ความคิดเห็นที่ 1 ถึงคุณ ลูกนกกระเต็น คุณถามว่า การเสียค่าธรรมเนียมว่าผมปฏิบัติตามหรือเปล่า ผมก็อยากถามคุณว่าคุณมีหน้าที่ที่จะตามผมหรือเปล่า ถ้ามีคุณลองไปเช็คดูที่ทำการว่า ผมซื้อบัตรถูกต้องหรือไม่ อันนี้ผมไม่ต้องตอบคุณ เราะไม่เคยปฏิบัติผิดกฎ และส่วนนี้เขามีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว มีอยู่ 1 ประโยคที่ว่า ถ่ายรูปหน้ารัง ถ่ายแล้วไม่สวย จะถ่ายทำไม อันนี้ผมพูดเมื่อมีคนถามผมที่ โฟโต้ซิตี้ ว่าถ่ายภาพคนสวยจัง ผมเลยบอกว่าถ่ายภาพระยะไม่เกิน 6 เมตร มันเป็นระยะที่คมชัด ของเลนส์ ตัวนี้ และถ้าถ่ายภาพไม่ชัดและไม่คมจะถ่ายทำไม คุณเอาคำพูดผมมาไม่หมด เพื่อหวังโจมตีผม หรือ กฎ กติกา มารยาท มีไว้ควบคุมคนที่ไม่ปฏิบัติตาม สุดท้ายใครอยู่กลุ่มใคร ใครคือคนใกล้ตัว ถ้ายังปฏิบัติสิ่งที่ไม่สมควรระวังสังคมจะประ นามแน่นอน คือผมไม่มีกลุ่ม ผมไม่มีพวก ผมมีแต่เพื่อนๆ และน้องๆ ที่ให้ความนับถือ และไม่มาก คนใกล้ตัวผมก็ไม่มี ผมอยู่คนเดียวทุกวัน ถ้าคุณยังไม่หายข้องใจก็โทรหาผมได้จะได้คุยกัน คห.34 คุณนกกระเต็น การที่ว่าตั้ง บังไพร หน้ารังห่างไม่เกิน 5 เมตร มันรบกวนนก ผมก็ไม่เคยตั้ง เพราะเลนส์ผมมันโฟกัสในระยะใกล้สุด ประมาณ 6-7 เมตร คุณบอกว่าคุณเจอมาถ้ามีกิ่งไม้ขวางหน้ารังถ่ายแล้วไม่สวยก็หักออกไป แล้วหลอกคนอื่นว่า นกออกจากรังไปแล้วถ่ายไม่ได้เลย แล้วเอารูปมาลง หมายความว่ายังไง คุณว่าคนผิดแล้ว คุณลูกนกกระเต็น ผมไปถ่ายนกหรือรังนกไม่เคยได้จัดแต่งหน้ารังอะไรเลยและเป็นคนเดียวที่เอาเรื่องคนตัดรังนกพญาปากกว้างหางยาว ที่กม. 27 ลงหนังสือ ปี 43 ทั่งที่คนตัดเขาขอร้องว่าอย่าลงหนังสือเลยมันจะเสียหายถึงส่วนรวม ผมตอบว่าไม่ได้คุณทำคุณต้องรับผิดไป จะได้ไม่เสียหายถึงส่วนรวม จะเสียจะได้เสียคนเดียวที่ทำเท่านั้น ลองไปซื้ออ่านซิครับยังมีอยู่ในหนังสือ Camerat เล่มที่ 56-58 ส่วนที่คุณว่าไม่ได้ถ่ายเลยแล้วเอารูปมาลงหมายความว่ายังไง ผมก็ไม่รู้ไม่เคยเอารูปไปลงที่ไหนเลยไม่รู้จะตอบยังไง กรณี อัญชันป่าเขาแดง มีการขับไล่รถที่เข้าใกล้รัง นี่ก็แสดงว่าคุณเขียนมาอย่างคนไม่รู้จริง เพราะว่าที่มาใกล้รังอัญชันป่าเขาแดง นั้นใกล้ที่สุดประมาณ 50-80 เมตร และผมเป็นคนบอกให้ไปถ่าย เขาเป็นข้าราชการตำรวจจะไม่บอกยศ และขับรถไม่ค่อยจะเก่งได้ตกลงไปข้างทาง ผมต้องตามรถมาช่วยลากจึงขึ้นมาได้ อัญชันป่าเขาแดง นั้นผมบอกคนนับได้ไม่เกิน 6 คน ที่มาถ่ายภาพ ส่วนที่มานอกนั้นเป็นการบอกต่อกันเองทั้นนั้นส่วนที่ว่าข้างๆรังถอนหญ้าและต้นไม้ออกหมดเพราะว่าภาพไม่สวยใช่ไหมครับ ภาพที่ผมถ่ายมานั้นสภาพรังคงเดิม มีคนดูนกที่มีชื่อเสียงไปดูกับผมลองถามดูซิครับว่าสภาพรังถูกเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นใครก็โทรถามผมได้จะบอกให้ครับ จากคุณ : ลุงแก่ - [ 26 ส.ค. 46 14:53:12 A:203.170.143.83 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถึงคุณ FOX เรื่องนกที่ยังไม่ออกจากรังแล้วลงในเน็ตว่าออกไปแล้วและมาแก้ตัวว่าข้อมูลผิดพลาด เป็นการแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น เพราะจะรู้ได้หรือไม่การที่นกออกจากรังต้องเห็น นี่ถือว่าเป็นการปกปิดเพื่อกันไม่ให้คนเข้าไปดูมากกว่า เพราะจะได้รู้กันในกลุ่ม นกที่ออกจากรังนั้นผมโทรบอกคุณตั้มว่าลูกนกออกจากรังแล้ว 1 ตัว วันที่ 30 และคาดว่าจะออกหมดภายในวันรุ่งขึ้นแต่เป็นการที่คาดผิดเพราะว่าอาหารน้อยหรืออย่างไรไม่ทราบได้ นกมาออกจากรังหมด อีก 6 วันต่อมา ที่คาดผิดเพราะว่าที่เคยเจอนก Pitta มาหลายชนิดเลี้ยงลูกไม่เกิน 10-11 วัน แม้แต่รังเดียว มีแต่รังนี้เท่านั้นและเป็นรังเดียวด้วย การที่เจอรังนกไม่ใช่เจ้าของ เรื่องนี้ไม่ต้องบอกให้ใครก็รู้เพราะนกที่อยู่ในป่าไม่มีเจ้าของและผมไม่เคยเป็นเจ้าของรังนกเลย คุณยกให้ผมเป็นเจ้าอาวาส ผมเป็นไม่ได้เพราะผมไม่มีปัญญา และ เจ้าหน้าที่และนักถ่ายภาพก็ไม่ได้เป็นสาวกของผม ผมมีแต่เพื่อนและน้องๆ เท่านั้น และที่ว่าชอบอวดรูปนก คุณเคยเห็นภาพถ่ายของผมที่ไหน ถ้าในเน็ต ก็ไม่เคยลง รูปของผมถ้าคุณเคยเห็นก็ 1.ที่บ้านลุงแดง 2.ตอนสมเด็จเสด็จที่ดอยอินทนนท์ 3. ที่บ้านกร่าง 4. ที่แสดงนิทัศการที่ THE MALL บางกะปิ แล้วคุณเคยเห็นที่ไหนครับ จากคุณ : ลุงแก่ - [ 26 ส.ค. 46 14:53:49 A:203.170.143.83 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 แก่แล้วแก่เลยจริงเลยลุง อีโก้ เลยสูงตามวัย เรื่องผิดไม่มีเลยเนอะ จากคุณ : :) - [ 26 ส.ค. 46 16:07:22 A:203.149.41.196 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณลุงมากครับที่มาอธิบาย อย่างน้อยก็ไม่ให้เป็นการฟังความข้างเดียวอย่างกระทู้ปัญหาข้างล่างโน่น คุณความคิดเห็นที่ 3 ถ้าคุณไม่รู้ว่าเรื่องจริงๆ เป็นยังไง ก็อย่ามาเขียนแบบนี้เลยครับ ตัวตนก็มี แสดงออกมาบ้างเวลาจะด่าใครเขา อย่าทำตัวเป็นอีแอบอยู่แบบนี้เลย จากคุณ : Headbanger - [ 26 ส.ค. 46 16:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรียนคุณHeadbanger ผู้รู้ไปทุกเรื่อง แต่ไม่เคยเปิดใจรับคนที่มาติเรื่องถ่ายรูปเลย :) ลองกลับไปอ่านกระทู้ข้างล่างอีกทีนะครับ ผมว่าคนตั้งกระทู้เค้าแค่อยากนำเรื่องไม่น่าดูมาเผยแพร่ แต่พวกคุณที่ถ่ายรูปก็มาช่วยหาเหตุผลกันเพียบ ตอนนี้คุณยังว่ากระทู้ข้างล่างฟังความข้างเดียวอีก ทำใจให้เป็นกลางหน่อยเถอะคุณ อะไรไม่ดีก็ยอมรับซะบ้าง ลด ๆ อีโก้ในตัวลงซักนิด พูดในฐานะเพื่อนมนุษย์นะครับ คนเรามีทำผิด ได้ทุกคนล่ะน่า ผมด้วยผมยอมรับแต่ถ้าเราไม่ยอมรับว่าตัวผิด จนตายคุณก็ไม่สามารถทำถูกได้นะครับ เพราะเรื่องบางเรื่องมันบังคับกันไม่ได้ ต้องให้เรารู้สึกมาจากข้างใน จากคุณ : :) - [ 26 ส.ค. 46 17:22:57 A:203.149.41.196 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลุงแก่มาอธิบายในนี้แล้ว จะไม่ไปอธิบายใน http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?board=tkt_birdclub&content=0828 บ้างรึ เขาก็ว่าลุงแก่แรงๆเหมือนกันนะ จากคุณ : เจ้าภูผา - [ 26 ส.ค. 46 17:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น่านับถือท่าน คุณ ลุงแก่ จริง ๆ ครับ มีอะไรน่าจะคุยกันแบบเปิดอกเสียทีครับ ไม่ใช่มาตอด เหมือนปลาซิว เขียนอะไรไม่ลงชื่อบ้าง เขียน 2,3 ความคิดเห็นเปลี่ยนชื่อ ที่แท้ก็คนคนเดียวกัน อย่ายุให้แตกความสามัคคีเลยครับ ขอทำตัวที่สร้างสรรหน่อยครับ คุณไปอบรม ไปสัมมนาที่ไหน ต้องใช้ภาพถ่ายเพื่ออ้างอิง ถ้าไม่ทำใจ คุณไปสัมมนา ไปร่วมอบรมงานต่าง ๆ ถ้าคุณเห็นภาพไม่ถูกใจคุณ ผมว่าสักวันคนแบบนี้ต้องเป็น " บ้า " แน่ ๆ เลยครับ อิอิอิ อายุยังน้อยครับ อย่าให้เส้นเลือดแตกในสมองเลยครับกับเรื่องแบบนี้เลยครับ ถ้าเรื่องต่อต้านสร้างเขื่อน ต่อต้านคนจับสัตว์ป่า คนขายสัตว์ป่า บุกรุกป่า แบบนี้แหละผมขอต่อต้านด้วยคนครับ จะได้ตายไม่เสียชาติเกิดครับ หุหุหุ ถ้าใครมีปัญหากับลุง คุณลุงก้อมีเบอร์โทรให้เรียบร้อย ช่วยโทรถึงแกหน่อยครับ จะได้เปิดอกคุยกันครับ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อย่าให้คราใจไว้เลยครับ ช่างภาพและคนดูนกจะได้เดินไปทางเดียวกันได้ครับ(ผมดูนกมา 20 ปี พร้อมกับถ่ายภาพมา 20 ปี ครับ) ภาพถ่ายถูกภาพมีค่าของมันอยู่แล้วครับ เช่นภาพนกแต้วแล้วท้องดำ (ของคุณสาวน้อยร้อยช่าง) ต้องขอโทษด้วยที่เอ่ยชื่อ คุณสาวน้อยฯ ภาพเหล่านั้นนำมาเพื่อก่อการอนุรักษ์ (ลองหาหนังสือสารคดีฉบับเดือน สิงหาคม 2546 ) มาอ่านมาพิจารณาแบบสร้างสรร บางทีคนดูนกคนถ่ายภาพนกจะได้ใช้โอกาสนี้มาร่วมกันอนุรักษ์ครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ ใจเย็น ใจเย็น ครับ เมื่อมีปัญหาต้องแก้ปัญหา อย่ามาใช้เน็ตมาเป็นทีระบายอารมย์เลยครับ ขอแสดงความนับถือทุกท่านครับ จากคุณ : เขนหัวขาวท้ายแดง - [ 26 ส.ค. 46 17:59:46 A:203.113.50.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 Copy จากกระทู้เรื่องกล้อง... E2425354 พวกชอบถ่ายนกแต่ไม่ได้ "รัก" นก มีแบบนี้ด้วยหรือ? [กล้องและการถ่ายภาพทั่วไป] ความคิดเห็นที่ 14 คนเมือง มีความเก็บกด สภาพแวดล้อมในสังคมที่ชิงดีชิงเด่น แก่งแย่งกันกอบโกย และการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อถีบต้วเองให้สูงขึ้น เป็นผลให้มีการแสดงออกด้วย พฤติกรรม แบบที่พวกคุณบ่นกัน การได้ภาพนกหายาก หรือภาพที่หาโอกาสถ่ายได้ยาก แล้วเอามา " โชว์ " ไปทั่ว หลายเว็บ หลายๆกระทู้ คือ การแสดงปมเด่น เพื่อลดปมด้อย ของตัวเอง เมื่อไม่สมหวังในชีวิต ไม่ว่าจะการงาน หรือครอบครัว หรือสังคม ก็หาจับเอาอะไรๆมาทดแทน ไม่ว่าจะได้มาโดยวิธีใด กรรมจึงตกกับนกในยุคนี้ อย่างที่รู้ ที่เห็นกันทั่วไป การผ่อนคลายความเครียดของตัวเอง ยังมีอีกหลายวิธี ซึ่ง ไม่ทำให้ตัวเองยิ่งเครียดแบบนี้ ที่พยายาม " ให้ได้ภาพ " ก่อนคนอื่น ผลงานที่พยายามเอามาอวด เอามาโชว์แถวๆนี้ มาจาก *คนมีปัญหาของสังคม * อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น กะเทย ทอม คานเงิน คานทอง และผู้พิการบางประเภท สร้างปมเด่น เพื่อลดปมด้อย ก็เท่านั้น ถ้ามองปัญหาเหล่านี้ด้วยความเข้าใจ เราก็จะไม่เครียด โลกหมุนมาถึง พศ. นี้ ทรัพยากรพินาศย่อยยับไปขนาดไหนแล้ว ที่ผู้ปรารถนาดีไม่อาจแก้ไขอะไรได้ จนต้องปล่อยไปตามยถากรรม ลองอย่างนี้ดูนะ เผื่อจะช่วยได้บ้าง เพราะถ้าจะแก้ไขอะไร ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน พอไปถ่ายรูปได้มาแล้ว * เก็บไว้ดูคนเดียว * ไม่โพสต์ไปทั่วๆ ไม่เมล์ไปอวดเพื่อน ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน แค่เนี้ย ทำได้ไม๊ หยุดอวด หยุดโชว์ฝีมือกันเสียที เพราะนี่แหละคือสาเหตุแห่งความวินาศสันตะโรของมรดกโลก ถามใจตัวเองดูก่อนนะ หักห้ามใจไหวไหม ถ้าคุณทำได้ย่อมประเสริฐแท้ จากคุณ : บ้านนอกเล่นคอมพ์ - [ 26 ส.ค. 46 14:16:42 A:203.156.11.28 X: ] ปัจฉิมลิขิต : ลุงแก่ฯ พิมพ์ดีดได้รวดเร็วเหลือเกิน ไม่กี่วินาทีพิมพ์ได้เป็นหน้าๆ จากคุณ : องคุลีแมน - [ 26 ส.ค. 46 18:08:22 A:203.156.8.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนที่มีจิตวิญญาณเป็นครู หรือมีความรู้ความชำนาญในสิ่งใด ต้องการสอนหรือถ่ายทอดเป็นวิทยาทานให้สาธารณชน การจะหวังให้ทุกคนเข้าใจ และ คล้อยตามในทุกเรื่อง ที่สอน นั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ละคนย่อมรับรู้รับฟังตามกำลังความสนใจของตน การดูนกก็เช่นกัน คนส่วนใหญ่ ต้องการเพียง "ดู" อย่างเดียว อะไรที่นอกเหนือไปกว่านั้น จะเป็นสิ่งไม่จำเป็น น่าตำหนิติเตียน แต่สำหรับคนที่ต้องการ "ดูแล " จะสนใจใฝ่รู้ในทุกเรื่อง ต้องการดูในทุกสิ่งเพื่อให้ได้ความรู้ไปใช้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ แต่ถ้าคนที่มีใจหวังประโยชน์แก่สาธารณชน เกิดท้อถอย หมดกำลังใจ เมื่อถูกตำหนิติเตียน วิพากษ์วิจารณ์ ก็น่าพิจารณาตนเองว่า ยังมั่นคงกับจิตใจที่เสียสละเพียงใด คนปิดทองหลังพระ บางเวลาอาจเงียบเหงา ไร้เพื่อน ถูกตำหนิติเตียน ประณาม ต่างๆนานา ก็เป็นของธรรมดา หลายสิ่งในโลก ใช้เวลานานมากกว่าคนจะเข้าใจ ถ้าคิดว่าชีวิตนี้สั้นนัก ต้องการทำประโยชน์ให้สังคมตามกำลัง สิ่งใดที่คิดว่าดี ถูกต้องแล้ว ก็ขอให้ทำไปเถอะ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะไปชี้แจงทำความเข้าใจในทุกที่ ทุกเรื่อง อาจโกรธได้ เสียใจได้ แต่ก็ต้องมีเวลาไม่โกรธ มีเวลาที่ไม่เสียใจ ถ้าทำใจให้กว้าง ไตร่ตรองดู การมีเสียงตำหนิติเตียน อาจเป็นเพราะยังมีข้อบกพร่องในการสื่อ หรือ วิธีการ หรือ วิธีปฎิบัติตัว ให้ต้องแก้ไขอยู่ ความดีถ้าทำได้ง่ายๆ โลกนี้คงมีแต่คนดี บางทีเรื่องที่โต้เถียงกันอยู่ คือเรื่องเดิมเมื่อ 20 ปี ที่แล้วซึ่งที่จริง วิธีการก็พัฒนาไปในทางที่ดี มากขึ้นทุกที และ ค่อนข้างมี กฎ กติกา มารยาท แพร่หลายในวงกว้างกว่าเดิมมากแล้ว มีเรื่องที่สำคัญกว่านี้ ที่ต้องช่วยกันทำช่วยกันคิด อีกมาก ที่คนดูนกละเลยกัน สำหรับนักถ่ายภาพนก ที่มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่สังคม ขอพลังจงอยู่กับคุณ จากคุณ : ศิระกานต์ (ศิระกานต์) - [ 27 ส.ค. 46 05:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แหม หายไปนาน (คุณศิระกานต์) กลับมาพูดได้ถูกใจนะจ๊ะ... ความเข้มแข็งเป็นพลังในแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมีความอดทนแรงกระทบได้มากกว่า เพราะพลังในทางที่ดีตนเอง ก็จะไม่รู้สึกเสียใจมาก หรือความรู้สึกนั้นหายเร็วกว่าคนอื่นๆ...ความดี หรือความตั้งใจดีก็เหมือนกัน บางคนก็เห็น บางคนก็ไม่เห็น การคาดหวังว่าจะให้ทุกคนเห็นเป็นไปไม่ได้เลย...บางอย่างอาจจะต้องเกี่ยวข้องกับกฏเกณฑ์ทางสังคม ที่ต้องค่อยๆแก้ไขกันไป หากมีเรื่องพิพาทใดเกิดขึ้น แต่ละคนควรค่อยๆคิดว่าเราอาจไม่ถูก หรือไม่ผิดเสมอไป ค่อยๆใช้เหตุผลที่เป็นกลาง...เรื่องขัดแย้งต่างๆบางทีนำไปสู่การแก้ไขในทางที่ดีได้ ถ้าอยากจะแก้ไขกัน...ถ้าทำไม่ได้ หรือยากนัก ก็ไม่ต้องคิดมาก ชีวิตนี้สั้นนัก สงสัยว่าเขาเปลี่ยนว่าทุกคนเข้ามาใน BP ต้อง log in แล้ว แต่ทำไมบางคนเหมือนไม่ได้ log in ล่ะจ๊ะ จากคุณ : ชี่-วิด - [ 27 ส.ค. 46 07:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คห. 8 คงเป็นมุมมองจากคนที่มีอาชีพเป็นจิตแพทย์ อ่านแล้วดูเหมือนจะจริง แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะใช้ ได้ครับทุกคนทุกกรณี นักดูนก ถ่ายรูปนก ส่วนใหญ่มีฐานะดี มีอันจะกิน คนที่ถ่ายรูปแล้วเก็บไว้ดูเองก็มีอีกเยอะ ถ่ายแล้วเอามาโชว์ ก็มีอย่างที่เห็น ประเด็นว่าถ่ายรูปเอามาอวดกันเป็น "สาเหตุแห่งความวินาศสันตะโรของมรดกโลก" ตรงนี้ มองด้านเดียว ถ้าลองมองอีกด้านที่ตรงข้าม คงเห็นว่ามันมีทั้งสองด้าน สุดท้าย ผมเชื่อว่าอย่างหลังมี อิทธิพลมากกว่าอย่างแรก มาจากคนส่วนน้อย รวมถึง ความไม่รู้ ความเข้าใจผิด หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากคุณ : Stonechat - [ 27 ส.ค. 46 07:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Copy จากกระทู้เรื่องกล้อง... E2425354 พวกชอบถ่ายนกแต่ไม่ได้ "รัก" นก มีแบบนี้ด้วยหรือ? [กล้องและการถ่ายภาพทั่วไป ความคิดเห็นที่ 16 อยากเจอคุณบ้านนอกเล่นคอมพ์จังเลย กล้ามาเจอหน้ากับผมมั้ยหล่ะครับ มาคุยกันดีกว่า ว่าผม คุณมีปมด้อยตรงไหน?? อย่าซุกหัวในกระโปรงแล้วตะโกนประนามคนอื่นแบบนี้ซิครับ มันอัปปรีย์ครับ อัปปรีย์แท้ๆเชียว เบื่อจริงๆ คนแบบคุณเนี่ย.... จากคุณ : kobee - [ 26 ส.ค. 46 22:43:40 ] ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดแบบคุณ kobee คือจุดบอดที่ทำให้สังคมไทยอันมีอารยธรรมและวัฒนธรรมต้องมีตำหนิ นอกจากคุณแล้ว ยังมีคนพรรค์เดียวกันกับคุณอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พยายาม *สนองต้ณหา * ของตนเอง เพื่อจะถีบตัวเอง ไต่เต้าให้ขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าๆให้ใครๆยอมรับว่าป็น " คนเก่ง " มีฝีมือ มีความสามารถ และที่น่าอนาถใจเป็นที่สุด ก็คือ การชิงดีชิงเด่นอวดอุปกรณ์ เครื่องมือถ่ายภาพ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรและไม่มีใครใช้พวกคุณสักหน่อย ให้ไปถ่ายภาพในธรรมชาติเหล่านั้นเอามาแสดง ยุ่มย่าม เกะกะ อึกทึกครึกโครมไม่เข้าเรื่อง งานนี้เป็นหน้าที่ของนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความรู้ ความชำนาญละเอียดปลีกย่อยอีกมาก ทำงานในหน้าที่และมี ทุนวิจัยได้รับมอบหมายหน้าที่อย่างเป็นทางการแต่ละโครงการ อย่า...อย่าอ้างว่าเป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือหาข้อมูล ฟังไม่ขึ้น สนองตัณหาของตนเองน่ะไม่ว่า ความอยากเด่น อยากดัง ต่างก็แห่กันเข้าไป แย่งกันเป็นพระเอก นางเอก โดยไม่สำนึกว่าพฤติกรรมการปู้ยี่ปู้ยำทำลายสภาวะอันอ่อนไหวของธรรมชาตินั้น คนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของทรัพยากรของชาติไม่เห็นด้วย ต่างก็มองดูด้วยความสมเพช เวทนา และเริ่มวิตกแล้วว่า กลุ่มคนพวกที่มีป้ญหาสังคมกลุ่มนี้ชักจะล้ำเส้น ละเมิดกฎหมายและกฎกระทรวงฯเข้าไปทุกทีแล้ว เลิกหลงไหลค่านิยมผิดๆเหล่านี้ได้แล้ว จะบำบัดความวิปริตทางจิตของคุณ ก็ไประบายออกที่อื่นเถิด อย่าได้กระทำชำเราชีวิตในธรรมชาติอันบริสุทธิ์อีกต่อไปเลย จากคุณ : บ้านนอกเล่นคอมพ์ - [ 27 ส.ค. 46 07:28:50 A:203.156.8.14 X: ] จากคุณ : บ้านนอกเล่นคอมพ์ - [ 27 ส.ค. 46 07:46:47 A:203.156.8.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เบื่อมากเลย ป่าวไม่ได้ว่าอะไรใครขอโทษทีแค่บอกความรู้สึก คือผมมันพวกชอบดูภาพนกหน่ะ นะขอดูภาพนกอย่างเดียว จากคุณ : OTTO - [ 27 ส.ค. 46 07:51:31 A:203.144.252.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณบ้านนอกเล่นคอมพ์ ผมไม่ใช่นักอนุรักษ์ครับ ไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรเลยด้วย ถ่ายนกเพราะมีความสุข สนุก แล้วก็เอารูปมาลงให้เพื่อนๆดูเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรไปไกลว่าจะให้เกิดประโยชน์อะไร มากไปกว่าความสุขส่วนตัวของผม ผมไม่ได้ขอข้าวคุณกินครับ เงินทองผมก็ทำงานหามาเอง ดังนั้นผมมีสิทธิเต็มที่ครับ และสิ่งที่ผมทำก็ไม่ผิดกฏหมาย ผิดศิลธรรมด้วย ผมไม่ได้ไปยิงนก ไม่ได้ไปตัดไม้ทำลายป่านี่ครับ ที่ที่ไปถ่ายกัน ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ทุกๆคนก็ไปได้ หรือแม้กระทั่งนกกระจิบ นกกระจาบในเมือง ผมก็วิ่งเอากล้องไล่ถ่ายอย่างสนุกสนาน เพราะฉนั้น อย่ามายุ่งกับผมครับ ขอที.... จะบ้ายังไง ก็บ้าไปคนเดียว..... เพิ่งรู้ด้วยว่า มีคนวิปริต ที่คิดว่าคนชอบถ่ายรูปนี่วิปริต เฮ้ออออ คนหนอคน... จากคุณ : kobee - [ 27 ส.ค. 46 08:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ..................ว 2!!!!.......;ว 2.....กิมทุย!..กิมทุยที่รัก!....เอ้ย!....ไม่ใช่!....น้องกระบี่ไร้คม!............อะไระน๊ะะะะะะ......ฟังงงงงงงงงง.....ไไไไไไไมมมมมมมมม่...ชชชชชชชัด.......!....เขาด่ากันอีกแล้วเหรอ?.......ว่าไงน๊ะ..ให้......หลบไปก่อนเหรอ?..เดี๋ยวโดนลูกหลง!.....ออ........เอออออออ.....เออ....เข้าใจ....เดี๋ยวก็ดีกันเอง.........เพื่อนๆกันทั้งนั้นแหละ......อ้อ!....จะเลี้ยงข้าวผมเหรอ?........ได้เลย.....ได้เล้ย!.....แค่นี้น๊ะ!!!!!!!!!!!( แว๊ปๆๆๆ...หายจ้อย! ) จากคุณ : เชนเชียงใหม่ - [ 27 ส.ค. 46 09:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก่อนอื่นขอขอบคุณ คุณ Kobee ที่ทำให้ผมได้ทราบว่าคำว่า อัปปรีย์ ไม่ถูกแบนเป็นหน้ายิ้มในพันทิบครับ จะจดจำไปใช้ในวาระโอกาสที่เหมาะสมต่อไป อิ อิ >>ไม่ใช่ธุระกงการอะไรและไม่มีใครใช้พวกคุณสักหน่อย ให้ไปถ่ายภาพในธรรมชาติเหล่านั้นเอามาแสดง ยุ่มย่าม เกะกะ อึกทึกครึกโครมไม่เข้าเรื่อง งานนี้เป็นหน้าที่ของนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความรู้ ความชำนาญละเอียดปลีกย่อยอีกมาก ทำงานในหน้าที่และมี ทุนวิจัยได้รับมอบหมายหน้าที่อย่างเป็นทางการแต่ละโครงการ<< อันเนี๊ย สะเทือนสางผมเต็มๆ เรื่องดูนกถ่ายรูปนกผมไม่รู้หรอก เพราะไม่ได้ดูและเลนส์ที่มีก็สั้นเกินไปที่จะถ่าย แต่ไอ้เรื่องจะคอยหวังพึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาล งอมืองอเท้า แล้วบอกว่าไม่ใช้หน้าที่นี่ขอร้องเลยครับ นกและสัตว์และป่าและธรรมชาติเป็นสมบัติของคนไทยทุกคนครับ ใครช่วยได้ก็ช่วยกันไป จะงอมืองอเท้าหวังพึ่งแต่หน่วยงานของรัฐ ไม่มีหวัง(มากนัก)หรอกครับ ขอถามหน่อยว่าตอนนี้มีหน่วยงานไหนของรัฐที่มีเลนส์ ๕-๖๐๐ มิล เหมือนแถวนี้? สั้นกว่านั้นก็รบกวนนกแล้วหล่ะผมว่า เพื่อนผมทำงานกับรัฐ ขอซื้อกล้องดิจิตอลตัวนึงหมื่นกว่าบาทต้องตั้งงบรอ ๒ ปีครับ นักวิจัย นักวิชาการณ์ไม่ได้มีเยอะอย่างที่คุณคิดหรอก นี่ประเทศอะไรครับ? สำหรับประเทศนี้คนพวกนี้กินอุดมการณ์กับแกลบเป็นอาหารหลักครับ ถ้าไม่รักจริงไม่มีอุดมการณ์จริงๆเค้าไม่ทำกันหรอก ข้าราชการรายได้น้อยกว่าเอกชน ครูรายได้น้อยกว่าเสมียนบริษัท แล้วคุณหวังอะไรจากหน่วยงานราชการ? ผมไม่ได้บอกว่าราชการไม่มีคนดีนะ เพราะประเทศชาติก็ก้าวหน้ามามากแล้ว แต่น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ น้อยไปเยอะเลย ในฟิลด์ของผม ผมก็ช่วยราชการ กรมประมงขอข้อมูลจากผมไปเยอะแยะ ปลาผมก็แบ่งให้ มีงานผมก็ไปช่วยจัดบอร์ด ราชการไม่ใช่พระเจ้านะคุณจะได้หยั่งรู้ดินฟ้า มีสิบมือยี่สิบปากทำได้ทุกอย่างดูแลได้ทุกเรื่อง จะอัปปรีย์งอมืองอเท้ารอสวรรค์มาโปรดก็เชิญตามสบาย ผมก็จะทำในส่วน(เอกชน)ของผมให้ดีที่สุดครับ ปล. เมื่อวานบ้านผมขโมยขึ้น ถามว่าผมหวังแค่ไหนว่าจะได้ของคืนจากหน่วยงานของรัฐ ขอบอกว่าศูนย์ครับ บ้านผมไม่ใช่บ้านดาราหรือนักการเมือง คิดว่าจดบันทึกประจำวันเก็บหลักฐานแล้วก็คงไม่มีใครทำอะไรต่อหรอก หวังพึ่งเข้าสิ ไม่ต้องทำรั่วเพิ่ม ไม่ต้องติดสัญญาณกันขโมย แล้วรอให้สายตรวจขับผ่านมาคืนละ ๒ ครั้ง อาจจะเพิ่มเป็น ๓ เอ้า แล้วไง พึ่งได้เปล่า? เรื่องอะไรช่วยตัวเองได้ ช่วยส่วนรวมได้ก็ทำไปเหอะ (ขอขอบคุณสิ่งศักสิทธ์ทั้งหลายทั้งปวงในสากลโลกที่บังตาไม่ให้ขโมยเห็นกล้องลูกรักที่วางโด่เด่อยู่บนโต๊ะ) จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 27 ส.ค. 46 10:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าเป็นนักวิจัยหรือพวกที่เขาศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า บางครั้งต้องการรูปจริงๆ ก็ใช้ตาข่ายดักแล้วจับมากางปีกกางขาถ่ายภาพ ที่ทำแบบนั้นเพราะไม่มีกล้อง ไม่มีเลนส์ และอุปกรณ์ที่ดีเพียงพอ ถ้ามีอุปกรณ์ครบๆ คงไม่มีนักอนุรักษ์คนไหนอยากจะจับสัตว์ป่า ที่เรารัก เอามาถ่ายภาพแบบจะๆ คามือกันหรอกครับ พวกฝรั่งก็ เห็นทำแบบนี้กันเยอะแยะ ดูหนังสือวิชาการมีแบบนี้เต็มไปหมด เรื่องถ่ายภาพแล้วรบกวนนกผมว่าเทียบไม่ได้เลยกับการแอบซุ่มอยู่ ในบังไพรนานหลายๆ ชั่วโมงหรือทั้งวัน เพียงเพื่อให้นกผ่านมา และถ่ายภาพได้ หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพที่รังนก ถ้าได้ลองแล้วจะรู้ เพราะต้องนั่งกันเงียบกริปหลายๆ ชั่วโมง ขยับตัวนิดเดียวก็ไม่กล้า มิฉะนั้นนกก็จะไม่มาให้ถ่ายภาพ นกมันมีปีกนะครับ อย่าลืม!!! ถ้ารู้สึกว่าไม่ปลอดภัย สัญชาติญานสัตว์ป่ายังไงก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน ถ้าอยากได้รูปก็ต้องไม่ให้มีการรบกวนนกอย่างเด็ดขาด เมื่อได้ภาพมาแล้วมีการใช้ประโยชน์เช่น เปิดเผยให้ผู้ที่สนใจได้เห็น ภาพถ่ายที่ชัดเจน ได้ทราบรายละเอียดของนกและข้อมูลที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น ลุงแก่ ที่บอกว่ากางบังไพรไว้และเฝ้าดูนานนับเดือน ผมว่าแกได้ข้อมูลและความรู้มากกว่าการตะลุยดูนกสักสิบปีอีกนะครับ รวมไปถึงการส่งภาพให้นักวิชาการได้นำภาพไปใช้ประโยชน์ในด้าน การอนุกรักษ์ อย่างน้อยเด็กๆ ที่เห็นภาพถ่ายนกจะได้มีความรู้สีกที่ดี เมื่อเทียบกับภาพนกที่สวยงาม กับภาพนกที่อยู่ในมือ ผมเคยพาลูก ไปเฝ้าดูนกในรัง รอถ่ายภาพหลายชั่วโมง สงสัยแกจะเบื่อเลยถามว่า ทำไมไม่ไปจับเอามาถ่ายภาพ จะได้เสร็จเร็วๆ เพราะเห็นภาพในหนังสือ นกบางเล่มที่ผมมีอยู่ ก็มีภาพนกที่เอานิ้วมือหนีบขาไว้แล้วถ่ายภาพ ผมหมดอารมณ์ ต้องเลิกถ่าย แล้วเอาเวลาไปอบรมเจ้าตัวเล็กแทน ส่วนนักดูนักบางทีผมก็ตามไปดูด้วยบ่อยๆ รู้สึกสนุกกับการได้เห็นนกหลายๆ ชนิด แต่การเดินตะลุยไปเรื่อยๆ เจอนกทีก็เฮกันไปเป็นกลุ่มใหญ่ คิดไปคิดมา อดคิดไม่ได้ว่า แบบไหนคือการรบกวนนกมากกว่ากัน สรุปแล้วถ้าเราคิดว่า ตัวเราเองมีจิตใจที่ดี มีสำนึก รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ก็ทำไปเถอะครับ ถ้าทำอะไรที่มันไม่ดี ก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง ถึงแม้คนอื่นจะมองไม่เห็น แต่ความรู้สึกแย่ๆ ก็จะติดตัวคนทำไปเอง แต่ถ้าทำไม่ดี แล้วไม่รูสึกสำนึก ไม่รู้จะว่ายังไงเหมือนกันครับ พวกที่ก้มหน้าก้มตาติมีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือไม่รู้จริงแล้วเอามาต่อว่า สอง อิจฉา??? จากคุณ : คนดูและถ่ายภาพนกครับ - [ 27 ส.ค. 46 16:11:10 A:203.144.202.172 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องเก่า ก็ให้มันผ่านไป เพราะอ่านดูแล้วต่างคนต่างไม่ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ที่เราเขียนพาดพิงถึงลุงแก่โดยใช้วาจาไม่สุภาพ เราก็ขอโทษไปแล้วในกระทู้เดิม แต่มันยังมีเรื่องราวที่คาใจเราอยู่ คืออยากให้ลุงแก่ หรือ ช่างภาพท่านใดก็ได้ ช่วยบอกเรา ในเรื่อง กฏ กติกา มารยาท ของการถ่ายภาพนกโดยเฉพาะช่วงนกทำรังเลี้ยงลูก เราถามเป็นข้อๆ ดังนี้ 1.) การสร้างบังไพร ควรสร้างห่างจากรังเป็นระยะเท่าไร สำหรับการถ่ายภาพโดยใช้ flash ที่ท่านคิดว่ารบกวนนกน้อยที่สุด 2.)นักดูนกที่เดินดูนก แล้วเกิดไปเจอพวกท่านกำลังถ่ายรูปอยู่ หรือเจอบังไพรว่าง จะให้ทำอย่างไร 3.)ภาพที่พวกท่านนำมาเผยแพร่ นอกจากความคมชัดและสวยงามแล้ว มันจะมีประโยชน์มากขึ้น หากมีข้อมูลนกเพิ่มเติม เช่นอาหารที่นำมาป้อน พฤติกรรมการเลี้ยงลูก ความถี่ในการป้อนอาหาร ไม่ต้องถึงขั้นงานวิจัย คร่าวๆ อย่างน้อย รุ่นใหม่จะได้มีความรู้ติดตัว 4.)เรื่องถูกกล่าวหาว่าเป็นอีแอบ ไม่เปิดเผยตัว ไม่ log in บอกตรงๆว่า งง เพราะเราก็เห็นว่าทุกคนใช้นามแฝงกันทั้งนั้น เราไม่รู้จักคุณ แล้วทำไมคุณต้องมารู้จักเรา ถ้ายังนั้นมิต้องถึงขั้นสำเนาบัตรประชาชนแสดงตัวกันหรือ (อาจเป็นคำถามโง่ๆ เพราะเราพึ่งหัดเล่น internet มาไม่นาน) รบกวนช่วยให้คำตอบด้วย เพราะเราก็ไม่อยากจะขัดแย้งกับพวกท่านอีก ต้องขอย้ำอีกครั้ง เป็นความสงสัยส่วนตัวของเราเพียงผู้เดียว หากไปสะเทือนใจใครอีก ก็ว่าเราเพียงคนเดียว จากคุณ : Rusty-naped - [ 27 ส.ค. 46 18:17:19 A:202.56.159.237 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 หาวววววววววว..... แวะเวียนมาอ่านอย่าเดียว.. ผมว่าน้าๆๆอย่ามากัดกันให้เด็กๆๆเห็นเลยอ่ะน้าๆๆ.. ....ก็เป็นคนไทยด้วยกันอ่ะน้าๆๆ...... อิๆๆๆ........ จากคุณ : AramBoy_ - [ 27 ส.ค. 46 18:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไำม่ใช่นักถ่ายรูปนะครับ แต่เคยตามไปนั่งดูเขาทำงานกันมาบ้าง ระยะห่างของบังไพร บางทีก็ขึ้นกับอุปนิสัยของนกที่ไ่ม่เหมือนกัน บางชนิดขี้อายมาก บางชนิดก็อายน้อย ความพอดีอาจอยู่ที่จังหวะการเข้าป้อนที่ไม่เว้นห่างจนผิดสังเกต ตลอดจนการไม่ไปตัดแต่งฮวงจุ้ยของรังนกให้ผิดเพี้ยนไปจากที่นกเล็งไว้ และสรุปสุดท้าย ลูกนกต้องได้รับการเลี้ยงดูจนอยู่รอดปลอดภัยด้วย อันนี้น่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุด เรื่องนี้ผมเห็นพูดกันไปพูดกันมาเหมือนพายเรือในอ่างหาจุดจบไม่ได้เสียที แต่ผมยังมองว่าตราบใดที่ลูกนกปลอดภัย ตราบนั้นถือว่าช่างภาพทำหน้าที่ได้โอเค บ้านเราเคยมีกรณีที่ลูกนกตายคารังมาแล้ว อันนี้แหละจะอ้างเหตุผลอะไรมาอธิบายก็ยากจะรับฟัง บังไพรของคนอื่นมันก็คล้ายๆเต็นท์หรือสมบัติของคนอื่น การล่วงล้ำเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของไม่น่าจะถูกต้องนัก และถ้าเจ้าของเขาไม่แฮปปี้ที่จะให้ใช้ จะไปว่าเขาก็ไม่ได้ อยากดูนกในรังก็ต้องมีบังไพรมาด้วยครับ เท่าที่พูดคุยกับนักถ่ายภาพมา แต่ละคนก็ได้ความรู้เกี่ยวกับอาหารการกินของนกติดตัวมากันทั้งนั้น เห็นเขาเล่าสู่หรือแลกเปลี่ยนกันเป็นเรื่องธรรมดา ใครอยากรู้อะไรก็สอบถามกันก็ไม่ขัดข้องที่จะบอกเล่ากันหรอก ภาพถ่ายนกมีประโยชน์แน่นอน อย่าไปตั้งแง่รังเกียจจุกๆจิกๆเลยครับ หากจะทะเลาะกัน ขอให้เกิดเรื่องชัดๆ เช่นรังถูกตัดกิ่งจนโล่ง หรือล่อกันนกตายคารัง เพราะนักถ่ายภาพที่เขาระมัดระวังก็มีอยู่มาก โดนตำหนิแบบเหวี่ยงแหจะพลอยเหี่ยวกันไปหมด จากคุณ : รพินทร์ ภูท่อก - [ 27 ส.ค. 46 18:50:08 A:203.148.191.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ด้วยความเคารพและชื่นชมฝีมือและความสามารถของท่านทั้งหลาย ตัวข้าพเจ้าเองไม่อยากให้อะไรมันเลวร้ายไปกว่านี้ มันเป็นความจริงที่มีทั้งเรื่องถูกและผิด ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าอยากให้มีอะไรที่เป็นรูปธรรม และสร้างสรรค์ในเรื่องของการดูนกและถ่ายภาพนก อาทิเช่น มีการจัดประชุมกันเพื่อที่จะปรึกษาหาหรือ ในเรื่องที่ผ่านมา และทำอย่างไรที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์ ที่เลวร้ายหรือไม่ดีเกิดขึ้นอีก จากคุณ : ลูกนกกระเต็น - [ 27 ส.ค. 46 20:05:23 A:202.57.188.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลุงเขาลงเบอร์โทรให้ติดต่อไป ใยไม่ติดต่อไปฟ่ะเจ้าของกระทู้... มานั่งโพสกระทู้ทำไม...เบอร์เขาก็ให้ไว้...ไม่กล้าโทรไปก็ลงเบอร์ไว้ เดี๋ยวลุงแกก็โทรไปหาเองแหล่ะ...อยู่ที่ใจคุณว่าอยากจะเข้าใจเรื่องนี้ หรือแค่อยากหาเรื่อง จากคุณ : ลูกชาวนา - [ 27 ส.ค. 46 21:31:19 A:203.113.36.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนหลังจากที่ติดตามกระทู้นี้มาหลายวันแล้ว ในฐานะที่ตัวเองเป็นคนดูนกคนหนึ่งที่เคยมีประสบการณ์ร่วมกันกับช่างภาพนกมาทั้ง 2 เหตุการณ์คือ ถูกเรียกให้เข้าไปร่วมดูนกในบังไพร แล้วก็ถูกไล่ให้พ้นไปจากบริเวณบังไพร ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ใช้บังไพรของเขาเลย เราก็เลยอยากจะถามนักถ่ายภาพว่า ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะให้เราทำอย่างไร กรณ๊ที่เราเดินไปตามทางแล้วบังเอิญเจอบังไพรของใครก็ไม่รู้ จะให้เราเดินต่อไปหรือให้เราหันหลังกลับ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เวลาเราเจอบังไพรเราจะหยุดเดินก่อนทันที เพราะไม่รู้ว่าคุณกำลังถ่ายอะไร ถ่ายบริเวณไหน สำคัญกับคุณมากแค่ไหน แต่ถ้าจะให้เราเดินกลับ เราก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับเราเหมือนกัน เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์ใช้พื้นที่นี้ เป็นไปได้ไหมที่เราจะมีกติการ่วมกันหรือมีการส่งสัญญาณถึงกันและกันเพื่อให้รู้เหตุการณ์ของอีกฝ่าย และที่สำคัญ โดยส่วนใหญ่แล้วช่างภาพมักจะกางบังไพรเป็นวัน ๆ ถ้าเราเจอบังไพรกางอยู่ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คุณอยู่ในบังไพรกำลังทำงานอยู่ หรือ คุณไม่ได้อยู่ในบังไพรแล้ว ขอพาดพิงความเห็นของคุณรพินทร์ตรงที่ว่า บังไพรเป็นสมบัติส่วนตัวเหมือนกับเต้นท์ที่คนอื่นไม่ควรเข้าไปใช้ แล้วถ้ามีคนกางบังไพรแบบมาราธอนเป็นวัน เป็นเดือน โดยที่ไม่สนใจคนอื่น แล้วคนดูนกอย่างเราจะพกบังไพรส่วนตัวไปกางตรงไหน จากคุณ : เดินดง - [ 27 ส.ค. 46 22:01:38 A:203.149.33.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบคุณ Rusty-naped ข้อสี่นะครับ นอกนั้นไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ มือใหม่ครับ มาลงพื้นที่เก็บประสบการณ์ อิอิ ตอนนี้ถ้าสมัครสมาชิกของพันธุ์ทิพย์เค้าจะให้ลงเลขในบัตรประจำตัวประชาชนแล้วครับ จากคุณ : สมิงเชียงดาว - [ 28 ส.ค. 46 02:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ประเด็นของ "คุณเดินดง" ผมว่าน่าสนใจเหมือนกันนะครับ ผมเองก็เคยทะเลาะกับช่างภาพที่ถ่ายภาพนกที่เขาใหญ่มาแล้ว เรื่อง"บริเวณนี้ของข้า" หน้าไหนก็อย่ามาแหยม ด่ากันอยู่นาน สุดท้ายก็หาจุดจบไม่เจอ ในที่สุดผมก็เริ่ม ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรือวุ่นวายกับใครทั้งนั้น ขอดูอย่างเดียวดีกว่า ดูได้ก็ดู ดูไม่ได้ ก็ไปหาที่อื่นดูใหม่ก็ได้ (ผมคิดของผมคนเดียว ไม่เกี่ยวกับกระทู้แต่อย่างใด ... ส่วนตัวแล้วผมรู้จักกับ ลุงแก่ เป็นอย่างดี...) จากคุณ : ชชนน - [ 28 ส.ค. 46 09:04:37 A:203.155.226.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 สนับสนุนให้ช่วยกันหาทางออกครับ ในบอร์ดนี้ครับ เราน่าจะเริ่มกำหนดกฎเกณฑ์กันบ้าง ได้แล้ว ในเมื่อนักถ่ายภาพก็ถ่ายกันมานาน และยังมีพวกมือใหม่ที่เริ่มถ่ายอีก อาจจะยังไม่มีความรู้พอ การเริ่มต้นกำหนดกฎเกณฑ์ น่าจะมีประโยชน์สำหรับนักถ่ายภาพเองมากกว่าพวกดูนก แต่ที่สำคัญมีประโยชน์กับนกมากที่สุด ผมเพิ่งเข้ามาใหม่ไม่ทราบว่าเคยมีความพยายามกำหนดกันหรือยัง(แต่เท่าที่อ่านดู ไม่น่าจะมีเพราะยังเถียงกันอยู่เลย) ต่อไปถ้าใครถ่ายมาลงก็ขอให้ลงรายละเอียดว่า ระยะเท่าไหร่จากรัง ใช้กล้องอะไร เลนส์เท่าไหร่ ตรงนี้น่าจะอาศัยผู้มีประสบการณ์นาน ๆ ตรวจสอบได้ว่าจริงหรือไม่ และถ้าบังเอิญใครที่ถ่าพภาพโดยละเมิดข้อกำหนด เราก็สามารถตักเตือนก่อน แต่ถ้าเป็น:-)จริง ๆ ก็จะได้ร่วมกันประณามได้ อ้อ อีกอย่างพวกที่ไม่ได้ถ่ายภาพจะได้เข้าใจว่าแค่ไหนคือความพอดีในการถ่ายนกด้วย และจะไม่เกิดเหตุการณ่ด่าเพราะไม่รู้จริงอีก มาช่วยกันคิดเถอะครับ หรืออยากให้มันเป็นแบนี้ไปเรื่อย ๆ จากคุณ : เค้าโมง - [ 28 ส.ค. 46 10:21:03 A:203.149.37.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมเคยอธิบายมาหลายครั้งแล้วครับ ที่นี่นั่นละ และก็จะต้องมีคนมาด่าทุกครั้ง ไม่ใช่ตินะครับ ตั้งหน้าตั้งตาด่ากันเลย อย่างที่เห็นเป็นตัวอย่างกันข้างบนในกระทู้นี้นั่นละ คนที่ถ่ายภาพนกในห้องนี้ เท่าที่ผมรู้จักทุกคนก็เคารพกฎ กติกา มารยาทกันเป็นอย่างดีครับ ก็ลองคิดกันดูว่าแล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ขอย้ำอีกครั้งว่า ปัญหาอย่างที่ว่ามา มันอาจจะเคยมีอยู่จริง แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องในอดีตนานมาแล้วครับ ปัจจุบันถึงมีก็น้อยมาก และก็มาจากคนกลุ่มน้อย ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับในห้องนี้เลย การมาเปิดฉากด่ากันเองในนี้ก็ทำให้คนที่มีความตั้งใจดีรู้สึกท้อเหมือนกันครับ จากคุณ : Headbanger - [ 28 ส.ค. 46 12:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าทำอย่าง "คุณเค้าโมง" เสนอมา ผมว่าไม่มีใครเรารูปนกสวยๆมาให้เราดูหรอกนะครับ.. เกิดเขียนรายละเอียดมา เดี๋ยวก็ไม่ถูกใจคนนั้น คนนี้.. คนที่เค้าตั้งใจทำอย่างจริงจัง และ จริงใจ ก็พลอยหมดกำลังใจไปเปล่าๆ.. วิธีการบางอย่างอาจจะโดนใจใครคนหนึ่ง...แต่มันไม่อาจจะโดนใจใครอีกหลายคนก็ได้ ผมว่าเรามาเริ่มต้นที่ตัวเราก่อนดีกว่า อย่ามัวไปตั้งกฏให้ใครต่อใครเลย.. ขนาดทุกวันนี้เราก็รู้ๆกันอยู่ว่า ทำผิดกฏหมายจะต้องโดนจับติดคุก...แต่จริงๆแล้วบ้านเมืองเรา มันยังมีโจรอยู่เต็มไปหมด.. ปัญหาโลกแตก...... วงการดูนก และถ่ายภาพนก มันไม่กว้างมากนักนะครับ ใครทำอะไรไม่ดีไว้ เดี๋ยวเราก็รู้เอง....สุดท้ายเค้าทั้งหลายก็อยู่อย่างโดดเดี่ยวไปในที่สุด.... ยังไงผมก็ยังมีความรู้สึกดีๆ กับ คนถ่ายภาพนกนะ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรักนกขึ้นมากกว่าแต่ก่อน.... หรือใครเห็นว่าไง... จากคุณ : ชชนน - [ 28 ส.ค. 46 13:59:02 A:203.107.146.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมขออนุญาตให้ช่วยอ่านความเห็นของคนแก่อย่างผมสักหน่อยนะครับ ผมไม่ใช่นักดูนก ไม่ใช่นักถ่ายภาพนก ผมสนใจเรื่องต้นไม้เป็นอันดับแรก ปรกติอยู่ที่ จตุจักร - ต้นไม้ แต่การเดินป่า ผมต้องพบนกมากมาย เลยต้องสนใจมากขึ้น ระยะนี้เข้ามาอ่าน มาพบข้อพิพาทโต้แย้งของพวกคุณหนุ่มสาวๆ เลยขอออกความเห็นบ้างครับ เขาดูนกในโลกนี้กันมานานเป็นร้อยๆปีแล้วครับ ในเมืองไทยก็ดูกันมานานไม่ต่ำกว่า 40 ปีมังครับ ยุคหลังๆนี่เครื่องไม้เครื่องมือไฮเถคขึ้น ก็เกิดมีนักถ่ายภาพนกขึ้นมาก ผู้ที่มีชื่อเสียงของไทยระดับอินเตอร์ฯก็มีหลายคนนะครับ เอ่ยแต่ชื่อก็พอนะครับ ไม่ได้ขออนุญาตท่านไว้เช่น คุณอมรศักดิ์ ศรี... คุณคณิต คณิ...( ท่านนี้ไม่รู้ว่า หล่อ หรือ สวย ) คุณพิสิษฐ์ สิง... คุณสมัคร คดแก้... คุณสุรชัย รุ่งคุ... คุณชัยยันต์ เกสร.. คุณจิตรพงษ์ เกื้อ... คุณศุภลักษณ์ กลับมาได้ดีจากเขมร..เอ๊ย..เวียตนาม... ฯลฯ และอีกหลายท่าน ขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยนาม ผมไม่ใช่นักดูนก แต่พอเดินป่า เห็นนกน่ารักๆ ก็อดไม่ได้ประสาคนไฝ่รู้ ยุคนั้นพอเข้ากรุงเทพก็ไปที่คลีนิคสหการแพทย์ ปากตรอกโรงภาษีเก่า บางรัก ไปได้คู่มือดูนกมาเล่มนึง หมอบุญส่งทำเอง ( จริงๆแล้ววันนั้นเราไปคุยกันเรื่องกระทิงขาเหลือง ) แต่เล่มนั้นก็เสียหายไปแล้วตอนรถจมน้ำในลำห้วย พอมีโอกาสเข้ากรุงเทพอีก ผมก็แวะไปเยี่ยมเยียนคุณหมอ เลยได้เล่มที่ทำใหม่ มีฝรั่งฟิลลิปมาร่วมทำด้วย ตอนหลัง 10 ปีมานี่น้องชายซื้อหนังสือนี้ฉบับปรับปรุงเล่มใหญ่ส่งมาให้อีก แต่วันนี้ผมก็ยังไม่ใช่นักดูนก ที่เขียนให้น้องๆเสียเวลาอ่านยืดยาวมานี้ ก็เพื่อจะอธิบายให้เข้าใจว่า * นักดูนก * ที่แท้จริงเขามีจิตวิญาณแบบไหน มีความสนอกสนใจในชนิดต่างๆของนกเพียงใด ซึ่งไม่ใช่จะเป็นกันได้ทุกคน ผมเห็น นกกระเต็น ผมก็เรียก นกกระเต็น แต่นักดูนกท่านเรียก " นกกระเต็นน้อยสามนิ้ว " ผมก็ได้แต่อมยิ้ม นกยูงไทย นกยูงอินเดีย เวลารำแพนหางสีเขียวมรกต สวยงามขนาดไหน นกหว้ารำแพนหางสีแดงๆเหลือบๆแล้วสะบัดสั่นไหวระรัวเกี้ยวพาราสีตัวเมีย ในป่าผากก็สวยงามไปอีกแบบไม่แพ้กัน ผมอยากให้ทุกท่านได้เห็นอย่างที่ผมเห็น แต่ผมไม่มีกล้องแบบที่ใช้กันตอนนี้ถ่ายภาพมาให้ดู ครั้นจะชวนกันไปซุ่มดูก็...... นี่แหละครับ ประเด็นของเรื่องนี้. ...ลุงแก่ คนนั้นแกบอกว่า 50 กว่า คน ไปอยู่ในบังไพรอะไรต่างๆประเภทนี้แหละครับ ที่คงจะทำให้เกิดปัญหาตามมาจนต้องถกเถียงกันยึดยาว ธรรมชาติสวยสดงดงามชวนหลงไหล ใครได้ยล ก็อยากให้ผู้อื่นได้ชื่นชมเฉกเช่นตนเองบ้าง แต่ความปรารถนาดีแบบนี้ ได้ไปกระทบกระทือนต่อสภาวะความเป็นอยู่ในธรรมชาติเข้าเสียแล้ว หลายๆท่านก็ต้องทำใจแล้วละครับ ยอมเสียสละความปรารถนาดีของท่านที่อยากให้คนอื่นได้เห็นภาพธรรมชาติหายาก เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ปกป้องชีวิตที่ใกล้จะสูญพันธ์พวกนี้ไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะช่วยกันไว้ได้ เห็นไหมครับ พอ ภราดรดังเรื่องเทนนิส คนก็เห่อเล่นเทนนิสกันเต็มบ้านเต็มเมือง พอไทเกอร์หวูด ก็เห่อกอล์ฟ คือเห่ออะไรต่ออะไรตามยุคสมัยนะครับ นี่ถ้าจะกล่าวกันตรงไปตรงมา ก็ต้องยอมรับว่า ท่านนักถ่ายภาพนกระดับอินเตอร์ฯทั้งหลาย ก็มีส่วนเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมาโดยไม่ได้เจตนาเช่นกัน ใครๆก็อยากเด่น ใครก็อยากดัง แม้ไม่ได้เป็นโรคจิตอย่างที่เค้าว่า หรือว่าจะเป็น 1 ใน 500 จำพวกก็ไม่รู้ ในจำนวนผู้ถ่ายภาพนก ( ขอย้ำว่า ผมไม่เรียกนักถ่ายภาพนก นะครับ ) คงมีบ้างที่เขารักตัวเอง มากกว่ารักนก มากว่าอนุรักษ์นก แต่ไม่ใช่ทั้งหมดทุกคน ไม่ใช่ส่วนใหญ่อย่างแน่นอน น่าจะมีเพียงเล็กน้อยไม่กี่คนเท่านั้น ที่ทำให้ทั้งวงการต้องกระทบกระเทือน เหมือนอย่างพวกหนุ่มรุ่นใหม่ไงครับ ขับโฟวีลไดร์ว เป็นขบวนไปเที่ยวป่า ทำเอาถนนหนทางในป่าซึ่งแย่อยู่แล้ว เละเทะจนคนท้องถิ่นต้องต่อต้าน ในสังคมเราบางครั้งก็ไม่อาจจะหามาตรฐานความพอดีได้ เห็นท่านบางคนพูดถึง สมาคม ชมรม ใช่ไหมครับ น่าจะจัดประชุมจัดระบียบ กฏเกณฑ์การเข้าไปถ่ายรูปนกป่านะครับ บางท่านชอบถ่ายภาพมาก จะถ่ายภาพนกกระจิบนกกระจอกตามบ้านตามเมือง จนกระทบกระเทือนต่อนก ก็ไม่น่าวิตกเท่ากับ ไปทำกับนกที่มีสภาพแวดล้อมธรรมชาติอันสงบเงียบในป่าจนอาจสูญพันธ์ลงไปได้ สรุปตามกระแสพระราชดำรัสนะครับ * หน้าที่ของเราทุกคนคือ ควบคุมคนไม่ดี อย่าให้กระทำความเดือดร้อนเสียหายต่อส่วนรวม * จากคุณ : สุลต่าน (สุลต่าน) - [ 28 ส.ค. 46 16:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 32 รูปนี้น่ารักดี ลองส่งใหม่นะครับ จากคุณ : สุลต่าน - [ 28 ส.ค. 46 16:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบคุณเดินดงที่ถามผมมา การดูนกไม่จำเป็นต้องเข้าไปประชิดตัวนกเท่ากับการถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นตำแหน่งของบังไพรอาจถอยไกลออกมาด้านหลังหรือจุดไหนที่ห่างสักหน่อย พอจะส่องด้วยกล้องไบน็อกเห็นตัวได้ก็โอเคแล้ว ตำแหน่งแค่นี้คงจะพอหาได้อยู่ ความจริงถ้าถอยจากรังมาไกลพอสมควร บางกรณีไม่จำเป็นต้องใช้บังไพรก็ได้ อย่างตอนกระเต็นน้อยแถบอกดำป้อนลูกที่แก่งกระจาน ข้างหน้ามีบังไพรกางเรียงเป็นตับ ผมก็ถอยไปซุ่มในป่าห่างออกมาเกิน 10 เมตร พอส่องเห็นตัวก็ถือว่าเห็นแล้ว พอใจแล้ว ของพรรค์นี้คุยกันดีๆ จะเข้าท่ากว่า ไม่ใช่แค่เห็นบังไพรใครขวางอยู่หลายวันก็ขวางหูขวางตาเสียก่อน บางทีเจ้าของไม่มีอะไรเลยเหมือนอย่างรายลุงแก่นี่แหละ จากคุณ : รพินทร์ ภูท่อก - [ 28 ส.ค. 46 16:52:06 A:203.148.191.230 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า คนเราต้องยอมรับฟังเพื่อปรับปรุงในสิ่งบกพร่องของตนเอง จากคุณ : นกประมง - [ 29 ส.ค. 46 08:22:44 A:203.144.143.250 X:210.86.217.74 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ ชชนนเขียนยังกะคนรักดูรูปนก มากกว่าดูนกอีกนะครับ แต่ผมไม่เชื่อหรอก :) ที่ผมพยายามเสนอเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันครับ เมื่อมีมาตรฐาน ที่ช่วยกันคิดขึ้นณ.ที่นี้ ให้ผู้คนในนี้ร่วมกันร่างกฎเกณฑ์.. ร่วมกันลงความเห็น.. เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ ๆ ได้ชื่นชมทั้งภาพที่งดงาม และเข้าใจทั้งวิธีการที่ถูกต้องในการถ่ายไงครับ หวังเป็นอย่างยิ่งนะครับ ว่านักถ่ายภาพทั้งหลาย จะมาร่วมกันร่างกฎเกณฑ์เหล่านี้ขึ้นมาครับ ผมเพิ่งอ่านผมยังเบื่อเลย คุณถ่ายไปโดนด่าไปมาตั้งนานไม่เบื่อมั่งเหรอครับ จับเข่าคุยกันสิครับ จากคุณ : เค้าโมง - [ 29 ส.ค. 46 11:28:12 A:203.149.35.216 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 เรียน คุณขขนน คุณไปทำอะไรที่ไม่ดี เอาไว้แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง หรือไม่เล่าความเป็นจริง แล้วก็มาบอกว่าตัวเองถูกไล่ คนที่ถ่ายภาพ กับ คนดูนก เวลาเจอกันส่วนใหญ่ก็จะทักทาย และ แลกเปลี่ยนกันว่าเจอ อะไรที่ไหนบ้าง ลองเขียนความจริงมาจะได้รู้กัน จากคุณ : แฉ - [ 29 ส.ค. 46 14:08:14 A:203.113.32.7 X:192.168.1.9 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรียน ลุงแก่ และเพื่อนของลุง ผมก็คนหนึ่งที่ชอบและรักการดูนกและถ่ายนกมากๆ แต่ทุกครั้งที่ได้เดินทางไปถ่ายหรือดูนก ทำไมดูกลุ่มลุง ถึงชอบทำตัว เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการพบเห็นรัง หรือนกที่บุคคลทั่วไปอยากเจอ อยากให้ลุงและกลุ่มลุงช่วยแนะนำกันบ้าง เพราะบุคคลทั่วไปที่มีใจรักนก ก็อยากเห็นนกดีๆด้วยเหมือนกันแต่บางครั้งไม่มี เวลาในการเดินทางอย่างพวกคุณที่เฝ้าดูนกอยู่เป็นเวลานาน ย่อมรู้ข้อมูลเป็นอย่างดี จึงอยากให้แนะนำตำแหน่ง เพื่อให้คนที่มีเวลาน้อยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินหานก เพราะบางครั้งเดินทางไกล จึงไม่อยากเสียเวลา ที่กล่าวอย่างนี้ไม่ได้เป็นการฉาบฉวย หรือต้องการเอาเปรียบที่ไม่ได้เดินหา แต่เพื่อให้สมหวังและมีความสุขในการดูนก ไม่ใช้เก็บไว้บอกพวกเดียวกัน แล้วเอาภาพลงเน็ตมาอวดใส่กัน (รวมทั้งคนรักนกทั่วๆไปด้วย เราต้องรู้จักการแบ่งปันกัน เพราะเราคนไทยด้วยกัน เข้าใจมั๊ย) จากคุณ : มารยาทดี - [ 30 ส.ค. 46 17:05:23 A:203.209.12.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมรู้จักลุงและ rusty-naped ด้วย คนบางคน ไม่เคยเจอคนพูดเสียงดังเมื่อมาเจอ ลุง เข้า คิดว่าเป็นการเอะ-อะกันยกใหญ่ ประกอบกับลุงไม่ตอบเขาว่า เสียงดังจริงหรือเปล่า ตามที่เขาเล่า ลุงยัง ไม่ตอบ ไม่ต้องถามอีกว่า ลงจากหลังมอเตอร์ไซค์ จ น ท มาด้วย เขาเลยคิดว่าลุง เป็น คนที่นี้ขาประจำ จาก คนกลาง ไทลือ จากคุณ : ไทลือ - [ 3 ก.ย. 46 22:09:09 A:203.149.29.236 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยหรอกค่ะ แต่ก็ขอบคุณในความคิดเห็นที่ทุกคนแสดงออกมา เพราะเหมือนกำลังดูละครอยู่เป็นฉากที่ทุกคนเล่นตามบทชีวิตจริงๆ ได้เห็นแอคติ้งจริงๆที่ทุกคนแสดงออกมาจากจิตใจ ไม่ว่าตัวเองจะแสดงบทพระเอก ผู้ร้าย กรรมการ หรือผู้ตัดสิน บางคนอาจจะคิดว่าตัวเองแสดงบทพระเอกในขณะที่ผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นตัววิอจจฉา บางคนถูกกำหนดให้เป็นผู้ร้าย แต่ดูๆ ไปเหมือนเขาจะเป็นคนถูกใส่ร้ายนะ ก็ดีค่ะที่แสดงความคิดเห็นกันตรงๆ....เคยอ่านแล้วเบื่อกระทู้แบบนี้..แต่วันนี้รู้สึกว่าได้ความคิดจากกรณีอย่างนี้หลายอย่าง...อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้ความคิดของคน มุมมอง...และอีกมากมาย... ขอให้ทุกคนมีความสุขค่ะ อยากล็อกอินแต่ไม่อยากให้อ่านเพียงชื่อมากกว่าความคิดเห็น จากคุณ : ผู้ชม - [ 5 ก.ย. 46 20:53:17 A:203.155.176.72 X:172.17.8.113 ]