ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อเอากระเป๋าเก็บที่ที่พักเรียบร้อย ก็เดินย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟ Koriyama Station เหมือนเดิม แล้วก็มุ่งหน้ามาที่ชานชาลาของรถไฟสาย Banentetsu Line เพื่อมุ่งหน้าไปเมือง Aizu-Wakamatsu ทันที จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:32:53

ความคิดเห็นที่ 2 จุดเด่นของรถไฟสายนี้คือตัวรถครับ จะมีสัญลักษณ์มาสค๊อดของเมืองเป็นรูปกระทิงสีแดง ซึ่งดูทีแรกผมคิดว่าเป็น"หมู" เสียอีก จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:34:50

ความคิดเห็นที่ 3 เจ้ากระทิงสีแดงตัวนี้มีชื่อว่า "อะคะเบะโคะ" (Akabeko) ครับ เป็นมาสค๊อดสัญลักษณ์ของจังหวัด Fukushima เลย แต่จริงๆแล้วบ้านเกิดของเจ้าวัวตัวนี้ก็คือเมือง Aizuwakamatsu นี่ล่ะครับ ต้นกำเนิดของมันนั้นเกิดขึ้นที่วัดเอนโชจิ ตามตำนานเล่าว่าเมื่อ 400 ปีที่แล้วได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมือง Aizu ทำให้เกิดความเสียหายไปหมด แม้แต่ที่วัดเอนโชจิเองก็โดนผลกระทบเช่นกัน แต่ก็ได้รับการช่วยกันบูรณะใหม่โดยชาวเมือง อย่างไรก็ตามด้วยการที่ยุคนั้นไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการขนย้ายสิ่งของหนัก อยู่ๆก็มีฝูงวัวแดงเดินผ่านหมู่บ้านมาพอดี ชาวบ้านก็เลยได้วัวแดงกลุ่มนี้มาช่วยขนของและสร้างวัดได้จนสำเร็จ เพื่อเป็นการของคุณวัวกลุ่มนี้ ชาวบ้านเลยทำของเล่นเป็นสัญลักษณ์วัวแดงเหล่านี้ขึ้นมาแล้วตั้งชื่อว่า อาคะเบะโคะ จนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ Fukushima มาจนถึงปัจจุบันนี่ล่ะครับ (ที่มาจากหนังสือ Daco) จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:43:12

ความคิดเห็นที่ 4 ระหว่างทางที่รถไฟสายนี้ วิ่งไปยังเมืองไอสึนั้น จะผ่านจุดวิวต่างๆที่สวยงามมาก ผมนั่งชมวิวได้เพลินเลยครับ แนะนำว่า ถ้าเวลานั่งให้เลือกเก้าอี้ฝั่งขวาครับ จะได้วิวสวยเลย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:44:45

ความคิดเห็นที่ 5 จะว่าไปก็ค่อนข้างนานพอควรครับ เพราะปกติแล้วรถไฟที่วิ่งบนเส้นทางนี้จะเป็น local ทำให้ใช้เวลามากๆ นานๆถึงจะมีแบบ limited ซักทีนึง เพราะฉะนั้นทำใจไว้เลยว่านั่งนาน หาของมากินและเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยเลยครับ ... สำหรับผมเองก็นั่งชิวไปเรื่อยๆ อาศัยว่านั่งชมวิวไประหว่างทางนี่แหละไม่งั้นคงเบื่อไปซะก่อน แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 16:47:08 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:46:08

ความคิดเห็นที่ 6 มาถึงสถานี Aizuwakamatsu เรียบร้อย ก็เจอเจ้าอาเบะ...เอ๊ย อะคะเบะโคะ ตัวยักษ์ยืนต้อนรับอยู่เลย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:49:09

ความคิดเห็นที่ 7 จากนี้เราก็จะเริ่มเที่ยวในเมือง Aizu แล้วครับ เส้นทางการเดินทางในเมืองนี้ เหมือนกับเมืองท้องถิ่นทั่วไป ที่จะไปไหนไม่มีรถไฟ เราจะต้องอาศัยเท้าของเรานี่แหละเดินเอา หรือไม่ก็ใช้วิธีนั่งรถบัสเอาครับ โดยรถบัสที่นี่จะเป็นระบบ loop bus วิ่งวนรอบเมืองตามป้ายต่างๆ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:50:34

ความคิดเห็นที่ 8 รถบัสของที่นี่จะมีหน้าตาแบบ Retro เหมือนที่อื่นๆครับ มีหน้าตาอยู่ 2 แบบแบบในรูป โดยตัวสถานีรถบัสจะอยู่ตรงลานด้านหน้าสถานีรถไฟ Aizu เลย พอเดินออกมาก็มาซื้อตั๋วรถบัสก่อนเลยครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:52:11

ความคิดเห็นที่ 9 ค่าโดยสารสำหรับรถคลาสสิคคันนี้ จะคิดเป็นเที่ยวละ 200 เยน แต่ถ้าหากซื้อเป็นบัตร pass จะมีราคาเพียงแค่ 500 เยนเท่านั้นเอง (เด็กครึ่งราคา) ....แน่นอนว่าเราก็ต้องเลือก pass 500 เยนสิครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 16:59:08 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 16:58:50

ความคิดเห็นที่ 10 วิธีการขึ้นลงรถบัสตามจุดต่างๆ เราก็จะต้องมารอที่ป้ายรถครับ หน้าตาของรถจะเป็นแบบนี้ โดยมีรูปของรถระบุเอาไว้ พร้อมกับมีแผนที่และชื่อป้ายรถบอกเอาไว้  แถมยังมีแผนที่เส้นทาง loop bus โชว์เอาไว้ให้ดูด้วย เรื่องภาษาไม่ต้องห่วงเพราะที่นี่เค้ามีภาษาอังกฤษระบุเอาไว้ด้วย รับรองเที่ยวง่ายหายห่วง จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:00:54

ความคิดเห็นที่ 11 พูดถึงภาษาอังกฤษ ต้อขอชมพนักงานที่จุดบริการนักท่องเที่ยว ในสถานี Aizu เสียหน่อย เพราะเมื่อผมมาถึงที่นี่ ผมก็บึ่งเข้าไปหาจุดบริการเพื่อจะขอแผนที่และรายละเอียดต่างๆ ทีแรกนึกว่าพนักงานจะพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ กลับไม่เป็นยังงั้นเพราะเค้าพูดอังกฤษปร๋อเลย แถมยังชวนคุยแบบเป็นกันเองมากๆ เค้าระบุจุดที่เที่ยวต่างๆและอธิบายให้ผมฟังหมดเลย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:05:51

ความคิดเห็นที่ 12 ย้อนกลับมาที่รถบัสครับ พอมารอรถที่ป้ายเรียบร้อย ซักพักนึงรถบัสก็เข้ามาจอดที่จุด ตัวรถก็ทำแบบรีโทรสวยงามแบบในรูปเลย รถสีเขียวคันนี้จะวิ่งวนรอบเมือง Aizu เป็นทิศทวนเข็มนาฬิกาครับ ในขณะที่รถอีกคันที่เป็นสีแดงคันใหญ่ๆจะวิ่งรอบเมืองในเส้นทางตามเข็มนาฬิกา ...การที่มีรถบัสวิ่งใน 2 เส้นทางสวนกันนั้นทำให้มีประโยชน์ในการวางแผนที่จะไปเที่ยวครับ เพราะระยะเวลาที่ใช้จะแตกต่างกัน แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 17:09:56 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:08:36

ความคิดเห็นที่ 13 อันนี้คือตัวอย่างแผนที่เส้นทางรถที่วิ่งวนรอบเมืองครับ ถ่ายเอาจากตัวป้ายนะเลยไม่ค่อยชัด จะเห็นว่า เส้นทางวิ่งจะเป็นเส้นทางเดียวกันแต่สวนทางกันโดยรถสีเขียวแบบในรูปด้านบน จะเป็นเส้นทาง H ส่วนอีกคันจะเป็นเส้นทาง A ทั้งคู่จะเริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Aizuwakamatsu ทั้งคู่เป็นจุดที่ 1 ก็จะเป็น A1 และ H1 สมมุติว่าเราจะไปที่ปราสาทซึรุกะ ซึ่งเป็นปราสาทประจำเมืองนี้ จากในรูปตรงด้านล่างตรงกลางจะเห็นจุดสีเขียวกลมๆว่า H14 กับ สีส้มๆสี่เหลี่ยมว่า A27 อันนั้นก็คือป้ายที่จะจอดหน้าปราสาทนั่นเอง  เพราะฉะนั้น เราต้องขึ้นรถสีเขียวจากสถานี แล้วก็นั่งมาลงตรงป้ายที่ H14  ในทำนองเดียวกัน เราก็สามารถขึ้นรถสีแดง(หน้าตาเหมือนในรูปด้านซ้ายล่าง) สาย A จากสถานีที่ A1 แล้วนั่งอ้อมไปทางตะวันออกของเมืองย้อนตามเข็มนาฬิกาลงมาที่ป้าย A27 ก็ได้เช่นกัน แต่จะใช้เวลานานกว่าครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:26:15

ความคิดเห็นที่ 14 พอขึ้นรถมาแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะลงป้ายถูกหรือไม่ เพราะในรถเค้ามีจอสกรีนแสดงเอาไว้เรียบร้อยเลย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:27:19

ความคิดเห็นที่ 15 ตัวจอสกรีนทีวีจะแสดงป้ายรถบัสที่กำลังจะจอดเป็นป้ายต่อไปเอาไว้อย่างชัดเจน โดยสลับภาษาไปมาจากญี่ปุ่น เป็นอังกฤษ และเป็นเกาหลีอีกนะ ถ้าขึ้เกียจจำชื่อป้าย ก็จำเป็นหมายเลขเอาก็ได้ เช่น H4 A2 อะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:29:18

ความคิดเห็นที่ 16 ในกรณีที่ ป้ายรถต่อไปนั้นมีสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือน่าสนใจของเมือง ก็จะมีหน้าจอบอกเอาไว้ให้เราทราบอีกทางหนึ่ง  แค่นี้ก็อุ่นใจล่ะครับ อ้อ...นอกจากจอสกรีนด้านหน้ารถ ก็จะมีเสียงพูดออกทางลำโพงเอาไว้ด้วย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:32:20

ความคิดเห็นที่ 17 เกาะไปด้วยคนครับ จากคุณ : KIKOMANz เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 20:16:23

ความคิดเห็นที่ 18 แต่ก่อนที่จะไปเที่ยวยังที่ต่างๆ...ตอนนี้ท้องหิวล่ะครับ ก็จะพามาชิมของอร่อยกันเสียก่อน ของกินประจำเมือง Aizu นั้นมีหลายอย่างครับ มีทั้งเนื้อม้า เส้นโซบะแบบhandmade แต่ที่รู้จักกันส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นราเมนที่ชื่อว่า "Kitakata Ramen" ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเมือง kitakata ใกล้ๆกับ Aizu จุดเด่นคือเนื้อหมูที่นุ่มๆเต็มชาม และตัวเส้นราเมนที่ออกจะเหมือนราเมนแบบจีนหน่อยๆ credit picture: จาก google แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 18:09:40 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 20:47:22

ความคิดเห็นที่ 19 แต่เมนูอีกอย่างที่ขึ้นชื่อของ Aizu ก็คือ "Sauce Katsudon" หรือที่เรารู้จักกันทั่วไปก็คือข้าวหน้าหมูทอดนั่นเอง แต่ว่า ของที่นี่จะมีความแตกต่างจาก Katsudon ทั่วไปที่ปกติมักจะเป็นหมูทอด แล้วราดด้วยไข่ตกแต่งด้วยผักหอมข้างบน แต่ Sauce Katsudon แบบเฉพาะของ Aizu นั้นจะเป็นเนื้อหมูชุปแป้งทอด ที่วางอยู่บนผักกาดขาวหั่นฝอย ก่อนจะโปะลงบนข้าวสวยร้อนๆ ซึ่งต้องเป็นข้าวที่ปลูกในเมือง Aizu เท่านั้น สุดท้ายก็ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีสูตรโดยเฉพาะที่แตกต่างกันไป จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:11:07

ความคิดเห็นที่ 20 โดยร้านเป้าหมายที่ผมตั้งใจจะไปชิม ด้วยความที่มีเอกลักษณ์และหน้าตาไม่เหมือนใคร จะตั้งอยู่บนเส้นทางรถบัส ตรงจุดป้ายรถ ชื่อว่า "Kachinomachi" ซึ่งตรงกับจุดป้ายรถบัสหมายเลข H20 หรือ A21 นั่นเอง ถ้าดูจากตำแหน่งในแผนที่ของ loop bus จะอยู่ตรงจุดสีแดงๆนั่นเองครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:14:45

ความคิดเห็นที่ 21 ตามไปกินด้วยค่า จากคุณ : yuechan เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:16:38

ความคิดเห็นที่ 22 โดยเมื่อลงจากรถบัสแล้ว ให้สังเกตว่าด้านหน้าเราจะเหมือนเป็นสามแยก คือตรงไปกับเลี้ยวขวา โดยรถบัสจะเลี้ยวขวาครับ แต่เราเองให้เดินตรงไปตามถนนเรื่อยๆ จนสุดถนน ที่จะบังคับเลี้ยวซ้ายและขวาเท่านั้น จากนั้นก็สังเกตร้านตรงหัวมุมด้านซ้ายเอาไว้เลย หน้าตาจะเป็นแบบนี้ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:18:42

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้ามองจากถนนฝั่งตรงข้ามจะเห้นหน้าตาร้านแบบนี้ครับ เป็นร้านชั้นเดียว และมีธงสีเหลืองๆเป็นจุดสังเกต ถ้ามองจากในรูป ก็คือ จากป้ายรถบัส เราจะเดินตรงมาเรื่อยๆ บนทางเท้าก็จะมาโผล่ตรงจุดทางซ้ายในรูปนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 21:23:29 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:21:06

ความคิดเห็นที่ 24 ข้างๆร้านจะมีป้ายไวนิลขนาดใหญ่แขวนอยู่ครับ มองเห็นหน้าตาของเมนู Sauce Katsudon ของที่นี่อย่างชัดเจน ....จะเห็นว่าดูหน้าตาแปลกๆคล้ายๆ ชามประหลาดๆที่คาบอะไรเอาไว้ซักอย่าง นั่นแหละครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:26:09

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นแบบนี้แล้วไม่รอช้าครับ รีบเดินเข้าไปในร้านทันที ข้างในร้านก็จะเล็กๆครับ มีโต๊ะตัวใหญ่สำหรับนั่งแบบคล้ายๆโรงอาหาร และมีโต๊ะเล็กๆอยู่ข้างๆกำแพงไม่กี่ตัวเท่านั้น ส่วนข้างกำแพงก็เต็มไปด้วยลายเซ็นของดนดังที่เคยมาชิมเต็มไปหมด จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:38:39

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้จักเหมือนกันว่าลายเซ็นใครบ้าง แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองนี้แน่ๆก็คือ โปสเตอร์แผ่นใหญ่ๆในรูปนั่นล่ะครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:40:23

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนที่เดินเข้ามานี่ไม่ใช่ว่าร้านว่างนะครับ คนนั่งกันเต็มร้านไปหมด แต่โชคดีที่ผมมาแบบฉายเดี่ยว เลยมีที่นั่งแบบที่นั่งได้คนเดียวพอดี ก็เลยโชคดีไป ตอนที่ผมไปนั้น ก็เห็นมีคนเสิร์ฟผู้ชายคนเดียวเลย คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านครับ หน้าตาคล้ายๆตัวการ์ตูนบนโปสเตอร์ในรูปข้างบนนั่นเลย คอยวิ่งรับเมนูแล้วก็คอยเสิรฟอาหารไปด้วย ไม่รอช้าครับ ผมรีบสั่งเจ้า Sauce Katsudon ที่ว่าทันที แล้วนั่งรอ พร้อมๆกับดูเจ้าของร้านเสิร์ฟเจ้า Sauce Katsudon ที่ว่าให้คนที่มาก่อนไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง 15 นาทีผ่านไป Sauce Katsudon ที่รอคอยก็มาวางตรงหน้าเรียบร้อย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:46:19

ความคิดเห็นที่ 28 เมนูที่ว่านี้ มีชื่อว่า "Sakura Sauce Katsudon" ครับ สนนราคาอยู่ที่ 1200 เยน (แต่ตอนที่เค้าเก็บตัง กลับคิดราคาแค่ 1150 เยนเท่านั้น อันนี้งงๆอยู่) ผมไม่รอช้าครับ รีบเปิดฝาดู ก็เห็นเนื้อหมูทอดแผ่นบางๆ 2 ชิ้นโตอยู่ด้านบนผักกาดขาวหั่นฝอยที่โปะบนข้าวจริงๆ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:49:44

ความคิดเห็นที่ 29 แต่ที่เด่นที่สุดก็คงไม่พ้นตัวชิ้นหมูทอดนี่ล่ะครับ ที่ชุ่มไปด้วยซอสจริงๆ เหมือนกับว่าพอทอดเสร็จ เค้าก็คงจะจุ่มซอสลงไปทั้งชิ้นเลยแล้วค่อยมาวางบนชามข้าวอีกทีนึง เลยทำให้ชิ้นหมูดูน่าทานขึ้นเยอะไม่แห้งเกินไป   พอถึงเวลาจะเริ่มชิมก็ชักงงครับว่า มันเต็มชามแบบนี้จะกินยังไง ปรากฏว่าคนรอบๆที่สั่งเมนูนี้(กันทั้งนั้น) ต่างก็เอาชิ้นนึงมาวางบนฝาชามข้าวเสียก่อน แล้วก็จัดการบรรเลงชิ้นแรกบนชามกันทันที เข้าใจละว่าทำไม ถึงต้องมีฝาชามข้าวปิดมาด้วย ^O^ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:57:02

ความคิดเห็นที่ 30 ซูมให้ดูกันแบบชัดๆอีกที ว่าเนื้อหมูของที่นี่มันบางขนาดไหน เห็นถึงความแตกต่างจริงๆ เพราะของร้านอื่นๆ จะเป็นชิ้นหมูที่หนากว่านี้ทั้งนั้น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่างนึงครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:59:07

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนข้าว ก็ต้องเป็นข้าวที่ปลูกในเมือง Aizu ด้วยซึ่งปกติข้าวของ Aizu จะขึ้นชื่ออยู่แล้วเพราะปลูกบนพื้นที่ที่มีสภาพดินฟ้าอากาศที่สมบูรณ์เหมาะสม ผนวกกับได้ดินและน้ำที่ดีด้วย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:07:58

ความคิดเห็นที่ 32 ยอมรับเลยครับว่า เป้นมื้้อนึงที่อร่อยสุดยอดมากๆ เพราะปกติผมเองจะชอบทาน Katudon อยู่แล้วด้วย ยิ่งมาเจอ Sauce Katsudon ที่แปลกๆแบบนี้ก็ยิ่งประทับใจเลยกินจนเกลี้ยงไปเลย ตอนที่จ่ายเงิน พนักงานเสิร์ฟเค้าก็ถามด้วยครับว่าผมมาจากไหน พอตอบไปว่ามาจากเมืองไทยเค้าก็ยิ้มแล้วก็ทำท่าดีใจมากๆ แถมยังยกมือไหว้ขอบคุณด้วย สงสัยคงเคยมาเมืองไทยมาก่อนแน่เลย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:17:59

ความคิดเห็นที่ 33 อิ่มท้องกันเรียบร้อยก็เที่ยวกันต่อล่ะ เป้าหมายต่อไปที่ผมจะไปก็คือ ภูเขาอิโมริยามา (imoriyama) ซึ่งอยู่ตรงป้ายรถบัสหมายเลข A5 หรือ H36 ก็ได้ พอลงจากรถก็จะเจอทางขึ้นเขาที่มีร้านค้าของที่ระลึกขนาบทางซ้ายและขวาเลย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:23:35

ความคิดเห็นที่ 34 ขึ้นชื่อว่าภูเขา แน่นอนว่าต้องเดินขึ้นบันไดแน่นอน แต่ที่นี่เค้ามีบริการพิเศษเป็นบันไดเลื่อนสำหรับคนที่ไม่อยากเดินขึ้น แต่ก็ต้องเสียเงินด้วยเหมือนกัน แต่ตอนลงจากภูเขา ก็ต้องเดินลงกันหมดทุกคนครับ ...สำหรับผมน่ะเหรอ ของแค่นี้ ก็เดินอยู่ละจะเสียเงินทำไมเล่า ??? จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:25:24

ความคิดเห็นที่ 35 บนเขาอิโมริยามานี้ มีจุดที่น่าสนใจหลายอย่างครับ โดยเฉพาะจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของเมือง Aizu ได้ทั้งหมด เป็นวิวที่สวยงามสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ แต่ในอดีตนั้น วิวเมืองอันนี้นี่แหละที่เป็นจุดกำเนิดของเหตุการณ์อันน่าเศร้าบนเขาลูกนี้ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 22:29:51

ความคิดเห็นที่ 36 โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในยุคสงครามโบชิน (Boshin War) ซึ่งเป็นสงครามการเมืองในญี่ปุ่นซึ่งเกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1868 - 1869 ในยุคนั้น โดยเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มกองกำลังของรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะกับฝ่ายผู้พยายามฟื้นฟูอำนาจทางการเมืองให้แก่ราชสำนักของจักรพรรดิญี่ปุ่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นยุคการปกครองของจักรพรรดิโดยสมบูรณ์อีกครั้ง เป็นยุคเมจินั่นเอง โดยในครั้งนั้น เมือง Aizu ถูกปกครองโดยโชกุนที่เป็นขั้วอำนาจเก่า และถูกกลุ่มต่อต้านรัฐบาลใหม่พยายามโค่นล้มและพ่ายแพ้ไปในที่สุด ปราสาทซึรุกะซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของโชกุนก็ถูกทำลายเสียหายไป ในเวลาเดียวกันนั้น มีกลุ่มยุวชนทหารอายุ 14-16 ปีที่เรียกตัวเองว่า "Byakkotai" จำนวน 20 คน สังเกตการณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากบนเขาแห่งนี้ก็เห็นว่าปราสาทซึรุกะ กำลังถูกไฟไหม้และมีกลุ่มหมอกควันเกิดขึ้นเป็นสัญญาณถึงความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงจริงๆแล้ว ด้วยความที่ยึดในศักดิ์ศรีของตนที่ไม่ยอมตกเป็นเชลย ยุวชนจำนวน 19 คนจึงตัดสินใจทำฮาราคีรีปลิดชีพตัวเอง แล้วฝากฝังเพื่อนยุวชนอีก 1 คนที่เหลือให้เป็นคนนำเรื่องราวมาบอกเล่าให้ชาวเมืองคนอื่นได้รับรู้ แต่เมื่อยุวชนคนนั้นเดินทางมาถึงปราสาทกลับพบว่าปราสาทไม่ได้ถูกไฟไหม้อย่างที่เห็นแต่เป็นความเข้าใจผิดเพราะเปลวไฟจากที่อื่นมาบังไว้ พอจะรีบกลับไปบอกเพื่อน 19 คนก็ไม่ทันเสี่ยแล้ว เหตุการณ์นี้จึงแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของคนญี่ปุ่นที่มีความยึดมั่นในแผ่นดินของตัวเองอย่างยิ่ง หลังจากนั้นมาภูเขาแห่งนี้จึงกลายเป็นเหมือนอนุสรณ์สถานของยุวชนทหารทั้ง 19 คนโดยมีหลุมฝังศพของยุวชนทั้ง 19 คนตั้งอยู่ที่นี่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในครั้งนี้ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:01:03

ความคิดเห็นที่ 37 และหากเดินเลยไปจากบริเวณอนุสรณ์สถาน ก็จะเป็นจุดชมวิว แบบเดียวกับที่ยุวชนทั้ง 20 คนมองเห็นบรรยากาศแถวๆนี้ค่อนข้างเงียบสงบและเต็มไปด้วยหลุมฝังศพมากมาย ยังดีที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดท่องเที่ยว เลยมีนักท่องเที่ยวเดินไปมาอยู่มากมาย และยังมายืนชมวิวกันด้วย เลยไม่ได้น่ากลัวหรือวังเวงอย่างที่คิดครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:03:58

ความคิดเห็นที่ 38 เท่าที่ทราบมา เหตุการณ์นี้จะปรากฏอยู่ในหนังเรื่อง The Last Samurai ด้วยเหมือนกัน สงสัยผมต้องไปหาหนังเรื่องนี้มาดูบ้างซะแล้ว ปล. ในภาพคือวิวจากมุมมองที่ทั้ง 20 คนมองเห็นครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:05:43

ความคิดเห็นที่ 39 บนเขาแห่งนี้ ยังมีวัดเก่าแก่ที่มีความแปลกอยู่อีกแห่งหนึ่ง คือ Sazeo-do เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากไม้ทั้งหลังและมีความสูง 16.5 เมตร ความแปลกของวัดแห่งนี้ก็คือการออกแบบทางเดิน ให้เป็นทางเวียนแบบก้นหอยขึ้นไปสู่ด้านบน แล้วก็เวียนลงมาจนถึงทางออกอีกทางแบบที่ไม่ต้องเดินย้อนหลัง จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:10:37

ความคิดเห็นที่ 40 ถือว่าเป็นการออกแบบที่สุดยอดจริงๆ อ้อ...ที่นี่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมฟรีๆนะครับ ถ้าจะขึ้ันไปลองดูก็ต้องเสียค่าเข้าคนละ 400 เยนครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:12:31

ความคิดเห็นที่ 41 จุดสุดท้ายที่ผมจะพาไปก็คือ ปราสาทซึรุกะ(Tsuruga-jo) หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ ปราสาทวาคามัทซึ(Wakamatsu-jo) มีความหมายว่าปราสาทนกกระเรียน เดิมทีเป้นปราสาทที่ปกครองโดยขุนนางคนหนึ่งแต่ภายหลังก็ถูกปรับปรุงให้เป็นปราสาทเพื่อใช้ต้อนรับโชกุน Hideyoshi Toyotomi จนกระทั่งเมื่อเกิดสงครามโบชิน ปราสาทก็ถูกโจมตีและถูกสั่งให้ทำลายลงในปี 1934 จนเหลือแต่ซากปราสาท ภายหลังรัฐบาลก็ตัดสินใจรื้อฟื้นและบูรณะปราสาทแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ตามแบบแปลนเดิม จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:20:33

ความคิดเห็นที่ 42 ปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณท์ที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโบชินเอาไว้ด้านใน รวมทั้งจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆเอาไว้ให้ชม ที่สำคัญยังมีเรื่องราวของยุวชนทหาร Byakkotai และส่วนของพิพิธภัณท์ท้องถิ่นแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองไอสึให้ชมกันด้วย จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:22:56

ความคิดเห็นที่ 43 ค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยนครับ ทีแรกผมก็ตั้งใจว่าจะเข้าไปซะหน่อยอยากจะเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโบชินกับเรื่องราวเหล่ายุวชนทหารให้มากขึ้น แต่มาไม่ทันเวลาเข้าเพราะปราสาทจะปิดพอดี ก็เลยอดกันไป ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้ามีโอกาสก็จะมาอีกแน่นอน จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:25:42

ความคิดเห็นที่ 44 จริงๆแล้วที่เมือง Aizu ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งครับ ทั้งพิพิธภัณท์Fukushima Museum , สวนญี่ปุ่น Oyakuen Garden , Aizu Bukeyashiki  ซึ่งเป็นพิพิธภัณท์แสดงวิถีชีวิตของกลุ่มชนชั้นซามูไรของเมือง Aizu แต่ด้วยความที่รอบเวลาของรถบัสหมดพอดี เหลือเพียงรอบเดียวที่จะใช้ขึ้นเพื่อกลับไปยังสถานีเท่านั้น ก็เลยต้องจบทริปการเที่ยวใน Aizu แต่เพียงเท่านี้ ยังไงถ้าสนใจลองดูข้อมูลจากเว็บ japan-guide ได้เลย แนะนำว่าถ้าจะมาที่นี่ ก็น่าจะมากันตอนเช้าๆ ก่อนเที่ยงจะดีที่สุดครับ จะได้เที่ยวได้หลายที่หน่อย แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 23:36:53 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:29:58

ความคิดเห็นที่ 45 อ่ะ ลืมใส่รูป จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:30:43

ความคิดเห็นที่ 46 ปิดท้ายอีกทีที่เมือง Koriyama ครับ มีคนถามมาว่า ที่เมืองนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างนอกจากแค่เป็นที่พัก เท่านั้น อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะตลอดช่วงที่พักก็เดินอยู่แต่รอบๆบริเวณสถานีรถไฟเท่านั้นเอง จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:32:05

ความคิดเห็นที่ 47 แต่เวลาช่วงค่ำคืนที่เมืองนี้ ผมหมดไปกับการเดินในห้าง yodobashi koriyama นี่ล่ะครับ เพราะตึกนี้ตึกเดียวก็มีทั้งห้าง yodobashi (มีของบางอย่างที่สาขาในโตเกียวไม่มีซะด้วย) ส่วนชั้นบนก็เป็น tower record มี ABC Mart รวมถึงร้าน Animate สำหรับคออนิเมชันและของเล่น และยังมีร้าน 100 เยนอยู่ชั้นบนซะด้วย อีกที่นึงก็คือห้างที่อยู่ตรงสถานี Koriyama นั่นแหละครับ ส่วนมินิมาร์ท ร้านค้า ร้านอาหารแถวๆนี้ไม่ต้องห่วง มีเต็มไปหมดเลย แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 23:35:12 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:34:37

ความคิดเห็นที่ 48 ก็คงต้องขอจบการรีวิวเฉพาะกิจแต่เพียงเท่านี้ ถ้ามีโอกาสไปที่อื่นๆที่น่าสนใจ หรือเมนูร้านอาหารที่ไหนเจ๋งๆในญี่ปุ่นในคราวหน้าอีก จะมาแนะนำอีกครับ บ๋ายบาย และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามอ่านครับ   แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 23:40:49 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 55 23:39:28 จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:38:53

ความคิดเห็นที่ 49 ปิดท้ายอีกรูป ด้วยภาพวิวจากบนเขาอีกซักที บ๋ายบายครับ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 23:42:18

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ อยากไปยืนตรงจุดชมวิวนั้นบ้างจัง จากคุณ : XODA เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 00:39:28

ความคิดเห็นที่ 51 ตามมาทั้งกินทั้งเที่ยว จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 03:25:11

ความคิดเห็นที่ 52 แฟน Katsudon มารายงานตัวค่ะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 12:20:10

ความคิดเห็นที่ 53 / katsudonnnn! ดูรีวิวนี้ตอนดึกๆแล้วท้องร้องเลยค่ะ จากคุณ : gig_gigg เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 23:27:23

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณสำหรับการนำเที่ยวและข้อมูลที่ให้รายละเอียด อ่านแล้วเพลิดเพลินมากค่ะ จากคุณ : สีดา เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 01:04:41 A:101.108.29.248 X: TicketID:221565

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับคุณ สีดา คุณ gig_gigg คุณteddy bear in the box  คุณ เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย คุณ XODA และหลายๆท่านที่ได้เข้ามาดูแต่ไม่ได้โพสต์อะไร แวะกลับมาบอกชื่อร้านข้าวหน้าหมูทอด Sauce Katsudon นี้ซักหน่อยครับ ว่าร้านนี้มีชื่อว่า "Shirokujyaku Shokudo" ครับ จนท.ของศูนย์ท่องเที่ยวเค้าบอกว่าร้านนี้ดังมากๆ ถ้าจะแวะมาชิม ควรจะมาก่อนบ่าย 3 จะดีที่สุดครับ ไม่งั้นหมดแน่นอน ทั้งนี้ผมเอาลิงค์แผนที่ของเมือง Aizu-wakamatsu มาให้ครับ สำหรับพิกัดของร้านนี้ก็มีในแผนที่อยู่เหมือนกัน ในตำแหน่งตรง C-2 ครับ ลิงค์ด้านล่างนี้เลย http://e.samurai-city.jp/wp-content/uploads/image/aizu_map_e.pdf   จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 18:27:09