ความคิดเห็นที่ 1 ออกเดินทางวันที่ 15 มิ.ย. 55 โดยสายการบินไทย TG622  23.30  ถึงญี่ปุ่นประมาณ 6.30 วันที่ 16 มิ.ย. ครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 12:09:22

ความคิดเห็นที่ 2 ถึงแล้วววว สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 12:18:31

ความคิดเห็นที่ 3 ตามไป เที่ยวด้วย คับ ^^ จากคุณ : Nonot เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 12:44:47

ความคิดเห็นที่ 4 รอชมจ้าา ตามไปเที่ยวด้วยคนนะ จากคุณ : passpill เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 12:51:47

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบรูทของ จขกท.คะ เราอยากหารีวิวที่แปลกใหม่ ที่ไม่ใช่เส้นทางยอดนิยม จะตามดูรีวิวนะคะ จากคุณ : คาการิ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 12:56:06

ความคิดเห็นที่ 6 ไปด้วยคนครับ จากคุณ : j-purcell เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 13:58:50

ความคิดเห็นที่ 7 ตามไปด้วยคนค่ะ จากคุณ : วาฟเฟิล เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 14:17:30

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท หายไปไหนเนี๊ยะ รอชมอยู่นะคะ จากคุณ : ForasU เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 14:19:28

ความคิดเห็นที่ 9 รอชมนะก๊าบบๆๆๆๆ จากคุณ : paipaiphuart เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 16:08:44

ความคิดเห็นที่ 10 กลับมาแล้วครับ... ขอโทษทุกท่านที่ปล่อยให้รอ พอดีวันนี้ทำงานครึ่งวัน เค้ากลับบ้านกันหมดเราก็เลยต้องกลับด้วย มาต่อกันเลยนะครับ พอถึงสนามบินต้องรีบเอาตั๋ว JR KANSAI AREA PASS แบบ 4 วันไปขึ้นเป็นตั๋วจริงก่อนกลับ (ซื้อจาก COMPAXWORLD เจ้าเก่า) จริง ๆ แล้วเที่ยวเกียวโตแค่ 2 วันครับ แต่คำนวณแล้วถ้าไม่ซื้อก็เสียพอ ๆ กัน เลยลองเสี่ยงซื้อไปใช้ดูครับ เผื่อเดินทางไปไหนนอกโปรแกรม อาจจะประหยัดขึ้นอีก เตรียมเดินทางเข้าสู่เมืองเกียวโตกันครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 20:22:42

ความคิดเห็นที่ 11 เซ็งเลยรูปตอนเดินทางอยู่ในกล้องอีกกล้องที่ออฟฟิตไม่ได้เอากลับมาด้วย เดี๋ยวค่อยมาเพิ่มทีหลังแล้วกันนะครับ ถึงสถานีรถไฟเกียวโตเรียบร้อย รีบเอาของไปฝากที่โรงแรมก่อนครับ รร.ที่จองไว้สำหรับคืนนี้คือ MIYAKO HOTEL KYOTO อยู่ข้าง ๆ สถานีรถไฟนี่เอง สะดวกดีครับ พอเอากระเป๋าไปฝากแล้วสบายไปเลย เบาไปเยอะครับ เที่ยวกันสนุกแหละที่นี้... ลืมถ่ายรูปมาครับ ต้องขอยืมรูปจากเวปโรงแรมมาประกอบ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 20:29:48

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านรีวิวจาก Pantip มาเยอะ (ต้องขอบคุณทุกท่านที่มาีรีวิวการเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ) จากข้อมูลการเที่ยวเมืองเกียวโต ถ้าให้ประหยัดต้องใช้บัตรนั่งรถเมลของเมืองเกียวโต ท่ารถเมล์กับที่ซื้อบัตรก็อยู่ข้าง ๆ สถานีรถไฟโตเกียวนี่เอง บัตรที่ซื้อคือ Kyoto Sightseeing Two-day  Pass ราคา 2000Y ครับ บัตรนี้ใช้นั่งได้ทั้งรถเมล์ + รถไฟใต้ดินในเขตเมืองเกียวโต 2 วันครับ สรุปที่ซื้อมาก็คุ้ม ลองคำนวณดูแล้ว เที่ยว 2 วัน ถ้าจ่ายเงินคงประมาณ 2500Y ครับ ภาพประกอบก็ต้องยืมเค้ามาเหมือนเดิมครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 20:46:05

ความคิดเห็นที่ 13 บัตรเดินทางพร้อม ...สัมภาระไปฝากเรียบร้อยพร้อมเดินทางไปเที่ยวสถานที่แรกกันครับ >>>> จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 20:47:18

ความคิดเห็นที่ 14 วิธีการขึ้นรถเมล์คือขึ้นที่ประตูหลัง แล้วลงประตูหน้านะครับ วิธีการจ่ายเงิน... จ่ายตอนลงครับ หยอดเงินลงตู้ข้าง ๆ คนขับ ถ้าเป็นเหรียญ 1000Y หรือเตรียมเงินพอดีจะสะดวกมาก ๆ ครับ >>>สำหรับท่านที่ซื้อบัตรนั่งรถเมล์มา ก็เอาเสียบลงไปในเครื่องจ่ายเงินตอนลงครับ หรือจะโชว์บัตรก็ได้ไม่ต้องเสียบ (สำหรับรถสายท่องเที่ยวรอบเกียวโต) ภาพประกอบยืมเค้ามาเหมือนเดิมครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 55 20:54:09 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 20:53:32

ความคิดเห็นที่ 15 สถานที่เที่ยวแรกของวันนี้คือ... วัดเงิน (ศาลาเงิน) : Ginkakuji Temple นั่งรถบัสสาย 5 , 17 , 100 จากสถานีรถไฟเกียวโต ลงที่ป้าย Ginkakuji-michi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร ครับ วัดนี้เสียค่าเข้าชมนะครับ..แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ***ในญี่ปุ่น ถ้าเป็นวัดจะเสียค่าเข้าชมทั้งหมดครับ (Temple) แต่ถ้าเป็นพวกศาลเจ้า จะเข้าชมได้ฟรีนะครับ ไม่เสียค่าเข้าใด ๆ (Shrine) จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:01:19

ความคิดเห็นที่ 16 วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดพลับพลาเงิน (Silver Pavilion) สร้างโดยโชกุนโยชิมาสะ อาชิคางะ (Ashikaga Yoshimasa) เมื่อปี พ.ศ. 2025 ตั้งใจจะห่อพลับพลาด้วยเงินทั้งหลัง ให้คู่กับวัดพลับพลาทองคินคะคิจิ (Kinkakuji) ที่สร้างเสร็จแล้วทางตอนเหนือของเกียวโต แต่ท่าน ได้มาเสียชีวิตก่อนที่วัดจะได้ทำการหุ้มด้วยเงินในปี พ.ศ.2033 จนปัจจุบันก็ยังไม่ได้หุ้มเงินเลยแม้แต่แผ่นเดียว พลับพลาที่เห็นจึงเป็นสีน้ำตาลเข้มตามสีของไม้ที่นำมาก่อสร้าง บนหลังคามีรูปนกฟินิกซ์ทำจากสำริด ที่มาของข้อมูล : http://www.dozojapan.com จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:06:34

ความคิดเห็นที่ 17 บรรยากาศในวัดร่มรื่นมาก ๆ ชุ่มช่ำกับฝนที่ปรอย ๆ เล็กน้อย เดือนที่ไปเป็นต้น ๆ ของฤดูร้อนครับ อากาศกำลังสบาย ๆ ยังไม่ี้ีร้อนมาก ตอนแรกวางแผนว่าจะไปเดือน ส.ค. แต่จากการสอบถามข้อมูลจากบริษัทท่องเที่ยว เค้าแจ้งว่าเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดครับ ร้อนมาก ๆ ไม่แนะนำ แถมถ้าไปในช่วงวันแม่ เป็นช่วงวันหยุดกลับบ้านของคนญี่ปุ่น รถจะติด แถมที่เที่ยวคนก็จะเยอะมาก ก็เลยตกลงไปในเดือน มิ.ย. นี้แหละครับ เขียวชะอุ่มไปหมดเลย เจอต้นเมเปิ้ลสีแดงบ้าง ตอนแรกคิดว่าเจอใบไม้เปลี่ยนสี ที่ไหนได้ มันเป็นเมเปิ้ลพันธุ์ใบสีแดงครับ มันจะแดงตลอด ยิ่งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมันจะแดง ๆ มากๆๆๆๆ เลยครับ สวนที่นี่สวยจริง ๆ มันดูแล้วสบายตา สบายใจมาก ๆ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:14:02

ความคิดเห็นที่ 18 อีกมุมของสวนทรายในวัดเงินครับ กว้างใหญ่มาก ๆ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:17:21

ความคิดเห็นที่ 19 อีกหนึ่งจุดชมวิวมุมสูงในวัด มองเห็นวิวเมืองเกียวโตครับ สวยดี จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:27:47

ความคิดเห็นที่ 20 จริง ๆ แล้ววัดนี้สวยมาก ๆ ครับ ที่แรกอะไร ๆ มันก็สวยงามไปหมด เห็นโน่นก็ดี นี่ก็สวย มีภาพสวย ๆ เยอะเลย แต่พอแ่ค่นี้ก่อนดีกว่าครับ เตรียมไปเที่ยวต่อที่อื่นกันเุถอะ จุดที่ว่าก็อยู่ข้าง ๆ วัดเงินนี่เอง... จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:36:43

ความคิดเห็นที่ 21 ออกเดินทางสู่จุดท่องเที่ยวอีกแห่งของเกียวโต ใครอ่านรีวิวท่องเที่ยวใน Pantip คงจะรู้จักกันมาบ้าง...กับถนนสายนักปราชญ์ บางคนก็เรียกว่า เส้นทางทางปรัชญา อันนี้ก็แล้วแต่จะเรียกกันครับ ส่วนใหญ่เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดินชมซากุระที่งดงามกันเลยทีเดียว แต่ฤดูที่มานี้ไม่มีดอกซากุระหลงเหลือให้ชมแล้วครับ แต่เส้นทางนี้ก็ยัง งดงามในตามฤดูของมันอยู่ดี มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า "tetsugaku no michi" ระยะทางการเดินประมาณ 2 กม. ครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:45:23

ความคิดเห็นที่ 22 เดินได้ซักกิโล ฝนที่ปรอย ๆ เล็กน้อย...ก็เกิดหนักขึ้นมา ร่มที่เตรียมมาก็คันนิดเดียว จุดนี้เลยไม่ค่อยได้รูปเท่าไหร่ ตามทางเดินเป็นบ้านเรือนของคนญี่ปุ่นครับ มีปลูกดอกไม้อะไรไปเรื่อย ในคูน้ำก็มีปลาว่ายไปมา ผมยังหยุดดูปลาตั้งนาน ไม่แน่ใจว่าเป็นปลาคราฟหรือเปล่า เพราะดูมันตัวสั้น พุงป่อง ๆ น่ารักดี เหมือนเราเดินดูบ้างเมืองเค้าน่ะครับ เพลิน ๆ ไปอีกแบบ (ถ้าฝนไม่ตกหนัก) จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:49:39

ความคิดเห็นที่ 23 ลืมข้อมูลครับ : Tetsugaku no michi (哲学の道、てつがくのみち) หรือถนนสายนักปราชญ์ เป็นทางเดินเลียบคูน้ำทอดยาวระหว่าง Nyakuouji-bashi (若王子橋、にゃくおうじばし) ถึงวัดเงิน (Ginkakuji, 銀閣寺、ぎんかくじ) ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีชื่อเสียงด้านการชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ที่เรียกกันว่าเส้นทางนักปราชญ์ ก็เพราะว่าเป็นเส้นทางเดินประจำของนักปราชญ์ชื่อดังท่านหนึ่งของญี่ปุ่น "Nishida Kitaro" ที่ใช้เส้นทางนี้ทำสมาธิระหว่างเดินไปมหาวิทยาลัยเกียวโตทุกๆวัน ขอบคุณที่มาของข้อมูล : http://japanryokou.wordpress.com/ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 21:52:20

ความคิดเห็นที่ 24 เที่ยวต่อกันครับ...สถานที่ต่อไปนี้ไม่ได้วางแผนจะมา แต่พอดีจะหาที่หลบฝนครับ พอเข้าไปปุ๊ปฝนซาทันที เหมือนถูกฝนไล่ให้เข้ามาชมครับ แต่เพิ่งมารู้ที่หลังว่าที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวย อีกแห่งของเมืองเกียวโตเลยครับ กับ Eikando Zenrinji  Temple หรือวัดเซ็นรินจิ แค่ดูผ่าน ๆ ก็เห็นต้นเมเปิ้ลเต็มวัดเลยครับ นี่ถ้าเป็นในฤดูใบไม้่เปลี่ยนสี มันคงสวยกว่านี้มากมายหลายเท่า วัดนี้อยู่สุดทางเดินของถนนสายนักปราชญ์ครับ ใครไปเส้นนี้ห้ามพลาดเข้าชมโดยเด็ดขาด!! จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:01:02

ความคิดเห็นที่ 25 Eikando temple เป็นวัดเซนในเกียวโตที่มีความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี จนได้ชื่อว่า “Eikando in Maple Leaves” เนื่องจากภายในวัดเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล ภาพคงเล่าความสวยงามได้่ไม่มากเท่าตาเห็น แต่ยอมรับว่าเป็นวัดสวย ๆ อีกแห่งที่น่าไปมาก ๆ ครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:03:47

ความคิดเห็นที่ 26 แค่ทางเข้าก็อุดมไปด้วยต้นเมเปิ้ลแ้ล้วล่ะครับ คิดดูถ้าในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มันคงแดงไปหมดแน่ ๆ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:10:00

ความคิดเห็นที่ 27 บันไดเดินชมจุดต่าง ๆ ในวัด ดูคดเคี้ยวแปลกตา สรุปใช้เวลาชมอยู่ในวัดนี้นานพอสมควรเลยล่ะครับ สวยๆๆๆๆๆ แนะนำให้มากันให้ได้นะครับ สำหรับคนที่จะมาเที่ยวเกียวโต แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 55 22:14:49 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:14:04

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพสุดท้ายกับที่นี่ครับ ถ้าโพสต่อสงสัยไม่ได้ไปที่อื่นกันพอดี เตรียมเที่ยวต่อกันเุถอะครับ... พอเีิริ่มเดินออกจากวัดฝนก็ทำท่าจะตกหนักอีกครั้ง...อยู่ญี่ปุ่นต้องทำใจครับ ฝนตกมันเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ตกมันได้ทุกฤดู บางทีตกแป๊ปเดียวก็หยุด บางทีก็ตกยาว ถ้าหยุดหลบฝนก็ไม่ได้เที่ยวครับ ...งั้นเดินทางกันต่อดีกว่า แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 55 22:22:06 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:20:13

ความคิดเห็นที่ 29 สถานีต่อไป...ศาลเจ้าเฮอันครับ (Heian Shirne) ที่นี่ตั้งใจมามาก เพราะดูจากรูปคนอื่น ๆ มันสวยน่ามามาก พอมาถึง..จุดที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ เสาโทริอิต้นใหญ่ครับ ถ้าเห็นต้นนี้เมื่อไหร่แสดงว่าถึงศาลเจ้าเฮอันแล้วครับ ที่นี่เข้าชมได้โดยไม่เสียเงิน แต่บางจุดเค้าห้ามถ่ายรูปนะครับ (บนศาลเจ้า) เว้นตรงสวนญี่ปุ่นที่ใหญ่มาก ๆ ต้องเสียค่าเข้า ...แต่ทริปนี้ไม่ได้เข้าชมสวนครับ เพราะฝนกำลังตกหนักมาก ๆ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:28:34

ความคิดเห็นที่ 30 ฝนกำลังตกหนักเลยครับ ...ต้องหาที่หลบฝนถ่ายรูป มุมสวย ๆ อาจจะไม่ค่อยได้ แต่ศาลเจ้านี้ใหญ่มาก ๆ ครับ สวยงามเหมือนกับที่เคยเห็นในภาพจริงๆ นี่ถ้าฝนไม่ตกคงใช้เวลาที่นี่นานแน่ อ่านข้อมูลมาเค้าแนะนำว่าสวนญี่ปุ่นที่นี่สวยมาก ๆ แต่ตอนฝนตกหนัก ๆ แบบนี้คงจะเดินไม่สะดวก ถ้ามีโอกาสคงได้มาอีก... มาดูข้อมูลกันนิดครับ.. ศาลเจ้าเฮอันหรือศาลเจ้าเฮอันจิงงุ (HEIAN SHRINE) 平安神宮 ศาลเจ้าเฮอันสร้างในปี 1895 เนื่องในโอกาสที่นครเกียวโตมีอายุครบ 1,100 ปี โดยอุทิศถวายแด่จักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต ตัวศาลเจ้าถอดแบบมาจากพระราชวังหลวงที่สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 794 และวอดลงเพราะอัคคีภัยในปี 1227 เป็นสถาปัตยกรรมแบบเฮอันซึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน ศาลเจ้าในลัทธิชินโตก็เปลี่ยนมาสร้างตามแบบวัดในพุทธศาสนา จากที่เคยทิ้งเนื้อไม้ไว้ให้มีสีตามธรรมชาติก็หันมาทาสีเป็นครั้งแรกเมื่อก้าวผ่านประตูศาลเจ้าเข้าไป จะพบภาพจำลองของพระราชวังโบราณที่ย่อส่วนลงมาเหลือสองในสาม มีลานหินกรวดสีขาวอันกว้างขวางทอดตรงไปยังวิหารใหญ่ไดโงะคุเด็ง (ถ้าเป็นวังจริงๆ นี่ก็คือที่ว่าราชการทั้งหลายทั้งปวง) ซึ่งมีเจดีย์พยัคฆ์ขาวขนาบอยู่ทางตะวันออกและตะวันตก ประตูด้านซ้ายของวิหารจะเปิดออกสู่สวนแบบเฮอันที่ออกแบบมาให้ใช้ล่องเรือและเดินเล่นได้ด้วยสะพานแบบจีน บึงน้ำใสและบันไดมังกรหิน ขอบคุณที่มาของข้อมูล : http://www.meetawee.com แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 55 22:54:34 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 22:53:08

ความคิดเห็นที่ 31 บนศาลเจ้านี้ ขึ้นไปข้างบนเค้าห้ามถ่ายรูปนะครับ ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน แต่กำลังจะถ่ายแล้วเค้ามาห้ามครับ (มีป้ายบอกแต่ตอนแรกไม่เห็นครับ) ยืนหลบฝนอยู่ในศาลเจ้าซักพัก ก็เตรียมออกเดินทางเที่ยวกันต่อครับ ยังมีอีกหลายที่ก่อนเข้าโรงแรมวันนี้ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 23:02:04

ความคิดเห็นที่ 32 สถานที่ต่อไป... จุดนี้ไม่ได้ตั้งใจมาแต่แรก พอดีนั่งรถผ่าน เห็นใหญ่ ๆ น่าสนใจเลยลงจากรถเลยครับ พอมาอ่านป้ายถึงรู้ว่าเป็นปราสาทสำคัญของเมืองเกียวโตนี่เอง กับ Nijo Castle ที่ลงจากรถจริง ๆ เพราะว่าเห็นฝนเริ่มซาลงแล้วล่ะครับ น่าจะเดินเที่ยวได้่ มาถึงแล้วก็เข้าชมกันเลยดีกว่า ที่นี่เสียค่าเข้าชมด้วยนะครับ ตอนที่ไปเหมือนกำลังซ่อมแซมหรือก่อสร้างอะไรอยู่ แต่ตัวปราสาทเปิดให้เข้าชมปกติครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 23:10:32

ความคิดเห็นที่ 33 ตัวปราสาทนิโจครับ หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่... เวลาเดินในปราสาทจะมีเสียงเหมือนนกไนติงเกล มีจริิง ๆ ครับ มันเป็นเสียงสีกันของไม้ ยิ่งคนตัวใหญ่เดินเสียงนกยิ่งดังครับ แปลกดี เค้าว่าสมัยก่อนเพื่อป้องกันโชกุนถูกปองร้าย เลยต้องทำให้พื้นที่เดินมีเสียง จะได้รู้ว่ามีใครเดินไปเดินมาในปราสาทครับ มาดูข้อมูลกันนิดครับ.. ปราสาทนิโจ Nijojo ตั้งอยู่ใจกลางเกียวโต สามารถไปท่องเที่ยวได้ง่าย  สร้างโดย เอโดะ โชกุนาเตะ Edo Shogunate ในปี พศ 2112 แต่มาแล้วเสร็จในสมัยของท่านโชกุน โทกุกาว่า อิเอยะสุ Tokugawa Ieyasu ขึ้นมามีอำนาจในปี พ.ศ. 2146 ใช้เป็นที่พำนักและสถานที่ราชการ จนเข้าสู่ยุคปฏิรูปเมจิ จักรพรรดิกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ปราสาทแห่งนี้จึงกลายเป็นที่ตั้งของรัฐบาลหลังจากที่จักรพรรดิทรงประกาศยกเลิกอำนาจของโชกุนในปี พ.ศ. 2410 ปราสาทนิโจมีความแตกต่างจากปราสาทอื่นๆคือตัวปราสาทจะเป็นท้องพระโรงชั้นเดียวที่ตกแต่งด้วยการปิดทองวิจิตรบรรจง ทั้งที่ในอดีตเคยเป็นปราสาท 5 ชั้น แต่ก็ถูกไฟไหม้เสียก่อน การบูรณะครั้งต่อมาเหลือชั้นเดียวให้เห็น ระเบียงที่เชื่อมกับตัวตำหนักส่วนในทำด้วยพื้นไม้ เวลามีคนเดินผ่านไปมาเสียงเสียดสีของไม้คล้ายเสียงของนกไนติงเกล ทำให้ท่านโชกุนรุ็ว่ามีคนเข้าพบ จึงเรียกพื้นตรงนี้ว่า Nightingale floor แต่ในปัจจุบันนี้ถ้าไปเดินเสียงก็จะเพี้ยนไปมากไม่เหมือนกับเสียงนกในอดีตอีกแล้ว   ภายในปราสาทมีหุ่นจำลองเหล่าขุนนางกำหลังแสดงความเคารพท่านโชกุนอยู่ และนางสนมที่เคยปรนนิบัติรับใช้ท่านโชกุนในห้องต่างๆ ภาพวาดแกะสลักต่างๆก็สามารถชมจากที่นี่ได้ แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ ที่มาของข้อมูล : http://www.japantoday.in.th จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 23:17:48

ความคิดเห็นที่ 34 วันนี้หยุดแค่นี้ก่อนนะครับ.. ไม่ไหวแล้วตาจะหลับ ขอตัวไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อกัน ...ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 23:19:30

ความคิดเห็นที่ 35 รอไปเที่ยวฮอกไกโดจ้า จากคุณ : kunzen เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 23:51:07

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากสำหรับกระทู้รีวิวสวยๆ นะคะ จากคุณ : angela เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 08:11:33

ความคิดเห็นที่ 37 รอฮอกไกโดเช่นกันครับ ^^ จากคุณ : be lonely เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 12:40:29

ความคิดเห็นที่ 38 ได้เวลามาต่อแล้วครับ...ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามชม.. ส่วนท่านที่รอดูรีวิวฮอกไกโด รออีกนิดนะครับ ขอรีวิวเมืองเกียวโตก่อน เริ่มต้นการรีวิววันนี้กับสวนญี่ปุ่นสวย ๆ ในปราสาทนิโจครับ ฝนยังตกพรำๆ อยู่ แต่ก็เดินได้สบายๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 55 13:07:28 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:07:00

ความคิดเห็นที่ 39 สวนญี่ปุ่นในปราสาทนิโจ ดูใหญ่มาก ๆ ครับ เค้าว่าการชมสวนในปราสาทนิโจ ช่วงที่สวยที่สุดคือในฤดูการชมดอกซากุระ เพราะในส่วนแห่งนี้มีต้นซากุระพันธุ์ที่ดอกซากุระจะห้อยลงมาเป็นช่อ ๆ เหมือนช่อดอกไม้ ส่วนในฤดูที่มานี้ เรามาชมความเขียวชะอุ่มก็ต้นไม้ใบไม้กันครับ ก็ดูสนชื่นไปอีกแบบ เตรียมออกเดินทางไปเที่ยวต่อกันครับ... แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 55 13:13:34 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:12:26

ความคิดเห็นที่ 40 สถานที่ต่อไป...รู้สึกว่าจะเป็นวัดดังของเมืองเกียวโต เหมือนใครมาเกียวโต ยังไงก็ต้องแวะมาวัดนี้ เหมือนเป็นประตูเข้าเมืองของเกียวโตไปแล้ว (ตามความรู้สึกของผม) กับ..วัดคิโยะมิสึ หรือวัดน้ำใส ที่ทุกท่านรู้จักนี่เอง วัดคิโยะมิสึ ตั้งอยู่บนเนินเขา ฮิงายาม่า เรานั้งรถมาลงที่ป่าย kiyomizu-michi แล้วต้องเดินขึ้นไปที่วัด ประมาณ 500 เมตร (เหมือนเดินขึ้นเขาเลย) แต่สองข้างทางที่เดินขึ้นไป เต็มไปด้วยร้านขายของ ขนม รู้สึกว่าเค้าจะเรียก ถนนที่เดินขึ้นวัดนี้ว่า ถนนสายกาน้ำชา นะครับ เค้าว่าสมัยก่อน ถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านขายพวกเครื่องปั้นดินเขา กาน้ำ ถ้วยน้ำ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แต่น้อยลงเยอะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของที่ระลึกหรือขนมมากกว่า แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 55 13:25:24 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:24:25

ความคิดเห็นที่ 41 จุดที่มองเห็นวัดคิโยะมิสึ จากไกลๆน่าจะเป็น เจดีย์ 3 ชั้น หลังนี้ครับ  เจดีย์ 3 ชั้นหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ชื่อว่าเจดีย์ชื่อว่าซันจุโนโตะ อ่านข้อมูลกันนิดครับ... วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera)  หรือเรียกว่าวัดน้ำใสตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงายามา  สาเหตุที่เรียกว่า "วัดน้ำใส" ก็เนื่องมาจากมีน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำ 3 สาย ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไหลมาจากเทือกเขา สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 788 (สมัยนาระ ประมาณปี พ.ศ.1321)  เพื่อถวายแด่พระโพธิสัตว์กวนอิม 11 พักต์  หรือสร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น  วัดคิโยมิสึถือเป็นเป็นมรดกโลกอันเก่าแก่กว่า 1500 ปี จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:33:39

ความคิดเห็นที่ 42 อีกหนึ่งจุดสำคัญของวัดนี้ คือการดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย เป็นน้ำธรรมชาติไหลลงมาจากยอดเขา..โดยมีความเชื่อว่า น้ำสายที่ 1 ถ้าใครได้ดื่มจะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา น้ำสายที่ 2 จะสมหวังในความรัก น้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง วิธีที่ง่ายที่สุดคือ เอากระบวยรองน้ำทั้ง 3 สาย แล้วดื่มทีเดียว (อันนี้มีคนแนะนำ) เพราะกระบวยตักน้ำมันยาวมากครับ ตักแต่ละสาย ไม่ได้ง่ายเลย จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:40:25

ความคิดเห็นที่ 43 ภายในวัดยังมีศาลเจ้าอีกครับ ชื่อว่า..ศาลเจ้าจิชู สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพ โอคุนินุชิโนะ มิโคโตะ (Okuninushino Mikoto) เทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ภายในศาลเจ้ามี "ก้อนหินแห่งความรัก" 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร เชื่อกันว่า หากสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้ จะสมปรารถนาในความรัก มีความรักที่มั่นคง ยั่งยืนนานครับ ใครไปถึงศาลเจ้าลองทดสอบดูได้ครับ มีวัยรุ่นญี่ปุ่นไปลองเสี่ยงทายกันเยอะเลย จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:46:37

ความคิดเห็นที่ 44 อีกซักรูปกับระเบียงไม้ วัดคิโยะมิสึ ใครมาถึงก็ต้องมาถ่ายระเบียงนี้ ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของวัดนี้จริง ๆ ครับ  ระเบียงไม้ของศาลาหลังใหญ่ สร้างด้วยไม้ล้วน ๆ ประกอบด้วยไม้ ไม่มีตะปูซักดอกครับ เตรียมออกเดินทางไปเที่ยวต่อกันเถอะครับ... จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 13:52:15

ความคิดเห็นที่ 45 เดินทางออกจากวัด รู้สึกเหนื่อย & เมื่อยมาก แต่ยังเหลือสถานที่ที่อยากไปอีก 2 ที่ของวันนี้ก่อนกลับ โรงแรม หันไปเจอตัวช่วยอยู่ข้างทางพอดี เห็นมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสนั่งซะที ลองเข้าไปถามราคาดู  เค้าคิดเป็นนาทีครับ 10 นาที 3000Y / 20 นาที 6000Y / 30 นาที 8000Y คิดเรทเงินดูแล้วก็สูงเอาเรื่อง ...แต่คิดว่าเมื่อยก็เมื่อย เหนื่อยก็เหนื่อย แถมได้ประสบการณ์นั่งรถลาก ชมเมืองซักครั้งในญี่ป่น  คอสที่นั่งเป็นแบบ 20 นาที ขึ้นจากหน้าวัดคิโยะมิสึ - พาชมย่านกิออน - สุดทางที่ศาลเจ้ายาซากะ ตามกันขึ้นรถมาเลยครับ... จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:05:11

ความคิดเห็นที่ 46 จะว่าไปอาชีพแบบนี้ก็ทำเงินดีนะครับ วันนึงคงทำเงินได้หลายหมื่นเยน รวยไปเลย นั่งไปคนลากก็ชวนคุยไปเรื่อย (ภาษาอังกฤษ) ถามว่าคนไทยใช่ไหม อาหารไทยอร่อยนะ เมืองไทยสวยมาก ๆ ไอ้เราก็ไมอยากคุยหรอก เพราะฟังเค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง เค้าพยายามลากเลี่ยงถนนครับ พาเข้า ซอยโน้น ออกซอยนี้ พอเจอถนน เจอรถติดก็ต้องติดตามไปด้วย ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ...ถ้าไม่ได้นั่ง ก็ไม่ได้นั่งซะทีครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 55 14:13:47 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:12:28

ความคิดเห็นที่ 47 สนุกไปอีกแบบครับ ผ่านถนนที่อยู่ตามซอยเล็ก ซอยน้อย ก็แปลกตาดี สุดท้ายเค้าก็พาไปส่งย่านกิอง ครับ ใกล้ ๆ กับศาลเจ้ายาซากะ 2 สถานที่นี้เป็น 2 จุดสุดท้ายของวันนี้ที่โปรแกรมไว้ว่าจะมาครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:23:14

ความคิดเห็นที่ 48 พอรถลากจอดส่ง...ก็เดินเที่ยวกันต่อเลยครับ ย่านกิอง ถือว่าเป็นย่านเมืองเก่าของเกียวโต ที่เค้ายังอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมไว้ ย่านนี้อุดมไปด้วยร้านอาหาร ร้านเหล้า เค้าว่ามาเดินย่านนี้มักจะเจอกับไมโกะ หรือถ้าโชคดีจะเจอกับเกอิชา เราก็พยายามเดินรีรอ อยู่ตั้งนานหวังว่าจะเจอกับสาว ๆ หน้าขาว ๆ บ้างแต่ก็ไม่ หรือว่าอาจจะเป็นเพราะฝนที่กำลังตกปรอย...เลยทำให้เราไม่เจอกัน จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:34:30

ความคิดเห็นที่ 49 บ้านเมืองเก่า ๆ ในย่านกิอง ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ร้านเหล้าครับ งานนี้ไม่ขอเข้า แต่ขอเดินชมแบบชิว ชิว ดีกว่า.. เพราะดูแล้วส่วนใหญ่เหมือนร้านยังไม่เปิดกันเลย จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:38:49

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาเที่ยวต่อคะ กระทู้ยาวอย่างนี้ กลัวหายคะ ถ้าออกจากเกียวโตไปที่อื่น รบกวนแตกประเด็น ตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่าไหมคะ จากคุณ : ForasU เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:40:36

ความคิดเห็นที่ 51 พยายามดักรอสาวหน้าขาวตามจุดต่าง ๆ ก็ไม่มีแววว่าจะปรากฎตัวมาให้เห็น สงสัยว่าสาวหน้าขาวกลัวฝนกันหรือเปล่าไม่รู้... จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:42:45

ความคิดเห็นที่ 52 @ ForasU // ได้ครับ จะรีวิวไว้เป็นวัน ๆ แต่ตอนนี้ 2 วันแรกยังไม่เสร็จเลย ขอบคุณครับที่ติดตาม จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:44:23

ความคิดเห็นที่ 53 ภาพสุดท้ายของย่านกิอง กับจุดยอดนิยมทีทุกคนต้องมาถ่ายรูปตรง เพราะงั้นเราก็ไม่พลาดเหมือนกัน ขอโชว์ร่างกายกันอวบหน่อยเถอะ 5555 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:52:33

ความคิดเห็นที่ 54 ขนาดฝนตกยังสวย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : พี่หนูนิด เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:58:44

ความคิดเห็นที่ 55 เดินทางกันต่อครับ...กับสถานนี่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้ อยู่ใกล้ ๆ กับย่านกิอง เดินออกมานิดเดียวก็เจอแล้วครับ กับศาลเจ้ายาซากะ ศาลเจ้านี้เค้าว่าคนส่วนใหญ่มาขอพรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพกันครับ แล้วก็ไฮไลท์ของที่นี่คือ โคมไฟที่เรียงรายกันเป็นแถว ๆ ดูจากภาพแล้วสวยงามดี ก็เลยตั้งใจว่าจะมาดูของจริงครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 14:59:24

ความคิดเห็นที่ 56 ประตูเข้าศาลเจ้ายาซากะ เห็นเด่นเป็นสง่า แถว ๆ ย่านกิองครับ ใครจะมาที่นี่คงไม่เข้าศาลเจ้าผิดแน่ ๆ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 15:03:51

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาในบริเวณศาลเจ้า ดูเงียบมาก ๆ ครับ แทบไม่มีคนเดินเลย อาจจะเป็นเพราะดึกแล้วด้วย แต่จากที่อ่านข้อมูลมา เค้าว่าศาลาที่มีโคมไฟเป็นแถว ๆ จะเริ่มเปิดตอน 18.30 น. ตอนนี้ก็ 18.30 น. พอดี แต่ทำไมไม่ค่อยมีคนเลย นี่ถ้ามาคนเดียวคงคิดเหมือนกันว่าจะเดินดีหรือเปล่า ตามทางเดินจะมีเสาโคมไฟแบบที่เห็นในภาพครับ สวยดี จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 15:09:44

ความคิดเห็นที่ 58 ถึงแล้วครับ ศาลาที่มีโคมไฟเป็นแถว ๆ รอบ ๆ ศาลาพอมีคนนั่งชมอยู่บ้าง ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ครับ ดูแปลกตาดี ไม่ได้เข้าไปขอพรอะไรด้วยเพราะว่าไม่รู้จะไปทำตรงไหน ไม่มีใครอยู่ให้ทำตาม หรือแนะนำเลยครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 15:14:59

ความคิดเห็นที่ 59 นั่งกินบรรยากาศอยู่ซักพัก ดูนาฬิกาแล้วทุ่มครึ่งกว่า ๆ ได้เลยเดินทางกลับที่พักแล้วครับ เหนื่อยล้า อ่อนแรง เป็นที่สุด อยากนอนพักเป็นอย่างมาก ดีนะที่เอาสัมภาระไปฝากก่อน ถ้าหอบมันเดินทางมาเที่ยวด้วย คงกลับโรงแรมตั้งแต่บ่าย ๆ แล้วล่ะครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 15:18:58

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณที่รีวิวให้ชมครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 18:32:38

ความคิดเห็นที่ 61 ขออนุญาตมาต่อพรุ่งนี้นะครับ ไม่มีรูปประกอบเพิ่ม เลยรีวิวไม่ค่อยสนุก (รูปอยู่ที่ออฟฟิต) ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับ จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 20:22:13

ความคิดเห็นที่ 62 รอติดตามค่ะ  ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Ebony เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 14:57:27

ความคิดเห็นที่ 63 มาต่อแล้วครับ..ขอโทษที่ปล่อยให้ผู้ติดตามรอนาน หลักจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางท่องเที่ยวมาทั้งวัน เราก็กลับเข้ามาพักที่ โรงแรมที่เราเอาของมาฝากกันครับ กับโรงแรมคืนแรก New Mikayo Hotel (Kyoto) อยู่ข้างๆ สถานีรถไฟเกียวโตนี่เอง หลังจาก Check In เข้าห้องเรียบร้อย เอาของไปเก็บ เอากล้องไปชาร์ตแบท เราก็ลงมาหาอะไรกินด้านล่างครับ ตอนนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะแบตกล้องหมดทุกตัว เดินลงมาหาอะไรกินตัวเปล่าครับ ออกมาจากหน้าโรงแรม เดินข้ามถนนเข้าไปในสถานีรถไฟ มีร้านอาหารให้เลือกกินมากมาย ใครอยากกินอะไรก็ดูโมเดลอาหารหน้าร้าน แล้วเข้าไปสั่งได้เลยครับ สำหรับผม ได้กินพิซซ่าญี่ปุ่น (Okonomi Yaki - お好み焼き) ก็อร่อยถูกปากดีครับ ตามด้วยเบียร์อาซาฮี ซักแก้ว หลับสบายไปเลยสำหรับคืนนี้ เดี๋ยววันต่อไปขอแตกไปกระทู้ใหม่นะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 55 16:56:29 จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 16:55:13

ความคิดเห็นที่ 64 เกียวโตวันที่ 2 แตกไปกระทู้นี้ครับ ติดตามกันต่อได้.. http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12381666/E12381666.html จากคุณ : yakdon เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 17:05:37

ความคิดเห็นที่ 65 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : รักษ์กั่วป่า เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 18:48:08

ความคิดเห็นที่ 66 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ ตอนนี้วางแผนทริปอยู่ค่ะ อยากไปฮอกไกโดหลายที่เหมือนกันค่ะ (แต่ได้ไม่กี่ที่อ่ะค่ะ เวลาน้อย) ขอดูรีวิวจขกท.เป็นแนวทางค่ะ จากคุณ : Everything_Is_Illuminated เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 23:47:18