ความคิดเห็นที่ 1 ระหว่างรีวิวอยู่ อาจจะช้าไปบ้าง เพราะกำลังดูกี่เพ้าอย่างเมามันส์ ขอแปะเพลงนี้ประกอบการรีวิวละกันเนอะ กำลังชอบมากถึงมากที่สุด อิอิ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 22:48:48

ความคิดเห็นที่ 2 เรามาเริ่มกันที่วันแรกนะคะ สตาร์ทจากกรุงเทพฯ ยิงยาวไปเชียงรายเลยค่ะ ระยะทาง 800 กิโลเมตร จุดมุ่งหมายคือการแวะไหว้พระระหว่างทาง เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาของชาวพุทธ ไอ้เราก็ไม่ได้ทำบุญบ่อยๆ ขอบ้างอะไรบ้างละกัน โดยการเดินทางจะเป็นแบบนี้ค่ะ กรุงเทพฯ > พิษณุโลก > อุตรดิตถ์ > แพร่ > พะเยา > เชียงราย และเนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลและแวะบ่อย จึงต้องออกตอนกลางคืน เพื่อไปถึงวัดแรกในตอนเช้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 55 23:00:59 จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:00:28

ความคิดเห็นที่ 3 การเดินทาง: กรุงเทพฯ-วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร(วัดใหญ) จ.พิษณุโลก วิ่งเข้าสายเอเชีย ถนนหมายเลข 1 ผ่านอยุธยาไปจนถึงแยกนครสวรรค์ ช่วงนี้ถนนดี ทำความเร็วได้ วิ่งตอนกลางคืนสบายค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 117 เส้น นครสวรรค์-พิษณุโลก เส้นนี้จะมี 2 เลน ถนนช่วงแรกๆขรุขระเล็กน้อย ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่งค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:08:31

ความคิดเห็นที่ 4 วัดที่1: วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร(วัดใหญ) จ.พิษณุโลก พระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:19:16

ความคิดเห็นที่ 5 แวะเข้ามาชม  ภาพเปิดหน้ากลัวมากเลยครับ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:21:39

ความคิดเห็นที่ 6 พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:27:53

ความคิดเห็นที่ 7 วัดที่2: วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นก็ออกเดินทางจากถนนหมายเลข 12 ผ่านตัวเมืองพิษณุโลก แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 11 วิ่งยาวไปจนถึงแยกตัวเมืองอุตรดิตถ์ค่ะ เข้าถนนหมายเลข 119-102 แวะไหว้พระที่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งกันก่อนค่ะ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง หรือ วัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ที่กลางเทศบาลตำบลทุ่งยั้ง ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นวัดโบราณประดิษฐานพระมหาธาตุประจำเมืองทุ่งยั้ง เมืองโบราณตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัย ตามตำนานการสร้างพระบรมธาตุกล่าวว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท ผู้ครองเมืองสุโขทัย ได้เชิญพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาบรรจุไว้ในถ้ำใต้ดินโดยขุดลงไปเป็นถ้ำแล้วก่อพระธาตุไว้ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 55 23:37:07 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 55 23:36:46 จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:35:43

ความคิดเห็นที่ 8 วัดที่3: วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ขับต่อเข้าไปอีกประมาณ 2 กม. อยู่ใกล้ๆกันเลยค่ะ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดกับวัดพระยืนพุทธบาทยุคล ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก บนเนินเขาลูกเดียวกันแต่คนละยอด วัดพระแท่นศิลาอาสน์เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดสร้าง และสร้างแต่เมื่อใด ในศิลาจารึกครั้งกรุงสุโขทัยไม่ปรากฏข้อความกล่าวถึงพระแท่นศิลาอาสน์ แต่เพิ่งมีปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดาร ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์ได้เสด็จนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อปี พ.ศ. 2283 ได้แสดงว่าพระแท่นศิลาอาสน์ได้มีมาก่อนหน้านี้แล้ว จนเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง และทางราชการได้นำพระแท่นศิลาอาสน์ไปประดิษฐานไว้ในตราประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แสดงถึงความศรัทธาเลื่อมใสและความสำคัญขององค์พระแท่นศิลาอาสน์ได้เป็นอย่างดี จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:41:51

ความคิดเห็นที่ 9 พระแท่นศิลาอาสน์เป็นพุทธเจดีย์ เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง เป็นที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จและจะได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้ว เพื่อโปรดสัตว์ ซึ่งแสดงว่าพระแท่นศิลาอาสน์นี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างต่อเนื่อง ในพระพุทธศาสนามายาวนาน ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑป ศิลปะเชียงแสนครอบ อยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:45:13

ความคิดเห็นที่ 10 วัดที่4: วัดพระยืนพุทธบาทยุคล จ. อุตรดิตถ์ วัดนี้คิดกับวัดพระแท่นศิลาอาสน์เลยค่ะ จอดรถที่เดียวกันเดินไปถึงเลยค่ะ วัดพระยืนพุทธบาทยุคล”เป็นวัดที่มีความเก่าแก่คู่กับ “วัดพระแท่นศิลาอาสน์” ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับยืนบนยอดเขาแห่งนี้ จึงเกิดเป็นรอยพระพุทธบาททั้งพระบาทซ้าย และพระบาทขวาคู่กันบนแผ่นศิลาแลงฐานดอกบัว ซึ่งทางวัดพระยืนพุทธบาทยุคลได้สร้างมณฑปครอบไว้ (ศิลปะแบบเชียงแสน) ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปยืนโดยรอบผนังทั้งสี่ด้าน เพดานเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง (จากภาพคาดว่าเป็นภาพชุมนุมเทวดา)ส่วนจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพพุทธประวัติ ด้านนอกใกล้ ๆ มณฑปจะพบเจดีย์ศิลาแลงลักษณะคล้ายทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ คาดว่าสร้างในสมัยสุโขทัยอายุประมาณ 700 ปี ปัจจุบันเหลือให้เห็นเพียงฐานเจดีย์เท่านั้น จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:49:41

ความคิดเห็นที่ 11 ภายในพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยชื่อ “หลวงพ่อพุทธรังสี” จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:53:35

ความคิดเห็นที่ 12 ใกล้เที่ยงพอดี แวะไปทานข้าวพันผักของดีเมืองลับแลค่ะ ร้านนี้บังเอิญเจอ ใกล้ๆแถวนั้น ถามทางชาวบ้านได้ค่ะ หิวหน้ามืดมาก ลืมจำว่าอยู่ตรงไหน อิอิ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:57:15

ความคิดเห็นที่ 13 จานนี้เป็นข้าวพันผัก+ไข่ ราคา 20 บาทมั้ง จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 23:59:01

ความคิดเห็นที่ 14 ชามนี้เป็นวุ้นเส้นต้มยำ+ผัก+ไข่ 20 บาทเหมือนกันค่ะ ชามใหญ่มากกกก จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:01:02

ความคิดเห็นที่ 15 ยังไม่อิ่ม กินแล้วเพลิน ข้าวพันผักธรรมดาแบบออริจินอล 10 บาทเท่านั้นน!!! จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:02:53

ความคิดเห็นที่ 16 วัดที่5: วัดสูงเม่น จ.แพร่ กองทัพเดินด้วยท้อง อื่มแล้วออกเดินทางต่อค่ะ จุดหมายต่อไปเราจะไปเมืองแป้กันค่ะ กลับเส้นเดิมเข้าถนนหมายเลข11 มุ่งหน้าขึ้นเหนือค่ะ ช่วงนี้วิวสวยแล้วค่ะ ขึ้นเขาเบาเบา ผ่านแยกเด่นชัย วิ่งต่อขึ้นไปทางร้องกวาง เส้นทางนี้จะผ่าน อ.สูงเม่น จ.แพร่ เราแวะไหว้พระที่วัดสูงเม่นกันก่อนค่ะ โลเกชั่นอยู่ติดถนนใหญ่เลยค่ะ สังเกตุง่ายมากๆ อยู่ทางซ้ายมือนะคะ วัดสูงเม่นสันนิฐานว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรีต่อเนื่องสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งเป็นช่วงเริ่มมีการพลิกฟื้นอารยธรรมล้านนาให้กลับมามีบทบาทในการพัฒนาบ้านเมือง และการค้ำชูพระพุทธศาสนา เดิมเรียกว่า “วัดสุ่งเม้น” โดยมีเรื่องเล่าสืบๆ กันมาว่าแต่เดิมสถานที่ตำบลสูงเม่นเป็นป่าไผ่และทุ่งหญ้า รวมถึงป่าไม้เบญจพันธุ์ มี “เม่น” ซึ่งเป็นสัตว์ป่าตระกูลหมูอยู่อาศัยเป็นจำนวนมากและประกอบกับสถานที่เป็นที่ทำเลดีมีหญ้าและท่าน้ำบริบูรณ์ พวกพ่อค้าวาณิชย์และคนเดินทางในสมัยอดีตจึมักจะมาแวะพักแรมกันในบริเวณดังกล่าว จนเรียกพื้นที่ตำบลนี้ว่า “ป๋างสุ่งเม้น” การที่พวกสัตว์และ “เม่น” อาศัยอยู่รวมกันมากหรือมีเม่นมากในบริเวณนี้ คนจึงเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “สุ่ง” ซึ่งได้ชื่อตามนิมิตของฝูงเม่นว่า “บ้านสุ่งเม้น” จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:11:49

ความคิดเห็นที่ 17 สำคัญมากๆค่ะ  ที่นี่มีหอพระไตรปิฎก ที่บรรจุพระไตรปิฎกฉบับพื้นเมืองและคัมภีร์ธรรม วรรณกรรมล้านนาที่ครูบามหาเถรเจ้านำมาไว้ ซึ่งหอไตรดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็นสถานที่เก็บรวบรวมวรรณกรรมภาษาล้านนามากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วยค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:13:45

ความคิดเห็นที่ 18 วัดที่6: วัดนิวิฐศรัทธาราม จ.แพร่ ถัดมาใกล้ๆกัน มีอีกวัดที่น่าสนใจค่ะ สะดุดตาได้ง่ายมากเลยค่ะ วัดนี้ชอบมาก ดูสงบร่มรื่นค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:16:47

ความคิดเห็นที่ 19 เมืองไทย ไม่ไปไม่รู้นะคะ ^__^ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:19:22

ความคิดเห็นที่ 20 วัดที่7: วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง จ.แพร่ จากนั้นขับตามเส้นหลักไปอีกประมาณ 15 กม.ค่ะ ไปสักการะพระธาตุช่อแฮกันก่อน ใครเกิดปีขาลเค้าไหว้เผื่อละน๊าา วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง บุคคลใดที่มาเที่ยวจังหวัดแพร่แล้วจะต้องมานมัสการพระธาตุช่อแฮ เพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเอง จนมีคำกล่าวว่า "ถ้ามาเที่ยวจังหวัดแพร่ แต่ไม่ได้มานมัสการพระธาตุช่อแฮเหมือนไม่ได้มาจังหวัดแพร่" จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:26:00

ความคิดเห็นที่ 21 เส้นทางตามนี้เลยค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:26:27

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเวียนเทียนกลางน้ำที่วัดติโลกอาราม จ.พะเยา แต่เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาว เรือที่จะพาเวียนเทียนเต็มหมดค่ะ เลยได้แต่เก็บภาพกว๊านพะเยามาแทนค่ะ กว๊านพะเยาสวยมากเลยนะคะ สวยสงบน่าไปนั่งพักผ่อนมาก แต่วันนั้นที่ไป เหมือนฝนจะตก ภาพที่ได้มาดูเหงาเนอะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:29:47

ความคิดเห็นที่ 23 จากแพร่ไปพะเยาเดินทางง่ายมากก ตาม Google Map เลยค่ะ ระยะทางประมาณ 150 กม. ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:33:49

ความคิดเห็นที่ 24 กะว่าจะไปถึงพะเยาเย็นๆ ดูพระอาทิคย์ตกดิน เนื่องจากไหว้พระธาตุช่อแฮเสร็จประมาณบ่ายสอง ยังพอมีเวลาค่ะ ก็เลยแวะไปแพะเมืองผีซะหน่อย แพะเมืองผี เป็นพื้นที่เนินเขาซึ่งสูงกว่าส่วนอื่น เกิดจากการพังทลายโดยการกัดเซาะตามธรรมชาติ โดยกระแสน้ำเป็นเวลานาน ทำให้พื้นที่บางส่วนเป็นที่สูงต่ำสลับกันไป หน้าผาและเสาดินมีรูปทรงแตกต่างกัน ก่อให้เกิดความสวยงามมากยิ่งขึ้น เค้ามีตำนานด้วยนะ สถานที่ตั้งของแพเมืองผีมีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน ในสมัยโบราณเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านตำบลทุ่งโฮ้ง และใกล้เคียงให้ความนับถือมาก เพราะมีประวัติความเป็นมาที่ลึกลับโดยคนโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า มียายแก่เข้าไปเที่ยวในป่าหาผักหน่อไม้มาเป็นอาหาร ได้หลงไปในที่แห่งนี้แล้วพบหลุมเงินหลุมทองจึงเอาเงินเอาทองใส่หาบจนเต็มแล้วยกใส่บ่าเพื่อจะหาบกลับบ้านแต่ก็หลงไปหลงมาในป่าแห่งนั้น เพราะเทวดาเจ้าถิ่นนั้นไม่ให้เอาไป เพียงแต่เอามาอวดให้เห็น ยายผู้นั้นจึงหาหนทางเอาหาบนั้นกลับบ้านไม่ได้ จึงได้วางหาบนั้นไว้แล้วจัดแจงตัดไม้มาคาดทำเป็นราว แต่ก็ยังไม่สามารถนำหาบเงินหาบทองนั้นออกมาได้สักที ยิ่งยกเท้าไปข้างหน้าก็ยิ่งเหมือนยกถอยหลังไปอีกเหมือนหนึ่งว่ามีคนดึงหาบนั้นไว้ ยายแก่จึงวางหาบไว้ที่นั่นแล้วรีบไปบอกชาวบ้านให้มาดูหาบเงินหาบทองนั้น พอชาวบ้านหลั่งไหลไปเป็นจำนวนมาก ครั้นเมื่อไปถึงเงินทองนั้นกลับหายไปตามป่านั้น เมื่อพบรอยเท้าจึงสะกดจามรอยเท้าไปจนถึงเสาเมโร และไม่มีรอยปรากฏไปทางอื่นเลย ยายแก่กับชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า “แพะเมืองผี” • แพะ หมายถึง ป่าละเมาะ • เมืองผี หมายถึง ความเงียบเหงาเหมือนเมืองผี • เสาเมโร หมายถึง เสารูปเหมือนปราสาทศพผู้ตายทางภาคเหนือ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:37:48

ความคิดเห็นที่ 25 วัดที่8: วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา ใกล้ๆกว๊านพะเยานิดเดียวค่ะ จะมีป้ายบอกทางให้ ไม่หลงแน่นอนค่ะ “วัดศรีโคมคำ” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองพะเยา ชาวเมืองพะเยาทั่วไปนิยมเรียกว่า “วัดพระเจ้าตนหลวง” เป็นพระประธานเก่าแก่ในพระวิหารหลวง ศิลปะเชียงแสนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในล้านนา ชาวพะเยาถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เดือนหกของทุกปีจะมีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวง “พระเจ้าตนหลวง” หรือ “พระเจ้าองค์หลวง” มิใช่เป็นแต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรล้านนาไทยด้วย ในช่วงเดือนหกของทุกปี ประมาณเดือนพฤษภาคม ตรงกับวันวิสาขบูชา จะมี งานนมัสการพระเจ้าตนหลวง หรือ เทศกาล “แปดเป็ง” จะมีประชาชนในจังหวัดพะเยาและจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:43:08

ความคิดเห็นที่ 26 จากพะเยาเริ่มมืดแล้วค่ะ แต่เรายังไม่ถึงจุดหมายนะคะ คืนนี้เราจะไปนอนเชียงรายค่ะ ช่วงนี้ขับกลางคืนไม่อันตรายนะคะ เพราะเป็นเส้นหลัก หมายเลข1 ระยะทางประมาณ 95 กม. ขับชิวๆชั่วโมงเดียวถึงแล้วค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:46:30

ความคิดเห็นที่ 27 วัดที่9: วัดมิ่งเมือง จ.เชียงราย ปิดท้ายวันนี้ที่วัดมิ่งเมืองเพราะอยู่ใกล้ที่พักค่ะ เดินเล่นชิวๆไป เชียงรายคล้ายๆเชียงใหม่นะ แต่น่าจะสงบกว่านิดนึง เราไปเวียนเทียนกันค่ะ วันนี้อยากบอกว่าอิ่มบุญมาก แค่นึกถึงก็มีความสุขแล้วค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:49:56

ความคิดเห็นที่ 28 จบแล้วค่ะสำหรับวันแรก ได้เวลานอนพอดี เดี๋ยวพรุ่งนี้มารีวิวต่อวันที่ 2 นะคะ ปิดท้ายภาพนี้ละกันค่ะ ___________________________________________________________________ ฟ้าดูอ่อนโยนน่ารัก ..แต่ก็ก้าวร้าวในบางที ฟ้าดูเหมือนจะยิ้มให้เรา ..แต่ฟ้าที่เราเห็นอยู่ทุกวันก็ไม่เคยเหมือนกันซักที แล้วเราจะคาดหวังอะไรได้บ้าง ..คงจะไม่มี ___________________________________________________________________ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 00:59:37 จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 00:58:43

ความคิดเห็นที่ 29 Live and Learn ชอบเพลงนี้ค่ะ เวอร์ชันนี้ด้วย อิอิ ขอเปิดไปเบาเบา แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 22:06:25 จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 01:02:46

ความคิดเห็นที่ 30 ตามมาชมค่ะ ไปเที่ยวหลายจังหวัดมากเลย ภาพสวยเกือบทุกภาพเลยค่ะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 07:33:51

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาเที่ยวเมืองเหนือด้วยคนครับ ไปเยอะดีจัง ปล. ภาพสวยมากเลยครับ จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 09:16:11

ความคิดเห็นที่ 32 ถ่ายภาพท้องฟ้าออกมาได้สวยงามมากเลยค่ะ จากคุณ : บะหมี่เกี๊ยวและข้าวมันไก่ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 14:05:13

ความคิดเห็นที่ 33 ปาดดกันซักนิดก่อนต่อวันที่2 ค่ะ คุณ numsiam >> แต่อากาศดีมากมากเลยค่ะ คุณ เด็กศิลป์ >> ทางผ่านแต่ละจังหวัด เลยอยากแวะดูบรรยากาศค่ะ คุณ ชานมชงเอง >> เป็นทริปที่คุ้มมาก และชอบมากเลยค่ะ คุณ บะหมี่เกี๊ยวและข้าวมันไก่ >> ชอบถ่ายภาพท้องฟ้าค่ะ รู้สึกถ่ายกี่ครั้งก็ไม่เหมือนกันซักครั้ง มีเสน่ห์ดีค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 20:31:46

ความคิดเห็นที่ 34 เรามาเริ่มวันที่2 ต่อเลยค่ะ: ไหว้พระธาตุ 9 จอมวันเข้าพรรษา จ.เชียงราย อยากบอกว่าจุดเริ่มต้นทริปนี้ เกิดขึ้นได้เพราะอยากมาไหว้พระธาตุ 9 จอมนี่แหละค่ะ บังเอิญค้นข้อมูลเจอใน google และเห็นว่าหน่วยงานที่จัดงานไม่ใช่ของเอกชน แต่เป็นของจังหวัดจัดเพื่อประชาสัมพันธ์ จึงอยากมาสักครั้งค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:30:35

ความคิดเห็นที่ 35 เริ่มต้นกันที่นี่ค่ะ อยู่ในตัวเมืองเชียงรายเลย พระธาตุจอมทองค่ะ เค้าเชื่อกันว่า เมื่อมาสักการะจะได้เงินได้ทองค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:33:25

ความคิดเห็นที่ 36 ต่อกันที่พระธาตุจอมหมอกแก้ว ซึ่งเชื่อกันว่าอุปสรรคที่เปรียบเหมือนหมอกควันสีดำ ถ้ากราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานอุปสรรคทั้งหลายก็จะจางใสเหมือนหมอกแก้วและประสบความสำเร็จค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 55 21:36:06 จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:35:46

ความคิดเห็นที่ 37 สักการะพระธาตุจอมผ่อกันต่อค่ะ ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานเปรียบเหมือนการลืมตาเจอแสงสว่างในชีวิตค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:37:59

ความคิดเห็นที่ 38 ไปต่อกันที่พระธาตุดอยจอมแจ้งค่ะ ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานท่านจะประสบความสำเร็จและรู้แจ้งเห็นจริงค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:39:06

ความคิดเห็นที่ 39 ไปต่อที่พระธาตุจอมแว่ค่ะ ซึ่งมีความเชื่อกันว่า ถ้าผู้ใดผ่านมาแวะกราบไหว้บูชาก็จะแคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง หรืออีกนัยหนึ่ง คือการเจรจาธุรกิจจะประสบผลสำเร็จค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:42:55

ความคิดเห็นที่ 40 มีพระพุทธรูปด้วยค่ะ ยิ่งได้อยู่ตรงนั้น ยิ่งสงบค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:44:33

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อไปเราจะเดินทางไปที่พระธาตุจอมจ้อค่ะ ชอบที่นี่มาก เพราะต้องขึ้นเขาไปนิดนึง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวข้างล่างได้เต็มตา ลมเย็นสบายมากค่ะ เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้ก็จะประสบความสำเร็จทุกสิ่ง เหมือนกับการเริ่มเจรจาก็นำมาซึ่งความสำเร็จและสมประสงค์ทุกประการค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:46:17

ความคิดเห็นที่ 42 ไปต่อกันที่พระธาตุจอมกิตติค่ะ ที่นี่จะอยู่ติดริมโขงเลยค่ะ มองข้ามไปเห็นฝั่งลาวด้วยนะคะ ซึ่งเชื่อกันว่า ถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐาน จะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศผู้คนสรรเสริญ เป็นเจ้าคนนายคนค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:49:37

ความคิดเห็นที่ 43 ไปต่อที่พระธาตุจอมจันทร์ค่ะ ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐาน ผิวพรรณจะสวยงามเปล่งปลั่งรัศมีดุจแสงจันทร์งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:51:02

ความคิดเห็นที่ 44 ที่นี่สถาปัตยกรรมสวยงามมากค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:51:31

ความคิดเห็นที่ 45 สวยจริงจัง จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:52:00

ความคิดเห็นที่ 46 สุดท้ายแล้วค่ะ ที่พระธาตุจอมสัก ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้ ท่านจะได้รับสิริมงคลสูงสุดและพานพบแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ค่ะ ตอนนั่งรถไปที่นี่ฝนตกหนักมาก หนักจนที่ปัดน้ำฝนเร็วสุดเอาไม่อยู่ แต่พอลงไปไหว้ ฝนหยุดตก แล้วพอเรากลับฝนก็ตกใหม่ ตอนนั้นรู้สึกอัศจรรย์จริงๆค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:54:05

ความคิดเห็นที่ 47 ขอแนะนำเส้นทางการสักการะพระธาตุ 9 จอมนิดนึงนะคะ ปกติแล้วการไหว้ครบทั้ง 9 ที่นั้นทำได้ยากมากค่ะ เพราะเหมือนเราเดินทางไปเกือบทุกอำเภอเลยจริงๆ แต่ชอบมากค่ะ ได้ศึกษาเส้นทางไปในตัว กะว่าเชียงรายคราวหน้าจะไปภูชี้ฟ้าค่ะ อิอิ ให้วนตามภาพเลยค่ะ ขอบคุณภาพจาก google ด้วยนะคะ ถ้าใครไม่อยากขับรถเอง ลองติดต่อการท่องเที่ยวเมืองเชียงรายนะคะ เค้าจะมีจัด One Day Trip ในวันสำคัญๆค่ะ เช่นวันเข้าพรรษา วันแม่ ค่าเดินทางรวมอาหารตลอดทั้งทริป 999 บาทมั้งคะ ถ้าไปเองตามทัวร์ต่างๆหลายพันเลยค่ะ เพราะจังหวัดเค้าจัดเพื่อประชาสัมพันธ์ค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 21:58:48

ความคิดเห็นที่ 48 จบไป 2 วัน อิ่มบุญทั้ง 2 วันเลยค่ะ จริงๆแล้วไม่ค่อยได้ไปวัดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ออกต่างจังหวัดจะไป Landscape ตลอดๆ ครั้งนี้มีโอกาสดีใจมากค่ะ คืนนี้นอนเชียงรายต่อค่ะ ออกไปเดินเล่นชมเมืองนิดหน่อย แต่พอดีไม่ได้เอากล้องไป เพราะหิวมาก ตะลุยกินอย่างเดียวเลย พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวน่านกันต่อค่ะ แอบผิดแผนเล็กน้อย เพราะเลี้ยวผิดเลยภูลังกาไปซะงั้น อดเลยยยเรา เอาภาพน่านไปสักใบละกันค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 22:03:21

ความคิดเห็นที่ 49 ดองไว้นาน อยากเข้ามาต่อให้จบค่ะ ^^ วันที่3: ตามหาสายหมอก ณ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน (น่าน) ________________________________________________ จากเชียงรายลงมาน่าน ตอนแรกกะจะแวะภูลังกา แต่เลยยยค่ะเลยยย เลยยยาวว 555 ขี้เกียจย้อน งั้นเข้าตัวเมืองน่านก่อนละกันค่ะ ที่พักก็ไม่ได้จอง กะว่าไปหาเอาข้างหน้าด้วย มั่นมากกก ทางมาแบบไม่ได้ตังใจ จากถนนหมายเลข1 เข้าเส้น 1091 ค่ะ โอยยปลาบปลื้มมกับทางมากค่ะ เพราะมีแต่ภูเขาสวยๆ ขับไม่ยากค่ะ แต่วนไปวนมา ถ้าใครเมารถอาจจะมึนได้ แต่จขกท.ชอบ เปิดเพลงฟัง ลดกระจกสูดออกซิเจน ลมภูเขาปะทะหน้า ถ้าใครชอบภูเขาแนะนำเส้นทางนี้ค่ะ ลาดยาง90% จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:29:30

ความคิดเห็นที่ 50 พอไปถึงตัวเมืองน่าน เอ๊..สงบมว๊ากกกก และหิวมากกกด้วยย ทำไรดีทีนี้ แวะกินข้าวค่ะ และเมื่อหิวมากกกกเลยซัดอย่างเดียว ไม่ได้เก็บภาพเลยค่ะ ที่สำคัญ ใจมันร่ำร้องอยากไปนอนดอย ท่ามกลางอากาศเย็นๆ หมอกลอยละล่อง โอโคร๊..จัดไป ณ บัดนาว ข้อมูลก็ไม่ได้หา พึ่ง Google Map ละกัน อะไรใกล้ที่สุด.. แล้วคำตอบก็เปล่งอยู่ในหัว "ดอยเสมอดาว" โอ้.. ลุยโลดดด จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:37:19

ความคิดเห็นที่ 51 ถึงแล้วววววว อุทยานแห่งชาติศรีน่านค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:38:08

ความคิดเห็นที่ 52 เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อทำเรื่องกางเตนท์ที่ผาชู้ค่ะ เจ้าหน้าที่ใจดีมากกกกก ห้องอาบน้ำ ห้องสุขามีพร้อมค่ะ มีศาลาริมผาสำหรับทานอาหาร ชาร์จแบต และดูทีวีค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:45:49

ความคิดเห็นที่ 53 จากที่นี่ หันหน้าออกจากเตนท์จะเป็นวิวภูเขาสลับซับซ้อน มีลำน้ำน่านไหลผ่าน มองเห็นธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา 180 องศาค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:46:56

ความคิดเห็นที่ 54 ตื่นเช้ามา เจอหมอกน้อยนิด กรี๊ดดดดดดดดดดดด ขอไว้อาลัยให้ด้วยภาพโทนขาว-ดำ ละกันค่ะ ฮือๆๆ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:49:45

ความคิดเห็นที่ 55 อุ้ยยยย รูปใหญ่ไปมั้ยนั้นอะ ข้างบน = =" กลับดีกว่าค่ะ กลับทางไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้วางแผนมา เปิด Google Map โลดดด จัดปายยย วันที่4: เปิดเส้นทางใหม่ น่าน-หมู่บ้านประมงปากนาย ปล. ตอนแรกที่เห็นเปิดจาก galaxy note เลยไม่รู้ว่าต้องข้ามแพด้วย ไปถึง แอบงงปนตกใจ เพราะเอารถเก๋ง 1800cc ไปค่ะ โชคดีที่ลาดยาง 95% เห็นชาวบ้านบอกว่าเมื่อก่อนเป็นลูกรัง ถนนเพิ่งสร้างเสร็จแปปเดียว ..แหมม ในความโชคร้ายเรายังเจอความโชคดีนะเนี่ย ถือว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศ สนุกดีค่ะ ชอบบบบบ จัดไปปปปปปปป _________________________________________________________ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:55:47

ความคิดเห็นที่ 56 ถึงแล้วค่ะ หมู่บ้านชาวประมงปากนาย จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:57:13

ความคิดเห็นที่ 57 แพที่พาเราข้ามไปอีกฝั่ง ไปได้ครั้งละ 2 คัน ค่าบริการ 300 บาทค่ะ ใช้เวลาข้ามประมาณครึ่งชั่วโมง จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:58:37

ความคิดเห็นที่ 58 เรือที่ใช้ลาก จิ๋วแต่แจ๋ววววววววววว จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:59:41

ความคิดเห็นที่ 59 ค่อยๆไป อีกนิดจะถึงแล้ววว จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 22:00:52

ความคิดเห็นที่ 60 ข้ามมาได้แล้ว ถนนดีค่ะ ลาดยาง 100% คราวนี้ยิงยาวเลยค่ะ จากอุตรดิตถ์ ผ่านพิษณุโลก ผ่านนครสวรรค์ แล้วลงสายเอเชียยาวลงมา สุดทางที่กทม. รวมระยะทางวันนี้ประมาณ 600 กิโลค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 22:03:32

ความคิดเห็นที่ 61 ต่อให้ระยะทางยาวไกลแค่ไหน หรือ มีอุปสรรคผ่านมาเท่าไหร่ ถ้าเราเดินต่อไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก และความมุ่งมั่น จุดหมายที่เราต้องการจะไปถึง ..มันคงไม่ไกลเกินฝัน ขอเพียงแต่เราเริ่มต้น "วันนี้" ขอบคุณทริปแอ่วเมืองเหนือเมื่อปลายปี 2011 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งต่อๆมา รู้สึกดีใจมากที่เกิดมาเป็นคนไทย เมืองไทยยังมีที่สวยๆอีกมาก ที่รอเราไปเยี่ยมเยือน ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทาง และอย่าลืมรักษาธรรมชาติให้ลูกหลานเราด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ จากคุณ : แก้วกฤษณา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 22:15:35

ความคิดเห็นที่ 62 ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเที่ยวน่านได้ที่ www.nanstay.com จากคุณ : nanstay (nanstay) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 13:48:51