...มาเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินกันเถอะค่ะ...
|
|
หากเพื่อนๆ ทราบกันแล้วขออภัยนะคะ อยากให้เพื่อนๆ ทราบข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินทางบนอากาศเพื่อเดินทางได้อย่างมั่นใจและสบายใจนะคะ
1 เริ่มตั้งแต่เรื่องอาหารบนเครื่อง ปกติชั้นeconomyจะเสริฟ 2 ช้อยส์ อาจจะเป็นmenu อาหารไทยที่เป็นหมู และmenuที่เป็นอาหารฝรั่งที่เป็นปลาหรือไก่ อาหารจะโหลดมาอาจจะอย่างนึง60% อีกอย่างหนึ่ง40% ถ้าผู้โดยสารที่แอร์เสริฟก่อนเลือกทานแต่menu ที่เป็นอาหารไทยหมด ผู้โดยสารที่เหลือย่อมต้องรับประทานอีกช้อยส์ที่เป็นอาหารฝรั่ง แอร์สจ๊วตบางท่านกลัวผู้โดยสารโกรธก้อพยามไปหาช้อยส์มาเพิ่มจากbusiness classที่เหลือมา แต่บางทีก้อหามาได้ไม่พอจริงๆเพราะมันไม่มีอะไรเหลือ ผู้โดยสารหลายท่านเข้าใจ บางท่านโกรธเคืองว่าทำไมต้องกินอาหารที่ไม่อยากกิน ขอให้ท่านทำความเข้าใจว่าส่วนมากอาหารจะโหลดมาพอดีกับผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่อง ขออย่าได้โกรธเคือง ถือสาว่าสายการบินบริการท่านไม่ดี เพราะบนเครื่องบินมีเนื้อที่จำกัด ไม่สามารถโหลดของมาทุกอย่างได้ และค่าน้ำมันแพงมหาศาล เครื่องยิ่งหนักยิ่งซดน้ำมันเปลือง อีกทั้งเรื่องweight balanceที่จำกัดว่าเครื่องควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ถึงจะบินได้อย่างปลอดภัย ถ้าท่านรู้ตัวว่าทานหมูไม่ได้ เนื้อไม่ได้ เวลาจองตั๋วช่วยฝากให้agencyขอเป็นspecial mealระบุไปด้วยว่าขอเป็นปลา มังสวิรัติแบบไหนก้อว่าไป เวลาท่านขึ้นเครื่องก้อจะมีสจ๊วต หรือแอร์มาคอนเฟิร์มช้อยส์อาหารที่ท่านได้ระบุไว้
2 เวลาขึ้นเครื่องนอกจากจะโชว์boarding passที่หน้าgateแล้ว กรุณาโชว์boarding passอีกรอบให้แก่แอร์ที่ยืนสวัสดีท่านอยู่ที่หน้าเครื่องด้วย เพราะเป็นเรื่องsecurityของสายการบินและเป็นการสแกนผู้โดยสารว่ามีboarding passมาถูกflight และไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายที่ไหน อีกทั้งแอร์จะได้บอกทางที่นั่งท่านด้วย ถ้าท่านรู้อยู่แล้วก้อไม่เป็นอะไร เพราะจุดประสงค์หลักคือเรื่องความปลอดภัยก่อนการบินทุกครั้ง เพราะการทำงานบนเครื่องบินแต่ละครั้งหัวใจหลักของนักบินและพนักงานต้อนรับคือ เรื่องความปลอดภัย ก่อนการบินทุกครั้งแอร์สจ๊วตจะมีการบรีฟกันทั้งเรื่องsafetyและการบริการ การบริการถ้าพลาดอาจมีปัญหาให้มีเรื่องยุ่งยากใจ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้จิตวิทยา แต่เรื่องความปลอดภัยบนเครื่องบิน คุณอาจไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกเลยตลอดชีวิต
3 เวลาพนักงานต้อนรับเสริฟเครื่องดื่ม อยากได้เครื่องดื่มอะไรบอกไปเลยทีเดียว เวลาขออะไรนอกรอบ อาจใช้เวลารอ เพราะอาจยุ่งเสริฟอาหาร หรือทำอย่างอื่นอยู่ เวลาเสริฟเครื่องดื่ม ท่านอยากดื่มอะไรขอไปเลย แต่ตามมารยาทไม่ควรเกิน2drink เพราะถ้าผู้โดยสารเป็นร้อยมาขอdrinkที 3-4 drinkกันทุกคน นอกจากแอร์จะเดี้ยงแล้ว ผู้โดยสารที่เหลือที่รออยู่ต้องรอกันนาน อยากได้อะไรเพิ่มเติมขอแอร์นอกรอบหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเสริฟทุกอย่างหลังเก็บถาดแล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ป่วย ไม่สบาย กดเรียกแอร์ได้เลย ให้สังเกตว่าแอร์เสริฟอะไรอยู่ และขอตามที่เสริฟ ถ้านอกเหนือจากนั้น กรุณาอย่าโกรธกันเลยหากต้องรอ
4 เวลาขึ้นเครื่อง กรุณาเก็บกระเป๋าสัมภาระทุกครั้งด้วยตัวเอง นอกจากไม่ไหวจริงๆ อาจเรียกหาสจ๊วตได้ แต่ขอให้เอาของขึ้นเครื่องมาตามกำลังที่ตัวเองจะทำเองได้ดีกว่า เพราะแอร์และสจ๊วตหลายคนหลังมีปัญหา เนื่องจากช่วยยกกระเป๋าแล้วผู้โดยสารปล่อยมือ บางคนคิดว่าเราต้องช่วยยกกระเป๋าให้เหมือนporterตามโรงแรม ขอบอกตรงๆไม่ใช่เลย เราไม่มีหน้าที่ช่วยยกกระเป๋าให้ใคร แต่ถ้าผู้โดยสารคนแก่ชรา เด็ก พิการ เราเข้าไปช่วยก่อนเลย หรือผู้หญิงบางท่านตัวเตี้ยมาก เราช่วยเลย เพราะเข้าใจคุณ แต่ถ้าดูแล้วคุณช่วยเหลือตัวเองได้ มาถึงคุณวางกระเป๋าแหมะ ชี้นิ้วว่าเก็บให้หน่อยสิ คุณจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้กาลเทศะต่อหน้าแอร์ และผู้โดยสารคนอื่นๆ ณ บัดนั้น หุหุ ใครรู้ตัวว่าสวยก้อใช้เสน่ห์สาวไทยขอให้ฝรั่งกล้ามโตข้างๆช่วยยกให้สิคะ haha เผลอๆอาจได้เพื่อนใหม่
5 ท่านผู้โดยสารที่นั่งบริเวณประตูของเครื่องบิน และมีพื้นที่ว่างด้านหน้าของท่าน พื้นที่บริเวณนั้นไม่สามารถวางอะไรได้ทั้งสิ้น เป็นกฏมาตรฐานของทุกสายการบิน กรุณาเก็บสัมภาระไว้ที่วางเหนือศรีษะเท่านั้น หรือใต้ที่นั่งด้านหน้า แต่บางสายการบินเข้มงวดมากๆ ขนาดกอดกระเป๋าhermesบนตักเขายังไม่ให้เลย บริเวณประตูเป็นที่สำหรับกรณีฉุกเฉิน หากวางของตามพื้นแล้วเวลาเกิดturbulenceแรงๆของอาจกระเด็นกระดอนหล่นใส่ศรีษะตัวท่านเอง หรือชาวบ้านได้
6 เวลาทานข้าวทุกครั้ง กรุณาปรับเบาะให้ตรง เพื่อคนข้างหลังท่านจะทานข้าวได้สะดวก
7 การใช้ห้องน้ำ ในห้องน้ำมีเบาะปูรองนั่งเพื่อสุขอนามัย เศษขยะกรุณาทิ้งใส่ถังขยะในห้องน้ำ และถ้าเป็นไปได้ช่วยกันรักษาความสะอาด
8 ทุกครั้งที่สัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ้น พนักงานต้อนรับจะหยุดให้บริการ และไปนั่งที่รัดเข็มขัด เมื่อสัญญาณดังขึ้นอีกครั้งว่าปลอดภัยแล้วจะออกไปให้บริการต่อ
9 ไฟลท์ยาวที่บินยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา หลังเสริฟเสร็จ จะมีการหรี่ไฟให้มืด เพื่อให้ผู้โดยสารพักผ่อน แอร์ สจ๊วตจะมีการแบ่งเวรไปพักผ่อน 2-3ชั่วโมง แอร์ที่เหลือจะนั่งเฝ้าครัวอยู่คนเดียว บางโซนมีผู้โดยสาร140คนต่อแอร์ที่ดูแลบริเวณนั้นแค่คนเดียว นอกจากต้องนั่งเฝ้าครัว เตรียมของที่จะเสริฟในมื้อต่อไปแล้ว ดูแลห้องน้ำ อีกทั้งยังคอยเสริฟdrinkที่ถือเป็นถาดวนให้ผู้โดยสารที่บางคนยังตื่นอยู่ ผู้โดยสารฝรั่งบางคน แต่มีหลายคนกดเรียกแล้วเรียกอีก ไม่ยอมลุกเดินมาเอาดริ้งค์เองที่ครัวเลย อยากให้เห็นใจกันหน่อย ถ้าสามารถลุกมาได้ ลุกมาหาแอร์ที่ครัวเลย บางคนนั่งติดครัวเลย ยังกดเรียก ส่วนมากฝรั่งทางยุโรปokเลย แต่พวกแขกอินเดียขอยกเว้นให้เขาชาตินึงก้อแล้วกัน
10 ช่วงเวลาที่เครื่องบินtake offทะยานบินขึ้นฟ้า และก่อนlanding ช่วงนี้เป็นวินาทีสำคัญมากๆแห่งความปลอดภัยของการบิน อุบัติเหตส่วนมากจะเกิด ณ ช่วงเวลานี้ ขอให้ท่านรัดเข็มขัด ปรับพนักเก้าอี้ ปิดมือถือ และส่วนมากที่จะลืมกันคือ ชอบถอดรองเท้า ช่วยใส่รองเท้าเถอะค่ะ หากเกิดเหตุอะไรขึ้นมา หลวงพ่อโกยเท่านั้นค่ะ ทั้งวิ่ง ทั้งกระโดด ไฟมันร้อนนะคะ 1 วินาทีก้อมีค่าสำหรับนาทีฉุกเฉิน
11 สำหรับคุณแม่ที่มีเด็กอ่อนขึ้นเครื่องด้วย อายุไม่เกิน 6 เดือน น้ำหนักไม่เกิน 10kg ส่วนสูงไม่เกิน 67cm แอร์สามารถติดเปลเด็กให้ได้ค่ะ หลังเครื่องขึ้นแอร์จะติดเปลให้เลย สำหรับflightที่นานเกิน1.30hr นะคะ แต่ถ้าคุณแม่คนไหนโดนแอร์ปฏิเสธไม่ติดให้ สาเหตุเป็นเพราะไม่ตรงตามคุณสมบัติสามข้อที่กล่าวมานะคะ บางคนเด็กเดินได้แล้ว หนักเกิน ตัวเปลอาจรับน้ำหนักไม่ไหว อาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็กเอง แอร์บางคนหยวนๆ เกรงใจคุณแม่ ไม่อยากให้อุ้มตลอดไฟล้ท์ หากไฟลท์เต็มหาที่นั่งที่มีที่ว่างไม่ได้ ก้ออาจเอาเปลมาติดให้ด้วยความลำบากใจนะคะ แอร์บางคนเข้มงวดมาก กฏต้องเป็นกฏ เพราะถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ฟ้องร้องกันยาว ขอให้คุณแม่ช่วยเข้าใจในเรื่องนี้ด้วยนะคะ แต่ถ้าไฟลท์มีที่นั่งเหลือรู้ว่าbabyของตัวเองน้ำหนักเกิน ไม่เหมาะกับเปลเด็ก สะกิดบอกพนักงานตอนขึ้นมาเลยก้อได้นะคะว่ามีลูก ถ้ามีที่ว่างช่วยหาให้ด้วย คุณได้สิทธินั้น ณ บัดนาวค่ะ คุณแอร์ก้อจะรีบไปเชคให้คุณก่อนเลยแต่รอนิดนึงนะคะ ถ้ามีที่นั่งว่างเขาหาให้คุณเป็นคนแรกอยู่แล้วค่ะ
12 เวลาจองตั๋วผ่านagency ถ้ามีเด็กเดินทางด้วย ช่วยบอกให้agency ขออาหารให้เป็นbaby meal สำหรับเด็กไม่เกิน2ขวบ หรือถ้าโตกว่านั้นขออาหารพิเศษเป็นchild meal ทางสายการบินจะได้เตรียมอาหารสำหรับเด็กโตและของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆให้เด็กไว้ก่อนนะคะ
13 เวลาอยู่บนเครื่อง บางครั้งเครื่องสั่น ปานกลางถึงมาก เวลาบินผ่านสภาพอากาศแปรปรวน ขอบอกว่าสภาพบรรยากาศโลกเราเปลี่ยนไปเยอะมาก โดยเฉพาะช่วง3ปีหลังมานี้ เมื่อก่อนเวลาบินไปยุโรป ไม่เคยเจอเครื่องสั่น ไม่เคยเจอเมฆหนาๆที่ต้องทะลุทะลวงตั้งแต่เครื่องขึ้นจนถึงเครื่องแลนด์ที่ยุโรป แต่มาวันนี้สภาพอากาศเปลี่ยนไปเยอะมากๆค่ะ ไม่ว่าจะก่อนแลนด์ที่เยอรมัน ช่วงมีฝนตกน่ากลัวมาก ส่วนเอเชียแถบมรสุมอย่างเมืองภูเก็ต พม่า ไต้หวัน ฮ่องกง อินเดีย น่ากลัวมากถึงมากที่สุด ขอให้ท่านทำใจไว้ก่อนการบินในเรื่องสภาพอากาศนะคะ ขอให้ทำใจเวลาดูที่หน้าจอของท่านนะคะ ว่าเราบินอยู่ช่วงไหนของโลก แถบมรสุมหรือเปล่า จะได้ไม่โทษแต่ทางสายการบินนะคะว่าเครื่องบินเก่า หรือนักบินไม่เก่ง แนะนำว่าเวลาเดินทางยิ่งเครื่องใหญ่และใหม่ยิ่งดีค่ะ เครื่องบินลำยิ่งเล็กแรงต้านยิ่งน้อย ก้อจะสั่นมากหน่อย
เครดิต : คุณ Junejaa
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 55 20:09:52
จากคุณ |
:
ColdOut
|
เขียนเมื่อ |
:
2 พ.ย. 55 20:09:21
|
|
|
|