Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วอนเลิกกฎแบนวีซ่าผู้ติดเอดส์ ถือเป็นภัยธุรกิจในยุคโลกาภิวัฒน์ ติดต่อทีมงาน

ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555





วอชิงตัน - ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรธุรกิจข้ามชาติกว่า 20 บริษัทร่วมเรียกร้องให้ 46 ประเทศยกเลิกกฎห้ามผู้มีเชื้อเอชไอวีเดินทาง อ้างทำเพื่อธุรกิจ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.ค.) ว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ขององค์กรธุรกิจข้ามชาติ เช่น โคคา โคล่า ลีวายส์ สเตราส์ รวมทั้ง เวอร์จิ้น ยูไนท์ มูลนิธิเพื่อการกุศลของเวอร์จิ้นกรุ๊ป ได้ร่วมออกแถลงการณ์และรายงานในที่ประชุมเอดส์ระหว่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ 46 ประเทศยกเลิกกฎห้ามไม่ให้ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีเดินทางเข้าประเทศ โดยระบุว่ากฎดังกล่าวถือเป็นการแบ่งแยกชนชั้น และเป็นภัยต่อการดำเนินธุรกิจ

นายชิป เบิร์ก ซีอีโอของลีวายส์ สเตราส์ ผู้ผลิตกางเกงยีนแบรนด์ลีวายส์ กล่าวว่า ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในธุรกิจ การเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกเป็นเรื่องจำเป็น และบริษัทต้องการที่จะส่งบุคลากรผู้มีทักษะและมีความสามารถไปยังประเทศต่างๆ ได้โดยไม่มีการกีดกัน โดยลีวายส์เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่มีกฎข้อห้ามการเดินทางเข้าประเทศของผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ยกเลิกข้อห้ามนั้นในทันที

ด้านนายมิเชล ซิดิเบ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การเอดส์แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอดส์) กล่าวเสริมว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ระบุได้ว่ากฎข้อห้ามการเดินทางของผู้มีเชื้อเอชไอวีเข้าประเทศจะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวีในประเทศนั้นๆ ได้ นอกจากนั้นกฎห้ามดังกล่าวถือเป็นการแยกปฏิบัติ และละเมิดกฎพื้นฐานว่าด้วยสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เพราะผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีควรมีโอกาส และเสรีภาพที่เท่าเทียมในการเดินทางในโลกโลกาภิวัฒน์นี้แล้ว

ทั้งนี้ ยูเอ็นเอดส์ได้ระบุในเว็บไซต์เมื่อเดือนมิถุนายน 2554 ว่า ประเทศอียิปต์ อิรัก กาตาร์ สิงคโปร์ ตุรกี และเกาะไคดอส เป็นรัฐที่ปฏิเสธการออกวีซ่าเข้าประเทศ แม้แต่การเดินทางเข้าในระยะสั้นๆ ต่อผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีในตัว ขณะที่อีกหลายประเทศได้ตั้งกฎเพื่อกีดกันการเดินทางเข้ามาอาศัยชั่วคราวหรือถาวรต่อผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีในตัวโดยพิจารณาการให้วีซ่าตามสภาพของบุคคลนั้นๆ ว่ามีอาการของโรคเอดส์หรือไม่

สหรัฐอเมริกากำลังทำหน้าที่เจ้าภาพจัดการประชุมเอดส์ระหว่างประเทศภายหลังจากรัฐบาลได้ยกเลิกข้อกีดกันผู้ติดเชื้อเอชไอวีเดินทางเข้าประเทศเมื่อ 2 ปีก่อน

ก่อนหน้านี้ยูเอ็นเอดส์รายงานว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อเอชไอวีในทศวรรษที่ผ่านมาลดลงเกือบ 25% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเดีย และแอฟริกาใต้ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เป็นต้นเหตุของโรคเอดส์มากที่สุดในเอเชีย และแอฟริกา เนื่องจากการพัฒนาด้านการให้ความรู้ในการป้องกันประสบผลสำเร็จ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 7,000 รายต่อวัน

จากคุณ : Marcopy
เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 01:55:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com