------- 7 มีนาคม 47 (วันที่สาม) -------งัวเงียตื่นขึ้นมายามเช้า พอมองลอดหน้าต่างลงไป เมืองกาญจีปุรัมเบื้องล่างยังเงียบสงบอยู่ ก็เลยอาบน้ำแต่งตัวลงไปกินมื้อเช้าครับ (ไม่รวมในค่าโรงแรม) โรงแรมที่พักนี่ชื่อว่า Hotel Aberami มีร้านอาหารมังสวิรัติขึ้นชื่ออยู่ข้างล่าง เช้านี้ก็เลยลอง Dosa ลักษณะคล้ายๆเครปรสจืด กินกับแกงถั่วและแกงมันเทศ ร้านอาหารในรัฐทมิฬส่วนใหญ่จะน่ารักอยู่อย่างนึงดือ เขาแทบจะไม่ใช้จานเลย (ยกเว้นพวกแกงที่ใส่ชาม) แต่เขาจะเอาใบตองสะอาดๆมาปูตรงหน้าเราทุกคน หยิบอาหารมาวาง พร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เวลากินต้อง เปิบมือ ครับ สนุกดีเหมือนกัน แต่คนรุ่นใหม่อย่างผมกินไม่ค่อยเป็นครับ หนักเข้าก็ต้องขอช้อนมาตักกินตามความเคยชินครับ .อิ่มหนำจากมื้อเช้า ผมกะเจ้าหนึ่งก็ออกเที่ยวชมเมืองทันที อ้อ ขอเล่าประวัติเมืองนี้ซักหน่อยนะครับ Kanchipuram เป็นเมืองโบราณที่สำคัญที่สุดแห่งนึงในอินเดียใต้ เคยเป็นเมืองหลวงของกษัตริย์ราชวงศ์ปัลลวะ (Pallava) ที่เรืองอำนาจเมื่อพันกว่าปีก่อน ชาวฮินดูถือว่าที่นี่เป็น Holy City พอๆกับพาราณสีเลยนะครับ ในเมืองนี้ก็เลยเต็มไปด้วยเทวสถานเก่าแก่มากมายครับ ซึ่งก็จะเป็นที่เที่ยวหลักของเราในวันนี้ ในยุคที่กาญจีปุรัมเป็นมหานครอันรุ่งเรืองเมื่อพันปีก่อน นอกจากศาสนาฮินดูจะรุ่งเรืองแล้ว พุทธศาสนาก็เคยรุ่งเรืองในเมืองนี้ด้วยนะครับ ถึงกับมีพระภิกษุชาวเมืองกาญจีปุรัมรูปนึง ได้ออกเดินทางไกลไปจนถึงประเทศจีน และสร้างวัดใหญ่โตที่โน่นด้วย ทายสิครับว่าใคร พระโพธิธรรม ไงล่ะครับ หรือที่ชาวจีนนิยมเรียกท่านว่า ต้าโม หรือ ตั๊กม้อ ปรมาจารย์แห่งวัดเส้าหลินนั่นเอง ท่านตั๊กม้อเป็นชาวทมิฬเกิดที่เมืองกาญจีปุรัมนี่ล่ะครับ น่าเสียดายแต่ว่าคนอินเดียไม่รู้จักท่านเสียแล้ว ทำให้ไม่รู้ว่าประวัติของท่านตอนที่ยังอยู่ที่นี่เป็นไงบ้าง ปัจจุบันก็ไม่มีวัดพุทธในกาญจีปุรัมแล้วครับ กลายเป็นเทวาลัยฮินดูหมดครับ .แหม้ ถ้าเป็นเมืองไทยล่ะก็ ป่านนี้ขึ้นอนุสาวรีย์แล้วล่ะครับ อิอิอิชักจะโม้มากไปแล้ว เที่ยวต่อดีกว่าครับ ผมกับหนึ่งนั่งรถตุ๊กตุ๊กจากที่พักไปยังที่เที่ยวแห่งแรก คือ เทวสถานเอกัมพเรศวร เป็นวัดฮินดูใหญ่สุดประจำเมืองนี้ครับ พอมาถึงก็ต้องทึ่งกับด่านแรก โคปุระ หรือซุ้มประตูทางเข้าครับ สูงเด่นตระหง่านสีขาวราวกับภูเขาหิมาลัย สถาปนิกชาวทมิฬมีเอกลักษณ์เฉพาะในการออกแบบซุ้มประตูให้ใหญ่เข้าไว้ เพื่อข่มขวัญศัตรูภายนอกในยุคโบราณที่มีสงครามกันบ่อยๆครับ เวลาเดินผ่านเข้าไปนี่รู้สึกว่าตัวเราเล็กนิดเดียวเองครับ
จากคุณ : NMkrung - [ 7 ก.ย. 47 22:43:00 ]
แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 47 23:16:30