ความคิดเห็นที่ 1 ขี่ช้างที่เชียงรายมีค่ะ    อยู่ที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตรค่ะ จากคุณ : ซึน (ซึนเดเระโกะ) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:22:46

ความคิดเห็นที่ 2 เดินทางจากห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่จัน เมื่อข้ามสะพานข้ามแม่น้ำกกให้เลี้ยวซ้าย (ตรง4แยกไฟแดงแรก) ปล.ตอนนี้เชียงรายกำลังทำถนนเส้นนี้อยู่ค่ะ ใช้ทางหลวงหมายเลข1207 มีป้ายบอกทางไปน้ำตกห้วยแม่ซ้าย และป้ายริมกกรีสอร์ทขนาดใหญ่ขับไปตามทางหลัก เมื่อผ่านหลัก กม.7 จะเป็นสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ไปตามถนน รพช. ไปบ้านทรายมูลมีป้ายบอกทางไปบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ผ่านบ้านริมกก สวนเขื่อนแก้วริมกกระยะทาง 6 กม. จขกท.ไปช่วงสิ้นปีใช่มั้ยค่ะ ช่วงนั้นจะมีงานดอกไม้ จัดที่ริมน้ำกก ตรงข้ามกับ โรงเรียน ท.6 ค่ะ ที่เที่ยวอีกอย่างนึงที่เราอยากแนะนำคือหอนาฬิกาค่ะ ทุกวันเสาร์จะมีถนนคนเดินอยู่หน้าบริเวณสวนตุง  วันอาทิตย์มีถนนคนม่วนอยู่ตรงสันโค้งค่ะ จากคุณ : ซึนเดเระโกะ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:32:06

ความคิดเห็นที่ 3 ผมคิดว่า เชียงราย ยังมีที่ให้ค้นหา ท่องเที่ยวอีกเยอะเลยครับ จขกท เดินทางท่องเที่ยว ใน เชียงราย อย่างไร ครับ เส้นทาง ที่คุณ : ซึนเดเระโกะ บอกมา ใน #2 ก็เป็นเส้นที่ผมยังไม่เคยไปเลย ครับ ตรงนี้ จะเป็นเส้นที่ไปวัดห้วยปลากั้งได้ ใช่ไหม ครับ ผมไปอีกด้านหนึ่งของน้ำกกอ่ะครับ คือเส้น เชียงราย-ดอยฮาง-บ้านผาเสริฐ-ห้วยหมากเหลี่ยม วิวสวยดีครับ(แต่สองฝั่งน้ำกก นี้ ไม่มีสะพานรถเชื่อมนะครับ แปลกดี )   มีจุดชมวิว บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร(ลองค้นในห้องนี้ดูนะครับ มีกิจกรรมเยอะ ให้เที่ยวเหมือนกัน เนาะ) เช่นกัน  ถ้าจะไปเที่ยว เรียกเรือมารับได้ จากคุณ : SC25_KU50 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 13:33:54

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวเมืองเชียงราย               ในตัวเมืองโดยมากเป็นวัดเก่าแก่ อาจจะหาที่จอดรถยากในฤดูกาลท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง มีดังนี้   -     อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช       -     หอวัฒนธรรม หรือ หอวัฒนธรรมนิทัศน์เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก       -     วัดพระสิงห์ (อุโบสถเก่าแก่ และ บานประตูอุโบสถใหม่ออกแบบโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินล้านนา)   -     วัดพระแก้ว หรือ วัดป่าญะ                เป็นสถานที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงราย ร่วมกันสร้างพระหยกเชียงราย เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จย่า มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ได้รับพระราชทานนามว่า “พระพุทธรัตนากรนวุติวัสสานุสรณ์มงคล” พระอุโบสถรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ -     วัดงำเมือง (สถูปบรรจุอัฐิพญามังราย) -     วัดมิ่งเมือง หรือ วัดเงี้ยว หรือ วัดช้างมูบ (ช้างหมอบ)                วัดนี้มีบ่อน้ำโบราณ เรียกว่า บ่อน้ำช้างมูบ เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่มีซุ้มครอบไว้บนหลังช้าง วัดนี้สันนิษฐานว่า ได้บรรจุพระสารีริกธาตุมาบนหลังช้าง แล้วช้างมูบ หรือ หมอบรอที่วัดมิ่งเมือง เพื่อที่จะนำองค์พระแก้วแห่ไปยังจังหวัดลำปาง -     วัดมุงเมือง -     วัดศรีเกิด -     วัดพระธาตุดอยจอมทอง (วัดเก่าแก่ที่สุดในเชียงราย , เสาสะดือเมือง  108  หลัก) -     วัดกลางเวียง (เสาหลักเมือง หรือ เสาสะดือเวียง)   -     รอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9       -     พิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษาชาวเขา       -     พิพิธภัณฑ์อูบคำ (บัลลังก์เจ้าฟ้าเมืองไต , ผ้าโบราณ , เครื่องเขิน , เครื่องเงินโบราณ , เครื่องใช้ของเจ้าฟ้า เจ้านางในราชสำนัก) -     ไร่แม่ฟ้าหลวง     -     พิพิธภัณฑ์และศูนย์ศึกษาชาวเขา       -     หาดเชียงราย       -     วัดร่องขุ่น                    พระอุโบสถ และ หน้าบันประดับด้วยพญานาค มีลวดลายแปลกตา สวยงามมาก ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยเฉพาะภาพพระพุทธองค์หลังพระประธาน ซึ่งเป็นภาพที่มีขนาดใหญ่ และงดงามมากโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ -     น้ำตกขุนกรณ์       -     วนอุทยานน้ำตกโป่งพระบาท -     หอนาฬิกากลางเมืองเชียงราย (แสดง แสง สี เสียง เวลา 19.00 น. , 20.00 น. , 21.00 น.) จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:38:00

ความคิดเห็นที่ 5 เลียบแม่น้ำกก – บ่อน้ำร้อน – กระเหรี่ยงรวมมิตร -     นั่งเรือชมวิว 2 ฝั่ง แม่น้ำกก       -     บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม     -     น้ำตกห้วยแก้ว   -     บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร (โฮมสเตย์ , เดินป่า , นั่งช้าง , ล่องแพไม้ไผ่)   -     น้ำตกห้วยแม่ซ้าย จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:38:28

ความคิดเห็นที่ 6 อ. แม่จัน – ดอยแม่สลอง – ดอยแม่หัวคำ                เที่ยวเทศกาลชาวดอย เช่น   -  ปีใหม่ม้ง ในช่วงหลัง เดือนธันวาคม –  มกราคม     -  ปีใหม่ลีซอ ประมาณ วันที่ 28 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์     -  ปีไหม่อาข่า  หรือ  ปีใหม่ลูกข่าง  ราวๆ ปลายเดือนธันวาคม     -  โล้ชิงช้าของอาข่า ปลายเดือนสิงหาคม – ต้นเดือนกันยายน         -     ดอยแม่สลอง                ชุมชนชาวจีนฮ่อ (จีนยูนนาน) แห่งกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาอาศัยอยู่นานกว่า 40 ปี ใช้ชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี อยู่ที่ระดับความสูงราวๆ 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ชาวบ้านในชุมชนยังคงยึดอาชีพปลูกชา ซึ่งเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของที่นี่ และ พืชผัก ผลไม้เมืองหนาว      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี                สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า เป็นเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์ อยู่บริเวณจุดสูงสุดของดอยแม่สลอง จึงสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล โดยเฉพาะในเวลาเย็น องค์พระธาตุยังเด่นเป็นสง่ามองเห็นแต่ไกล เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของดอยแม่สลอง   -  สุสานนายพลต้วน                บรรจุร่าง นายพลต้วน ซีเหวิน ผู้นำกองพล 93 ในอดีต อยู่ภายในศาลาเก๋งจีนขนาดใหญ่ สีขาว พื้นปูหินอ่อน ด้านหลังแท่นบรรจุศพ มีภาพถ่ายเก่าแก่เกี่ยวกับประวัติ และผลงาน สุสานนายพล ต้วน อยู่บนเนินสามารถมองเห็นหมู่บ้านสันติคีรี เป็นจุดชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ดีจุดหนึ่ง   -  ชิมชาอู่หลง ชมไร่ชา                ชาเป็นพืชเศรษฐกิจของบ้านสันติคีรี มีพื้นที่ปลูกหลายพันไร่ ทำให้มีร้านจำหน่ายชา หลายสิบร้านตั้งอยู่บนถนนสายหลักในหมู่บ้าน ชาที่มีชื่อเสียงคือ ชาอู่หลง ซึ่งมีกลิ่นหอม พิเศษ มีวิธีการดื่มเฉพาะแบบชาวไต้หวัน   -  ไร่ชา 101                ไร่ชาที่คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดสุดยอดชาโลกบนดอยแม่สลอง บริเวณทางเข้าจะเห็นความสวยงามของต้นชาเรียงรายเป็นขั้นบันได สลับกับเบื้องหลังเป็นทิวเขา   -  ไร่ชาวังพุฒตาล                มีสิงโตเงิน สิงโตทอง ที่อยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ยังมีกาน้ำชา ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีก 3 ใบ ตั้งเรียงรายประกาศความยิ่งใหญ่ความสุดยอดของแหล่งผลิตชา   -  ไร่ชาโชคจำรูญ                ไร่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงมานานถึง 3 ชั่วอายุคน ชมวิธีการเด็ดใบชา จะเริ่มเก็บใบชาตั้งแต่ 09.00 น. ถึง 15.00 น. และจะเก็บเฉพาะยอดชาที่มีใบอ่อน 2 - 3 ใบเท่านั้น   -  ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ดอกซากุระเมืองไทย                เส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านสันติคีรี ทั้งด้านกิ่วสะไต และบ้านอีก้อสามแยก จะปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งเรียงรายสองข้างทาง ดอกสีชมพูทั้งต้น ในหน้าหนาว สวยงามมาก -     ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา (มินิไลท์แอนด์ซาว์ดอาข่าคนภูเขา)         -     ดอยแม่หัวคำ                บ้านหัวแม่คำอยู่เกือบสุดชายแดนพม่า ทางเป็นทางลูกรังคดโค้งไปตามทิวเขา ใช้เวลาเดินทางราว 3 - 4 ชั่วโมง เป็นหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ ประกอบด้วย เผ่าลีซอ นอกจากนี้ยังมี อีก้อ ม้ง และ มูเซอ ในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงที่ดอยหัวแม่คำงดงามไปด้วยดอกบัวตองสีเหลือง สดใสสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา -     วนอุทยานสันพญาไพร     -     พระขี่ม้ารับบาตร (พระขี่ม้ารับบาตรที่จุดรับบาตรสถานปฎิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง) จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:40:35

ความคิดเห็นที่ 7 อ. แม่จัน – กิ่วสะไต (ทางหลวงหมายเลข 1089 เส้นทางไปบ้านท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่)                สามารถแวะเที่ยวชม -     น้ำพุร้อนป่าตึง       -     ลานทองวิลเลจ (อุทยานการแสดงหกชาติ , ฆ้องยักษ์ , สิงห์สี่ชาติ) จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:40:57

ความคิดเห็นที่ 8 อ. แม่จัน – อ. แม่สาย                ชมความงาม ของขุนเขานางนอน -     ตลาดแม่สาย (ตลาดการค้าชายแดนไทย – พม่า)   -     ตลาดท่าขี้เหล็ก (ตลาดปลอดภาษีในฝั่งพม่า , เจดีย์ชเวดากองจำลอง)   -     ถ้ำปุ่ม                เป็นถ้ำที่อยู่สูงบนยอดเขา ต้องปีนขึ้นไปชมถ้ำ ภายในถ้ำมืดมาก จะเที่ยวชมถ้ำจำเป็นต้องมีผู้นำทางเข้าชม -     ถ้ำปลา                เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านภายในถ้ำ เคยมีปลาชนิดต่างๆ ว่ายออกมาให้เห็นเป็นประจำ ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปศิลปะแบบพม่า สร้างโดยพระภิกษุชาวพม่า เรียกว่า “พระทรงเครื่อง” เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนในแถบนี้ -     ถ้ำเสาหินพญานาค                อยู่ในบริเวณเดียวกันกับถ้ำปุ่ม ถ้ำปลา ในสมัยก่อนต้องพายเรือข้ามน้ำเข้าไปชมถ้ำ ต่อมาภายหลังได้สร้างทางเดินเชื่อมกันระหว่างถ้ำปลา ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วย -     วัดถ้ำปลา       -     ถ้ำหลวง (มีความยาวของถ้ำมากกว่า 7 กิโลเมตร)   -     ขุนน้ำนางนอน       -     วัดพระธาตุดอยเวา                พระธาตุดอยเวา เป็นพระธาตุที่เชื่อกันว่ามีความเก่าแก่เป็นรองจากองค์พระธาตุดอยตุง ตามประวัติว่า พระองค์เวา หรือ เว้า ผู้ครองนครนาคพันธ์โยนก เป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่ง เป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ของอำเภอแม่สาย และ ท่าขี้เหล็กทางฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน -     ถ้ำผาจม หรือ สำนักวิปัสสนาถ้ำผาจม                ถ้ำผาจมเคยเป็นสถานที่ซึ่งพระภิกษุสงฆ์มานั่งบำเพ็ญเพียรภาวนา เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีรูปปั้นของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ประดิษฐานไว้บนดอยด้วย     *ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวที่ที่ว่าการอำเภอแม่สายที่เดียว ใช้บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรที่ทางราชการออกให้ มีค่าธรรมเนียม 30 บาท โดยไม่ต้องใช้ passport แต่อย่างใด* จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:42:04

ความคิดเห็นที่ 9 ดอยตุง -     พระตำหนักดอยตุง                    เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อทรงงาน และ ปลูกป่าในโครงการพัฒนาดอยตุง        สิ่งที่น่าสนใจ   -  หอพระราชประวัติ                อยู่ทางด้านหน้าสุดของพระตำหนัก รวบรวมประวัติ ผลงานของสมเด็จย่าที่ทรงทำคุณประโยชน์ให้แก่ปวงประชาราษฏร์   -  สวนแม่ฟ้าหลวง                เป็นสวนไม้ดอก โดยจะปลูกดอกไม้หมุนเวียนสลับให้ออกดอกโดยไม่ซ้ำกันตลอดสามฤดู ล้อมรอบประติมากรรม ชื่อ "ความต่อเนื่อง" ซึ่งเป็นรูปเด็กยืนต่อตัวบริเวณกลางสวน และยังมีสวนหินซึ่งประดับด้วย หินภูเขา สวนน้ำซึ่งรวบรวมด้วยต้นไม้น้ำพันธุ์ต่างๆ บัว และสวนปาล์มที่รวบรวมปาล์มไว้มากมาย   -  อาคารพระตำหนักดอยตุง                พระตำหนักแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นบ้านหลังแรกของสมเด็จย่า สร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เน้นความเรียบง่าย และการใช้ประโยชน์ ภายหลังสมเด็จย่าฯ สิ้นพระชนม์ พระตำหนักได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเที่ยวชมพระตำหนักได้ พระตำหนักเป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมแบบล้านนากับบ้านพื้นเมืองของสวิสฯ พระตำหนักสร้างบนเนินเขา มองเห็นได้ไกลสุดสายตา                จุดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง คือ เพดานดาว ภายในท้องพระโรงแกะสลักขึ้นจากไม้สนภูเขา เป็นรูปกลุ่มดาวต่างๆ ล้อมรอบระบบสุริยะจักรวาล บริเวณผนังเชิงบันได แกะสลักเป็นพยัญชนะไทย พร้อมภาพประกอบ   -  ศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานฝีมือ (ผ้าทอ และ พรมทอกี่ , กระดาษสา , กาแฟดอยตุง)   -  ตลาดชาวไทยภูเขา (บริเวณด้านหน้าสวนแม่ฟ้าหลวง)         -  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง (เพาะพันธุ์สัตว์ประจำถิ่นทีใกล้จะสูญพันธุ์ เช่น ไก่ป่า ไก่ฟ้า สายพันธุ์ต่างๆ)         -  สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง และ ดอยช้างมูบ (กุหลาบพันปี และ ต้นไทรที่ย้ายจากข้างล่างไปทดลองปลูกบนที่สูง และ หินรูปทรงเหมือนช้างกำลังหมอบ)       -     พระธาตุดอยตุง (พระธาตุประจำปีกุน)                สร้างโดย พระเจ้าอุชุตราช แห่งนครโยนกนาคพันธุ์ เพื่อบรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั้ง ชาวไทย ชาวไทใหญ่จากพม่า และ ชาวลาวจากหลวงพระบาง และ เวียงจันทร์ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของเชียงราย ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยตุง ชาวเชียงรายมีประเพณีการเดิน ขึ้นดอยบูชาพระธาตุ จัดเป็นประจำทุกปี      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระธาตุดอยตุง                ตั้งอยู่บนดอยสูงแวดล้อมด้วยป่ารกครึ้ม เรียกว่า สวนเทพารักษ์ เชื่อกันว่า เป็นที่สถิตของเทพารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง   -  รอยปักตุง                เป็นรอยแยกบนพื้น มีความยาวประมาณ 1 ฟุต อยู่บริเวณด้านหน้าองค์พระธาตุดอยตุง เชื่อกันว่า เป็นรอยแยกที่ใช้ปักฐานตุง เพื่อบูชาพระธาตุ เมื่อ 1,000 ปีก่อน จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:44:19

ความคิดเห็นที่ 10 อ. เชียงแสน – สามเหลี่ยมทองคำ -     บ้านสบรวก หรือ สามเหลี่ยมทองคำ                    เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขง และ แม่น้ำรวกไหลมารวมกัน เรียกว่า สบรวก เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย – ลาว - พม่า บริเวณนี้ในอดีตเคยมีการค้าฝิ่น โดยแลกเปลี่ยนกับทองคำ ทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้มีความงามโดยเฉพาะในช่วงเช้าตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นกลางสายหมอก ด้านฝั่งพม่า และ ลาว นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์พรมแดนไทย - ลาว - พม่า      สิ่งที่น่าสนใจ   -  พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือ พระพุทธนวล้านตื้อ                ประดิษฐานกลางแจ้ง บริเวณสามเหลี่ยมทองคำพระพุทธนวล้านตื้อ ได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขง ประทับนั่งบน "เรือแก้วกุศลธรรม" ขนาดใหญ่   -  สวนตุง   -  ลานกุศลธรรม -     หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ (www.goldentrianglepark.com)                เป็นศูนย์นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่น ในสมัยที่นำไปใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย ตลอดจนผลกระทบของการเสพฝิ่น เป็นศูนย์ข้อมูลเพื่อค้นคว้า และ ศึกษาสารสกัดจากฝิ่นในรูปแบบต่างๆ       -     พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน         -     เมืองโบราณเชียงแสน (เมืองเก่า ศูนย์กลางอาณาจักรล้านนา)   -     วัดเจดีย์หลวง       -     วัดป่าสัก     -     โบราณสถาน บน ถ.สายสอง และ ถ.หนองมูต       -     ทะเลสาบเชียงแสน หรือ เขตห้ามล่าสัตว์หนองบงคาย                ทะเลสาบขนาดใหญ่ ในฤดูหนาวมีอากาศเย็นสบาย และหมอกลอยปกคลุมทั่วไป เป็นแหล่งดูนกที่มีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะนกเป็ดน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว หลายชนิดเป็นนกหาดูได้ยาก -     วัดพระธาตุจอมกิตติ     -     วัดพระธาตุปูเข้า (พระธาตุ พระเชียงแสน เก่าแก่ ชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ)   -     วัดพระธาตุผาเงา (ชมวิวแม่น้ำโขง)   -     วัดเจดีย์เจ็ดยอด       -     พระธาตุสองพี่น้อง       -     วัดสังฆาแก้วดอนหัน       -     วัดพระเจ้าล้านทอง จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:45:32

ความคิดเห็นที่ 11 อ. เชียงของ – อ. เวียงแก่น -     ท่าเรือบั้ค ด่านพรมแดนไทย – ลาว ข้ามไป เมืองห้วยทราย สปป.ลาว (เที่ยวเมืองลาว ตลาดพื้นบ้านลาว)   -     บ้านหาดไคร้ (ประเพณีการจับปลาบึก  ช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม)   -     บ้านหาดบ้าย (หมู่บ้านไทยลื้อ , ผ้าทอพื้นเมือง)   -     วัดศรีดอนชัย       -     บ้านทุ่งนาน้อย (หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง)   -     แก่งผาได (ชมวิวแม่น้ำโขงจุดสุดท้ายก่อนไหลเข้าสู่เขตลาว) จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:46:01

ความคิดเห็นที่ 12 ภูชี้ฟ้า – ดอยผาตั้ง   -     ภูชี้ฟ้า                การมาเที่ยวภูชี้ฟ้า คือ การได้สัมผัสอากาศหนาว และความสวยงามของทะเลหมอก และการเดินขึ้นชมทะเลหมอกพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม เป็นช่วงที่ดอกเสี้ยว หรือ ชงโคป่าออกดอกสีขาวบานเต็มเชิงเขา ในช่วงปีใหม่จะได้ชมงานปีใหม่ ที่ชาวม้งจะแต่งตัว ม้ง ทั้งหญิง และ ชาย                จุดเด่นของงานคือ การโยนลูกช่วง หรือ ลูกหิน ระหว่างหนุ่ม - สาว -     ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น     -     ดอยผาตั้ง (ชมวิวชายแดนไทย  –  ลาว  รำลึกสมรภูมิดอยผาหม่น)                เป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย - ลาว ลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยว มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม เป็นลักษณะเฉพาะของดอยผาตั้ง เป็นจุดชมทะเลหมอกที่งดงาม และอลังการในยามเช้า ชมพระอาทิตย์ยามเย็น ก่อนลับเมฆ ตามแนวเขางดงามน่าประทับใจ      สิ่งที่น่าสนใจ   -  จุดชมวิวผาบ่อง ประตูสยาม                เป็นช่องหินขนาดใหญ่ที่คนสามารถเดินผ่านได้ ตรงกลางเป็นเนินช่องเขาเหมือนประตู เป็นช่องทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวในอดีต       -  ศาลาเก๋งจีน – พระพุทธมังคลานุภาพลาภ สุข สันติ – ป่าหินยูนนาน                เนินที่ประดิษฐานพระพุทธมังคลานุภาพลาภ สุข สันติ และ ศาลาทรงเก๋งจีน อนุสรณ์สถานของนายพลหลี่ ผู้นำ ทจช. ในอดีต จากเนินนี้ไปอีก ก็จะพบ ป่าหินยูนาน เป็นหินรูปทรงลักษณะ คล้ายภูเขาในประเทศจีนที่มีรูปทรงสูงๆ สลับซับซ้อน สวยงามมาก   -  จุดชมวิวช่องผาขาด                เป็นผาหิน ที่ขาดแยกจากกัน เป็นช่องมองลงไปเห็น ทิวทัศน์ ประเทศลาว และ แม่น้ำโขงได้อย่างชัดเจน   -  เนิน 102                เป็นเนินเขาลูกหนึ่งบนดอยผาตั้ง เป็นจุด ชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม สามารถมอง เห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลสุดตา   -  เนิน 103                ลักษณะบนเนิน 103 มีหินขนาดใหญ่อยู่บนเนิน เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม น่าจะเป็น จุดชมทะเลหมอก ที่สวยงาม ที่สุด กว่าทุกจุดบนดอยผาตั้ง สามารถเห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลแบบพานอรามา จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:47:42

ความคิดเห็นที่ 13 อ. แม่สรวย – ดอยวาวี -     ดอยช้าง (ไร่กาแฟดอยช้าง กาแฟที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก) -     ดอยวาวี (ดอกซากุระขาวในฤดูหนาว , หมู่บ้านจีนฮ่อ , ชิมชาอู่หลง ชิงชิง , ดูทะเลหมอก) -     ดอยเลาลี   -     ดอยกาดผี จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:48:01

ความคิดเห็นที่ 14 อ. พาน – อ. แม่สรวย – อ. เวียงป่าเป้า -     น้ำตกปูแกง       -     วัดพระธาตุจอมแว่       -     วัดพระเจ้าทองทิพย์ (บนบานขอลูกจากพระโบราณ)   -     น้ำตกขุนแจ     -     ดอยลังกาหลวง   -     ยอดดอยมด -     อุทยานแห่งชาติดอยหลวง     -     น้ำตกแม่โถ (รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้นที่เอาอยู่) -     โป่งน้ำร้อนแม่ขะจาน หรือ น้ำพุร้อนแม่ขะจาน (จุดพักรถ พักคน ,  แวะพักเหนื่อย อาบน้ำแร่ แช่เท้า) -     วัดพระธาตุแม่เจดีย์ จากคุณ : ลุงซุป (ln.cnx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:48:20

ความคิดเห็นที่ 15 ลุงซุป จัดเต็มมาเลย 555 จากคุณ : เจ้าชายใหญ่ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:31:33

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ว่าจะไปเที่ยวเวลาเดียวกับ จขกท พอดีเลยครับ จากคุณ : [Radio Edit] เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 12:31:44

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคุณลุงซุปด้วยคนค่ะ กำลังคิดว่าจะไปเชียงรายช่วงเดือนธันวาคมเหมือนกันค่ะ จากคุณ : kitty cone เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 14:28:25