ความคิดเห็นที่ 1 เจ้าสาว "คุณน้องคะไปงานแต่งพี่ที่โน่นให้ได้นะคะ" อิชั้น "โอ่วชวนกันเหมือนจัดใกล้ๆ  ซัก......พัทยานะคะ" ทุกคน *หัวเราะ* งานแต่งงานที่ไทยจบลงไปด้วยความเรียบร้อยแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ พี่สาวของเพื่อนสนิทจะจัดพิธีแต่งงานกับหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่ฮอลแลนด์ ทางบ้านเพื่อนจึงออกปากชวนให้อิชั้นไปร่วมงานแต่งงานที่โน่น(และทำตัวเป็นเสมือนตากล้องไปในตัว) คุณเพื่อน "บ้านชั้นอยากให้แกไปด้วยจริงๆนะ" แหนะๆๆๆๆ ชวนเล่นๆ แต่อิชั้นก็อยากไปจริงนะคะ ชีวิตนี้ก็หวังจะไปสัมผัสยุโรปซักครั้ง ปราสาท ทุ่งดอกไม้ ตึกสไตล์ยุโรป โบสถ์คริสฯสวยๆ ..........ว้าวๆๆๆๆๆแค่คิด ชวนฝันเสียเหลือเกิน ด้วยว่า อิชั้นกับคุณเพื่อนคนนี้รู้จักกันมานานนมแถมยังเคยไปแบ๊คแพ๊คอินโดฯและบาหลีแบบดาบหน้าทัวร์มาแล้ว ทริปนี้จึงค่อนข้างน่าสนใจ ได้ไปกับเพื่อนสนิท ปกติอิชั้นเองไม่ค่อยจะนิยมชะโงกทัวร์ชนิดที่เที่ยวตามจริงเป็นวินาที ...หรือทริปหรูหราเองก็ไม่ค่อยจะโดนใจ เลยต้องเป็นการเสี่ยงดวงว่าการไปเป็นแขกในงานแต่งแล้วค่อยเที่ยว จะเข้ากันได้ไหมกับสไตล์อิชั้นรึเปล่า? จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:57:56

ความคิดเห็นที่ 2 ว่าแล้วก็เริ่มคิดวางแผนกับคุณเพื่อน ลองศึกษารายละเอียดต่างๆ คุณแม่ "หาตั๋วได้รึยัง" มีคำถามเชิงคำสั่งฟ้าผ่าจากคุณแม่มาแล้ว...เรา 2 คนก็ต้องรีบหาตั๋วโดยด่วน อิชั้น "กรุงเทพฯ-อัมเสตอร์ดาร์ม มีของหลายสายการบินเลย พ่อแม่แกจะบินยังไงดี?" คุณเพื่อน "พ่อกับแม่บินไปก่อนเราแล้วกลับพร้อมกันดีกว่าเนอะ ชั้นลางานมากไม่ได้" อิชั้น "ได้ๆเราไปกี่วันดี?" คุณเพื่อน "เราบินไปวันพุธแล้วกลับวันจันทร์ได้ไหม?" อิชั้น "1-2-3-4-5-6 ...... 6 วัน บิน 2 วัน แต่งงาน 1 วันได้เที่ยว 3 วัน จะบ้าเหรอ~" เที่ยว 3 วันคงไม่ทันได้ไปไหนกันหล่ะ คุณเพื่อน "งั้น ไปวันพุธก-ลับวันพุธ" อิชั้น "เพิ่ม 2วัน เที่ยว 5 วัน....ก็ยังโอเค" ว่าแล้วเราก็ไปศึกษาเรื่องตั๋ว มีของหลายสายการบินโดยพวกเราเลือกสายการบินที่บินตรง(สะดวกกับพ่อแม่ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง) ซึ่งเท่าที่เจอก็มี KLM (Royal Dutch) และ China Airline ............KLM ราคาถูกกว่า และ ChinaAirline เวลาดีกว่า ไม่เสียวันเที่ยว และเราก็ลงความเห็นว่า KLM เถิด (งกนั่นเอง) [กรณีนี้ไม่แนะนำนะคะ ควรจองตั๋วไว้ก่อนแล้วนัดขอวีซ่าให้ผ่าน ถึงค่อยมาจ่ายเงินออกตั๋ว จะดีกว่า] จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:58:43

ความคิดเห็นที่ 3 พอจัดการตั๋วเรียบร้อยราบรื่นอิชั้นก็เริ่มเตรียมเอกสารรอยื่นวีซ่า แต่แล้วก็มีข่าวช๊อคแจ้งมาให้อิชั้นทราบ คุณเพื่อน "ชั้นลาออกจากงานแล้วนะทนไม่ไหวแล้ว" อิชั้น "อ่า??????" ออกอาการมึนงงว่าสู้อดทนมาตั้งนานแต่คุณเพื่อนก็มาลาออกเอาก่อนขอวีซ่าซะงั้น ครั้นอยากจะให้มันทนต่อไปก็จะมีแต่ความทุกข์เสียเปล่าๆ ในเมื่อไม่สามารถย้อนไปแก้ไขอะไรได้เราก็มีหน้าที่เดินหน้าต่อไปทั้งที่รู้ว่าผลของการลาออกครั้งนี้คงส่งผลถึงวีซ่าอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ อิชั้นรู้จักตัวเพื่อนดีว่าการที่จะจะหนีเข้าเมืองเนเธอร์แลนด์แบบไม่ยอมกลับไทย......เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย แต่.....ทางสถานฑูตไม่ได้รู้ด้วยนี่นา แล้วทีนี้ทำยังไงหล่ะ ตั๋วก็มีหมดแล้วทำได้อย่างเดียวคือ ..........."ต้องผ่าน" จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:59:40

ความคิดเห็นที่ 4 อิชั้นดาวน์โหลดฟอร์มจ่ายค่าธรรมเนียมนัดขอวีซ่าจากอินเตอร์เน็ต (รายละเอียด....http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/index.html) แล้วนำไปจ่ายที่ธนาคารกรุงศรีฯ ค่าใช้จ่ายคนละ 275 บาท รอ 1 วันทำการแล้วจึงจองคิวขอทำวีซ่าในเวปอีกครั้ง(อิชั้นจองเป็นกลุ่ม 4 คนเลยค่ะ)  แน่นอนว่าเลือกนัดเช้าสุด 8.30น. ขั้นตอนถัดไป ต้องซื้อประกันการเดินทางโดยวงเงินที่คุ้มครอง และบริษัทประกันต้องตรงตามที่กำหนด   อิชั้นใช้บริการของ Bupa (ที่ใช้ที่นี่เพราะเจอก่อน+ซื้อสะดวกผ่านเน็ตได้ - ไม่ได้เลือกอะไรมากมาย) ถึงแม้จะพยายามระมัดระวังแล้วเพราะใกล้วันขอวีซ่าเต็มที แต่อิชั้นก็ยังกรอกจำนวนวันประกันของตัวเองผิดพลาด อยากตบกะโหลกตัวเองมากๆ ตอนแรกคิดว่า หรือต้องซื้อใหม่?.......แต่ว่าลองโปรไปสอบถามก่อน เผื่อแก้ไขกรมธรรม์ได้ อิชั้น "ขอเปลี่ยนจำนวนวันได้ไหมค่ะกรมธรรม์เลขที่ XXXXX ค่ะ" น้องคอลเซนเตอร์ "ได้ค่ะส่งเอกสารส่งไปทางอีเมล์ที่สมัครไว้ รบกวนยืนยันกลับมานะคะ" ง่ายจังแค่นี้อิชั้นก็เปลี่ยนจำนวนวันให้ถูกต้องได้แล้ว ไม่ยุ่งยากอะไรได้รับเอกสารกรมธรรม์ใหม่ผ่านอีเมล์เรียบร้อย ปริ้นเสร็จก็พร้อมขอวีซ่าได้เลย [อย่าคิดว่าได้ค่าโฆษณานะคะ ไม่ได้ซักกะแดง] จากความพลาดครั้งนี้เป็นข้อคิดว่า   1-ต้องละเอียดรอบคอบแม้เวลาจะกระชั้นชิด   2-ตบกะโหลกตัวเอง หรืออารมณ์เสียไปก็ไม่ได้อะไรสู้รีบสอบถามเพื่อแก้ไขดีกว่า จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:00:13

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วก็มานั่งเตรียมเอกสารอื่นๆของทุกๆคนให้ครบที่สุด ถามว่ากลัวไหม?.....กลัวซิคะชีวิตนี้เคยขอวีซ่าอยู่ 2 ประเทศคือ ญี่ปุ่น กับอเมริกา แต่นี่คือยุโรปครั้งแรกไม่เคยต้องซื้อประกันการเดินทาง ไม่เคยต้องมีเอกสารเชิญ แม้ปัจจุบันจะมีงานทำแล้วแต่ก็ยังกลัว พอถึงวันที่นัดทำวีซ่า ทั้ง 4 คนก็เรียกแท๊กซี่ออกไปแต่เช้าอิชั้นใส่ชุดยูนิฟอร์มทำงานมาด้วยเพราะลาแค่ครึ่งวัน สถานฑูตอยู่ที่ซอยต้นสน (สามารถเลี้ยวเข้าจาก หน้าซอย หรือลัดจากซอยหลังสวนได้ด้วยนะคะ) นัดไว้ 8.30 แต่มาก่อน 8.00ซะอีก รปภ.ก็ใจดีเปิดให้เข้าไปนั่งรอสถานที่ร่มรื่นมากๆ + มีป้ายงาน Flora ที่กำลังจะจัดที่ฮอลแลนด์ติดไว้ด้วย คุณแม่ "เนี่ย งานนี้เราต้องไปกันให้ได้นะลูก เค้าว่านานๆมีทีนึง" อืมมมมมมมมมมมมมอิชั้นยังไม่ได้ทำการบ้านเรื่องแผนเที่ยวมากนัก .......เลยคิดว่าสงสัยจะเป็นพืชสวนโลก (ที่ไม่ได้จัดที่เชียงใหม่) นั่งรอซักพักก็เปิดให้ยื่นเอกสารก่อนเวลา นำทีมโดยคุณพ่อเข้าไปสัมภาษณ์คนแรกเลย พี่สถานฑูต "เดินทางวันไหนคะ?" พ่อเพื่อน "วันที่ 4ครับ" ทุกคน "วันที่ 2ค่ะพ่อ" (อิชั้นกับเพื่อนตะหากวันที่ 4) พี่สถานฑูต "ไปงานแต่งลูกสาวกับลูกเขยเหรอคะ?" พ่อเพื่อน "ครับ" พี่สถานฑูต "ไปกัน 4คน อีกสองคนเป็นใครคะ?" พ่อเพื่อน "ลูกสาวคนเล็กกับเพื่อนลูกสาวครับ" พี่สถานฑูต "เพื่อนลูกสาวของคนที่อยู่ที่โน่นหรือที่นี่คะ?" พ่อเพื่อน "เพื่อนของคนอยู่ที่นี่ครับ" จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:01:10

ความคิดเห็นที่ 6 ของพ่อและแม่เพื่อนก็ผ่านไปด้วยดี มาถึงของคุณเพื่อนก็มองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนเพื่อนจะเดินเข้าไปสัมภาษณ์ในช่องเดียวกัน พี่สถานฑูต "ทำไมไม่ไปพร้อมพ่อแม่หล่ะคะ?" คุณเพื่อน "คือเพิ่งลาออกเมื่อตอนต้นเดือน...แล้วตอนจองตั๋วยังทำงานอยู่เลยคิดว่าลาไม่ได้มากค่ะ" พี่สถานฑูต *ยิ้มเบาๆ*"เรียกเพื่อนมาเลยไหมคะ" อิชั้นเลยลุกไปเข้าคอกสัมภาษณ์ ยืนคู้กับเพื่อนพี่สถานฑูตไม่ได้สัมภาษณ์อะไรเลย นอกจากให้กรอกเอกสารในช่องที่ขาด แอบคิดในใจว่า "ไม่ถามไรหนูหน่อยเหรอคะ?" พี่สถานฑูต "ทั้งหมด คนละ 26XXบาท  " เมื่อควักแบงค์พันมา พี่สถานฑูต " มีแบบพอดีไหมคะ" เลยเริ่มขอแบงค์ย่อยจากพ่อแม่จนได้ครบ พี่สถานฑูต "ยังไงเดี๋ยวขอ1 คน รอใบเสร็จนะคะ ส่วนคนอื่นรอข้างนอกได้เลยค่ะ" อิชั้นอาสาจะรอรับใบเสร็จให้ ปล่อยให้อีก 3 คนเดินไปรอข้างนอก ระหว่างนั่งรอ ก็....ว่างค่ะต่อมอยากรู้อยากเห็นก็ทำงาน พี่สถานฑูตno2 "เจอกับแฟนได้ไงคะ" สาวสวย "ทางInternetค่ะ" พี่สถานฑูตno2 "เวปไหนคะ" เอ่อวุ้ยยยยยยยย น่าสน ฟังไว้เผื่อเอาไว้หาหนุ่มบ้างฮ่าๆๆๆๆ ..................ล้อเล่นนะคะ จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:01:47

ความคิดเห็นที่ 7 ในห้องเงียบๆนั้นก็ยังได้ยินเรื่องราวของคนอื่นอีกหลายคนทั้งการส่งลูกสาวมอปลายบินเดี่ยวไปอยู่กับญาติของญาติห่างๆๆๆๆ หรือการที่สาววัยกลางคนขอรอรับผลวีซ่าโดยไม่ส่งไปรษณีย์  นั่งแอบฟังอยู่นานกว่าจะได้ใบเสร็จ พี่สถานฑูต "ยังไงเอกสารรับรองที่พักที่ค้างอยู่ส่งมาตามเมล์นี้นะคะ แล้วผลจะตอบทางเมล์ 2-3วันหลังจากนั้นจะส่งพาสปอร์ตคืนให้ค่ะ" คอมเม้นเรื่องความยากเย็นในการขอวีซ่าประเทศนี้ที่ได้อ่านมาจากในอินเตอร์เน็ตมลายหายไป อย่างน้อยก็ผ่านไปอีกขั้นที่เหลือก็ทำได้แค่ส่งเอกสารเพิ่ม แล้วรอผลเท่านั้น เพิ่งมาสังเกตุว่าเราเดินออกมาจากสถานฑูตก่อน 8.30 ซึ่งเป็นเวลานัดเดิมเสียอีก รวดเร็วมาก เราโทรแจ้งเจ้าสาว ให้ส่งเอกสารรับรองที่พักให้กับทางสถานฑูตซึ่งเจ้าสาวก็ส่งเข้าอีเมล์ของสถานฑูตภายในวันนั้นเลย 2 วันถัดมา หลังจากออกอาการลุ้นผลเหมือนสมัยสอบเข้ามหาลัยในที่สุดเมล์แจ้งผลก็มาถึง อิชั้น "ฮัลโหลลลล แกเช็คเมล์ๆ" คุณเพื่อน "แป๊บๆวีซ่าผ่านแล้วเหรอ" อิชั้น "แม่นแล้วววววไง มีเมล์มาป่าว" คุณเพื่อน "ไม่เห็นมี" อิชั้น "อ่าว" คุณเพื่อน "ชั้นอาจจะไม่ผ่านก็ได้นะ" เกิดอาการจิตตกคู่ ทำไมตอบกลับมาแค่ของอิชั้นหล่ะคะไม่มีรหัสของคนอื่นเลย โดยวันถัดมาพาสปอร์ตก็ส่งมาถึงที่บ้านของอิชั้น รวมเวลา 4 วัน (ขอจันทร์ ได้พฤ) และเมื่อครบอาทิตย์อยู่ๆพาสปอร์ตก็ส่งถึงบ้านคุณเพื่อนที่ต่างจังหวัด คุณเพื่อน "ได้วีซ่าแล้วนะ" อิชั้น "เย้สรุปว่าได้เมล์ตอบกลับมาบอกป่าว" คุณเพื่อน "ไม่มีเลยสงสัยเค้าส่งแจ้งแค่ 1 คน" อิชั้น "เยี่ยมแล้วก็ส่งมาแต่เลขของชั้น" โล่งอกไปทั้ง 4 คนที่ได้วีซ่ามาครอบครอง จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:03:01

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่รู้คนอ่านเคยเป็นกันไหมคะ พอมี "น้องวีซ่า" มาประดับในพาสปอร์ตแล้วก็อดนั่งชื่นชมพาสปอร์ตไม่ได้ 10 รอบก็ยังไม่เบื่อ เห็นแล้วยิ้มดีใจอยู่ได้คนเดียวใครเห็นเข้าคงหาว่าเสียสติ   แถมอิชั้นยังชอบดูจำนวนหน้าในพาสปอร์ตที่ถูกใช้ไป "ว้าวๆๆๆ ใช้ไป 15 หน้าแล้ว" ไม่เคยเจียมตัวเอง...ว่าพาสปอร์ตอีก35 หน้าที่เหลือกับอายุขัยของมันที่เหลืออีกไม่ถึง 2 ปี คงไม่สามารถทำให้มันถูกใช้ได้ถึงครึ่งเล่มด้วยซ้ำ นอกเสียจากจะเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านเดือนละครั้งอาจจะมีหวัง (ซึ่งก็ไม่รู้จะทำไปทำไม) หลังจากนั้นก็เริ่มทำการบ้าน ว่าเราจะไปไหนวันไหนโดยตัดสินใจเลือกเบลยี่ยมเป็นอีกประเทศที่เราจะไปเยือน เตรียมเรื่องที่พักและเสื้อผ้า อิชั้น "หน้าร้อนแต่อุณหภูมิสูงสุด 25 เนี่ยนะ !!!" คุณเพื่อน "เอาเสื้อไปหลายๆๆแบบก็ดีนะ" อิชั้น "มีฝนด้วย" คุณเพื่อน "อือพี่ชั้นบอกว่าอากาศแปรปรวนมาก" ว่าแล้วก็หยิบกางเกงขาสั้นออกจากกระเป๋าโดยพลันอากาศแปรปรวนขนาดนี้ ขอกางเกงยีนส์ สบายใจสุดๆ แล้วก็หยิบเสื้อคลุมไปเผื่ออากาศเย็นนิดนึง จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:05:26

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อถึงวันเดินทาง เหินฟ้า บินตรง BKK-AMS ก็เกือบ 11ชั่งโมง เราไปถึงสนามบินก่อนเวลาพอสมควร อิชั้น "นี่แทบไม่มีคนไทยบินเลยเนอะ" คุณเพื่อน "อือ เนอะ" แอร์กราวหน้านิ่งผายมือให้พวกเราไปยังช่องเช็คอินใหม่ เธอแทบไม่มีรอยยิ้มใดๆให้พวกเราแม้แต่น้อย จนเราอดคิดไม่ได้ว่าเธอช่างทำตามธรรมเนียมฝรั่งมากกว่าธรรมเนียมไทยๆอย่างการยิ้มเสียแล้ว เรายกกระเป๋าขึ้นสายพานเพื่อชั่งน้ำหนัก .............22Kg ของคุณเพื่อนและ 12 Kg ของอิชั้น อิชั้น "ขนบ้านมาเหรอแกหนักเวอร์มาก" คุณเพื่อน "ของพี่สาวทั้งนั้นแหละที่แบกมาหน่ะ" จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:06:18

ความคิดเห็นที่ 10 เช็คอินเสร็จก็ไปกินข้าว และรีบเข้าตม. เพราะกลัวคนเยอะ สุดท้ายก็ได้เดินสบายๆ (แทบจะเป็นครั้งแรก ที่ไม่ต้องวิ่งขึ้นเครื่องเลยเจ้าค่ะ) Flight12.20 กับ Gate ที่ไม่ได้มีคนแออัดมากนัก มี 2สาวหัวดำ นั่งกินขนมหน้าเกทสบายใจ จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:08:09

ความคิดเห็นที่ 11 พอขึ้นเครื่อง คุณเพื่อน "แอร์คนเมื่อกี้ก็ใจดีนะ" แอร์กราวคนที่เลือกที่นั่งให้เรานั้นเธอก็จัดที่นั่งให้เราค่อนข้างสบายไม่ต้องเบียดเสียดกับใครแม้จะไม่ได้ติดหน้าต่างก็ตาม(อาจจะเพราะเราไม่ได้ขอ) อิชั้น "เนอะ ..............แม้จะไม่ค่อยยิ้มก็ตาม ฮ่าๆ" (เบาะบอกฐานะ...ชัดเจน) จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:09:31

ความคิดเห็นที่ 12 "คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกกก" อิชั้น "เมิงๆ" คุณเพื่อน "อะไร" อิชั้น "ลุงฝั่งโน้นหลับไปแล้ว" คุณเพื่อน "!!!!!!!!" ลุงฝรั่งคนนั้นก็ส่งเสียงมาเป็นระยะ อิชั้น "เท่อ่ะเครื่องยังไม่ขยับเลย ลุงไปถึงพระอินทร์แล้ว" การเดินทางที่ยาวนานนี้ก็เริ่มต้นด้วยการทะยานขึ้นฟ้าของเครื่องบินลำใหญ่ และหลังจากนั้น 11 ชั่วโมงโดยประมาณก็เป็นเวลาของสิ่งบันเทิง+ การพักผ่อน + การกินๆๆๆ เริ่มต้นด้วยแจกหูฟ้ง แล้วตามด้วยถั่ว และน้ำผลไม้ แล้วเราจึงหาหนังดูไปพลางๆซึ่งอิชั้นก็เข้าโหมดหนังรักหวานๆอย่าง "The Vow" จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:10:18

ความคิดเห็นที่ 13 นั่งดูหนังไปครึ่งเรื่องแอร์โฮสเตสก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร จนมาถึงแม่ลูกชาวจีนที่นั่งไม่ไกล แอร์ "ปลาหรือไก่ดีคะ" แม่ลูกชาวจีน "??????????????" แอร์ "ป๊อกๆๆๆๆ หรือปลา คะ" *ทำท่าไก่ตีปีก* มันเป็นความสุดยอดดดของงานบริการจริงๆทำเอาอิชั้นอึ้งกับภาษากายที่เป็นสากลมากๆ อาหารที่อิชั้นเลือกคือบะหมี่ไก่ + ยำส้มโอ + เค๊ก +น้ำส้ม (ซึ่งดูยังไง ฝรั่งข้างเคียง ไม่มีคนแกะยำส้มโอแม้แต่คนเดียว) และทั่วๆไป ฝรั่งก็มักจะเลือกดื่มไวน์(ขาว/แดง)กับอาหารมากกว่า ใครไม่ชินกลิ่นไวน์ก็ต้องทำใจนะคะ (ของกินทั้งหลาย) จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:11:07

ความคิดเห็นที่ 14 กินอิ่มก็ดูหนัง หลับ และ อ่านหนังสือ............เหมือนเวลาผ่านไปแบบนั้นหลายชั่วโมง อิชั้น "แก.............แกจะอ่านได้กี่หน้า" คุณเพื่อนมองหน้าปกหนังสือของตัวเองที่เขียนไว้ว่า "พุทธประวัติ" คุณเพื่อน "นี่ครึ่งหน้าก็จะหลับแล้ว" นั่งเหยียดขากันคนละ 2 เบาะจนเมื่อยก็เดินเล่นไปที่หางเครื่องชมวิวผ่านหน้าต่างเล็กๆทักทายฝรั่งที่ยืนชมวิวเช่นกัน เดินไปเข้าห้องน้ำบ้าง ไปหยิบขนม หยิบน้ำบ้าง เวลาผ่านไปนานจนเครื่องใกล้ถึง เราเริ่มสงสัยกันว่าทำไมถึงไม่ได้กรอกใบ Immigration เหมือนเวลาไปประเทศอื่นๆ (วิวจากหน้าต่างบนเครื่องค่ะ สวยดีเนอะ) จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:13:05

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อเครื่งลงจอด ก็พบว่า การเข้าประเทศนี้ดูเหมือนจะง่ายกว่าประเทศอื่น เพราะไม่มีใบ Immigration หรือเจ้าหน้าที่ ตม. ที่ดูโหดแต่อย่างใด ตม.เพียงแค่ถาม และแสตมป์ลงในวีซ่า  ก่อนจะให้เราไปรับประเป๋าและเดินออกไปอย่างง่ายๆ ฝรั่งรูปร่างสันทัด ยืนรอเราอยู่ พร้อมกับการไหว้.............คุณเจ้าบ่าวนั่นเอง เจ้าบ่าว "เป็นไงบ้าง" คุณเพื่อน "ก็ดีค่ะ" เจ้าบ่าว "ป่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปขึ้นรถไฟ" ว่าแล้วก็ลากกระเป๋า ไปไม่ไกลลงบันไดเลื่อนไปนิดเดียวก็ถึงสถานีรถไฟโดยที่เราไม่ได้สังเกตุด้วยซ้ำว่าเครื่องขายตั๋วอยู่ตรงไหน เจ้าบ่าว "นี่ตั๋วสำหรับ2 คน เดี๋ยวเธอนั่งไปเปลี่ยนรถไฟที่ Leiden นะ แล้วเดินไปขึ้นรถชานชะลาฝั่งตรงข้าม นั่งรถไฟไป Lan V Noi ก็ถึงแล้ว" คุณเพื่อน "เราต้องผ่านกี่สถานีเหรอ?" เจ้าบ่าว "จำไม่ได้เหมือนกันแต่นั่งไปประมาณ 7 นาทีนะ" พวกเรา "เฮือก!!!!!!!!!!!!!!"  *บอกตามจริงเป็นนาที โหดไปนะ* เจ้าบ่าว "อ่ะ รถมาแล้วเตรียมขึ้นรถ แล้วก็นี่ โทรศัพท์ เดี๋ยวพี่สาวเธอจะโทรมา" ว่าแล้วเจ้าบ่าวก็ยื่นโทรศัพท์ให้ก่อนจะส่งพวกเราขึ้นรถไฟไปแบบงงๆ โบกมือบายๆแล้วกลับไปทำงานต่อ (พาแท๊คเที่ยว) จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:14:01

ความคิดเห็นที่ 16 รถไฟที่นี่แบ่งเป็น 2 ชั้นสามารถเลือกนั่งได้ตามใจ .........แต่เรา 2 คนไม่กล้าพอจะเข้าไปนั่ง เพราะไม่แน่ใจว่าต้องลงสถานีที่เท่าไร *ตรู๊ดๆ* โทรศัพท์ดังขึ้น คุณเพื่อน "ค่ะ ถึงแล้วค่ะ" เจ้าสาวโทรมาหาคุณเพื่อน คุยกันอยู่ซักพักก่อนจะวางไป คุณเพื่อน "แกเดี๋ยวพี่สาวชั้นจะมารับที่สถานี" อิชั้น "โอเคร" เรายืนระแวงกันอยู่นานเพราะรถไฟวิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่มีท่าทีว่าจะจอด เวลาทุ่มกว่าแล้วแต่พระอาทิตย์ก็ยังไม่ลาลับขอบฟ้า แสงยังแรงข้ามทุ่งหญ้ากว้างมากระทบกระจกรถไฟ ชวนให้แสบตาเราชมทิวทัศน์เพลิน จนเกลือบลืมสังเกตุว่ารถไฟกำลังจะเข้าสถานีหน้า ...ป้าย "Leiden" ชัดเจน อิชั้น "อ่ะเราต้องลงสถานีนี้" (ยืนชมวิวในรถไฟ ...เรียกได้ว่าจ่อประตู พร้อมลง) จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:15:38

ความคิดเห็นที่ 17 2 สาวหัวดำรีบเตรียมสัมภาระอย่างวุ่นวายมายืนหน้าประตู ...........แต่ประตูไม่เปิด เด็กฝรั่งคนนึงก็เดินมาพอดี หล่อนกดปุ่มข้างๆประตูพร้อมกับหันมาบอกพวกเราว่า "ต้องกดเปิดเองนะ"..............อ่อ เพิ่งรู้ว่า ไม่ออโต้ ว่าแล้วก็รีบลากกระเป๋าลงไปชานชะลาอีกฝั่งยืนทำหน้างงๆท่ามกลางคนท้องถิ่นมากมาย คุณเพื่อน "แกว่าเราจะขึ้นถูกสายป่ะวะ" อิชั้น "หรือถามเค้าก็ได้นะแก" คิดกันซักพักก่อนคุณเพื่อนจะตัดสินใจเดินไปถาม คุณเพื่อน "ขอโทษนะคะรอรถไป Lan V Noi ที่นี่รึเปล่า" คุณฝรั่ง "Lan V Noi เหรอ...ใช่แล้วๆ" เมื่อมั่นใจแล้ว เราก็เตรียมขึ้นรถถูกคันได้เลย ..........ว่าแต่ ต้องไปอีกกี่สถานีนะ??? และก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมที่เราไม่กล้าจะเดินเข้าไปนั่งในขบวนรถ ได้แต่รอหน้าประตูมองไปทิวทัศน์เริ่มเต็มไปด้วยบ้านคนและที่พักอาศัย และเห็นป้าย "Voorburg"อยู่ข้างๆทาง อิชั้น "คงสถานีหน้าหล่ะมั้ง....เคยเห็นว่าอยู่ใกล้ๆกัน" รถเข้าชานชะลา ก็เห็นป้าย "LanV Noi"  จึงรีบลงตามแผน จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:16:04

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อรถไฟวิ่งผ่านไป ทิ้งไว้เพียง 2 สาวต่างแดน พร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ เราเลือกจะลงจากชานชะลาเดินตามทางลอด เพื่อหลบลมเย็นที่พัดมาเป็นระยะๆในใจก็คิดว่า "นี่นะหรือ คือ หน้าร้อน?" "ไง สาวๆ" เสียงทักทายจากคุณเจ้าสาวที่เดินมาพร้อมกับคุณแม่ อิชั้นกับเพื่อนจึงยกมือไหว้ อิชั้น "บ้านอยู่ไกลไหมคะ" เจ้าสาว "เดินไปได้จ้าพอลากกระเป๋าไปได้นะ" จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:18:26

ความคิดเห็นที่ 19 มองไปทางถนนใหญ่ก็เจอ Tram วิ่งผ่าน จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:19:00

ความคิดเห็นที่ 20 ว่าแล้วเราก็ลากกระเป๋าไปห้องพักอยู่ไม่ไกลจากสถานีมาก แต่ห้องพักอยู่ชั้น 2 ซึ่งบันไดก็สูงชันจนกลัวจะตกลงมาทีเดียว ห้องพักประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้องครัว1 ห้องทานข้าว1 ห้องรับแขก 1 และแน่นอน ว่าอิชั้นกับคุณเพื่อนก็ต้องนอนห้องรับแขก...ที่สวยมากกกกจริงๆเจ้าค่ะ แค่นอนฝูกก็สุขแล้วววว เจ้าสาว "พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวนะ9 โมงอย่าลืมตื่นนะ" อิชั้น "ขา???zzzZZZZZ" เจ้าสาว "ไม่ได้นอนในเครื่องมาเหรอ" คุณเพื่อน "นอนค่ะ  แต่ไม่ค่อยหลับ" เจ้าสาว "งั้นก็รอคุณแม่อาบน้ำเสร็จแล้วไปอาบต่อนะ" คุณเพื่อน "zzzzzzzzzZZZZZZZZZZZz" อิชั้น "เดี๋ยวปลุกมันไปอาบน้ำเองค่ะ" เจ้าสาว "OK" อิชั้น "zZZZZZZZZZ" ถึงจะสัญญาไว้ แต่เรา 2 ก็หลับไปโดยไม่ได้อาบน้ำมาสะดุ้งตื่นก็ตี 1 แล้วลุกอาบน้ำ...........(6โมงเมืองไทย) จำใจยอมรับสภาพ Jet Lag อย่างสมบูรณ์ จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:19:42

ความคิดเห็นที่ 21 จบตอน 1 ..............อย่าลืมติดตาม ตอน 2 เร็วๆนี้ค่ะ [CR]*****ยุโรป 3 ชั้น***** [2/6] - เป็นแขก @Holland http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12629648/E12629648.html แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 55 16:02:34 จากคุณ : Ame_On_Way เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:20:17

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านสนุกดีครับ รอตอนสองด้วย จากคุณ : dramer เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:39:21

ความคิดเห็นที่ 23 บรรยายสนุกมากเลยค่ะ รีบต่อตอนต่อไปไวๆนะคะ :) จากคุณ : เจ้าหญิงเท็ดดี้แบร์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:39:27

ความคิดเห็นที่ 24 เล่าเรื่องเก่งมากกกครับ สนุกดี รออ่านตอนต่อไป ปล. แนะนำว่าถ้าจะลง ตอน 2 ให้เลือก ห้องบันทึกนักเดินทาง ซึ่งเป็นห้องสำหรับลงรีวิว เลือกห้องท่องเที่ยว ตปท อายุของลิงค์จะสั้นกว่าเยอะ (หากไม่โดนเก็บเข้าคลัง) จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 01:21:23

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านเพลินเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : bremstrahlung เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 06:55:56

ความคิดเห็นที่ 26 สนุกดีค่ะ รีวิวต่อนะคะ จากคุณ : thai orchid เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 09:33:50

ความคิดเห็นที่ 27 บรรยายได้น่ารักน่าลุ้นเชียวครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : declare01 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 09:46:27

ความคิดเห็นที่ 28 สนุกดีครับ  รอตอนต่อไปครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 13:38:28

ความคิดเห็นที่ 29 เหมือนนั่งอ่านหนังสือ ท่องเที่ยว อยู่เลยครับ จากคุณ : บารอนก๊อง เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 15:41:15

ความคิดเห็นที่ 30 เล่าเรื่องได้สนุกมาเลยค่า จนต้องตามไปอ่านต่อ จากคุณ : chaii_latte เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 17:28:09

ความคิดเห็นที่ 31 ตามไปยุโรปด้วยคนค่ะ สนุกดีค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : finaldevil เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 20:08:38

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านสนุกมากค่ะ เพลินเลย เขียนเก่งจัง จากคุณ : Ouzo (Ouzo) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 22:19:34

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบมากเลยครับ ได้บรรยากาศมากเลยครับ จากคุณ : pkvtsp เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 17:23:38