ความคิดเห็นที่ 1 ผมเชื่อว่าถ้าสร้างกระเช้าเสร็จต่อไปคงเป็นถนนคิวรถสองแถวตามมา จากคุณ : DigiJoe - [ 15 ส.ค. 46 11:26:28 A:202.59.243.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 สร้างหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่อยากให้ อนุญาต ให้นำจักรยาน ขึ้นไปปั่น บนภูกระด฿งได้ มากกว่าครับ จากคุณ : บั่นจั๊กกะยาน - [ 15 ส.ค. 46 11:51:42 A:202.130.147.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมชื่นชมคุณนิคในหลายๆกระทู้ที่ผ่านมาแต่งานนี้คุณนิค ดูถูกคนไทย คุณก็คนไทยผมก็คนไทย ถ้าเราคิดได้ทำไมคนอื่นจะคิดไม่ได้ ไม่รุ่นนี้ก็รุ่นหน้า ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ถ้าฝรั่งยังพัฒนาคนของเค้าได้ แล้วคนไทยโง่กว่าเค้าเหรอถึงทำไม่ได้? มัวแต่ปาวๆว่าคนไทยทำไม่ได้ ทำไม่ได้ แล้วเมื่อไหร่มันจะทำได้? ถ้าไม่มีที่แรกแล้วจะมีที่ต่อไปเหรอ? ถ้ามัวแต่ดูถูกตัวเองแล้วเมื่อไหร่จะกล้าพัฒนา? ได้เริ่มรึยัง? ได้พยายามหรือยัง? ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือให้มันเกิดขึ้นหรือยัง? ถ้ายังก็ไปเริ่มซ่ะ ข้าราชการดีๆก็เยอะ ข้าราชการเช้าชามเย็นชามครึ่งก็เยอะ แต่ในที่สุดพวกดีก็ต้องมากกว่าดีสิ ไม่งั้นประเทศชาติจะพัฒนามาถึงตรงนี้ได้อย่างไร กฎระเบียบตั้งขึ้นมาแล้วก็ต้องควบคุมได้สิ หลักการตั้งขึ้นมาแล้วก็ต้องทำให้ได้สิ คุณเล่นตั้งสมมุติฐานว่าทุกอย่างจะต้องไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้แล้วโครงการอะไรก็แล้วแต่มันจะเกิดเหรอ? จุดอ่อนของนักอนุรักษ์(บางคน)คือชอบคิดว่าเค้ารักสิ่งๆนั้นอยู่คนเดียว และพวกที่เสนอความคิดเห็นขัดแย้งคือคนเลวและเป็นศัตรู คุณนิคไม่ได้รักภูกระดึงอยู่คนเดียว คนที่สนับสนุนให้สร้างกระเช้าก็รักภูกระดึงเหมือนกัน ผมไม่ได้เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงหรอกนะ แต่ผมเห็นคุณนิคคิดอย่างนี้แล้วอดไม่ได้แหะ เอ้อ ถ้าอยากเห็นตัวอย่างของ อุทยานแห่งชาติที่ดีลองไปดูที่น้ำตกพลิ้วสิครับ ถึงแม้นักท่องเที่ยวจะเยอะแค่ไหน แต่ถ้ามีเจ้าหน้า(ดีๆ)ดูแลอย่างทั่วถึง มีการจัดการที่ดี สถานที่ก็ยังสวยงามอยู่ คนและสัตว์ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ครับ อาจจะมีการบิดเบือนธรรมชาติบ้าง แต่ไปดูเถอะครับ ขับรถไปจอดดูที่ลำธารเลยก็ได้ว่าน้ำตกพลิ้วเจ๋งแค่ไหน จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 15 ส.ค. 46 15:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอเสนอคำว่า " การพัฒนาที่ไม่ยังยืน" การพัฒนาชนิดนี้ย่อมนำความเสียหายมาสิ่งธรรมชาติ ที่เห็นๆ อ่าวมาหยา ก่อนสร้างและปัจจุบัน น่าส่งสารเหลือเกินกับธรรมชาติที่ถูกย้ำยีตลอด หรือจัดคอนเสริตในป่าสงวน เพื่ออะไรต่างๆ ที่อ้างขึ้นมา หรือจัดแลนด์รี่ต่างๆ บุกตะลุยไปตามป่าสงวน โถ! แล้วมาบอกว่าจัดกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ จัดกิจกรรมเพื่อโปรโมตร์ประเทศ พอเกิดความเสียไม่เห็นมีใครรับผิดชอบ โยนกันไปโยนกันมา (ขอด่าหน่อยน่ะครับ) แล้วคุณหล่ะวันนี้ ทำลายธรรมชาติไปขนาดไหน จากคุณ : สะตอคุง - [ 15 ส.ค. 46 15:17:28 A:203.144.187.62 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องสร้างไม่สร้างกระเช้านี่ผมไม่ขอกล่าวถึงนะครับ แต่ผมขอติคุณ นิค ตรงที่ คุณบอกว่า ภูกระดึง ไม่ได้มีไว้สำหรับพวกคนแก่ คนพิการ ขึ้นไปท่องเที่ยวนะครับ อย่าบอกว่าซักวันคุณนิคจะไม่แก่นะครับ (ไม่รวมว่าตายก่อนแก่นะครับ) ... คนแก่ คนพิการ ไม่มีสิทธิจะขึ้นภูกระดึง คุณพูดออกมาได้ยังไงอ่ะครับ ใช้อะไรคิดเนี่ย เหอ เหอ สมัยนี้ มีแต่เค้าจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ของสังคม ได้ใช้ชีวิตเยี่ยงคนปรกติ เพราะเค้าก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ไม่คิดว่าคุณนิค ยังล้าหลังอยู่อ่ะครับ เห็นด้วยกับ คุณ คิลลี่แมน ในเรื่องการพัฒนาคนของชาติเราครับ ไม่ใช่ใช้ความคิด ปิดกั้นแบบคุณนิค ขอบคุณครับ จากคุณ : กุ้มกิ่ม - [ 15 ส.ค. 46 15:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณคิลลี่แมนครับ ผมได้อ่านกระทู้เรื่องภูกระดึงข้างล่างมาก่อนกระทู้นี้ มันเป็นอารมณ์ต่อเนื่องมาน่ะครับ อย่าจับประเด็นเล็กน้อย(ถึงคำพูดจะดูรุนแรงไปบ้าง)มาใส่ใจเลยครับ ผมอยากเห็นการแสดงความเห็นเรื่องการให้สร้างและไม่ให้สร้างมากกว่า ไม่อยากให้เรื่องประโยคคำพูดนี้มาเป็นประเด็นใหม่ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณครับ แต่เรามาใจเย็นฟังข้อคิดเห็นดีกว่า คุณคิลลี่แมนก็คงเหมือนผมตอนนี้ ที่ไม่ใช่พวกไหน ศึกษาข้อมูลอย่างตั้งใจ ผมไม่ใช่พวกคุณนิคหรือพวกนักอนุรักษ์หรอกครับ และไม่ใช่คนที่อยากให้สร้างกระเช้าด้วย เพียงเต่เห็นว่าคุณนิคกล้าแสดงความเห็นออกมาจากใจจริง ไม่ปิดบังซ่อนเร้น คิดยังไงพูดอย่างนั้น ซึ่งต่างกับทางฝ่ายที่อยากให้สร้าง ที่ยกเอาเรื่องคนแก่ คนพิการ ฯลฯ ซึ่ง ความจริงแล้วเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น ผมไม่เคยเห็นคนแก่คนพิการทำเรื่องร้องเรียนขอให้ทำกระเช้าขึ้นภูกระดึงเพื่อตัวเขาเองเลย ถ้าทุกประเทศต้องทำกระเช้าเพราะถูกเรียกร้อง ป่านนี้เทือกเขาหิมาลัยคงต้องรีบทำกระเช้าอย่างเร่งด่วนแล้วหละ เพราะมีคนต้องการพิชิตเขาลูกนี้กันทั่วโลกเลยทั้งคนหนุ่มคนแก่ ซึ่งคนเหล่านั้นก็ไม่เห็นเรียกร้องให้สร้างเลย ส่วนตัวของผมเองและเพื่อนๆขอบอกตรงๆ เลยครับว่า ขี้เกียจขึ้น ใครชวนไป ภูกระดึง ภูสอยดาว ดอยหลวงเชียงดาว ผมตอบเขาไปตรงๆ เลยครับ ว่าขี้เกียจขึ้น ถ้าถามว่าอยากให้สร้างกระเช้าไหม ผมไม่อยากให้สร้างครับ แต่ถ้าสร้างกระเช้าตามภูเหล่านี้เรียบร้อย แล้วถามผมว่าขึ้นไหม ผมขอตอบว่าขึ้นครับ ขี้เกียจเดินขึ้นก็พูดไปเลยครับว่าขี้เกียจเดินขึ้น ไม่ต้องเอาเด็ก คนท้อง คนแก่ คนพิการ มาเป็นข้ออ้าง ไม่ใช่ลูกผู้ชายครับ คำนี้ถ้าแรงไปขออภัยลูกผู้ชายตัวจริงทุกท่านครับ (ว่าจะฟังอย่างเป็นกลาง เผลอวิจารณ์ไปตั้งเยอะ) ผมขอยืนยันตรงนี้อีกครั้งครับว่า ผมไม่ใช่นักอนุรักษ์ เพราะผมมีแนวคิดอยากให้ขุดคลองคอดกระด้วยซ้ำไป (หลายคนอาจนึกด่าผมในใจแล้วซิ) จะทำอะไรเราต้องคำนึงถึงความคุ้มทุนที่จะต้องแลกกับความเสียหาย ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผลกำไรเป็นตัวเงินนะครับ แต่หมายถึง ลงทุนทำไปแล้ว มีการสร้างงานเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ประชาชนมีงานทำเพิ่มขึ้นแค่ไหน อย่างคลองคอดกระ หรือท่อก๊าซ ถ้าสร้างแล้วธรรมชาติเสียหาย แต่ก็เกิดแหล่งอุตสาหกรรม แต่สร้างกระเช้าขึ้นภู ผ่านป่า ธรรมชาติเสียหายเหมือนกัน แต่สร้างงานได้แค่เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร กับคนเฝ้าห้องน้ำ ผมพูดตรงๆ อย่างนี้ ใครจะโกรธก็ช่างหละครับ แต่ผมก็ยังอยากได้ข้อมูลที่ดีๆ ของคนที่อยากให้สร้างกระเช้าอีกครับ แสดงความเห็นดีๆ มาอีกครับ จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 15 ส.ค. 46 16:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณNICK เห็นหรือยัง ไม่ค่อยมีใครคิดแคบๆอย่างคุณ กระเช้าลอยฟ้า สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ได้ทั้งหมด และยังทำให้ ชาวบ้านศรีฐาน มีอาชีพ มีการจ้างงาน มีธุระกิจต่อเนื่อง มีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว มีรายได้เข้าประเทศ โดยเฉพาะ จากชาวต่างประเทศ ซึ่งมีกำลังซื้อ มากกว่า ผมเคยถามในบอร์ดท่องเที่ยว เรื่องขยะ และ ออ สะระ อึ จากนักท่องเที่ยว ที่ทิ้งไว้บน ดอยหลวงเชียงดาว นักอนุรักษ์อย่างท่าน มีวิธีแก้ไขอย่างไร ช่วยตอบชัดๆ อีกที ครับ จากคุณ : ตอง - [ 15 ส.ค. 46 16:38:45 A:203.149.14.180 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 คือผมไม่อยากจะไปจับประเด็นเรื่องสร้างหรือไม่ให้สร้าง เพราะผมไม่อยากให้สร้าง และก็มีคนเสนอความคิดเห็นว่าทำไมถึงไม่ให้สร้างเพียงพอแล้ว แต่ที่ผมหยิบประเด็นซึ่งผมคิดว่าไม่เล็กน้อยขึ้นมาเพราะ "ทัศนคติ" ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะครับ ถ้าทัศนคติไม่ดี ใจไม่กว้างพอ และยึดติด แล้วเนี๊ยคนดีๆก็เสียได้ครับ ให้มีความรู้แค่ไหนถ้าเราโนทัศนคติมาบดบังเราก็แย่ครับ เรามักจะมองด้านเดียว ยึดติดกับด้านที่เราคิดว่าถูกต้อง โดยที่ไม่มองอีกด้านเลย ตะเบงแต่จะเอาชนะกัน ทั้งๆที่จริงๆแล้วก็มีส่วนถูกทั้งคู่ เรื่องอย่างนี้ นโยบายระดับนี้ ไม่สามารถจะดีทั้งหมดได้ และก็ไม่ได้เลวไปซ่ะทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมองมาจากฝั่งไหน ผมไม่ชอบการเขียนแบบมีหลักการน้ำท่วมทุ่งแบบนี้แต่ก็ขอสักทีแล้วกัน จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 15 ส.ค. 46 17:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่า การจัดการที่ดี จะนำมาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนนะ ไม่ว่าจะสร้างหรือไม่ จากคุณ : www3www - [ 15 ส.ค. 46 17:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าหลอกตัวเองเลยนักอนุรักษ์ทั้งหลาย พวกคุณไม่สามารถต้านกระแสโลกาภิวัฒน์ได้หรอก อ้างนู่นไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ดี ยอมรับเสียทีเถิดว่าภูกระดึงน่ะไม่ใช่ของพวกคุณ ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ครั้งในชีวิตทำเป็นหยั่งกะเป็นเจ้าของ อย่าหวงไว้เลยภูกระดึงน่ะ ให้คนอื่นๆที่ยังไม่เคยไปได้ไปบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีทั้งด้านดีและด้านเสีย รู้ได้อย่างไรว่ามีแล้วจะไม่ดี มีแล้วจะทำลายธรรมชาติ ตัวกระเช้าน่ะมันไม่ได้ทำลายธรรมชาติเลย ที่ทำลายธรรมชาติน่ะคือคนต่างหากและการมีกระเช้าก็จะยิ่งทำให้การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวยิ่งง่ายเข้าไปอีก สามารถปิดเปิดตามเวลาได้สบายมาก ถ้ามีคนมากเกินไปก็หยุดบริการกระเช้าซะ คนก็จะไม่สามารถขึ้นไปได้อีก การขนส่งเสบียง คนเจ็บ เจ้าหน้าที่ ต่างๆก็จะทำได้โดยสะดวกทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็ต้องยอมรับไว้แล้วอย่างว่าสภาพมันคงจะไม่ดีถึงขนาดป่าอนุรักษ์หรือป่าสมบูรณ์ เพราะจุดประสงค์มันไม่เหมือนกัน เขาต้องการให้คนไปเที่ยวที่นั่นเพราะว่ามันเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ต้องการนักท่องเที่ยว ไม่ได้เป็นเขตหวงห้ามใดๆ ซึ่งการท่องเที่ยวในเขตอุทยานมันก็มีกฎข้อบังคับ คอยควบคุมอยู่แล้ว จะห่วงไปใยเล่า ไปห่วงเรื่องการตัดต้นไม้ทำลายแหล่งน้ำ การสร้างเขื่อน ไม่ดีกว่าหรือ ใครอยากเดินเหนื่อยๆ เดินลำบากๆก็ไปที่อื่นสิ เช่น เชียงดาว สอยดาว เขาหลวง ฯลฯ เช่นเดียวกับที่คุณบอกให้คนอื่นเขาไปเที่ยวที่อื่นๆเหมือนกัน อย่าดูถูกว่าคนอื่นเขาจะทำลายธรรมชาติไปซะทุกคน มัวแต่จะคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่รักธรรมชาติ รักภูกระดึง คนอื่นอย่ามายุ่ง ถามจริงว่าทุกครั้งที่พวกคุณไปเที่ยวน่ะ ทำลายธรรมชาติบ้างหรือเปล่า และอย่างไรที่พวกคุณบอกว่าธรรมลายธรรมชาติน่ะคืออะไร การที่คุณใช้รถ ใช้น้ำมัน ใช้ไฟฟ้า มันก็ธรรมลายธรรมชาติแล้ว เดินขึ้นไป ย่ำดินจนกลายเป็นฝุ่นหนาเป็นนิ้ว ปีนป่ายไปตามหินจนเป็นรอยสึก ขึ้นไปกินไปขี้ข้างบน ทิ้งขยะเอาไว้หลายกิโลน่ะ เป็นการทำลายธรรมชาติหรือเปล่า อย่าคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นๆเลย คนเรามันสอนกันได้บอกกันได้ อบรมขัดเกลากันได้ อย่าใช้สมมุติฐานว่าตัวเองดี คนอื่นเลวหมดเลย จากคุณ : 123 (vespa744) จากคุณ : leo - [ 15 ส.ค. 46 17:55:21 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 "ท่านฝันเฟื่องไปหรือเปล่า บางคนเอาไปเทียบกับเมืองนอกเมืองนา โถๆๆ ตื่นเถอะครับ ที่นี่ประเทศไทยครับ ประเทศที่นักท่องเที่ยวมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ต่ำมาก ทิ้งขยะเรื่อยเปื่อย ฝรั่งมาเห็นชายหาดสวยๆบ้านเรายังทนไม่ได้ต้องเดินเก็บขยะให้ คนไทยอายไม้? เปล่า ก็ยังมักง่ายกันเหมือนเดิม แล้วคุณเคยเห็นอุทยานแห่งชาติที่ไหนซักที่นึงไม้ที่คนไปเที่ยวกันเยอะๆแล้ว ไม่มีขยะกลาดเกลื่อน ไม่มีการทำลายทรัพยาการธรรมชาติ ไม่มีพวกกินเหล้าเล่นดนตรีเอาคาราโอเกะไปเปิดเสียงดังลั่นป่า ทั้งๆที่กฎระเบียบมีอยู่แล้วไม่ใช่ไม่มี แต่ก็หาได้ปฏิบัติตามไม่ แล้วคุณคิดว่า ไอ้ที่คุณวาดฝันลมๆแล้งๆกันว่าจะจัดระเบียบสร้างกฎให้มันไม่เละเทะได้ ไอ้ที่คุณบอกว่าเมืองนอกเขาทำได้น่ะ คุณมีตัวอย่างซักที่นึงในเมืองไทยไม้ครับที่คนเชื่อฟังกฎเหล่านั้น? ขอแค่ที่เดียวจริงๆ ที่ทฤษฎีของคุณมันได้ผล? มีไม้? ในเมืองไทยของเรา" คุณนี่ช่างดูถูกเถือกเถาเหล่ากอตัวเองเสียจริงๆ ถามจริงๆเสียใจไหมครับที่เกิดเป็นคนไทย ทุกประเทศทุกสังคมในโลกนี้มีทั้งคนดีและไม่ดี อย่านำสิ่งที่คุณได้สัมผัสรับรู้มาอันน้อยนิดมาตัดสินคนทั้งประเทศเลยครับ ผมมีความเชื่อว่ายังไงก็ต้องมีคนที่มีจิตใจอนุรักษ์ธรรมชาติมากกว่าคนประเภทอย่างที่คุณว่าแน่นอน อย่างน้อยก็คงไม่ใช่มีแค่1คนคือคุณนั่นเอง เชื่อเถอะครับว่าประเทศไทยและคนไทยยังมีคนดีมากกว่าคนเลวแน่นอน ผมก็พอจะได้เคยไปต่างประเทศมาบ้างเหมือนกัน ยอมรับว่าการจัดการของเขาก็ดี แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก แต่เชื่อไหมว่ามันไม่มีอิสระเลย เหมือนกับการเดินไปตามคอกที่กั้นที่เขากำหนดให้ ยืนตรงนี้ เดินตรงนี้ พักตรงนี้ นั่งตรงนี้ กินตรงนี้ พวกฝรั่งที่ไม่เชื่อป้ายที่บอกเตือนก็มี ทำละเมิดกฎก็แยะ แต่เมื่อมีคนทำผิดกฎปุ๊บ ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่มาเตือนหรอกครับ นักท่องเที่ยวด้วยกันเนี่ยแหละที่เตือนกันเองก่อน เตือนให้ได้อาย จะมัวพึ่งเจ้าหน้าที่อย่างเดียวคงไม่พอ พวกเราเนี่ยแหละที่ต้องคอยเป็นหูเป็นตา คอยปกป้องสิทธิ์ของเรา อย่าให้ใครมาละเมิดได้ ไม่ทราบว่าเมื่อคุณเจอคนทำผิดกฎแล้วจะทำอย่างไรครับ 1.มองดูเฉยๆ แล้วว่าช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องของเราเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็มาจัดการเองแหล่ะ ชั้นก็เที่ยวของชั้นต่อไป หรือ 2.มองด้วยสายตาเหยียดหยามว่าพวกนั้นมันด้อยพัฒนาล้าหลังโง่เง่า แล้วก็ปล่อยเขาทำต่อไปโดยคอยด่าลับหลังอย่างเดียว หรือ 3.เดินเข้าไปตักเตือนด้วยท่าทีสุภาพถ้ายังดื้อดึงจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป แหล่งท่องเที่ยงทางธรรมชาติของไทยที่มีการจัดการ การบริหารงานที่ดีๆ ก็มีเยอะ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ได้รับรางวัล ยอดเยี่ยม ( กินรีทอง ) ประเภท แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท. ) ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประจำปี พ.ศ. 2541 เป็นต้น ซึ่งเป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น เพราะ ททท. เขาจัดประกวดทุกปี ใครอยากรู้ก็เข้าไปดูเองแล้วกันเพราะมันเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าเมืองไทยมีแต่แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม จากคุณ : leo - [ 15 ส.ค. 46 17:56:39 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณคิลลี่แมนพูดได้ถูกใจผมมากเลยครับ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับความคิดผมแต่ผมก็ไม่ว่าอะไร ถามว่า ผมดูถูกคนไทยด้วยกันใช่ไม้ ผมพูดตรงๆ จะๆ ชัดๆตรงนี้เลยครับว่า ใช่ครับ! ผมดูถูกคนไทยด้วยกันในเรื่องการอนุรักษ์และความมีระเบียบ ผมอายที่คนไทยด้วยกันมักง่าย ไม่รู้จักรักษาความสะอาด ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นนักอนุรักษ์สุดโต่งอะไรนักหนา ผมเป็นแค่นักท่องเที่ยวที่ชอบดูธรรมชาติสวยๆ บ้านเรามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามอยู่เยอะมาก เยอะจนหลายๆคนในหลายๆประเทศยังต้องอิจฉา แต่สิ่งที่กำลังบั่นทอนความสวยงามความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเมืองไทยให้เสื่อมถอยลงไปอย่างรวดเร็ว ก็คือคนไทยด้วยกันเอง ผมเจ็บปวดใจทุกครั้งที่กลับไปเที่ยวที่ๆผมเคยไป แล้วต้องเห็นสภาพที่มันแย่ลงไปทุกปี เมื่อได้พูดคุยกับคนที่เคยไปเห็นหลายๆแห่งเมื่อหลายปีที่แล้ว สิบ ยี่สิบปีที่แล้ว เช่น เกาะเสม็ด เกาะช้าง แล้วเทียบกับตอนนี้ มันเทียบกันไม่ติด มันเสื่อมลงไปมากๆ มีความหวังบ้างไม้? คุณคิลลี่แมนอาจจะมองในแง่ดี แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นครับ ขออภัยด้วยที่มองไม่เหมือนกัน คุณคิลลี่แมนยกตัวอย่างที่น้ำตกพลิ้ว ผมก็ขอยกตัวอย่างที่น้ำตกพลิ้วนี่เลยก็ได้ ใช่ครับ ผมชมเจ้าหน้าที่ๆนี่ที่เข้มงวดตรวจตรารักษาความสะอาดในบริเวณน้ำตกพลิ้วได้ดีมาก แต่เมื่อปีใหม่ผมไปมาแล้วไปนั่งริมน้ำ คนเยอะมาก เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง อายุไม่มาก มีลูกแล้ว เอาไก่ย่างที่ซุกอยู่ในกระเป๋าออกมากิน (ถ้าใครเคยไปที่พลิ้วจะทราบว่าเจ้าหน้าที่จะห้ามเอาอาหารเข้ามากินในบริเวณน้ำตก โดยจะตรวจตราและห้ามปรามอยู่บริเวณหน้าทางเข้า) ขนาดเขาห้ามแล้ว ก็ยังแอบเอาซุกเข้ามา ดูสิครับ คนไทย ผมดูต่อไปว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด เขากินเสร็จ ก็เอาไม้ไก่ย่างสองไม้ ซุกไว้ข้างก้อนหิน ผมเห็นแบบนั้นแล้วสุดจะทนครับ ผมเลยพูดไปเสียงดังๆเลยว่า "นี่ คุณ เค้าห้ามเอาอาหารเข้ามากิน คุณก็ยังแอบเอาเข้ามาแล้วก็ยังทิ้งมักง่ายแบบนี้อีก ถ้ามีปัญญาเอาเข้ามากิน แต่ไม่มีปัญญาเอาไปทิ้ง เอามาให้ผมไปทิ้งแทนให้ก็ได้นะ" ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแหยๆ แล้วก็ยื่นไม้ไก่ย่างสองไม้นั้นให้ผม แล้วก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้ผมหมดหวังกับนักท่องเที่ยวคนไทยด้วยกัน จริงครับ ความหวังยังพอมีอยู่บ้าง แต่มันยังห่างไกลเหลือเกิน วัยรุ่นสมัยนี้หลายๆคนก็เริ่มเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์แล้ว แต่ยังมีอีกส่วนมาก และเป็นส่วนใหญ่ ที่ยังมักง่ายเหมือนเดิม มีให้เห็นทุกหนทุกแห่ง ผมสู้เขาไม่ได้ ผมเดินเก็บขยะตามชายหาด ตามทางเดินในป่า เก็บได้ 1 ถุง แต่ก็ยังมีอีกเป็นตันๆที่ผมไม่มีปัญญาเก็บมาได้หมด ผมอายครับ อายที่คนไทยด้วยกันไม่มีสำนึกในการอนุรักษ์เลย คนที่อนุรักษ์ก็มี แต่เหมือนน้ำน้อย ย่อมแพ้ไฟ เก็บให้ตายยังไงก็ไม่มีหมด ผมอาย ที่เห็นฝรั่งเดินเก็บขยะตามชายหาด เขาคงรักชายหาดสวยๆที่บ้านเขาไม่มี และพยายามทำสิ่งที่สองมือของเขาพอจะทำได้ แต่เขาก็คงรู้เช่นกัน ว่ามันสิ้นหวัง ตราบใดที่ยังมีคนทิ้งมากกว่าคนเก็บ คุณคิลลี่แมนรู้ไม้ ว่าชายหาดที่ดังๆของต่างประเทศที่เจริญแล้วบางประเทศ เขาเข้มงวดขนาดคนที่ทา sun tan หรือครีมกันแดด ห้ามลงเล่นน้ำ! เพราะไม่อยากให้ไขมันลงไปละลายในน้ำ ดูสิครับ ทำไมมันช่างต่างจากเมืองไทยราวกับฟ้ากับเหวขนาดนี้ ผมไม่คาดหวังให้คนไทยต้องมาเดินเก็บขยะมือสกปรกเหมือมผมกับแฟนผมให้คนมองเหมือนเป็นตัวประหลาดหรอกครับ ผมขอแค่ให้คนไทย รับผิดชอบขยะของตนเอง เอาไปแค่ไหนก็ขนออกมาแค่นั้น แค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าไม่มีคนทิ้ง มันก็จะไม่มีขยะ ขอแค่นี้เอง ได้ไม้? แต่แค่นี้มันยังเป็นไปไม่ได้เลยครับ แล้วคุณคิลลี่แมนจะให้ผมมีความหวังได้ยังไง? ผมแก่ตาย จะได้เห็นชายหาดบ้านเราสะอาดๆหรือเปล่า ผมยังไม่หวังเลย กฎระเบียบที่รัฐออกมาให้ตายยังไงก็ไร้ค่า ตราบใดที่คนเที่ยว ยังไม่มีจิตสำนึกที่ดี มันสำคัญตรงนี้ครับ ผมคงได้แต่ฝากความหวังไว้ที่คน generation ต่อไป หวังว่าเด็กๆรุ่นใหม่ๆที่เติบโตขึ้นมา จะมีความรักและหวงแหนธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่เรามีอยู่ และเหลือน้อยเข้าไปทุกที สิ่งที่ผมเห็นอยู่ทุกวันนี้มันชัดเจน ตำตา จนทำให้ผมคิดว่า ทางเดียวที่จะอนุรักษ์ได้ คือ ให้คนไปยุ่งกับธรรมชาติน้อยที่สุด เพราะที่ไหนคนเข้าไปมาก รับประกันได้เลยว่า เละเทะ ตราบใดที่คนไทย ยังเป็นแบบนี้ที่เห็นๆกันอยู่ ผมจึงไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุนการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง สำหรับท่านที่ถามว่าผมแก่แล้วจะทำไง ผมก็ตอบในกระทู้ข้างล่างแล้วไงครับ ว่า ไปไม่ได้ก็ไม่ไป ที่อื่นมีให้เที่ยวเยอะแยะไปแทนได้รถขึ้นถึง ทำไมจะต้องดื้อรั้นไปที่นี่ให้ได้ ทำไมจะต้องทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆจะเอาของเล่นให้ได้ พูดไม่รู้ฟัง ภูไม่ได้มีที่เดียวที่ชื่อภูกระดึง ผมไม่ได้เห็นความต้องการของผมอยู่เหนือความจำเป็นที่จะต้องอนุรักษ์ธรรมชาติหรอกนะครับ ความต้องการของคนเราต้องมีขอบเขต หากความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด อยากได้ยังไงก็ต้องสนองให้ได้หมด ก็หมดสิครับ มนุษย์โลภมากไม่มีที่สิ้นสุด ต่อไปจะหาข้ออ้างอะไรอีกล่ะ? ตัดถนนเข้าป่าทุ่งใหญ่นเรศวรดีไม้? คนจะได้เข้าไปเที่ยวป่าดิบแท้ๆได้ อ้างได้สวยงามมากว่าให้คนได้ไปเห็นป่าที่สมบูรณ์ จะได้รักและหวงแหนธรรมชาติ อย่าหัวเราะนะครับ เคยมีการพูดเรื่องตัดถนนเข้าทุ่งใหญ่ฯมาแล้ว เดี๋ยวก็คงมีอีก ถ้าไม่หยุดความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ เราก็คงหาเหตุผลที่จะทำลายโลกของเราเองไปได้เรื่อยๆแหละครับ แล้วลูกหลานเหลนโหลนของเรา จะเหลืออะไรให้เขาดูละ ในเมื่อ generation นี้เราทำตามใจตัวเองเราไปหมดแล้วนี่ครับ --==NICK==-- จากคุณ : NICK - [ 15 ส.ค. 46 18:19:50 A:203.144.203.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรา ไม่เข้าใจ เค้าสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง เพื่ออะไร เพื่อขนคนขึ้นภู เดินเอายังได้บรรยากาศ ลูกหามก็มีรายได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สะดวก (สบาย) ปกติเข้ามี ฮ. ทหารขึ้นลง แห่กันขึ้นไป ไม่รู้จะไปดูอะไร (ทะเลดาวไง..ตามพี่ติ๊ก) ไปเกาะเต่า มี 7-11 ไปเกาะพีพี ก็มี 7-11 เป็นไปได้อย่างไร amazing thailand เจริญเกินไปหรือปล่าว คนไทยเรื่องกินเรื่องใหญ่ จะเที่ยวที่ขนของกิน จนนึกว่าเอาไปขาย (ก็บนเกาะมันแพงนี่น่า) นั่งรอเรื่อก็ซื้อของกิน (ก็มันหิว ใครจะทำไม) กินเสร็จไม่เก็บให้มันเรียบร้อย บ่อยให้เป็นขยะบนเกาะ เอาแต่ปริมาณ ไม่เอาคุณภาพ นี้เป็นคำพูดของเพื่อนชาวต่างชาติ ทั้งเจ็บทั้งอาย นี่ u This is Thailand ไม่ใช่ มัลดีฟ ด้านซะอย่าง เดี๋ยวมันก็กลับประเทศมัน (เออ มันจะไปบอกเพื่อนมันหรือปล่าวนะ) ประสบการณ์ มาเล่าให้ฟัง มันอยู่ที่สามัญสำนึก มันสมองในกระโหลก แค่แยกขยะในบ้านให้เป็น ก็เป็นบุญแล้ว จากคุณ : sea (nang2001) - [ 15 ส.ค. 46 21:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เขามี helicopter ขึ้นภูกระดึงกันแล้วครับ จากคุณ : ข่าวช้าไป - [ 16 ส.ค. 46 04:09:22 A:203.145.3.2 X:203.145.30.183 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมตั้งใจว่า จะรีบไปภูกระดึงให้เร็วที่สุดก่อนที่ต่อไป ภูกระดึง จะมีสภาพไม่แตกต่างจาก พัทยา หรือ บางแสน ซึ่งปัญหาเหล่านี้กำลังเกิดกับ ที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีการโปรโมทกัน ก็ต้องรีบหน่อยครับ ผมว่า ถ้าจะไปเที่ยวป่าเขา ต้องไปกับพวกที่เป็นชมรมเดินป่าดีกว่าครับ คุณจะไม่เสียความรู้สึกที่จะต้องเจอ อาซิ้ม อาซ้อ แน่ ๆ ครับ จากคุณ : ข่าวช้าไปครับ - [ 16 ส.ค. 46 04:12:40 A:203.145.3.2 X:203.145.30.183 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราเห็นด้วยกับคุณ NICK ค่ะ จากคุณ : เห็นด้วยนะ - [ 16 ส.ค. 46 11:07:48 A:203.146.49.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคุณนิคอีกหนึ่งเสียงครับ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีสำนึกในการอนุรักษ์ ถ้าสร้างกระเช้าขึ้น ภูกระดึงเมื่อไหร่ ป่าก็ยับเยินเมื่อนั้นแหละครับ ขอบอก จากคุณ : เห็นมาเยอะแล้ว - [ 16 ส.ค. 46 13:20:50 A:202.59.254.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 อืมมมมมม ผมไม่ใช่นักอนุรักษ์นะครับ ต้องออกตัวก่อน แต่เห็นด้วยกับคุณนิคร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ เพราะช่วงหลังๆไปภูกระดึงทีไร เหมือนไปเดินเซ็นทรัลลาดพร้าวทุกที หุหุหุ นิยามของการรักษาธรรมชาติก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ทุกอย่างถูกรบกวนจาก “คน” น้อยที่สุด ปิ ด ป่ า ไ ป ซ ะ ใ ห้ สิ้ น เ รื่ อ ง สิ้ น ร า ว เ ล ย ก็ ดี ค รั บ จากคุณ : ตุ้ม แม็คฯ - [ 16 ส.ค. 46 14:15:09 A:203.154.97.197 X:129.0.1.70 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นอีกหนึ่งเสียง ที่ต่อต้านกระเช้าขึ้นภูกระดึง และเห็นด้วยว่าสถานที่บางสถานที่เหมาะกับคนบางกลุ่มเท่านั้น นอกจากนี้ยิ่งได้อ่านวิสัยทัศน์เหตุผลของผู้ว่าเมืองเลย ที่สร้างกระเช้าเพื่อเพิ่มรายได้ ฟังแล้วจะอ้วก..... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 16 ส.ค. 46 14:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอร้องเถอะ อย่าทำร้ายทำมาชาติมากกว่านี้เลย แล้วเรื่องจิตสำนึกของคนไทยอย่าไปหวังเลย เคยไปดู ดอกกระเจียว เค้ามีป้ายติด ห้ามออกนอกเส้นทางก็ยังมีคนลงไป สงสัยจะเป็นคนต่าวชาติ แต่ดันพูดไทยได้ จากคุณ : ผ่านมา - [ 16 ส.ค. 46 15:50:18 A:203.144.226.245 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 รีบมาช่วยคุณ NICK กันหน่อยครับทุกท่าน กำลังแย่ ถามเป็นครั้งที่ 3 ช่วยตอบคำถามของผมหน่อย กรณีของ ขยะ และอึ ของท่านทั้งหลายที่ขึ้นไปขี้ไว้บน ดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำ นักอนุรักษ์อย่างท่านจะแก้ไขอย่างไร รู้สึกว่า คุณNIK พยายามจะเลี่ยงไม่พูดถึงคำถามของผมเลยน๊ะ อยากทราบว่ากลุ่มอนุรักษ์ที่คิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว เวลาเจอปัญหาแล้วจะมีกึ๋นหรือเปล่า ที่จริงถ้าคุณ NICKไม่เห็นด้วย เวลาเขาสร้างเสร็จ คุณก็อย่าใช้บริการ ไม่มีใครว่าอะไร ถึงตอนนั้นจะกลับไปเดินขึ้นแบบเก่าก็เท่ดีน๊ะ พอขึ้นไปถึงหลังแปก็ทำเป็นเดินไม่รู้ไม่ชี้ ให้ดูเหมือนไม่เหนื่อย คนเขาจะได้ไม่มองว่าเป็นตัวประหลาด เท่จะตายยยยย จากคุณ : ตอง - [ 16 ส.ค. 46 16:25:54 A:203.144.164.214 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณครับ...เรื่องสร้างหรือไม่สร้างน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก... แต่ไอ้เรื่องสร้างแล้วจะจัดการอย่างไรกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเนี่ย ปัญหา อ่ะๆ อย่าได้ออกความคิดเห็นที่ว่าจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเชียวนะคุณ เพราะว่าเขาประกาศอยู่โต้งๆ ว่าสร้างกระเช้าเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว.... ลองบอกหน่อย... จากคุณ : เรื่องจริง - [ 16 ส.ค. 46 20:52:01 A:203.113.36.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมไม่เห็นว่าคุณ NICK จะกำลังแย่ยังไงเลยครับ ออกจะได้เปรียบในสายตาผมนะ.... คุณนั่นแหละกำลังแย่นะผมว่า... จากคุณ : ไม่เห็นด้วยกับกระเช้าง่ะ (w@@n) - [ 16 ส.ค. 46 22:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับคุณnick ค่ะ ทุกข้อเลยค่ะ แล้วอีกอย่าง ถ้าสร้างกระเช้า ป้ายผู้พิชิตภูกระดึงก็จะหมดความหมายไปด้วยค่ะ เสน่ห์ของการไปภูกระดึง ก็อยู่ที่การได้พิชิตยอดภูไม่ใช่เหรอคะ จากคุณ : อย่าสร้างเลยนะ - [ 17 ส.ค. 46 00:33:06 A:203.156.12.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 สร้างกระเช้าเพื่ออะไร --> เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ---> ได้อาไรจากนักท่องเที่ยว ---> เงิน ---> เงินเอาไปทำอะไร ---> พัฒนาประเทศ เค้าทำเพื่อประเทศชาติน่ะครับ เเล้วเค้าก็ไม่ได้บอกซักหน่อยว่าทำเพื่อธรรมชาติ จุดมุ่งหมายของเค้าคือเงินของนักท่องเที่ยวครับ ไม่ใช่ธรรมชาติ เค้าทำเพื่อเงิน มาพัฒนาประเทศครับ ในความคิดผมน่ะ จากคุณ : JoOeY (JOOEY) - [ 17 ส.ค. 46 05:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อืม....อ่านยังไงก็ยังไม่เข้าใจว่า คุณNICK จะแย่ตรงไหน... จะสร้างกระเช้าเพื่ออะไร???????ตอบ...เพื่อเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว----->เงินเพิ่ม....ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเพิ่มได้จากการที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น....เงินรายได้เพิ่มขึ้น.....ผมคิดว่า นี่คือหัวใจของการนำมาซึ่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ภูกระดึง โอเค....สร้างเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม ทุกคนสามารถขึ้นชมความงามของภูกระดึงได้ แต่!!!!จะมีคนพิการ คนแก่ คนที่ร่างกายไม่พร้อมจะเดินขึ้น กี่คนจะมาเที่ยวเมื่อเทียบกับคนที่ร่างกายแข็งแรงพร้อมจะเดินขึ้นเอง.... สุดท้าย เราจะจัดการอย่างไร กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นภูกระดึง..เราจะจัดการอย่างไรกับที่อยู่ ที่กิน ที่นอน ที่ถ่าย ของนักท่องเที่ยวเหล่านั้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ.... ประเด็นเหล่านี้น่าจะสำคัญกว่า การสร้างหรือไม่สร้าง.... จากคุณ : @สนสามใบ@ - [ 17 ส.ค. 46 10:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วแต่พระเดชพระคุณท่าน อยากทำอะไรทำเลย อยากสร้างเอาเลย แต่บอกตามตรงว่า สร้างทำแป๊ะอะไรวะ แค่นี้วุ่นวายพอแล้ว คนแก่เขายังไม่ได้อยากขึ้นอย่างที่ทุกคนคิดหรอก พวกท่านๆ คิดเอง ทั้งน๊าน อย่าเอาคนแก่มาอ้างว่าอยากเที่ยวเหมือนกันเพื่อให้ทัดเทียมกัน ที่เที่ยวมีให้เลือกเยอะแยะตาแป๊ะขายเข่ง ใครเคยได้ยินคนแก่บ่ยนว่าอยากไปภูกระดึงบอกหน่อยซิ ส่วนตัวยังไม่เคยได้ยินเลย ผมเห็นด้วยกับคุณนิค ครับ ใครเถียงโดนต่อย จากคุณ : ข้าวหลามหนองมน - [ 17 ส.ค. 46 11:48:44 A:192.55.18.36 X:10.7.13.68 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ท่านที่คัดค้านกระเช้าลอยฟ้า ช่วยอ่านหน่อย วันนี้ผมจะลองพูดแบบมีสาระสักที ไม่มีใครตอบคำถามของผมเลย รวมทั้งคุณNICKด้วย ถ้ายังคิดไม่ออก ก็ไม่ควรออกมาคัดค้าน แบบหัวทิ่มหัวตำ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีไอเดียที่ดีกว่า อย่าเอาคนแก่ คนพิการ มาเป็นข้ออ้าง ลูกผู้ชาย คิดผิด คิดใหม่ได้ ไม่มีใครว่าอะไร ผมอยากให้ทุกท่านใช้วิสัยทัศน์หน่อย ทำไมรัฐบาลจึงโปรโมท UNSEEN IN THAILAND ? ทั้งๆที่สถานที่เหล่านั้น ผม และท่านทั้งหลาย ก็ไปกันมาเกือบหมดแล้ว เหตุผลก็คือ ต้องการลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ไป หนึ่งในเป้าหมายคือสุภาพสตรี(ไทย+ต่างประเทศ), คนแก่(ชาวต่างประเทศ (ตัดคนไทยออกเพราะไม่อยากขัดใจคุณNICK) ที่ต้องการความสะดวกสะบาย ระดับภูเก็ต คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อมหาศาล ยืนยันได้จากรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ อยู่ในลำดับต้นๆของไทย มาหลายปีแล้ว ถ้าไม่มีกระเช้าลอยฟ้า ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะไป มาเลย์ สิงคโปร์ ฯลฯ จะมีแต่ฝรั่งกระจอกที่ไม่ค่อยมีเงินเท่านนั้นที่จะเดินขึ้นภูกระดึง โดยต้องใช้เวลาท่องเที่ยวอีก 3-4 วัน กลับลงมาขาเดี้ยงไม่รู้มันจะกลับบ้านยังไง ก็ช่างหัวมัน ถ้ามีกระเช้าลอยฟ้า จะมีประโยชน์ดังนี้ 1. จะได้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตามที่ผมได้กล่าวมาแล้ว เหตุผลคือ จะมีระบบ FACILITY ต่างๆมารองรับที่ด้านล่างของภูกระดึง (บ้านศรีฐาน, ผานกเค้า)เช่น ที่พัก อาหาร ของที่ระลึก สินค้าประเภทบริการต่างๆ ฯลฯ เช่นเดียวกับภูเก็ต รายได้จากเงินตราต่างประเทศจะเข้ามาอีกมหาศาล ทุกท่านก็รู้อยู่แล้วว่าฐานะทางการเงินของรัฐบาลเป็นอย่างไร ผมอยากให้ช่วยกันหน่อย อย่าทำตัวเป็นนักอนุรักษ์ ประเภท ถ่วงความ.....ตะบี้ตะบัน(ขออภัยถ้าแรงไป) 2. นักท่องเที่ยวสามารถประหยัดเวลาในการท่องเที่ยวบนภูกระดึง จะขึ้นลงวันละกี่เที่ยวก็ได้ ส่วนขึ้นไปแล้วจะไปต่อยังไง อยู่ที่ระบบ Facility ที่คนทำกระเช้าจะต้องคิด ไม่ียาก และไม่ใช่ปัญหา 3. บนภูกระดึงจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก มีระบบการจัดการที่ดีกว่าในปัจจุบัน เช่น ทำทางเดินให้นักท่องเที่ยวเดินอยูในเส้นทางที่จัดทำไว้ให้เท่านั้น นี่คือการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน ขอย้ำ นี่คือการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน ตัวอย่างเช่น ทางเดินที่ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม ทุกท่านคงเข้าใจ อนาคตจะไม่มีขยะและกองอึ อลังการณ์ ของนักท่องเที่ยวที่ไปถ่ายเรี่ยราดไว้บนนั้น เช่นเดียวกับ """""ดอยหลวงเชียงดาว""""" เพราะบนดอยหลวงเชียงดาว อนุญาตให้นักท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์เช่นทุกท่านที่คัดค้านอยู่ในกระทู้นี้ ขึ้นไปเที่ยว แล้วไปสร้ามลพิษเอาไว้บนนั้น บนดอยหลวงเชียงดาว ไม่มีแม้แต่ห้องน้ำ มลพิษเหล่านี้คือผลพวงของพวกอนุรักษ์เช่น คุณ NICKและท่านที่คัดค้าน นี่แหละสร้างเอาไว้ (สำหรับตนเองและพรรคพวก) เห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า อุ๊ปปป ว่าจะไม่ก้าวร้าว อารมณ์ชั่ววูบ เผลอตัว ขออภัย เขียนง่ายๆแค่นี้ ท่านที่คัดค้านคงพอเข้าใจ ไม่อยากเขียนยาว (เกินไป) ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ !!!! จากคุณ : ตอง - [ 17 ส.ค. 46 14:32:17 A:203.144.164.175 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 เงิน เท่านั้นที่ข้าต้องการ เอาเลย และช่างมันเพราะว่าข้าเคยไปมาแล้ว จะเก็บความทรงจำที่ดีไว้ตลอดไป ฉันรักภูกระดึง จากคุณ : ข้าวหลามหนองมน - [ 17 ส.ค. 46 15:11:46 A:192.55.18.36 X:10.7.13.68 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบ คห.21 ถ้าผมปวดอึตอนอยู่บนภู ผมคงไม่อั้นไว้มาปล่อยข้างล่างหรอกนะครับ แม้ว่าจะมีกระเช้าแล้วก็ตาม ..... เรื่องขยะเหมือนกัน ... ถึงแม้ไม่มีกระเช้า แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่มักง่ายเกินไป ก็น่าจะถือมาทิ้งข้างล่างได้ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 17 ส.ค. 46 16:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สร้างเลยคับ ............... แต่ผมไม่ไปเที่ยวแล้วหล่ะ จากคุณ : เบื่อ.. - [ 17 ส.ค. 46 19:56:35 A:203.113.38.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องกระเช้านะครับ . แต่อยากเล่าให้ทั้งฝ่ายคัดค้านและสนับสนุนฟัง . เพราะเรื่องนี้ .ยังไงซะก็กระทบกับธรรมชาติโดยตรง คุณๆทราบมั้ยครับว่าอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้ามีเอกชนรายหนึ่ง เตรียมกระทำชำเราภูกระดึงของพวกเราซะแล้ว เขากำลังจะนำเฮลิคอปเตอร์เพื่อบริการ “ผู้สูงอายุ” ขึ้นชมความงามทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยจะเริ่มบริการเที่ยวบินแรกในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ หุหุหุ เอาแล้วมั้ยล่ะ.. ผมเห็นด้วยครับว่าการบริการผู้สูงอายุและคนพิการเป็นสิ่งจำเป็น แต่ในหลายที่อาจจะไม่เหมาะสมไปทั้งหมด .อันนี้คงรู้กันอยู่นะครับ นี่ยังไม่นับกฎหมายเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ที่มีข้อห้ามอากาศยานขึ้นลง เพราะเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่า ในฐานะที่มีอาชีพซึ่งต้องนั่ง ฮ.บ่อยๆ ผมขอยืนยันว่ารบกวนธรรมชาติครับ ไม่ว่า ฮ.รุ่นนั้นจะทันสมัยขนาดไหน ก็ไม่ควรปล่อยให้ขึ้น-ลง บนภูกระดึง คุณๆคงรู้นะครับว่าเสียง ฮ. มันดังขนาดไหน .. แล้วจุดประสงค์ของเอกชนที่อ้างว่าต้องการนำคนสูงอายุขึ้นไปน่ะ คิดได้ไง ผู้มีอำนาจหน้าไหนหนอ .ดันไปอนุญาตได้ลงคอ .. แม้การใช้ ฮ.จะต่างการสร้างกระเช้า เพราะไม่ต้องลงทุนก่อสร้างอะไร แต่อย่างน้อยที่สุดอาจทำให้ธรรมชาติขาดความสมดุลย์.. ลองนึกภาพเราๆท่านๆกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศบนนั้น .แล้วมี ฮ.ร่อนลงมาซิครับ และอีกอย่างอากาศยานที่จะขึ้นลง ต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่กรณีเฉพาะจริง ๆ มีหลายพื้นที่ที่เมื่อ ฮ.บินลง ปรากฏว่า พวกสัตว์ป่า เก้ง กวาง แตกตื่นก็ยกใหญ่ ในหนังก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ..ไปหาดูกันได้ครับ .. อย่างช้างถ้าได้ยินเสียง ฮ.เมื่อใดจะวิ่งหางชี้ทันที ถ้าใครไม่เชื่อผม ลองไปถาม อ.สุรพล ดวงแข ดูได้ครับ อาจารย์แกเป็นเลขาฯมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ยังไม่นับนะครับว่ากิจกรรมลักษณะนี้ในอุทยานแห่งชาติ ตามกฏหมายจะต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งไม่ทราบว่าสิ่งที่อนุญาตกันไปทำกันไปแล้วหรือยัง .ใครรู้ช่วยตอบที โครงการนี้เป็นของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่จะนำเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ขนาด 2 เครื่องยนต์ ที่เขาคุยว่ามีความปลอดภัยสูง บรรจุผู้โดยสารเที่ยวละ 8 คน บินขึ้นจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านล่างถึงยอดภูกระดึง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที อัตราค่าบริการเที่ยวละ 2,000 บาทต่อคน ไม่เกี่ยวกับกระเช้าหรอกครับ .. แค่อยากจะบอกว่า . ใ ห้ ป่ า มั น เ ป็ น ป่ า เ ถ อ ะ ..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : ตุ้ม แม็คฯ - [ 17 ส.ค. 46 22:18:38 A:203.154.97.197 X:129.0.1.70 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมยอมรับว่าเฮลิคอปเตอร์สร้างปัญหาให้สัตว์ป่าจริง และขอคัดค้าด้วยอีกคน แต่ลองมาคิดดูดีๆ ถ้ามี """"" กระเช้าลอยฟ้า """"" คงไม่มีใครไปขึ้น เฮลิคอปเตอร์ เพราะมันแพง และ สาเหตุที่มีเฮิคอปเตอร์ เพราะว่า พวกท่านทั้งหลายมัวแต่คัดค้านกระเช้าลอยฟ้า อยู่เนี่ยะ เห็นหรือยัง เกิดอะไรขึ้น กระเช้าลอยฟ้า กับ เฮลิคอปเตอร์ อะไรมีผลเสียมากกว่ากัน จากคุณ : ตอง - [ 18 ส.ค. 46 08:39:08 A:203.149.14.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้ามีกระเช้าลอยฟ้า คงไม่มีใครไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์!!! โอว...หนาวเหลือเกิน...มาช่วยหน่อยแล้ววว คุณตองกำลังแย่!!! ถ้าคิดอย่างคุณตองต่อไปคงต้องสร้างบันไดเลื่อน เพราะถ้ามีบันไดเลื่อนคนก็ไม่ต้องขึ้นกระเช้า เนื่องจากมันแพงกว่า.... ไม่เอาทั้งกระเช้า ทั้งเฮลิคอปเตอร์ ใครไม่มีปัญญาขึ้นภูกระดึงด้วยสองเท้าไปได้ ก็อย่าขึ้นมันเลย ประเทศไทยไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เราไม่ปิดกั้นอยู่แล้ว ภูกระดึงก็ยังเป็นภู ใครอยากขึ้นเชิญ เราไม่ปิดโอกาสหรือมีกฎหมายห้ามอยู่แล้ว แต่เราจะไม่สร้างสิ่งแปลกปลอมให้กับป่าก็เท่านั้นแหละ อ้อ คุณตอง เราไม่ชอบข้อความนี้ของคุณเลย ให้ตายสิ... ถ้าไม่มีกระเช้าลอยฟ้า ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะไป มาเลย์ สิงคโปร์ ฯลฯ จะมีแต่ฝรั่งกระจอกที่ไม่ค่อยมีเงินเท่านนั้นที่จะเดินขึ้นภูกระดึง โดยต้องใช้เวลาท่องเที่ยวอีก 3-4 วัน กลับลงมาขาเดี้ยงไม่รู้มันจะกลับบ้านยังไง ก็ช่างหัวมัน... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 18 ส.ค. 46 08:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เดินขึ้นไม่ไหว เขาก็มีบริการ แบกขึ้นไปนี่ครับ นั่งเปลมีลูกหาบแบก4คน เที่ยวละ2000บาท 4คนแบ่งกันได้คนละ500 นี่แหล่ะ กระจายรายได้ของแท้ ทำไมไม่ไปใช้บริการมั่งล่ะครับ....มีบางช่วงต้องเดินเองบ้าง ก็ถือซะว่าออกกำลังกาย ดูแล้วอาจจะแปลก..แต่ก็ขึ้นถึงยอดภูได้เหมือนกัน เขามีทางเลือกให้แล้วสำหรับคนที่เดินขึ้นไม่ไหว....แต่ที่ทำกระเช้า เพราะว่าต้องการเงิน...เงิน...เท่านั้น ไม่มีเหตุผลอื่นใด.... แย้งคุณตองนิดนึง....เรื่องทุ่งดอกกระเจียว... คุณเคยเห็นคนที่ลงไปลุยถ่ายรูปกลางทุ่งดอกกระเจียว ทั้งๆที่เขาเขียนป้ายว่าห้ามลงมั๊ยครับ....นั่นแหล่ะปัญหาที่เรายังแก้กันไม่ได้... จากคุณ : @สนสามใบ@ - [ 18 ส.ค. 46 09:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กว่ากระเช้าจะเสร็จ.....ก็รวยกันทั่วหน้า ฝันไปเถอะว่าเมื่อสร้างกระเช้าแล้ว อะไรอะไรก็จะดีขึ้น คนไทยนิสัยยังไงต้องยอมรับข้อเท็จจริงอันนี้ด้วย เคยไปมาเมื่อ2ปีก่อนช่วงlongweekend เดินไปผาหล่มสัก กลับมาก็เกือบค่ำ พอเดินถึงลานกลางเต้นท์ เกือบหาเต้นท์ไม่ถูก สะดุดเชือกที่ปักดินอีกตางหาก ห้องน้ำหญิงไม่ต้องพูดถึง น้ำไม่ไหล ผ้าอนามัย ทิชชู่เต็มส้วม เหม็นมาก ต้องหน้าด้านไปต่อแถวอาบน้ำห้องน้ำชาย พวกเค้าก็ใจดีให้ต่อแถวด้วย ปวดปัสสวะ เดินไปในป่า แทบตกใจเจอคนนั่งแจกทองอยู่ ต่อไปนี้ภูกระดึงคงเต็มไปด้วยทองแน่ๆ ถ้ากระเช้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ ปรับปรุงน่ะทำได้แต่อย่าเปลี่ยนแปลงเลย จากคุณ : Pui&Yui - [ 18 ส.ค. 46 10:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอเคครับ ถามว่าผมผิดหวังกับเพื่อนร่วมชาติรึเปล่า ต้องบอกว่าบ่อยครั้ง ไม่ต้องเรื่องอนุรักษ์หรอก เรื่องน้ำใจเล็กๆน้อยๆในสังคม วันก่อนผมขึ้นรถไฟฟ้า (ยืน) เสร็จแล้วก็มีผู้หญิงท้องขึ้นมา ท้องนะครับ ท้องแบบท้องป่องเลยอ่ะ แต่ก็ไม่มีคนลุกให้นั่งเลย ทั้งผู้ชายตัวใหญ่ๆแข็งแรง และผู้หญิงที่ไม่ท้อง ทำเป็นนั่งทองไม่รู้ร้อนกันเป็นแถว ผู้หญิงท้องก็ยืนห้อยไปห้อยมานั่นแหล่ะเพราะเค้าตัวเตี้ยด้วย แล้วผมก็ผิดหวังตัวเองที่ไม่กล้าเดินไปแขกหัวไอ้เด็กวัยรุ่นคนที่นั่งโทรศัพท์เสียงดังหัวเราะกิ๊กกั๊กให้ลุกให้ผู้หญิงท้องนั่ง ผมได้แต่{^_^}เพื่อนร่วมชาติครับ และ{^_^}ตัวเองด้วยที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง เรื่องอนุรักษ์ น้ำตกพลิ้วนั่นแหล่ะครับ ที่นักท่องเที่ยวไทยทิ้งยางลงไปในน้ำจนไปคล้องหัวปลาเป็นแผล นักท่องเที่ยวนั่นแหล่ะครับที่ทิ้งขยะให้เจ้าหน้าที่ต้องตามเก็บ นักท่องเที่ยวนั่นแหล่ะครับที่ไปหักดอกกล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่ริมทาง แล้วก็แอบทิ้งไปเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ข้างหน้า ที่อ่าวมาหยาเกาะพีพี ขยะเยอะมาก ผมเดินไปเดินมาทนไม่ได้ พอดีเจอถุงดำขนาดใหญ่ถุงนึงผมเลยไล่เก็บขยะมาจนเต็มถุง เสร็จแล้วก็ล้างน้ำโยนขึ้นไปบนเรือที่เช่ามากะว่าเดี๋ยวจะเอาไปทิ้งที่รีสอร์ท (เพราะรีสอร์ทจ้างเรือไปทิ้งขยะบนฝั่งอีกที) พอมาถึงรีสอร์ทผมหาถุงไม่เจอ ถามคนเรือ ปรากฏว่าเค้าโยนทิ้งลงทะเลไปแล้วเพราะเห็นว่าเกะกะเรือ ขนาดคนท้องถิ่นนะครับ งานนั้นผมโวยคนเรือไปยกใหญ่และในที่สุดผมก็ไม่คิดว่าเค้าจะรู้สึกอะไร ขนาดคนที่เกิดตรงนั้น หากินตรงนั้น ยังไม่ช่วยรักษาเลย จะบ้ารึเปล่า ถามว่าสิ้นหวังก็สิ้นหวัง และดูถูกด้วย แต่ถามว่าความหวังมีรึเปล่า มันก็ต้องมีแหล่ะครับ ถ้ามีคุณมีผมที่คอยเอาถุงพลาสติกไปเก็บขยะที่คนอื่นตามทิ้ง ก็มีสองแล้วนี่ไง ในที่สุดคนไทยต้องได้สำนึกสิ ผมว่าแค่นี้เราก็มาไกลพอสมควรแล้วนะ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาผมว่าเราพัฒนาขึ้นมามากๆเลย แต่ถามว่าอีกกี่ปีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ถึงจะเป็นนักท่องเที่ยวชั้นดี อันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่ยังไงผมก็ยังมีความหวัง และก็จะทำในส่วนที่ผมทำได้ให้ดีที่สุดครับ http://www.siamensis.org จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 18 ส.ค. 46 10:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ร้อยพ่อพันแม่ ร้อยคนร้อยความคิด สรุป อยู่ที่คนมากกว่า ก็คนมันมักง่ายยังไงก็คงแก้ไม่หาย ให้โค ตร ดียังไงก็และ ตามเคย อย่าพูดว่าดียังโง้นดีอย่างนี้ สร้งแล้วดี ถุยยยยยยย อยากได้เงินมากกว่ามั้ง ป่าก็ให้มันเป็นป่าอย่างนั้นเถิด จะต้องไปโปรโมต ทำขี้เกลือ อะไร ว่าที่นี่สวยให้ทุกคนลองขึ้นไปดูนะ ถุยยยย ไม่อยากหยาบคายไปมากกว่านี้ จากคุณ : ข้าวหลามหนองมน - [ 18 ส.ค. 46 11:08:24 A:192.55.18.36 X:10.7.13.68 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เฮ้อ อ่านจบแล้วเหนื่อย ปีนขึ้นภูกระดึงก็เหนื่อย เดินจากที่พักไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ตก ก็เหนื่อย จะเดินเข้าป่าไปดูน้ำตก ไปถ่ายรูปกับต้นเมเปิ้ลก็เหนื่อย แต่ความสุขที่ได้รับจากธรรมชาติที่พอจะหลงเค้าของความบริสุทธิ์ ซึ่งต้องแลกกับอาการหอบแฮกๆ หน้าจืดเหลืองเหมือนคนเป็นดีซ่าน มันก็เป็นสุขดีนะที่เราสามรถพิชิตมันได้ ไม่เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้า อะไรที่ได้มาง่าย คนเรา(ไม่ว่าชาติไหน) มักไม่ค่อยเห็นค่า จริงมะ ดีจริงๆที่เห็น กลุ่มคน กลุ่มนึง มาถกกันเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ โต้แย้งเพื่อพัฒนาเย้ ประเทศไทย คนไทยจงเจริญ ขอให้ทุกคนรักกันมากๆๆนะคะ จากคุณ : เพื่อนชาวไทย - [ 18 ส.ค. 46 11:19:59 A:203.154.0.1 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 รักป่า รักธรรมชาติกันจัง เท่าที่ดูๆ ไอ้ที่ขึ้นๆไปกัน มากกว่า 50% ออกในลักษณะเป็นแฟชั่นซะมากกว่า ไม่งั้นจะดูเชย เกิดมาไม่เคยปีนภู ไม่เป็นนักอนุรักษ์ นักเดินป่า ฯลฯ ถ้ารักธรรมชาติกันจริงๆ ควรจะสนับสนุนให้เขาปิดไปทั้งปีเลย จะได้ไม่มีใครหน้าไหนขึ้นไปทำลายธรรมชาติ อันที่เป็นที่รักยิ่งดั่งดวงหฤทัย จากคุณ : Welcome to the real world - [ 18 ส.ค. 46 12:55:21 A:203.151.46.4 X:203.151.46.193 ]

ความคิดเห็นที่ 41 การเดินขึ้นภูด้วยเท้าเนี่ย มันก็คือ การเที่ยวภูกระดึงเหมือนกัน ถ้าสร้างกระเช้าแล้ว คุณก็จะไม่ได้สัมผัสธรรมชาติบริเวณทางขึ้น ธรรมชาติที่มีความแตกต่างกันระหว่างระดับความสูงจากท้องทะเล จากพืชที่ราบลุ่ม ไปพืชที่ราบสูง ... ถ้าคุณเดินขึ้น คุณก็จะได้สัมผัส ได้ศึกษาสิ่งเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 18 ส.ค. 46 13:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แวะมาอ่านค่ะ ไม่มีความเห็น ก็จะเดินขึ้น หรือ มีกระเช้าขึ้นก็คงไม่ได้ไปค่ะ เพราะภูกระดึงยังไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในความคิดของ trip การเดินทางได้แต่อาศัยดูของคนอื่น จากคุณ : เป็นได้แค่คนในฝัน - [ 18 ส.ค. 46 13:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ขอเถียงเจอหน้ากัน ต่อยกันดีกว่า เถียงสู้ไม่ได้โว๊ยยย จากคุณ : ข้าวหลามหนองมน - [ 18 ส.ค. 46 14:06:15 A:192.55.18.36 X:10.7.13.68 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตอบ คห.40 เท่าที่ดูๆ กัน พวกที่อยากขึ้นกระเช้ามันเป็นแฟชั่นมากกว่า ไม่งั้นจะดูเชย เกิดมาไม่เคยเหยียบภู ไม่เป็นนักพิชิต ไม่เป็น ฯลฯ กลัวเชย แต่อยากสบาย.... ในเมื่อคุณยกความคิดสุดโต่งมามั่ง ผมก็จะยกความคิดสุดโต่งมาให้คุณบ้าง ถ้าอยากสบายทำไมไม่นอนตีพุงที่บ้านล่ะ จะมาลำบากลำบนขึ้นภูอีกทำไม จะได้ไม่มีอะไรมาทำลายผิวพรรณอันแสดงถึงฐานะอันสูงส่งอันเป็นที่รักได้ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 18 ส.ค. 46 18:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ส่วนราชการในจังหวัด.... อบจ.....เขาอนุญาตให้สร้างได้มานานแล้ว นานเป็นปีแล้ว.. เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีใครไปลงทุนเท่านั้น... เช่นเดียวกับที่อนุญาตให้ ฮ. เปิดเส้นทางบินได้นั่นแหละ เขาอนุญาตมานานแล้วเพียงแต่ว่าเพิ่งจะเปิดเป็นทางการ... สรุปได้ว่ามีโอกาสสร้างได้ทุกเมื่อ ถ้ามีใครสนใจไปลงทุน.... ควรจะคิดกันต่อว่าถ้าสร้างแล้วจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือมีข้อเสียน้อยที่สุด การคัดค้านการสร้างลืมไปได้เลยครับ... จากคุณ : น้อย - [ 19 ส.ค. 46 09:37:57 A:202.133.172.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ได้ค้านคุณน้อย ค.ห.45 นะครับ เพียงแต่กลัวหลายคนจะตกใจนึกว่ากำลังจะทำกระเช้า ไม่ต้องกลัวครับ ตราบชั่วชีวิตผม ผมเชื่อว่าคงไม่ได้ทำหรอกเจ้ากระเช้าลอยฟ้าภูกระดึงเนี่ยะ ไม่ได้ดูถูกจังหวัดหรือ อบต. เขาหรอกน๊ะครับ แต่การทำโครงการใหญ่ขนาดนี้ แค่ระดับจังหวัดหรือ อบต.อนุมัติโครงการ ไม่มีธนาคารไหนในโลกเขาปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการหรอก ต้องระดับรัฐบาล ขนาดระดับรัฐบาลยังโดนยกเลิกโครงการมาเยอะแล้ว(ดูอย่างโฮปเวลตามทางรถไฟซิ) ถ้าระดับ อบต.ทำคงได้รถกระเช้าถูกๆ แบบที่ขึ้นเขาวังนั่นหละ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เขาก็คงไม่อนุมัติให้สร้างหรอก แค่จ้างบริษัทมาศึกษาโครงการและความเป็นไปได้สัก10กว่าล้าน อบต.ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ้างบริษัทศึกษาโครงการ เพื่อให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานอื่นๆ อนุมัติ ผมจึงรู้สึกเบาใจเรื่องสร้างหรือไม่สร้างอยู่นี่ไง นั่งอ่านประเด็นที่ถกกัน สนุกดี จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 19 ส.ค. 46 13:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านของคุณหมอนทองแท้ นี่น่าเชื่อมั้ยคะถ้าเชื่อได้ก็จะได้เบาใจว่าป่าก็จะยังเป็นป่า ภูกระดึงก็จะยังคงเสน่ห์ของมัน สัตว์ป่าจะได้ปลอดภัยจากเสียงรบกวน ขอแต่ว่าระหว่างที่ไม่มีกระเช้าอยากให้นักเดินทางทุกคนช่วยกันรักป่าให้ถูกที่ ถูกทางและถูกต้อง จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 19 ส.ค. 46 14:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณตองนี่อะไรก็เน้นแต่เรื่องเงินนะครับ ผมไม่เถียงหรอกว่ายุคนี้เป็นยุคที่เงินทำอะไรได้ แต่ ธรรมชาติ อยู่มาก่อนคน คนมาทีหลัง แต่ยึอเอาของเหล่านั้นมาเป็นของตัวเอง สัตว์อยู่ในป่า คนก็เข้าไปเอาป่ามาเป็นที่อยู่ เพราะมองเพียงว่ามันคือสัตว์ ไม่ได้มองว่าเขาเหล่านั้นก็เป็นผู้ที่มีสิทธิอาศัยอยู่ในโลกนี้เหมือนกัน ตึกรามบ้านช่อง หรือกระเช้าที่คุณอยากเอามาโกยเงินนั้นสร้างง่ายครับ มีเงินก็ทำไป แต่ป่า และธรรมชาตินั้น ผมให้คณใช้เวลาทั้งชีวิตคุณก็ไม่มีทางทำให้กลับคืนมาได้ หรือจะเอาเงินที่ได้จากกระเช้าสารพัดประโยชน์มาใช้ ก็ไม่มีทางทำให้กลับมาได้หรอกครับ คุณจะมาบอกแนวทาง 3 ข้อ อะไรของคุณนั่น ผมอ่านแล้วไม่มีน้ำหนักเลย 1. ภูเก็ต กับ ภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวคนละแบบกันนะครับ ภูเก็ต มีความเป็นเมืองมีคนไปตั้งรกรากอยู่อาศัย บุกเบิกทำกินมานานแล้ว ลองไปศึกษาประวัติศาสตร์มาซักหน่อยก็จะดี การเปลี่ยนแปลงในแบบที่เหมือนกันย่อมสร้างผลกระทบได้น้อยกว่า ส่วนภูกระดึง มีสภาพเป็นป่ามาก่อน การเข้าไปสร้างสิ่งก่อสร้างทั้งหลายในภายหลังย่อมมีผลกระทบรุนแรงต่างกันมากนัก 2 คุณมองภูกระดึงเป็นสินค้า ในลักษณะคล้ายกับเป็นสวนสนุก ที่ใครจะไปจะมากี่เที่ยว กี่รอบก็ได้ แต่ ป่า กับ ตึก มันก็ต่างกันอีก คุณเอาเท้าเหยียบซีเมนต์ กับเหยียบหญ้า ผลที่ออกมาก็ต่างกันแล้ว ถ้าบ้านคุณมีสนามหญ้า ผมแนะนำให้คุณไปเดิน เอาแบบเดินซ้ำในเส้นทางเดียวกัน เอาแค่วันละ 10 รอบ ไม่กี่วันหญ้าก็ตายเป็นทางแล้วครับ แล้วนับประสาอะไรกับทางที่คุณคิดจะให้คนไปเดินวันละเป็นไม่รู้เท่าไหร่ แล้วข้อนี้ยังโยงไปถึงข้อ 3 ที่คุณกล่าวอ้างอีกด้วย 3 ทางเดินที่ป่าหินงามนั้น มีป้ายแสดงไว้ชัดเจนว่าห้ามเดินลงไปในทุ่งดอกกระเจียว แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นน่ะสิครับ คุณจะเอาแค่ว่าเค้าเขียยนไว้แล้วก็แล้วกันเหรอไงครับ ขับรถกันทุกวันนี้ยังฝ่าไฟแดง ข้ามถนนไม่ตรงทางม้าลาย ไม่ข้ามสะพานลอย ถามครับว่าไม่รู้รึครับว่าเค้าห้าม รู้กันทั้งนั้นแต่ไม่ทำ โทษหนักกว่าที่ทุ่งกระเจียวอีกครับ แล้วนับประสาอะไรกับป้ายแค่นั้น ผมไปผมก็เห็นวิ่งลงไปโพสต์ท่าถ่ายรูปกันเป็นแถว ในเมื่อความรับผิดชอบยังอยู่ในระดับแบบนี้ หวังเอาแต่สะดวกสบายแบบนี้อย่างไร้ความรับผิดชอบ ผมจึงเห็นการสร้างกระเช้ามีแต่จะเป็นการเร่งทำลายธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นผลเสียมากกว่าเม็ดเงินที่คุณตองหวังว่าจะเป็นรายได้เพื่อการพัฒนาซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างผิดๆ ต่อไป ทุกวันนี้คุณหายใจเป็นเงิน หรือหายใจเอาอากาศเข้าปอดอยู่ครับ จากคุณ : เอ้ (คงไม่ซ้ำแล้ว) - [ 19 ส.ค. 46 14:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ก็เพราะบ้านเมืองมีคนแบบนี้แหล่ะชาติถึงได้เจริญจนเป็นแบบนี้ อยากสร้างก็สร้างเถอะ ผมรู้คนที่ไม่อยากให้สร้างจะพูดยังไงมันก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ผมอ่านกระทู้นี้มาตั้งเยอะต่างคนต่างมีเหตุผล เฮ้อ!!!~ คิดไปก็เท่านั้น 1. ผมไม่คิดว่าคุณ nick ดูถูกคนไทย เพราะตัวผมเองก็คิดเหมือนคุณ nick พวกคุณไม่ต้องคิดมาก หลับตาแล้วนึกดูว่าคนไทยเป็นยังไง ไม่ต้องมาบอกว่าถ้าไม่เริ่มก็จะไม่มีวันแก้ได้ มันไม่ได้แก้กันง่ายๆหรอก ทุกคนมันก็รู้ๆกันอยู่ สังคมต่างหากที่จะพาไป ไม่ใช่แค่ไอ้ตรงนี้แล้วจะทำได้หรอก ปัญญาอ่อน... 2. ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าใครๆก็รักภูกระดึง มันก็เห็นๆกันอยู่ ทำแล้วปัญหามีไหม ควบคุมได้แค่ไหน ถามอีก แล้วตอนนี้ปัญหามีไหมก็ตอบว่ามี แล้วควบคุมได้แค่ไหน ความคิดง่ายๆมีหรือเปล่า คิดง่ายๆไม่ใช่คิดมักง่าย ก่อนทำ---> ปัญหามีอะไร แก้ได้แค่ไหน หลังทำ---> จะเกิดปัญหาอะไร ควมคุมได้ไหม อะไรคุ้มกว่า...หา!!!~ คุณ nick คุณทำดีที่สุดแล้ว ผมก็ทำได้แค่นี้แหล่ะ จากคุณ : [[[tex]]] - [ 19 ส.ค. 46 14:40:03 A:202.3.71.26 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 แวะมาดูกระทู้นี้รอบที่ 3 บอกได้อย่างเดียวว่าภูเปลี่ยนไปมากจากที่เคยเห็น กระเช้าจะมีหรือไม่มีก็ช่าง ฮ.น่ะเขามีของทหารขึ้นลงเป็นประจำในสมัยก่อน แต่ไม่ได้ขึ้นทุกวัน อาทิตย์ละหน สองอาทิตย์หน บนเส้นทางที่ยาวไกล น้ำตกต่างๆ ความลื่นความชัน ไม่ไปนั่งพัก ไม่ไปนั่งดู ก็ไม่ทราบว่าจะไปทำไม ผมจะลากสังขาร ถ้าผมยังมีแรง และมีโอกาสไป ... ถ้าสังขารไม่ให้ก็ ไม่ขอขึ้นไปอีกครับ จากคุณ : ซุปฮ้อมหอม - [ 20 ส.ค. 46 02:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ท่านที่คัดค้านทั้งหลาย เชิญแสดงกึ๋นหน่อย ปัญหาขยะและอุจาระที่พวกท่าน อนุกรักษ์ไว้บนดอยหลวงเชียงดาว พวกคุณมีกึ๋นพอจะแก้ไขได้หรือเปล่า เห็นมีแต่พวก ชอบด่า แต่ไม่มีกึ๋น จึงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ อีกไม่นานภูกระดึงก็จะถูกคนแห็นแก่ตัวพวกนี้ ขึ้นไปกินเหล้า และแห กก ปากร้องเพลง เป็นที่สนุกสนาน จริงหรือเปล่า เจ้าแก้วพิศดาร มีกึ๋นพอจะตอบคำถามนี้หรือเปล่า จากคุณ : ตอง - [ 20 ส.ค. 46 08:45:17 A:203.149.14.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาฟันธงเลยดีกว่า ทุกคนว่างๆ มาเจอแล้วกินเหล้ากันหน่อยเป็นไง ไม่อยากออกความเห็นแล้ว เหตุผลดีทุกคนเลยน่ายกย่อง จากคุณ : ทอนนี่ - [ 20 ส.ค. 46 09:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผมว่าคุณตองนี่ท่าจะบ้านะครับ(ขอโทษที่คิดแบบนั้น) สร้างกระเช้ากับขี้บนดอยหลวงฯนี่มันต่างกันนะครับ อีกอย่างคุณดูง่ายๆนะ คนขึ้นดอยหลวง กับคนขึ้นภูกระดึงนี่ต่างกันฟ้ากับเหวนะครับ คุณพูดมาก็ดี ผมว่านะดอยหลวงไม่เจริญแบบนี้นะดีแล้ว แต่วันหนึ่งก็คงเป็นแบบภูกระดึงอยู่ดีว่าไหม.... จากคุณ : [[[tex]]] - [ 20 ส.ค. 46 10:02:53 A:202.3.71.26 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 คห.51 ปัญหาขยะ.. กับเรื่องอุจจาระเนี่ย มันเกี่ยวกับกระเช้าไหมครับ???? มันเกี่ยวกับเรื่องที่เราถกเถียงกันหรือไม่ ถ้าไม่แล้ว.. จะยกมาพูดทำไมครับ หรือว่าถ้าสร้างกระเช้าแล้ว จะแก้ปัญหาพวกนั้นได้??? จะทำให้คนอั้นอึนั่งกระเช้าลงมาอึข้างล่างได้ จะทำให้คนไม่ทิ้งขยะเรี่ยราดตามทางเดิน??? ก็ไม่เห็นว่ามันจะแก้ปัญหาได้เลยนี่ครับ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 20 ส.ค. 46 12:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เจ้าแก้วพิศดารครับ โครงการนี้ถ้ารัฐบาลอนุมัติโครงการ มันก็คงต้องเกิดครับ แต่เท่าที่ทราบ ตอนนี้เขาไม่มองที่ภูกระดึงแล้วครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นนายกฯมาเลซีย พานายกฯ ไทย นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่เกาะลังกาวี ทีแรกก็ตกใจเหมือนกัน นึกว่าเขาไปศึกษาโครงการกันหรือนี่ แต่เผอิญนึกได้ครับ เดือนก่อนไปนอนคุยกับเพื่อนๆ ที่ทำรีสอร์ทอยู่เกาะช้าง เขาเล่าให้ฟังว่า ขอย้ำน๊ะครับ เขาเล่าว่า จะมีการทำกระเช้าจากฝั่งไปทีเกาะแถวรีสอร์ทชื่อ อ... ขอใช้ชื่อย่อหน่อย เห็นกำลังฮิตกัน แต่ข่าวนี้อย่าไปเชื่อกันเลยครับ ไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร ไร้สาระ ส่วนเจ้าแก้วฯ และท่านอื่นๆ ถ้ามีความคิดที่คัดค้านก็ทำหน้าที่ด้วยเหตุและผลต่อไปเถอะครับ ส่วนคนที่สนับสนุนให้สร้างก็สนับสนุนด้วยเหตุและผลต่อไปเถอะครับ แต่ประเภทที่ต้องสร้างให้ได้เหมือนกับต้องใช้กระเช้าลอยฟ้าเป็นกิจวัตรประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด หรืออะไรที่มันรุนแรงขนาดนั้น ผมว่าปล่อยให้คนที่มีเเหตุผลสนับสนุนที่ดีมาแสดงความคิดเห็นดีกว่าครับ จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 20 ส.ค. 46 13:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณตองคะ เราอาจจะอ่านไม่ละเอียดพอ แต่เราไม่เข้าใจว่าที่คุณเอาดอยหลวงเชียงดาว มาพูดเปรียบกับภูกระดึงอย่างไร ปัญหาเรื่องขยะ บนดอย/ภู อยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนมากกว่า แต่เราว่าส่วนใหญ่คนเที่ยวภูเที่ยวดอย ที่อุตส่าห์ใช้เวลามากมายปีนป่าย (อย่าง ดอยหลวงเชียงดาว ที่เราไม่เคยไป) น่าจะเป็นพวกรักษ์ป่ามากเกินกว่าจะทิ้งอะไรไว้ ส่วนปัญหาอุจจาระบนดอยหลวงเชียงดาวเราไม่ทราบ แต่สงสัยว่าคุณมีอะไรหรือเคยไปเหยียบของใครไว้หรือเปล่า... เรากำลังพูดถึงปัญหาของการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ไม่ใช่หรือคะ สาเหตุที่ตัวเราคัดค้านกระเช้า เพราะกระเช้าจะเป็นส่วนสนับสนุนให้คนเดินทางขึ้นไปง่าย และเมื่อเดินทางง่ายคนจะแห่กันมาขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เราแค่สงสัยว่า แล้วถ้าคนขึ้นไปเยอะจะจัดการอย่างไร มีระบบอะไรมารองรับ นอกจากนี้เรื่องปัญหาคน คุณอย่าลืมปัญหาสัตว์ป่าที่จะได้รับผลกระทบอีกด้วย จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 21 ส.ค. 46 10:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ผมอยากเขียนได้อย่างคุณ NICK เหลือเกิน ผมเห็นกระทู้นี้ก็คาดหวังว่าจะเป็นที่ปลูกฝังจิตสำนึก พอได้อ่านความเห็นคนที่มาเถียงแล้วเนี่ย หมดหวังจริงๆ ครับ การแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องอีกหลายปีครับ อาจเป็นสิบๆ ปี ต้องมาเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ครับ เราไม่ได้เห็นผลตอนนี้ แต่รุ่นลูกรุ่นหลานต้องได้ผลแน่ "การสร้างกระเช้าคือการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน" ผมว่า การสร้างกระเช้าคือการทำลายที่ยั่งยืนครับ จากคุณ : dog mulder - [ 21 ส.ค. 46 15:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าอยากจะอนุรักษ์ธรรมชาตืก็ควรที่จะปรับปรุงนิสัยคนไทยบางพวกซะก่อนให้ลดความมักง่าย(ทำบ้านเมืองสกปรก)และเห็นแก่ได้ (ขาดความเกรงใจผู้อื่นและนึกจะทำอะไรก็ทำ) การสร้างกระเช้าน่ะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่านิสัยคนหรอก ขอย้ำนะคะว่าบางพวก คนไทยที่ดีๆก็มี จากคุณ : เด็กศิลป์ - [ 21 ส.ค. 46 17:42:41 A:203.146.150.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 สำหรับคนพิกาล จะได้เที่ยวภูกระดึงถ้าไม่มีกระเช้า จากคุณ : ผ่านมาเหมือนกัน - [ 21 ส.ค. 46 18:52:54 A:203.113.61.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 AGREED WITH K.NICK For K.Tong Open your mind Lower your ego Listen to others IMO, the environmental issue is what we, i mean human not only Thai, need to really care about. Every activity that affect the environment should be extremely well considered eventhough it can make a lot of money. Look at the heat wave phenomemon in Europe last 2 weeks. WHAT'S GOING ON!? more than 3,000 people were killed by the changes in our environment. จากคุณ : migzilla@hotmail.com - [ 21 ส.ค. 46 18:53:45 A:213.122.105.237 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมไปภูกระดึงมาหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อตอนก่อนปิดภู บรรยากาศสงบดีมาก มีนักท่องเที่ยวอยู่ข้างบนไม่น่าจะเกิน 50 คน ผิดกับช่วงเทศกาลลิบลับ ผมเห็นด้วยกับคุณนิค เราจะมาเอาระเบียบวินัยอะไรกับคนไทย ขนาดมีถังขยะให้ยังทิ้งไม่ลงถัง ไม่ใช่ว่าจะดูถูกคนไทยด้วยกันเองหรอก แต่เป็นการรู้จักดีเสียมากกว่า สร้างกระเช้าขนคนขึ้นไปเยอะๆ คนเยอะก็ขยะเยอะครับ และ การเอาถังขยะมาตั้งไม่ใช่การแก้ไขปัญหาทั้งหมด มีหลายครั้งระหว่างทาง ที่ผมเจอมูลช้างมีเศษถุงพลาสติกปนอยู่ เพราะสัตว์ป่าซึ่งไม่ใช่ช้างเพียงชนิดเดียว ไปคุยหาเศษอาหารที่เราทิ้งไว้ตามถังขยะที่ตั้งไว้ตามรายทางนั่นแหละ บางครั้งก็กินถุงพลาสติกเข้าไปด้วย ดูแล้วแทบไม่ต่างไปจากหมาในเมือง ผมคุยเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าช้างไม่ค่อยเป็นไร กินถุงพลาสติกเข้าไปแล้วยังขับถ่ายออกมาได้ แต่ถ้าเป็นพวกกวางมันจะไปอุดตันที่ลำไส้ ตายไปหลายแล้วตัวเหมือนกัน แต่เราไม่รู้ข่าวกันเอง จากคุณ : samiyo - [ 21 ส.ค. 46 20:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โอว.... มองไปยังป่าเขา เจอกระเช้าเข้า แย่เลย กลายเป็นสิ่งแปลกประหลาด ผุดขึ้นมา ไม่ไหวๆ จากคุณ : โต - [ 21 ส.ค. 46 21:30:08 A:203.118.92.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 เสน่ห์ของภูกระดึงส่วนหนึ่งอยู่ที่......... มิตรภาพที่ก่อเกิดขึ้นระหว่างสถานการณ์แห่งความยากลำบากการปีนป่ายไปสู่ยอดภูกระดึง ความแข็งแกร่งของจิตใจตนเองที่ต้องต่อสู้กับความสู ความเหนื่อย ล้า ของร่างกาย ความท้อถอยถายในจิตใจของตนเอง และการสัมผัสความงดงามของป่า ของจิตใจที่ถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ คนที่เคยขึ้นภูกระดึง..จะสามารถรับรู้ได้ด้วยจิตวิญญานของเขาเอง อย่าทำลายเสน่ห์ของภูกระดึงเลยครับ เก็บเอาไว้ให้ลูกหลาน ได้มีโอกาสสัมผัสเถอะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่สนับสนุนให้มีการสร้างกระเช้าครับ จากคุณ : ขึ้นภูกระดึงมาแล้ว 5 ครั้ง - [ 21 ส.ค. 46 22:24:00 A:203.159.0.14 X:203.159.13.107 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สนับสนุน คุณ NICK เพราะเอาแค่ว่า อบรม แนะนำนักท่องเที่ยวก่อนที่จะขึ้นภู ทุกคน ก็ไม่ทำ (เคยทำแต่ ปัจจุบัน รู้สึกว่าจะไม่ทำแล้ว) ผมเห็นว่า การอบรม แนะนำ และรณรงค์ นักท่องเที่ยวก่อนขึ้นภู หนะ ได้ผลจริง ไม่มากก็น้อย เนื่องจาก นักท่องเที่ยวได้ฟังแล้ว (แม้จะไม่ตั้งใจนักก็ตาม) จะมีจิตสำนึกที่รู้ว่า อย่างน้อย ที่แห่งนี้นั้นเป็น ที่สาธารณะ ทุกคนควรจะร่วมกันถนอม จากคุณ : ท้องฟ้า - [ 21 ส.ค. 46 22:27:38 A:203.156.6.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 เคยไปเที่ยวภูกระดึงครั้งนึงครับ ที่ทึ่งสุดๆคือขาลง ผมเดินสวนกับคนครับ คนนั้นเขาพิการครับ เขาท่าทางเป็นโปลิโอ ขาลีบข้างนึง มีไม้เท้าช่วยยัน ส่วนอีกคนก็พิการเหมือนกันแต่เป็นอะไรจำไม่ได้ อยากบอกว่า ถ้าคนพิการหรือคนแก่เขาตั้งใจจริง ไม่จำเป็นต้องพึ่งกระเช้าเลย ผมอยากไปเที่ยวแคนาดา แต่ผมไม่มีเงิน ผมไม่เห็นอยากจะเรียกต้อง ตะบี้ตะบันให้รัฐบาลออกทุนแก่คนไม่มีเงินให้เที่ยวที่ไหนก็ได้ในโลกเลย เพราะผมรู้ตัวดีว่า ผมไม่สามารถหาเงินเทียวเองได้ ผมก็เทียวเมืองไทย บ้าเปล่า เอาคนแก่คนพิการมาอ้าง เรื่องของเรื่องมันก็มีแค่เงินเท่านั้นล่ะ อย่าเถียงเลยดีกว่า หน้ามือตามัวสนับสนุนไปกันใหญ่ ส่วนเรื่องของเสียที่ถ่ายออกมานะ ขนาดคนน้อยๆ ยังจัดการไม่ดีเลย ถ้าคนขึ้นไปสะดวก หวังไปเถอะว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้ รู้ๆอยู่ข้าราชการไทย(บางคน) ของบซื้อส้วมที่ละเป็นแสน แต่เงินที่จะไปสร้างจริงๆเหลือไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็น คุณคิดเหรอว่า ถ้าสร้างกระเช้าแล้ว จะมีการกระตุ้นให้สร้างห้องน้ำดีๆนะ ข้าราชการคนนั้นเป็นพ่อคุณเหรอ จะได้กระทุ้งทุกวันว่า ลูกไปเถียงกับคนในเนตตั้งเยอะ พ่ออย่าอมเงินนะ หรือว่าให้เอกชนทำ เป้าหมายหลักของการทำธุรกิจคือลดต้นทุนเพิ่มกำไร คิดว่าเอกชนจะบ้าลงทุนสร้างส้วมดีๆแพง ให้คนใช้แล้วเก็บเงินคนล่ะห้าบาทสิบบาทเหรอ มันก็สร้างแบบง่ายๆกันอุจาด ส้วนสิ่งปฎิกูลมันก็ฝังๆ แถวนั้นล่ะ ดีไม่ได้ มันไปทิ้งเรี่ยราดเลย ที่ไหนความเจริญเข้าไปถึงนะ ธรรมชาติมีแต่เสื่อมโทรม หรือคุณว่าไม่จริง ว่ามนุษย์นั้นล่ะ ตัวทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรม และคนที่สนับสนุนก็คือ อ้ายคนประเภทนี้แหละ จากคุณ : มีสมองเหมือนมด - [ 21 ส.ค. 46 23:32:04 A:203.148.252.237 X:210.203.185.181 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมขอตอบคุณตองในประเด็นปัญหาสิ่งปฏิกูลบนดอยเชียงดาว ดอยเชียงดาวนั้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ แต่เพื่อรักษาพื้นที่ไว้ให้คงความบริสุทธิ์และหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ป่าและพรรณพืชตามธรรมชาติ สำหรับการศึกษาและการวิจัยต่างๆที่ให้คุณประโยชน์อย่างไม่อาจประเมินค่ารวมทั้งเป็นมรดกของชาติที่น่าภูมิใจของทุกคนด้วย ดังนั้น ทางเขตฯจึงอนุญาตให้ขึ้นไปบนดอยเชียงดาวในรูปแบบของการศึกษาธรรมชาติ ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นเพียงการใช้ข้อความในหนังสือขออนุญาตเท่านั้นเอง ทั้งนี้ นอกจากเพื่อสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวแล้ว ที่สำคัญเป็นการส่งเสริมให้ราษฎรโดยรอบมีรายได้ เป็นการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าที่ได้ผลดีพอสมควรทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทางเขตฯก็ยังคำนึงถึงหลักการความเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าให้มากที่สุด ปัญหาอมตะของการท่องเที่ยวที่นี่ก็ไม่ต่างกับที่อื่นๆที่เรามักพบเห็นกันจนเป็นที่เอือมระอา แต่เนื่องจากเหตุผลดังข้างต้นทำให้ทางเขตฯมีข้อจำกัดและหลีกเลี่ยงในการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆอันไม่สมควรหรือเป็นที่ยอมรับ แม้แต่ถังขยะหรือห้องส้วมไว้รองรับนักท่องเที่ยวบนดอยเชียงดาว สิ่งที่ทางเขตฯทำได้คือการกำหนดระเบียบต่างๆ จำกัดจำนวนคน บริเวณพักแรมและพื้นที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเพิ่มการตรวจตราของ จนท.อย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะไม่มีการพบสิ่งปฏิกูลโดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทั้งนี้เพราะ การพัฒนาจิตสำนึกในการท่องเที่ยวไม่ว่าที่นี่หรือที่ใดก็ตามยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่ปัญหาดังกล่าวที่ดอยเชียงดาวกำลังได้รับการตอบสนองและมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ในระยะหลังนี้ มีผู้ประกอบการหลายรายมักมีเต็นท์และโถส้วมไว้บริการและมีการจัดเก็บขยะ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไปกันเองมีการจัดเก็บขยะและกลบฝังอุจจาระตามคำแนะนำของ จนท. รวมไปถึงการกระจายตัวของสิ่งปฏิกูลเริ่มลดน้อยลงเพราะการจำกัดการท่องเที่ยวดังกล่าว สำหรับการสร้างกระเช้าไฟฟ้าไม่ว่าที่ดอยเชียงดาวหรือที่ภูกระดึง นอกจากไม่ใช่ทางออกของปัญหาสิ่งปฏิกูลเหล่านี้แล้ว ผมมั่นใจว่าต่อไปในไม่ช้าจะกลับกลายเป็นการสร้างปัญหามากมายทับถมลงปัญหาที่มีอยู่เดิมหนักยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเราหวังพึ่งพาเทคโนโลยี่ในการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวมากจนเกินไป แทนที่จะแก้ปัญหาจากพื้นฐานของจิตสำนึกในการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญครับ จากคุณ : เกรียงไกร - [ 21 ส.ค. 46 23:47:39 A:203.113.51.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณตองยังไม่ได้ตอบเลยนะครับว่า สร้างกระเช้าแล้วคนที่ขึ้นไปเขาจะไปเที่ยวสถานที่ต่างๆบนภูกระดึงยังไง ผมขึ้นภูฯมาเป็นสิบปี ปีนี้ก็จะไปอีก ก็เพราะกลัวกระเช้านี่แหล่ะครับ ถ้าเป็นได้ผมว่านะสร้างกระเช้าเสร็จผมว่าผมจะไปขอทำวินรถสองแถวเล็กรับคนเที่ยวสถานที่ต่างดีไหม.... แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นครับ!!!! จากคุณ : [[[tex]]] - [ 22 ส.ค. 46 10:13:28 A:202.47.247.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยกับคุณนิคครับ เขาไม่ได้ดูถูกคนไทยหรอก แต่เขาเอาความจริงมาพูด ความจริงส่วนใหญ่ที่ทุกๆ คนเห็นกันอยู่ บ้านเมืองเราเรื่องระเบียบวินัยยังขาดแคลนกันมาก อย่าว่าแต่อารมณ์จะอนุรักษ์ธรรมชาติเลย ชีวิตประจำวันยังขาดแคลนกฎระเบียบมาก คุณเห็นไหมตอนช่วงเช้าๆ รถติดๆ น่ะ ขับทับเส้นเหลืองกันหน้าตาเฉย บางครั้งไฟเขียวแต่ข้างหน้ามันติดข้าก็จะไป นี่แหละไทยแลนด์ แล้วพอกลับมาดูนิสัยการท่องเที่ยวของเรา จะไปแบบแห่แหนกันไป แล้วคนก็เยอะแยะควบคุมไม่ได้ขาดจิตสำนึก เละเทะไปหมด ผมเคยไปอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง มีกล้วยไม้เต็มไปหมดเราก็กะว่าตอนเช้าๆ จะมาถ่ายรูป แต่เชื่อไหมครับ มีทัวร์ไฮโซมาลง เท่านั้นแหละ ตอนเช้ากล้วยไม้รองเท้านารีหายไปทั้งช่อเลย เจ้าหน้าที่นี่ยังโมโหเลยว่า เขาอุตส่าห์ดูแลอย่างดีไว้ให้เรานักท่องเที่ยวดู แต่กลับเป็นว่าเราไปทำลายมันเอง ย้ำว่าไม่ใช่ฉิ่งฉับทัวร์นะ ทัวร์ไฮโซแต่งตัวดีมีเงินมีความรู้ยังเป็นแบบนี้เลย แล้วเรื่องที่คุณนิคบอกว่าส่วนใหญ่ขาดจิตสำนึกในการท่องเที่ยวนั่นจริงหรือเปล่าลองคิดเอา อย่าบอกนะว่าไม่เคยเห็นคนซี้ซั๊วทิ้งขยะในที่ท่องเที่ยวน่ะ ผมก็เป็นคนไทย ขณะที่พูดผมก็รู้ว่าผมด่าตัวเองไปด้วย แต่ผมยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้เอาอุดมการณ์ อะไรมาปิดตาทำให้ไม่เห็นความจริง บางอย่างต้องติเพื่อก่อครับ รับรู้เพื่อแก้ไขหรือปรับปรุง ไม่ใช่ว่าไม่รับรู้คิดว่าที่ทำอยู่นี่ถูกแล้ว ส่วนเรื่องกระเช้าจะสร้างหรือไม่สร้างไม่สำคัญหรอก เพราะถ้าเงินถึงแล้วคนมันจะสร้างเราไปห้ามไม่ได้หรอกครับ ห้ามคนพวกนี้ห้ามหมาเห่ายังง่ายกว่าเลย จากคุณ : โฮ่ง..โฮ่ง - [ 22 ส.ค. 46 11:28:35 A:203.107.202.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 ชอบความเห็นที่ 48 กับ 57 มาก ผมเคยดูสารคดีเรื่องเกี่ยวกับประเทศภูฏานตอนที่เรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีประโยคประโยคนึงที่ยังทำให้ผมประทับใจจนวันนี้คือ "ประเทศทั้งหลายในโลกนี้วัดความอยู่ดีกินดีของประชาชน กันด้วยตัวเลข GDP แต่รัฐบาลประเทศภูฏานวัดความอยู่ดีกินดีของประชาชน ด้วยความสุขของประชาชน" ใช้ชีวิตกันอย่างพอเพียงเถิดครับ อย่าเห็นแก่เงินกันมากเกินไปเลย จากคุณ : วิกาล - [ 22 ส.ค. 46 13:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นด้วยกับคุณนิคและทุกท่านที่มีใจหวงแหนมรดกของชาติและของโลกครับ จากคุณ : นายกถา - [ 22 ส.ค. 46 17:53:29 A:203.150.206.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 Totally agree with Khun NICK. For khun Tong, you must already see the answer na krub. Just think of it how the rubbish and shit at Chiang Dao related with Phu Kradung issue. จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 22 ส.ค. 46 19:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เคยไปเดินบนภูกระดึงกับลุงที่เจอกันข้างบน อายุไม่น่าจะต่ำกว่า65 แล้วยังเดินได้เก่งมาก คิดว่าคนที่อายุมากแต่อยากไปถ้ารักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็น่าไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพากระเช้า อีกอย่างบนภูที่เที่ยวแต่ละแห่งก็ต้องเดินกันไกลๆทั้งนั้น ถ้าบอกว่าจะประหยัดแรงเก็บไว้เดินเที่ยวในตอนนี้ก็มีลูกหาบรับจ้างแบกนั่งเสลี่ยงนี่สำหรับคนที่ปีนป่ายทางขึ้นที่ค่อนข้างชันมากไม่ไหวอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งนะภูกระดึงมีเสน่ห์ตรงการเดินขึ้นนี่แหละ ขึ้นไปถึงยอดแล้วได้ถ่ายรูปกับป้าย คุณคือผู้พิชิตภูกระดึง ไม่เห็นด้วยกับคำถามของคุณตองเรื่องการกำจัดขยะและสิ่งขับถ่ายต่างๆนะ ปัจจุบันนี้ถึงจะมีหรือไม่มีกระเช้ามันก็เป็นปัญหาอยู่แล้วล่ะ แล้วถ้าสร้างกระเช้าคิดหรือว่าคนสร้างจะเอากระเช้ามาขนขยะ คงไม่มีทางแค่ขนคนก็คงไม่ทันแล้ว จากคุณ : jk016 - [ 22 ส.ค. 46 20:53:51 A:203.113.80.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 กรุณาอย่าทำลายภูกระดึงด้วยการสร้างกระเช้าเลย... ลูกหาบขาดอาชีพ การทำลายธรรมชาติจากการสร้างกระเช้า ปัญหาขยะ (อยู่บนกระเช้าก็ทิ้งมันลงข้างล่าง .. ใครล่ะจะคอยเก็บ) ฯลฯ เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้... อย่าเลย ขอล่ะ...เสน่ห์ของภูกระดึงก็คือหยาดเหงื่อนั่นแหละ จากคุณ : อาซิ่ม - [ 22 ส.ค. 46 21:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยกับท่านที่ไม่ต้องการให้สร้างกระเช้าทุกท่านครับ จากคุณ : สมันน้อย - [ 23 ส.ค. 46 01:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 75 คิดว่าเสน่ห์ของภูกระดึงอยู่ที่การเดินขึ้นไป ถ้าไปถึงง่ายๆ จะไปเพื่ออะไร ถามว่าวิวสวยหรือ ผมว่าวิวบนนั้นมันก็สวยงั้นๆ ทางเหนือสวยกว่าตั้งเยอะ การสร้างกระเช้าพาคนขึ้นทำให้ภูกระดึงหมดความหมาย ถ้าอยากสร้างกระเช้าก็สร้างเพื่อขนของสิ ขนขยะลงมา คุณนิคเขียนมาดีแล้ว คุณตองติงต๊อง จากคุณ : ต๊องตอง - [ 23 ส.ค. 46 04:43:26 A:203.107.206.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่เห็นด้วยที่จะสร้างครับ เหตุผลก็ตามท่านๆที่บอกมา ไม่อยากพูดอีก มันยาวและซ้ำ ส่วนการให้ความคิดเห็นแบบคุณตอง บ้านผมเรียกว่า "ตะแบง" ครับ จากคุณ : บ่เบี้ย บ้านไพร - [ 23 ส.ค. 46 10:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เกลียดจังพวกหัวโบราณเนี่ย โลกเขาไปถึงใหนแล้วทำเป็นเอาสิ่งแวดล้อมกับการอนุรักษ์มาอ้าง ลองมองย้อนไปดูตัวคุณเองบ้างเถิด ที่บ้านมีที่บำบัดน้ำเสียไหม กำจัดขยะยังไง ขับรถปล่อยควันเสีย ทิ้งขยะไม่เลือกที่ เห็นดอกไม้สวยก็หาซื้อมาปลูกแล้วก็ตายเพราะไม่รู้ชีววิทยาของมัน นี่หรือที่เรียกว่านักอนุรักษ์นิยม(นิยมในสิ่งที่ผิด) การสร้างกระเช้าไม่จำเป็นต้องส่งผลเสียเสมอไปนี่ครับ เขามีทีมสำรวจต่อระบบนิเวศน์โดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย ซึ่งอาจารย์เหล่านั้นก็สอนเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ไม่เห็นจะน่าเป็นห่วงตรงใหนเลย สัตว์ป่าที่ภูกระดึงก็มีไม่กี่ชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์กินหญ้า เพราลักษณะของป่าเห็นแบบป่าสน และทุ่งหญ้า และลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเขาก็ไม่มีอาณาเชตเชื่อมต่อกับเขาลูกอื่นเลย ดังนั้นการกระจายตัวของสัตว์จึงเป็นแบบประจำที่ ไม่มีการอภยพเคลื่อนย้ายไปใหน อาณาเขตก็ไม่กว้างมาก คุณลองนึกซิจุดขายของภูกระดึงอยู่ที่ใหน ... หน้าผาต่างๆ น้ำตก ไม่ใช่ครับคนส่วนใหญ่มาเพราะต้องการจะดูว่าที่เขาว่ากันว่ามันเดินขึ้นเขาโหดนั้นมันจะสาหัสได้ซักขนาดใหน ผมเป็นคนหนึ่งที่ขึ้นไปเยือนภูกระดึงมาแล้ว บอกได้เลยว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในใจผมเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นผมเลือกเดินทางเอาช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่ช่วงเทศกาล และเป็นช่วงที่เพิ่งเปิดฤดูกาล วันก่อนหน้าที่จะขึ้นภูกระดึงนั้นผมเพิ่งลงมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ลักษณะนิเวศน์วิทยาจะต่างกันมากการกระจายตัวของสัตว์และพืช ก็ต่างกันมากเรียกว่าภูกระดึงไม่ได้ 1 ใน 100 เลย สาเหตุที่มาก็อย่างที่บอกว่ามันจะโหดแค่ใหน ขนาดผมน้ำหนักตัวกว่า 130 กิโล ผมยังใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชม. จนถึงที่ทำการอุทยานฯ มันก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ จุดท่องเที่ยวข้างบนก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นเลย แย่งกันกินแย่งกันใช้แย่งกันเที่ยว เฮ้อ! ลองเปิดตาเปิดใจรับสิ่งต่างๆดูบ้างนะครับ การพัฒนาไม่ใช่ว่าจะเป็นการทำลายเสมอไปนะครับ ถ้าคิดได้แค่นั้นเราก็คงต้องย้อนไปสู่ยุคอดีตกาลแล้วละครับ จากคุณ : แงซาย - [ 23 ส.ค. 46 11:01:35 A:158.108.2.2 X:158.108.86.89 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โลกเขาไปถึงไหนแล้ว ทำไมเราต้องเดินไปตามโลกด้วยล่ะครับ ... เรามีแบบที่เขาไม่มี น่าภูมิใจไหมล่ะครับ ที่เมืองอื่นๆ เขาสร้างอะไรต่างๆ นานาไปจนหมดแล้ว จนทำให้ไม่เหลือที่ท่องเที่ยวอะไรที่เป็นธรรมชาติย่างแท้จริง จนพวกฝรั่งต้องมาเที่ยวที่เมืองไทยไงครับ แล้วทีมสำรวจที่คุณบอกเนี่ย... เชื่อใจได้แค่ไหน ไม่ใช่อย่างกรณีท่อก๊าซนะครับ แบบว่านักสำรวจบอกว่าส่งผลเสียมากกว่าผลดี แต่พอผลการสำรวจออกมา ปตท.ก็ออกมาบอกว่า "ทำสัญญาไปแล้ว แก้สัญญาไม่ได้ ไม่งั้นจะโดนปรับ" (แล้วมันตั้งคณะสำรวจมาทำไมวะ) หรือไม่ก็ ผลสำรวจค้านต่อสายตาของชาวบ้าน หรือคนทั่วไป นักสำรวจบอกว่าดีๆๆๆๆๆ ไม่มีข้อเสียเลย แต่ชาวบ้านเห็นตำตาว่ามันส่งผลเสียแค่ไหน นักสำรวจก็ยังไม่เห็น เหมือนว่ามีเงินบังตา คุณบอกเองนะครับว่า คุณสามารถเดินขึ้นได้สบายๆ แล้วคุณจะมาสนับสนุนให้มีการสร้างกระเช้าทำไมล่ะครับ ในเมื่อมันเดินขึ้นสบายๆ แล้ว ก็จะไปสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทำไมให้สิ้นเปลืองงบประมาณ จริงไหม ผมอ่านข้อความของคุณแล้ว เหมือนว่าคุณจะสื่อว่า คุณไม่ได้สนใจในภูกระดึง มันจะเป็นยังไงก็ช่าง ตูไม่เกี่ยว อย่างนั้นใช่ไหมครับ แต่คุณก็อย่าลืมว่ามีคนอีกหลายๆ คน ยังเอาใจใส่ต่อภูกระดึงอยู่ ไม่ใช่ทิ้งขว้างมันแบบคุณ อย่างคุณเนี่ย ถ้าเคยไปที่ไหนแล้ว ก็จะไม่สนใจทีที่เคยไปเลย ... ถือว่า ข้าเคยไปแล้ว ข้าไม่สนใจ มันจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมัน เพราะข้าเคยไปแล้ว ผมบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ผมไม่ได้เป็นนักอนุรักษ์ ผมเป็นแค่คนหนึ่งที่ชอบเที่ยวเอามากๆ แต่ที่ท่องเที่ยวของผมอาจจะไม่ใช่แบบคุณ ผมไม่ชอบเดินห้าง ผมไม่ชอบไปโยนโบว์ แต่ผมชอบไปที่ที่มีต้นไม้ มีสัตว์ป่า ชอบไปผจญภัยในป่า แบบที่ลูกผู้ชายแท้ๆ เขาชอบกัน ผมก็เลยอยากจะให้เหลือทีที่ผมและเชื่อว่าอีกหลายๆ คนที่มีรสนิยมเดียวกับผม ให้ได้เที่ยวบ้าง จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 23 ส.ค. 46 13:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อ่าน คห.77 แล้ว คนที่ไม่ได้เรียนชีววิทยาของสิ่งมีชีวิตที่เอามาเลี้ยง เอามาปลูก จะเลี้ยงสิ่งนั้นไม่ได้เลยหรือครับ ถ้างั้น ทำไมคนที่ไม่เคยเรียนชีววิทยาของหมา ถึงเลี้ยงหมาได้อย่างมีความสุข ทำไมคนที่ไม่รู้ชีววิทยาของมะม่วง ถึงได้มีต้นมะม่วงให้เก็บกินผลได้ทุกปี ทำไมคนที่ไม่รู้ชีววิทยาของมนุษย์ ถึงได้สามารถเลี้ยงลูกตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 46 13:56:11 จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 23 ส.ค. 46 13:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขำ คห.77 จริงๆ... คิดได้ไงเนี่ย...เอา อุทยานแห่งชาติไปเทียบกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โหย..เชื่อคุณเลยจริงๆ...มันคนละเรื่องเลยครับ... ก็เพราะว่าขนาดปล่อยให้เดินขึ้นไปยังแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว อย่างที่ คุณบอกนี่ไง เขาเลยไม่อยากให้สร้างกระเช้า เพราะว่าหากสร้างแล้วจะแก้ไขปัญหาแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว ให้หมดไปได้หรือเปล่าล่ะครับ... จากคุณ : @สนสามใบ@ - [ 23 ส.ค. 46 14:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เหมือนคุณ"เป็นได้แค่คนในฝัน" ไม่ค่อยสนใจว่าจะสร้างหรือไม่สร้าง เพราะภูกระดึงไม่ได้อยู่ในโปรแกรมเที่ยวทั่วไทยของผมเหมือนกัน สำหรับผมแล้วไปเที่ยวแล้วลำบากไม่ไปดีกว่าที่พูดไปหน่ะ เขาหรือภูก็เคยไปมาแล้วนะ ปล. ไม่ชอบคนที่ใช้ชื่อว่า NICK ที่สารภาพอย่างไม่อายว่า"ดูถูกคนไทยด้วยกัน" แม้ว่าจะเรื่องอนุรกอนุรักษ์อะไรก็ตามเถอะ จากคุณ : ... - [ 23 ส.ค. 46 17:57:59 A:202.28.4.12 X:10.21.3.46 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ได้แต่หวังว่ากระเช้าขึ้นไปบนภูจะไม่เกิด เพราะถ้ามันเกิดภูกระดึงหรือสถานที่อื่น ๆ ทีถูกคำกล่าวอ้างว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลวิ่งเข้ามา ก็จะกลายเป็นเหมือนแหล่งอาหารทีถูกฝูงตั๊กแตนเข้ามากินจนไม่เหลือสิ่งดีๆ จะเหลือก็แค่เศษซากและก็คำกล่าวอ้างที่ว่า เราได้จัดเตรียมแนวทางจัดการกับปัญหาที่ค่าดว่าจะเกิดขึ้นแล้ว พร้อมกับความไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และสถานที่เหล่านั้นก็จะถูกลืมไป แต่ทุกอย่างมันไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ท่านเหล่านั้นก็จะมองหาสถานที่ใหม่ไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายเราก็คงได้รับแค่คำกล่าวอ้างเดิมๆ โดยไม่มีอะไรหรือใครหน้าไหนกล้าออกมารับประกันและรับผิดชอบ พร้อมกับนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะสถานที่เหล่านั้นไม่เหลือความงดงามให้พวกเขาได้ดูอีกต่อไป อยากให้คนไทยไม่ว่าจะคนท้องถิ่นหรือคนไม่ท้องถิ่นรักและหวงแหนธรรมชาติของทุกคนให้มาก ๆ เพราะนั่นคือการพัตนาที่ยั่งยืน ตราบใดที่สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นยังคงความสวยงามอยู่ไม่มีทางที่นักท่องเที่ยวจะลดน้อยลงมีแต่จะเพิ่มขึ้น สำหรับดอยหลวงเชียงดาวมีไกด์ท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยที่คอยดูแลเรื่องขยะและสถานที่ขี้ ผมยืนยันเพราะว่าเขาจะเก็บขยะทุกชิ้นที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยว แถมยังเก็บของคนอื่นๆที่เจอด้วย ส่วนขี้ ... นี่มันขี้นะครับไม่ใช่พลาสติกมันจะได้อยู่สัก 1000 ปี จากคุณ : Hinn - [ 23 ส.ค. 46 21:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มาลงชื่อสนับสนุนคุณนิค ครับ ผมคงเป็นอีกคนนึงที่ยอมรับว่าคนไทย ไม่ค่อยมีจิตใจอนุรักษ์ธรรมชาติเท่าไหร่ ถ้าความคิดแบบนี้เป็นการดูถูกคนไทย ผมก็เป็นอีกคนที่ดูถูกคนไทยอย่างมาก จากคุณ : teee - [ 23 ส.ค. 46 22:43:56 A:203.155.229.153 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 คัดค้านการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง จากคุณ : runtome - [ 24 ส.ค. 46 01:27:17 A:203.113.38.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 แต่ผมเห็นด้วยกับโครงการนี้ครับ! ถ้าโครงการนี้สำเร็จขึ้นมา พวกคุณๆลองคิดดู เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากต่างชาติที่เข้ามา ปีนึงๆจะมากมายขนาดไหน ทั้งยังก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้ท้องถิ่น และเกิดผลประโยขน์ต่างๆที่เกี่ยวโยงกับประชาชนและธุรกิจในพื้นที่อีกมากมาย เรามันคนนอกพื้นที่เถียงๆกัน คลื่นเสียงมันก็ไม่เข้าหูผู้มีอำนาจหรอก ปล่อยให้คนในพื้นที่เค้าตัดสินใจเถอะครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว หยวนๆกันน่า ดูอย่างที่ปอยเปต เก็นติ้ง มาเก๊าสิครับ ก่อนหน้านี้ก็เถียงกันไม่รู้จบ แต่สุดท้ายเค้าก็ควบคุมดูแลกันเองภายใต้กฎระเบียบที่เคร่งครัดกันได้ เห็นได้จากสตาร์เวกัสและบ่อนทรอปิคาที่ปอยเปต หรือแม้กระทั้งบ่อน กาสิโน ลิสบัวของสแตนลีย์ โฮ ที่มาเก๊า น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของการจัดการและควบคุม ถ้าโครงการนี้สำเร็จ จะสามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลไม่รู้เท่าไหร่ ไหนๆก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าเงินจำนวนมหาศาลนี้ไหลออกนอกระบบในแต่ละปีเป็นว่าเล่นกันอยู่แล้ว ดึงเงินตรากลับเข้ามาให้อยู่ในระบบและทำให้มันถูกต้องสะ ผมว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่การควบคุมมากกว่า ต้องยอบรับว่าการเสี่ยงโชคมันอยู่ในสายเลือดของคนไทยมานมนาน การเปิดบ่อนคาสิโนไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทั้งยังยกระดับให้พัทยาเป็นเมืองระดับโลกอีกด้วย สรุปแล้น ยกแร้สนับสนุนให้เปิดบ่อนคาสิโนอย่างเสรีที่พัทยาได้ เย้! (โทษทีเมาไปหน่อย) จากคุณ : ปลาแมน - [ 24 ส.ค. 46 01:51:09 A:168.120.13.169 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 เห็นด้วยกับคุณ -==NICK==- ยอมรับกันเสียเถิด ว่าคนไทยเกือบ 100% ไม่มีระเบียบวินัย ถ้ามีกระเช้าเกิดขึ้นมาจริงๆ ผมขอให้เอาป้าย "ครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าคือผู้พิชิตภูกระดึง" ออกไปซะ จากคุณ : imesh - [ 24 ส.ค. 46 18:20:13 A:202.57.173.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 กระแทกเข้ากลางใจเหมือนมานั่งอยู่ข้างในตัว....... คือ คห.65 และ คห.66 เคยได้ยินข่าวคนพิการปีนขึ้นเขาหิมาลัยไหม?? บุพการีเราก็อายุ 59 ปีแล้ว...พึ่งไปขึ้นภูกระดึงมา ไม่เห็นจะบ่นอยากให้มีกระเช้าตรงไหนเลย เค้าก็ออกจะภาคภูมิใจด้วยซ้ำไปที่สามารถเดินขึ้นได้สำเร็จ ส่วนเรื่องดึงเงินฝรั่งนั้น.....ก็ไม่เห็นว่าพวกที่ชอบปีนผาที่กระบี่จะอยากให้มี บันไดเลื่อน ขึ้นหน้าผาซะทีนะ...เฮ้อ! แล้วมันจะกระจายรายได้ให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่แถวนั้นจิงเหรอ เอ...เจ้าของกระเช้าเป็นคนที่นั่นเหรอไง?? จากคุณ : นู๋จำไม ("~") - [ 24 ส.ค. 46 19:03:42 A:203.121.151.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่เห็นด้วยอย่างแรงครับที่จะให้มีกระเช้าขึ้นภูกระดึง เพราะแหล่งท่องเที่ยวแต่ละที่มันมีมนต์เสน่ห์ของมัน เมื่อไรที่มนุษย์อย่างเราๆเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธรรมชาติ มันมีแต่การทำลายมากกว่ารักษาครับ ปล่อยธรรมชาติของมันไว้อย่างนั้นเถอะครับ คุณไม่สังเกตหรือครับว่าหลายๆที่ในอดีตมีแต่ความสวยงามปัจจุบันมันกลายเป็นแค่อดีตและตำนานไปแล้ว... มนุษย์ชอบหาแต่สุขความสบายและความชอบธรรมใส่ตัวเองแต่ไม่เคยเข้าใจธรรมชาติเอาเสียเลย การปลูกจิดสำนึกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆยังต้องใช้เวลาอีกนาน หรือนานจนอาจจะสายเกินไป... ผมกราบละครับอย่าไปดัดแปลงแก้ไขธรรมชาติเลยครับ ปล่อยมันไว้ของมันเหมือนเดิม... อย่าเอาเหตุผลร้อยแปดของพวกเราไปทำลายเขาเลยครับ.... ถ้าไม่เชื่อธรรมชาติก็จะลงโทษพวกเราเอง จากคุณ : สายลมแสงแดด - [ 24 ส.ค. 46 19:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณหมอนทองแท้ (คห.46) ครับ.... ใน คห.45 นั้นไม่ได้หมายความว่า อบต. หรือ อบจ. เขาจะเป็นผู้สร้างครับ... เขาเป็นผู้อนุญาตให้สร้างได้ครับ เพราะอยู่ในพื้นที่และอำนาจความรับผิดชอบของเขาตามกฏหมาย... ถูกต้องครับว่าหน่วยงานหรือองค์กรในท้องถิ่น"ไม่มีปัญญา" อย่างที่ว่านั้นแหละ. .. ก็เพราะเขาไม่มีปัญญาที่จะสร้างเขาก็เลยยินดีที่ใครจะมาสร้างแล้วเขาก็เก็บผลประโยชน์และได้ประโยชน์ดีกว่า... ข้อสังเกต... มีการสำรวจประชามติของประชาชนในพื้นที่มาแล้วตั้งแต่ปี 2539 แล้ว โดยสถาบันราชภัฎ ฯ เป็นผู้สำรวจความคิดเห็น และเสียงส่วนมากอยากให้สร้าง (ข้อมูลจาก M-web) จากคุณ : น้อย - [ 24 ส.ค. 46 23:00:15 A:202.133.172.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 เพิ่มเติมจาก คห.89 ครับว่า... สรุปแล้วยังไม่มีการสร้างภายในปีสองปีนี้แน่นอน.. ตอนนี้เป็นการ "โยนหินถามทาง" ครั้งที่ 3... ครั้งแรก จากประชามติคนในท้องถิ่นเมื่อปี 2539 ครั้งที่สอง อนุญาตให้ ฮ.เปิดเส้นทางบินและผลักดันให้บริษัท ฯ การบินเปิดบินรับผู้โดยสารได้ ครั้งที่สาม คือขณะนี้ที่เป็นข่าวอยู่ครับ... ข้อสังเกตเพิ่มเติม.. สิ้นตุลาคมนี้ พ่อเมืองคนใหม่มาแล้ว ไม่แน่ใจว่า CEO ด้วยหรือไม่ อาจมีอะไรใหม่ ๆ มาเล่นกันอีกในเรื่องนี้.... จากคุณ : น้อย - [ 24 ส.ค. 46 23:09:13 A:202.133.172.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 มายืนข้างคุณตอง กับคุณ killyman แต่ว่าพวกคุณจะ เถียงกันทำไมน่ะ ยังกับเจ้าของ Project เขาจะฟังพวก คุณงั้นแหละ ถ้าเขาจะสร้างกระเช้า เขาก็ต้องสร้าง ถึงจะมีกระเช้า ถ้าพวกคุณอยากเดินขึ้นก็เดินขึ้นไปดิ อย่าไปใช้กระเช้า จากคุณ : ศรีฐาน - [ 25 ส.ค. 46 00:50:44 A:203.113.36.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 คุณน้อย ความเห็นที่ 89 และ 90 ครับ ผมเข้าใจคุณครับ ทั้งในความเห็นที่ 45 ด้วย ข้อมูลคุณมาก และถูกต้องด้วย เพียงแต่ผมกลัวว่า คนอื่นอ่านแล้วจะเข้าใจว่ากำลังจะลงมือสร้าง ผมเลยให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดนึง ไม่ได้ค้านคุณครับ ผมก็เชื่อว่าคุณเข้าใจผม ว่าผมไม่ได้ค้านข้อมูลคุณเลย ในความเห็นที่ 46 ผมก็พูดไปเยอะแล้ว เลยไม่อยากจะพูดซ้ำอีก เพียงแต่ผมนึกขำที่ อบต. อนุมัติ น่ะครับ (แต่ผมไม่ได้ขำคุณน๊ะครับ) ขนาด ต่อให้นายกฯ สั่งให้สร้างวันนี้ก็ยังขัดข้อกฎหมายเลยครับ อบต.เขาคงรู้แค่กฎและระเบียบการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเดียว เขาคงไม่รู้หรอกครับว่า จะต้องเจอกับอะไรอีก เจอกรมป่าไม้ กรมอุทยานและสิ่งแวดล้อม ที่เขายังแบ่งงานยังไม่ลงตัว ไม่รู้ใครรับผิดชอบอะไรแค่ไหนแน่ โยนเรื่องกันไป โยนเรื่องกันมา 50 ปี ก็ไม่ได้สร้าง ถึงจะสร้างสองหน่วยงานนี้ก็คงไม่เป็นหัวหลักหัวตอหรอกครับ คนอย่าง สืบ นาคะเสถียร คงยังมีอยู่ในกรมอีกเยอะครับ ผ่านสองกรมนี้ไปได้ก็ต้องเจอหน่วยงานอื่นๆ อีก ยิ่งกว่า ด่าน 18 อรหัน ซะอีก ผมก็ว่าคุณรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว เพราะข้อมูลคุณมีเยอะอยู่แล้ว ผู้ว่าฯ ท่านเก่าคงฟุ้งซ่านเรื่องพัฒนาภูกระดึงมากไปน่ะครับ เขาเลยต้องเปลี่ยนคนใหม่ จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 25 ส.ค. 46 10:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เจ้าของ project เข้าไม่ฟังพวกเราหรอก แต่ถ้าพวกเราหลายๆ เสียงเข้าความดังของเสียงคงไปสะดุดเข้าหูพวกเขาบ้าง ไปภูกระดึงมาสองครั้ง โดยที่ไม่คิดว่าจะได้ไป และทั้งสองครั้งก็ได้เพื่อน ได้มิตร ได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเห็น ได้พบในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะพบ คนแก่ คนพิการ ขึ้นภูกระดึงกันได้ถ้าใจรัก ลูกหลาน รวมทั้งคนที่เดินร่วมทางช่วยกันให้กำลังใจ สุดท้าย คนเหล่านั้นก็ได้ไปพิชิตภูกระดึงด้วยหน้าตาสดใส กำลังใจดี สำหรับกระเช้า ที่คิดว่าสร้างจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ถูกต้อง ส่งเสริมสำหรับคนขี้เกียจเดินและรักความสบายแต่อยากจะได้ชื่อว่าพิชิตกะเขาบ้าง ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ทำลายธรรมชาติรอบด้าน รวมทั้งเพิ่มบรรดานักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึกให้มากขึ้น แค่นี้ภูกระดึงก็แทบจะเป็น 7-eleven แล้ว ยังจะเพิ่ม lotus เข้าไปด้วยอีกหรือ??? ไม่ได้เป็นนักอนุรักษ์นิยมอะไรทั้งนั้น เพียงแต่คิดเท่านั้นว่า ขนาดไม่มีกระเช้า ภูกระดึงก้อแย่แล้ว และถ้ามีกระเช้า ภูกระดึงจะเป็นยังไง??? จากคุณ : T.Kirati - [ 25 ส.ค. 46 10:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอแก้ไขชื่อกรมอุทยานฯ รู้สึกจะเป็นและพันธุ์พืชมั้ง เห็นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 25 ส.ค. 46 10:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วยครับ สำหรับกระเช้าขนพวกคนพิการ แต่สำหรับคนดีๆมีมือมีตีนสมควรปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ ก็ที่ไปกันก็เพราะอยากจะดู สัมผัส ธรรมชาติกันมิใช่หรือ จากคุณ : cc - [ 25 ส.ค. 46 14:22:59 A:202.57.167.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 กลัวจะเชยถ้าไม่ได้มาแปะชื่อไว้ในกระทู้นี้ เพราะขนาดคุณเป็นได้แค่คนในฝันที่ไม่ได้ร่วมแสดงท่าทีใดๆ ยังแอบมาแปะชื่อเอาไว้..แหะๆ... ไม่รู้จะบอกเหตุผลอะไรแล้วอ่ะค่ะ เพราะคุณ NICK และพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านให้เหตุผลไว้มากมายและดีที่สุดแล้ว แต่อยากจะเล่าความรู้สึกและประสบการณ์ให้ฟัง ขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของเราก็หลายปีมาแล้ว ตอนเดินทางขึ้นไปเกิดมิตรภาพขึ้นมากมายระหว่างทาง ไปถึงยอดภูเจอเด็กสิบกว่าขวบ ช่วยพ่อแม่กางเต้นท์ (มันขึ้นมาได้ไงฟ่ะ ท่าทางสนุกสนานไม่เหนื่อยเลยแต่ตูเหนื่อยฉิบ!!) ก่อนกลับได้ทำความรู้จักกับเด็กๆ มหาลัยข้างๆ เต้นท์ ชักชวนกันเดินลงพร้อมๆ กัน เพราะกลัวจะเหงาระหว่างทาง ขาลงมาเจอลุงๆ ป้าๆ จากนราธิวาส นัดกันมาเป็นกลุ่ม ถามแก แกว่าอายุก็ 40 - 60 กว่ากันทั้งนั้น แต่ใจสู้ ขอมาพิสูจน์ดูสักครั้ง.. (ถ่ายรูปไว้ด้วยนะค่ะ น่ารักจริงๆ) ตอนนี้เราไม่แน่ใจเรื่องโครงการสร้างไปถึงไหน..ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว เราหรือใครก็คงห้ามไม่ได้ เพราะผู้ที่มีอำนาจของชาติไทยเรานี้ ไม่ค่อยฟังเสียงประชาชนอย่างเราๆ เท่าใดนักหรอก ยิ่งค้านเหมือนยิ่งยุ สิ่งที่เสียดายก็มีแค่.. ต่อไปมิตรภาพระหว่างทางขึ้นภูคงไม่มี มีแต่คนแย่งกันขึ้นกระเช้า ต่อไปเสียงพูดคุย ทักทาย แซวกันระหว่างทางคงไม่มี ยิ่งตอนเห็นคนเดินลงแล้วเราเดินขึ้นเนี้ยะ..โหย..แซวกันสนุก ยิ่งเกิดแรงฮึด ต่อไปลูกหาบก็คงไม่มี แล้วปัญหาที่มีอยู่ก็คงไม่ได้แก้ต่อไป เพราะมันจะไม่มีปัญหานี้อีกแล้ว (เรื่องของค่าใช้จ่ายที่ลูกหาบต้อง เสียทั้งรายปี และรายเดือนอย่างไม่ยุติธรรม) ต่อไป ป้าๆ ลุงๆ ที่ขายของระหว่างซำก็คงไม่มี คิดถึงหวานเย็นน้ำแดง..ที่แทบจะแวะทุกซำ เหอ เหอ เพิ่มพลัง ยิ่งสายตาที่เป็นห่วง เป็นใย และรอยยิ้มที่ให้กำลังใจกับพวกเด็กๆ ที่ขึ้นไปเที่ยวอย่างเราๆ โอ้ยยย...คิดถึง (หรือว่าแกทำเป็นยิ้มหวานเพื่อให้เข้าไปซื้อ ขนมหวานแกหว่า??) ต่อไปธรรมชาติบนภูจะเป็นยังไง ถ้ามีคนเที่ยวเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น เสน่ห์และมนต์ขลังมันคงจะหมดไป แล้วก็กลายเป็น แหล่งท่องเที่ยวธรรมดาๆ สุดท้ายล่ะดีกว่า.. ต่อไปกวางคำหล้า คงต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวหลากหลาย จากที่เคยอวบอ้วนอาจจะผอมเพรียวเพราะโดนใช้แรงงานหนักเกิน!! และจากนิสัยที่ชอบมุดเต้นท์ อาจจะเปลี่ยนเป็นขอมุดกระเช้าลงไปเที่ยวข้างล่างบ้างก็ได้..เหอ เหอ คลายเครียดนะคะ..เพราะเห็นว่าให้เหตุผลกันมานานแล้ว จนป่านนี้ เค้าอาจจะตั้งเสาต้นแรกไปแล้วก็ได้อ่ะ..เฮ้อ..... จากคุณ : ke@ - [ 25 ส.ค. 46 16:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อ๋อ..ลืมไปอีกอัน... คิดถึงคำว่า "เดี๋ยวก็ถึง" ที่ไว้ใช้แซวและหยอกล้อกับคนที่กำลังเดินขึ้นแต่ทีนี่ตาเราเดินลง..ฮิๆๆ... จากคุณ : ke@ - [ 25 ส.ค. 46 16:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้...คนไทยส่วนมากไม่มีระเบียบวินัย สาเหตุมาจากพื้นฐานการศึกษาต่ำ... จากคุณ : X1-2 - [ 26 ส.ค. 46 00:29:08 A:203.113.38.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้...คนไทยส่วนมากไม่มีระเบียบวินัย ไม่เห็นด้วยกับความเห็น 98 ว่าสาเหตุมาจากพื้นฐานการศึกษาต่ำ... คนเรียนสูงๆก็เห็นแก่ตัวไม่มีระเบียบเยอะแยะไป จากคุณ : เย้ เราเป็นคนที่ 99 (DKW) - [ 26 ส.ค. 46 03:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 100 แหมมมม พยายามครับ นานๆที่จะเป็นคนที่ 100 จะทันไม๊น๊า........ จากคุณ : [[[tex]]] - [ 26 ส.ค. 46 09:16:42 A:202.47.247.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 101 เลขนี้สวยกว่าค่ะ ยะฮู้ จากคุณ : Yo - [ 26 ส.ค. 46 10:52:47 A:202.129.36.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 สนับสนุนกับคุณ Nick ครับ...จะหาว่าใจแคบ ดูถูกคนชาติเดียวกันก็ตามใจครับ นี่คือความเห็นส่วนตัวนะครับ ส่วนตัวล้วนๆ จากการที่ได้ไปอยู่มาหลายๆประเทศ (ทั้งเจริญแล้วและไม่เจริญ) ผมเชื่อว่า แต่ละชาติพันธุ์ มีความคิด ความประพฤติต่างกันไป แน่นอน มีทั้งข้อดีข้อเสียครับ เช่น (ย้ำอีกที คิดเห็ฯส่วนตัว ถ้าไม่ถูกใจ ลองแนะมาครับ แต่อย่าด่าแรงๆ) คนจีน - ขยันมากกกก แต่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ ภาษาอังกฤษน่าจะเรียกได้ว่า Cunning มากกว่า smart, bright คนแขก - ขี้โกง (แต่ซึ่งๆหน้าเลย เลยเรียกว่า Cunning ไม่ได้ เพราะจับได้) พูดมาก ขยัน และเป็นขยันที่น่านับถือมากครับ เขาขยันเพราะเขาคิดว่าชาติเขาแย่จริงๆครับ เขาดูถูกคนชาติเดียวกัน และเขาก็พยายามทำตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อชาติ ของเขาครับ ผมได้มีโอกาสไปเรียนที่นั่นมาหลายปี นับถือ quality ตรงนี้ของเขามากๆครับ เวลาเห็นคนแขกด้วยกัน ถูกเหยียดหยาม เขาจะไม่เถียง ไม่ปกป้อง แต่มาเติมเป็นจิตสำนึก ให้ตัวเองดีขึ้นครับ เพื่อนๆคนอินเดียที่โน่น เรียนเก่ง มากกกกกกก แต่ไม่มีมานั่ง เคมี อ.อุ๊ ฟิสิกหัวแตก แบบ เด็กบ้านเรา ปิดเทอมทำกิจกรรม ธรรมชาติบ้าง เที่ยวเล่นบ้าง ไม่ใช่มาติวแบบ บ้านเรา แต่เรียนเก่งสุดๆๆๆๆๆ ไม่แปลกใจเลยที่เขา มีบุคลากรทาง IT มากที่สุด ที่ออกมา พูดปาวๆ รักชาติเอย อย่ามาดูถูกเลือดเนื้อคนไทยเอย ผมคิดว่า FULL OF SHIET ครับ ของมันไม่ดี มาชี้ให้เห็นครับ เพราะมันเป็น รากของปัญหาทั้งหมดเลยครับ ผมว่านะ ให้ป่าเป็นป่าไปเถอะ เงินน่ะ มันคุ้มค่าจริงหรือ กับโลกที่จะเสียหายลงไปน่ะ มันกลับคืนไม่ได้นะ ส่วนตัว ผมจะรอดูต่อไป ว่าปี 2005 แล้ว คนไทยจะทำสิ่งง่ายๆ อย่าง ขับช้าชิดซ้าย, เห็นไฟเลี้ยวแล้วไม่เร่งเข้าใส่ ได้หรือยัง จากคุณ : 9pm - [ 26 ส.ค. 46 11:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ภาพนี้คงพอจะสื่อถึง นิสัยของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ได้ จากคุณ : บ่เบี้ย บ้านไพร - [ 26 ส.ค. 46 12:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 104 และนี่เป็นส่วนหนึ่งของคนไทย ที่ยังมีค่านิยมที่ไม่ถูกต้องนัก เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ค่านิยมที่เรียกว่า "ฉิ่งฉับทัวร์" อุปกรณ์เสริมคือ เหล้า กลอง เสียงอันดัง และนิสัยอันทรา...ฯลฯ นี่คือนักศึกษา "วิทยาลัย" แห่งหนึ่ง ที่มีการศึกษาพอสมควร ผู้หญิงสาวๆ กล้าเดินผ่านมั๊ยครับ ผมเป็นผู้ชายยังถูกแง่งแซวเลย จากคุณ : บ่เบี้ย บ้านไพร - [ 26 ส.ค. 46 12:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เอาภาพมาประกอบแบบนี้ ระวังโดนเล่นงานนะ น้าบ่เบี้ย ผมล่ะเสียวแทนเลย อิ อิ.... บนภูกระดึงก็มีอ่ะแบบนี้...เพียบเลย ช่วงเทศกาลอ่ะ.... จากคุณ : @สนสามใบ@ - [ 26 ส.ค. 46 14:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 106 แอบผ่านมาเห็นว่ากระทู้โดนใจเลยต้องแจม หลายปีก่อน เคยไปภูกระดึง กว่าจะตะกายขึ้นไปได้ก็แทบวางวาย แต่ภูมิใจซะเหลือเกินที่สำเร็จ ไม่เคยแม้สักขณะจิตเดียวที่จะร้องขอกระเช้า (แม้ยามหอบแฮ่กเป็นหมาหอบแดดอยู่แถวๆซำแฮ่ก) ระหว่างทาง พบเห็นมิตรภาพมากมาย การร้องให้กำลังใจกัน "เกือบถึงแล้ว อีกหน่อยเดีียว พยายามเข้า" มีใ้ห้ได้่ยินตลอด แวะดูกอหญ้า ดูิวิว ดูสิ่งเล็กๆน้อยๆ ระหว่างทางทำให้ลืมเหนื่อย แต่ขอประกาศไว้เลยว่า นักท่องเที่ยวหลายรายที่พบบนภู ทำใ้ห้เกิดความรู้สึก"ดูถูก"คนไทยด้วยกันขึ้นมาติดหมัด (รับรอง..."ดู" ไม่ "ผิด" หรอก) ....พบคนที่ทิ้งขยะเรี่ยราดตามทาง โดยไม่สนว่าใครจะตามเก็บ เปลือกลูกอม ห่อขนม โรยตามทางยังกะกลัวว่าจะหาทางกลับไม่ถูก ....พบสาวน้อยคนหนึ่งอ้อนแฟนให้ถอนต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงกอมหึมาให้เธอดูเล่นทั้งกอ แล้วเหวี่ยงทิ้งไป ....พบชายนิรนามตัดกิ่งสนท่อนใหญ่ นัยว่าจะเอาไปก่อไฟที่เต็นท์ ....พบสาวสวยหุ่นดีที่เก็บดอกกุหลาบขาวมาแซมผมยามถ่ายรูป .....พบหนุ่มนักสะสมที่เก็บใบเมเปิ้ลมาเป็นกำๆไว้ดูเล่น .....พบ ฯลฯ ที่ไม่อาจบรรยายได้หมด สิ่งเหล่านี้จะจัดการอย่างไร ถ้ามีกระเช้า? รับรองว่าเพิ่มปริมาณขึ้นร้อยเท่าพันทวีแน่นอน อย่าบอกว่าจะมีการห้ามอย่างจริงจัง เค้าห้ามกันอยู่นานแล้ว แต่คนไทย(บางส่วน)ไม่สนใจทำตาม รู้ๆกันอยู่ ทำอะไรได้ตามใจคือไทยแท้? จากคุณ : กระเหรี่ยง - [ 26 ส.ค. 46 17:42:20 A:203.185.128.6 X:203.185.128.8 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ดีใจครับที่เราตื่นตัวกันกับการอนุรักษ์ไม่ว่าจะธรรมชาติ หรือขนบธรรมเนียมประเพณี จากรูปที่เอามาแปะ ผมเชื่อ ขนมกินได้เลยว่าคนที่ถ่ายภาพนี้ เมื่อวัยเท่ากับเด็ก ๆ ใน ภาพก็คงเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว ผมมองอีกมุม หนึ่งให้เขาได้เข้ามาสัมผัสกับธรรมชาติบ่อย ๆ ยังดีกว่าเขา ยกพวกไปดีรันฟันแทงกัน ยกพวกไปเดินแถวเซ็นเตอร์ พอยต์ หรือยกพวกไปวีนกันในคอนเซิร์ตต่าง ๆ ครั้งแรก คงจะเป็นอย่างในภาพ แต่ครั้งที่สองครั้งที่สามถ้ามีการ แนะนำที่ดี ภาพเหล่านี้ก็จะหายไป เราคงไปห้ามที่ปลาย เหตุไม่ได้หรอกครับ คงต้องเริ่มกันที่บ้าน ที่ชุมชน ที่โรงเรียน แล้วจะทำยังไงกันล่ะครับ ? กระเช้า หรือ เฮลิคอปเตอร์ เป็นเรื่องปลายเหตุ ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ที่สังคมครับ ก็ขอแสดงความเห็นแค่นี้แหละครับ และก็คิดว่าเราน่าจะ แก้ได้ มองอย่างคนผ่านโลกมามากแล้ว ปัจจุบันบางอย่าง ก็พัฒนาดีขึ้นนะครับ เพียงแต่ต้องอดทนและรอมชอมกัน อย่าใช้แต่อารมณ์น่ะครับ จากคุณ : มูเซอร์ - [ 26 ส.ค. 46 19:21:05 A:203.113.37.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 108 อย่าหลอกตัวเองเลยนักอนุรักษ์ทั้งหลาย พวกคุณไม่สามารถต้านกระแสโลกาภิวัฒน์ได้หรอก อ้างนู่นไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ดี ยอมรับเสียทีเถิดว่าภูกระดึงน่ะไม่ใช่ของพวกคุณ ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ครั้งในชีวิตทำเป็นหยั่งกะเป็นเจ้าของ อย่าหวงไว้เลยภูกระดึงน่ะ ให้คนอื่นๆที่ยังไม่เคยไปได้ไปบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีทั้งด้านดีและด้านเสีย รู้ได้อย่างไรว่ามีแล้วจะไม่ดี มีแล้วจะทำลายธรรมชาติ ตัวกระเช้าน่ะมันไม่ได้ทำลายธรรมชาติเลย ที่ทำลายธรรมชาติน่ะคือคนต่างหากและการมีกระเช้าก็จะยิ่งทำให้การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวยิ่งง่ายเข้าไปอีก สามารถปิดเปิดตามเวลาได้สบายมาก ถ้ามีคนมากเกินไปก็หยุดบริการกระเช้าซะ คนก็จะไม่สามารถขึ้นไปได้อีก การขนส่งเสบียง คนเจ็บ เจ้าหน้าที่ ต่างๆก็จะทำได้โดยสะดวกทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็ต้องยอมรับไว้แล้วอย่างว่าสภาพมันคงจะไม่ดีถึงขนาดป่าอนุรักษ์หรือป่าสมบูรณ์ เพราะจุดประสงค์มันไม่เหมือนกัน เขาต้องการให้คนไปเที่ยวที่นั่นเพราะว่ามันเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ต้องการนักท่องเที่ยว ไม่ได้เป็นเขตหวงห้ามใดๆ ซึ่งการท่องเที่ยวในเขตอุทยานมันก็มีกฎข้อบังคับ คอยควบคุมอยู่แล้ว จะห่วงไปใยเล่า ไปห่วงเรื่องการตัดต้นไม้ทำลายแหล่งน้ำ การสร้างเขื่อน ไม่ดีกว่าหรือ ใครอยากเดินเหนื่อยๆ เดินลำบากๆก็ไปที่อื่นสิ เช่น เชียงดาว สอยดาว เขาหลวง ฯลฯ เช่นเดียวกับที่คุณบอกให้คนอื่นเขาไปเที่ยวที่อื่นๆเหมือนกัน อย่าดูถูกว่าคนอื่นเขาจะทำลายธรรมชาติไปซะทุกคน มัวแต่จะคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่รักธรรมชาติ รักภูกระดึง คนอื่นอย่ามายุ่ง ถามจริงว่าทุกครั้งที่พวกคุณไปเที่ยวน่ะ ทำลายธรรมชาติบ้างหรือเปล่า และอย่างไรที่พวกคุณบอกว่าธรรมลายธรรมชาติน่ะคืออะไร การที่คุณใช้รถ ใช้น้ำมัน ใช้ไฟฟ้า มันก็ธรรมลายธรรมชาติแล้ว เดินขึ้นไป ย่ำดินจนกลายเป็นฝุ่นหนาเป็นนิ้ว ปีนป่ายไปตามหินจนเป็นรอยสึก ขึ้นไปกินไปขี้ข้างบน ทิ้งขยะเอาไว้หลายกิโลน่ะ เป็นการทำลายธรรมชาติหรือเปล่า อย่าคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นๆเลย คนเรามันสอนกันได้บอกกันได้ อบรมขัดเกลากันได้ อย่าใช้สมมุติฐานว่าตัวเองดี คนอื่นเลวหมดเลย จากคุณ : 123 (vespa744) - [ 26 ส.ค. 46 23:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 109 จาก คห.108 ข้อความของคุณรู้สึกจะเคยโพสต์มาแล้วนะครับ แล้วก็มีคนตอบคำถามของคุณให้แล้ว ถ้าลืมแล้ว ผมจะตอบให้ใหม่ก็ได้ ตัวกระเช้าน่ะมันไม่ได้ทำลายธรรมชาติเลย ที่ทำลายธรรมชาติน่ะคือคนต่างหากและการมีกระเช้าก็จะยิ่งทำให้การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวยิ่งง่ายเข้าไปอีก <== อ่านความเห็นข้างบนๆ จะได้รู้ว่า การมีกระเช้ามันไม่ได้ทำให้การควบคุมนักท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นเลย คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ใครไม่ขึ้นกระเช้า ก็สามารถเดินขึ้นเองได้ ไม่ได้ห้าม อ้าว.. ถ้ากระเช้ามันหยุดให้บริการแล้ว (สมมติว่าเจอมาตรการควบคุมคนอย่างที่คุณว่า) คนที่ตกค้างอยู่ข้างล่าง ก็เดินขึ้นข้างบนอยู่ดี ทำให้จำนวนคนบนภูเพิ่มขึ้นอยู่ดี คือ จำนวนคนที่ขึ้นด้วยกระเช้า + จำนวนคนที่เดินขึ้นเอง การขนส่งเสบียง คนเจ็บ เจ้าหน้าที่ ต่างๆก็จะทำได้โดยสะดวกทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น <== มันมีฮอตั้งแต่นานแล้วครับ ฮอที่ผมว่ามันเป็นฮอที่คอยทำหน้าที่พวกนี้เท่านั้น ไม่ได้เอามารับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นมาแต่อย่างใด อย่าสับสนกัน แล้วคงไม่มีคนเจ็บเป็นร้อยๆ คนบนภูหรอกนะครับ แล้วคงไม่เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างฉับพลัน และคงไม่เกิดการยกกองทัพเจ้าหน้าที่ขึ้นไปควบคุมความสงบหรอกครับ การท่องเที่ยวในเขตอุทยานมันก็มีกฎข้อบังคับ คอยควบคุมอยู่แล้ว จะห่วงไปใยเล่า ไปห่วงเรื่องการตัดต้นไม้ทำลายแหล่งน้ำ การสร้างเขื่อน ไม่ดีกว่าหรือ <== ในการเดินทาง การจราจร มีกฎระเบียบเข้มงวด แล้วทำไมถึงมีอุบัติเหตุจากความประมาท จากความไม่มีระเบียบได้ ช่วยตอบคำถามนี้หน่อย มันก็เพราะ...คน ถ้าคนมาก โอกาสที่คนไม่มีระเบียบก็มากตามไปด้วย แล้วทีนี้ก็แย่น่ะสิครับ ใครอยากเดินเหนื่อยๆ เดินลำบากๆก็ไปที่อื่นสิ เช่น เชียงดาว สอยดาว เขาหลวง ฯลฯ เช่นเดียวกับที่คุณบอกให้คนอื่นเขาไปเที่ยวที่อื่นๆเหมือนกัน <== ผมก็จะไปอยู่แล้วครับ แต่ผมอยากจะคงความประทับใจให้คนที่ยังไม่เคยไป ได้มีโอกาสสัมผัสอย่างผมบ้าง ถ้าอยากสบายๆ ก็ไปที่ที่มีกระเช้าซะสิครับ... การที่คุณใช้รถ ใช้น้ำมัน ใช้ไฟฟ้า มันก็ธรรมลายธรรมชาติแล้ว เดินขึ้นไป ย่ำดินจนกลายเป็นฝุ่นหนาเป็นนิ้ว ปีนป่ายไปตามหินจนเป็นรอยสึก ขึ้นไปกินไปขี้ข้างบน ทิ้งขยะเอาไว้หลายกิโลน่ะ เป็นการทำลายธรรมชาติหรือเปล่า <== การใช้รถ ใช้น้ำมัน คือ การทำลายธรรมชาติ แต่ผมก็จำกัดการทำลายธรรมชาติในพื้นที่ที่ถูกบุกเบิก ถูกตั้งบ้านเรือนรกรากแล้ว ไม่ได้ทำลายธรรมชาติในส่วนที่ยังไม่ถูกบุกรุกเหมือนการสร้างกระเช้า การย่ำดิน การปีนป่าย อย่างน้อยมันก็ทำลายธรรมชาติน้อยกว่า การสร้างกระเช้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆ..... ลองคิดดู เราต้องย่ำดินกี่พันพี่หมื่นเท้า เพื่อจะให้เกิดฝุ่นหนาเป็นนิ้วอย่างที่คุณบอกได้ แล้วฝุ่นที่หนาเป็นนิ้วนี่ มันส่งผลกระทบอะไรร้ายแรงหรือไม่ ก็ไม่นี่ครับ แล้วปีนป่ายตามหินจนเป็นรอยสึกเนี่ย มันกี่พันปีครับ ถึงจะได้รอยสึกอย่างนั้นน่ะ... การทิ้งขยะนี่ เราก็ไม่ได้เอาไว้บนภูสักหน่อย เราถือขึ้นไปเท่าไร ก็ถือลงมาเท่านั้น.. จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 27 ส.ค. 46 01:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 110 "อ่านความเห็นข้างบนๆ จะได้รู้ว่า การมีกระเช้ามันไม่ได้ทำให้การควบคุมนักท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้นเลย คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ใครไม่ขึ้นกระเช้า ก็สามารถเดินขึ้นเองได้ ไม่ได้ห้าม อ้าว.. ถ้ากระเช้ามันหยุดให้บริการแล้ว (สมมติว่าเจอมาตรการควบคุมคนอย่างที่คุณว่า) คนที่ตกค้างอยู่ข้างล่าง ก็เดินขึ้นข้างบนอยู่ดี ทำให้จำนวนคนบนภูเพิ่มขึ้นอยู่ดี คือ จำนวนคนที่ขึ้นด้วยกระเช้า + จำนวนคนที่เดินขึ้นเอง " การเดินขึ้นเองก็ใช่ว่านึกจะขึ้นก็ขึ้นได้ มันมีเวลาจำกัดอยู่ หลังบ่ายโมงเขาก็ไม่ให้ขึ้นแล้วไม่รู้เรื่องเลยหรือไง แล้วมันก็ไม่ใช่ถนนเปิด มันมีด่านตั้ง 2 ด่านกั้นทางอยู่ ถ้าเขาไม่ให้ขึ้น คุณจะขึ้นไปได้อย่างไรไม่ทราบ จากคุณ : 321 - [ 27 ส.ค. 46 10:55:12 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 111 "มันมีฮอตั้งแต่นานแล้วครับ ฮอที่ผมว่ามันเป็นฮอที่คอยทำหน้าที่พวกนี้เท่านั้น ไม่ได้เอามารับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นมาแต่อย่างใด อย่าสับสนกัน แล้วคงไม่มีคนเจ็บเป็นร้อยๆ คนบนภูหรอกนะครับ แล้วคงไม่เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างฉับพลัน และคงไม่เกิดการยกกองทัพเจ้าหน้าที่ขึ้นไปควบคุมความสงบหรอกครับ" คุณคิดว่าฮอนี่มันเรียกมาง่ายเหมือนตุ๊กหรือไงรู้ไหมว่าฐานของเฮลิคอบเตอร์ที่ปติบัติการบนภูน่ะ เขาอยู่ที่ไหน ถ้าไม่รู้จะบอกให้ ว่าอยู่ ลพบุรี (ชีนุ๊ก) ถ้าเกิดเหตุด่วนขึ้นมาจริงๆเช่นญาติผู้ใหญ่ของคุณเกิดป่วยกระทันหันบนภูที่ไม่สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ ก็ช่วยบอกให้ท่านหายใจต่อไปอีกประมาณ2ชั่วโมงเพื่อทำเรื่องขออนุญาต นำเครื่องขึ้น และใช้เวลาเดินทางอีกประมาณชั่วโมงเดี๋ยวก็ถึงแล้ว...แล้วรู้อีกหรือเปล่าว่าค่าน้ำมันน่ะเท่าไหร่ ..ชั่วโมงละ สองหมื่นกว่าบาทครับท่าน จากคุณ : 321 - [ 27 ส.ค. 46 11:02:40 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112 "การย่ำดิน การปีนป่าย อย่างน้อยมันก็ทำลายธรรมชาติน้อยกว่า การสร้างกระเช้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆ..... ลองคิดดู เราต้องย่ำดินกี่พันพี่หมื่นเท้า เพื่อจะให้เกิดฝุ่นหนาเป็นนิ้วอย่างที่คุณบอกได้ แล้วฝุ่นที่หนาเป็นนิ้วนี่ มันส่งผลกระทบอะไรร้ายแรงหรือไม่ ก็ไม่นี่ครับ แล้วปีนป่ายตามหินจนเป็นรอยสึกเนี่ย มันกี่พันปีครับ ถึงจะได้รอยสึกอย่างนั้นน่ะ... การทิ้งขยะนี่ เราก็ไม่ได้เอาไว้บนภูสักหน่อย เราถือขึ้นไปเท่าไร ก็ถือลงมาเท่านั้น." แสดงว่าคงยังมีบุญถึงที่จะได้ลองขึ้นกระเช้าถึงไม่รู้ว่า กระเช้ามันดีอย่างไร รักษาธรรมชาติอย่างไร ถ้าคุณเคยขึ้นภูสมัยสัก 15-20 ปีก่อนคุณจะไม่พูดอย่างนี้ สมัยนั้นทางเดินขึ้นเป็นธรรมชาติมากๆเดินตามป่าจริงๆ ปีนป่ายไปตามทางธรรมชาติ ทียังไม่มีคนมากเหมือนเดี๋ยวนี้ ที่คนจำนวนมากเดินเข้าป่ามันทำลายธรรมชาติขนาดไหน ทั้งรบกวนสัตว์ รบกวนต้นไม้ ต้นไม้ตามทางเดินตายไปเป็นแถบๆ เทปุน เทคอนกรีต ทำบันได ปรับสภาพดิน ตั้งร้านค้าตามทาง เสียพื้นที่ป่าไปเพื่อการเหล่านี้ มากมาย ทั้งทางเดินที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าตามซำที่มากขึ้น เรื่อยๆ ถ้าทำกระเช้า เสาหนึ่งต้นใช้พื้นที่แค่ 25 ตารางเมตรต่อ 1ต้น วางห่างกัน ทุก 200-300 เมตร เสียพื้นที่ป่าน้อยกว่ากันเยอะและไม่รบกวนป่า ไม่รบกวนสัตว์ตามทางเดินด้วย กระเช้านี้ใช่ไฟฟ้าดึงรอกเอา ไม่มีมลพิษ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ มันจะทำลายธรรมชาติยังไงไม่ทราบ ที่อื่นๆ ในโลกเขาก็มีกันทั้งนั้น จากคุณ : 321 - [ 27 ส.ค. 46 11:21:25 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 113 คห. 108 และ 110-112 ดูท่าว่าจะเป็นคนที่อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งหาได้น้อยในประเทศนี้ ไม่ใช่พวกอุดมคติจ๋าเหมือนส่วนใหญ่ในกระทู้ เห็นด้วยอย่างมากที่คนไทยไร้ระเบียบวินัยอย่างรุนแรง ควรแก้ไข แต่ก็ไม่เห็นว่าการสร้างกระเช้าจะทำลายธรรมชาติของ ภูกระดึงให้มันเสื่อมโทรมลงไปกว่านี้ตรงไหน หรือจะว่ามีกระเช้าแล้ว จะทำให้คนขึ้นไปได้ง่าย ธรรมชาติจะถูกทำลายย่อยยับ ลงไปมากกว่านี้ คิดอย่างนี้ เหมือนกับสรุปว่าพวกที่เดินขึ้นเองไม่ได้ หรือไม่ไหว หรือรักความสบาย ต้องขึ้นกระเช้า ส่วนใหญ่จะมีนิสัยเลว ไม่รู้สึกรัก หลงใหลในธรรมชาติ ตั้งใจจะขึ้นไปทำลายภูอันเป็นที่รักยิ่งของท่านทั้งหลาย แต่พวกที่เดินขึ้นภูเองเช่นเกือบทั้งหมดในที่นี้ จะเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ รัก หลงใหลในต้นไม้ สายธาร สายลม แสงแดด ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะทำลายธรรมชาติแม้แต่น้อยนิด ซึ่งในความเป็นจริง เราไม่สามารถวัดความดี ความเลว ความรักธรรมชาติ หรือความมีระเบียบวินัยได้เลย จากอีแค่ดูนิสัยคน จากการที่เขาจะเดินขึ้นภู หรือการรักความสบายนั่งกระเช้า หรือ ฮ.ขึ้นไป อีกหน่อยพอมีกระเช้าขึ้นไป อาจจะมีเซเว่น โลตัส หรือ ชูวิทย์อาจจะขึ้นไปเปิดอาบอบนวด ฯลฯ ตามมาก็ได้ ซึ่งก็ไม่น่าจะแปลกประหลาดตรงไหน ยังไงโลกมันก็หนีการพัฒนาไม่พ้น ถ้าไม่ชอบ ก็หนีไปเที่ยวที่อื่น ที่ๆมันยังต้องอาศัยความยากลำบากดั้นด้นเข้าไป ยังมีอีกตั้งหลายร้อยแห่ง โดยส่วนตัวแล้ว ไม่เห็นด้วย100% กับการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง จริงๆแล้ว ควรสร้างถนนขึ้นไปเลยจะดีกว่า 55555 จากคุณ : โน กระเช้า - [ 27 ส.ค. 46 12:41:53 A:203.151.46.4 X:203.151.46.193 ]

ความคิดเห็นที่ 114 รักชาติ กับ อย่ามาดูถูกคนไทย = full off shiet? น้อยๆหน่อย จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 27 ส.ค. 46 13:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ทางเว็บกรุณาเก็บกระทู้นี้ไว้อีก10ปีแล้วนำมาเผยแพร่แกครั้งหลังจากสร้างกระเช้าแล้วจะรู้ว่าอะไรเป้นอะไร ยิ่งนำรูปถ่ายในตอนนั้นมาลงด้วยยิ่งดีจะได้รู้ อีก 10 ปี เจอกัน จากคุณ : ทำสิ่งดีควรเริ่มที่ตัวเรา? - [ 27 ส.ค. 46 16:36:22 A:203.148.251.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 116 จาก คห.110 การเดินขึ้นเองก็ใช่ว่านึกจะขึ้นก็ขึ้นได้ มันมีเวลาจำกัดอยู่ หลังบ่ายโมงเขาก็ไม่ให้ขึ้นแล้วไม่รู้เรื่องเลยหรือไง แล้วมันก็ไม่ใช่ถนนเปิด มันมีด่านตั้ง 2 ด่านกั้นทางอยู่ ถ้าเขาไม่ให้ขึ้น คุณจะขึ้นไปได้อย่างไรไม่ทราบ ------------------------------------------------------------ ใช่ครับ มันจะมีเวลากำหนด.. แต่ก็อย่างที่ผมว่า มันมีทางเลือกให้ขึ้นได้ 2 ทาง ถ้ามาไม่ทันกระเช้า เพราะคิวเต็ม ก็เดินขึ้นอยู่ดี ก่อนที่จะปิดไม่ให้ขึ้น เหตุผลที่ปิดไม่ให้เดินขึ้นก่อนบ่ายโมง (ผมก็จำไม่ได้แล้วว่าเวลาเท่าไรแน่ เอาเป็นว่าอ้างอิงมาจากคุณละกัน) เพราะการเดินทางขึ้นภูมันใช้เวลานาน เขากลัวว่าเวลามืดค่ำไประหว่างทางขึ้น จะทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายไงครับ นั่นก็เป็นการจำกัดคนขึ้นอีกทางหนึ่งครับ ใครมาไม่ทันบ่ายโมง ก็ไม่ต้องขึ้น รอขึ้นวันพรุ่งนี้แทน แล้วลองคิดดูนะครับ ถ้าหากมีกระเช้า ผมว่ามันอาจจะให้บริการถึง 6 โมงเย็นหรือ 1 ทุ่มเลยก็ได้ เพราะความมืดไม่มีปัญหาในการให้กระเช้าลอยๆๆๆ ขึ้นไปถึงยอดภูเลย คิดยังไง ก็จำกัดคนไม่ได้หรอกครับ แล้วผมก็บอกมาหลายหนแล้ว จุดประสงค์ของการสร้างกระเช้าของท่านผู้ว่า ไม่ได้อยู่ที่การจำกัดคน แต่อยู่ที่การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปอีก 3-5 เท่าครับ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 27 ส.ค. 46 17:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 117 จาก คห.111 คุณคิดว่าฮอนี่มันเรียกมาง่ายเหมือนตุ๊กหรือไงรู้ไหมว่าฐานของเฮลิคอบเตอร์ที่ปติบัติการบนภูน่ะ เขาอยู่ที่ไหน ถ้าไม่รู้จะบอกให้ ว่าอยู่ ลพบุรี (ชีนุ๊ก) ถ้าเกิดเหตุด่วนขึ้นมาจริงๆเช่นญาติผู้ใหญ่ของคุณเกิดป่วยกระทันหันบนภูที่ไม่สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ ก็ช่วยบอกให้ท่านหายใจต่อไปอีกประมาณ2ชั่วโมงเพื่อทำเรื่องขออนุญาต นำเครื่องขึ้น และใช้เวลาเดินทางอีกประมาณชั่วโมงเดี๋ยวก็ถึงแล้ว...แล้วรู้อีกหรือเปล่าว่าค่าน้ำมันน่ะเท่าไหร่ ..ชั่วโมงละ สองหมื่นกว่าบาทครับท่าน ----------------------------------------------------------- ผมต้องขออภัยจริงๆ นะครับ ผมไม่ทราบเรื่องค่าใช้จ่ายฮออะไรเนี่ยเลย แต่ผมเห็นลานจอดมันอยู่บริเวณที่พัก แล้วตอนไปเที่ยวครั้งหนึ่ง ผมก็ได้มีโอกาสเห็นเครื่องตอนกำลังลงด้วย ... สมมติว่า ญาติของคุณโรคหัวใจกำเริบขึ้นมาตอนกำลังเดินเที่ยวที่ผาต่างๆ เช่น ผานางแอ่น แล้ว กระเช้ามันจะช่วยได้หรือไม่ครับ ระยะจากผานางแอ่น ---> ที่พัก ประมาณ 5-6 km ระยะจากที่พัก ---> ไปหลังแป ประมาณ 2-3 km ถ้าเป็นคุณ คุณจะให้ท่านวิ่งไปถึงหลังแปเป็นระยะทางเกือบ 10 km เพื่อไปขึ้นกระเช้าหรือครับ.... ถ้าจะป้องกันเหตุการณ์แบบที่คุณยกมาอ้างได้ ผมว่าต้องสร้างกระเช้าทุกๆ 2 km ของขอบผาเลยทีเดียวแหละ แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ ถ้าเป็นคนที่รักญาติล่ะก็ เงินค่าน้ำมันมันขี้ประติ๋วมาก เพื่อแลกกับชีวิตคนครับ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 27 ส.ค. 46 17:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ถามจริง ถ้าคุณไปถึงที่ตีนภูแล้ว ที่นั่นมีคนเยอะมากมองไปทางไหนก็มีแต่หัวคน แล้วเจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่า ขณะนี้บนภูมีนักท่องเที่ยวแล้วประมาณ3หมื่นคน ลานกางเต้นท์ทั้งหมดเต็ม ห้องน้ำเต็ม ส้วมเต็ม ร้านอาหารมีอาหารไม่พอขายแล้ว กระเช้าหยุดบริการ ด่านทางเดินขึ้นปิดไม่ให้ขึ้น ในสถานการณ์อย่างนั้น คุณจะยังดื้อที่จะขึ้นไปเที่ยวอีกหรือ ถึงจะเปิดกระเช้าต่อคนก็คงไม่อยากขึ้นไปเพิ่มอีกเพราะคนมันเต็มข้างบนแล้ว หรือคุณอยากจะขึ้นไปบนภูในวันที่มีคนหลายหมื่นคน บอกแล้วไงว่า จำนวนคนมันถูกจำกัดด้วยสถานที่โดยปริยายอยู่แล้ว ใช่ว่าทำกระเช้าอย่างเดียวแล้วคนจะขึ้นไปอยู่บนนั้นเป็นแสนคนในคืนเดียวได้ เป็นไปได้หรือ? กระเช้าสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้จริงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเพิ่มได้เกินขีดจำกัดของสถานที่ แต่สามารถใช้กระเช้าในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีเวลาเที่ยวไม่มาก สามารถย่นระยะเวลาได้ สามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวในช่วงที่มิใช่วันหยุดยาวได้ สามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากจะไปเที่ยวภูในช่วงวันหยุดยาว เพราะหยุดแค่เสาร์อาทิตย์ ก็ไปได้แล้ว ช่วยกระจายคนเที่ยวให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งฤดูกาล ไม่ใช่กระจุกกันอยู่แต่ช่วงวันหยุดยาว ขอย้ำอีกทีว่า ภูกระดึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอุทยานที่เปิดให้คนเข้าไปเที่ยว มิใช่ป่าอนุรักษ์ที่จะห้ามคนเข้าไป สถานที่ท่องเที่ยวต้องการคน ป่าอนุรักษ์ต้องการสัตว์ จากคุณ : 321 - [ 27 ส.ค. 46 17:54:06 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 119 อ่านแล้วอยากร่วมแจมค่ะ ไม่อยากให้สร้างกระเช้าค่ะ เห็นด้วยกับทุกๆท่านที่ไม่เห็นด้วย (ง่ะ) ไม่อยากเขียนมาก เพราะแต่ละคนก็เขียนดีๆทั้งนั้น จากคุณ : @KiSsy(ไม่ได้ล๊อคอิน) - [ 27 ส.ค. 46 17:56:07 A:194.138.240.9 X:140.231.97.240, 140.231.110.206 ]

ความคิดเห็นที่ 120 คุณคงจะลืมไปว่าข้างบนภูนั้นเขามีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์วิ่งกันอยู่ เป็นทั้งของเจ้าหน้าที่อุทยาน เป็นของทหาร ของแม่ค้าต่างๆ มีทั้งรถเข็น รถลาก รถแทรกเตอร์ก็ยังมี ถ้าเกิดเหตุจำเป็นเร่งด่วนจริงๆก็สามารถร้องขอได้อยู่แล้ว และคงจะง่ายกว่าขอฮอ เยอะ และอีกอย่างคนเป็นโรคหัวใจน่ะเขาไม่นิยมเดินเที่ยวเขาเที่ยวดอยกันหรอกนะ จากคุณ : 321 - [ 27 ส.ค. 46 18:03:59 A:210.4.136.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 121 จาก คห.120 โพสต์ไวจริงๆ นะครับ เอาล่ะ ขอชี้แจงก่อนเลยละกันว่า ที่ผมยกเอาคนเป็นโรคหัวใจขึ้นมานั้น เพราะผมตั้งใจจะสื่อว่า การไปเที่ยวภูกระดึงนั้น ควรจะมีร่างกายที่เตรียมพร้อมสำหรับการเที่ยว ไม่ใช่ป่วยกระเสาะกระแสะ แต่ดิ้นรนอยากไปเที่ยว อย่างนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ แล้วเคสคนเจ็บ คนป่วยที่คุณยกเอามาอ้าง มันมีกี่รายกันครับ ที่ผ่านมานั้นมันมีกี่ราย แล้วมันคุ้มไหม ที่เอาแค่อย่างนั้นมาเป็นข้ออ้างในการสร้างกระเช้าน่ะ... อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเจ็บป่วยอะไรขึ้นมา ข้างบนจะขาดยารักษาหรอกนะครับ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 27 ส.ค. 46 18:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 122 จาก คห.118 คุณคงจะยังไม่ได้อ่านบทความที่เสนอการสร้างกระเช้านะครับ http://news.mweb.co.th/xfile/xfile90981.html จะเห็นข้อความที่ว่า "หากก่อสร้างสำเร็จคาดว่าการท่องเที่ยวจังหวัดเลยและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะบูมมากยิ่งขึ้น เพราะจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาขึ้นภูกระดึงปีละประมาณ ๕ ล้านคน" นี่ครับ จุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้สร้าง แล้วก็อย่าลืมว่า เสน่ห์ของภูกระดึงไม่ได้อยู่ที่การเดินขึ้นภูอย่างเดียว มันยังอยู่ที่การสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นในตอนกลางคืนด้วย ===> ซึ่งต้องค้างคืนแน่นอน ผมว่าคงมีน้อยคนนะครับ ที่ขึ้นไปแล้ว จะสามารถกลับลงมาในวันเดียวกันได้ ถึงแม้ว่าจะมีกระเช้าก็เถอะ... เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะถ้าเที่ยวภายในวันเดียว คุณก็จะได้ชมธรรมชาติอย่างมากก็แค่ที่ทางจากหลังแปไปที่พักเท่านั้นแหละครับ ลองใช้ใจคุณคิดดูสิครับ มาภูกระดึงทั้งที มันก็ต้องเที่ยวให้เต็มที่ (ตามโปรแกรมที่กำหนด ตามขอบเขต) กว่าจะนั่งรถมาตั้งไกล มาเพื่อชมธรรมชาติตรงทางเดิน แล้วรีบลงมา แล้วก็นั่งรถกลับ ผมว่าน้อยคนครับที่จะคิดอย่างนั้นน่ะ... จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 27 ส.ค. 46 18:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 123 อืมมม อ่านกระทู้ของคุณ 321 (#110-112) แล้ว ก็อืมมม น่าคิดนะครับ เป็น มุมมองที่น่าสนใจทีเดียวที่ว่า เสาที่กินเนื้อที่ใม่กี่เมตร จะทำให้ลดการที่ มนุษย์ จะมี contact (และไปรบกวน) ธรรมชาติได้ น่าสนครับ =D มันติดอยู่แค่ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นง่าย ขึ้น บวกกับความไม่เชื่อมั่น(อย่างแรง) ว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายจะมีแนวโน้มเป็น คน civilized มากขึ้น นั้น ก็ยังน่าคิดอยู่ดีน่ะครับ ผมไปภูหลวงรามคำแหงตอนปีใหม่ ทางเดินขึ้นหินสุดๆ แต่ก็มีวัยรุ่นหนุ่มใสวขึ้นไปเยอะแยะ เห็นแล้วน่าปลื้มใจ แต่พอเริ่มตกดึก ทั้งวิทยุ ทั้งกีร์ต้ายันเช้า มายืนฉี่ ข้างเต๊นผมเลยครับ ถุงขนมพันล้าน น้ำที่ใช้ล้างจาน ฯลฯ คูณด้วยจำนวนคน... ทำให้ภาพทะเลหมอกอันแสนงามนี่ยากที่จตะอยากจำเก็บใว้ครับ นี่ขนาดขึ้นยากสุดๆนะ...ถ้าขึ้นง่ายกว่านี้นี่.... คุณ คิลลี่แมนครับ ขอให้ทราบ ที่ผมพูดว่า Full of Shiet นั้น ผมพูดมาด้วยความเจ็บใจครับ ใม่ได้อยากพูดเลย ผมรักประเทศมากครับ อยู่มาหลายที่ เวลาติดต่องานกับต่างชาติ ผมจะทำให้เขาประทับใจที่สุด เพื่อชาติผม ทุกวันนี้ เวลาตั๋วรถเมล์ปลิวออกจากมือไปตามพื้น ผมก็วิ่งตามเก็บครับ... ผมแทบไม่เคยออกมาพูดว่ารักชาติเลยครับ และผมหมั่นไส้อย่างมากที่กระแสแบบว่าสักแต่พูดปาวๆๆๆๆๆ ไทยๆๆๆๆๆ นี่เหลือเกินครับ...ขออภัยถ้าไม่ถูกใจคุณครับ จากคุณ : 9pm - [ 27 ส.ค. 46 22:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 124 อย่าเก่งแต่ในกระทู้ครับ อวดว่าความคิดตูแน่แต่ในกระทู้ แต่ตัวเองไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากพิมพ์เป็นอย่างเดียว มันดังแต่ในนี้ล่ะครับ shut down ไปเดี๋ยวก็ลืมกันหมดแล้ว จากคุณ : jj - [ 27 ส.ค. 46 23:29:29 A:202.57.168.77 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125 จาก คห.124 อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ อย่าเราอยู่เฉยๆ ทางผู้รับผิดชอบโครงการณ์นี้อาจจะนึกว่าเราไม่คัดค้านก็ได้นี่ครับ ... อาจจะผลักดันโครงการนี้จนเสร็จโดยที่เราไม่ตั้งตัวก็ได้ จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 28 ส.ค. 46 01:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 126 อายุผม 46 แล้ว บอกตรง ๆ ว่ายังไม่เคยไป เคยได้ฟัง เพื่อน ๆ เล่าให้ฟัง ใจน่ะอยากที่จะได้สัมผัสบ้าง แต่ไม่อยากไปแบบทางลัด เหมือนพวกโกงข้อสอบยังไงไม่รู้ ผมชอบความเห็นที่ 106 ถ้าเสน่ห์ของมัน อยู่ที่การเดินทางอย่างลำบาก แล้วมีวิว ทิวทัศน์ข้างบน เป็นรางวัลของการฟันฝ่า ถึงสร้างกระเช้าแล้ว ผมก็คงจะไม่ไป และถ้าเหตุจำเป็นบังคับให้ต้องไป ผมจะไม่ถ่ายรูป มาโชว์ใคร ๆ เพราะมันคงไม่มีความภูมิใจแฝงอยู่ในภาพนั้นแล้วครับ จากคุณ : เห็นด้วยกับคุณ NICK - [ 28 ส.ค. 46 07:18:09 A:203.147.4.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 127 ผมอายุ 33 ขึ้น ภูกระดึงมา 7 ครั้งแล้ว และยังอยากขึ้นไปอีก ถ้ามีกระเช้า เละแน่ ๆ ครับ อยากไปสบาย กรุณาไปที่อื่น เถอะ ฝรั่งเขาขึ้นภูก็เพราะ อยากสัมผัสธรรมชาติมากกว่า เห็นด้วยกับคุณ NICK อย่างยิ่ง คนไทยที่ไปเที่ยว ทุกที่ทั่วไทย ที่ผมเคยไปมามันทำให้ผม ดูคนไทยไม่ผิดแน่ ๆ เพราะว่า มันเป็น:-)แล้วมั้ง ไอ้ประเภทไปป่า แล้วไป โหวกเหวก ไปรบกวน ไป รังแก ต่าง ๆ นา ๆ โอย อย่าให้พูดเลย ขี้เกียจพิมพ์ จากคุณ : นายก้อน (นายก้อนF5) - [ 28 ส.ค. 46 08:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 128 สำหรับคนที่คิดว่าสิ่งแวดล้อมทั้งหลายเป็นของทุกคน ผมขอเสริมอีกว่า ถ้าคุณคิดอย่างนั้น มันก็ต้องเป็นของของคนที่จะเกิดมาในอนาคต รุ่นลูกรุ่นหลานเราอีกด้วยเช่นกัน แล้วเรามีความชอบธรรมอะไรที่จะใช้ทุกอย่างที่มีตอนนี้ให้หมดไปในยุคสมัยของเรา และทำเพียงเพื่อยุคสมัยของเรา จากคุณ : เอ้ (คงไม่ซ้ำแล้ว) - [ 28 ส.ค. 46 18:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 129 คุณเอ้พูดมีเหตุผล จากคุณ : ตุ้ม แม็คฯ - [ 28 ส.ค. 46 19:39:50 A:203.154.97.197 X:129.0.1.70 ]

ความคิดเห็นที่ 130 สร้างกระเช้าแล้วจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมจริงหรือ... งั้นสร้างมันทุกภูเลยดีมั๊ย....ไหนๆก็บอกมาแล้วว่ามันไม่ทำลายสิ่งแวด ล้อม.... โคตะระตลกเลยว่ะ.....เขาสร้างเพื่อเอาเงินนะหนู...เรื่องสิ่งแวดล้อม เขาไม่สนหรอก...ขอเพียงแค่ให้คุ้มทุนโดยเร็วที่สุด..โดยบรรทุกขน คนให้มากที่สุด...แค่นั้นเอง จากคุณ : ...&... - [ 28 ส.ค. 46 21:10:06 A:203.113.37.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 พวกคุณรอเปิดภูครับ 1 ต.ค. ทุกคนจะพบการเปลี่ยมแปลงสิ่งก่อสร้างเป็นปูนเยอะมาก ร้านค้าก็เปลี่ยนสถาพตามนโยบายหัวหน้าอุทยาน แล้วอาจจะไม่มีการปิดภูอีกต่อไปป่าปิดก็จะไม่ปิด ลองดูครับผมก็อ่อนใจต้องหาเงินมาทำร้านใหม่ ลูกหาบตอนนี้รายได้ตกแบกของให้ได้ 7บาทต่อกิโลแล้วดูการเปลี่ยมแปลงครับ จากคุณ : คนศรีฐาน - [ 29 ส.ค. 46 00:54:04 A:202.5.80.235 X: ]

ความคิดเห็นที่ 132 โอ๊ย โหย..100 กว่าแล้วหรือเนี่ย..แถมมีคนมาแอบพาดพิงเล็กน้อย คุณ ke@ เดี๋ยวเจอกัน ทุกๆ ท่านให้เหตุผลดีๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ถ้าโดยส่วนตัวก็อยากให้เป็นธรรมชาติของมันอยู่อย่างไหนก็อย่างนั้นตลอดไปค่ะ เอ..แต่ว่าตอนนี้เค้าทำไปถึงไหนกันแล้ว..นะ จากคุณ : เป็นได้แค่คนในฝัน - [ 29 ส.ค. 46 09:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เห็นด้วยกับคุณ Nick ครับ จากคุณ : วนกร - [ 29 ส.ค. 46 18:24:48 A:203.155.28.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 135 เห็นด้วยกับคุณ Nick พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยไร้ระเบียบวินัยอย่างรุนแรง มักง่าย เอาสะดวกตัวเองเป็นใหญ่ อย่าหน้าบางที่จะต้องยอมรับความจริงเช่นนี้เลยคุณ ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ความจริงมันก็ฟ้องอยู่ตามกองขยะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือดูง่ายๆ ใกล้ตัว ไม่ต้องไปถึงแหล่งท่องเที่ยวหรอก เอาแค่ถังขยะในเมืองกรุงที่ตั้งอยู่ตามซอย ไม่มีเทศกิจคอยจับปรับ ยังทิ้งกันไม่ลงเล้ย โดยเฉพาะที่ไหนมีวงเหล้าเมื่อไหร่ ความหายนะก็มาเยือน เหล้าเข้าปาก สติสำนึกก็หายเกลี้ยง จากคุณ : ไม่ได้ดูผิด แต่ดูถูก - [ 31 ส.ค. 46 01:06:17 A:203.155.226.252 X: ]

ความคิดเห็นที่ 136 การอนุรักษ์ ไม่ใช่การไม่ใช้ ไม่ไปแตะต้อง แต่เป็นการใช้อย่างรู้คุณค่าและ อย่างยั่งยืน ตราบใดที่นักท่องเที่ยวยังไม่มีจิตสำนึก ถึงจะไม่มีการสร้างกระเช้า สิ่งมีค่าที่อยู่บนภูกระดึงก็จะต้องเสียหายไปอยู่ดีหละครับ แค่มีคนไปเหยียบ สภาพธรรมชาติมันก็เสียไปแล้วหละ ผมว่ามันอยู่ที่จิตสำนึกของเราๆ ท่านๆ ที่ขึ้นไปเที่ยวนี่หละครับ สร้างกระเช้าแล้วความเสียหายจากคนก็เร็วมากขึ้นเท่านั้นหละครับ อย่างไรก็ดี ผมเห็นว่าควรจะปลูกฝังจิตสำนึกในการท่องเที่ยวอย่างอนุรักษ์ ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เมื่อนักท่องเที่ยวมีจิตสำนึกแล้วนั่นแหละครับ จะมีกระเช้าหรือไม่ ก็ไม่ต่างกัน จากคุณ : [] - [ 31 ส.ค. 46 15:07:55 A:202.28.169.165 X:unknown ]

ความคิดเห็นที่ 137 ผมกับเพื่อนๆ หลายคนขึ้นไปบนภูกระดึงมาแล้ว ไม่มีเหล้า ไม่มีเครื่องดนตรี กินมาม่า น้ำไม่ค่อยได้อาบ อึ 1 ครั้งใน 3 วันเนื่องจากอาหารไม่ค่อยมีกาก แต่ก็ดีลดน้ำเสียไปได้บ้าง เดินเที่ยวไปเกือบทั่ว ทั้งผา ทั้งน้ำตก 3 วันเต็มๆ เดินๆๆๆ กลับลงมาไม่มีใครพูดถึงความสวยงามของธรรมชาติกันมากนัก .... เนื่องจากวิวที่อื่นหลายๆที่ในเมืองไทย สวยกว่าบนภูกระดึงมาก ..........จะพูดกันก็แต่เรื่องเดียว............. (((( ดีใจที่ตัวเองแข็งแรงเดินขึ้นไปถึงหลังแปได้ และกลับมาได้อย่างอารมณ์ดี พร้อมถุงขยะใบเขื่องที่เก็บขยะที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้ระหว่างทาง มีใบประกาศรับรองความดีให้ทุกคนในกลุ่มเป็นกำลังใจในการทำความดี เขียนโดยคนพิการ แต่ตัวหนังสือสวยมาก )))) สนใจดูใบประกาศก็มีให้ดู คนที่ไปเที่ยวมาน่าจะมีกันทุกคน นอกจากคนที่ไม่เก็บแม้แต่ขยะที่ตัวเองทำขึ้นกลับมา (ทิ้งไว้แต่อึ กับฉี่ เถอะครับมันเอาลงมาลำบากทั้งตนเองและผู้อื่น) ..... ก็คงจะคุยกันคนละภาษาแล้วหล่ะ ไม่รู้เรื่องกันหรอก เหนื่อยเปล่า เดี๋ยวจะมีคนภูมิใจที่ได้นั่งกระเช้า สร้างโดยพวกฝรั่งเชียวนะ ใช้เทคโนทันสมัยที่สุดในโลก ไม่มีการทำลายธรรมชาติ เออนี่เธอ ว่าแต่ เฮอริเคนเธอเคยนั่งยังหล่ะโคตระมันส์เรยย ไปหานั่งซะนะเดี๋ยวจะไม่อินเทรน 5555555 ..... จากคุณ : ภูกระดึงธรรมชาติไม่ค่อยสวย - [ 31 ส.ค. 46 22:54:59 A:202.44.4.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 138 (ทิ้งไว้แต่อึ กับฉี่ เถอะครับมันเอาลงมาลำบากทั้งตนเองและผู้อื่น) อืมมมมม....จริงของคุณข้างบนครับ และอีกอย่างมันคงเป็นปุ๋ยชั้นดีด้วย...ผมว่า... จากคุณ : ตุ้ม แม็คฯ - [ 2 ก.ย. 46 09:11:17 A:203.154.97.197 X:129.0.1.70 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ขอเป็นอีกเสียงในการคัดค้านการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติใด ๆ ก็ตาม (ข้อเน้นย้ำว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ) หากเรา ๆ ท่าน ๆ ลองนึกย้อนดูให้ดี ภูกระดึง โด่งดัง และเป็นที่รู้จักของใครต่อใครให้อยากได้ใคร่สัมผัสนั้นไม่ใช่เพราะความประทับใจในธรรมชาติที่งดงามบริสุทธิ์ โตรกผาสูงชัน น้ำตกไหลเย็น รวมทั้งหนทางที่ยากลำบาก ไม่ใช่สิ่งเหล่านี้หรอกหรือ ผมไม่ เคยได้ยินหรือไม่เคยมีใครเล่าให้ฟังถึงความประทับใจในภูกระดึงว่า ภูกระดึงงดงามไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เดินยัวเยี๊ยเรียงรายสวยงาม เอ็ดตะโร อื้ออึงดีเหลือเกิน บ้างก็ แย่งกันหาที่กางเต้นท์ บ้างก็แย่งกันเข้าห้องน้ำ บ้างก็ตะเบ็งแก่งแย่งซื้ออาหาร เดินไปตรงโน้นก็คน ตรงนี้ก็คน ช๊อบ ชอบ ผาหล่มสักซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียด ยื้อแย่งถ่ายภาพ เมื่ออาทิตย์อัศดง ช่างเป็นภาพที่ประทับใจเหลือเกิน ซึ่งถ้ามีแม้สักเสียงเดียวผมก็ไม่คิดที่จะค้านกับคนเหล่านั้น ถ้าหากมองในแง่ที่ต้องการสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นหรือประเทศชาติ ต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นำเงินตราเข้ามาสู่ท้องถิ่น ในส่วนนี้ทำไมไม่ผลักดันโครงการใหม่ ๆ ไปซะเลย สำรวจยอดเขาหรือยอดดอยเสื่อมโทรมมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (ให้อยู่ในจังหวัดเลยเพราะเขาอยากได้ หรือถ้าจำเป็นต้องเป็นภูกระดึงก็ให้อุปโลกไปว่านี้แหละภูกระดึงที่ฝันใฝ่ ไหน ๆ ก็ไม่รู้จักภูกระดึงแล้วนี่) มีโครงการก่อสร้างสวนสนุก หรือ แฟนตาซีแลนด์ มีเครื่องเล่นนานาชนิด มีบ่อนเสรี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีอะไรก็ได้ที่อยากมี ทำโครงข่ายการคมนาคมเชื่อมโยงทั่วถึง วาดฝันเป็นโครงการระดับชาติให้เอกชนเข้าลงทุน อย่างนี้สิจะได้ตรงกับนโยบายทางการตลาดที่ต้องการการเม็ดเงินในการลงทุน ต้องการกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการจ้างแรงงานท้องถิ่น ไม่ทำลายพื้นที่ป่าไม้ ภูกระดึงก็ยังอยู่ เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง จากคุณ : ก๋วยจั๊บ - [ 3 ก.ย. 46 15:38:56 A:203.151.45.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 140 ผมขึ้นภูกระดึงครั้งแรกเมื่อ ปี 2519 เมื่อเทียบกับตอนนี้ ผมอยากให้เป็นเหมือนเดิมจังเลย แม้ว่าบางอย่างจะดีขึ้น แต่ในความคิดของผมสิ่งที่ต้องเสียไปมากกว่า ถ้าผมมีโอกาสขึ้นไปอีก ในอีก 20 ปีข้างหน้า ไม่รู้ว่าผมจะได้เห็นอะไร สายน้ำที่ใหลผ่านไปไม่อาจหวนกลับคืนมาได้ บางสิ่งต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่บางสิ่งควรคงสภาพนั้นไว้ จากคุณ : ความคิด (TGTK) - [ 5 ก.ย. 46 04:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 141 อ่านคบทุกกระทู้ เลยเกิดคำถามอยากให้เพื่อนช่วยตอบหน่อยครับ 1.ระหว่างป่าไม้หรือสิ่งต่างที่ธรรมชาติสร้าง กับ สิ่งต่างๆ ที่คนสร้างขึ้นมา สิ่งไหนมันใช้ระยะเวลาการสร้างสรรค์นานกว่ากัน ? 2.เราควนจะพัฒนา( ในทางที่ดีขึ้นหรือเปล่าก้อไม่รู้?) หรือ อนุรักษ์สิ่งที่มีอยู่แล้วให้คงสภาพเดิมมากที่สุด อย่างไหนจะดีกว่ากัน ? 3. เหตุผลที่ฝรั่งมาเที่ยวที่ ภู เข้าต้องการเดินขึ้นกระเช้า หรือ เดินสัมผัสธรรมชาติที่บ้านเมืองเขาไม่มีกันแน่ ? 4. คำว่า"ดูถูก" ที่ เราพูดกันเนี่ย หมายถึง รู้ซึ้งเข้าใจดี หรือว่า ดูหมิ่น กันแน่ ? ช่วยตอบหน่อยน่ะคับ ขอบคุณครับ จากคุณ : หมกหมุ้น - [ 5 ก.ย. 46 16:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 142 คนที่ไปเดินป่ายอมเหนื่อยเพื่อขึ้นไปบนภูเขาคินาบาลูที่เกาะบอร์เนียว เขาเดินกันเพื่ออะไร เดินเพื่อให้ได้เห็นสภาพธรรมชาติระหว่างทาง ต้นไม้ เฟิร์น กล้วยไม้ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ การอยู่ร่วมกันของสัมคมพืชและสัตว์ชนิดต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามระดับความสูง นี่คือประสบการณ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวจะได้รับต่างหาก ไม่ใช่เพียงว่าข้าเป็นผู้พิชิตขึ้นมาถึงยอดสูงสุด ถ่ายรูปวิว ทะเลหมอกแชะๆๆ แล้วก็จบกันแค่นั้น ทางเดินบนเรือนยอดต้นไม้ มาเลเซียทำเพื่ออะไร ทำเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นป่าฝนเขตร้อนในอีกมิติหนึ่งที่การเดินอยู่ที่พื้นป่าเบื้องล่างไม่สามารถเห็นได้ (แต่การเดินที่พื้นล่างก็ได้เห็นสังคมป่าที่ระดับพื้นดิน) ถ้าทำแล้วทำให้เกิดความรู้ และได้อะไรที่มากกว่าเพียงการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว นั่นแหละค่อยน่าทำ แต่ถ้าเอะอะก็เพื่อความสบายของนักท่องเที่ยว จะได้มากันเยอะๆ อย่างนั้นอย่าทำเลยดีกว่า คนไทยเที่ยวแบบฝูงตั๊กแตนปาทังก้า ที่ไหนดังก็แห่กันไป เหมือนกลัวว่าภูเขาจะถล่ม เกาะจะแตก หาดทรายจะหายใน 3 วัน 7 วัน ต้องรีบแห่ไปเที่ยวแบบขาดจิตสำนึก พอที่เดิมฉิบหายก็ย้ายไปสร้างความพินาศให้แหล่งท่องเที่ยวอื่นต่อไป จากคุณ : นักท่องเที่ยวปาทังก้า - [ 5 ก.ย. 46 17:57:30 A:203.152.28.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 143 1.ผมว่าอยู่ที่จิตสำนึกมากกว่า จะไปโทษพาหนะก็คงไม่ถูก ทุกวันนี้กระเช้าก็ยังไม่มี แต่มันก็แย่ลงจากเมื่อก่อน เมื่อมีคนก็มีขยะ คนมากขยะก็มากตาม นักท่องเที่ยวก็คือสิ่งแปลกปลอมในป่า สัตว์มันแยกไม่ออกหรอกว่าใครเป็นนักอนุรักษ์ ทุกคนในนี้ก็ยอมรับว่าคนไทยส่วนใหญ่ขาดจิตสำนึก และคงอีกนานกว่าจะปลูกฝังกันได้ งั้นต้องประกาศปิดป่าไปเลย เพราะจะไปห้ามไม่ให้พวกไร้จิตสำนึกเที่ยวก็ไม่ได้ ในเมื่อคุณเองก็ยังมีสิทธิไป ถ้ายอมรับความจริงกัน ไม่ว่าใครเข้าไปมันก็รบกวนธรรมชาติทั้งนั้น แล้วแต่ว่าจะมากหรือน้อย หรือถึงขั้นทำลาย แล้วมันก็วัดกันไม่ได้ด้วยว่าใครมีจิตสำนึกระดับไหน หรือจะใช้จิตสำนึกระดับไหนเป็นเกณฑ์อนุญาตให้เข้า 2.เดี๋ยวนี้มีพวกที่รักธรรมชาติกันเยอะ แต่มีกี่เปอร์เซ็นต์ที่ลงมือทำจริงๆ เวลาคุณไปเที่ยวแล้วเจอพวกที่ไร้จิตสำนึก คุณได้ทำอะไรบ้าง ? เข้าไปบอกพวกนั้นเหรอ ! หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ ! ส่วนใหญ่ที่เห็นก็แค่บ่นพึมพำกันในกลุ่ม หรือมาระบายตามบอร์ดต่างๆ แล้วก็วางแผนหาที่เที่ยวใหม่ ไปป่าที่ลึกขึ้น ไปเกาะที่ไกลขึ้น โดยหวังว่าจะไม่เจอคนพวกนั้นอีก หวังว่าไม่ต้องเจอคนพลุกพล่าน อย่างนี้เรียกหนีปัญหาครับ ไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรเลย เพราะในที่สุด คนอื่นๆก็จะคิดและทำอย่างคุณ จนไปเกิดปัญหาอีกที่หนึ่ง เหมือนหนีจากกองขยะเดิมแล้วไปสร้างกองใหม่ คำพูดที่บ่นกันประเภท “ไม่เหมือนสมัยนั้น” หรือ “ที่เคยไปตอนนั้น .” ก็จะยังคงเป็นอมตะต่อไป 3.รู้สึกแต่ละความเห็น จะมีแค่ความต้องการของนักท่องเที่ยวนะ แล้วข้อดี-ข้อเสียที่จะเกิดกับชาวบ้านแถวนั้นล่ะ ? อุทยานแห่งชาติเป็นของทุกคน แต่ความเห็นของชาวบ้านในท้องถิ่นย่อมมีน้ำหนักกว่าของนักท่องเที่ยว (ซึ่งมากันแค่ไม่กี่วัน) ถ้าหากชาวบ้านไม่ต้องการกระเช้า โครงการนี้ก็จบ และถ้าหากยังดึงดันก็อาจจะมีการประท้วงเหมือนที่อื่นๆ แต่ถ้าชาวบ้านเกิดต้องการล่ะ จะมีนักท่องเที่ยวหรือนักอนุรักษ์ทั้งหลายไปขับไล่ชาวบ้านมั้ย ! อีกอย่างที่อ่านเจอ คือ ทุกคนประทับใจกับการเดินขึ้นภู แต่ทำไมถึงเอาความประทับใจส่วนตัวไปตัดสินโครงการ ชาวบ้านเค้าอาจจะชอบใจที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆมากกว่าการได้เห็นความประทับใจของนักท่องเที่ยวก็ได้ (อันนี้ก็ไม่รู้) หรือบางที คนรุ่นลูก รุ่นหลานอาจจะประทับใจที่ได้เดินขึ้นภู แล้วลงด้วยกระเช้าก็ได้นะ จากคุณ : รักษ์กันจัง - [ 6 ก.ย. 46 02:30:15 A:213.77.171.95 X:203.156.29.73 ]