ความคิดเห็นที่ 1 แต่พอไปเรียนที่นี่เข้าจริงๆ งานเข้าละครับพี่น้อง เพราะที่ร้านแห่งนี้หัวหน้าคณะผู้ฝึกสอนเป็นนายทหารเรือ ผู้เป็นครูฝึกให้กับหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือหรือRecond Diver ซึ่งได้มาช่วยเป็นผู้จัดการร้านให้กับศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของแกที่เป็นเสี่ยรับเหมาใหญ่แต่หัวใจรักการดำน้ำ และด้วยความพร้อมของเสี่ยและความรักในการดำน้ำ จึงต้องเรียนถึงระดับInstructorแล้วเปิดร้านเองซะเลย   ตอนแรกเรียนภาคทฤษฏี หลังจากนั้นก็เรียนและสอบภาคในสระว่ายน้ำก็มันส์ซะแล้ว ด้วยความที่ผมเตรียมตัวออกกำลังกายมาไม่พอ คือยังฟิตไม่ถึงเพราะไม่คิดว่าครูเขาจะเป๊ะตามมาตรฐานขนาดนี้ ปรากฏว่าSkillไหนไม่ผ่านก็คือตกครับ จำได้ว่าที่ไปเรียนชุดเดียวกันผ่านแค่2คน ตอนแรกก็คิดว่าทำไมต้องเคี่ยวจังว่ะรู้งี้ไปเรียนที่อื่นดีกว่า ถามคนอื่นที่เขาเรียนที่อื่นมาไม่เห็นว่าจะต้องเคี่ยวกันขนาดนี้ แต่หลังจากประเมิณผลเสร็จครูเขาก็ได้อธิบายถึงความสำคัญว่าทำไมเราจะต้องผ่านSkillตามมาตรฐานไปให้ได้ ทั้งเรื่องความปลอดภัยของตัวเราเองและเมื่อถึงเวลาที่เราจำเป็นต้องช่วยเหลือผู้อื่นด้วย จบด้วยการสอนเทคนิคการออกกำลังกายต่างๆเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ตัวเรา แล้วจึงนัดเวลาเพื่อสอบแก้ตัวใหม่ (ถ้าไม่ผ่านSkillในสระ ยังไม่สิทธิ์ไปเรียนและสอบภาคทะเลนะครับ) จากคุณ : Neng_ftc เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 17:04:58

ความคิดเห็นที่ 2 พอถึงเวลานัดสอบภาคสระว่ายน้ำอีกครั้ง ทีนี้ไม่กลัวแล้วครับเพราะได้ฟิตร่างกายตามวิธีที่ครูไดแนะนำไปแล้ว ไม่ว่าเรื่องการวิ่งออกกำลังแบบไหนให้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยไม่บาดเจ็บ เทคนิคการฝึกว่ายน้ำให้ว่ายได้ไกลและไวขึ้น การลอยตัวในน้ำได้นานๆ การดำลงสู่ใต้น้ำตัวเปล่า   รอบแก้ตัวนี้ทุกคนผ่านหมด(ขอปรบมือให้น้องๆสุภาพสตรีหลายท่าน ที่หลังจากได้เทคนิคจากครูไปก็กับไปฝึกฝนมาและทำได้ดีมากๆในรอบนี้) ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่ากำลังก็มีความสำคัญแต่ถ้าใช้กำลังบวกเทคนิคที่ดีเยี่ยมยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ความมั่นใจมี่มากขึ้นเยอะ   แล้วครูก็นัดพวกสอบภาคทะเล ณ.บ้านของกองทัพเรือไทยหมู่เกาะแสมสาร โดยได้ให้ความรู้และเทคนิคให้พวกเราไปฝึกกันเมื่อความพร้อมสู่การเรียนและการสอบภาคทะเล   หลังจากวันนั้นพวกเราได้คุยกันว่า นี่พวกเราโชคดีมากๆที่เราเรียนดำน้ำในหลักสูตรพลเรือนแต่ได้เทคนิคทางทหารมาประยุกต์ใช้ทำให้เราทำอะไรได้ง่ายและมั่นใจขึ้น จากคุณ : Neng_ftc เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 17:23:44

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงเวลาสอบภาคทะเลแม้ทุกๆคนจะเตรียมตัวกันมาดีมากทั้งเทคนิคและกำลังแต่ก็ยังหวั่นๆกันอยู่เพราะยังไงทะเลก็ไม่ใช่สระว่ายน้ำ   แต่ถึงเวลาเรียนและสอบตามหลักสูตรทุกคนก็ผ่านได้ทุกคน ขนาดสอบว่ายน้ำ800เมตรในทะเลโดยใช้แค่Mask และฟิน พวกเราก็ผ่านเกณฑ์มาได้   แต่ที่โหดหน่อยก็ตรงที่ครูนายทหารของพวกเราต้องการทดสอบกำลังใจ โดยแกสอนว่ามีความรู้ถ้าไม่มีความมั่นใจถึงเวลาคับขันขึ้นมาก็เอามาใช้ไม่ได้ ครูได้ลำลองสถาณการณ์ขึ้นมา โดยให้พวกเราดำน้ำตัวเปล่า(ไม่มีอุปกรณ์ใดๆทั้งสิ้น)ลอดได้ท้องเรือ และยังให้ดำน้ำตัวเปล่าลงไปหยิบทรายใต้น้ำขึ้นมาที่ระดับความลึกประมาณ5-6เมตร ที่มันส์ที่สุดคือให้ใส่ชุดหล่อที่สุดแล้วให้โดดลงน้ำถอดทั้งหมดออกในน้ำ ยังไม่พอให้ใส่กลับเข่าไปใหม่อีก  ด้วยความไม่รู้มาก่อนชุดหล่อของผมดันใส่กางเกงยีนย์รัดเหมือนพี่ตูนบอดี้สแลม เกือบแย่ครับพี่น้อง   เหนื่อยๆๆๆ แต่ก็สนุกมากๆๆๆ ที่สำคัญพวกเราก็ผ่านมันมาได้ กล้าคุยกับใครก็ได้อย่างยืดอกว่าเราจบRescue Diver มาด้วยความรู้และความสามารถจริง อีกทั้งเทคนิคเพิ่มเติมทางการทหาร ทำให้เรายิ่งมีความมั่นใจและความกล้า ที่จะดูตัวเองให้ดำน้ำด้วยความปลอดภัยและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ถ้าจำเป็น  ไม่มีคำว่าจ่ายครบจบแน่ๆในหัวผมอีกต่อไป จากคุณ : Neng_ftc เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 17:46:34

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากได้จบRescue Diver จากร้านนี้แล้ว ผมก็มาตั้งคำถามตัวเองว่าความรู้ระดับAdvanc ที่เราได้เรียนมาเราเก็บมาครบหรือยัง เข็มทิศเวลาเราดำน้ำเคยได้ใช้ไหมหรือใช้เป็นจริงๆหรือเปล่า ไม่รอช้าสมัครเรียนหลักสูตรAdvanceกับร้านนี้อีกครั้ง โดยขอเป็นRe-Skillก็แล้วกันไม่เอาบัตร แล้วไปเรียนกับนักเรียนAdvance ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ว่าเข้มข้นจริงๆ      จากที่เคยเรียนใช้Lift bagยกตะกั่ว ก็ต้องมายกสมอเรือ      จากที่เคยเรียนSearch ในน้ำไม่ขุ่น ไม่มีกระแส ระยะไม่ไกล ก็ต้องมาเรียนSearch ในน้ำขุ่นจนมองแทบไม่เห็นโดยใช้เข็มทิศแทนตา มีกระแส ระยะเดินทางก็ไกล      กลางวันใช้เข็มทิศว่ายากแล้ว นี่ใช้เข็มทิศแทนตาในเวลากลางคืนอีก      เหนื่อยๆๆๆๆแต่ก็สนุกๆๆๆๆๆ แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยความรู้ความสามารถเนื้อ      เชื่อแล้วที่เขาว่าทหารเขามีจิตวิทยาและเทคนิคที่ทำให้คนที่ทำไม่ได้สามารถทำได้ และผมก็เห็นแล้วว่าเป็นจริง เพราะทุกท่านที่เรียนด้วยกันต่างเพศ ต่างวัย ทุกคนทำได้จริงๆ      ตอนนี้เวลาไปดำน้ำที่ไหน ก่อนลงน้ำผมตั้งพิกัดเข็มทิศของผมทุกครั้งถามว่าจำเป็นไหม ถึงผมจะไม่เก่งถึงขนาดเป็นLeadได้ แต่ก็สามรถกลับเรือเองได้ แม้แต่Night Diveผมก็ใช้เข็มทิศแทนตาได้      ด้วยความสะใจผมก็มีแผนที่จะเรียนหลักสูตรDive Maseterกับทางร้านนี้อีก        ขอยืนยันว่าที่เล่ามานี้ผมไม่มีส่วนได้เสียทางธุรกิจกับร้านดำน้ำนี้จริงๆ เพียงแต่อยากแนะนำทางเลือกในการหาที่เรียนดำน้ำ ถ้าอยากได้ความรู้แบบเนื้อๆเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เรียนเอง อีกทั้งยังสอนแบบเข้มข้นแต่เรียนแบบสนุกสนานโดยครูนายทหารเรือผู้ผ่านการสอนทั้งทหารและพลเรือนมากว่า30ปี มีลูกศิษย์ได้เป็นเจ้าของธุรกิจดำน้ำหลายที่ ออกบัตรได้ทั้ง NAUI และ PADI ผมขอแนะนำที่นี่ครับ http://www.facebook.com/seaview.dive จากคุณ : Neng_ftc เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 18:16:24

ความคิดเห็นที่ 5 นานๆ จะได้ยินว่ามี รร.ดีๆ แบบนี้   555 จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 19:28:39

ความคิดเห็นที่ 6 ว่ายน้ำให้ได้ไกลและเร็วขึ้นนี่ มีทริกอะไรเหรอค่ะ จากคุณ : หมิวหมิว เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 20:18:08

ความคิดเห็นที่ 7 ดำน้ำตัวเปล่าหยิบทรายที่ความลึก 30 ฟุต  นี้มันอยู่ในการสอบ Open Water 1 ไม่ใช่เหรอค่ะ     หรือว่าเดี๋ยวนี้ Open Water 1 เขาไม่มีสอบดำน้ำหยิบทรายแล้วเหรอค่ะ จากคุณ : เอกจิตรา เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 20:40:05

ความคิดเห็นที่ 8 น่าเรียนนะคะ แต่จากใจจริงคิดว่าสงสัยจะสอบตกแน่ๆ จากคุณ : Tweetyball (tweetyball) เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 00:20:46

ความคิดเห็นที่ 9 ถามคุณเอกจิตรา ดำน้ำตัวเปล่า 30 ฟุตนี่สำหรับ open water หรือครับ   สารภาพตามตรงว่าตอนเรียน open water ไม่ได้ทำเลยครับ   แต่ตอนนี้ทำได้แล้ว  ฝึก freediving อยู่ จากคุณ : rujipars_a เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:32:18

ความคิดเห็นที่ 10 อยากไป Reskill มั่งจัง  แต่กลัวว่าจะไม่ผ่านสักที  แถมโดนไล่ออก  น่ะซิ  TT^TT จากคุณ : NSIRIV เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:59:19

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วกระทูนี้แล้ว.. ต้องบอกว่า.. ว๊าววว..สเป็คเทพพพพ... จริงๆ แต่พออ่านไปๆ... อ้าว..มีลดสเป็คด้วย.. 555 7. "ดำน้ำตัวเปล่าหยิบทรายที่ความลึก 30 ฟุต นี้มันอยู่ในการสอบ Open Water 1..." 3. ระดับ rescue "และยังให้ดำน้ำตัวเปล่าลงไปหยิบทรายใต้น้ำขึ้นมาที่ระดับความลึกประมาณ 5-6 เมตร.." ุ แล้วนี่จขกท. บอกว่ายังไม่ได้ทำ.. ต้องไป reskill o\w ที่ร้านอีกหรือเปล่าครับ หุ..หุ.. แถมดำรอดใต้ท้องเรือ ผมไม่เคยทำเหมือนกัน หาใน standard ไม่เจอครับ skill นี้... ถ้าให้ดำรอดใต้เรือหางยาว หรือดิงกี้ พอไหว.. เรือใหญ่คงไม่เสี่ยงดีกว่านะ.. rescue เนี่ย.. เค้าจะให้ทำการประเมินเหตุการณ์ในกรณี worse case เสมอนะ.. การทำ skill แบบเสี่ยงๆ ก็ต้องให้คำนึงถึงเหตุร้ายแรงสุดด้วย.. อย่าได้ทำเอามันนะครับ.. ถ้าเกิดมีใครเป็นอะไรขึ้นมานี่.. ไม่คุ้มครับ.. "ที่มันส์ที่สุดคือให้ใส่ชุดหล่อที่สุดแล้วให้โดดลงน้ำถอดทั้งหมดออกในน้ำ ยังไม่พอให้ใส่กลับเข่าไปใหม่อีก.." เพื่ออะไรครับ..????? อ่านแล้วดูสนุก ดูดีครับ.. แต่ให้คิดถึงความปลอดภัยให้มากๆ กันเข้าไว้นะครับ.. เพราะผมอ่านแล้วไม่ค่อยเห็นด้วยกับ over standard ที่เวลาทำแล้วอันตรายเกินไปน่ะ.. ไงก็ขอให้สนุกกับการดำน้ำครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 10:38:57 จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 10:38:04

ความคิดเห็นที่ 12 "ที่มันส์ที่สุดคือให้ใส่ชุดหล่อที่สุดแล้วให้โดดลงน้ำถอดทั้งหมดออกในน้ำ ยังไม่พอให้ใส่กลับเข่าไปใหม่อีก.." เพื่ออะไรครับ..????? ผมคิดว่าที่ให้ใส่ชุดหล่อกระโดดลงน้ำคงจำลองตอนไปเที่ยวแล้วเรื่อล่มมั้งครับ แบบว่าชุดที่ใส่อยู่พอโดนน้ำก็คงหนักทำให้ลอยตัวลำบากเลยต้องถอดมั้งครับ ส่วนใส่เนี้ยคงเป็นเพราะว่าตอนมีคนมาช่วยจะให้ขึ้นแบบโป๊ๆก็คงไม่ได้มั้งครับ จากคุณ : เดานะครับ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 15:01:03 A:110.77.229.240 X: TicketID:374408

ความคิดเห็นที่ 13   นานาจิตตังนะครับ ยังไงก็ลองกลั่นกรองกันเอาเอง สำหรับผมถือว่าดีที่สุดเท่าที่เจอมาแล้วจึงเล่าสู่กันฟัง  คุณตะวันลับฟ้ายังไงก็ลองทำแก้วของคุณให้ว่างดูเผื่อจะได้รับประสปการณ์ใหม่ๆดู โลกกว้างภายนอกมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 16:28:44 จากคุณ : Neng_ftc เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 16:26:38

ความคิดเห็นที่ 14 เรียนดำน้ำกับ สถานบันไหนก็ตาม ที่ผู้สอนได้รับรองการฝึกสอนการรับรองจาก สถานบันดำน้ำ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า มาตราฐานใกล้เคียงกันหมด เพียงแต่ว่าสไตล์การสอนเป็นสไตล์ใครสไตล์มัน มีจุดแข็งจุดด้อยต่างกันไป  แต่ทุกคนล้วนยืนอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือ ดำน้ำยังไงให้ปลอดภัย ผมก็เคยเรียนกับครูที่เป็นทหาร เอาหลักสูตรของทหารมาประยุกค์ เหมือนกันครับ ข้อดีคือ การฝึกค่อนข้าง หนัก แต่ถ้าผ่านมาได้ ก็จะได้ประสบการณ์แน่นพอตัว แต่อาจจะไม่เหมาะกับบางคน ที่ต้องการดำน้ำแบบ สันทนาการ  ที่ไม่ได้เน้นโหด เน้นเรื่องของการดำน้ำ ให้ปลอดภัย เน้นความสนุกสนาน การพบปะเพื่อนใหม่ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องไปเรียนหนักแบบนั้นก็ได้ครับ ไปเรียนอาจจะท้อกลับมาซะก่อน การเรียนดำน้ำเป็นเรื่องง่ายครับ  ไม่ยากขออย่างเดียว ให้มีสติ  ทำตามกฎข้อบังคับต่างๆ แค่นี้ก็สามารถดำน้ำอย่างปลอดภัย ที่สำคัญการทำอะไรที่มันอันตรายโดยไม่จำเป็น  ไม่ว่าระหว่างเรียนหรือระหว่างดำเที่ยว มีแต่จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นโดยไม่คาดคิด ผมเห็นด้วยกับคุณตะวันลับฟ้านะครับ ซึ่งผมมองว่าไม่ได้เป็นไม่เปิดมุมมองใหม่ เพราะแก้วเต็มหรอกครับ คุณตะวันลับฟ้า ถึงพูดแบบนั้น แต่จากประสบการณ์ ของผมนะครับ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรให้นักเรียนเสี่ยงอันตราย โดยไม่จำเป็น ในการเรียนการสอนดำน้ำเลย ถามว่าให้โดดลงไปถอดใส่ชุดหล่อในน้ำ มันไปเพื่ออะไร ถ้าเป็นแบบคุณ เดานะครับบอก เกิดสมมตินักเรียนถอดแล้ว ตะคริวกินขณะถอดกางเกง จมน้ำไป จะทำยังไง ใครรับผิดชอบ สถาบันที่สอนดำน้ำเพื่อสันทนาการ ก็ไม่มีสถาบันไหนกำหนดไว้ว่าต้องทำแบบนี้ ผมว่าถ้าจะสอนให้ถูกต้อง คือ ไม่ว่าจะว่ายน้ำเก่งไม่เก่ง เมื่อขึ้นเรือ ให้มองหาชูชีพ ไว้ก่อนเสมอ ตรวจเช็คจำนวนเพียงพอไหม เมื่อเกิดเหตุ เรือล่มอย่างที่บอกไว้ จะได้รู้ว่าควรจะไปเอา ชูชีพที่ไหน เพื่อให้ตัวเองลอยและช่วยเหลือตัวเองได้ เวลาตกน้ำ ไม่ใช่โดดลงน้ำแล้วแก้ผ้าให้ตัวเบา จากคุณ : SRV เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 17:24:45

ความคิดเห็นที่ 15 คุณจขกท.นี่ใจแคบจริงๆ นะ.. ผมถามคำถามคุณไป นอกจากไม่ตอบแล้วยังมาว่าผมแน่ะ.. ว่าผมทำตัวเหมือนน้ำเต็มแก้ว  555 ก็ที่ผมถามคุณว่า skill นั้นเค้าทำเพื่ออะไร.. เพราะผมพยายามใช้สติปัญญาของผมที่มีอยู่น้ิอยนิด.. เพื่อหาเหตุผล แล้วผมไม่รู้ไง... ผมถึงได้ถามคุณ.. ที่ผมถาม..ก็เพราะผมอยากรู้..ก็เท่านั้น.. แบบนี้..ผมยังทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วอยู่หรือเปล่าล่ะครับ..??? การฝึก skill ดำน้ำ.. เค้าเอามาจากข้อผิดพลาดในอดีต มาทำเป็นบทเรียนเพื่อนสอนกันในปัจจุบัน เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านั้น.. ทุกอย่างต้องมีที่มา ที่ไป มีเหตุ มีผล เกี่ยวกับการดำน้ำหรือเปล่า ถ้าถามแล้วตอบได้ ผมถือว่าผ่านนะ.. การทดสอบวัดผล..การเรียนดำน้ำของสถาบันต่างๆ เค้ามีมาตรฐานที่วัดจากคนทั่วๆ ไป เอามากำหนดเป็นมาตรฐานของการฝึก การทดสอบวัดผล..ของทหารเอง..ก็ใช้มาตรฐานของทหาร มาเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของการฝึกทหาร มันต่างกันคนละเรื่อง.. โดยเฉพาะเรื่องของสภาพร่างกายนี่ต่างกันมากมาย.. การฝึก skill บาง skill ที่คุณพูดถึง.. บางครั้งไม่ควรนำมาใช้กับนร.ดำน้ำทั่วไป.. ผมถึงได้พูดถึงเรื่อง over standard ไงล่ะ.. การที่คุณเอาประสบการณ์มาเผยแพร่ในเว็ปสารธารณะ โดยเฉพาะพันทิป ผมว่าคนอ่านเยอะนะ การให้ข้อมูล.. จำเป็นต้องถูกต้อง.. ดังนั้น ถ้ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง คุณก็ต้องเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย เรื่องไหนถ้าคุณคิดว่าถูกต้อง.. คุณก็ว่าเหตุผลของคุณไป ถ้าคนอ่านเค้าคิดว่าไม่ถูกต้อง..เค้าก็จะว่าของเค้าไปเหมือนกัน คนอ่านจะเป็นคนพิจารณาเองแหละครับ.. สิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุด.. อาจไม่ใช่สิ่งถูกต้องก็ได้ (ถ้าคุณยังไม่ได้เปรียบเทียบจากที่อื่น) จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:38:54

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ rujipars_a คห 9 ขอเคลียก่อนว่าเข้าใจตรงกันมั้ย   ดำน้ำตัวเปล่าคือ  ใส่แค่ mask, snoker, fin อ้อ แล้วก็ชุดว่ายน้ำด้วย   วิธีดำคือ  ว่ายทำสปีดบนผิวน้ำเล็กน้อย   หายใจเฮือกใหญ่ ๆ เข้าไปสามทีแล้วหักตัว 90 องศาปักหัวดิ่งลงใต้น้ำ  ไปที่ความลึกประมาณ 30 ฟุต (หรือดิฉันจำความลึกสับสน  เพราะมันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว)   หยิบทรายขึ้นมาบนผิวน้ำ  เอาทรายไปโชว์ครู ถ้าเข้าใจตรงกันก็     ใช่ค่ะ   นี่เป็นหนึ่งในการสอบของ Open Water เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 21:16:34 จากคุณ : เอกจิตรา เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 20:24:37

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็เรียน rescue diver มาเหมือนกันนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะต้องจำใส่ใจไว้เสมอก็คือ assesment ถ้าสถานการณ์คับขัน จะตัดสินใจช่วยหรือไม่ช่วย แล้วจะช่วยอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งสอง ผู้ประสบเหตุและผู้ช่วยเหลือ การใส่ชุดทั้งชุดหล่อชุดเก่งลงไปในน้ำ นี่ผมว่า ไม่ใช่เรื่อง over standard หรอกครับ เป็นความบ้าระห่ำของ คนสอนและคนเรียน และถ้าใครจะไปเรียนดำน้ำที่มีการสอนแบบนี้ ผมก็คงไม่แนะนำให้ใครไปเรียน ความบ้าระห่ำ แบบนี้จะติดตัวกลายเป็นความเคยชิน เหมือนกับที่บางคนชอบแสดงแสนยานุภาพเกรียงไกรเวลาไปดำน้ำ เช่น ตีลังกาลงน้ำพร้อมแทงค์, ใส่ชุด BCD พร้อมแทงค์ แบบยกข้ามหัว และอีกหลายๆอย่างที่ไม่มีความจำเป็น ปล.ในช่วงชีวิตการดำน้ำของผม ช่วยพาคนพ้นความตายมาแล้ว 17 คน เสียชีวิตคามือ เนื่องจาก CPR แล้วแต่ไม่ฟื้น 4 คน ไม่น้บที่ไปลากพวกเมาไนโตรเจน อีก 4-5 คน มาจากที่ 50 เมตร นะครับ การดำน้ำเพื่อนสันทนาการ ควรเลือกแต่พอสัณฐานประมาณตน ฝึกแบบทหารก็ให้เขาฝึกแบบทหารครับ ความแข็งแรงของร่างกาย ของแต่ละคนต่างกัน จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:16:32

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับ ดำน้ำตัวเปล่า หรือตอนนี้เรียก skin diving ตามมาตราฐานองค์กรใหญ่สุดกล่าวไว้ว่า ให้ทำใน confine water หรือในสระเท่านั้น ไม่มีการกำหนดความลึกแต่ต้องสามารถอยู่ใต้น้ำได้มากกว่า 15 เมตร เมื่อขึ้นมาผิวน้ำต้องเคลียร์สน็กเกอร์โดยการเป่า จริงๆ skill นี้ถ้าจำไม่ผิดจะโดนตัดไปเป็น optional ไปด้วยซ้ำ (คือทำก็ดีไม่ทำก็ได้) แต่ล่าสุดโดนใส่กลับเข้ามาแล้วแต่ทำแค่ในสระ ========== skill ที่ทำกันนั้นมีที่มาที่ไปและเหตุผลในการ "ทำ" หรือ "ไม่ให้ทำ" ทั้งนั้น การใส่ตัวตนของผู้สอน และเทคนิคต่างๆ ผมว่าเป็นสิ่งที่ครูดำน้ำทุกคนทำ แต่มาตราฐานและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญกว่าครับ ผมคงไม่กล้าให้นักเรียน recreation ถอดหน้ากาก ปิดตา และแชร์อากาศกันแบบที่นักเรียน tech ต้องทำแน่นอน จากคุณ : asaza เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:31:57

ความคิดเห็นที่ 19 Performance Requirements ของ Skin Dive มีตามนี้ครับ 1. Put on and adjust equipment. 2. Perform a predive safety check. 3. Adjust weighting. 4. Perform a surface swim using skin diving equipment. 5. Demonstrate proper surface dive descent and ascent techniques. 6. Clear water from the snorkel. 7. Explore the dive site. ไม่มีข้อไหน บอกให้ต้องทำได้ลึกแค่ไหน หรือ ต้องมุดใต้เรือ แค่ขึ้นลงให้ถูกต้องตามวิธีที่ปลอดพัย เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน อันนี้อ้างอิงจาก Instructor Manual ของ PADI version ล่าสุดนะครับ จากคุณ : SRV เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 23:28:30

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ จขกท. อาจจะชอบการเรียนการสอนแบบนี้ หน่ะครับ ขึ้นอยุ่แต่ละคน (เห็นต่างได้ แสดงความคิดเห็นได้ แต่อย่าทะเลาะกันในกระทู้หน่ะครับ ) แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 10:08:48 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 10:06:20 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 55 19:43:12 จากคุณ : tobaka เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 19:42:06

ความคิดเห็นที่ 21 ดำน้ำมีบัดดี้นะค่ะ ดำใต้ท้องเรืออันตรายตรงไหน อันนี้คือ คำถามเช่นกัน...? Over Standard ตรงไหน ไปเรียนกันแบบพี่ๆ น้องๆ ไม่ได้มีพวกมือใหม่ และดูแลกันอย่างทั่วถึงมาก ทำสกิลเรียกให้ทำทีละคนแปลว่านอกจากบัดดี้ คือ 10 กว่าคน ต้องมานั่งดูคนสอบ 1 คน ในแต่ละสกิล ดังนั้นไม่ได้มีการละเลยความไม่ปลอดภัยใดใด ครูผู้สอนประกบกันแบบ 2 ต่อ 1 การเรียนการสอนครั้งนั้น มีราว 10 กว่าคน และมีผู้หญิง 3-4 คน เลย ซึ่งไม่ใช่ล่ำบึ๊กถึกอะไร ทุกคนยังผ่านมาได้แบบชิวๆ Over Standard ตรงไหนค่ะ แค่เทคนิคการสอนต่างกันเท่านั้นเองค่ะ อย่าคิดอะไรมาก แลกเปลี่ยนความรู้กันดีกว่านะค่ะ Skill Rescue หลักก้อฝึกความแข็งแรงของร่างกาย เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเอง และผู้อื่น จากคุณ : Indy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 00:46:07 A:110.171.33.129 X: TicketID:374714

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ tobaka รู้สึกว่าข้อมูลจะผิดพลาดเยอะไปนะค่ะ คุณพี่ .... ปล.ของคุณน่ะ คนที่บาดเจ็บ เค้าบาดเจ็บมาจากการเล่นแบดมินตัน หัวกระแทกเสา ต่างหาก ไม่ใช่เรียน Rescue แล้วอันตรายอะไร เห็นไม๊ว่าทุกอย่างมีอันตรายได้ทั้งนั้น ที่สำคัญข้อมูลไม่แน่น อย่าโพสต์นะคุณพี่ คนอื่นเค้าเสียหาย ปล.อ่านแล้วรีบโทรหาด้วยเน้อ มีเรื่องด่วน จากคุณ : Indy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 00:54:07 A:110.171.33.129 X: TicketID:374714

ความคิดเห็นที่ 23 Dynamic Apnea Dynamic คือ การเคลื่อนที่ การเคลื่อนตัว Apnea คือ การกลั้นหายใจใต้น้ำ Dynamic Apnea ก้อคือ การเคลื่อนที่โดยการกลั้นหายใจใต้น้ำชั่วหนึ่งอึดใจ ตามความสามารถของแต่ละคน ซึ่งเป็น สกิลหนึ่งในหลักสูตรของ Free Diving การมุดใต้ท้องเรือ แค่ชั่วอึดใจเดียว ก็ึคือการทำ Dynamic Apnea ไม่ใช่ ไก่กามามั่วเรียนนะค่ะ แค่ใช้การมุดเรือเป็นสไตล์การสอนเท่านั้นเอง เป็นการเรียนรู้อย่างนึง ซึ่งรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ส่วนตัวไม่ได้ไปเรียนด้วยนะค่ะ ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรเช่นกัน แต่เพียงแต่ได้มีโอกาสไปนั่งฟัง ซึ่งได้ประโยชน์มากทีเดียว จากคุณ : Indy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 01:15:15 A:110.171.33.129 X: TicketID:374714

ความคิดเห็นที่ 24 21 "ดำใต้ท้องเรืออันตรายตรงไหน.." ถ้าคนที่ดำลงไปหนึ่งอึดใจ แล้วไม่พ้น ลอยขึ้นไปติดใต้ท้องเรือ.. คุณคิดว่าอันตรายหรือเปล่าล่ะครับ.. (ผมก็ไม่เห็นหรอกนะว่าเรืออะไรไม้ หรือเหล็ก หรืออะไร.. ขนาดของเรือใหญ่หรือเล็ก) แต่ถ้าติดก็อันตรายทั้งนั้น.. ถ้าไปทำคนเดียวติดใต้ท้องเรือ..จะเอาตัวรอดด้วยวิธีไหนล่ะครับ? มีบอกวิธีด้วยหรือเปล่า? ถึงจะมีบัดดี้ก็เถอะ.. ถ้าดำไปแล้วไม่รอด การช่วยเหลือคงไม่ง่ายนัก สำหรับนักดำน้ำที่หมดอากาศหายใจ แล้วติดใต้ท้องเรือ.. วิธีช่วยคน panic ถ้าบัดดี้ไม่ได้ใส่อุปกรณ์ดำน้ำด้วยยิ่งแล้วใหญ่..ก็นะ (ซึ่ีงผมคิดว่าบัดดี้คงไม่ได้ใส่อุปกรณ์ดำน้ำ เพราะกำลังฝึก free diving...) ดีไม่ดีตายหมู่อีก จริงๆ แล้ว ผมเองก็ไม่ได้พูดถึง skill นี้นะ ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรเท่าไหร่ เพราะเห็นพูดอยู่เหมือนกันว่ามีฝึก free diving ด้วย ไปครั้งเดียวได้เยอะๆ ก็ดีครับ.. แต่ในความเป็นจริง..การฝึกที่ว่านั่นเกี่ยวกับ rescue แน่นอน (เพียงแต่ผมไม่อยากพูดเท่านั้นเอง แต่ถ้าถามก็เอามายืนยันก็แล้วกันนะ..) ผมดูจากข้อความนี้.. "แต่ที่โหดหน่อยก็ตรงที่ครูนายทหารของพวกเราต้องการทดสอบกำลังใจ โดยแกสอนว่ามีความรู้ถ้าไม่มีความมั่นใจถึงเวลาคับขันขึ้นมาก็เอามาใช้ไม่ได้ ครูได้ลำลองสถาณการณ์ขึ้นมา โดยให้พวกเราดำน้ำตัวเปล่า(ไม่มีอุปกรณ์ใดๆทั้งสิ้น)ลอดได้ท้องเรือ.." ถามว่าอันตรายตรงไหน? ผมตอบให้อีกข้อก็แล้วกันนะ.. จขกท. เป็นคนบอกเองว่า..สอบในสระครั้งแรกก็ไม่ผ่านแล้ว.. นั่นแค่ว่ายน้ำนะครับ.. แสดงว่าสภาพร่างกายคงยังไม่พร้อมเท่าที่ควร.. ซึ่งผมก็พูดไว้ข้างบนโน่นแล้วไง ว่าสถาบันดำน้ำทั่วๆ ไป ก็จะทำการทดสอบมาตรฐานโดยใช้คนธรรมดาๆ อย่างเรานี่ละ จากคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ออกกำลังกายบ้าง ฯ เอามาเป็นมาตรฐานในการวัดผลการทดสอบ.. แค่ว่ายน้ำครั้งแรกยังไม่ผ่านเลย.. แล้วนี่..พอรอบสองไปทะเล ให้ดำน้ำรอดใต้ท้องเรือ.. ถ้าไม่พ้นคงจะเป็นเรื่องเลยนะครับน่ะ.. ถึงจะไปฟิตร่างกายมาแล้วก็เถอะนะ.. free dive กับ scuba นี่คนละแนวโดยสิ้นเชิงนะ.. "Over Standard ตรงไหนค่ะ.." rescue มีฝึก skill นี้ใน standard ด้วยรึเปล่าล่ะครับ.. ใช้ตำราของสถาบันไหนครับ?  วัตถุประสงค์เพื่ออะไรครับ? การฝึก skill ใดๆ ก็แล้วแต่ ควรมีที่มา ที่ไป มีเหตุ และมีผล ที่สำคัญควรจะเกี่ยวเนื่องกับการฝึกใน course นั้นโดยตรง ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับ course ก็ไม่ควรเอามาปน เพราะผู้สอนควรสอนตาม standard ที่กำหนดไว้ตามหลักสูตรของแต่ละสถาบัน ฝากไว้นิดละกัน..การฝึกแบบ over head penetration สำหรับ free dive ผมก็ยังว่าอันตรายเลยนะ ควรฝึกในที่โล่งน่าจะเหมาะกว่า.. ยินดีครับ ถ้าต้องการแลกเปลี่ยนความรู้.. เอ้อออ..แต่ที่ผมถามน่ะ..ผมถามถึง skill ถอดชุดหล่อต่างหากล่ะครับ.. ทำเพื่ออะไร.?   เกี่ยวยังไงกับการฝึก rescue..? แปลกนะ.. จขกท.ไม่มาตอบเลยซักข้อ... คห. 6 เค้าก็ถาม ผมก็ถาม..แต่ไม่มาตอบ แต่คนที่ไปนั่งฟัง..มาตอบแทนซะนี่.. เฮ้ออออ... จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 02:29:19

ความคิดเห็นที่ 25 ท่าจะดราม่าอีกแล้ว จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 06:43:00

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ที่ได้มาในคำตอบของคุณตะวันลับฟ้านะค่ะ และก้อจะเก็บไปเป็นความรู้ด้วยความเต็มใจในฐานะที่เป็นไดฟ์เวอร์ธรรมดาคนนึง และขอแสดงความเคารพในฐานะที่เป็นครูท่านนึง เช่นกันค่ะ ถ้าอธิบายหลายเรื่องไปก้อไม่จบค่ะเพราะไม่ได้ร่วมในเห็นการณ์ แต่ก้อจะเก็บความปรารถนาดีที่แนะนำไว้ใช้ในเหตุการณ์ต่อๆ ไปนะคะ และเข้าใจว่าบางครั้งการแสดงความเห็น และการณ์แสดงตัวตนของแต่ละคน อาจไม่ตรงกันเสมอไป ก้อหวังว่า จะจบแค่คำว่าพอสมควรนะค่ะ ยินดีรับฟังความเห็น และพร้อมเปิดรับในวิสัยทัศน์ และคำแนะนำ ค่่ะ เป็นธรรมดาที่แสดงความคิดเห็นออกไปบ้าง ในฐานะที่เป็นศิษย์ที่รัก และชื่นชม ครูผู้สอน ตลอดจนครูไม่เคยปล่อยให้อยู่ในสถานการณ์อันตรายเกินการควบคุมแน่นอน จากคุณ : Indy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 10:13:38 A:110.171.33.129 X: TicketID:374714

ความคิดเห็นที่ 27 ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณตะวันลับฟ้าที่บังอาจไปสั่งสอนให้คุณทำแก้วให้ว่าง เพราะดูจากการตอบในกระทู้ของคุณทำให้พอรู้ว่าความรู้เรื่องดำน้ำมาก คงจะต้องเป็นระดับInstructor ที่ผมตอบกระทู้ไปอย่างนั้นคงเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมเองหาได้ใจแคบไม่ โปรดอภัยที่บังอาจ     ส่วนคำถามของคุณที่ต้องการให้ผมตอบนั้น ด้วยความรู้การดำน้ำแค่หางอึ่ง ก็ยังไม่กล้าที่จะบังอาจไปตอบได้ แต่ขอเก็บไว้เป็นคำถามที่ผมจะนำไปถามครูของผมในโอกาสที่เจอท่านๆต่อไป     ส่วนการตั้งกระทู้ก็แค่หวังแชร์ประสบการณ์ดีๆที่เจอมาเท่านั้น และยังยืนยันว่าดีและมั่นใจในระบบการดูแลของร้านนี้ว่าปลอดภัย ส่วนทุกSkillที่ได้เรียนนั้นก็ทำได้จริงๆทุกคน ส่วนจะจำเป็นหรือไม่นั้นส่วนตัวก็ยังคิดว่ามีประโยชน์ที่ได้ฝึก     ขอขอบคูณทุกความรู้ที่ได้ตอบเข้ามา ทำให้แก้วผมมีน้ำมากขึ้น แต่ก็ยังว่างเสมอเพื่อขอรับความรู้ใหม่ๆจากผู้รู้ทุกท่านเพื่อนำมากลั่นกรองนำไปใช้ด้วยใจที่ไม่มีอคติและริษยาใดๆ     สุดท้ายต้องขอให้เรื่องของผมนี้เป็นแค่นิยายเรื่องหนึ่งที่อ่านเพื่อสนุก และคงไม่ไปกระทบกับใครนะครับ ถ้าทำให้ท่านใดไม่สบายใจอีกก็ต้องขออภัยอีกครั้ง แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 11:26:22 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 11:25:20 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 11:23:28 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 11:22:58 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 11:22:31 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 11:18:10 จากคุณ : Neng_ftc เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 11:16:08

ความคิดเห็นที่ 28 การเรียน หรือ การฝึกใดๆก็ตาม เมื่อสำเร็จการฝึกหรือการเรียนนั้นๆแล้ว ผู้เรียนยังไม่สามารถอธิบายได้ว่า การฝึกเรื่องนั้นๆ ทำไปเพื่อประโยชน์อันใด เพื่อเอาไปใช้ในสถานการณ์ไหน .."โดยเฉพาะการฝึกที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคน"... ถือได้ว่า การเรียนการสอนนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แม้ว่าผู้เรียนจะสามารถทำได้ดีจนได้เกรด เอ ก็ตาม ในทางตรงข้าม ผู้เรียนที่สามารถตอบได้ว่า การฝึกนั้น มีประโยชน์และนำไปใช้ได้อย่างไร ในสถานการณ์ไหน แม้ว่าการฝึกปฏิบัติจะยังทำได้ไม่ดีนัก ก็นับว่า เป็นการฝึกที่ได้ผลสมตามเป้าหมาย เพราะ "ทักษะ" เป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถพัฒนาต่อได้ด้วยตนเอง ถ้ารู้เป้าหมายชัดเจนว่า จะเอาไปทำอะไร ปล. ขออภัย เราไม่ได้ว่าครูของคุณไม่ดี หรือไม่เก่ง เราเชื่อว่า เก่งมาก แต่การเรียนการฝึก มันต้องเคลียร์กันเรื่องวัตถุประสงค์ และประโยชน์ และการประยุกต์ใช้กันให้ชัดเจนในทุกการฝึก แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 16:29:29 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 16:01:53 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 15:57:54

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณเอกจิตรา เข้าใจตรงกันตามนั้นครับ เอาเป็นว่าพูดจาแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ   บางส่วนอาจจะดูเหมือนเข้าข้างเจ้าของกระทู้หรือสถาบันที่สอน  แต่ไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไขนะครับ ยกตัวอย่างประสบการณ์จากตอนเรียน open water (เพราะได้เรียนมาแีค่นั้น)  ก็ได้ดูวิดีโอและอ่านหนังสือที่เป็นตำราเรียนของ PADI ด้วยโดยได้จากเพื่อนให้ยืมมา  (ถึงแม้จะเป็นหนังสือที่ได้รับคำวิจารณ์ว่าแปลได้ค่อนข้างห่วย  แต่ก็ถือว่าเป็น version ที่ PADI ออกมาจาก PADI คงต้องจัดว่าได้มาตรฐาน)   แม้การปฏิบัติต่างๆ จะมีขั้นตอนเขียนไว้  แต่การปฏิบัติได้ถูกต้องก็ต้องอาศัยทักษะในระดับหนึ่ง  รวมถึงการจัดลำดับความคิดที่ไม่สับสน    และเทคนิคปลีกย่อยจิปาถะที่หลักสูตรไม่ได้บอกแต่เราต้องสังเกตและหาวิธีแก้ปัญหาเอง  หรือเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์  เพื่อลดปัญหาต่างๆ และดำน้ำได้สนุกขึ้น หลักสูตรของ PADI หรือสถาบันที่ยอมรับกันว่าเป็นมาตรฐานก็เขียนไว้ในระดับหนึ่งให้เพียงพอกับสิ่งที่ได้เรียนรู้จักปัญหาในอดีต  แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันได้ครอบคลุมทุกอย่างทั้งหมดเรียบร้อยแล้วไม่สามารถจะมีอะไรนอกเหนือจากนั้นได้อีก   ผมเชื่อว่าว่าอะไรที่นอกเหนือจากตำราของสถาบันแห่งหนึ่งไม่ได้แปลว่ามันจะผิด  (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไรก็ยอมรับได้ทั้งหมดนะครับ) ผมไม่กล้าจะไปออกเสียงยืนยันหรือคัดค้านว่าการฝึกของสถาบันถูกต้องหรือไม่  เพราะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์   การปฏิบัติแต่ละอย่างจะปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยขึ้นอยู่กับการเตรียมการ  การฝึกซ้อม  การรู้ขีดความสามารถของแต่ละคน  และการดูแลระวังภัยจากคณะผู้ฝึกสอน ยกตัวอย่าง  ตอนผมลงไปสอบ scuba ครั้งแรก  ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ใต้น้ำในทะเล  ถ้าจู่ๆ ให้ลอดใต้เรือเลยผมก็ไม่กล้า และจะไม่ทำเด็ดขาด   แต่ถ้าเป็นตอนนี้  ผมรู้แล้วว่าตัวเองสามารถดำลงไปที่ระดับ 3-5 เมตร  ด้วยระยะทางในแนวราบไม่น้อยกว่า 15 เมตร  (ฝึกในสภาพที่ไม่ใช่ overhead environment  ไม่ใช่อยู่ๆ ไปซ้อมลอดเรือหรือลอดถ้ำเล่น)   ถ้าเป็นเรือที่เคยไปออกทะเลที่แสมสารหรือพัทยาก็กว้างน่าจะไม่เกิน 8 เมตร  ถ้าทัศนวิสัยดีและไม่มีกระแสน้ำแรง    ถ้าเริ่มดำลงไปที่ความลึก 3 เมตรและ bouyancy ไม่เป็นบวกมากเกินไปรักษาระดับความลึกได้  ผมก็กล้าที่จะว่ายลอดใต้ท้องเรือลำนั้นได้    (น่าจะเข้าใจตรงกันว่าการทำอย่างนั้นต้องเป็นสภาพที่เรือจอดลอยลำไม่ได้เดินใบจักรอยู่)  ส่วนนี้น่าจะเป็นการทดสอบหรือฝึกจิตใจให้มีความมั่นคงในระดับหนึ่ง  แต่คงไม่ได้เป็นการแนะนำให้ดำลอดใต้เรือไปช่วยคนจมน้ำในอีกฝั่งหนึ่งโดยที่ไม่มีสถานการณ์บังคับให้เป็นอย่างนั้น ส่วนบางคำแนะนำเช่น  ถ้าว่ายน้ำไม่แข็งให้หาอุปกรณ์ชูชีพไว้ก่อน  น่าจะเหมาะกับคนที่ไปดำน้ำเที่ยว   แต่คงจะไม่ใช่สำหรับคนที่ตั้งใจไปเรียน rescue  (ถ้าคนเรียน rescue ยังต้องหวังพึ่งชูชีพ  คงต้องแนะนำให้ไปฝึกทักษะให้ดีก่อนน่าจะเหมาะสมกว่า) เรื่องถอดเสื้อผ้า  อันนี้ไม่แน่ใจว่าผู้สอนพิจารณาไปไกลแค่ไหน  เช่นว่าออกไปเที่ยวทะเลแล้วเกิดอุบัติเหตุทางเรือ  นอกเหนือไปจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างดำน้ำหรือเปล่า   ส่วนตัวผมมีประสบการณ์แบบเฉียดๆ ครั้งหนึ่ง  เคยไปเที่ยว snorkeling ที่เกาะช้าง  แล้วเรือไปจอดใกล้เกาะมาก  ตอนจะกลับอาบน้ำแต่งตัวเสร็จนั่งชิลๆ แล้ว น้ำกำลัีงลง  คนเรือจะถอยเรือออกแต่เข้าเกียร์พลาดกลายเป็นเดินหน้าก็ไปเกยหินใต้น้ำ เรือเอียงวูบไปประมาณ 30 องศาได้  ยังไม่ทันมีใครตกน้ำแต่รู้สึกว่าเกือบไปแล้ว  ยังดีที่นักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างมากเต็มความจุของเรือ ทุกคนยึดตัวเองไว้กับที่ไม่ panic  เทกันไปทางด้านใดด้านหนึ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่านั้น  แล้วเรือก็ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น  เอาเรือลำอื่นแถวนั้นมาลากก็ไม่ขยับ  สุดท้ายเรียก speed boat มารับคนกลับส่วนเรือลำนั้นก็ต้องรอน้ำขึ้นถึงจะขยับออกมาได้ ส่วนตัวผมคิดว่า  ถ้าส่วนที่มันนอกเหนือหลักสูตรเป็นสิ่งที่ผู้เรียนยอมรับ  และมีการดำเนินการให้เป็นไปด้วยความปลอดภัย  ไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องผ่านในสิ่งที่นอกเหนือหลักสูตร  (ถ้ามาเรียนหลักสูตร rescue ของ PADI ก็ควรใช้เกณฑ์ของ PADI ในการตัดสินว่าผ่านหรือตก   ถ้าผู้เรียนทำได้ตามมาตรฐาน PADI  แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ทางทหารแล้วบอกว่าตกหรือเคี่ยวเข็ญให้ทำอยู่นั่นแล้ว  อย่างนั้นก็ไม่สมควร)  และผู้เรียนรู้สึกพึงพอใจในสิ่งที่ได้รับก็น่าจะ ok นะครับ  เพียงแต่ว่าตรงไหนที่มันเกินไปหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับคำอธิบายและขอบเขตบางอย่างของแต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากัน  ที่จะตัดสินว่าส่วนไหนคือเกินไปหรือว่ายอมรับได้ อย่างตอนเรียน open water  ทางผู้สอนบอกว่าในเนื้อหาที่สอนครอบคลุมทั้ง NAUI, PADI   และ NAUI require บางอย่างมากกว่า PADI  แต่เขาจะไม่มาจี้ว่าให้ทำโน่นทำนี่ให้ได้เกณฑ์ของ NAUI  แต่ถ้าสอบแล้วทำได้ถึงเกณฑ์ของ NAUI ก็สามารถเลือกออก cer NAUI ได้  ไม่มีการมาจ้ำจี้จำไชว่า คุณต้อง recover regulator ให้ได้สองอันนะ (PADI ถือว่า recover ได้ 1 อันก็ ok แล้วแต่ NAUI ต้องได้สองอัน)  และอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าอันไหนที่ NAUI บังคับว่าต้องทำได้  เขาสอนอะไรมาก็พยายามทำไปให้ดีที่สุด  แต่ผมว่าเขาก็ไม่ได้ strict เท่าไหร่  ส่วนใหญ่ก็ได้ NAUI กันนั่นแหละ จากคุณ : rujipars_a เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 16:54:33

ความคิดเห็นที่ 30 Good Attitude มากเลยเป็นกลาง นับถือ จากคุณ : indy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 17:22:16 A:27.55.8.34 X: TicketID:374714

ความคิดเห็นที่ 31 26, 27 ด้วยความยินดีครับ ผมเองก็ดีใจกับจขกท. นะที่ได้เรียนกับครูที่มีความรู้ ความสามารถสูงในระดับนั้น ดูจากคห. 2 การให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายให้ได้ประโยชน์สูงสุดแบบนั้น.. ผมว่าครูผู้สอนน่าจะจบ วิทยาศาสต์การกีฬา มาด้วยซ้ำไป.. นอกจากนั้นจากคห. 23 ผู้สอนยังมีความรู้เกี่ยวกับ free diving เป็นอย่างดีอีกด้วย ในวงการดำน้ำผมรู้จักครูท่านหนึ่งที่มีความรู้ ความสามารถระดับนี้ แต่นั่นก็นานแล้ว หลายปีมานี้คงมีครูที่มีความรู้ระดับนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่มากก็น้อย.. กับเรื่องมุดใต้ท้องเรือ.. ที่ผมว่ามันอันตราย เพราะผมเองมีประสบการณ์ตรงมาแล้ว เพราะเคยดำน้ำแล้วติดใต้ท้องเรือมาแล้วน่ะซิ่ครับ.. ผมถึงได้ถามไว้ในคห. 24 ว่า.."ถ้าไปทำคนเดียวติดใต้ท้องเรือ..จะเอาตัวรอดด้วยวิธีไหนล่ะครับ? มีบอกวิธีด้วยหรือเปล่า?..."  ถ้าไม่มีวิธีผมจะได้ยก case ของผมให้ฟัง.. ถ้าไงเดี๋ยวผมจะเขียนในกระทู้ใหม่ให้อ่านก็แล้วกัน.. จะได้รู้ว่าในสถานะการณ์แบบนั้น วิธีการเอาตัวรอดที่ผมใ้ช้..ทำยังไง ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรนอกเหนือไปจากนั้น นอกจากอยากแชร์ประสบการณ์ให้ฟังเท่านั้นเอง ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้กันก็แล้วกัน เรื่องอะไรที่ผมแสดงความคิดเห็นไป แล้วขัดใจบ้าง ก็อย่าโกรธกันนะ.. ผมแค่อยากเห็นมาตรฐานการฝึกที่ดี เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เท่านั้นเอง.. เรื่องอื่นก็ช่างมันเถอะ.. ที่สำคัญ..ผมเองอยากเห็นนักดำน้ำไทย ที่มีความรู้ ความสามารถ ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลกครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 55 22:25:57 จากคุณ : ตะวันลับฟ้า เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 20:49:56

ความคิดเห็นที่ 32 แสดงว่าต้องว่ายน้ำเป็นถึงจะเรียนดำน้ำได้ใช่มั้ยครับ แฟนผมว่ายน้ำไม่เป็นก็ต้องอดเรียนสิครับ T_T แต่เห็นมีบางร้านบอกว่าไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็นก็เรียนได้อ่ะครับ จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 17:27:25 A:61.19.226.253 X: TicketID:374930

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเอาแค่ไปดำเที่ยว  ไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็นก็ได้ครับ  ผมก็ว่ายไม่"เป็น"  แค่พอว่ายได้นิดหน่อย  แต่ถ้าใส่สนอร์เกิลกับเตะฟินเป็นแล้วสบายมากเลยครับ สำหรับการว่ายหรือดำบนผิวน้ำ  เพียงแต่จะต้องอาศัยคนสอนที่เอาใจใส่และให้เวลาหน่อย บางทีถ้าไปเรียนดำน้ำแล้วกลับมาหัดว่ายน้ำอาจจะง่ายกว่าเดิมก็ได้นะครับ  เพราะเราจะเร่ิมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเวลาอยู่ในน้ำ  เมื่อไม่ตื่นเต้นแล้วจะทำอะไรก็ง่ายขึ้น ที่คุยๆ กันตามกระทู้นี้ คือการเรียน rescue คือเป็นคนที่ต้องสามารถไปช่วยเหลือคนอื่นได้  ก็จะต้องมีความสามารถค่อนข้างสูงคนละเรื่องกับการเรียนในระดับ open water diver หรือ scuba diver ธรรมดา ถ้าจะห่วงเรื่องการลอยตัวบนผิวน้ำ เวลาเรียนโดยปกติแล้วจะได้ใส่ wet suite ซึ่งจะช่วยให้เราลอยตัวในน้ำง่ายขึ้น  (ยังไม่รวมถึงการนำอุปกรณ์ scuba เข้ามาประกอบ) จากคุณ : rujipars_a เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 19:27:36

ความคิดเห็นที่ 34 ครับ เคยลองให้เค้าใส่ฟิน พอดุกดิ๊กได้ เค้าไม่กลัวแฮะแปลกเหมือนกันครับ ผมกลัวว่าถ้าเค้าเรียนต้องดำน้ำลงไปหยิบทราย30ฟุต คงไม่ให้เค้าเรียนอ่ะ10เมตรสำหรับคนว่ายน้ำไม่แข็งหรือไม่เป็นนี่เอาเรื่องนะครับ ตัวผมดำได้สบาย แต่แฟนไม่ดำน้ำผมคงอดได้วีซ่าครับ สรุปอดดำทั้งคู่ จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 22:07:50 A:61.19.226.253 X: TicketID:374930

ความคิดเห็นที่ 35 Rescue เขายังดำแค่5-6เมตรเอง ตอนผมเรียนทักษะผิวน้ำก็แค่ตีฟิน ลากบัดดี้ แก้ตะคริว ถอดชุด scuba แล้วใส่กลับ ประมาณนี้ ไม่ได้ดำตัวเปล่าลงไป ก็ผ่าน cerครับ สอบว่ายน้ำ200-300เมตรก็ไม่ได้สอบ แต่เราอยากมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้นก็ศึกษาและฝึกเพิ่มเติมแบบค่อยเป็นค่อยไป จากคุณ : ยุ้นหยู่ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 23:38:34