CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    สีชัง หรือจะชังเหมือนชื่อจริง ๆ ซะแล้วนะ

    เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริง  ที่ไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงใคร  แต่อยากบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ที่รักการท่องเที่ยวได้รู้และเตรียมตัวเมื่อจะไปเที่ยวที่เกาะสีชัง  เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับความไม่ประทับใจเหมือนกับที่เราได้เจอมาแล้วนะคะ
    ……………………………………………………………………………………………………………………….
              เริ่มเรื่องมาจากแม่เรา  ไปอ่านเรื่องของเกาะสีชังมาจากหนังสือท่องเที่ยว  มีการนำเที่ยวรอบเกาะ  โดยขี่จักรยานเที่ยว  แม่เรารู้สึกประทับใจมาก  และอยากไปให้เห็นซักครั้งหนึ่งในชีวิต
              และหลังจากเฝ้ารอมานาน   และพูดกรอกหูลูก ๆ อยู่ทุกวัน  ในที่สุดวันหยุดของครอบครัวเราก็มาถึง  เราจองที่พักเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดเข้าพรรษาพอดี  ก็เลยจองได้ 1 คืนที่  หาด………..บีชรีสอร์ท
               เรา 6 ชีวิต  2 ครอบครัว  เดินทางมาถึงท่าเรือเกาะสีชังตอนบ่ายโมงครึ่ง   คนขายตั๋วเรือของบริษัท………พาเลซ ก็บอกว่าให้ลงเรือเลย   เรือจะออกแล้ว  เราก็ลงไปรอ  ปรากฎว่าเรือว่างมาก  ก็นั่งรอจนบ่ายสอง  คนก็เต็มจนยืนเบียดกันแล้ว  แต่เค้าก็ยังทยอยให้คนลงมาเรื่อย ๆ ในที่สุด   เมื่อจะกลายเป็นปลากระป๋องราดพริกอยู่แล้วเชียว   ก็มีคนบอกตะโกนบอกให้แบ่งคนไปเรือลำที่จอดข้าง ๆ  ก็เลยทำให้บรรยากาศในเรือดีขึ้น  แต่เค้าก็ยังไม่ออก  เพราะเรือที่เรานั่งเป็นลำที่จอดอยู่ข้างใน   เค้ารอให้ลำข้างนอกเต็มก่อน  จนลำข้างนอกออกไปแล้ว  เรือเราถึงได้ออก   แง่งงงงงงงงงงง  อยากกัดหัวคน  ทำไมไม่บอกฟะ  ว่าเรือลำนอกจะออกก่อน  ให้เรามานั่งรอลำในอยู่ได้  คนมาทีหลังได้ไปก่อนแล้ว   เฮ้อ ช่างมันๆๆๆๆๆๆๆๆ   มาเที่ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่องไว้
               เมื่อมาถึงเกาะ  ก็ทำใจไว้กว่าครึ่งแล้วนะคะ  ว่ามาช่วงเทศกาล  มันคงไม่เงียบสงบนัก  มาถึงท่าล่าง  ที่เกาะสีชัง   ทางรีสอร์ทโทรมาถามว่าถึงหรือยัง    มีรถมารับให้สังเกตรถหลังคาสีขาว  คนขับเสื้อเหลืองอะไรประมาณนี้   อืม รู้สึกดีนะ  เค้าบริการดีจัง  มีรถมารับที่ท่าเรือด้วย     แต่เจ้ากรรมจรี๊งงงงงงงงงง  รถก็ไปรับเราที่ท่าบนซะนี่   แต่คนขับรถก็ดีมากเลยชวนคุยตลอดทาง  น่ารักอัธยาศัยดีมาก  ขอตบมือให้ 2 แปะนะคะ
                มาถึงหาดที่เราพัก  โอ้โห  เรามาผิดที่หรือเปล่าฟะเนี่ย   ก็หันไปถามคนขับรถ  พี่ๆ ที่พักมันอยู่ตรงนี้แน่เหรอคะ   เค้าก็บอกตรงเข้าไปเลยน้อง  ติดต่อกับป้าข้างหน้าเลย………   บรรยากาศที่เห็นข้างหน้าเนี่ย  มันสลัมหรือเปล่าฟะ  ชักอยากหันหลังกลับ  แต่เอาวะ  ใจดีสู้เสือ  ตังค์ก็โอนมาหมดแล้ว  ไม่พักก็เสียดายตังค์  คงไม่เลวร้ายนักหรอกนะ  คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน
                 แต่พอเค้าพาเรามาที่ห้องนะ  ต้องเดินผ่านห้องนู้น  ออกห้องนี้ จนกระทั่งมาถึง  ก็แหม  รีสอร์ทนี้  เค้าออกแบบดีมาก  ใช้พื้นที่ประหยัดสุด ๆ สร้างอยู่บนไหล่เขา  แต่มีห้องเยอะมาก   เหมือนแฟลตยังไงยังงั้นเลยอ่ะ  ห้องก็เหมือนยังสร้างไม่เสร็จดี  พอเปิดเข้าไปแทบจะเป็นลม   ออกแบบมาได้ไงฟะเนี่ย  มีรูติดต่อสื่อสารกับห้องใกล้เรือนเคียงซะด้วย   ฝาห้องก็ฉาบปูนหยาบ ๆ แถมยังมีคานอะไรไม่รู้ยื่นออกมาเกะกะทำให้ห้องดูเล็กลงอีกนะ  เพดานก็ค่อนข้างต่ำ  ราคา 700  นึกว่าชั้นได้ของถูกที่ไหนได้  ห้องพัดลมนี่นา  เฮ้อออ  ได้แต่ทำใจ  แต่พนักงานที่พามาเค้าก็นิสัยดีนะ  พูดคุยเก่งดี  เป็นกันเอง  ขอตบมือให้อีก 3 แปะค่ะ
                  เก็บของเข้าห้องดีกว่า    ว้ายยยยยย  ตาเถร  แมลงสาบ ๆๆๆๆๆๆๆ  หลายตัวมาก  ทั้งตายแล้ว  และทั้งเกือบตาย  และทั้งยังวิ่งได้  อยากจะกรี๊ดสลบ  ชั้นต้องนอนกันแมลงสาบจริง ๆ เหรอเนี่ย  มิน่า  กลิ่นในห้องมันถึงได้เหม็นสาบมาก  (เกี่ยวกันมั๊ยไม่รู้)   ไปดีกว่า  อยู่ในห้องก็หายใจไม่ออก  ไปขี่จักรยานเล่นตามที่หนังสือเค้าบอกดีกว่า
                   ออกมาข้างหน้ารีสอร์ท  รถเนี่ยต้องติดต่อกับคุณป้าเจ้าของอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ  ไม่งั้นคุณก็ต้องเดินกลับไปที่ตลาดเอง  เพื่อติดต่อรถ (ง่ะ)  ป้าแกก็แนะนำอย่างดี  ขี่จักรยานไม่ไหวหรอก  อันตราย  ทางก็ชันต้องจูงนะ  เหนื่อยด้วย  แม่เราก็ชักใจเสีย  ก็แน่ล่ะ  ป้าแกจะเชียร์จักรยานทำไม  ก็น้องชายแกทำกิจการอยู่
    อีกรีสอร์ทนึง  ที่มีรถสองแถว  กับมอเตอร์ไซค์ให้เช่าด้วยนี่  กิจการในครัวเรือนอย่างนี้จะให้รั่วไหลได้ไง  สุดท้ายแกก็เกลี้ยกล่อมให้แม่เราเช่ารถสองแถว  ของรีสอร์ท……….(ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง)  ซึ่งเป็นของน้องชายแก  
                    รถที่ว่านี้  เราตกลงกันว่า  ไปรอบเกาะ  พาเที่ยว 5 จุด  คนละ 50 บาท  เราไป 6 คน  ก็ 300 บาท  ด้วยความที่เราอยากไปแบบส่วนตัว  ก็เลยอยากเช่ามอเตอร์ไซค์  ยายป้า เค้าก็บอกว่า  เช่าทำไม  เช่ารถนี่ก็เหมือนกัน  อยากแวะไหน  อยากไปทางไหน  อยากดูอะไร  ก็ไปได้  บอกคนขับเลย  แวะนานแค่ไหนก็ได้  เราก็ถามอย่างละเอียดเลยนะ  เพราะใจเราอยากจะแวะไปดูที่พักที่อื่นไว้ด้วย  เผื่อคราวหน้ามา  จะได้ที่พักที่ดีกว่านี้  ป้าเค้าก็ตกลงทุกอย่าง  แล้วยังบอกอีกนะ  ถ้าไม่เป็นไปตามตกลง  ไม่ต้องจ่ายตังค์  แล้วก็บอกให้เราเช็คกับทางคนขับอีกที่ก่อนไปก็ได้  เค้าจะโทรเรียกมาให้   (ก็คือที่เราต้องถาม  เพราะเราค่อนข้างจะแน่ใจ  ว่าการเหมาอย่างนี้  มันไม่ค่อย  ได้ไปที่ไหนมากนัก  เพราะคนขับ  ก็จะบอกเราว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ  ไม่ต้องไป  หรือถ้าจะไป ก็ต้องเพิ่มตังค์ไง  เราก็เลย  อยากไปมอเตอร์ไซค์มากกว่า  แต่ป้าแกก็เชียร์รถมากกกก)
                        พอรถมา  เราก็ถามรถจนแน่ใจ  เค้าบอกว่านอกจาก 5 ที่แล้ว  คุณจะไปไหนบอกเลย  ผมจะพาไป  นานแค่ไหนก็ได้  แต่ถ้าจุดไหนจะอยู่นานมาก  เค้าจะให้เรานัดเวลาแล้วเค้าขอไปรับลูกค้าอื่นก่อน  จะได้ไม่เสียรายได้มากเกินไป  แม่เราไม่อยากรอรถนาน ๆ ก็เลยบอกเค้าว่าให้รอเลย  เที่ยวที่ละไม่นานหรอก  15 นาที  เค้าก็เลยตกลงรอ   ที่แรกที่ไป  ก็คือ พระจุฑาราชฐาน (ถ้าผิดขออภัยนะคะ)  ก็แม่เราก็เดิน ๆ ถ่ายรูป  ไม่ได้ขึ้นไปบนเข้า  15 นาที  ก็ออกไป  ไปที่ต่อไป  ศิลาจารึก  ก็ไปยืนดู ๆ ใครเคยไปก็คงจะรู้ว่าใช้เวลาจุดนี้ไม่นานเท่าไร   จุดที่ 3  เราก็ไปที่จุดชมวิวช่องเขาขาด   ก็รถเค้าก็รถ  พวกเราก็ถ่าย ๆ รูป  แล้วก็ไปต่อ  ระหว่างทาง  เรามองเห็นพระใหญ่สีเหลืองบนเขา  เราก็ถามว่าพระใหญ่ ๆ คืออะไร  คนขับก็บอก  ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่  กำลังจะพาไปนี่ไง  เราก็เลยเฉย ๆ แต่พอไปถึง  มันคือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่  ที่อยู่ที่ท่าล่าง  มันคนละอันกับวัดที่เราเห็นบนเขานี่นา  แต่คนขับก็ไม่อยู่ให้ถาม  เค้าบอกให้เราขึ้นไปเลย  พอเสร็จแล้วให้โทรเรียกเค้า  เค้าจะไปอยู่ที่ท่าล่าง  พวกเราก็ไป
                    แต่พอกลับมา   โทรเรียกรถ  ประมาณครึ่ง ชม.ได้  รถถึงมา  ชักเริ่มไม่พอใจแล้วนะคะ  ก็ให้เรามารถเสียเวลา  มันก็เย็นมากแล้ว  กลัวเล่นน้ำไม่ทัน   ก็บอกเค้าว่าขอแวะตลาดหาของกินด้วยละกัน    เค้าก็พาไปแวะ  แล้วก็บอก  รีสอร์ท……….ของเค้าอยู่ใกล้ ๆ นี้  ถ้ายังเดินเสร็จแล้ว  ก็เดินไปหาเค้าที่รีสอร์ทเลยละกัน  เค้าก็ไป  พวกเราก็เลย   หากินขนม  ของกินเล่น  ซักพัก  ก็เลยจะกลับ  โดยคิดไว้ว่าจะแวะที่ที่น่าสนใจ  ตามทางที่เรากลับรีสอร์ทด้วย     พอเดินไปถึงรีสอร์ท…………. ก็มีผู้หญิงออกมาถาม  ว่าพวกเรามาทำไม  พ่อเราก็บอกมาหารถ  เค้าก็ถามนัดไว้เหรอ  แม่เราก็เลยบอก  เช่ามาแล้ว  เค้าไปปล่อยไว้ที่ตลาดแล้วให้เดินมาหาเค้าที่นี่  จะกลับแล้ว   เค้าก็มาถามว่า  คนขับชื่ออะไร  พวกเราก็ อึ้ง  ใครจะไปรู้วะ  มันก็ทำหน้าไม่พอใจ  ที่พวกเรา 6 คนไปยืนเกะกะอยู่หน้ารีสอร์ท  ก็มาบอกพ่อเรา  คุณคอยอยู่ตรงนี้แหละ  พูดจาแย่มาก   แล้วพ่อเราก็โทรหาตาลุงคนขับ  มันก็บอกให้เราบอกคนที่รีสอร์ทเลย  เดี๋ยวเค้าจะเอารถไปส่ง   สุดท้าย  เค้าก็ให้เรานั่งรถสองแถวอีกคันกลับ โดยสั่งว่าให้ตรงกลับรีสอร์ทเลย  เราจะแวะคนขับก็ไม่แวะให้  แถมยัง  เอาผู้โดยสาร  ฝากมาด้วยอีกสองคน  ยิ่งทำให้เราไปไหนไม่ได้  สุดท้าย  เราก็มาถึงรีสอร์ท สวรรค์ของเรา   ปรากฏว่าตาลุงคนขับของเรา  มานั่งกินเบียร์สบายใจอยู่แล้ว  ดีนะ  กินเบียร์ไม่ชวนกันเลยนะลุงนะ
                   พ่อเราก็เลยไปคุยกับลุงบอก  ลุงทำไมไม่รอพวกเรา   ยังงี้ก็ไม่ทำตามสัญญาสิ  ลุงก็อ้าวคุณทำไมพูดอย่างนี้  ก็ 5 ที่  ผมก็พาไปแล้วนี่ คุณจะเอาอะไรอีก  ผมยังไม่เมานะ  ผมรู้เรื่องนะ คุณจะมารุกผมอย่างนี้ไม่ได้นะ  พ่อเราก็เลยไม่พูดด้วย  เลยไปคุยกับป้าเจ้าของรีสอร์ทแทน  ป้าแกก็ คุณไปครบ 5 ที่แล้วนี่คะ  เค้าก็พาไปตามเงื่อนไขแล้ว  เราก็เลยบอกว่า  หนูถามคุณป้าก่อนไปแล้ว  ว่าไปที่อื่นได้มั๊ย  นานเท่าไรก็ได้ใช่มั๊ย  ป้าก็บอกได้  แต่นี่เค้า  เอาไปทิ้งไว้  เปลี่ยนรถ  ทำให้พวกหนูแวะที่อื่นไม่ได้  แถมยังเอา กรุ๊ปอื่นมาแจมด้วยอีก   แกก็ชัก งง ๆ   ก็เลยถามว่าเราจะไปเที่ยวไหนอีก  จะได้พาไป  เราก็เลยบอก  ไม่ไปแล้ว  6 โมงกว่าแล้ว  ไปก็ค่ำแล้ว  อยากจะเล่นน้ำ  นี่ก็เสียเวลารอรถอยู่ตั้งเกือบ ชม. นึงแล้ว  สุดท้าย  พ่อเราก็เลยบอกว่าจะจ่ายแค่คนละ 30 บาท เท่ากับราคาค่ารถไปกลับ  ท่าเรือ  กับ รีสอร์ท  แกก็อึ้งไปพักนึง  สุดท้าย  ก็ยอม  หลังจากเถียงกันมานาน  ก็ยังดีนะ  ว่าแกยอมจำนน กับเหตุผล น่ะ    แต่ลุงคนขับนี่สิ  ไม่ยอม  แกก็ไปโวยวายกับแม่เรา  ผมเจอลูกค้าอย่างนี้ผมก็แย่สิ   ผมมีรถแค่สองคัน  ผมก็ต้องไปรับคนอื่นด้วย  
                    ก็เข้าใจแหละนะ  ว่าลุงมีรถแค่นี้  แต่ลุง  ก็ไม่น่ารับงานซ้อนกัน  ทำให้ลูกค้าเค้ารอขนาดนี้สิ   สุดท้าย   พวกเราก็จ่ายตังค์ไป 180  จากตอนแรกที่ตกลงไว้  300  ถามว่ามันคุ้มมั๊ย  ก็คุ้มนะในเรื่องของเงิน  แต่ความรู้สึกเนี่ย  เรียกคืนไม่ได้เลย  แม่เราก่อนมาชอบสีชังมากกกกกกกกกกกก   แต่พอเจอแบบนี้  แม่เราบอกไม่มาอีกแล้ว  จริง ๆ ที่สีชังมีที่ ๆ น่าสนใจเยอะแยะมากมาย  ถ้าขี่จักรยานเล่น ๆ มันก็จะได้เจออะไรสวย ๆ อีกเยอะ  แต่ด้วยความเห็นแก่ตัว   ของเจ้าของกิจการ  ทำให้เค้าพยายามพูดเพื่อให้เข้าผลประโยชน์ของเค้ามากที่สุด  ทำให้นักท่องเที่ยว  ที่ไม่เคยมา  โดนหลอก
                        ก็อยากบอกให้ทุกคน  ระวังไว้เฉย  ๆ  เวลาเช่ารถ  ตกลงกันให้ดี   เช็คให้แน่ใจ  ว่าเค้าให้อะไรเราบ้าง  อย่างเราเอง  เช็คแล้ว  เช็คอีก  ยังเป็นแบบนี้  ก็ยังดี  ว่าได้ตังค์คืนบ้าง  ไม่งั้นโกรธกว่านี้แน่  
                   คืนนั้นของพวกเราบน  สีชัง จบอย่างไม่ประทับใจ  มีคณะนึง  พักอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งอยู่บนชั้นของเรา   คุยและเล่นกันทั้งคืน  เสียงดังมาก  ขอบอกมากจริง ๆ   รบกวนคนอื่น มาก ๆ  แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเท่ากับ  สารพัดสัตว์ในห้องหรอกนะ  ทั้งแมลงสาบ  ตุ๊กแก  กิ้งกือ  ฮือ ๆ ๆ ๆ  อยากลาตาย
                     เช้ามาพวกเราก็เลยรีบกลับเรือเที่ยวแรกเลย  วินาที  ที่เรือออกนะ  พวกเราแทบจะไชโยออกมาพร้อมกันเลยค่ะ

    จากคุณ : fantastic GiRL - [ 3 ส.ค. 47 11:44:28 ]