|
เล่าเท่าที่คิดว่าเคยเจอนะคะ
1. ที่ซิดนี่ย์ เคยเจอขี้ยาเดินตาม เราเลยเดินข้ามไปอีกฝั่ง แล้วแอบมองพฤติกรรมของคนตามจาก เงาของเขาที่สะท้อนในกระจกหน้าร้านที่ฝั่งที่เราเดินอยู่ จากนั้นเราเดินเข้าร้านกาแฟ สรุปว่าปลอดภัย เขาเลิกตาม
2. ที่ลอนดอน เจอคนดำเดินตาม น่ากลัวมากๆ พูดแซวด้วย เราจึงเดินหนีข้ามฝั่งไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน แล้วหายเข้าไปในฝูงชน นั่งรถไฟไปที่อื่นเลย สรุปว้าปลอดภัยอีก
3. ที่เวียงจันท์ แถวย่านน้ำพุ เคยเจอยิปซีจากยุโรป สองคน คนนึงยืน อีกคนนั่งรถเข็นทำเนียนมาขอแลก ตังค์จากแบงค์ 100 ยูเอสดอลล่าร์ เป็นเงินกีบ เรามองแว่บเดียวก็รู้แล้วว่าแบงค์ยูเอสปลอม เราจึงบอกเขาว่าเราไม่มีให้แลก ให้เดินไปธนาคารสิ เราจึงโดนยิปซีด่า หาว่าไม่มีน้ำใจ ยิปซีอ้างว่า แดด ร้อน ขาเจ็บ อ้วนเดินไม่ไหว แล้วไหนจะมีคน เจ็บนั่งรถเข็นอีกจะไปธนาคารอย่างไร
เราก็เลยบอกว่าไม่มีใครเค้ารับแลกของเธอหรอกเพราะแบงค์ปลอมมองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้ว จากนั้นเราก็ เดินจากไป แต่ระหว่างทางเราจะเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินสวนกันว่า ถ้าไปเจอยิปซีขอแลกตังค์ให้ระวัง เอาไว้ด้วย
4. ที่บัวโนส ไอเรส เราเข้าไปในร้านหนังสือที่เป็นโรงละครเก่า ก่อนจะออกจากร้าน หยุดยืนดูหนังสือ ตรงหน้าร้านใกล้ทางออก สังเกตเห็นว่ามีชายวัยรุ่น 2 คน ยืนรีๆ รอๆ อะไรอยู่ จึงระวังตัว เพราะลักษณะ ของวัยรุ่นถ้าพูดตามภาษาไทยคือ เป็นพวกเด็กแว๊นซ์
จากนั้นเราเริ่มเดินออกจากร้าน แต่ยังไม่พ้นบริเวณฟุธบาทหน้าร้านดี แต่เดินช้าๆ แล้วใช้หางตามองไม่หัน หน้ามอง สังเกตเห็นว่าเจ้าสองคนนั่นเดินตามออกมา เราจึงเดินกลับเข้าไปในร้านใหม่ ปรากฏว่าพอเรา กลับเข้าไปในร้านใหม่ เจ้าสองคนนั่นหยุดเดิน แล้วยืนรีๆ รอๆ ลังเลหน้าร้าน แล้วปรึกษากัน ประมาณว่า เป้าหมายรู้ตัวแล้วทำนองนี้ จากนั้นมีอีกคนหนึ่งเดินมาสมทบกับเจ้าสองคนนั่น แล้วปรึกษาไรกันก่อน ที่จะตัดสินใจเดินจากไป เราอยู่ในร้านหนังสืออีกพักหนึ่ง แล้วจึงออกมา แต่เดินไปคนละทางกับ เจ้าสามคนนั่น
5. ที่แฟรงเฟิร์ท เคยเจอขี้ยาเดินตาม เราจึงเดินข้ามฝั่งหนี แล้วเดินเข้าไปในล็อบบี้โรงแรม เล่าให้พนักงาน โรงแรมฟัง พนักงานเรารอในล็อบบี้ จนขี้ยาเลิกตามเรา พนักงานจึงออกมาส่งแล้วเราจึงเดินต่อไป
นอกนั้นไม่เคยเจอไรร้ายแรงนะ อย่างไปเวียตนาม ลอนดอน ปารีส โรม มาดริด มะนิลา อเมริกาใต้ ฯลฯ ก็ไม่เคยโดนล้วงกระเป๋า เพราะเราไม่เคยใส่ของแบรนด์เนม แต่จะสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย ธรรมดา รัดกุม ไม่ใส่เครื่องประดับใดๆ ทั้งสิ้น บางครั้งแค่คาดนาฬิกาเรือนเดียว หรือไม่คาดเลย
ไปอินเดียก็มักจะนุ่งกางเกงแบบสาวอินเดีย สวมเสื้อหลวมๆ ยาวๆ แขนสี่ส่วนแบบสาวอินเดีย หรือไปเวียตนามไปลาวไปเขมรเนี่ย นุ่งกางเกงชาวเลกางเกงขาก๊วย เสื้อยืด ลากแตะ สะพายย่าม
เวลาเดินไปไหนมาไหน ให้เดินอย่างมั่นใจ ศึกษาแผนที่ให้ดีๆ ก่อน แบ่งเงินไว้หลายๆ ส่วน ส่วนที่จะใช้ ประจำวันให้อยู่ในที่หยิบง่าย
ไปไหนมาไหนจะสังเกตสิ่งและผู้คนรอบข้างเท่าที่จะสามารถทำได้ ไม่พาตัวไปอยู่ในที่เสี่ยง เช่นที่เปลี่ยว ที่มืด ที่รกร้าง ที่อโคจร ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า
ส่วนใหญ่แล้ว มิจฉาชีพในยุโรป มักจะเลือกเหยื่อที่เป็นคนเอเชีย ที่เป็นนักท่องเที่ยว เพราะคนเอเชีย โดยทั่วไปมักจะขาดทักษะในเรื่องของการระวังตัวและทรัพย์สิน โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น คนสิงคโปร์ หรือมิจฉาชีพในยุโรป มักจะเลือกคนเอเชียที่ดูแล้วท่าทางไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง หรือพวกบ้าแบรนด์เนม หรือพวกที่ต้องใช้เสื้อผ้ากระเป๋านาฬิกามียี่ห้อ เพรชพลอยประโคมใส่เข้าไป
หรือถ้ามิจฉาชีพในยุโรปจะลงมือกับฝรั่งด้วยกัน ส่วนใหญ่แล้วฝรั่งอังกฤษ สวิส ฝรั่งแถบสแกนดิเนเวีย ประเทศร่ำรวยทั้งหลาย น่าลงมือที่สุด เพราะส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีทักษะในเรื่องของการระวังตัว และทรัพย์ สิน
ตอนอายุน้อยๆ เราเที่ยวแบบนอนโฮสเทล นอนวายเอชเอมาก็เยอะ แต่เราจะไม่อยู่ห้องรวมเด็ดขาด เพราะชอบความเป็นส่วนตัว และกลัวของหาย
ที่กรุงเทพฯหน่ะ เวลาขึ้นรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ก็ระวังพวกล้วงกระเป๋าด้วยนะคะ ตามตลาดนัดสวนจตุจักร ก็เช่นกัน หรือ เวลาเดินตามถนนให้ระวังพวกฉกชิงวิ่งราวด้วยมอเตอร์ไซค์ค่ะ ถ้าใช้ชีวิตแบบคนเดินดิน ธรรมดาในกรุงเทพฯ รอด แล้วคุณจะมีทักษะในการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะไปเมืองไหนในโลกนี้ค่ะ
หรือเวลามาอยู่สิงคโปร์ ประเทศที่ปลอดภัยมาก ดิฉันก็ไม่เคยไม่ระวังตัวค่ะ แต่คนสิงคโปร์เนี่ย ไม่ค่อย ระวังตัวนะคะ พวกเขาชอบลืมมือถือลืมกระเป๋าสตางค์กระเป๋าถือเอาไว้ตามที่ต่างๆ ค่ะ คือจะออกแนว ขาดทักษะในการดำรงชีวิต ประเทศที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างสิงคโปร์เนี่ย ทางการมีคำขวัญออกมาเตือนประชาชนเสมอค่ะ เช่นว่า Low crime, doesn't mean no crime ค่ะ
จากคุณ |
:
Been there, done that!
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.ย. 55 14:25:00
A:202.156.9.12 X: TicketID:357481
|
|
|
|
|