Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ประสบการณืที่แย่ที่สุดในชีวิตกับ กรมศุลกากร ผดส สุวรรณภูมิ ติดต่อทีมงาน

ย้ายกระทู้มานะครับ เนื่องจากมีพี่ๆเเนะนำบอกให้มาตั้งในนี้ครับ
จาก http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12969602/U12969602.html
รบกวนเวลาทุกท่านด้วยครับ

สวัสดีครับทุกท่านในพันทิบ นี่เป็นการโพสต์ครั้งเเรกของผมครับ ยังไงฝากอ่านด้วยนะครับ อาจจะยาวนิดหน่อย
เนื่องจากเหตุการที่เกิดขึ้น ผมได้เล่าให้หลายๆคนฟัง ทั้งเพื่อน รุ่นพี่ พ่อเเม่เพื่อน ญาติ พี่น้อง หลายคนบอกว่าอยากให้ผมมาโพสในพันทิบ เพื่อเป็นการกระจายข่าวสารไปไม่มากก็น้อย เลยขอมาแชร์ เเละ ขอความเป็นธรรมกับสังคมครับ

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ที่ผ่านมา ผมได้ลงเครื่องมาจาก เมลเบิอนร์ ออสเตเลีย TG 466 เวลาประมาณ สองทุ่มครึ่ง ผมเป็นนักเรียนอยู่ที่นู้นครับ เรียนมานานหลายปีเเล้ว จะจบเเล้วครับ เเละครั้งนี้กลับบ้าน ปิดเทอมมาถึงประมาณ กุมภา ก็ประมาน สามเดือนพอดีครับ

- ผมออกช่องเขียว(เหมือนทุกครั้ง) โดนโบกให้สเเสกนกระเป๋าเดินทาง (เหมือนกันแทบทุกครั้ง) ใบใหญ่สองใบ, อันนี้ผมเข้าใจครับ เพราะผมมีสัมพาระมาเยอะจริงๆ เนื่องจากกลับมานาน + เป็นคนชอบแต่งตัว  

- เจ้าหน้าที่ขอเปิดดู เนื่องจากเห็น นาฬิกา เเละกล่องเล็กๆหลายกล้อง ซึ้งเป็นกล่องใส่พวกกำไลหนัง/โลหะ

-เจ้าหน้าที่เปิดเจอ กระเป๋แบรเเนม สองใบ เเล้วหันมาถามผมว่า โห น้องมี XXXX สองใบเลยเหรอ ผมก็ ครับ/ ใช้เองครับ ลองดูได้ เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 6-7คน มาช่วยกันดู ก็มีเจอกระเป๋าเเบรนเเนมอีกสองใบ กระเป๋าเอกสารอีก 3 เเละ กระเป๋าตัง 1(ของขวัญพี่ชาย) เค้าเลยขอให้ผมไปเปิดในห้องที่แยกออกไปครับ ระหว่างนั้นก็อธิบายให้ฟังว่า เป็นนักศึกษาที่นู้น เข้าออกประจำ ปีละ สอง ครั้ง ปกติโดนสเเกนทุกครั้ง ขนของแบบนี้ทุกครั้ง ผมก็เเสดงความบริสุทธิ์ใจว่า เราไม่ได้จะเอามาขายจริงๆ โดยให้ดู พาสปอร์ท มีการเข้าออกบ่อยจริงๆ ให้ดูบัตรนักเรียน วีซ่า เเละเอกสารการเป็นนักเรียนจากมหาวิทยาลัย

** กระเป๋าทั้งหมดเป็นกระเป๋าของผมเอง ใช้เอง บางใบมีอายุมากถึง4ปี ไม่มีของใหม่เลย ยกเเว่นกระเป่ตังใบเดียว

- สิ่งแรกที่ผมทำคือ ขอพี่เค้าโทรศัพท์ก่อน ขอโทรบอกญาติที่มารอรับก่อนว่าจะออกไปช้า ไม่มีใครตอบอะไรครับ (เนื่องจากผมยังไม่มีซิมการ์ดไทย)

- ขอเปิดกระเป๋าผมต่อ ผมก็เชิญเลยครับ เจอเสื้อผ้า รองเท้า ของส่วนตัวต่างๆ

- พี่เค้าก็บอกว่า ของทั้งหมดนี้ (กระเป๋า แบรนด์เเนม) จะต้องเก็บไว้ที่นี้ เพราะกฏหมายคือ สิ่งเหล่านี้เป็นของต้องภาษี เราต้องเสียภาษี เราเข้าผิดช่อง กฏหมายบอกว่า ของราคา 20,000บาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี < อันนีเคือที่เค้าบอก

- ผมก็ขอโทรศัพท์ครับ ใจจริงอยาก บอกพี่ชายที่มารอรับว่าทำไมนาน เพราะตอนนี้ก็ล่วงมาจะ ชม เเล้ว เเล้วอยากปรึกษาพ่อกับเเม่// เจ้าหน้าที่ไปคุยกันเรื่องผมขอโทรศัท์ครับ เเล้วก็ไม่มีใครให้โทรตามเคย

- ผมก็เถียงกันบอกว่า นี่เป็นของใช้ส่วนตัวทั้งหมด ทั้งสิ้น ยกเว้นกระเป๋าตังใบเดียว ซื้อเป็น ของขวัญวันเกิดพี่ชาย  ทุกใบมีรอยการใช้งานเเล้ว ผมบอกให้พี่ๆเค้าดู/ ไม่มีคนสนใจดูของครับ ผมบอกพี่เค้าว่า ไม่งั้นมจะเปิดรูปใน Instagram กับ Facebook  ให้ดูว่าเป็นของตัวเองจริงๆ ใช้มานานเเล้ว เเละมันจะมีวันที่บอก  ไม่มีใครสนใจจะดูครับ

- ผมขอโทรศัพท์อีก ผมบอกว่า ยังไงก็ต้องโทรเเล้วครับ เพราะว่าจะสอง ชม เเล้ว คนที่เค้ามารอรับ เค้าไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น (ทราบทีหลังว่า คุณเเม่โทรหาทั้งเพื่อน ทั้งใครๆคิดว่าผมหายไป, พี่ชายไปสอบถามเวลาลงเครื่อง กระเป่าใบสุดท้าย วุ่นกันหมด) ผมได้คำตอบมาว่า ตอนนี้น้องยังไม่รู้อะไรเลย น้องจะบอกที่บ้านได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น ผมยืนยันขอใช้โทรศัพท์ต่อ เพราะมีคนมารอรับนานเเล้ว ไม่ได้โทรตามเคย

- ระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ เอากระเป่าออกมาถ่ายรูป โดยมีเพียง จนท ผู้หญิงคนหนึ่ง ทักขึ้นมาว่า กระเป๋าเก่าเเล้ว เป็นรอยมากเลย แต่ไม่มีใครสนใจเลย ตั้งหน้าตั้งตา ถ่ายรูป จนท สามคน พิพพ์บันทึกการจับกุม, อีกสองคนถ่ายรูป หนึ่งคนนั่งอ่านหนังสือพิพม์ คือไม่มีใครออกไปจับต่อเเล้ว ส่วนอีกคนอยู่คุยกับผม

- ขณะนี้ จริงๆผมก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ขอโทรศัพท์ ก็ได้คำตอบเดิม คือ ผมยังไม่รุ้อะไร จะไปบอกที่บ้านได้ยังไง ผมเลยบอกว่า ไม่อย่างนั้น ช่วยอธิบายด้วยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น จนท ผู้ชายคนหนึ่งเดินมาบอกว่า 'โดนจับ รู้ตัวรึป่าว' เท่านั้น ผมถึงรู้ครับ

สรุปว่าของทั้งหมด โดนยึด เเละผมต้องไปไกล่เกีล่ยเองกับ อีกฝ่าย
ตลอดเวลา คืออ้างกฏหมาย เเละ หน้าที่

- เวลาล่วงเลยมาจะ สาม ชม จนท เพิ่งพิพม์เสร็จ ให้ผมอ่าน คือก็อ่านผิดๆถูก ทั้งโกรธ ทั้งกลัว เเต่มาเอะใจข้อหนึ่งคือ ผู้ต้องหาสามารถคิดค่อญาติ หรือ ทะนายได้  พี่เค้าถามว่ามีคำถามอะไรมั้ย ผมก็บอกเเค่ว่าไม่มี เเต่ไม่พอใจ ทำไมพี่ไม่ให้ผมโทรศัพท์ตั้งเเต่แรก พี่เค้าทำท่าเอากลับไปอ่านเพื่อความเเน่ใจว่ามีข้อนี้จริงๆ พี่เค้าก็บอกว่าให้โทรเเล้วไง (ซึ้งให้โทรเเล้วจริงๆก่อนหน้านี้ 15 นาที เเต่โทรศัพท์แบตหมด เลวมากครับ) หลังจากนั้น เค้าจึงให้โทรครับ พี่ชายเข้ามา ให้การเหมือนผมทุกอย่างครับ ว่าผมชอบเเต่งตัว มีของติดตัวเยอะ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกล

- จนท บอกว่า ก็ต้องเซ็นเอกสารก่อน ไม่งั้นจะส่งเรื่องไปให้ตำรวจ เเล้วน้องเราจะเสียประวัตินะ ผมกับพี่ชายก็ต้องเซ็นครับ เพราะเราไม่รุ้เรื่องจริงๆ พี่ก็กล้าๆกลัวๆ ว่าจะโทรศัพท์ได้มั้ย เพราะผมบอกพี่ว่า ไม่มีใครให้โทรศัพท์เลย

- จนท บอกว่าที่ไม่ให้น้องโทร เพราะว่า เคยมีคนโทรไปฟ้องพ่อเเม่ ว่าโดนจับใส่กุญเเจมือ เเล้วมี ตำรวจมา เป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ้งผมโกรธมากๆครับ เพราะมันเป็นสิทธิของเราต้องเเต่วินาทีเเรกเเล้ว เเต่เค้ายื้อไว้เพราะกลัวมันเป็นเรื่องใหญ่ ?? พูดตรงๆ ปัญญาอ่อนมากครับ หน้าที่ตัวเองเเท้ๆ ทำไมทำเกินหน้าที่

ผมขออนุญาตข้ามนิดหน่อยนะครับ

สรุปผมต้องกลับไปเอาของ โดยต้องซื้อคืน คำให้การของผมใช้กับใครไม่ได้เเล้ว ว่าเป็นของส่วนตัวจริงๆ
อ้างจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=208096 ซึ้งมาศึกษาหลังจากโดนจับกุม

ทุกฝ่ายพูดเหมือนกันหมดว่า ผมเซ้นไปเเล้ว ทำอะไรไม่ได้เเล้ว ตอนนี้ก็ก้มหน้าก้มตา ซื้อของคืนครับ ซึ้งเป็นเงินจำนวนไม่น้อย หลายใบทำงานพิเศษเก็บเงินเป็นเทอม กว่าจะซื้อได้ แต่วันนี้กลับกลายต้องมาซื้อของที่ตัวเองเก็บเงินเเทบตายคืน

เรื่องที่ผิด ก็ว่าไปตามผิดครับ ผมโอเค ยอมรับทุกอย่าง (แต่ใจจริง รู้สึกสิทธิ์ในการเป็นคนไทยทำไมมันชั่งโหดร้ายเช่นนี้)

หลายคนพูดเหมือนกันหมด ว่า เหตุการณ์เเรก (ที่ผมไม่สามารถกลับไปเเก้ไขได้เพราะลายเซ็น) มันผิดปกติมาก
1. เรียกขอดู นาฬิกาที่เเสกน เจอ  เเต่พอเจอกระเป๋าแบรน กลับไม่สนใจอย่างอื่นเลย
2. ไม่ยอมให้โทรศัำท์ ซึ้งผมคิดว่าทำเกินหน้าที่ เเละละเมิดสิทธิ์ผมมากๆ
3. ยืดเยื้้้อนานถึง สาม ชม (ปกติ 30 นาที)
4. ไม่สนใจจะฟังเหตุผล ไม่ดูของกลางว่าใช้เเล้วจริงหรือไม่ ไม่สนใจดูหลักฐานที่ผมพยายามจะให้ดู
5. ไม่เชิญผมไปที่ช่องเเดง เพื่อเจรจา เพราะจากที่อ่านจากท่านอื่นๆ ก็ได้ไปเจรจา เเละคุณ ชมพู่ อรยา ก็โดนเชิญไปในกรณี ตุ๊กตาบายเช่นกัน

ผมรู้สึกว่า เหมือน จนท ทุกฝ่าย พยายามผลักดันให้เรื่องไปไกลมากที่สุด เเละเร็วมที่สุด ให้เราไม่สามารถกลับตัวได้เเล้ว เพราะเซ็นไปหมดเเล้ว
เหมือนกับว่าเป็นการตั้งใจจะเอาเงินกับผมมากๆ เหมือนเป็นการหาเงินมากๆ

เจ้าหน้าที่ ไม่มีดุลพินิจเลย!! (หรือเเกล้งไม่มี ไม่ทราบครับ) ในเรื่องของคำให้การของผม กับพี่ชาย ที่ตรงกันโดยไม่ได้คุยกันมาก่อน เหมือนกลัวจะเสียหน้า ถ้าปล่อยไป หรือ กะกัดไม่ปล่อย

เห็นเจ้าหน้าที่มาอ่านบ้าง จากบางกระทู้ บอกตามตรง บางทีมา คอมเม้นว่า จะคอยจับตาดู ไฟลท์ นุ้นนี้ เป็นพิเศษ หรือ ขอบคุณสำครับข้อมูล แต่ยังไม่เห็นใครมาเม้นว่าจะนำไปปรับปรุง องกรณ์ หรือ บุคลากรเลยครับ คือกะเอาเเต่เงินเข้าตัวอย่างเดียวเลย พูดตามภาษาชาวบ้านนะครับ ผมถือว่าเป็นอาชีพที่น่าดูถูกมากครับ มาหากินบนกฏหมาย เพื่อที่จะได้เอง
ก็ขอโทษด้วยนะครับ ถ้าพาดพิงไปถึงใครที่ปติบัติตัวดี เเต่เลวๆก็เยอะครับ ถ้าจะโดนเหมารวม อันนี้ช่วยไม่ได้จริงๆครับ

ยังไง ผมขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้
มาเเชร์ประสบณ์การให้ผมฟังบ้างก็ได้ครับ
อยากให้เรื่องแบบนี้ ที่หลายต่อหลายคนเจอได้โดนตรวจสอบ หรือ เป็นเรื่องถกในวงกว่างของสังคมครับ เพราะบางอย่างมันไม่เเฟร์กับผู้โดยสารจริงๆครับ

ผมขอยืนยันด้ววยความบริสุทธ์ใจว่า เหตุการทั้งหมดเป็นความสัตย์จริงทั้งสิ้นครับ

ต่อ คห 8 ครับ

แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 10:35:39

จากคุณ : abaddonshay
เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 55 21:40:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com