ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อกลับมายังที่พัก ผมก็เติมน้ำมันไปอีก 2 ขวดๆละ 750CC ราคาขวดละ 20 บาท แล้วจึงเดินทางลงจากดอยอ่างขางเวลาประมาณ 9.10 จนเมื่อถึงด่านตรวจที่บริเวณสามแยกอ่างขาง ซึ่งเป็นทางแยกที่จะไปยังเส้นแม่งอน หรือไปยังเส้นอรุโณทัย ผมจึงไปสอบถามเส้นทางจาก ตชด. อีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ เพราะที่ผ่านๆมา สอบถามเส้นทางแต่ละครั้งมักจะได้ข้อมูลไม่ตรงกัน ผมเดินทางจากด่านตรวจที่สามแยกอ่างขางมาอีกประมาณ 6 กม. ก็มาถึงด่านตรวจซุ่นถัง ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ที่นี่ผมก็เคยแวะพัก แต่ไม่มีด่าน จะเห็นแต่ค่ายทหารเล็กๆเท่านั้นเอง จากนั้นเดินทางไปอีกประมาณ 5 กม. ก็จะผ่านหมู่บ้านเล็กๆ มีดอกบัวตองตามริมถนนบ้างเล็กน้อย จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดอกบัวตองริมทาง .... จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นผมก็เดินทางผ่าน หมู่บ้านผาแดง บ้านถ้ำงอบ บ้านสันติวนา และเวลาประมาณ 10.30 ผมก็มาถึงบ้านสินชัย ซึ่งนับระยะทางจากด่านตรวจที่สามแยกอ่างขางก็ประมาณ 21 กม. จากหมู่บ้านสินชัยจะมีทางแยก เลี้ยวซ้ายไปบ้านใหม่หนองบัว หรือไปยังหน่วยจัดการต้นน้ำห้วยสูน ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะออกไปยังทางหลวงเส้น 107 ได้ จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เส้นทาง บ. สินชัย หมู่ 10 - บ.หนองบัว หมู่ 10 ถนนเส้นนี้จะนำเราไปออกถนนเส้น 107 จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:28:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเดินทางต่อไปอีกประมาณ 14 กม. ซึ่งจะต้องผ่านบ้านทา ก็มาถึงยังทางหลวงเส้น 107 ที่ กม.ที่ 108 และเส้นทางนี้ช่วงที่ใกล้จะถึงบ้านทา ถนนไม่ค่อยจะดีเอาเลย แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆเท่านั้นเอง ถ้าใครจะขึ้นอ่างขางเส้นนี้ เมื่อมาจากเชียงใหม่ ถนนทางขึ้น จะอยู่ถัด ธ.ออมสิน สาขาไชยปราการ มาประมาณ 100 เมตร เท่านั้นเอง โดยสรุป ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวอ่างขาง 2 ครั้ง ใช้เส้นทางขึ้นลงทั้งหมด 4 เส้นทางแล้ว ไม่ซ้ำกันเลย แต่คิดว่าเส้นแม่งอนน่าจะดีที่สุด และคนนิยมใช้มากที่สุด แม้ว่าจะชัน แต่เส้นทางอื่นๆก็ชันเหมือนกัน และเส้นนี้ดีที่ไม่เปลี่ยว มีรถวิ่งตลอด และระยะทางสั้นแค่ 21 กม. จากเส้น 107 ก็ถึงอ่างขางแล้ว ผมเดินทางย้อนกลับไปทางเชียงใหม่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.15 ก็แวะเติมน้ำมันที่ปั้มใน อ.เชียงดาว ครั้งเติมไปถึง 65 บาท เพราะน้ำมันใกล้จะหมดเต็มที จากนั้นก็ไปแวะกินข้าวซอย และก๋วยเตี๋ยวต้มยำในตัวอำเภอ และซื้อหนังสือพิมพ์อีก 1 ฉบับ เพราะไม่ได้รู้ข่าวสารมาหลายวันแล้ว จากนั้นก็เดินทางอีกไม่ถึง 10 กม. ก็ถึงแม่นะ แล้วจึงถามทางขึ้นไปยังป่าเกี๊ยะ แม่ตะมาน จากคนแถวๆนั้น เวลาประมาณ 13.15 ผมก็เดินทางไปตามถนนเส้นที่แยกจากทางหลวงหมายเลข 107 เพื่อเข้าไปยังป่าเกี๊ยะ ในช่วงแรกๆประมาณ 2 กม. ก็เป็นทางลาดยาง แต่ไม่นาน ก็เป็นทางลูกรัง ขึ้นลงเขาตลอด ซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ได้ยากมาก เพราะหลุม และเนินเยอะมาก ดินลูกรังก็เยอะ หลายๆครั้งที่รถลื่นไถลเกือบจะล้ม แต่ก็ดีที่วิ่งช้าๆ ไม่เร็ว และทางไม่ชันมาก จึงพอจะเอาอยู่ เวลาประมาณ 14.30 นับระยะทางเข้ามาก็ประมาณ 17 กม. ผมก็มาถึงด่าน ซึ่งอยู่บนทางแยก เมื่อเลี้ยวขวาจะไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ เด่นหญ้าขัด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินป่า ขึ้นดอยหลวงเชียงดาว และเมื่อตรงไปจะไปยังป่าเกี๊ยะจุดหมายปลายทางของผม จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:30:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ด่าน ได้ความรู้มาว่า การไปยังดอยหลวงเชียงดาว ต้องไปขออนุญาต จากทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์เชียงดาว ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับถ้ำเชียงดาวก่อน เพื่อให้เขาทำหนังสือ สป.7 ให้ จากนั้นก็เอามาให้ที่ด่าน แล้วจึงจะสามารถขึ้นไปที่ดอยหลวงเชียงดาวได้ และการเดินจะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ระยะทางประมาณ 20 กม. โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางก็ได้ เพราะทางเดินค่อนข้างชัดเจน และมีเจ้าหน้าอยู่บริเวณยอดดอยอยู่แล้ว แสดงว่าผมจะไปคนเดียวก็ได้ ซึ่งน่าสนใจดี แต่นึกถึงการแบกของหนักๆบนหลัง แล้วเดินอีก 20 กม. แล้วขอคิดดูอีกทีดีกว่า แต่ถ้าไป 2 คนก็น่าจะใช้ได้ อย่างน้อยพวกอุปกรณ์เต้นท์ และเครื่องนอน ก็ผลัดกันแบกได้ ผมเดินทางต่อไปอีกประมาณ 3 กม. ก็ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดอกกล้วยไม้ ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 บ้านพักของหัวหน้าสถานีฯ อาคารด้านหลังเป็นที่พัก นอนได้ห้องละ 6 คน จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่นี่มีเจ้าหน้าเฝ้าอยู่เพียวสองคนเท่านั้น และในวันนี้ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆเลย ผมขอพักที่นี่ 1 คืน โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า ปกติถ้าพักในห้องพัก จะมี 6 เตียงนอน คืนละ 300 บาท แต่เนื่องจากผมมาคนเดียวจึงลดให้เหลือเพียง 100 บาท และถ้าจะกางเต้นท์ก็ขอเพียง 50 บาทเท่านั้น และจะอาบน้ำอุ่นก็ได้ แต่ต้องต้มน้ำจากเตาในห้องครัวเอาเอง เพราะที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ และห้องพักที่นี่บางห้องจะมีเตาพิงเพื่อให้ความอบอุ่นอีกด้วย ป่าเกี๊ยะ ก็คือ ป่าสน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีอยู่มากมายที่นี่ ที่สถานีวิจัยฯนี้จะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน เพราะอยู่ใกล้กันมาก และเป็นจุดที่สามารถดูพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงามจุดหนึ่ง และในช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวๆเดือน พฤศจิกายน ถ้าสามารถขึ้นมาได้ เพราะถนนทางขึ้นจะแย่มาก อาจจะได้เห็นดอยหลวงเชียงดาวท่ามกลางทะเลหมอก แต่ช่วงนี้โอกาสจะเห็นทะเลหมอกยากมาก เย็นวันนี้ผมไปดูพระอาทิตย์ตก ที่ระเบียงของบ้านพักของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ซึ่งก็ไม่ค่อยจะสวยนัก เพราะตกหลังเขา ทำให้แสงค่อนข้างสว่างมากเกินไป และสัญญาณมือถือ DTAC ที่หน่วยจัดการต้นน้ำจะใช้ไม่ได้เลย แต่ที่สถานีวิจัยฯพอจะใช้ได้บ้าง จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระอาทิตย์ตก ที่ ป่าเกี๊ยะ จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อกลับมาถึงที่พัก หลังจากดูพระอาทิตย์ตก ผมก็ไปต้มน้ำใส่หม้อขนาดใหญ่ เพื่อไปผสมน้ำอาบ จากนั้นพี่เจ้าหน้าที่ก็เอาผัดผักคน้ามาให้กิน แต่ผมกินกล้วยอบน้ำผึ้ง และส้ม เป็นมื้อเย็นไปแล้ว ผมต้องจึงเอาไปคืน ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าทางขึ้นมายังป่าเกี๊ยะ จากทางบ้านแก่งปันเต้า ไม่ดีอย่างที่คิด เพราะทางด้านแม่นะนี้ได้ปรับปรุงจนดีขึ้นมากแล้ว ซึ่งจะสะดวกกว่า และระยะทางยังสั้นกว่าด้วย ไฟฟ้าที่สถานีวิจัยนี้ ใช้วิธีปั่นไฟเอา และจะเปิดปิดตามแต่เจ้าหน้าที่จะกำหนด คืนนี้หยุดปั่นไฟเวลาประมาณ 2 ทุ่ม หลังจากหยุดปั่นไฟ ฟ้าก็มืดสนิท ทำให้ดูดาวได้ชัดเจนมากขึ้น ผมได้นั่งรับลมหนาว และดูหนาวเต็มท้องฟ้า สวยงาม สบายใจดี แต่ก็ทนอยู่ได้ไม่นาน ก็กลับไปนอนในห้องพักดีกว่า เพราะอากาศหนาวเอาเรื่องเหมือนกัน จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 18 ธ.ค. 2546 ผมตื่นนอนเวลาประมาณ 6.00 มานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น แต่มีเมฆอยู่ค่อนข้างมาก กว่าที่พระอาทิตย์จะขึ้นพ้นเมฆ ก็ประมาณ 7.00 ทำให้แสงแรงมาก มุมมองพานอรามา ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น จะเห็นดอยหลวงเชียวดาวอยู่ทางซ้าย จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พระอาทิตย์ขึ้น ... จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดอยหลวงเชียวดาว หน้าบ้านพักหัวหน้าสถานีฯ จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จากนั้นก็ไปขอเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปดูเรือนปลูกกล้วยไม้ และไปนั่งดูวิวที่ระเบียงหน้าบ้านหัวหน้าสถานีวิจัยฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.30 ก็มีน้องๆจาก มช. ขึ้นมาที่นี่ ผมจึงเก็บของ และเดินทางลงจากป่าเกี๊ยะ กล้วยไม้ในเรือนปลูกกล้วยไม้ #1 จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กล้วยไม้ในเรือนปลูกกล้วยไม้ #2 จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กล้วยไม้ในเรือนปลูกกล้วยไม้ #3 จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กล้วยไม้ในเรือนปลูกกล้วยไม้ #4 จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กล้วยไม้ในเรือนปลูกกล้วยไม้ #5 จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ในขากลับนี้ผมใช้เวลาเพียง 1 ชม. เท่านั้นก็ลงมาถึง ทางหลวงหมายเลข 107 อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยเส้นทางมากขึ้น และเป็นทางลงเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าจะให้ขีรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปอีก ต้องขอคิดดูก่อน เพราะเหนื่อยเอาเรื่อง และโอกาสที่จะเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาว ท่ามกลางทะเลหมอกก็ยากมาก ผมขี่มอเตอร์ไซค์มาอีกประมาณ 30 กม. ก็มาถึงแยกแม่มาลัย ซึ่งเป็นทางแยกที่จะเดินไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้แวะกินมื้อเที่ยงที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวกรุงเก่า" ซึ่งอยู่เลยจากแยกแม่มาลัยไปทางเส้น 1095 ประมาณ 1 กม. อยู่ทางซ้ายติดถนนใหญ่ และใกล้กับสะพานข้ามคลองชลประทานแม่แตง ผมกินก๋วยเตี๋ยวไป 2 ชาม เพราะอาหารอร่อย และเจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี ช่วยแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ และยังจะช่วยหาที่พักให้ที่หมู่บ้านชาวเขา ที่ห้วยน้ำดัง เพราะมีลูกน้องอยู่ที่หมู่บ้านที่นั้น แต่ผมขอกางเต้นท์นอน ที่จุดกางเต้นท์จะสะดวกกว่ามาก และเขายังแนะนำให้ขากลับ แวะอาบน้ำแร่อุ่นๆสบายๆที่โป่งเดือด ซึ่งความคิดดีใช้ได้ เพราะบนห้วยน้ำดังอากาศหนาวมาก คงจะไม่ได้อาบน้ำแน่ๆ ขาลงถ้ามีเวลา แวะอาบน้ำแร่ก็สบายดี แต่ต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ย้อนไปกลับ ระยะทางรวมประมาณ 12 กม. หลังจากกินมื้อเที่ยง ผมก็ย้อนกลับมาเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพราะการเดินทางไปกลับห้วยน้ำดัง ระยะทางประมาณ 150 กม. จะไม่มีปั๊มน้ำมันมากนัก เติมให้เต็มถังเอาไว้ สบายใจกว่า จากนั้นผมก็เดินทางจนถึงเวลาประมาณ 14.45 กับระยะทาง 62 กม. ผมก็มาถึงทางขึ้นไปยังห้วยน้ำดัง เสียเงินค่าเข้าอุทยานไปอีก 20 บาท จากนั้นก็เดินทางอีกประมาณ 6 กม. ขึ้นไปยังจุดการเต้นท์ เสียค่ากางเต้นท์อีก 30 บาท ผมกางเต้นท์ที่จุดกางเต้นท์สนดอยเหมือนเดิม และบนตำแหน่งเดิมอีกด้วย และครั้งนี้ และมีคนกางเต้นท์ที่นี่อยู่ 3 กลุ่ม ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว ที่มีผมกางเต้นท์อยู่คนเดียวเท่านั้นเอง หลังจากเดินสำรวจบริเวณต่างๆ ก็พบวว่า จุดกางเต้นท์ใหม่ จุดที่ 5 ชื่อว่า "กิ่วลม" ได้เสร็จเรียบร้อยดีแล้ว และอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และร้านค้าสวัสดิการก็เสร็จแล้ว แต่อาคารที่บริเวณจุดชมวิว สันกิ่วลมยังไม่เสร็จดี แต่ก็เกือบเสร็จแล้ว จุดการเต้นท์ ที่ผมชอบ ... จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ติดตามตอนต่อไป ... ตอนที่ 5 ตอนจบครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E2610082/E2610082.html จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 00:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต้องขอโทษที่แนะนำทางขึ้นป่าเกี๊ยะในเส้นแก่งปันเต้านะครับ นี้วันที่ 10-11 ผมกะจะไปกางเต้นท์นอนเหมือนกันแต่คงไม่ได้ไปแล้วครับเพราะไม่มีเต้นท์แล้ว จากคุณ : พวงแสด... - [ 5 ม.ค. 47 09:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมก็อาจจะได้ข้อมูลมาไม่ถูกก็ได้ครับ เพราะผมก็เคยอ่านจาก อสท. ที่คุณนพดล ไปป่าเกี๊ยะ แล้วบอกว่าทางบ้านแก่งปันเต้า เส้นทางดีกว่าทางแม่นะมาเหมือนกัน ซึ่งก็ 2 ปี มาแล้ว ถ้าผมได้ไปทาง แก่งปันเต้า ก็อาจจะบอกได้ชัดเจนกว่า แต่ผมกลัวจะหลงทาง จึงไม่ได้ทดลองไปดู เอาไว้ครั้งหน้า ถ้าคุณพวงแสนว่าง ไปกับผมดูไหมละครับ ถ้ามีเพื่อนไปลุยๆกัน ผมก็ไม่กลัว แน่นอนครับ คงกล้าไปลุยเส้นทางอื่นๆอีกมาก ตอนนี้ ทางไหนไม่ค่อยแน่ใจ ถามแล้วได้ข้อมูล ไม่แน่นอน ก็ยังกลัวๆ ไม่กล้าไปเหมือนกันครับ จากคุณ : นิสิต - [ 5 ม.ค. 47 22:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เส้นทางสายแก่งปันเต๊าผมเคยขึ้นไปถึงศูนย์ฝึกอบรมอะไระนะจำไม่ได้แถวชาระิมิงค์ เส้นทางนี้เป็นคอนกรีตตลอดครับ ต่อจากนั้นไม่รู้ จากคุณ : มูเซอดำ - [ 13 ม.ค. 47 03:31:38 A:203.113.51.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 10 เม.ย. 49 17:53:48 ]