++++++++ ส า ละ วิ น .. ส า ย น้ำ ส อ ง แ ผ่ น ดิ น ++++++++


    [ 1 ] บ น เ ส้ น ท า ง ค ด โ ค้ ง เ ลี ย บ ส า ย น้ำ


    "น้ำเย็นยะเยือก จากเทือกเขาหิมาลัย...
    ไหลเชี่ยวลัดเลาะไหลไป
    กำเนิดเกิดสาย ..สาละวิน...."


    เสียงเพลงจากเทปของแอ๊ด คาราบาว
    ในรถตู้ของพี่หม่อง ซึ่งเป็นรถตู้เจ้าประจำ
    ที่พวกเรามักจะติดต่อ ให้แกเป็นคนนำพาเรา
    ไปยังจุดหมายต่างๆ

    สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะแกไม่เรื่องมาก
    เหมือนคนขับรถตู้ส่วนใหญ่
    (ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสได้ใช้บริการรถตู้บ่อยๆ
    เพื่อนๆจะรู้ว่าคนขับรถตู้
    เป็นบุคคลที่จะสามารถ
    ทำให้การท่องเที่ยวในทริปนั้นๆ
    หมดสนุกและ เซ็ง ได้อย่างง่ายดาย)

    นี่เราไม่ได้หมายความว่า
    คนขับรถตู้ทุกคนจะเรื่องมากนะ
    มันคล้ายๆกับพูดว่า ทำไมยาม
    ถึงชอบหลับยามนั่นแหละ
    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ยามทุกคน
    จะต้องหลับยามจริงไหม..

    เพื่อนเราเคยสงสัยว่า
    ทำไมยามถึงชอบหลับยาม
    เลยคุยกับยามประจำศูนย์คอมฯ
    ที่มักจะหลับยามเป็นประจำว่า

    "ปกติเข้ากะทีกี่ชั่วโมงเนี่ย"

    ยามตอบว่า "ประมาณ 10 - 12 ชั่วโมง"
    เพื่อนเราก็ถามต่อว่า
    "พอออกกะ แล้วไปทำอะไรล่ะ"
    ยามตอบว่า "ก็นอนสิพี่"

    "นอนตลอดเลยเหรอ" เพื่อนเราถามอีก

    "ก็ตื่นก่อนเข้ากะประมาณชั่วโมงนึงน่ะพี่"
    ..ยามคนเดิมตอบ


    เพื่อนเราก็มานั่งคำนวณว่า
    ยามเข้ากะตอน 6 โมงเย็น
    ออกจากกะตอน 6 โมงเช้า
    เดินถึงที่พักอาบน้ำอาบท่า ก็ 7 โมงเช้า
    หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือนอน

    แล้วตื่นอีกที ก็ 5 โมงเย็น
    มาอาบน้ำกินข้าว
    นั่นหมายความว่า
    ยามนอน 10 ชั่วโมง

    แต่พี่ยามก็จะมานอนต่อตอน 5 ทุ่ม
    หลังจากที่กินข้าวตอนดึก
    แล้วตื่นมาอีกทีก็ประมาณตีสี่กว่าๆ
    เดินสำรวจ ความเรียบร้อยว่า
    ไม่มีอะไรเสียหาย หรือ
    ยังไม่มีใครมางัดแงะ

    แล้วก็มาลงบันทึกไว้
    เขียนบันทึกกว่าจะเสร็จ
    ก็เกือบได้เวลาออกกะพอดี

    "แม่งเป็นที่ชุดแหงๆ" เพื่อนเราสรุป

    "ใครใส่ชุดนี้ แม่งต้องง่วงทุกคน"
    เพื่อนเราเหมาเอาดื้อๆ

    "อย่างงี้ใครนอนไม่หลับ
    ก็ไปยืมชุดยามมาใส่ท่าจะเวิร์ค"
    ใครไม่รู้แทรกขึ้นมา
    ท่ามกลางเสียงหัวเราะครืน

    .......................................


    เพื่อนๆคงจะสงสัยว่า
    เราพูดถึงเรื่องคนขับรถตู้เรื่องมากอยู่ดีๆ
    แล้วอยู่ๆ ไหงมาพูดถึงเรื่องหลับยามทำไม
    เหะๆ เรากำลังจะสารภาพ กับเพื่อนๆว่า
    เราเองหลับตั้งแต่กรุงเทพ จนถึงเชียงใหม่
    (ตื่นเฉพาะตอนจอดรถแวะกินข้าว
    พอขึ้นรถก็หลับต่อ)

    จนกระทั่งแวะเข้าออบหลวง
    ในอำเภอฮอดนั่นแหละถึงตื่น
    เราหลับแม้กระทั่ง
    ตอนที่ต้องผ่านทางโค้งคดเคี้ยว
    ขนาดที่เราหลับแล้วหัวเรา
    ฟาดกับกระจกหน้าต่างรถ
    ดังโป๊กสนั่นรถ เราแค่ลืมตาขึ้นมา.....
    แล้วก็หลับต่อ ในขณะที่เพื่อนทั้งรถหันมาดู
    .....ดูว่ากระจกแตกหรือเปล่า?

    "ฉันล่ะนึกว่า หัวแกแตกไปแล้ว
    ฟาดกระจกเสียงดังขนาดนั้น"
    เพื่อนคนนึงในคณะเดินทาง
    บอกให้ฟังหลังจากที่เราสงสัยว่า
    คนอื่นๆ เขามองเราแล้วอมยิ้มทำไม

    ก็ขอพูดถึงออบหลวงพอสังเขปก็แล้วกัน
    อ.ช.ออบหลวง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่
    ประมาณ 105 กิโลเมตร โดยอยู่บนทางหลวง
    หมายเลข108 สายฮอด-แม่สะเรียง
    ตรงหลักกิโลเมตรที่ 17 สภาพทางลาดยาง
    และช่วงระหว่างฮอดจนถึงออบหลวงนั้น
    ถนนจะเลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่ม
    หรืออีกชื่อคือแม่น้ำสลักหิน
    และวกไปเวียนมาตามไหล่เขา
    ซึ่งทำให้เราหลับหัวโขกกระจกรถไง
    (จริงๆแล้ว เรากินยาแก้เมารถต่างหาก
    นั่นจึงทำให้เราหลับได้หลับดี)

    ลักษณะของออบหลวง
    จะเป็นช่องเขาขาด
    ที่มีลำน้ำแม่แจ่มไหลผ่าน
    ช่องเขาขาดตามธรรมชาตินี้
    ทั้งสูงชัน และแคบมากๆ
    จึงทำให้สายน้ำที่ไหลผ่าน
    เชี่ยวแรงเป็นพิเศษ
    เรียกว่าถ้าใครตกน้ำลงไปล่ะก็
    แทบจะต้องไปรอเก็บร่างที่ปลายน้ำได้เลย
    เสียงครืนๆ ของสายน้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านช่องเขา
    ทำให้เรารู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก

    "น่ามาล่องแก่งนะ คงสะใจดีพิลึก"
    ใครคนนึงพูดขึ้นมา

    "เชิญท่าน(มอสระอึง)คนเดียวเถอะ
    ข้าพเจ้า(กุ)คนนึงล่ะที่ไม่เอาแน่ๆ"

    เราตอบในใจ ในความคิดเห็นส่วนตัวของเรานั้น
    ใครก็ตาม ที่กล้าล่องแก่งผ่านช่องเขานี่
    ถ้าไม่บ้า ก็ต้องเมา....

    เราไม่อยากเรียกความบ้าแบบนี้
    ว่าความกล้าเลย ด้วยความสัตย์จริง
    เราคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการล่องแก่ง
    น่าจะเป็น "ความปลอดภัย" มากกว่า "สะใจ"

    จากคุณ : Anykey - [ 24 ม.ค. 46 02:09:18 A:203.145.27.119 X: ]