนื่องจากยูจองคนละ booking code เราไม่สามารถ transfer กระเป๋ายูให้ได้ เพราะฉะนั้นยูต้องวิ่งไปหยิบกระเป๋าที่สานพานแล้วไป check in ใหม่ที่ Oslo นะ” เอาแล้วไง ซวยแล้วตู จะตกเครื่องกลับเมืองไทยไหมหว่า visa ก็หมดวันนี้ด้วย ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาพร้อมความกังวล ผมเดินไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินเตรียมไว้ บนรถมีคนแค่ 3 คนเท่านั้นและรออีกพักใหญ่กว่ารถจะออก รถบัสวิ่งลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบและฟยอร์ดแต่บอกตามตรงเวลานั้นผมไม่มีกระจิตกระใจจะดูอะไรเลย เพราะกังวลกับเรื่อง flight ของผม รถบัสแล่นมาจนถึงสนามบิน Bardufoss ซึ่งเป็นสนามบินเล็กมากๆ (มีอีกชื่อน่ารักๆว่า Snowman International Airport) อยู่ในค่ายทหาร เวลา 9:45 ผมรีบเอากระเป๋าไป drop แล้วรอด้วยใจระทึก เพราะผมยังมีอีก shot นึงที่ Oslo ต้องวิ่งเอากระเป๋าอีก จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:51:25

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อได้เวลา boarding ผู้โดยสารถูกเรียกให้ Board ได้ยินมาว่าบางคนตั๋วยังไม่สามารถออกเลขระบุที่นั่งได้ หรือบางคนก็ที่นั่งซ้ำ แต่ทุกคนที่มาทันก็ได้ขึ้น (เข้าใจว่ามีบางคนตกเครื่องเพราะ กัปตันรอประมาณ 15 นาทีถึงค่อยออก) เครื่องมาถึง Oslo ช้ากว่าแผนประมาณ 10 นาที ผมต้องไปนั่งรอกระเป๋าและ check in ใหม่ scan ตัวใหม่ โชคดีที่สนามบิน Oslo ไม่ใหญ่มากเลยยังพอมีเวลาเหลือนิดหน่อย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากผมไปสนามบินแบบ last minute ผมอาจจะตกเครื่อง ไม่ได้กลับเมืองไทย และคงมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกมากมาย เพราะฉะนั้น เราควรไปสนามบินแต่เนิ่นๆโดยเฉพาะที่ต่างประเทศ เพราะเราอาจจะเจออะไรไม่คาดหวังขึ้นครับ ขอจบทริปนอร์เวย์ไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ จากคุณ : yetdamon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 23:52:02

ความคิดเห็นที่ 37 ตามไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนด้วยคนค่ะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 03:02:55

ความคิดเห็นที่ 38 ตามมาเที่ยวชมด้วยคนค่ะ ขนาดเราอยู่สวีเดนยังไม่ได้ไปชมกับเค้าเลย จากคุณ : บัวบุษราคัม เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 05:08:38

ความคิดเห็นที่ 39 ขอตามมมไปด้วยคนนะครับ จากคุณ : vsjmu เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 07:23:43

ความคิดเห็นที่ 40 สวยมากเลยครับ จากคุณ : Nat_NM เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 07:48:39

ความคิดเห็นที่ 41 ขอตามไปเที่ยวต่อด้วยคนคะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 08:35:42

ความคิดเห็นที่ 42 น่าเที่ยวมากๆ จากคุณ : srininja เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 08:56:37

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากครับ อยากไปเที่ยวจัง ได้บรรยากาศจริง ๆ จากคุณ : พัดลมตัวเก่า เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 09:08:28

ความคิดเห็นที่ 44 Burger ใน คห 9 น่าทานมาก ๆ จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 09:22:38

ความคิดเห็นที่ 45 ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ^^ จากคุณ : ~criN~ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 10:52:41

ความคิดเห็นที่ 46 พระอาทิตย์เที่ยงคืน ความสวยงามของปรากฎการณ์ธรรมชาติ สวยจริงๆค่ะ จากคุณ : web_rung เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 12:31:44

ความคิดเห็นที่ 47 สวย  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 13:30:35

ความคิดเห็นที่ 48 อยากไปด้วยจัง   โลกนี้มีสิ่งเหลือฝันจริงๆ ขอบคุณที่นำมาให้ชมค่ะ จากคุณ : แสนตอ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 14:41:30

ความคิดเห็นที่ 49 สวยมากคะ พระอาทิตย์เที่ยงคืนนี้สวยจังเลยคะ สถาปัตยกรรมก็ดูแปลกตา ชอบมากคะ ขอบคุณนะคะที่นำมาให้ได้ชมกัน จากคุณ : ForasU เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 15:14:17

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวย ๆ ครับ จากคุณ : karn.cop 1 เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 16:26:22

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นแล้วคิดถึง... ว๊าว จากคุณ : WittyNakhon เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 20:34:13

ความคิดเห็นที่ 52 เคยมีโอกาสไปเยือนดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนเมื่อกว่าสิบปีมาแล้วค่ะ นอร์เวย์ยังสวย สงบ และมีเสน่ห์เหมือนเดิมเลย ตอนนั้นไปกับทัวร์ การเดินทางทุกอย่างดูง่ายไปหมด ตอนนี้ถ้าจะไปอีกครั้งอยากกลับไปเที่ยวด้วยตัวเองบ้าง ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่มีประโยชน์นะคะ เดี๋ยวจะตามกลับไปชมตอนแรกด้วยค่ะ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 16:49:56