ความคิดเห็นที่ 1 ขอเล่าในส่วนของการตัดสินใจเลือกโฮสของตัวเองก่อนว่ามีหลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง เพื่อให้เราอยู่แล้วสบายใจที่สุด 1. เลือกโฮสที่มีคนคอนเมนท์เป็นบวก     เพื่อความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าโฮสนั้นจะน่ารัก คนไปพักแล้วจะได้ความรู้สึกดีๆกลับมา ยิ่งคอมเมนท์เยอะๆยิ่งดี แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าคอมเมนท์ดีแล้วจะไม่เจอแจ็คพ๊อต     ดิฉันได้เจอคนไต้หวันที่มาวูฟบ้านเดียวกัน เขาเล่าให้ฟังว่าเขาเจอโฮสแปลกๆที่อยู่ด้วยแล้วลำบากใจมาก ห้องนอนก็ไม่มีให้ ให้นอนในห้องเก็บของ โฮสก็แปลกๆเวลานั่งกินข้าวก็ไม่คุยกันเลย ทำให้เขาอึดอัดมาก บ้านก็ไม่สะอาด อยู่แค่ 2-3 วันเขาก็เลยต้องรีบย้ายบ้าน 2. เลือกงานที่เหมาะกับตนเอง     ดูความต้องการตนเองว่าสนใจงานแบบไหน อยากได้ความรู้แบบไหนกลับมา งานวูฟที่ญี่ปุ่นถึงใช้ชื่อว่า organic farm แต่ก็มีงานอื่นๆนอกจากนาข้าว ฟาร์มสัตว์ และสวนผลไม้แล้ว ยังมีพวก pension เกสเฮ้าท์ ร้านกาแฟหรือทำสบู่ถ่านด้วย ถึงจะไม่มากก็ตาม     สำหรับตัวเองสนใจสวนผลไม้ สวนองุ่นที่ผลิตไวน์ สบู่ถ่าน และ pension ค่ะ คราวนี้เลยได้ไปทำงานกับโฮสที่ทำสวนแอ๊ปเปิ้ลกับ pension เกือบจะได้ไปทำที่สวนองุ่นแล้ว แต่พอดีช่วงที่จะไปเขามีวูฟคนอื่นพักอยู่ก่อนแล้ว เลยอด จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:10:37

ความคิดเห็นที่ 2 3. เลือกจากชม. การทำงานต่อวัน     ก่อนที่จะไปวูฟ ดิฉันได้คุยกับคนญี่ปุ่น เขาแนะนำว่าให้ดูให้ดี เพราะโฮสบางที่ก็ใช้งานหนักเกินไป บางคนคิดว่าวูฟเป็นแรงงานราคาถูก ก็เลยใช้จนคุ้มค่า     คนญี่ปุ่นเขาทำงานกันหนักมาก ทำงานกันเกือบตลอดเวลา เขาก็เลยคาดหวังว่าวูฟทุกคนจะต้องทำงานให้ได้เท่าเขา เลยทำให้บางทีมีปัญหากับพวกฝรั่งซึ่งมีวัฒนธรรมการทำงานต่างกัน     ดิฉันจะเลือกโฮสที่แจ้งว่าชม.การทำงานคือ 6 ชม. หรือมากกว่า บางที่จะบอกไว้ว่าถ้าทำยาวเกินจากนี้จะให้เป็นวันหยุดเพิ่มแทน  บางที่จะบอกว่าเวลาทำงานเราจะเท่ากับพนักงานนั่นก็คือ 8 ชม. ดิฉันว่ามันหนักเกินไปสำหรับการมาวูฟ 4.เลือกโฮสที่ทำอาหารให้เราทานและทานกับเรา     อันนี้ถือเป็นความชอบส่วนตัว ไม่ใช่ว่าตัวเองทำอาหารไม่ได้ แต่อยากทานอาหารญี่ปุ่นและเรียนการทำอาหารจากคนญี่ปุ่นจริงๆ ถ้าโฮสไหนแจ้งไว้ว่าให้เราทำอาหารเองจากของที่เขาเตรียมให้ แล้วให้กินข้าวกับวูฟคนอื่นๆ อันนี้ดิฉันไม่เลือกค่ะ 5.ปลีกย่อยอื่นๆ     อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน โฮสบางคนจะเป็นมังสวิรัต ถ้าใครไม่สามารถทานแต่ผักได้ทุกวันให้เลือกดูให้ดีนะคะ หรือถ้าใครติดขนม ติดความเจริญ เลือกโฮสที่บ้านอยู่ใกล้ถนนหน่อยก็จะสะดวก ไม่อดอยาก จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:15:29

ความคิดเห็นที่ 3 มารออ่านจ้าา จากคุณ : Shiraha เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:22:53

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากเลือกโฮสได้แล้ว ก็เขียนจดหมายแนะนำตัวและส่งไปหาเขา แล้วก็รอจดหมายตอบกลับ     ในเว็บเขาจะแจ้งไว้ว่าให้ส่งไปหาโฮสทีละคน อย่าเหวี่ยงแหส่งไปหลายคนพร้อมกัน เพราะถ้าทุกคนตอบรับคุณหมดในเวลาเดียวกัน คุณก็ต้องมาปฏิเสธคนอื่นทีหลังมันเสียความรู้สึก ตามมารยาทคนญี่ปุ่นเขาไม่ทำแบบนี้กัน     หลังจากส่งไปแล้วดิฉันก็รอคำตอบประมาณหนึ่งอาทิตย์ ถ้าเขาไม่ตอบกลับก็ส่งไปหาคนใหม่ แต่ส่วนใหญ่ก็จะตอบมา ไม่เกิน 2-3 วัน อันนี้ในประวัติโฮสเขาจะบอกไว้ว่าเขาเช็คเมล์บ่อยขนาดไหน บางคนเช็คทุกวัน บางคน 2-3 วันเช็คที     สิ่งที่ต้องระบุไว้ในจดหมายที่เขียนให้โฮส     ชื่อ หมายเลขสมาชิกวูฟ ระยะเวลาที่ต้องการไปวูฟ แนะนำตัวและความสามารถเรา จุดประสงค์ในการไป ความรู้ที่อยากได้จากการไปวูฟครั้งนี้     ดิฉันไปวูฟรวมทั้งหมด 4 อาทิตย์ แต่แบ่งเป็น 2 ช่วง     ครั้งแรกเดือนธันวาไปเที่ยว 3 อาทิตย์และวูฟ 1 อาทิตย์     ครั้งที่ 2 เดือนพฤษภา ไปเที่ยว 1 อาทิตย์ และวูฟ 3 อาทิตย์ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:23:35

ความคิดเห็นที่ 5 รอๆ จากคุณ : tiger4x4 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:31:06

ความคิดเห็นที่ 6 ขออนุญาตปาด สนใจอยู่พอดเลยค่ะ จากคุณ : jI@ng jIng zhEn เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:31:21

ความคิดเห็นที่ 7 วูฟแรกที่ดิฉันไปตอนเดือนธันวา อยู่ที่ Fukushiyama ห่างออกไปจากเกียวโตอีกหน่อย จากโตเกียววิธีเดินทางที่ประหยัดที่สุด ก็คือนั่งรถ night bus     ดิฉันเลือกของ willerexpress เพราะมีเว็บเป็นภาษาอังกฤษและจองสะดวกผ่านทางเว็บไซด์เขาได้เลย     http://willerexpress.com/bus/pc/3/top/     รถบัสเขามีหลายแบบมาก เบาะสารพัดแบบให้เลือก ดิฉันเลือกแบบ relax with extra special seats ราคาตั๋วเที่ยวเดียว 5900 เยน (ประมาณ 2300 บาท ราคาตั๋วแต่ละวันจะไม่เท่ากันบางวันราคาอาจจะสูงถึง 9000 เยน)     ที่นี่ค่อนข้างปลอดภัยถึงแม้ผู้หญิงจะเดินทางคนเดียว ตอนจองที่นั่งเขาจะให้ระบุเพศด้วย ผู้หญิงเดินทางคนเดียวเขาก็จะจับมานั่งด้วย     พอจองตั๋วเสร็จเราจะได้รับเมล์ ก็พิมพ์เมล์นั้นแล้วเอาไปจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อที่เขาระบุไว้ เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีนะคะ เผื่อมีปัญหาทีหลัง จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:37:55

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาอ่านข้อมูล คับ จากคุณ : maxtana01 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:44:20

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่รู้มาก่อนว่ามีแบบนี้ด้วย น่าสนใจ น่าสนใจ จากคุณ : nod-n/a เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:50:14

ความคิดเห็นที่ 10 เชิญปาดกันตามสบายค่า --------------------------------     ออกจากโตเกียวคืนวันที่ 19 ธันวา รถออกจากสถานีชินจูกุ 22.30 น. ถึงสถานีเกียวโตวันที่ 20 ธันวา เวลา 6.00 น. แต่รถบัสนี่ไม่ตรงเวลาเท่าไหร่นะคะ กว่าจะไปถึงเกียวโตก็เลยจากตารางไปครึ่งชม.     จากป้ายรถบัสเดินข้ามถนนไปก็เป็นสถานีเกียวโตแล้ว จากที่นี่ต่อรถไฟธรรมดาไป Sonobe ใช้เวลา 42 นาที ตั๋วราคา 570 เยน     เปลี่ยนรถจากที่นี่ไป Fukuchiyama ใช้เวลา 1.11 นาที ตั๋วราคา 950 เยน     ไปถึง Fukuchiyama รอพักนึงผู้ชายญี่ปุ่นตัวเล็กๆ ยิ้มสดใสเหมือนในรูปที่ลงไว้ในโปรไฟล์ ก็เดินยิ้มเข้ามาทัก     แต่เรายังไม่ได้กลับบ้านกันทันที ยังมีภารกิจต้องทำหลายอย่างก่อนกลับบ้าน ซาโวซังแวะไปถ่ายเอกสารที่ห้างก่อน     ดิฉันเลยมีโอกาสช๊อปปิ้งขนมตุนไว้ เป็นพวกหิวบ่อย ถ้าหิวแล้วไม่ได้กินจะปวดท้องมาก และก็คิดถูกจริงๆที่ซื้อมา เพราะบ้านเขาห่างไกลความเจริญมากๆ     ไม่มีร้านค้าอยู่ในรัศมีที่สามารถเดินไปได้ บ้านในบริเวณใกล้เคียงมีประมาณ 5 หลังได้     บ้านซาโวซังเป็นบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณ ประมาณ 60-70 ปีที่แล้วที่เขาอยู่กัน เดี๋ยวนี้บ้านแบบนี้หายากมาก เจ้าของบ้านเขาว่าแบบนั้น แต่ดิฉันว่าเพราะมันอยู่ลำบาก คนเลยปลูกบ้านเป็นแบบใหม่ ทันสมัยกันหมด แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 21:37:26 จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:57:15

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : macpro777 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:01:02

ความคิดเห็นที่ 12 รออ่านค่ะ จากคุณ : ปอน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:09:01 A:125.27.192.78 X: TicketID:312365

ความคิดเห็นที่ 13 ห้องพักของวูฟอยู่ชั้นสอง บ้านนี้จะรับวูฟได้ครั้งละคนเท่านั้น หรืออย่างมากก็ 2 คน ถ้าเป็นคู่สามี ภรรยาหรือเพื่อนกัน     ต้องขึ้นบันไดชันๆไปชั้นบน เขามีรองเท้าให้สวมเวลาเดินภายในบ้านเหมือนบ้านญี่ปุ่นทั่วไป แต่ต้องถอดออกก่อนเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นเสื่อทาทามิของห้อง     รองเท้าที่เขาให้มาใหญ่มาก เวลาเดินขึ้นบันไดชันๆแบบนี้ลำบากมาก จะเดินหัวทิ่มตกบันไดหลายรอบแล้ว ดิฉันแอบถอดก่อนขึ้นบันไดทุกที ไม่ไหว จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:10:36

ความคิดเห็นที่ 14 ภายในห้องพัก ด้านซ้ายมือเป็นตู้เก็บที่นอน ถ้าใครคุ้นเคยกับการ์ตูนญี่ปุ่นจะรู้ดี ตู้แบบนี้ที่โดราเอม่อนนอน     ด้านขวามือบนแท่นเป็นฮีทเตอร์ แต่เป็นรุ่นโบราณมากๆ แบบเติมน้ำมันก๊าด ฮีทเตอร์แบบนี้นอกจากจะไว้ให้ความอบอุ่นแล้ว ยังมีประโยชน์อีกอย่างนึงด้วย นั่นคืออออ เอาไว้ต้มน้ำค่า     เอากาน้ำหรือหม้อน้ำวางไว้ด้านบน เดี๋ยวมันก็ร้อน บ้านนี้เขายังเอาไว้อุ่นอาหารด้วยนะคะ ประโยชน์เยอะ แต่ไม่ค่อยจะอุ่นเล้ยยยย     ห้องที่ไม่ได้เปิดฮีทเตอร์ไว้ตลอด เวลาเปิดมันต้องรอนานกว่าจะอุ่นทั่วทั้งห้อง ตั้งแต่ไปอยู่ไม่เคยมีวันไหนที่มันอุ่นเลย ต้องไปนั่งจ่อแล้วเอามืออังแทน จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:21:15

ความคิดเห็นที่ 15 ก่อนดิฉันไปประมาณอาทิตย์นึง อากาศยังไม่หนาวเท่าไหร่ แต่พอไปอยู่ได้ 2 วัน หิมะก็ตกหนัก ติดต่อกันหลายวันแทบไม่หยุดเลย จนรอบบ้านมีสภาพเป็นแบบนี้     ตอนกลางคืนก่อนนอนดิฉันก็เปิดฮีทเตอร์ไว้ แต่แค่ชม. หรือ 2 ชม. ซาโวซังบอกว่าเปิดฮีทเตอร์พอห้องเริ่มอุ่นให้ปิด ประหยัดก๊าด     ถ้าให้รอห้องอุ่นคงต้องเปิดถึงเช้า เลยปิดก่อนนอน ใส่วูลแล้วก็แจ็คเก็ตอีก 2 ตัวนอน ชุดนอนกับชุดออกข้างนอกเหมือนกันเลย ห่มผ้าอีก 3 ผืนยังหนาวเลยค่ะ ผ้าห่มก็หนักมากๆ     โนริซังภรรยาซาโวซังให้กระเป๋าน้ำร้อนมานอนกอดช่วยให้อุ่นได้แป๊บนึง     อากาศหนาว ทรมานมาก เพราะบ้านเขามีฮีทเตอร์ที่เปิดเกือบตลอดเวลาแค่ห้องเดียวคือห้องนั่งเล่น ส่วนอื่นๆของบ้านไม่มี ถ้าติดหมดบ้านก็ไม่ไหว เพราะอยู่กันจริงๆก็ห้องรับแขกกับห้องที่เขาใช้ทำงาน     รูปนี้ถ่ายจากห้องครัวออกไปจะเป็นแปลงผักที่เขาปลูกไว้กินเอง แต่หน้านี้อด จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:33:52

ความคิดเห็นที่ 16 บ้านนี้ไม่มีโทรทัศน์ มีแต่อินเตอร์เน็ทที่เขาให้เราใช้ได้วันละ 30 นาที แล้วก็วิทยุ บ้านอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ แต่ไกลจากร้านค้ามากกก     ดิฉันคิดถูกแล้วที่ซื้อเสบียงตุนไว้ เพราะเขากินข้าวเย็นกันช้ามาก ประมาณทุ่มหรือสองทุ่ม ดิฉันต้องหาอะไรกินก่อนถึงเวลาอาหารเย็น     ซาโวซังเขาเป็นศิลปิน แกะสลักงานไม้กับภาพเขียนออกแนวพุทธศาสนา งานของเขาออกญี่ปุ่นๆดูแล้วน่ารักดี     ก่อนหน้าที่จะไปพักด้วย เขาก็เพิ่งไปจัดนิทรรศการผลงานตัวเองมา ก่อนหน้านั้นก็เพิ่งมีคนไทยมาอยู่ และกลับไปได้ไม่กี่วัน ดิฉันเลยเป็นคนไทยคนที่ 2 ของบ้านนี้     เขาเล่าว่าช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้เศรษฐกิจยังดีอยู่ เขาขายเฉพาะงานศิลปะของเขาก็พอกิน พอใช้ แต่ตอนนี้เขาต้องทำงานทำความสะอาดตอนกลางคืน อาทิตย์ละ 2-3 วันถึงจะพอค่าใช้จ่าย     โนริซังไม่ได้ทำงาน คงเพราะมีลูกเล็กๆ เขามีลูกสองคน คนโตเป็นลูกติดโนริซังชื่อฮีจัง อายุประมาณ 4 ขวบ ส่วนคนเล็กยูจังอายุยังไม่ถึงขวบ น่ารักมากๆ     ผลงานของซาโวซังในบ้านนี้มีแค่ 3 ชิ้น นอกนั้นเอาไปจัดแสดงหมด     ในห้องที่วูฟพักจะมีอยู่สองชิ้น เป็นไม้แกะสลักอันนี้ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:47:43

ความคิดเห็นที่ 17 อีกอันเป็นรูปวาดและเขียนด้วยพู่กันบนผ้าทำกิโมโน จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:49:23

ความคิดเห็นที่ 18 อีกรูปติดอยู่ห้องที่เก็บรองเท้าหน้าบ้าน ไม่ได้ถ่ายรูปมา มีแต่รูปห้อง จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 21:53:08

ความคิดเห็นที่ 19 เจ๋งมากๆครับ ไม่รู้ว่ามีแบบนี้ด้วย ไม่งั้นผมไปแน่ๆ เคยบอกกับแฟนว่าอยากไปอยู่แบบนี้มากๆ ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:02:48

ความคิดเห็นที่ 20 หน้าร้อนเขาจะปลูกผักไว้กินเอง นอกจากสวนหลังบ้านในรูปด้านบนแล้ว ยังมีสวนเล็กตรงที่ว่างติดเชิงเขาด้วย เดินไปซัก 200 เมตรจากบ้าน     ภาษาอังกฤษของซาโวซังค่อนข้างดี ทำให้คุยกันสนุกมาก เขาก็ดูท่าทางจะชอบคุยกับคนต่างชาติ เขาจะมีคำถามมาถามมากมายเกี่ยวกับประเทศที่เราอยู่     ดิฉันเล่าให้ฟังเรื่องชีวิตของคนนอร์เวย์ สวัสดิการต่างๆ ที่รัฐบาลช่วยเหลือประชาชน อย่างเช่น ตอนคลอดถ้าไม่มีงานประจำทำ แม่ก็จะได้เงินช่วยเหลือหนึ่งก้อน หลังคลอดแล้วก็จะมีเงินให้ทุกเดือนจนกว่าลูกจะเข้าโรงเรียน     ถ้าไม่เข้าโรงเรียนก็ให้ไปจนถึง 3 ขวบ หลังจากนั้นก็จะได้ไปทุกเดือนแต่จำนวนลดลงกว่าครึ่งไปจนลูกอายุครบ 18     การใช้ชีวิตของคนนอร์เวย์ เขาจะไม่ทำงานกันมาก โอทีนี่ไม่อยากจะทำกันเลย เขาสามารถปฏิเสธได้ ถ้าไม่อยากทำ ถึงงานมันจะจำเป็นต้องทำก็เถอะ ที่ไม่ทำงานกันเยอะเพราะยิ่งรายได้เยอะ จ่ายภาษีหนักค่ะ อาจต้องจ่ายถึง 50% ใครจะอยากทำ     คนที่นี่เขาเน้นพักผ่อน ชีวิตไม่เครียด มีเวลาให้ครอบครัว ใครทำงานเยอะเขาว่าประหลาด ค่อนข้างต่างจากญี่ปุ่นที่ต้องทำงานกันเกินกว่าวันละ 8 ชม. บางทีโอทีก็ไม่ได้แต่ต้องทำเพราะคำว่ารับผิดชอบ     ซาโวซังเขาฟังแล้วก็ทึ่งว่าแบบนี้มีด้วยเหรอ แถวยุโรปสวัสดิการแบบนี้มีหลายประเทศ แต่เขาไม่เคยไปแถวนั้นก็เลยทึ่งตอนฟังครั้งแรก     ส่วนภรรยาเขาโนริซัง พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ฟังค่อนข้างรู้เรื่อง     รูปครอบครัวแสนสุขค่ะ ถึงบ้านนี้เขาจะไม่ได้มีมากมายเหมือนคนญี่ปุ่นทั่วไป แต่ก็ดูเขามีความสุขกันดี สังเกตได้จากรอยยิ้ม จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:11:15

ความคิดเห็นที่ 21 มารออ่านด้วยคนนะคะ น่าสนใจมากเป็นประสบการณ์ชีวิตอีกแบบหนึ่ง ดีจังเลยค่ะ จากคุณ : ดินพอกหางหมู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:14:19

ความคิดเห็นที่ 22 รอชมคะ จากคุณ : ไม่ขาวไม่หมวยไม่อึ๋มแต่น่ารัก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:22:09

ความคิดเห็นที่ 23 ปาดดดดดด...^_^ รู้จัก WWOOF ครั้งแรกจากคุณ harumi จากนั้นมาก็ชอบอ่านรีวิวแบบนี้มาก เพราะทำให้เราได้รู้จักวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นแบบเจาะลึก เราชอบมากนะคะโครงการนี้ ได้ทำงานไปด้วย และถือโอกาสท่องเที่ยวไปด้วยในตัว แต่เราติดตรงที่ว่ามีครอบครัวแล้ว จึงไม่สามารถที่จะไปวูฟได้... รออ่านต่อนะคะ.... จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:25:19

ความคิดเห็นที่ 24 รอชมครับ ....  ^^ จากคุณ : ไฮเปอร์ แมเนีย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:26:24

ความคิดเห็นที่ 25 รอชมค่ะ จากคุณ : @On_theway_TK เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:26:57

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้ามีโอกาส ลองไปดูนะคะ คุณ [[[tes]]] เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ -------------------------------     ซาโวซัง เขาเคยไป work and travel ที่ออสเตรเลียหนึ่งปี เลยพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ดี แต่เขียนไม่ค่อยได้ ขนาดประโยคง่ายๆ ยังต้องวานให้คนอื่นเขียนให้     ตอนที่ดิฉันเขียนจดหมายติดต่อว่าจะมาวูฟ เขาก็วานวูฟคนไทยที่มาพักช่วงนั้นให้เป็นคนเขียนตอบให้     ซาโวซังป่วยเป็นมะเร็งมาเป็นสิบปี ดิฉันไม่แน่ใจว่าส่วนไหนเขาบอกศัพท์มาเป็นภาษาญี่ปุ่นน่าจะประมาณตับหรือไตนี่แหละ เขาใช้วิธีตรวจแบบ o-ring test แล้วเจอ ก็เลยไปหาหมอ ต้องตรวจร่างกายตั้งนานกว่าจะเจอ เพราะเป็นจุดที่หายากมากและเป็นระยะแรก     เขาปฏิเสธที่จะรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ลองรักษาด้วยวิธีธรรมชาติหลายๆวิธี หนึ่งในนั้นก็คือการกินแบบชีวจิต ดิฉันเคยกินอยู่พักนึง แล้วก็เคยทำ o-ring test ด้วยเราเลยมีเรื่องคุยกันมากมาย     ตอนนี้เขากำลังกินอาหารที่ไม่ผ่านการปรุง คือกินข้าวสารปั่นเป็นผง กับน้ำผักและผลไม้ปั่น เขาบอกว่ารู้สึกร่างกายดีขึ้นมาก     บ้านนี้เขาไม่กินเนื้อสัตว์นะคะ ไม่เห็นมีตู้เย็นด้วย ไข่ก็ไม่มี แต่ถ้ามีคนให้เนื้อสัตว์มาเขาถึงจะกินกัน ตามมารยาทคนญี่ปุ่นน่ะค่ะว่าการปฏิเสธน้ำใจคนอื่นเป็นเรื่องไม่ดี เขาว่างั้น     แต่ก็แปลกมากๆแค่ผักกับข้าวกล้อง ก็อร่อยมากแล้ว ทำไมกินเมืองไทยแล้วมันไม่ค่อยอร่อยวุ้ย     คนที่ไม่เคยมากินอาหารที่ญี่ปุ่น ฟังแล้วอาจจะคิดว่าพวกนี้มันเว่อร์ ต้องมาลองค่ะแล้วจะรู้ โดยเฉพาะหัวไชเท้านี่กินที่อื่นสดๆแล้วมันเผ็ด     แต่ที่บ้านนี้เขาแค่ซอยแล้วคลุกโชยุกินกับข้าวก็อร่อยแล้ว     อาหารกลางวันมื้อนี้โนริซังทำขนมปังไม่ไส่ยีสต์ไส้ยากิโซบะค่ะ ส่วนในชามเขียวนั่นเป็นน้ำผักของซาโวซัง ซุปเต้าเจี้ยว แล้วก็ข้าวกล้องปั้น จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:29:04

ความคิดเห็นที่ 27 ทักทาย และขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ คุณดอกโสนบานเช้า ไว้รอให้ลูกโตแล้วพาเขาไปวูฟก็ได้ค่ะ บางบ้านเขาก็รับเป็นครอบครัวนะคะ -------------------------------- ยากิโซบะด้านในขนมปัง อร่อยดีค่ะ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:33:52

ความคิดเห็นที่ 28 เจอรูปงานซาโวซังในห้องเก็บรองเท้าแล้วค่ะ ตอนแรกหาไม่เจอนึกว่าไม่ได้ถ่ายมา จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:44:43

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนเช้าดิฉันต้องตื่นมาช่วยในครัว จริงๆก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก อาจจะช่วยหั่นของ จัดอาหารใส่จาน ตั้งโต๊ะ แต่หน้าที่สำคัญคือช่วยเลี้ยงลูก ลูกคนเล็กเขายังไม่ขวบนึง ปกติโนริซังจะต้องผูกติดใส่หลังตลอดเวลาทำกับข้าว     จริงๆ จะต้องช่วยเขาแบกฟืนจากข้างนอกมาใช้ทำกับข้าวด้วย แต่ซาโวซังเขาทำเองทุกเช้า เขาเคยบอกเหมือนกันว่าเราต้องทำ แต่ตื่นมาเขาก็ทำหมดแล้วทุกที ไม่ได้ตื่นสายนะ ตื่นตามเวลานัดเป๊ะ แต่เขาตื่นเช้ากว่า ที่เก็บฟืนอยู่หลังบ้าน ติดกับแปลงผัก จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:56:57

ความคิดเห็นที่ 30 ใครอยากใช้ชีวิตญี่ปุ่นแบบสมัยก่อนต้องมาที่นี่เลยค่ะ ห้องครัวเป็นเตาแบบใช้ถ่าน เวลาจะเร่งไฟให้แรง ต้องใช้ไม้ไผ่เป่าเข้าไปที่เตา เหมือนเรื่องอิ๊คคิวซังเลยค่า จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:02:47

ความคิดเห็นที่ 31 บ้านนี้เขาจะรักธรรมชาติมาก อยู่ที่นี่ไม่กี่วันไม่ได้ซักผ้าเลย เหงื่อไม่ออกไม่เหม็นบอกตัวเองว่างั้น แหะๆ แต่ก็เห็นเขาตากผ้าในบ้านนะ แขวนเต็มเพดานไปหมด แต่สงสัยว่าต้องซักมือแหงๆ ไม่เห็นเครื่องซักผ้า     เวลาล้างจานอีกที่ทำเอาทรมาน แน่นอนว่าก๊อกน้ำมีแต่น้ำเย็น ไม่มีน้ำอุ่น หนาวมือมากๆ พวกคราบไขมัน เขาก็ใช้วิธีใช้น้ำร้อนลวก น้ำยาล้างจานไม่มี ใช้สกอตไบร์ทขูดเอากับสบู่หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ ไม่แน่ใจมันเป็นก้อนขาวๆ     ล้างทีไร รู้สึกไม่สะอาดทุกที เพราะเราติดล้างจานจะต้องมีฟองเยอะๆ ซาโวซังบอกว่าฟองเยอะก็ต้องใช้น้ำเยอะตามไปด้วย เปลืองทรัพยากรธรรมชาติ แถมสารเคมีก็ยังลงไปปนกับน้ำหรือดินอีก ถึงมีระบบบำบัด แต่ยังไงมันก็มีตกค้าง จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:10:03

ความคิดเห็นที่ 32 ที่สุดของบ้านนี้ต้องยกให้ส้วมค่ะ เคยอ่านมาบ้างเรื่องส้วมสมัยก่อนของญี่ปุ่นจะอยู่นอกบ้าน เหมือนบ้านนอกของไทยสมัยก่อน อันนี้ไม่เท่าไหร่ แต่กลางคืนนี่น่ากลัวเหมือนกันนะ     ตอนเด็กๆบ้านยายก็มีส้วมนอกบ้านแบบนี้ แต่บ้านยายบรรยากาศน่ากลัวว่านี้เยอะ แถมยังเจอประสบการณ์สยองด้วย ตอนลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึก     ยิ่งอากาศหนาวแบบนี้ด้วย ทนถึงเช้าไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำคนเดียวตี 2 ตี 3 ข้างนอกไม่มีไฟเลย มืดตื๋อ ต้องเดินคลำทางมืดๆไปจนถึงห้องน้ำถึงจะเจอสวิทซ์ไฟ น่ากลัวอะ     ห้องน้ำจะอยู่มุมขวาสุดของบ้านค่ะ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:20:09

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ที่ต้องยกให้ ไม่ใช่เรื่องมันอยู่นอกบ้านหรือมืด แต่เพราะมันเหมือนส้วมหลุมบ้านเรา ดีหน่อยที่เขามีฝาปิด ฝามันจะเป็นบานพับเหมือนประตู     พออุนจิลงไปปุ๊บมันก็ดันให้ฝาเปิด เพระมันโบราณเลยต้องใช้น้ำราด แต่น้ำราดก็ต้องใช้น้อยๆค่ะ เขาบอกว่าราดนิดหน่อยแค่ไม่ให้มีกลิ่นพอ ไม่งั้นเดี๋ยวส้วมเต็มเร็ว อยู่ที่นี่อึดอัดกับส้วมที่สุด     น้ำขวดที่เห็นในรูปนั่นใช้ได้เกือบอาทิตย์เชียวนะคะ สำหรับคนใช้ 3 คน จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:25:08

ความคิดเห็นที่ 34 ทำธุระเสร็จแล้ว ถ้าเลอะเทอะก็เอาทิชชู่พันไม้ไผ่ที่เขาเตรียมไว้แล้วเช็ดให้สะอาด ไม่มีการใช้สารเคมีค่ะ เพราะฉะนั้นจงเล็งให้แม่น จะได้ไม่ต้องเช็ด จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:27:11

ความคิดเห็นที่ 35 กำลังสนุกเลยครับ จากคุณ : ศิษย์ชิด เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:32:37

ความคิดเห็นที่ 36 ห้องอาบน้ำก็เป็นแบบโบราณใช้ถ่านอีกเหมือนกัน เครื่องนี้จะอยู่หน้าห้องน้ำ พอถึงเวลาอาบน้ำ โนริซังก็จะติดถ่านจนน้ำร้อนจัด     แบบนี้มันจะควบคุมอุณหภูมิอย่างที่ต้องการไม่ได้ เขาจะมีเทอร์โมมิเตอร์ไว้วัดความร้อนแทน แต่ส่วนใหญ่น้ำจะร้อนเกิน ต้องผสมน้ำเย็นเอาให้ได้อุณหภูมิที่พอเหมาะ     เรื่องห้องอาบน้ำนี่แต่ละบ้านก็จะมีระเบียบต่างกัน ซึ่งเขาจะค่อนข้างซีเรียส ไปอยู่บ้านใครก็ทำตามกฏเขาให้ดีนะคะ ไม่งั้นเขาจะบ่นตามหลังเอา จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:33:15

ความคิดเห็นที่ 37 ที่ดิฉันเลือกบ้านนี้ก็เพราะเห็นว่าเขาไม่ได้ทำสวนหรือเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพ นั่นก็คือไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอกตลอดเวลา กลัวหนาว     แต่สรุปแล้วอยู่ในบ้านกับนอกบ้านหนาวไม่ต่างกันเล้ยยยย และที่ซาโวซังเขาเลือกรับดิฉันก็เพราะเขาจะไม่อยู่บ้าน 2 วัน เขาเลยอยากได้คนมาช่วยดูลูกให้ช่วงที่เขาไม่อยู่     ดิฉันเขียนไปว่าเคยทำงานโรงเรียนอนุบาล เขาเลยรับดิฉัน ช่วงนั้นมีคนไทยจะมาพักอีก 2 คน แต่เขาไม่รับ     หลังจากที่ดิฉันมาอยู่แล้ว วันรุ่งขึ้นซาโวซังก็ขับรถไปงานแสดงภาพของเขาอีกเมืองนึง  ดิฉันเลยต้องอยู่กับโนริซังและลูกๆ     เขาทิ้งงานให้ทำก่อนไป คือแกะถั่วที่ตากแห้งไว้ เพื่อเก็บไว้ทำมิโซะ ที่นี่ทำงานวันละ 6 ชม. เบรคช่วงละครึ่งชม. ช่วงเช้าและบ่าย แต่เบรคที่นี่มีแค่ชากับขนมซองเล็ก บางทีก็ผลไม้แห้ง ไม่อิ่มเลยค่า หิวมากๆ     ต้องไปเอาเสบียงที่ตุนไว้มากินเพิ่ม แต่เสบียงที่มีก็ไม่มาก เพราะไม่นึกว่ามันจะกันดารขนาดนี้ เลยต้องวางแผนการกินให้ดี     ซาโวซังเห็นว่าดิฉันขี้หนาวเลยเตรียมพื้นที่ทำงานไว้ให้ในบ้าน แต่..บอกแล้วว่าในบ้านกับนอกบ้านมันหนาวเท่ากัน     ทนนั่งหนาวแกะถั่วไปซักพัก ไม่ไหวแฮะ ขออพยพเข้ามาทำงานในห้องรับแขก เลยขนถั่วมานั่งแกะด้านใน แต่ต้องหาพลาสติกมารองพื้นให้ดี กันฝุ่นจากถั่วทำให้คันได้ เพราะยูจัง คลานไปทั่ว จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:54:31

ความคิดเห็นที่ 38 นั่งแกะถั่ว 2 วันเต็ม ขอบอกว่า....เมื่อยมากกกกก 2 วันผ่านไปแกะถั่วได้เป็นกิโล     วันแรกนั่งแกะในห้องรับแขก อุ่นกว่าที่อื่น มีเบาะทำความอุ่นแบบเสียบไฟฟ้าให้นั่งด้วย     วันที่ 2 มีแดด ไปนั่งแกะหน้าบ้าน อากาศดี เงียบสงบ ทำงานเพลินเชียว ไม่หนาวเลย นั่งตากแดดแกะถั่ว ฟังเพลงเพลินๆ     หน้าตาถั่วที่แกะแล้ว จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:58:49

ความคิดเห็นที่ 39 วันที่ 3 ซาโวซัง กลับมาแล้ว เราก็ยังแกะถั่วกันต่อ แต่อากาศโอเคอยู่มีแดด เลยไปยืนแกะกันนอกบ้าน     เขาเล่าให้ฟังว่าตอนแรกบ้านแม่เขาเป็นโฮสของวูฟมาประมาณ 4 ปี ตัวเขาเองเพิ่งเริ่มเป็นได้แค่ปีเดียว     คุยกันเรื่องงานว่าแกะถั่วแบบนี้ทุกวันน่าเบื่อเนอะ เขาบอกว่าตอนนี้มีผู้หญิงฝรั่งเศสมาอยู่กับแม่เขา 3 เดือนแล้ว ทุกวันต้องนั่งเลือกเม็ดข้าวทิ้ง ฟังแล้วน่าเบื่อกว่าแกะถั่วเยอะเลย ควรจะดีใจใช่ไหมเนี่ย     แต่น่าสนใจอย่างหนึ่งเขาบอกว่าช่วงปีใหม่แม่เขาก็ยังรับวูฟไว้ ส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยรับกันเพราะอยากฉลองกันเฉพาะในครอบครัว ให้เป็นเวลาส่วนตัว     ปีใหม่ญี่ปุ่นเขาจะทำอาหารเป็นพิเศษ อยากไปลองอยู่ด้วยแล้วลองทำดูบ้าง แต่เขาบอกว่าอากาศที่นั่นหนาวกว่าที่นี่อีก เพราะอยู่ในหุบเขา พับโครงการเก็บเลยแบบนี้ แค่นี้ก็หนาวจะแย่แล้ว     รูปหน้าบ้านที่เราใช้ทำงานกัน เอาโต๊ะมาตั้งแล้ว ยืนตากแดดแกะถั่วกัน จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:06:33

ความคิดเห็นที่ 40 ปาดค่าาา น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ แต่กลัวตัวเองไปแล้วทำงานไม่ไหว ต้องทำให้คนไทยเสียชื่ออ่ะค่ะ ฮ่าๆ จากคุณ : CutieAngel เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:11:15

ความคิดเห็นที่ 41 ข้างบ้านยังมีถั่วแห้ง ตากไว้อีกเพียบ แกะหมดนี่ทำมิโซะเก็บไว้กินได้เป็นปีเลยนะ     แต่ไม่นะ ของานอย่างอื่นทำบ้างเถอะ พลีสสสส จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:13:02

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ CutieAngel เลือกบ้านที่งานไม่หนักมากแบบดิฉันนี่แหละค่ะ รับรองทำไหว วันๆนั่งแกะถั่วก้นด้านกันทีเดียว -----------------------------     ดูเหมือนเสียงบ่นในใจดิฉัน จะดังไปถึงซาโวซัง วันที่ 4 เขาก็ให้ดิฉันช่วยวาดรูปในการ์ดปีใหม่ ที่ญี่ปุ่นเขาจะมีธรรมเนียมการส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ที่เรียกว่า ねんがじょう “เนนกะโจ” ให้ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง     และด้วยความที่เขาเป็นศิลปิน การ์ดจะซื้อเอาแล้วพิมพ์ดาดๆไม่ได้ มันไม่ติสท์ มันต้องมีจิตวิญญาณแฝงอยู่ในนั้น (นึกภาพอาจารย์เฉลิมชัยไปด้วยแล้วจะได้อารมณ์)     ดิฉันเลยมีหน้าที่วาดตามตัวอย่างที่เขาให้ แล้วเขาก็เอาไปเติมต่อแล้วเขียนคำอวยพรด้วยพู่กัน     ส่วนที่ดิฉันต้องวาดจะใช้พู่กันและสีน้ำ วาดเป็นวงกลม 4 วงเป็นการ์ตูนง่ายๆ ทำท่ายกมือไหว้ แทนสมาชิกครอบครัวเขา ต้องวาดวงกลมหนึ่งวงหนึ่งสี แล้วตากให้แห้ง แล้วค่อยเอามาวาดต่อจนครบ 4 วง     2 วัน เขียนไปได้เกือบ 200 ใบ จริงๆต้องเขียนอีกหลายร้อย แต่เขาไม่มีเวลา เลยต้องเลือกแต่คนสำคัญแล้วส่งให้ทันวันปีใหม่     โต๊ะนี้เป็นโต๊ะวาดรูปของดิฉัน จะเห็นตัวอย่างการ์ดวางอยู่ด้านซ้ายมือ งานนี้เพลินดีเหมือนกัน ไม่ได้ไช้สีน้ำมาตั้งแต่เรียนมัธยม ก็สนุกดี แถมห้องนี้อุ่นด้วยไม่ทรมาน จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:31:30

ความคิดเห็นที่ 43 วันสุดท้ายงานอีกอย่างที่ได้ทำคือเก็บบ๊วยที่ดองได้ที่แล้วจากไหใหญ่ใส่ขวดโหล     ซาโวซังเขาทำบ๊วยเอง บ้านนี้กินบ๊วยกับข้าวเช้ากันทุกวัน เขาเล่าว่ามันต้านมะเร็งได้ ตอนเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิลรั่ว ญี่ปุ่นก็ให้ความรู้เรื่องนี้กับชาวรัสเซียไป จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:42:03

ความคิดเห็นที่ 44 บ๊วยที่ดองได้ที่แล้ว มีเยอะมาก ไม่ได้มีแค่บ๊วยเท่านั้น มีของดองอื่นๆด้วย จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:43:59

ความคิดเห็นที่ 45 วันคริสต์มาสอีฟ ดิฉันกับฮีจัง ลูกสาวเขาก็ทำขนมปังขิงกัน ออกมาเป็นขนมปังขิงประหลาด เพราะส่วนผสมมีไม่ครบ ก็เอาเท่าที่มีนั่นแหละทำ ออกมาแข็งโป๊กเลย แต่ก็พอกินได้นะ หรือเพราะไม่มีอะไรกินเลยต้องกินก็ไม่รู้       คืนวันคริสต์มาสเป็นคืนสุดท้ายที่จะพักบ้านนี้     อาหารคืนวันเลี้ยงส่งค่ะ ในถ้วยนั่นคือซุปปลาจากนอร์เวย์ ปกติจะใส่ปลาแซลมอน แต่ที่นี่ไม่มีก็เป็นซุปล้วนๆ นมไม่มีก็ใช้น้ำเปล่าแทน     ส่วนข้าวในจานนั่นเขาบอกว่าเป็นข้าวปั้นอย่างนึง จำชื่อไม่ได้แล้ว เป็นข้าวปั้นที่ไม่ได้ปั้น (แล้วมันจะเรียกข้าวปั้นได้ไหมเนี่ย)     คืนนั้นซาโวซังเอาอุเมชุ (เหล้าพลัม) ที่เขาทำเองออกมาดื่มกันด้วย อร่อยดี หวานดื่มง่าย และเมาง่าย เลยดื่มไปแค่เดียว จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:49:51

ความคิดเห็นที่ 46 วัฒนธรรมอีกอย่างของญี่ปุ่นที่เห็นก็คือการใช้จานและตะเกียบของตัวเองและมีที่นั่งประจำตำแหน่ง     ตอนไปอยู่ที่นั่น ดิฉันมีหน้าที่ช่วยจัดโต๊ะก็ต้องจำว่าตะเกียบอันไหนเป็นของใคร ใครนั่งตรงไหน แต่บ้านนี้จานชามใช้ปนกันยกเว้นตะเกียบที่แบ่ง บางบ้านจะแยกหมดทุกอย่างค่ะ     ฮีจังกับอาหารเลี้ยงส่ง ตัวแค่นี้แต่ช่วยแม่ทำกับข้าว จัดโต๊ะได้นะคะ เก่งมากๆ     แต่น่ากลัวตรงเขายอมให้เด็กใช้มีดหั่นผักนี่แหละ โนริซังบอกว่าฮีจังได้ของขวัญเป็นมีดทำครัวตอนวันเกิด จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 00:54:58

ความคิดเห็นที่ 47 วันกลับหิมะก็ยังตกอย่างต่อเนื่อง ลุ้นแทบแย่ว่ารถเขาจะขับออกจากบ้านได้หรือเปล่า หิมะหนาเป็นฟุต ต้องไปช่วยกันโกยหิมะทิ้งก่อน ถึงจะออกจากบ้านกันได้     ซาโวซังกับครอบครัวขับมาส่งที่สถานีเล็กๆที่ไม่ไกลจากบ้านมาก ไม่ใช่สถานี Fukushiyama อย่างตอนขามา อันนั้นขับไปเกือบชม.     ซาโวซังกับโนริซังมายืนโบกมือส่งจนรถไฟแล่นออกจากสถานีเลย อันนี้รู้สึกจะเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นเหมือนกัน ไปอีกบ้านนึงก็เจอแบบนี้     หลังจากออกจากบ้านนี้แล้ว ดิฉันนั่งรถไฟช้าไปเที่ยวโอซาก้าอีก 10 วัน อยู่ฉลองปีใหม่ที่นั่น ก่อนกลับไทย จริงๆอยากกลับก่อนแต่ตั๋วมันแพง เลยต้องรอไปหลังปีใหม่     มาวูฟอีกทีตอนเดือนพฤษภา เดือนนี้อากาศดีสุดๆชอบมาก ไม่ร้อนมาก กำลังเย็นสบาย     คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องวูฟที่ Izu กับ Nagano ให้ฟังต่อค่ะ     ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวค่ะ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 01:07:37

ความคิดเห็นที่ 48 มารอ ตอนหน้านะค่ะ จากคุณ : Rnee555 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 02:20:43

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นกระทู้ทีอ่านได้จนจบไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ จากคุณ : Coaststarlight เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 05:30:41

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากสำหรับรีวิวสนุกๆ ค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ จากคุณ : angela เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 08:21:07

ความคิดเห็นที่ 51 ยิ่งอ่านยิ่งชอบค่ะ... ชอบบรรยากาศบ้านของซาโวซัง แต่ขอยอมแพ้กับส้วมค่ะ 555 ฮีจังก็น่ารักมาก ตัวแค่นี้สามารถช่วยทำอาหารได้ด้วย... รออ่านรีวิวตอนต่อไปค่ะ...ชอบมากๆเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ... จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 09:02:57

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านจนจบ สนุกมากๆเลยครับ จะรอรีวิวที่ต่อไปครับ จากคุณ : dramer เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 09:11:07

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมากครับ บ้านนี้งานเบา แต่อาหารแนวชีวจิต ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ดีต่อปากผมแน่ๆเลย อิอิ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 09:42:08

ความคิดเห็นที่ 54 แปลกค่ะ ไม่เคยรู้เลยว่าแบบนี้ก็มีด้วย ขอบคุณมากมากนะคะ เป็นประสบการณ์ที่ดีเลยล่ะค่ะ :) จากคุณ : JOYJARI เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:21:41

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นประสบการณ์ที่ดีมากอีกแห่งหนึ่ง  ลูกสาวเราก็ไป wwoof รอเราไปเที่ยว เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา  ก็ได้ประสบการณ์บ้านอีกแห่งที่เขาเล่าให้ฟังแล้วก็แปลกดีเหมือนกัน ชีวิตชาวชนบท คนชนบทมักจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า  แถมคนญี่ปุ่นชอบกินชีวจิตเป็นที่สุด จนคุณลูกถึงกับท้อใจ เพราะบ้านนี้ไม่กินหมู เนื้อ ไก่ เลย  แถมอยู่บนเขาอีก ดังนั้นโอกาสที่จะหาซื้ออะไรกินไม่มี แถมเจ้าตัวเล็กยังชอบกินเนื้อย่างเป็นชีวิตจิตใจ เขาไปอยู่ได้เกือบ 2 อาทิตย์ แทบจะลงแดง นี่ขนาดเขาเอาพวกโลโบ ไปปรุงอาหารด้วย เรายังเอาเนื้อเค็มให้ไปด้วย แต่เขาไม่กล้ากิน เพราะคนที่นั่นไม่กินเนื้อสัตว์  อาหารทุกมื้อทำด้วยผักหมดเลย   ตอนแรกก็บอกเขาว่าไม่ต้องทน ถ้าไม่ไหวก็ขอเขาออกมาก่อน แต่เขาก็พยายามอดทน กลัวจะเสียชื่อเสียงคนไทยนี่แหละ 555   วันแรกไปทำงานในแปลงปลูกผัก ท่ามกลางแสงแดด ถึงกับไม่สบายเลย เขาก็เลยให้ไปทำงานในบ้านแทน ก็เป็นประสบการณ์อีกแบบหนึ่ง ฝึกความทรหดดีเหมือนกัน เดี๋ยวไปตามให้เขามาอ่าน เขาจะไปอีกรอบเร็ว ๆ นี้ แต่ไปที่เมืองอื่น แต่แค่เกือบ 2 อาทิตย์ เขาก็ผูกพันกับครอบครัวนี้นะคะ  ตอนเราไปสั่งของฝากพวกเครื่องแกง กะทิ ให้บ้านนี้พะเรอเกวียน เขาว่าที่นั่นกะทิแพงมาก แล้วเขาชอบทานของที่เมืองไทย ขอบคุณนะคะที่เล่าสู่กันฟัง จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 10:55:30

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านเพลินเลย อยากจะไป Wwoof แบบนี้เหมือนกันแต่ไม่มีโอกาสสักที ขอบคุณ  คุณ luvreise นะคะ ที่เอามาแบ่งปัน ปล.แอบถามนิดนึงจ้าว่าประเทศไหนเค้ามีโครงการ Wwoof บ้างคะ จากคุณ : มิงกะลาบาร์ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:09:19

ความคิดเห็นที่ 57 น่าสนุกดีนะครับ อ่านแล้วเพลินดี จากคุณ : ฐานันดรที่60 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:44:13

ความคิดเห็นที่ 58 เคยคิดจะไปแต่อ่านเงื่อนไขของแต่ละโฮสต์แล้วอ่อนใจ รู้สึกจะยิบย่อยเกินไปหน่อย กลัวทำงานไม่ถูกใจแ้ล้วเค้าขอให้ออกก่อนกำหนด (ไล่ออกนั่นเอง) อีกอย่างลางานนานขนาดนั้นไม่ได้ด้วย เหมือนเค้าจะ prefer คนที่รู้ภาษาญี่ปุ่นด้วยใช่มั้ยครับเท่าที่อ่านๆ ดู โฮสต์หลายที่ก็สื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยด้วย บางที่กำหนดด้วยว่าคนจะไปวูฟต้องทำอาหารเป็น ซึ่งผมกลัวตรงนี้ล่ะ อดตายแน่ๆ จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:54:20

ความคิดเห็นที่ 59 รออ่านโฮสต่อไปนะคะ คุณ luvreise ดูรอบคอบในการเลือกโฮสมากๆ ผิดกับเราเลยค่ะ ไปแบบมั่วๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ อ่านเพลินดี อย่าลืมมาเล่าต่อเร็วๆน๊า จากคุณ : harumi เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:54:51

ความคิดเห็นที่ 60 ชอบจังเลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจจริง ๆ เค้าจำกัดอายุคนทำงานมั้ยคะ จะรอให้ตัวเองเกษียณแล้วไปได้ไหมเนี่ย จากคุณ : ทิวากาล เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:58:14

ความคิดเห็นที่ 61 คุณแม่ติดเน็ต นี่แหละค่ะตรงด้านบนถึงบอกหลักเกณฑ์ในการเลือกบ้าน ให้ตรงกับความต้องการของเรา ไม่งั้นจะรู้สึกลำบากแบบน้องเขา ดิฉันเรื่องอาหารไม่มีปัญหา เรื้องส้วมกับหนาวนี่เรื่องใหญ่ อีก 2 ที่ที่เหลือ Izu กับ Nagano นี่ไม่สุดโต่งแบบบ้านนี้อยู่สบาย อิ่มอ้วนเลยค่ะ คุณ มิงกะลาบาร์ เข้าไปที่เว็บนี้นะคะ รายชื่่อประเทศที่มีวูฟจะอยู่มุมขวามือ เห็นมีแทบทุกประเทศ ของไทยยังมีเลย ตอนนี้สนใจอยากไปวูฟที่นิวซีแลนด์กับอิตาลี แต่ยังไม่ได้อ่านคุณสมบัติเขาเลยว่ารับถึงอายุเท่าไหร่ http://www.wwoof.org/ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:26:37

ความคิดเห็นที่ 62 ต้องไปทำงานก่อนนะคะ คำตอบที่เหลือดึกๆจะมาตอบ (ดึกที่นี่ก็ประมาณเกือบเช้าที่โน่นแหละค่า แหะๆ) จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 13:30:10

ความคิดเห็นที่ 63 คิดว่าทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นส้วม! จากคุณ : โต้คลื่น เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:11:35

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านเพลินเลยค่ะ  เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย น่าสนุกจังเลยค่ะ แต่ไม่รู้เราจะทนได้แบบนี้มั๊ย รอดูตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 14:42:36

ความคิดเห็นที่ 65 อยากไปบ้างจะลางานได้รีึเปล่า 2 wks จากคุณ : mariczzz เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:29:57

ความคิดเห็นที่ 66 อ่านสนุกจังค่ะ คิดถึงสมัยออกค่ายช่วงมหาลัยเลย จากคุณ : simply one เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 15:33:43

ความคิดเห็นที่ 67 จขกท. เขียนกระทู้ อ่านเพลินเลยคะ อย่าลืมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : ชื่อนี้ยังไม่มีคนใช้ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 16:11:54

ความคิดเห็นที่ 68 โห ธรรมชาติมากๆ ส้วมยังเป็นส้วมหลุม สุดยอด ปลื้ม จากคุณ : Mickey-kun เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 16:14:31

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 16:49:34

ความคิดเห็นที่ 70 สนุกมากค่ะ เดี๋ยวขอสะสมวันลาก่อนนะคะแล้วจะลองไปกับลูกค่ะ.. แก้คำผิด..เพราะจิ้มด้วยแอนดรอยด์ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 18:12:39 แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 55 18:12:37 จากคุณ : mulangotchi เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 18:08:07

ความคิดเห็นที่ 71 รออ่านตอนต่อๆไปนะคะ   ขอบคุณสำหรับรีวิว   ... จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:21:49

ความคิดเห็นที่ 72 ได้บรรยากาศมาก มาก เลยค่ะ แต่ขอไปเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ให้ครบก่อนนะคะ แล้วค่อยไปเจาะลึกชีวิตญี่ปุ่น จากคุณ : มาดามไร่องุ่น เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 22:46:04

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ Furusato มีโฮสหลายที่นะคะที่รับคนไม่จำเป็นต้องพูดภาษาญี่ปุ่นได้ โฮสที่นากาโน่ยังเล่าให้ฟังว่าเคยเจอคนนึงพูดญี่ปุ่นไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ วันๆก็ไม่ได้คุยกับใคร น่าสงสาร แต่เขาก็อยู่ได้นะคะ แปลกดีเหมือนกัน คุณ ทิวากาล เขาไม่จำกัดอายุนะคะ อย่างโฮสที่นากาโน่อายุ 60 กว่าเขายังไปอยู่วูฟอยู่เลย ถ้าร่างกายแข็งแรง ทำงานไหว แล้วเจ้าของบ้านเขารับก็ไม่มีปัญหาค่ะ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 23:36:42

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ โต้คลื่น ตอนเห็นส้วมตอนแรกก็หนักใจเหมือนกัน แต่ใช้ๆไปแล้วมันก็ไม่แย่เท่าไหร่นะคะ เคยเจอแย่ที่สุดในชีวิตก็ที่เนปาล แบบว่าของคนก่อนหน้ามันเอ่อขึ้นมาเลยค่ะ อันนี้ยังสะอาดมองไม่เห็นซากอารยธรรมของคนอื่น ลืมเล่าไปเรื่องคือเรื่องอาบน้ำ หลังจากได้อาบน้ำอุ่นติดกันไปสองวัน โนริซังก็มาบอกว่าปกติเราจะอาบน้ำกันวันเว้นวันนะ โอเคไหม แล้วจะให้ตอบว่าไงล่ะคะ จะให้เขาต้มให้เฉพาะดิฉันคนเดียวก็กระไรอยู่ จำต้องซกมกอย่างจำใจ ดีว่าพกกระดาษเช็ดก้นเด็กไปด้วย พอแก้ขัดไปได้ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 23:45:06

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณที่มารีวิวนะค่ะ เคยอ่านเจออยู่ครั้งหนึ่งเเล้วสนใจมาก เเต่หาข้อมูลไม่ค่อยได้เลย จากคุณ : pink rainbow เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 01:46:01

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านตอน 2 ได้ที่นี่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12659736/E12659736.html#1 จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 03:47:20

ความคิดเห็นที่ 77 ลงชื่อติดตามอ่านค่ะ ได้อารมณ์ญี่ปุ่นเข้มข้นมากค่ะ จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 07:38:11

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านเพลินเลยคะ่ สนุกมากมาย จากคุณ : Gabi เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 08:34:31

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านเพลินมากค่ะ อยากลองเที่ยว-ใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้บ้างเหมือนกัน อยากรู้ว่าตัวเองจะทนได้นานมั้ย ^_^  จากคุณ : CuteRabbito เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:23:24

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณคะ่ ที่เอามาแบ่งปัน ^^' จากคุณ : Masala_Chai (Masala_chai) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 12:48:27

ความคิดเห็นที่ 81 รู้สึกว่าเรื่องส้วมเค้าประหยัดเกินไปหรือเปล่า เอ หรือเป็นเราที่ใช้น้ำเปลือง ว่าแต่น้ำขวดนั้นที่วางไว้หมายถึงใช้สำหรับล้างฉี่ล้างอึด้วยใช่มั๊ยคะ ถ้าบอกว่าคนละขวด/อาทิตย์ก็พอรับได้หน่อย แต่มันคงเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเค้าไปแล้ว จากคุณ : snowpok เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:30:40

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ snowpok น้ำขวดนั้นไว้สำหรับล้างฉี่และอึอย่างที่เข้าใจเลยค่ะ อยู่ไป 6 วันดิฉันเติมน้ำไปหนนึงค่ะ เราใช้น้ำกันเยอะจนเคยชิน พอใช้น้อยเลยรู้สึกว่าไม่สะอาดเนอะ จากคุณ : luvreise เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 01:23:00

ความคิดเห็นที่ 83 ขมากค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สีดา เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 00:48:00 A:125.24.117.185 X: TicketID:221565

ความคิดเห็นที่ 84 แหม อยู่ตั้งอาทิตย์นึงเล่าจบในกระทู้เดียวเลยเหรอครับ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 02:34:29