ความคิดเห็นที่ 1 28. ที่ ปาล์มเกสต์เฮ้าส์ ซึ่งหลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว เจ้าของที่พักก็มาพอดีทันคุยกับพี่ชายกลายเป็นคนรู้จักกันกับพี่ชาย ก็เลยฝากฝังให้ช่วยดูและเรา ถามไถ่ไปมาเราก็เลยถูกคุณลุงเจ้าของที่นี่ ซึ่งเป็นครู ดุเล็กน้อยค่ะว่า ทำไมกล้าหาญกันอย่างนี้เป็นสาวเป็นนาง แหะๆ เราก็ได้แต่ยิ้มกันไปมา เคลียร์ข้าวของเข้าที่พัก ที่นี่ห้องพักยังใหม่ๆอยู่เลยค่ะ ค่าที่พัก ๓๕๐ บาท มีพัดลม และพัดลมระบายอากาศ และมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย ที่ระเบียงเป็นเหมือน ลานเอนกประสงค์ให้ยั่งเล่นอ่านหนังสือ มีชากาแฟ น้ำร้อนบริการฟรี แต่เพื่อนร่วมสถาบันคืนนี้มีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งนั้นค่ะ หนึ่งสาวรำพึงขึ้นมาว่า เสียอย่างเดียวไม่มีแอร์อ่ะ เลยโดนรุมซะ จะมีไว้ทำสวรรค์อะไรยะ ภาพนี้ ถ่ายหน้าห้องพักวันเดินทางกลับค่ะ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 29. เมืองแม่ฮ่องสอนเล็กจริงๆค่ะ เดินแป๊บเดียวก็ทั่วเมืองแล้ว บรรยากาศก็สงบมากๆ รู้สึกหลงรักความเรียบง่ายของที่นี่ซะแล้วสิ มุมมองจากฝั่งวัดจองคำ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 30. คุณลุงเจ้าของที่พักแนะนำให้ทานข้าวที่ร้านป้าติ๋ม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นร้านใหญ่ พอสมควรของที่นี่ อยู่ตรงแยกไปรษณีย์ เห็นชัดค่ะ อาหารรสชาติดีค่ะ ไม่แพงด้วย รู้สึกคนที่นี่จะมาทานกันเยอะ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 31. ถนนสายเล็กๆที่นี้ ตอนกลางคืนจะมีของขายตลอดค่ะ เป็นร้านงานฝีมือเล็กๆน้อยของชาวเขาบ้าง ชาวเราบ้าง มี กาดเล็กๆ ปูเสื่อตั้งโต๊ะญี่ปุ่น สี่ห้าโต๊ะ ให้นั่งจิบชากาแฟ ขนมครก(อร่อยค่ะ) ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน เพียงสามทุ่ม ทั้งเมืองก็เงียบ จะว่าไปก็เงียบอยู่แล้วล่ะค่ะ ประมาณว่า เสียงหัวเราะของพวกเรา อาจจะถือเป็นมลภาวะของที่นี่ก็เป็นได้ เราก็เลยเดินกลับที่พัก พร้อมแวะซื้อโน่นซื้อนี่ไปเรื่อยๆ อากาศที่นี่ไม่หนาวมากเหมือนที่ปาย กำลังสบายค่ะ หลับปุ๋ยตั้งแต่ เที่ยงคืน พอดีแบตเตอรี่กล้องหมดน่ะค่ะ คืนนี้ก็เลยไม่มีภาพ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 32. ตื่นเช้ามาก็ไปที่กาดหลวง (?) เดินไปสิบนาทีก็ถึงค่ะ มาแม่ฮ่องสอน ก็ต้องทานโจ๊กเสวย วันนั้นพวกเราโชคดีมากค่ะ .ร้านปิดหนึ่งวัน เลยได้โอกาสลิ้มรสกาแฟ ปาท่องโก๋ หมูเส้น ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยวผัด ร้านอื่นๆในตลาด อร่อยเสียจน ไม่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทานโจ๊กเสวยเลยค่ะ รูปไม่มีค่ะ เพราะยังไม่ได้ซื้อถ่านมาใส่กล้อง ดูรูปวัดจองคำอีกครั้งละกัน จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 33. ออกจากตลาด เราก็ขึ้นไปนมัสการ พระธาตุดอยกองมู ขาขึ้นลำบากมาก เพราะไปขึ้นทางที่ให้รถขึ้นมันจึงวนเวียนและไกลมาก ในรูปนี้เป็นทางขึ้นของรถค่ะ ขึ้นไปจนเกือบถึงตรงพระธาตุแล้ว เพิ่งจะเอะใจว่า ทำไมไม่มีใครเดินมาเลย เจอแต่รถขับผ่าน จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 34. นี่เป็นอีกวัดหนึ่ง ที่อยู่ตรงเชิงทางขึ้นน่ะค่ะ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 00:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 35. พระธาตุดอยกองมู กองมู แปลว่า ภูเขาที่มีพระธาตุสถิตย์อยู่ (ผิดถูกอย่างไร ผู้ใดรู้แก้ไขให้ได้ค่ะ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 36. มีดอกไม้ธูปเทียน จัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ที่มีจิตศรัท่ธา (ที่ไม่เตรียมอะไรมาเลยอย่างพวกเรา) ได้บูชาพระธาตุ ก็ทำบุญบริจาคเข้าวัดตามกำลังค่ะ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 37. ทำทักษิณาวนรอบพระธาตุสามรอบ จากนั้นก็เอาเครื่องบูชาไปถวายพระประจำวันเกิด จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 38. จากที่นี่วันที่ฟ้าเปิดจะมองเห็นตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สนามบิน เรือนจำได้อย่างแจ่มแจ้ง จากรูปจะเห็นรางๆ เพราะวันนั้นหมอกลงเยอะทีเดียวค่ะ เวลานี่ก็เก้าโมงกว่าแล้วค่ะ ยังเห็นพระอาทิตย์ แสงนวลตาราวกับพระจันทร์อยู่เลย จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 39. ด้วยดวงตาที่เห็นธรรมหลังจากนมัสการพระธาตุ ทางลงง่ายๆใกล้ๆ สะดวก อยู่ตรงนี้เองทำไมตอนมาไม่เห็น ลงจากพระธาตุกองมู ก็จัดสัมภาระ ออกจากที่พักอำลาเมืองแม่ฮ่องสอน ก่อนกลับโทรไปขอบคุณพี่ชายที่ใจดี และทราบข่าวร้ายว่า รถที่จะไปเชียงใหม่ให้ทันตามกำหนดน่ะต้องออกไปแต่เช้า ซึ่งไม่เป็นปัญหา เราจะโบกรถกลับอีกครั้ง ความตั้งใจเดิมคือจะ วนไปทางขุนยวม แม่สะเรียง ชมบ้านกะเหรี่ยงคอยาว แต่เจ๊ใหญ่ประจำกลุ่มต้องรีบกลับเพื่อไปเที่ยวต่อ ในเมื่อขาดจอมโปรเจค ทุกคนก็เลยตัดสินใจกลับ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 40. เดินออกมาโบกรถนอกตัวเมือง ตรงถนนใหญ่ที่ออกจากเมืองแม่ฮ่องสอน ไกลพอดูค่ะ ทราบว่าถ้าจะไปเชียงใหม่ ส่วนใหญ่คนที่นี่จะออกกันก่อนเที่ยง ช่วงหลังเที่ยงไปแล้วจะไม่ค่อยมีรถ แต่เราก็ยังยืนยันตั้งใจที่จะโบก เพราะรถโดยสารจะช้ากว่ารถส่วนตัวถึงเท่าตัวหรืออาจจะสองเท่าตัว โบกระยะไกลไม่ได้ ก็โบกไปเป็นช่วงๆ ยังไงก็น่าจะเร็วกว่า ผ่นานไปเกือบชั่วโมง รถผ่านไปเกือบสิบคัน ยังโบกไม่ได้ คงเพราะหลายปัจจัย คือเราเองพยายามจะเลือกที่เป็นรถท้องถิ่น ป้ายทะเบียน แม่ฮ๋องสอน หรือเชียงใหม่ เพราะจะได้มั่นใจในฝีมือและความชำนาญของเจ้าของพื้นที่ รถที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติสองคัน รีรอเหมือนจะรับ แต่เราไม่มั่นใจค่ะ และแล้ว ฟ้าก็ส่งรถคันหนึ่งมาให้เรา เป็นรถกะบะค่อนข้างเก่า สีเหมือนรถของทหาร และก็จริงๆ เป็นรถของโครงการในพระราชดำริ นายทหารที่ขับมาเป็นผู้ใหญ่ บอกว่าจะไปแค่ตรงโครงการพระราชดำริ ซึ่งอยู่ก่อนถึงปางมะผ้า ให้เราไปลงตรงนั้น แล้วจะให้นายตำรวจที่นั่นโบกต่อให้ พวกเรายกมือไหว้ขอบคุณในความกุณา แล้วกระโดดขึ้นหลังรถโดยไม่เกี่ยงงอน จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 41. ถึงป้อมตำรวจ พี่ชายนายทหาร ก็จอดส่งพวกเรา และแวะเข้าไปฝากฝังให้นายตำรวจประจำป้อม ให้ช่วยจัดการหารถต่อไปให้พวกเราด้วย รู้สึกซึ้งในน้ำใจเป็นอย่างมากค่ะ หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของรถคันที่สามที่เราได้อาศัยในทริปนี้ ก็ปรากฎโฉมออกมา โดยคนขับและคนนั่งข้างๆเป็นสุภาพสตรีทั้งคู่ ท่าทางเธองงๆที่ถูกตำรวจเรียก แต่พอนายตำรวจเอ่ยปาก เธอก็ยินดีให้พวกเราร่วมทาง จุดต่อที่เราไปได้ ก็คือ ตรงจุดชมวิวกิ่วลม เนื่องจากพี่สาวทั้งสองจะไปธุระตรงที่ไม่ไกลจากนี่นัก และจุดนี้จะสะดวกที่สุดในการโบกรถต่อ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 42. คุณตำรวจที่จุดนี้ก็ใจดี  เห็นท่าทางพวกเราก็มาถามไถ่ และบอกให้พักไปก่อน เดี๋ยวจะช่วยหารถไปให้   เราก็ว่านอนสอนง่ายค่ะ เดินถ่ายรูปเล่นกํนแถวๆนี้   ผ่านไปครึ่งชั่วโมงยังไม่ได้รถ ชักใจไม่ดี นี่ก็บ่ายสามแล้ว   จะทันไหมเนี่ย   และแล้วราชรถคันสุดท้ายของทริปนี้ก็ปรากฎโฉม โตโยต้าไฮลักซ์ ไทเกอร์ สีขาวใหม่เอี่ยมเห็นแต่ไกล ขับมาด้วยความเร็วสูง  ตอนแรกไม่แน่ใจค่ะว่าจะหยุดหรือเปล่า     รถคันนี้ขับเลยเราไปแล้วถึงถอยหลังมา     ตำรวจประจำป้อม ซึ่งกำลังสอบปากคำคนชาวพม่า ที่มากับรถโดยสาร รีบวิ่งมาเข้าไปคุยให้ทันที   ทุกอย่างก็เรียบร้อยค่ะ รถคันนี้ตรงเข้าเชียงใหม่ ซึ่งอาจทำให้ถึงก่อนกำหนดที่เราวางไว้ด้วยซ้ำ   เพราะพี่คนขับเหยียบแบบไม่สนใจทางจะโค้งจะหักศอก จะขึ้นเขา จะลงเนิน   พวกเราทั้งสี่ เริ่มใจไม่ดี  เอาล่ะสิ  ชีวิตนี้ ไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรเท่านี้เลย เจ๊ใหญ่อย่างฉันก็ใจไม่ดีค่ะ ฉันพาน้องๆมาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่หรือเปล่านี่   เสียงเบรค ดังเป็นระยะๆหลายๆครั้งที่เรากลิ้งกันไปมาหลังรถ   พยายามทำใจดีสู้เสือ  ฝีมือคนขับไม่เลวค่ะ แต่คงเพราะไม่ใช่คนพื้นที่ทำให้ต้องมีการเบรคอย่างกระชั้นหลายครั้ง จนเราแทบถอดใจจะขอลงกลางทาง  แต่ไม่มีใครกล้าปล่อยมือจากที่จับรถไว้ ปลอบใจตัวเองว่า เอาน่า.... คนขับเองก็รักตัวกลัวตายเหมือนกัน ยังไงเขาก็ต้องระวังเต็มที่ล่ะน่า อีกอย่างฟ้าก็เริมจะมืดแล้ว เกิดไม่มีรถคันต่อไปให้โบกจะทำยังไง รูปสุดท้ายที่ถ่ายในการเดินทางครั้งนี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 47 01:42:17 จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 01:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาติดๆ ....โบกรถจากแม่ฮ่องสอนออกมาค่อนข้างยากค่ะ ล่าสุดเจ้าแก้วฯไปยืนโบกรถ น่าจะจุดเดียวกับที่คุณสาวยิปซีโบก รอนานมาก เผอิญรถประจำทางมาเลยยอมฉีกสัตยาบันนักโบกกระโดดขึ้นรถประจำทางไปลงที่ถ้ำปลา ( 5 บาท) เข้าไปเที่ยวก่อน แล้วค่อยมายืนโบกรถหน้าถ้ำปลาลงมาปาย (ไปเที่ยวมากี่ครั้งๆก็วนเวียนแค่นี้แหละแม่ฮ่องสอน-ปาย) ทีนี่แหละรอนานสุดๆ กว่าจะมาถึงปายได้...เปลี่ยนรถโบกไป 2 คัน แต่สนุกค่ะ.... จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย - [ 7 ม.ค. 47 14:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่อยากบอกเลยว่า เขินๆน่ะค่ะ ภาพเจ้าแก้วฯที่ถ่ายรูปกับรถแดง เชียงใหม่ ปาย นั่นล่ะคือแรงบันดาลใจในการเดนทางทริปนี้ของข้าพเจ้าเลยค่ะ จากคุณ : สาวยิปซี - [ 7 ม.ค. 47 23:34:55 ]