 |
ความรู้สึกของผมกับการโดยสารการบินไทยในแต่ละครั้งบนเส้นทางบินระหว่างประเทศ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านครับ ยิ่งถ้าเป็นเที่ยวกลับจากปลายทางสู่กรุงเทพฯ ผมจะรู้สึกได้ทันทีเมื่อก้าวพ้นประตูเครื่องบินว่า ผมได้ถึงประเทศไทยไปแล้วครึ่งตัวครับ
ผมรักการบินไทย และมักจะเลือกใช้บริการทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ว่าจะจ่ายเอง หรือหน่วยงานเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายครับ
ความประทับใจแรกของผม เรื่องแรกคงเป็นที่นั่ง ตามประสาคนนั่งชั้นประหยัดเป็นประจำ เที่ยวบินระยะไกลของการบินไทย กับความกว้างระหว่างที่นั่ง 34 นิ้ว มากกว่าสายการบินหลายสาย เพียงพอที่จะทำให้ผมเหยียดขาได้เต็มที่
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ภาคพื้นมักจะรู้ใจผม และจัดที่นั่งบริเวณ exit row หรือไม่ก็ bulkhead seat ให้ผมเป็นประจำเพื่อให้ผมนั่งสบายขึ้นไปอีกครับ ประมาณร้อยละ 80-85 ของการเดินทาง ผมจึงมักจะนั่งวนเวียนอยู่ที่แถว 31 45 48 49 หรือ 53 แล้วแต่ชนิดของเครื่องบินครับ
หากวันใด exit row เต็ม สิ่งที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นมักจะทำให้ผมคือ การพยายามหาที่ที่ว่างที่สุดให้ผม เพื่อจะได้พักผ่อนหรือทำงานได้อย่างเต็มที่ ถ้าเที่ยวบินนั้นไม่เต็ม อย่างน้อยที่สุด ที่นั่งข้างๆ ผมมักจะเป็นที่นั่งที่ว่างเสมอครับ
เรื่องถัดมาคือเรื่องของอาหาร ถ้าเป็นเส้นทางระหว่างประเทศ ไม่ต้องห่วงครับ อร่อยทุกอย่าง และบ่อยครั้ง พนักงานมักจะคะยั้นคะยอให้ผมรับอาหารทั้งสองตัวเลือก ในหนหนึ่ง รถไฟที่สวิตเซอร์แลนด์เกิดเสีย ทำให้ผมต้องหิ้วท้องมาทานอาหารกลางวันบนเครื่อง คุณแอร์เธอก็จัดอาหารมาให้ผมทันที และเมื่อผมไม่ทานหมูในเมืองฝรั่งด้วยเหตุผลบางประการ พนักงานท่านนั้นยังสู้อุตส่าห์ไปหาสเต๊กเนื้อมาให้เป็นพิเศษ
เช่นเดียวกับเที่ยวบินยุโรปอีกขา ผมได้อาหารค่ำที่แตกต่างจากคนอื่นเป็นสเต๊กหมู เพียงเพราะตัวเลือกพะแนงไก่เกิดหมดกะทันหันครับ และในเส้นทางสู่โคลอมโบ เมื่อผมหันไปคุยกับเพื่อนร่วมทางว่าแกงแกะอร่อยมาก พนักงานท่านหนึ่งก็เดินยิ้ม พร้อมกับเชื้อเชิญให้ลองเป็นจานที่สองครับ
กรณีของอาหาร อาจยกเว้นในเที่ยวบินในประเทศ ที่ผมว่าดูจะด้อยลง ถ้าเป็นในอดีต จะต้องมีของว่างที่เป็นของคาวหนึ่งอย่าง และของหวานหนึ่งอย่าง ปัจจุบัน เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าอยากทานสองอย่าง จะต้องบินไฟลท์เช้าเท่านั้นครับ นั่นทำให้ผมนอกใจไปบินการบินกรุงเทพอยู่บ้างในเส้นทาง เช่น ชียงใหม่หรือภูเก็ตครับ อย่างไรก็ดี โค้กใส่น้ำแข็งยังคงมีให้บริการในเที่ยวบินภายในประเทศถ้าร้องขอครับ
เช่นเดียวกับระบบความบันเทิงบนเครื่องบินที่ผมว่าดีขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ผมไปซิดนีย์บนเครื่องบินรุ่นขับไล่ (แขก) 777 ด้วยความแคบและไม่มีอะไรให้ทำนอกจากจอรวม ปัจจุบัน เส้นทางระยะไกลก็ดีขึ้นมากครับ มีจอส่วนตัวเกือบทุกรุ่น ทั้ง 747 777 เกือบทุกรุ่น 330 ครึ่งฝูงบิน และ 340 ส่วนเส้นทางของคุณป้า AB6 นั้นเป็นระยะสั้นในประเทศหรือในภูมิภาคซึ่งผมก็ไม่ได้สนอะไรมาก ขอหนังสือหนึ่งเล่มอ่านก็พอแล้ว
ข้อดีอีกอย่างของระบบความบันเทิงการบินไทยก็คือ มีเพลงไทยและภาพยนตร์ไทยให้รับชมรับฟังกันครับ แต่ถ้าจะมีติก็ต้องบอกว่า หนังไทยยังเปลี่ยนบ้าง แต่เพลงไทยในอัลบั้ม AVOD ไม่เคยเปลี่ยนเลย หนึ่งปีผ่านไป มีอัลบั้มใหม่เพิ่มมาไม่กี่อัลบั้มครับ ถ้านั่งบ่อยๆ แบบผมก็แทบจะหลับตาจัด playlist ของตนเองได้แล้วครับ
เรื่องการบริหารภาคพื้นผมก็ว่าเป็นเรื่องที่การบินไทยทำได้ดีครับ ผมมีโอกาสจับพลัดจับผลูไปตรวจสัมภาระในเคาน์เตอร์ชั้นธุรกิจในบางครั้ง ติดใจกับการบริการ ความรวดเร็วในการผ่านการตรวจพาสปอร์ต เพียงแต่เงินในกระเป๋าของผมไม่เอื้อให้บินในชั้นดังกล่าวบ่อยนักครับ
เรื่องถัดมาคือเรื่องสะสมไมล์ ถ้าบินการบินไทยบ่อยๆ การสะสมจะไม่มปัญหาเท่าไร แต่ถ้าบินกับสายการบินคู่สัญญาในพลพรรคดาวพันธมิตร ผมว่าการบินไทยกำหนดรหัสชั้นโดยสารในการสะสมไมล์ที่ใจดีน้อยกว่าหลายสายการบิน และมีรหัสชั้นโดยสารที่สะสมไมล์ไม่ได้ หรือไม่เต็มร้อยละร้อยค่อนข้างมากครับ
ผมเองเป็นประเภทบัตรเงินเกือบบัตรทอง คือไมล์แบบปริ่มสี่หมื่นเกือบทุกปี เลยยังไม่มีวาสนาสัมผัสบริการพิเศษมากนัก นอกจากป้าย priority tag สีม่วงๆ หรือชมพุ ที่ทำงานดีทุกครั้งที่สุวรรณภูมิ หลังจากกระเป๋าป้ายส้มออกมาหมด ส่วนสนามบินอื่นๆ ก็ตามสภาพครับ ที่ดีๆ หน่อยก็น่าจะเป็นชางงีที่สิงคโปร์ เชียงใหม่และอุบลราชธานีครับ ส่วนสนามบินอื่นในประเทศ ทั้งเชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ขอนแก่น อุดรธานี รวมถึงกระบี่ ค่อนข้างจะต้องวัดดวงเอาเสียหน่อยครับ ผมเคยได้ติดป้ายส้มบ้างในบางครั้ง อันนั้นจะดีกว่ามาก และก็ออกมาใบแรกๆ ทุกครั้งครับ
เรื่องถัดมาคือการเคลียร์ waiting list ต่อให้จะติดรายชื่อรอขนาดไหน ในไฟลท์ที่เต็มแน่นเพียงไร แต่ผมก็ได้ที่นั่งในเที่ยวบินที่ผมอยากได้ทุกครั้งครับ แม้จะต้องลุ้นเอาหน่อย นอกจากนี้ มีเรื่องล่าเพิ่มเติม เนื่องจากผมสนิทสนมกับผู้ใหญ่ที่น่ารักท่านหนึ่งซึ่งถือบัตร platinum อันนั้นบริการยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ต่อให้ไฟลท์เต็ม ที่นั่งก็สามารถว่างได้ทันที ไม่รู้ไปเนรมิตหามาได้อย่างไรครับ
ท้ายที่สุดเรื่องที่ผมประทับใจจริงๆ คงหนีไม่พ้นการบริการบนเครื่อง ผมประทับใจการบริการทุกครั้ง และแทบจะไม่เคยเจอความรู้สึกด้านลบเลยครับ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะความไม่คาดหวังอะไรมาก ส่วนที่สองคงเป็นเพราะผมปฏิบัติกับพนักงานอย่างที่ควรจะเป็น พนักงานหลายท่านจะแปลกใจที่ผมยกมือไหว้ทุกครั้งเมื่อผมขอหนังสือพิมพ์ Bangkok Post บนเครื่อง
อีกครั้งหนึ่งบนเส้นทางจากแฟรงค์เฟิร์ทกลับกรุงเทพ หัวหน้าพนักงานย่อตัวลงคุยกับผมจนผมรู้สึกเกรงใจ เธอขอโทษตลอดเวลา ที่เครื่องมีปัญหาบางอย่างทำให้ผมต้องย้ายที่นั่งากที่นั่งตรงทางออกฉุกเฉินในช่วง take off และ landing เธอมาร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์การเดินทางกับผม พร้อมทั้งชี้ชวนให้ดูน้ำกับฟ้า เมื่อเครื่องบินใกล้ถึงกรุงเทพในช่วงที่ต้องเผชิญกับมหาวิกฤติอุทกภัยครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจก็คือการขันอาสาเก็บเสื้อนอกให้ผมโดยไม่ต้องร้องขอและนำมาคืนในช่วงก่อนเครื่องลง นอกจากนี้ ในเที่ยงบินจากเชียงใหม่ กรุงเทพ พนักงานขันอาสาเอาเครื่องศิลาดลที่ผมซื้อมาฝากคุณแม่ไปเก็บไว้ให้อย่างดีในห้องครัว เพียงเพราะกลัวว่าถ้าเก็บในช่องเก็บของเหนือศีรษะ จะกลายเป็นเศษกระเบื้องเสียก่อน
เช่นเดียวกัน ในเที่ยวบินระยะไกลข้ามทวีป ผมซึ่งเป็นคนนอนไม่เคยหลับเลย และลุกไปห้องน้ำบ่อย คุณพนักงานก็จะเชื้อเชิญให้ไปหยิบน้ำและครัวซองต์อยู่ตลอด และเมื่อใกล้เวลาที่ผู้โดยสารท่านอื่นจะตื่น พนักงานก็เอา amenity kit เล็กๆมาให้ พร้อมกับแจ้งให้รีบไปใช้ห้องน้ำก่อนจะเกิดการหนาแน่นครับ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมต้องบินต่อเครื่องกลับจากกระบี่และบินย้อน (Backtrack) กลับไปหาดใหญ่ ในเย็นวันเดียวกัน คุณแอร์ถามไถ่ผมตลอดเวลา เพราะกลัวว่าระยะเวลา 45 นาที กับการจอดในหลุมจอดระยะไกลจะทำให้ผมเปลี่ยนเครื่องไม่ทัน
ในบางครั้งคุณพนักงานก็มีมุมทำให้ผมผ่อนคลาย เช่นการชวนคุยในระหว่างที่ต้องนั่งประจันหน้ากันในขณะเครื่องขึ้นและลง พนักงานท่านหนึ่งเล่นเกมทายกลิ่นโอ เดอ ทัวแลตต์ที่ผมใช้ อีกท่านสอนเทคนิคในการเอาตัวรอดในลอนดอนอย่างง่ายให้แก่ผม
หรือการที่พนักงานทักผมด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วเพียงเพราะผมใจจดจ่อกับการอ่านหนังสือพิมพ์ Strait Times ในมือก่อนที่เราจะหลุดหัวเราะปนยิ้มน้อยๆมา พร้อมกัน พร้อมกับคำบอกเล่าว่า ในเส้นทางนี้ คนไทยมักชอบไปขึ้นสายการบินอื่นกันหมด เหลือแต่คนสิงคโปร์หรือไม่ก็ผู้โดยสารต่อเครื่องจากอนุทวีปครับ
อีกครั้งบนเที่ยวบินสุดท้ายของวันจากเชียงรายสู่กรุงเทพ พนักงานฝึกหัดชาวญี่ปุ่นพยายามที่จะฝึกพูดและให้บริการโดยภาษาไทยกับผม ต่างกับผมที่จะพยายามจะสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ผมมีความรู้อย่างกระท่อนกระแท่น ครับ
ถ้าจะมีความไม่ประทับใจอยู่บ้างก็คงเป็นเที่ยวบินกลับจากกาฎมาณฑุ ที่พนักงานชายท่านหนึ่งดูเหมือนจะไม่เต็มใจบริการ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร นอกจากพยายามข่มตาหลับให้สบายที่สุด แล้วก็ลืมๆ ไปเสีย
ผมยังมีความประทับใจดีๆ อีกมากกับการบินไทย แม้จะเคยนั่งเครื่องบินมาหลายสาย ตั้งแต่หรูหราห้าดาวตามมาตรฐาน Skytrax ไปจนถึงสายการบินต้นทุนต่ำที่กล่าวขวัญถึงอย่าง Ryan Air แต่ถ้ามีโอกาสเลือกในเส้นทางที่การบินไทยทำการบิน ผมก็ไม่ลังเลที่จะเลือกก่อนเสมอครับ เหมือนกับสโลแกนในช่วงหนึ่งของการบินไทยที่ว่า First Choice Carrier, First Time, Every Time ครับ
ไม่รู้จะบรรยายอะไรมากไปกว่านี้แล้วครับ แต่อยากจะบอกจริงๆ ว่า ทุกครั้งที่เจอกระทูวิพากษ์การบริการ ผมก็เกิดคำถามในใจเหมือนกันว่า เป็นเพราะผมโชคดี หรือเป็นเพราะผู้ตั้งกระทู้โชคไม่ดี เจอการบริการที่เป็นส่วนน้อยเหล่านั้นกันแน่ครับ
จากความรู้สึกส่วนลึกของผู้โดยสารรายเล็กๆของการบินไทย ที่เดินทางไปกลับเฉลี่ยเดือนละ 2 หนครับ และนั่งเครื่องบินมาทุกรุ่นยกเว้น 777-300 ER ที่เช่ามาจาก Jet Airways และประทับใจเครื่องทุกรุ่นในรูปแบบที่แตกต่างกันไปครับ
จากคุณ |
:
buenos
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ก.ค. 55 21:39:34
|
|
|
|
 |