มาเล่าเรื่องประสบการณ์ขอวีซ่าที่สถานทูตเยอรมันครับ
|
|
ยังไม่รู้เลยครับว่าวีซ่าจะผ่านรึเปล่า เพราะไปสัมภาษณ์วันนี้ตอน 10 โมงเช้าเองครับ
ก็โทรไปจองคิวเมื่อวันอังคารที่แล้ว ก็ได้เป็นวันอังคารวันนี้ตอน 10 โมงเช้า จดรหัสใส่กระดาษให้พร้อมครับ เพราะจะต้องฝากมือถือและตรวจวัตถุก่อนจะเข้ามายื่นคำร้องข้างใน
ที่จอดรถไปจอดที่ Q House ครับ ชั่วโมงละร้อยบาท แล้ววันนี้รถติดด้วย นึกว่าจะไม่ทันแล้ว เพราะต้องไปถึงก่อน 30 นาที
ผมไปกับพ่อผมสองคนครับ ตอนโทรไปจองคิวก็แจ้งไว้ครับ แล้วก็ได้สัมภาษณ์ด้วยกัน
เล่าตั้งแต่ตอนตรวจวัตถุเสร็จ ก็จะมีช่องให้เราบอกรหัส แล้วเค้าก็แจ้งว่าสัมภาษณ์ที่ช่อง 13 ครับ เค้าจะให้ใบคิวเล็กๆมา แล้วก็เข้าไปนั่งรอเพราะเอกสารเราพร้อมแล้ว เหลือแค่เอารูปมาติดบนใบคำร้องครับ รอเค้าเรียกเข้าไปข้างใน เพราะที่นั่งข้างในเต็ม เค้าก็มาเดินตรวจใบเล็กๆ แล้วก็เปลี่ยนช่องสัมภาษณ์เป็นช่องที่ 12 แทนครับ
จากนั้นก็เข้าไปรอเจ้าหน้าที่ ยื่นใบคิว ให้ผู้ชายตัวสูงๆคนที่นั่งหน้าห้อง 10 อะครับ เค้าก็จะส่งบัตรคิวเราไปให้เจ้าหน้าที่ห้อง 12
พอถึงคิวเราสัมภาษณ์ก็เข้าไป แล้วก็ปิดประตู เค้าก็บอกว่าเอาเอกสารออกจากแฟ้ม แล้วก็ส่งมา เรา copy ไปชุดนึง แต่เราแยกโดยส่งตัวจริงให้เค้า เค้าก็เก็บใบจริงพวกที่เราไปขอมาเช่นใบรับรองการเรียน ใบรับรองการทำงาน แต่ก็คืนใบจริงพวกเอกสารสำคัญเช่น โฉนดที่ดิน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีพวกนี้อะครับ
สรุปสำเนาที่ทำไป เจ้าหน้าที่ไม่เอาเลยครับ
เจ้าหน้าที่จะเริ่มถามรวมๆก่อน ว่าไปที่ไหนบ้าง เราก็ตอบไปว่าไปเยอรมัน ออสเตรีย เค้าก็ถามอยู่ที่ไหนมากกว่ากัน เราก็ตอบเยอรมัน แล้วเค้าก็ถามว่าไปเมื่อไหร่ พ่อเราตอบผิด เราก็บอกพ่อๆ ไม่ใช่ ไปวันที่นี้.. เค้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็ถามว่าโรงแรมคืนแรกคืนละเท่าไหร่ เราจำไม่ได้เลยตอบไปว่า จำไม่ได้ครับ แต่รู้ว่าทั้ง 11 คืน ราคา 4 หมื่นกว่าบาทครับ เจ้าหน้าที่ก็หัวเราะแล้วก็บอกว่าถูกกว่าทัวร์อีก
จากนั้นเค้าก็เริ่มถามพ่อผมก่อนครับ ว่าทำงานอะไร พ่อผมก็ตอบไปเป็นข้าราชการ C8 ที่... เค้าก็ถามว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งที่ๆพ่อมาทำงานราชการ มันคนละที่กับในทะเบียนบ้าน ก็บอกเจ้าหน้าที่ไป เจ้าหน้าที่ก็ยิ้มๆ โอเค แล้วเค้าก็ถามพ่อผมต่อว่าเคยมาเยอรมันรึเปล่า พ่อผมไม่เคย เค้าเลยถามว่าเคยไปไหนบ้าง ก็ตอบ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น แล้วก็ถามว่าพ่อ sponsor ให้น้องใช่ปะคะ พ่อผมก็ตอบใช่ครับ แล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว
จากนั้นเขาก็มาสัมภาษณ์ผมต่อ ซึ่งผมใส่ชุดนิสิตไปวันนั้น เขาก็ถามว่าเคยไปเยอรมันมั้ย ผมก็บอกว่าเคยไป ไปเอเอฟเอส เค้าก็เปิดดูวีซ่าแล้วก็บอกว่าพี่ก็เคยไปอยู่แถวนั้น ผมก็ถามว่าแถวไหนครับ พี่เค้าตอบมาว่า Dresden ผมก็ตอบว่าเมืองนี้สวยครับ เค้าก็ถามว่ายังพูดภาษาเยอรมันได้อยู่มั้ย? ผมก็บอกว่าพอได้ พี่เค้าก็ถามมาว่าเคยอยู่เมืองไหน Wo? ผมตอบไป Ich habe gewohnt in.... . 5555 อยู่รัฐเดียวกันเลย ฮ่าๆ เค้าก็ถามจะไปเที่ยวหาโฮสแฟมมิลี่มั้ย ผมตอบว่าอาจจะไม่อะครับ อยากไปเที่ยวเมืองที่ไม่เคยไปมากกว่า พี่เค้าก็บอกว่าดีแล้วค่ะ 5555
เนื่องจากใส่ชุดนิสิตไป พี่เค้าถามว่าเรียนคณะไหน ผมก็ตอบไปว่ารัฐศาสตร์ เค้าก็ถามว่าเลือกเอกรึยัง บอกว่าเลือกตอนเข้ามาแล้วครับ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
แล้วก็ไม่มีอะไรครับ พี่เค้าก็ถามว่าจะมาเอาพาสปอร์ตเองใช่มั้ย ผมก็ตอบใช่ครับ แล้วก็ให้ใบนัดมา ให้ไปเอาวันอังคารหน้า เสียวดีครับ กลัวตั๋วราคาแพงยังไม่ได้ซื้อเลย แต่ผมคิดว่าวีซ่าน่าจะผ่านนะครับ เพราะพี่เค้าเอารูปเข้าไป scan ในคอมแล้วอะครับ ลืมถามเค้าครับ ว่าวีซ่าจะผ่านมั้ย 555 จากนั้นก็ไปจ่ายเงิน แล้วก็กลับบ้านครับ รอวันอังคารที่ 9 เวลา 10 โมง ถึง 11 โมง ไปเอาพาสปอร์ตครับ
สรุป เจ้าหน้าที่ใจดีมากตลกดีด้วย ผมว่าเค้าพูดจาดีทุกคนเลยนะครับ ตั้งแต่ยาม จนถึงเจ้าหน้าที่ด้านใน
เอกสาร ไม่ดูอะไรมาก ดูแบบผิวๆ
มีช่องนึง ช่องที่ไม่ได้เป็นห้องอะครับ มีผู้หญิงไทย ผิวคล้ำๆไปขอวีซ่าโดยมีฝรั่งแต่งชุดสูทไปด้วย ผู้ชายเยอรมันเท่าที่ฟังดูโดนเจ้าหน้าที่ว่าเป็นภาษาเยอรมันครับ ส่วนผู้หญิงไทยนี่ชัดเลยครับ เจ้าหน้าที่บอกว่าไปตกลงกันมาให้พร้อมนะคะ ว่าจะเขียนตัวอักษรตัวไหน เหมือนกับว่าเค้าสะกดชื่อไม่ตรงกันอะครับ
ก็อันนี้เป็นประสบการณ์ขอวีซ่าของผมกับครอบครัวครับ รอวันอังคารหน้าเดี๋ยวจะมารายงานครับ ว่าได้วีซ่ารึเปล่า
ขอบคุณครับ :-)
แก้ไขตัวสะกด
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 17:21:01
| จากคุณ |
:
Poom-lovely  
|
| เขียนเมื่อ |
:
2 ต.ค. 55 17:17:50
|
|
|
| 
