ความคิดเห็นที่ 1 ที่สำคัญก็คือที่อยู่ในอเมริกา  ระยะเวลาที่จะอยู่ ประเทสสุดท้ายก่อนมาอเมริกา ก็คือประเทศที่เราเปลี่ยนเครื่องแหละครับ สำหรับแบบฟอร์ม Custom ก็จะถามว่าคุณได้ซื้อของเพื่อเอามาขายหรือเปล่า มีเงินสดมากกว่าจำนวนที่เค้ากำหนดหรือเปล่า มีของต้องห้ามหรือไม่ มีเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้หรือเปล่า ด้านหลังให้กรอกราคาของที่นำเข้ามาในประเทศเค้า  ตรงนี้ไม่ต้องเขียนก็ได้ แต่ถ้าคุณนำของที่อาจจะเป็นของต้องห้ามก็เขียนซะ อย่างผมเอาอาหารแห้งไปฝากเพื่อน ผมก็เขียนว่า dry food ราคา 30 เหรียญ ไม่อยากมีปัญหาถ้าเค้าขอเปิดกระเป๋า พูดถึงกระเป๋าดีที่สุดคือไม่ต้องใส่กุญแจ ผมเอาเชือกผู้กระหว่างซิปกันเลื่อนแค่นั้น ถือคติว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งดูมีค่ายิ่งน่าเปิดไงครับ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:12:09

ความคิดเห็นที่ 2 ผมให้พี่แพทขับรถมาส่งที่สถานี Western /Wilshire ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้บ้านที่สุด ผมถามพี่แพทว่ามีร้าน Sizzler แถวนี้มั๊ยพี่แพทบอกมี แล้วก็ชี้ให้ผมดู ร้านอยู่ไม่ห่างจากสถานีเท่าไหร่ เดินไปสัก 5-10 นาที ผมเล็งเอาไว้ว่าขากลับจะแวะมากิน  ทำไมต้อง Sizzler หรือครับ ก็เพราะมันไม่เหมือนที่เมืองไทย ตรงที่สลัดบาร์ของเค้ามีของกินมากกว่า ส่วนที่เพิ่มมาก็คือมีอาหารแม๊กซิกัน และปีกไก่ทอดที่กรอบอร่อย และมีไอสครีมด้วย ไม่ต้องกินจานหลักซื้อแต่สลัดบาร์ประมาณ 12 เหรียญคุณก็อิ่มแปล้ มีโอกาสลองดูนะครับ พี่แพทจอดรถฝั่งตรงข้ามสถานี ซึ่งเป็นจุดที่ใช้รับส่งครับ พอมาถึงสถานีก็โทรหาพี่แพท สัก 5-10 นาทีพี่เค้าก็มารับผม มาถึงสถานีก่อนอื่นต้องแวะร้าน AT&T ก่อน เพื่อจัดการกับโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ถามชื่อเราแล้วก็ให้รอเรียกชื่อครับ  ลูกค้ามากพอสมควร พอเรียกชื่อเราผมก็บอกไปว่าผมเช่าซิมจากบริษัทในเมืองไทยมาแต่ใช้ไม่ได้ เจ้าหน้ที่รับเอกสารไปดู จัดการคีย์ข้อมูลสักพักก็เอาซิมอันใหม่มาใส่ จากนั้นโทรศัพท์ของผมก็ใช้ได้ ผมถามค่าใช้จ่ายเธอบอกไม่มี  พูดถึงสัญญาณโทรศัพท์สู้บ้านเราไม่ได้ครับ สัญญาณมีบ้างไม่มีบ้าง ยิ่งในสถานียิ่งหาแทบไม่ได้ มีครั้งนึงระหว่างรอรถไฟสัญญาณโทรศัพท์ผมดัง พอรับสายเสร็จ คนข้างๆถามผมว่าใช้เครือข่ายของค่ายไหน ผมบอก AT&T แกยิ้มให้ คงคิดว่าค่ายนี้เจ๋งจริงมีสัญญาณในสถานีด้วย  พี่แพทบอกผมว่าสัญญาณที่นี่ในบางแห่งไม่ยอมให้ตั้งที่รับสัญญาณ เพราะกลัวจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ กลัวสัญญาณจะก่อให้เกิดมะเร็งอะไรบ้าง ตอนผมไป ย่านเศรษฐี Beverly Hill ลองดูสัญญาณก็ไม่มีจริงๆ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:13:06

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นผมก็ข้ามฝั่งไปยังสถานีรถไฟใต้ดินทันทีจากข้อมูล ราคาค่าโดยสารจะเริ่มที่ 1.50 เหรียญ ถ้าเดินทางมากกว่าหนึ่งเที่ยวแนะนำให้ซื้อแบบ day pass ราคาอยู่ที่ 6 เหรียญ หากว่าคุณจะต้องอยู่หลายวันและเดินทางตลอดก็ซื้อแบบอาทิตย์ week pass 20 เหรียญ ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ทุกอย่างครับ คุ้มค่าจริงๆ สำหรับ 6 เหรียญในหนึ่งวันของผม เพราะนั่งรถเมล์หลงไปหลงมาไม่รู้กี่สาย ตอนซื้อนี่สิครับเห็นเครื่องตั้งอยู่แต่จะซื้อยังไงล่ะ ยืนแอบดูคนข้างๆ พี่แกก็ไวเสียเหลือเกิน อย่ากระนั้นเลย ผมถามน้องผิวดำว่าผมจะซื้อ ตั๋วหนึ่งวันยังไง แกก็จัดแจงอธิบายและสาธิตอย่างรวดเร็ว จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:14:03

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องขายตั๋ว จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:15:24

ความคิดเห็นที่ 5 วิธีซื้อมีดังนี้ครับ กดไปที่ปุ่ม A -Purchase new TAP card+ fare เพราะเราจะซื้อ บัตรครั้งแรกมูลค่าบัตร 1 เหรียญครับครั้งต่อไปก็เติมเงินลงในบัตรตามที่ต้องการ ใส่เงินลงไปครับที่ช่องใส่เงินหรือจะใช้บัตรเครดิตก็ได้ครับ จากนั้นรอรับบัตร ต้องการเช็คยอดก็แปะลงไปที่ช่องที่มีวงกลมครับ เครื่องจะแจ้งยอดที่เหลือ หากจะเติมก็กดไปที่ช่อง G เพื่อเติมเงิน จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:17:32

ความคิดเห็นที่ 6 หน้าจอครับ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:18:20

ความคิดเห็นที่ 7 ซื้อบัตรใหม่กดที่ A จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:19:12

ความคิดเห็นที่ 8 ตามด้วยราคาที่ต้องการ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:20:37

ความคิดเห็นที่ 9 ใส่เงินเข้าไปอย่าใส่แบงค์ใหญ่นะครับเพราะเค้าทอนไม่เกิน 19.95 ก็ใส่แบงค์ 10 หรือ20 พอจากนั้นก็รอรับบัตร บัตรนี้เก็บไว้ใช้ได้ตลอดโดยเติมเงิน คล้ายกับตู้เติมเงินที่ฮ่องกง จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:24:46

ความคิดเห็นที่ 10 ระบบรถที่นี่ผมว่าสู้เมืองไทยไม่ได้ รถมาช้าประมาณ 10-15 นาที แถมชานชาลานึงก็วิ่งมันซะสามขบวน ผมหลงขึ้นกลับไปกลับมาที่เดิมอยู่หลายรอบ ปรากฎว่า ที่ชานชาลาจะมีจออยู่ด้านบนคุณต้องดูว่าคุณจะไปไหน รถมาเวลาเท่าไหร่ ดังนั้นใส่นาฬิกาไว้ด้วยนะครับไม่งั้นคุณไม่ได้ไปไหนละครับวนเวียนไปมาอยู่ในสถานีนั่นแหละ แถมยังต้องฟังให้ดีนะครับเพราะอยู่ๆ ก็มีการเปลี่ยนชานชาลาไปฝั่งตรงข้ามซะงั้น  หากกลัวว่าจะฟังไม่ทันก็ใช้วิธีเฮไหนเฮนั่น คือคนอืน่ย้ายเราก็ย้ายตามแล้วกัน แล้วก็ถามครับไม่ต้องกลัวเสียฟอร์ม จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:25:30

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับสายการเดินรถไปดูที่นี่ครับ เค้ามีหลายสีหลายสาย ของผมอยู่ที่สายสีม่วง สถานที่ท่องเที่ยวจะเป็นสายสีแดง ไปไชน่าทาวน์สายสีทองครับ http://www.metro.net/riding_metro/maps/images/rail_map.pdf แผนที่สำหรับระบบขนส่งทั้งรถไฟและรถเมล์ดูที่นี่ครับ http://www.metro.net/riding_metro/maps/images/System_Map.pdf แผนที่พวกนี้ปริ้นท์ติดตัวไว้นะครับเพราะที่สนามบินไม่มีแจกครับ มีแต่แผนที่ของแอเลเอเท่านั้น จากข้อมูลที่ได้รับมาระบบถไฟฟ้านี่เพิ่งจะเกิดได้ประมาณ 10 ปี ตอนจะสร้างมีเสียงคัดค้านมากมาย เพราะคนที่นี่จะใช้รถส่วนตัวจึงไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์สักเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็สร้างได้ เป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยวและคนที่ไม่ต้องการขับรถ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:26:03

ความคิดเห็นที่ 12 สถานีรถไฟที่นี่หายากครับไม่เหมือนที่ฮ่องกง ที่มีป้ายบอกทางไป MRT ตลอด อยู่ฮ่องกงไม่ต้องกลัวหลงยึดสถานีรถไฟใต้ดินเอาไว้ก็พอ ที่แอลเอไม่มีป้ายบอกทางเป็นระยะอย่างฮ่องกง ผมเลยใช้วิธีเดินและถามทางตลอดเวลา คนที่นี่ใจดีครับบอกทางให้ แถมใช้ App ตรวจสอบเวลาว่ารถเมล์จะมาในกี่นาทีให้เสร็จสรรพ ในสถานีก็มีทางออกเดียวไม่เหมือนบ้านเราหรือที่ฮ่องกงที่มีหลายทางออกและจะมีป้ายบอกว่าจะออกถนนไหน สถานที่สำคัญตรงไหน ผมถึงบอกว่าให้คุณปริ้นท์แผนที่ติดเอาไว้ จะได้รู้ว่าออกไปต่อรถตรงถนนไหน จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:26:35

ความคิดเห็นที่ 13 สถานีใหญ่ก็คือ Union Station เหมือนหัวลำโพงบ้านเรา ที่มีชานชาลาหลายชานชาลาสำหรับรถที่วิ่งออกนอกเมือง( Amtrack) และสำหรับต่อรถสายต่างๆ (Metrolink)  ป้ายบอกทางมันน่าเวียนหัวยิ่งนักเดินอยู่ดี ๆ ป้ายมันหายไปซะงั้น ผมคิดถูกทีเดียวที่ใช้วันนี้เป็นวันสำรวจเส้นทาง สถานี western/Wilshire อยู่ในเส้นทางสีม่วงครับ ผมนั่งรถไป union station เพื่อต่อ golden line ไป china town จากม่วงใต้ดินมาเป็นสีทองบนดิน ถึงที่หมายออกจากสถานีผมก็มองหาซุ้มประตูจีนทันที แล้วก็มุ่งหน้าไปย่านไชน่าทาวน์ ผมจะต้องขึ้นรถที่เลขที่ 600 Senior Citizen Center ต้องเดินไปอีกประมาณสามบล๊อก เวลาหาสถานที่ที่นี่จะสะดวกมากเพราะเลขที่มันจะเรียงลำดับไปเรื่อยๆ เช่น คุณอยู่ตรง 800 จะไปที่ 600ก็ลองเดินไปทางขวาและทางซ้ายดูว่าตัวเลขมากขึ้นหรือน้อยลง แล้วก็ไปตามทิศที่ต้องการ ของผมอยู่ที่ 800 ทางขวาตัวเลขมากขึ้น ก็ต้องไปทางซ้ายเพื่อไปหาตัวเลขที่น้อยลง จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:28:36

ความคิดเห็นที่ 14 ระหว่างทางท้องเกิดร้องหิวข้าว เห็นร้านอาหารจีนเขียนว่า 1 US$ ก็เลยลองเข้าไป มีอาหารใส่ถาดไว้มากมายหลายอย่าง เป็ดย่างก็มีแต่ขายทั้งตัวไม่ราดข้าว  จะกินในร้านหรือกลับบ้านก็ใส่กล่องโฟมเหมือนกันเผื่อเหลือคุณก็หิ้วกลับบ้านได้ จะเลือกกับกี่อย่างก็ได้ คิดอย่างละ 1 เหรียญ ผมเลือกมาได้หน้าตาอย่างนี้ครับ กินไม่หมดแต่ไม่อยากหิ้วเพราะต้องไปอีกหลายที่ พูดถึงอาหาร อาหารที่นี่จานใหญ่และปริมาณมาก คุณผู้หญิงกินน้อยแนะนำให้แบ่งกันครับ หรือจะสั่งมาคนละอย่างแล้วแบ่งกันก็ไม่ว่า มีอีกวิธีคือหากล่องเล็ก ๆ ไว้ใส่เวลาของเหลือ หรือขอกล่องจากทางร้านไว้ใส่ของที่เหลือมากินมื้อต่อไป ถ้าคุณสามารถกินของซ้ำได้นะแต่ถ้าไม่กินของซ้ำก็อย่าแบกกลับมาให้เสียเวลาเสียของเลย ร้านแบบนี้ไม่ต้องทิปครับเพราะเค้าไม่ได้มาดูแลเรา กินเสร็จเอากล่องไปทิ้งที่ถังขยะแค่นั้น แต่ถ้าเป็นร้านที่มีพนักงานเสิร์ฟก็ทิปไปประมาณ 10-20% ผมใช้วิธีทิป 1เหรียญต่อคนครับ ไปคนเดียวทิป 1 เหรียญมากว่านั้นก็ลงขันทิปคนละเหรียญ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:29:21

ความคิดเห็นที่ 15 หน้าตาอาหารที่ผมกิน จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:30:02

ความคิดเห็นที่ 16 กินเสร็จเดินต่อไปอีกไกลพอสมควรกว่าจะถึงที่หมาย จุดขึ้นรถทัวร์อยู่หัวถนนพอดี เลยสรุปว่าเวลารถออกเช้าขนาดนี้ผมขอใช้บริการพี่แพทดีกว่า ตื่นตีห้า อาบน้ำแต่งตัวกินกาแฟ ออกจากบ้านสักหกโมงเผื่อเวลาไว้ดีกว่าเดินลากกระเป๋าไปมา อย่างที่บอกแต่แรกว่ารถไฟใต้ดินที่นี่มันมาช้าเหลือเกิน ผมไม่อยากตกทัวร์ จากนั้นผมก็เดินเลี้ยวซ้ายเรื่อยเปื่อยจนไปถึงย่านที่ชื่อ El Pueblo เป็นย่านแรกๆ ที่ชาวยุโรปและเม็กซิกันย้ายมาตั้งรกรากเป็นชุมชนขนาดใหญ่ในแถบนี้ตั้งแต่ปี 1781 ในบริเวณนี้จะเป็นถนนสายสั้นๆ ตลอดเส้นจากต้นถนนไปปลายถนนจะพบกับร้านค้าขายของพื้นเมืองสลับกับร้านอาหาร Mexican จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:31:12

ความคิดเห็นที่ 17 เดินต่อครับเพื่อจะหาสถานีรถไฟใต้ดิน ที่จริงผมวางแผนซะดิบดี ทำการบ้านไว้หมด พอเอาเข้าจริงดันลืมเอามาซะนี่ แต่พอจำได้รางๆ จากที่เคยอ่านรีวิว ก็เลยเดินต่อไปเรื่อย ๆ ไปเจอ City Hall เข้า จากข้อมูลแปลว่าผมอยู่  ใกล้กับ Grand Central Market และ Angle fright ผมก็เลยเดินถามทางผู้คนมาเรื่อยเปื่อย เดินจนขาลาก แต่ผมเป็นคนชอบเดินครับ เลยไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่มันเริ่มจะง่วงนี่สิ ก็เวลามันต่างกันนี่ครับ อาการแบบนี้ที่เค้าเรียกว่า  เจ็ทแลค (jet lag)  ปกติที่ผมเคยมาผมจะมีอาการในวันที่สาม จะหลับเหมือนโดนน๊อกไปยันเย็น แต่ครั้งนี้ดันเป็นซะแต่วันแรกเลย นั่งรถเป็นหลับซะจนรำคาญตัวเอง สำหรับอาการนี้เค้ามีวิธีป้องกันลองอ่านดูนะครับ http://www.hiphoteltravel.com/index.php?mo=23&node=3616&c=1195&lang= จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:31:42

ความคิดเห็นที่ 18 เดินมาจนถึง Grand Central Market แต่ผมไม่ประทับใจเลยเพราะดูเงียบเหงาหรือเพราะเป็นวันธรรมดาก็ไม่รู้ อาหารการกินไม่เยอะ ผักผลไม้ไม่สด ไม่เหมือน Market City ที่ซิดนีย์ ลองดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:32:14

ความคิดเห็นที่ 19 Grand Central Market จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:33:11

ความคิดเห็นที่ 20 ผักสดและผลไม้ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:34:20

ความคิดเห็นที่ 21 แอบมีชาเย็นของไทยด้วย จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:35:19

ความคิดเห็นที่ 22 เดินไปเจอนี่เข้าครับ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:36:09

ความคิดเห็นที่ 23 แคปหมูกับขาหมูครับ อาหารแม๊กซิกัน ผมเรียกว่าวัฒนธรรมทางอาหารนะครับ แสดงว่ามีการถ่ายทอดวัฒนธรรมทางอาหารให้แก่กันและกันในอดีตระหว่างการเดินทางค้าขายหรือเผยแพร่ศาสนา จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:39:06

ความคิดเห็นที่ 24 แทนที่จะกินกันข้าก็เอามาห่อแป้งหรือกินกับแป้งทอด ผมเรียกไม่ถูกหรอกครับ และไม่ได้ลองเพราะยังอิ่มอยู่ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:40:28

ความคิดเห็นที่ 25 ฝั่งตรงข้ามเป็น Angels Flight เป็นรถไฟที่มีความยาวแค่ 315 ฟุต ค่าโดยสารไปกลับ 50 เซ็นต์ครับ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:41:19

ความคิดเห็นที่ 26 ระยะทางสั้นๆ จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:42:57

ความคิดเห็นที่ 27 เดินจนเมื่อยผมเลยมั่วขึ้นรถเมล์เพื่อจะกลับไปตั้งต้นที่ union station จำไม่ได้ว่าขึ้นรถสายอะไรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทางไหน ขึ้นไปก็เอาบัตรแตะแล้วก็หาที่นั่ง นั่งหลับเรื่อยเปื่อย รถเมล์ที่นี่ดีตอนที่มีประกาสบอกป้ายตลอดว่าป้ายหน้าคือป้ายอะไร มีสถานที่สำคัญอะไร ต่อสถานีรถไฟฟ้าอะไร เวลาจะลงให้ดึงเชือกที่อยู่ตรหน้าต่างครับไม่มีกริ่งให้กด  ตื่นมาตอนรถผ่าน Melrose Placeชื่อเดียวกับซีรี่ย์ดังที่รวมคนหล่อคนสวยไว้มากมายนั่นแหละ ชมเมืองไปจนสุดสายพอดี ถามคนขับว่าผมจะไป Santa Monica ยังไงแกบอกให้รอรถซึ่งมีสายเดียวจะผ่านมา  ผมขึ้นไปนั่ง ได้ยินเสียงประกาศว่า Hollywood ก็เลยลงซะ ไม่ไปแล้ว ซานตามอนิก้าเพราะเวลาเริ่มเย็นนลงแล้ว อีกอย่างรุ่งขึ้นผมต้องตื่นแต่เช้าไปซานฟรานเลยเดินเล่นแถวนี้ดีกว่า  แล้วก็เดินเล่นย่านนี้ไปเรื่อย ๆ ที่นี่จะคึกคักในช่วงบ่าย ๆ คุณจะเห็นคนแต่งตัวเป็นตัวแสดงในหนังมายืนรอให้คุณถ่ายรูปด้วย จ่ายให้เค้า 1 เหรียญครับแค่นี้คุณก็ได้ถ่ายรูปกับ ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน และอีกหลากหลายตัวละครครับ เดินผ่าน walk of frame. Chinese Theater เดินเล่นในศูนย์การค้า ดูร้านขายของที่ระลึก  ผมมาเจอสถานีรถไฟใต้ดินเลยเข้าสถานี กลับมาที่ western/Wilshire ออกจากสถานีข้ามถนนแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ แวะกินซิสเล่อร์ตามที่ตั้งใจไว้เสร็จแล้วก็โทรให้พี่แพทมารับกลับบ้านผมนั่งรอที่ร้านนั่นแหละครับไม่เดินย้อนกลับไปที่สถานี  ถึงบ้านเข้านอนแต่วันเพื่อเอาแรงไว้ตื่นตีห้าเพื่อเตรียมไปกับทัวร์จีน ค่อยต่อตอน 3 นะครับผมจะเล่าให้คุณฟังว่าทัวร์จีนนี่มันเป็นยังไง จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:52:44

ความคิดเห็นที่ 28 รออ่านอยู่นะค่ะ ขอบคุณค่ะสำหรับรีวิว จากคุณ : skymint เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:26:11

ความคิดเห็นที่ 29 รอจ้ารออ่าน  ละเอียดดีมากเลยค่ะ จากคุณ : pang_sarah เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:56:06

ความคิดเห็นที่ 30 -ขอบคุณสำหรับรีวิว มีประโยชน์สำหรับมือใหม่มากค่ะ จากคุณ : แม่อริน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 20:03:04

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ลองแวะ Six Flags เหรอค้าาา นั่งบัสไปได้ด้วยนะเอ้อ จากคุณ : super-bobah เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 21:38:30

ความคิดเห็นที่ 32 คห 31 เล่าให้ฟังบ้างซิครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 11:26:49

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 12:02:22

ความคิดเห็นที่ 34 ตอน 3 มาแล้วครับอยู่ที่นี่ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12900760/E12900760.html จากคุณ : vickyvong เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 12:27:48

ความคิดเห็นที่ 35 ได้เกร็ดความรู้เพียบครับ จากคุณ : Matterhorn เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 17:39:19