ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อเรือถึงจุดหาเหยื่อ(ไดหมึก)ก็ช่วยกันตกหมึกด้วยโยทะกากันละ ครับ พวกใช้แฮนด์ไลน์ก็หย่อนเหยื่อได้เร็วกว่าพวกใช้รอกกับคัน   ตัวผมเองก็ใช้ รอกสปิน.แต่ไม่ได้ผูกเหยื่อโยทะกาผมใช้เหยื่อกุ้งปลอมตัวเล็กสีชมพูเพราะกะจะ เล่นหมึกหอมซึ่งคนเรือบอกว่าพอมีตัว  แล้วก็บอกให้พวกตกหมึกให้เรียกด้วยถ้า เห็นหมึกหอมว่ายมาให้เห็นตัวจะได้ตีกุ้งปลอมไปจัดการซะแล้วผมก็กลับมาที่วง เหล้าต่อ      อ้อลืมบอกไปว่าคืนก่อนพวกเราจะมาทางเรือสมศักดิ์สมุทรได้หา เหยื่อหมึกเป็นไว้ให้พวกเราล่วงหน้าไว้ร่วม100กว่าตัว   แต่ตายไปกว่าครึ่งเป็น เพราะว่าเรือจอดใกล้ฝั่งและกลางวันน้ำลงมาก     ทำให้ระบบถ่ายเทของน้ำไม่ดี ประกอบกับแดดจัดทั้งวันทำให้น้ำในห้องขังมีอุณหภูมิสูงเกินไปหมึกก็เลยตาย เยอะ(อันนี้คนเรือบอกนะครับ)เหลืออยู่ในห้องขังเหยื่อแค่ประมาณ30ตัวเท่านั้น ขณะผมกินเหล้ารอตกหมึกหอมอยู่ได้สังเกตเห็นคนเรือชื่อเปี๊ยก(เรือ ลำนี้มีคนเรือ2คนชื่อเปี๊ยกกับเผือกที่ไม่เรียกว่าเด็กเรือเพราะว่าอายุมากแล้วทั้งคู่ ละครับ  อิอิอิ)กำลังง่วนอยู่กับการใช้สวิงช้อนลูกปลาที่มาเล่นไฟ     ซึ่งตามปรกติ คนเรือมักจะใช้โยทะกาช่วยตกหมึกให้     ด้วยความสงสัยผมจึงไปดูแล้วถามก็ได้ รับคำตอบว่าช้อนพวกปลาหัวแข็งที่มาเล่นไฟไว้ทำเหยื่อตกหมึก   เมื่อเปี๊ยกช้อน ปลาหัวแข็งได้มากพอตามต้องการแล้วก็สาธิตโชว์วิธีหาเหยื่อให้ผมดูซึ่งผมเห็นว่า เทคนิคนี้ยอดเยี่ยมมากก็เลยเอามาเล่าให้ฟังละครับ       เปี๊ยกใช้สายขนาด10-12 ปอนด์ผูกลูกหมุนขนาดความยาวประมาณ1นิ้ว   แล้วใช้สายขนาดเดียวกันยาว ประมาณ2ฟุตต่อกับลูกหมุนปลายสายต่อด้วยเข็มกลัดขนาด1นิ้วแล้วเอาปลาหัว แข็งที่ช้อนมามาเกี่ยวกับเข็มกลัด   แล้วหย่อนลงน้ำไปปล่อยสายไปประมาณ3-4 เมตรแล้วก็ปล่อยสายแบบเดียวกันลงไปอีกสาย  เปี๊ยกบอกผมว่าถ้าน้ำไม่ไหลหรือ ไหลอ่อนมากไม่ต้องใส่ลูกหมุนที่ใส่เพราะว่าใช้ถ่วงเหยื่อให้จมน้ำ    พอซักพักนึง เปี๊ยกก็ชี้ให้ผมดูว่าหมึกจับเหยื่อแล้วซึ่งผมก็มองดูแล้วก็ดูไม่ออกก็ได้รับคำอธิบาย ว่า   สายมันจะเคลื่อนที่ไปมาเล็กน้อยเพราะว่าหมึกจับเหยื่อแล้วจะเคลื่อนตัวหนีแต่ ติดสายเอ็นอยู่จึงแสดงอาการแบบนี้ให้เห็น    เปี๊ยกก็บอกให้ผมลองจับสายจะรู้สึก หนืดๆๆมากหรือน้อยก็แล้วแต่ขนาดของหมึกที่มากินเหยื่อ    เมื่อผมลองจับสายก็ รู้สึกตามที่เปี๊ยกบอกมาแล้วเปี๊ยกก็บอกให้ผมค่อยๆสาวสายขึ้นมานิ่มๆเมื่อสาว สายขึ้นมาก็เห็นหมึกเกาะอยู่ที่เหยื่อจริงๆแล้วเปี๊ยกก็ใช้สวิงจ้วงช้อนหมึกตัวนั้นขึ้น มา         เปี๊ยกเล่าให้ผมฟังอีกว่าสมัยก่อนเค้าใช้ตัวเบ็ดขนาดเล็กเกี่ยวเหยื่อปลา หัวแข็งตกหมึก    แต่หมึกมักจะเอาเหยื่อไปกินฟรีๆทีละครึ่งตัวหรือไม่ก็ปล่อย เหยื่อเวลาสาวสายขึ้นมา      สู้วิธีใช้เข็มกลัดไม่ได้เพราะว่าหมึกจะไม่ค่อยปล่อย เหยื่อ      ผมละทึ่งต่อคนที่คิดเทคนิคนี้จริงๆไว้คราวหน้าถ้าผมไปลงเรือที่อื่นจะ ลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้หาเหยื่อบ้าง         ผมเป็นลูกมือเปี๊ยกอยู่พักนึง   พอดีเผือก คนเรืออีกคนนึงซึ่งไปหุงข้าวทำอาหารเสร็จก็ออกมาช่วย       ผมก็เลยออกมานั่ง กินเหล้าดูทั้ง2คนนี้หาเหยื่ออย่างเพลิดเพลินคนหนึ่งสาวสายอีกคนหนึ่งใช้สวิงช้อน หมึก     อิอิอิ...ไม่เหมือนตอนผมเป็นลูกมือซึ่งทำหมึกหลุดไปบ่อยๆ           ก็มี เสียงตะโกนบอกว่าหมึกหอมลอยมาใกล้ท้ายเรือผมก็วิ่งไปที่ท้ายเรือเพื่อจัดการ แต่ปรากฏว่าไม่ทันนายเอสที่อยู่แถวนั้นคว้าคันสปิน.ที่ผูกเหยื่อกุ้งปลอมไว้เรียบ ร้อย       นายเอสตีเหยื่อไปดักหน้าเจ้าหมึกหอมที่ว่ายมาโชว์โฉมทีเดียวก็ลากเจ้า หมึกหอมตัวนั้นขึ้นมาได้     ต่อจากนั้นผมก็เฝ้าอยู่บริเวณท้ายเรือเพื่อคอยจัดการ หมึกหอมที่ว่ายมาโชว์ตัว   แล้วก็ได้จัดการขึ้นมาได้2ตัว แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 46 22:46:49 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา - [ 26 ส.ค. 46 22:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พอเวลาประมาณ23.00 ไต๋แก่ก็ลองหรี่ไฟเพื่อจะดูจำนวนของฝูงหมึกที่มาเล่นแสงไฟว่ามีมากพอหรือยังเมื่อหรี่แสงไฟแล้วก็พบว่ามีจำนวนพอสมควรก็สั่งให้คนเรือกางแขนลงอวนเพื่อเฉหมึก       แต่ครั้งนี้หมึกกลับไม่ลอยตัวขึ้นมาให้เฉมากเหมือนครั้งแรกมีหมึกมาเข้าอวนให้ช้อนแค่ประมาณ10ตัวเอง   จึงเปิดไฟล่อหมึกต่อไปอีกกะว่าอีกครึ่งชม.จะหรี่ไฟใหม่    ผมไปดูที่ห้องขังเหยื่อก็เห็นว่าในห้องมีหมึกราวๆ60-70ตัวแต่เป็นหมึกขนาดเล็กเกือบครึ่งจำนวนที่มีอยู่     ไต๋แก่หรี่ไฟอีกในเวลาเกือบเที่ยงคืนปรากฏว่าคราวนี้ไม่มีหมึกเข้าอวนเลย   ไต๋แก่ก็เลย บอกกับพวกเราว่าไปเข้าหมายตกปลาเลยดีกว่าเดี๋ยวจะไม่ทันน้ำ      แล้วเรือก็ติดเครื่องออกสู่หมายตกปลาโดยจุดหมายผมคิดว่าเป็นบริเวณท้ายเกาะเหลือม   ระหว่างเรือกำลังเดินทางผมกับพงษ์,หลิมและโดมช่วยกันจัดการเหล้า กลมที่2ให้หมดโดยตกลงกันว่าหมดขวดที่2จะหยุดกินเพื่อพักผ่อน(อิอิอิ...แต่ฟามเป็นจริงคือว่าเหล้าเอาลงเรือมาแค่ 4 กลมเท่านั้นกลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่พอกินต่างหาก  5555)     ขณะที่เรือแล่นออกจากจุดไดหมึกลมเริ่มแรงขึ้นและ เมื่อเรือแล่นพ้นแนวบังลมที่อ่าวพัทยาคลื่นลูกโตๆก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเมื่อเหล้าขวดที่2หมดลง   วงเหล้าก็แยกย้ายกันไปหาที่พักผ่อนเอาแรง  ผมก็ขึ้นไปหาที่นอนที่ชั้นบนส่วนคนอื่นนอนตรงไหนอันนี้ไม่ทราบละครับ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 46 22:49:00 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา - [ 26 ส.ค. 46 22:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมนอนหลับๆตื่นๆอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบบนชั้นสองสาเหตุที่หลับไม่สนิททั้งๆที่เพลียจากการทำงานและขับรถมาเพราะว่าเรือวิ่งฟันฝ่าคลื่นลูกใหญ่ๆตลอดทางทำให้เรือโคลงมาก    มารู้สึกตัวเพราะว่าได้ยินเสียงเอะอะที่ชั้นล่างตอนแรกที่รู้สึกตัวยังคิดว่าเรือยังแล่นอยู่เพราะว่าเรือยังโคลงเคลงอยู่    แต่เมื่อลุกขึ้นมาดูก็รู้ว่าเรือจอดแล้วเหตุที่เรือโคลง.ก็เพราะว่าจุดที่จอดเรือลับลมเต็มๆครับ    ก็อย่างว่าละครับเรือที่มีความกว้างขนาด5เมตรยาว25เมตรก็จอดรับลมย่อมไม่น่าเกลียด     เสียงเอะอะว่าปลากินจากข้างล่างทำให้ผมเลิกคิดที่จะนอนต่อก็เลยลงมาจากชั้นบน เมื่อลงบันไดมาก็เจอนายเอสกำลังอัดปลาอยู่ที่บริเวณหัวเรือ     ผมก็คิดในใจว่าคันเบ็ดกับรอกที่เจ้าเอส.กำลังอัดปลาอยู่มันคุ้นๆนี่หว่า    พอเอาน้ำในขวดมาล้างหน้าล้างตาให้หายสะลึมสะลือแล้วมองดูเจ้าเอสอัดปลาต่อ   อ้าวนี่มันรอกไดว่า SL20SH.ใส่สายสีเขียวนี่มันรอกของตรูนี่หว่า    เจ้าเอสมันก็หันมายิ้มหวานจ๋อยแล้วบอกมาว่า“ก็ทั้งชุดนี้ของพี่อ่ะซิ   ก็อยากนอนเพลินลงมาช้าผมก็เอาลงมาใช้พอปักคันได้แพร็บเดียวปลาก็ฉวยทันที  แถมยังตัวใหญ่ซะด้วย   พี่รอผมอัดปลาตัวนี้ขึ้นมาก่อนนะเดี๋ยวจะคืนคันให้  อิอิอิ”    ผมก็ยืนดูมันอัดปลานึกแช่งมันใน ใจให้สายขาดแต่มานึกได้อีกทีว่านี่มันรอกของผมถ้าสายขาดไปผมก็เสียสายไปฟรีๆซิ    ดังนั้นก็เลยลุ้นเอาใจช่วยให้มันอัดปลาขึ้นมาได้เกี่ยวขึ้นเรือ         ปลาตัวนี้เป็นอั่งเกยหนักประมาณ4โลเศษแล้วเจ้าเอสก็ส่งคันเบ็ดคืนให้ผม ผมรับคันมาก็ดูชุดสายหน้าก็เห็นว่ามันไม่ใช่ชุดที่เตรียมมา  ก็เลยถามไปว่าผู้ใด๋ช่วยสงเคราะห์ให้ก็ได้รับคำตอบว่าพงษ์เป็นคนใส่ให้ก็แทงยู้มา ณ.ที่นี้ด้วยเน้อ    ดูชุดสายหน้าเป็นเอ็นขนาด50ปอนด์ยาวประมาณ2วาและ ต่อปลาด้วยลีดเดอร์ลวดยาวประมาณ6นิ้วต่อด้วยตัวเบ็ดขนาด3/0ตะกั่วที่ใช้ถ่วงเป็นขนาด6ลูกโลผูกหนังสติ๊กกับสาย     แล้วผมก็ตักเหยื่อหมึกเป็นมาเกี่ยวเบ็ดและหย่อนลงไปบริเวณข้างเรือตรงที่เจ้าเอสมันอัดปลาตัวตะกี้ละกะว่าจะเอาคู่ของปลาตัวที่เอสอัดขึ้นมา    ไต๋แก่ซึ่งมาปล่อยสายอยู่ข้างๆก็แนะนำให้ว่าให้ยกตะกั่วขึ้นประมาณสองเมตรเมื่อปล่อยถึงพื้นซึ่งผมก็ทำตาม      ผมก็นั่งถือคันเบ็ดรอปลากินอยู่บริเวณหัวเรือมองไปที่ท้ายเรือก็มีปลากินเหยื่อเป็นระยะๆ   ที่จำได้เห็นชุดของหลิมที่ใช้ชุดตกปลาบึกที่บึงสำราญรอกเพนน์525เจอปลาใหญ่กินแล้วก็ สายขาดไป  ปูก็อัดอั่งเกยขึ้นมาอีกตัวไซด์ราวๆ3โล    ทันใดนั้นคันที่ผมถืออยู่ก็มีการกระตุกแสดงว่ามีปลามาตอดเหยื่อผมก็ลดคันลงเพื่อส่งให้มันกินเต็มคำ  แล้วปลายคันของผมก็งอวูบจิกลงน้ำผมก็วัดคันสวนไปปลาติดเบ็ดแล้วผมอัดปลาตัวนี้รู้ว่าน้ำหนักไม่มากนักแต่คิดว่าไม่ใช่ปลาตัวแบนเพราะว่าไม่ต้านน้ำ       แต่มันว่ายสู้ไปมาในระดับความลึกและวิ่งออกไปยาวพอสมควรตอนแรกผมนึกว่าเป็นปลาสาก   แต่เมื่ออัดไปซักระยะนึงก็คิดว่าไม่ใช่เพราะว่ามันอึดกว่าถ้าเป็นปลาสากก็คงโดดขึ้นผิวน้ำหรือลอยขึ้นมาแล้ว ก็เลยคิดว่าเป็นช่อนทะเลพอมันเหนื่อยผมอัดขึ้น มาถึงผิวน้ำได้ก็เป็นช่อนทะเลจริงๆตัวขนาด3-4โลนี่ละครับ   มันสู้ดีครับขนาดตัวเล็กแบบนี้ ผมก็เกี่ยวเหยื่อหมึกเป็นลงไปต่ออีกแต่ถือคันมาร่วมครึ่งชม.ปลายังไม่มาตอดเหยื่อก็เลยปักคันไว้แล้วเดินมานั่งดูเพื่อนๆอัดปลากันที่ท้ายเรือ   ที่จำได้มีนายโดมใช้ชุด30ป.ของบนเรือเจอปลาใหญ่กินถึง2ครั้งสู้นานพอสมควรแต่สายขาดไปทั้งสองครั้ง    แล้วผมก็มาเช็คเหยื่อคันของผมก็ปรากฏว่าติดหินเรียบร้อยไต๋แก่ก็ช่วยดึงให้แต่ก็ขาด     ผมก็เลยได้โอกาสเปลี่ยนคันเอาชุดinter20ลงแทนและลงที่ท้ายเรือ(อิอิอิ...เสียบแทนคันที่เจ้าของเมาคลื่นหลับไป)    ช่วงตั้งแต่ตี3คลื่นแรงมากลมมาทางหัวเรือแต่คลื่นซัดเข้ามาทางกราบข้างซ้ายและน้ำก็ไหลแทงไปทางกราบด้ายซ้ายด้วยก็แปลกดี  พวกเราหย่อนเบ็ดได้เฉพาะกราบทางด้านซ้ายและท้ายเรือเท่านั้น     แต่หมายนี้ปลาก็กินเหยื่อเป็นระยะๆ   ไต๋แก่ก็บริการดีพอปลากินทิ้งช่วงนานไปแกก็หย่อนสายสมอหรือไม่ก็ดึงสายสมอขึ้นเล็กน้อยทำ ให้ปลากลับมากินเหยื่ออีกเป็นระยะๆ   สรุปแล้วเรือเราจอดที่หมายท้ายเกาะเหลือมนี้ตลอดถึงเช้าไม่ได้ย้ายหมายเลย ช่วงเวลาตีสี่มันก็แปลกดีว่าเหยื่อหมึกเป็นไม่ได้รับความสนใจจากปลาเลย   แต่พอใช้หมึกตายที่แช่เย็นไว้ในคูลเลอร์ปลากลับกินหมึกตายก็เลยเป็นว่าทุกคนที่ตกปลาอยู่ท้ายเรือขณะนั้นใช้แต่เหยื่อหมึกตายอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 46 22:55:46 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา - [ 26 ส.ค. 46 22:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเผลอหลับไปก็ตื่นเพราะว่าได้ยินเสียงพงษ์เรียกว่าปลากินคันของผม   เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นพงษ์อัดปลาด้วยคันของผมให้      ผมก็รับคันมาอัดก็รู้สึกว่าตัวนี้ใหญ่มากมันวิ่งไปได้ร่วม200เมตร(ดูจากสายที่เหลือในรอก) มันสู้อยู่ในระดับประมาณกลางน้ำสู้แบบนี้ก็มีอยู่2อย่างถ้าไม่ใช่ฉลามก็คงเป็นช่อนทะเล    แต่ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นช่อนทะเลมากกว่าเพราะว่าสายหน้าของผมเป็นสายเอ็นล้วนๆไม่ได้ใส่ลวดถ้าเป็นฉลามก็คงจะขาดไปนานแล้ว    ผมก็ใช้เวลานานพอสมควรอัดปลาตัวนี้เข้ามาใกล้เรือได้  พอมันเข้าใกล้เรือมันก็แสดงอิทธิฤทธิ์โดยเหินขึ้นผิวน้ำว่ายไปทางหัวเรือแบบว่าเบรคผลักคานโยกขึ้นถึงตำแหน่ง strike แล้วใช้มือดึงแทบไม่ออกแต่มันดึงออกอย่างง่ายดาย    แต่ก็ยังโชคดีที่ไต๋แก่อยู่คุมเกมในขณะนั้น    ไต๋แก่ก็จัดการเคลียร์สายในบริเวณนั้นก่อนล่วงหน้าที่มันจะวิ่งไป(ยังกับว่า รู้ว่ามันจะวิ่งมาทางนี้)   แล้วผมก็อัดมันให้กลับมาสู้บริเวณท้ายเรือต่อได้สำเร็จ   พงษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็เตือนให้ระวังมันจะมุดเข้าใต้ท้องเรือเมื่อเห็นตะกั่วพงษ์ก็คว้าตะกั่วแล้วเด็ดออกแล้วมันก็มีก๊อกที่สามวิ่งออกไปอีก    แต่ก็ไปได้ไม่เท่าไหร่ผมก็อัดกลับมาให้พงษ์เกี่ยวขึ้นมาจากน้ำ    มันเป็นปลาช่อนทะเลขนาดดูจากสายตาน่าจะเกิน10กิโล.ขึ้นขณะเวลานั้นผมคิดว่าจะยกขึ้นมาถ่ายรูปแต่ผมยกไม่ไหวครับ    แล้วพงษ์ก็ช่วยเกี่ยวเหยื่อคันของผมแล้วหย่อนลงไปใหม่       ส่วนตัวผม แหะๆๆนอนแผ่เลยละครับขณะนั้นเวลาประมาณตีห้า กว่าๆ หลังจากนั้นก็มีปลาเข้ามากินอีก(คันคนอื่น)แต่ก็มีหลุดขาดกัน     พอเวลาเกือบๆหกโมงเช้าปลาสากก็เข้ามากินเหยื่อหลายครั้ง   หุหุหุ...ไอ้สากนี่มันฉลาดคันที่ใส่ลวดไว้ปลายสายมันไม่แตะ   แต่คันที่ใช้สายเอ็นล้วนๆมันก็ล่อขาดไปหลายสาย   ของผมก็โดน,หลิมก็โดนแล้วยังมีอีกแต่จำไม่ได้ว่าของใคร    ผมกับหลิมก็มาใส่ลวดต่อตัวเบ็ดไว้ปลายสาย    แล้วหลิมที่ลงก่อนก็จัดการสากขึ้นมา1ตัวแบบว่ากินคามือเลยขนาดประมาณ4-5กิโล.   หลังจากนั้นปลาสากก็ไม่มาฉวยเหยื่ออีกเลย(หุหุ....ยังกับมันรู้ว่าฉวยเหยื่อแล้วเดี้ยงแน่ๆจึงไม่แตะ)  กลับมีพวกอั่งเกยข้าง-ปานตัวขนาด1-2กิโล.มาฉวยเหยื่ออีกหลายครั้งก็ได้เพิ่มขึ้นมาอีก   คันที่ปลาฉวยเหยื่อส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณท้ายเรือและกินแต่เหยื่อตาย     คันอยู่แถวหัวเรือใช้หมึกเป็นกลับไม่แตะ       พอเริ่มสว่างปลาอั่งเกยที่ฉวยเหยื่อก็เลิกฉวยมี แต่พวกข้างปานตัวขนาดปลาจานมาฉวยแทน    แต่ทางหัวเรือที่ใช้หมึกเป็นก็มีปลาโฉมงามตัวขนาดกิโล.เศษๆเข้ามาฉวยเหยื่อสองครั้งได้2ตัว   ต่อจากนั้นกระแสน้ำก็หยุดไหลปลาไม่กินเหยื่อละครับ 7.00น. ไต๋แก่สตาร์ทเครื่องเรือเพื่อย้ายหมายพาพวกเราไปตกปลาทรายแดงเพื่อเอามาทำเหยื่อตกปลา(อินทรีหรือสละ)   ก็ย้ายไปไม่ไกลนักละครับ       พวกเราก็ช่วยกันตกทรายแดงขึ้นมามากมายเผื่อเอาไปกินกันที่บ้านด้วย       แล้วไต๋แก่ก็พาพวกเราไปตกปลาที่หมาย”ร่องเหลือม”ซึ่งก็อยู่บริเวณระหว่างเกาะเหลือมกับเกาะไผ่ละครับขณะนั้นเวลาประมาณ 8.30น.     หมายร่องเหลือมนี้พวกเราได้ปล่อยสายลอยสามสายใช้ปลาทรายแดงเป็นเหยื่อโดยมีรอก ชิมาโน่ชาร์เตอร์ของพงษ์,เพนน์525จีเอสของหลิมและอลูเท็คโนสของปู   ผมนั่งขำอยู่กับนายโดมเมื่อเห็นรอก3สัญชาติปักเรียงแถวกันอยู่ท้ายเรือก็แซวกันเล่นๆละครับว่าไอ้ยุ่น,ไอ้กันหรือไอ้เลี่ยน ตัวไหนจะทำงานก่อนกันหมายร่องเหลือมเป็นหมายยอดนิยมสำหรับเรือตกปลาที่มาจากพัทยา    หมายนี้เป็นหมายที่เน้นการตกปลาผิวน้ำเป็นหลักเช่นพวกปลาอินทรีและพวกสกุลกระโทง.ทั้งหลายปลากลางน้ำก็จะมีพวกปลาสละ,ช่อนทะเลและสาก   ส่วนปลาหน้าดินไม่ค่อยมีตัวละครับ   ระหว่างที่รอปลากินเหยื่อคนเรือก็มาเอาปลาอั่งเกยตัวใหญ่2ตัวหมึกตายอีกจำนวน นึงไปทำกับข้าวให้พวกเรากิน   อาหารมื้อนี้มีต้มยำอั่งเกยหม้อใหญ่,ไข่เจียวและผัดผักกับหมึก   พวกเราเฝ้ารอปลากินเหยื่อถึง10.30น.ก็ไม่มีอะไรมากินเหยื่อเลยไต๋แก่ก็ย้ายหมายไปที่อื่น แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 46 23:01:01 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา - [ 26 ส.ค. 46 22:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 11.00น. ไต๋แก่พาพวกเรามาจอดตกที่หมาย”หัวเกาะเหลือม”หมายนี้ก็มีปลาคล้ายๆกับหมายร่องเหลือมละครับ  แต่เพิ่มพวกปลาหน้าดินด้วย   ตอนเรามาถึงก็มีเรือตกปลาจากพัทยาจอดอยู่สองลำคนเรือตะโกนถามลำที่จอดอยู่ใกล้สุดก็ได้รับคำตอบว่าได้ช่อนทะเลกับสากอย่างละตัว    พวกเราก็ลงสายลอยสามสายเช่นเดิมโดยรอกสามสัญชาติ(ไอ้ยุ่น,ไอ้กันและไอ้เลี่ยน)ผมเองก็เอาคันของผมลงสายหน้าดินเกี่ยวหมึกเป็นหวังผลต่อพวกโฉมงามหรือแชกำ    แต่กระแสน้ำช่วงเวลานี้ไหลอ่อนมากเรียกว่าเกือบจะน้ำตายละครับ   แบบนี้ก็ไม่มีอะไรทำฆ่าเวลาได้ดีกว่า ตกปลาเล็กกับตั้งวงเหล้า   แหะๆผมเลือกอย่างหลัง      เวลาผ่านไปได้พักใหญ่ก็มีเหตุการณ์ตื่นเต้นเล็กน้อยคือเรือตกปลาลำที่จอดฝั่งนอกสุดย้ายหมายไปที่อื่นแต่ดันเฉือกแล่นผ่าเข้ามาบริเวณท้ายเรือที่เราปล่อยสายลอย    ผลก็คือรอกชิมาโน่ชาร์เตอร์ก็แหกปากร้องเป็นภาษาไอ้ยุ่นดังสนั่นยาวเลยครับแบบว่าสายเกือบหมดรอกเลยตัดเกือบไม่ทัน(เรื่องแบบนี้ควรจะระวังให้มากเลยนะครับรอกอาจจะพังได้ง่ายๆถ้าปล่อยให้ดึงจนสายหมดหลอด)เล่นเอาพงษ์เจ้าของรอกบ่นด่าพึมเลยละครับ    ไต๋แก่ย้ายหมายเพราะว่าปลาไม่กินตอนเวลา12.00น. โดยย้ายไปหมาย”หัวเกาะไผ่” หมายนี้พวกเราก็ลงสายกันอย่างเนือยๆคนเรือก็บอกพวกเราว่าตอนบ่ายโมงน้ำน่าจะไหลดี   หมายนี้ถ้าน้ำไหลมักจะไม่พลาดปลาหน้าดินและผิวน้ำ   ผมก็บอกคนเรือให้เอาปลาช่อนทะเลตัวเล็กมาแล่ทำปลาดิบกินทุกคนก็ เห็นด้วย   วงเหล้าวงเบียร์ก็เริ่มต่อไปแบบว่าตอนนี้ไม่สนใจตกปลาแล้วแบบว่าเริ่มขี้เกียจลุกไปเช็คเหยื่อปล่อยให้ไต๋กับคนเรือจัดการแทน    เมื่อปลาดิบมาถึงจานแรกก็หมดอย่างรวดเร็วต่อด้วยจานที่2และ3เมื่อดูเวลาแล้วก็บ่าย2โมงแล้วน้ำก็ยังไม่ไหลก็เลยบอกไต๋แก่ให้กลับฝั่งดีกว่า(อีกสาเหตุนึงเหล้าก็เหลือแค่ค่อนขวดสุดท้ายเบียร์ก็เหลือไม่กี่กระป๋อง เด่วจะไม่พอกินกัน  555555)  ไต๋แก่ก็ติดเครื่องกลับฝั่งพัทยา      ผมก็บอกคนเรือให้เอาหมึกเป็นที่เหลือมาแล่ทำหมึกดิบกินต่อและเอาหมึกตายมาลวกจิ้มน้ำจิ้มที่ทำมา    ขากลับพอพ้นแนวบังลมเกาะไผ่คลื่นก็ใหญ่เอาเรื่องละครับแบบว่าขนาดเรือใหญ่อย่างนี้พวกเราต้องหลบมานั่งกันอีกกราบนึงเลยไม่งั้นถูกคลื่นสาดเปียก    ทั้งเหล้าเบียร์และกับแกล้มก็หมดลงก่อนถึงฝั่งพัทยาเล็กน้อย   เรือมาจอดตอน16.30น.กว่าที่เราจะขนของลงเรือเล็กมาขึ้นที่ชายหาดได้ก็เป็นเวลาเกือบ17.00น.แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านละครับ สรุปทริพนี้พวกเราได้ปลากันในหมายเดียวคือหลังเกาะเหลือมที่ตกตอนกลางคืนถึงเช้าละครับ   หมายอื่นไม่มีปลามาแตะเหยื่อเลยละครับ  จำนวนปลาที่ได้ก็ถือว่าได้มากพอสมควรสำหรับหมายใน    และก็ประทับใจในเรือสมศักดิ์สมุทรและการบริการของไต๋แก่และลูกเรือมากละครับถ้ามีโอกาสก็อยากจะขอลงเรือลำนี้อีกครับ ส่วนรูปถ่ายก็คงจะต้องรอนายหลิมเอามาลงให้ละครับ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 46 23:05:31 จากคุณ : เสือปลาขี้เมา - [ 26 ส.ค. 46 23:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น้าหลายไหลเลยอ่ะคับพี่เสือ จากคุณ : sharkbite (sharkbite) - [ 26 ส.ค. 46 23:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยังไม่ได้อ่านอ่ะพี่เสือ ต้องปริ๊นท์ไปอ่านหลังกินข้าวเป็นการย่อยอาหารอ่ะ ยาวจีง ๆ จากคุณ : นิว - [ 27 ส.ค. 46 01:47:41 A:203.148.252.234 X:210.203.179.46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอย..ปวดตา จากคุณ : boychon - [ 27 ส.ค. 46 07:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเสนอว่าให้ปรี้นออกมาอ่านเถอะ จากคุณ : pmpong (p,pong) - [ 27 ส.ค. 46 11:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รูปถ้าจะรอพี่หลิมสงสัยคงจะได้ดูอาทิตย์หน้าซะละม้าง อิอิ จากคุณ : boychon - [ 27 ส.ค. 46 12:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้โห ขอบคุณพี่เสือครับขยันพิมพ์มาให้อ่าน สนุกดีครับ อิๆๆ --==NICK==-- จากคุณ : NICK - [ 27 ส.ค. 46 20:03:15 A:203.113.36.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาดูแล้วแต่ยังไม่อ่านครับ อิอิ จากคุณ : Mathius - [ 27 ส.ค. 46 20:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ละเอียดเหมือนได้ไปเองเลยครับ... จากคุณ : อึ่มคานดิ๊ - [ 27 ส.ค. 46 20:48:32 A:203.107.193.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาอ่านแล้ว แต่ยังไม่จบ เดี๋ยวมาอ่านต่อนะ จากคุณ : ชนบท - [ 28 ส.ค. 46 15:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้อ่านง่ะ ตาลาย ม่ายหวายๆ จากคุณ : Golf-Z - [ 28 ส.ค. 46 17:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากดูรูปประกอบด้วยอ่ะพี่เสือ จากคุณ : Moherac - [ 28 ส.ค. 46 18:51:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 some picture plzzzzz จากคุณ : prut in syd - [ 29 ส.ค. 46 10:54:56 A:203.111.1.70 X:127.0.0.1 ]