ความคิดเห็นที่ 1 ไปคราวแรกได้วีซ่าท่องเที่ยวมา 6 เดือน เหลืออีก 1 อาทิตย์สุดท้ายจะหมด รุ่นน้องที่เรียน อยู่เมืองเดียวกัน เขามีเพื่อนเรียนอยู่ที่เอดินเบอระ(Edinburgh) ก็เลยมีที่ำำพักซุกหัวนอน ประหยัดค่าที่พักไปอีกหลายปอนด์ ผมก็เลยอาสาจัดหาไฟลท์ถูกๆจากแฟรงเฟิร์ต เพราะสายการบินประหยัดจากเกาะอังกฤษมีให้เลือกหลายสายการบินทีเดียว แต่เส้่นทาง ไปเิอดินเบอระตรงๆนั้นไม่มี ก็ต้องไปต่อเครื่องที่ London-Stansted คราวนั้นพวกผม 2 คน เลือกบินด้วย Buzz (ซึ่งตอนนี้ขายกิจการไปให้ Ryanair ไปเรียบร้อยแล้ว) แล้วไปแวะ เปลี่ยนเครื่องของ EasyJet ที่ลอนดอนต่อไปยังเอดินเบอระ ความที่กลัวว่าเครื่องจะดีเลย์ เลยเผื่อเวลามากไปหน่อย ต้องไปนั่งแกร่วรอที่ Stansted เสียหลายชั่วโมงทั้งไปและกลับ แต่ค่าตั๋วไปกลับเพียงแค่ประมาณ 120 ยูโร (รวมภาษีสนามบินแล้ว) ตอนเช็คพาสปอร์ต ที่ Stansted นั้นก็มีเสียวนิดๆ เพราะวีซ่าผมเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียว แต่ความที่มาเที่ยวครั้งแรก ขอวีซ่าแบบ Multiple ไว้ แล้วก็ไม่ได้อยู่เกินกำหนด เจ้าหน้าที่เพียงแค่ถามว่า มาเที่ยวกี่วัน แล้วพักที่ไหนเท่านั้น กว่าจะไปถึงสนามบินหลักเอดินเบอระก็เกือบเย็น แปลกใจตรงที่ว่าเอดินเบอระเป็นเมืองหลวงของ สก็อตแลนด์แท้ๆ แต่สนามบินไม่ใหญ่และพลุกพล่านเหมือนกับเมืองหลวงทั่วๆไป จากตรงนั้น ผมตีตั๋วรถ Shuttle Bus แบบไปกลับเลยเพื่อเข้าไปยังสถานีรถไฟใจกลางเมือง เจ้าบ้านที่เราจะมาพัก ต้องทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยตอนเย็นด้วย ไม่มีเวลาออกมารับ จะนั่งรถเมล์ไปก็ไม่รู้เส้นทางไหน แล้วก็สายอะไรก็ไม่รู้ (นี่คือความผิดพลาดที่ไม่เตรียมตัว มาให้ดี) สุดท้ายกัดฟันนั่งรถแทกซี่หลายปอนด์เลยเหมือนกัน น้องคนนี้ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยเล็กๆ ในเขตเมืองเก่านั่นแหละ นั่งรอที่นั่นจนกว่า จะปิดร้าน ก็เลยถือโอกาสกินอาหารเย็นราคาพิเศษ เพราะพี่เจ้าของร้านเป็นคนไทยที่น่ารักมาก กว่าจะหอบเอาสัมภาระมาถึงบ้านพักได้ก็เหนื่อยจนไม่อยากออกไปไหนอีก เพราะตอนแรกว่า จะออกตะเวนราตรีเมืองวิสกี้ซะหน่อย บ้านที่ไปพักนั้นแชร์อยู่กับคู่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น ใช้ห้องน้ำ ห้องครัวรวมกัน แต่ไม่ได้แปลนว่าจะทำอาหารกันหรอกครับ แค่อาศัยนอนแล้วก็ ได้อาบน้ำอุ่นๆก็พอแล้ว จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตื่นเช้ามาก็ประเดิมอาหารเช้าแบบง่ายๆที่แมคโดนัลด์ในเมือง ผมเป็นแฟน Mc ก็เฉพาะออกเดินทาง แบบซำเหมาเท่านั้นแหละ เวลาปกติอย่าหวังได้กินเงินผมเลย ฮ่า ฮ่า แล้วก็เดินมายังสวนตรงเชิงเขาข้างปราสาทเอดินเบอระ มุมแรกก็ถ่ายกันตรงน้ำพุในสวน ยังเช้าอยู่มาก แล้วก็อากาศช่วงปลายเดือนกพ.นั้นยังหนาวอยู่พอสมควร แต่ฟ้าเปิดสดใสมาก จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เป้าหมายหลักของวันแรก ก็แค่เดินไปรอรับเพื่อนคนไทยอีกคนจากเมืองเชฟฟิลด์ทางตอนกลาง ของอังกฤษ ซึ่งเดินทางมาด้วยรถไฟกับเพื่อนนร.สาวสวยชาวกรีซที่เรียนอยู่เมืองเดียวกัน ระหว่างทางก็เดินชมสวน Princess Street Garden ถ่ายรูปกันจนหนำใจตามรายทางไป สถานีรถไฟหลัก สวนนี้ตั้งอยู่ตรงเชิงเขา ขนานกับเส้นทางที่เรียกว่า the Royal Mile ของเอดินเบอระ สามารถมองเห็นปราสาทเอดินเบอระ สวยโดดเด่นอยู่บนยอดเขา เสียแต่เพียงว่า ย้อนแสงไปหน่อย เ้ลยได้แค่ภาพมัวๆมาฝาก จากคุณ : จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นี่แหละครับมองจากอีกฟากถนนไปยังฝั่ง The Royal Mile ในเขตเมืองเก่า จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นสถานีรถไฟแล้วครับ เมื่อวานมาถึุงมืดไำปหน่อย เลยไม่ได้เห็นความงามแบบเต็มๆ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เก็บไม่หมดด้วยภาพเดียวก็เลย เอามาฝากแบบเต็มๆหน่อย จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 วันแรกก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากเดินชมเมืองไปเรื่อยๆ จากสถานีรถไฟเดินย้อน เข้าเขตเมืองเก่าตรง The Scottish Parliament จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงแล้วครับ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วก็เ้ดิืนทะลุำไปยังโบสถ์บนเส้นทาง The Royal Mile จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากโบสถ์ St Giles' Cathedral ข้างบน ก็เดินย้อนขึ้นเนินไปตาม The Royal Mile มุ่งสู่ปราสาทเอดินเบอระ นี่ก็เป็นอีกมุมนึงครับ ใกล้ๆ กับ The Scotch Whisky Heritage Centre ไม่ได้แวะเข้าไปชิมเสียด้วยว่ารสชาิดเหมือนที่เคยดื่มที่เมืองไทยหรือเปล่า 555 จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 00:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คืนนั้นพวกผมออกเที่ยวเอดินเบอระยามราตรีกับเพื่อนอีกสองคน เป็นมิวสิคคลับ ในเขตเมืองเก่า เดินลงไปชั้นใต้ดิืนเสียลึกเลย เพราะตึกสร้างอยู่บนไหล่เขา เห็นบรรดาสาวๆชาวสก็อตเต้นรำกันแล้ว ต้องยกนิ้วให้เลยว่าเปรี้ยวกว่าสาวด็อยช์ทหลายขุม ฮี่ๆๆ เช้าวันจันทร์พวกผมรวม 5 คนก็หารกันออกค่ารถเพื่อเช่าขับไปทางเหนือของสก็อตแลนด์ โดยให้เจ้าถิ่นเป็นคนขับ การจราจรชิดซ้ายเหมือนบ้านเรา ก็เลยไม่ยากจนเกินไปนัก ขับออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมุ่งสู่ Fort-William อันเป็นเมืองใหญ่อีกเมืองนึง ของ Highlands ตะวันตก จอดแวะพักถ่ายรูปกันเป็นระยะๆ ครั้งแรกนี่แวะเข้าห้องน้ำกันก่อนเข้าเขต Highlands เลยมีโอกาสได้เห็นวัวสก็อตหน้าตาดุดันน่ากลัวดีครับ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 02:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้าเขตไฮแลนด์ของสก็อตแลนด์แล้ว ยังเหลือแนวหิมะให้เห็นประปราย ภูเขาแถบนี้ หน้าตาจะคล้ายๆกัน คือออกทรงกลมหน่อยๆ แล้วก็มีหิมะแทรกเหมือนใครเอานมข้นหวาน ไปราดบนยอด แล้วก็จะเห็นแกะ(เลี้ยง)เยอะมากตามไหล่เขา จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 02:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พาชมวิวข้างทางครับ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 02:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฝนตกสลับแดดออกครับ สวยไปอีกแบบ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 02:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มุมนี้ผมชอบมาก สะพานแดงกับไฮแลนด์ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 02:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กว่าจะถึง Fort-William ก็เย็นพอดี ไม่ได้จองบ้านพักไว้หรอกครับ มองหาไปเรื่อยๆ ชอบใจราคาและทำเลที่ไหนก็แวะถามเลย เพราะมีที่พักแบบ B&B เยอะมาก แล้วก็มีราคาบอกไว้ที่ป้ายเลย ไม่ต้องเสียเวลาลงไปถามราคาทุกเจ้า ราคาเท่ากันหมดไม่ว่าคนอังกฤษ คนสก็อต หรือคนเอเชียแบบเรา ผมว่าการท่องเที่ยวบ้านเรายังเอาเปรียบกันอยู่ เพราะราคาไม่เท่ากันเหมือนที่หลายๆคนเจอ หากผมเป็นฝรั่งแล้วเข้าพักราคาต่างกันกับคนชาติอื่นๆ ก็คงไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ในที่สุดก็ได้ที่พักก่อนถึงตัวเมือง Fort-William นิดเดียว ราคาก็สมเหตุสมผลกับงบประมาณ แล้วก็สะดวกสบายมาก มีโทรทัศน์ ตู้เย็นให้ด้วย ชายหนุ่ม 4 คนนอนห้องรวมกัน ส่วนสาวกรีซพักห้องเดี่ยว (แต่ราคาต่อหัวเท่ากัน.... แปลกดี) คืนนั้นออกไปหาอาหารเย็นกินกันในเมือง โหวตกันแล้วตกลงเลือกร้านอาหารจีน เป็นอาหารแบบบุฟเฟต์ราคาประมาณ 8-9 ปอนด์ ทั้งเมืองเงียบจริงๆ เดินเที่ยวสักพัก ก็ทนความหนาวไม่ไหว กลับมานอนพัีกเก็บแรงไว้เที่ยววันพรุ่งนี้ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 03:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เช้าตื่นขึ้นมาทานอาหารเช้าแบบอังกฤษที่บ้านพักเสร็จก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยัง แหล่งท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของไฮแลนด์ก็คือ ทะเลสาบล็อคเนส อันเป็นตำนานที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ เรื่องเจ้ามอนสเตอร์น้อย เนสซี่  ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องอุปโลกลวงโลก ทะเลสาบล็อคเนสเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษ  ความยาวประมาณ 24 ไมล์ แต่ความกว้าง(สูงสุด)เพียงแค่ประมาณไมล์ครึ่งเท่านั้น  ระดับความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 600 ฟุต บางช่วงที่เป็นไหล่ิืเขาใต้น้ำอาจลึกถึง 1000 ฟุตเลยทีเดียว  อุณหภูมิน้ำเย็นมาก แล้วก็บวกกับ มีกระแสน้ำที่ไหลผันผวนในบางช่วง  เลยทำใ้ห้หลายๆคนเชื่อว่ามีสัตว์ขนาดยักษ์อาศัยอยู่ หากใครที่เคยติดตามเรื่อง เนสซี่  ก็จะพบว่ามีหลักฐานรูปถ่ายหลายรูปตั้งแต่ปี 1933 ที่อ้างว่า สามารถเก็บภาพเจ้าเนสซี่ใต้น้ำได้  บางภาพก็ถูกยืนยันเป็นภาพหลอกลวง นักวิทยาศาสตร์บางคนให้ความเห็นว่า  อุณหภูมิน้ำเย็นขนาดนั้น ไม่น่าจะมีสัตว์ขนาดใหญ่อาศัยอยู่ได้ แล้วก็ร่องรอยที่มีผู้เก็บภาพไว้ได้นั้น ก็อาจจะเป็นคลื่นใต้น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับสภาพทางธรณีใต้น้ำ ของทะเลสาบแห่งนี้  อีกทั้งไม่เคยมีผู้พบซาก หรือโครงกระดูกของเจ้าสัตว์ขนาดใหญ่ที่ว่านี้เลย อย่างไรก็ตาม  เจ้ามอนสเตอร์น้อย เนสซี่ ก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาหลายทศวรรษแล้ว ใครที่มีโอกาสได้ไปเยือนสก็อตแลนด์  ก็อย่าพลาดบรรจุทะเลสาบล็อกเนสเข้าไว้ด้วยละกันครับ แว่บแรกผมก็ตกหลุมรักทะเลสาบแห่งนี้เข้าแล้ว  ทำไมหรือครับ?? ดูจากภาพสิครับ  ให้ความรู้สึกสงบ สวยงามเหมือนฝัน  บรรยายไม่ถูกเลยครับ  อากาศเป็นใจด้วยในวันนั้น ผมละอยากกลับไปมีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้บ้านเกิดของเจ้าเนสซี่ให้นานกว่านี้จริงๆ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 47 16:14:09 จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 03:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขออีกภาพมุมกว้างกับทะเลสาบล็อคเนส ก่อนจะเดินทางกลับเอดินเบอระ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 03:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กลับมาจากไฮแลนด์ ส่ง 2 คนจากเชฟฟิลด์ขึ้นรถไฟเรียบร้อย ผมก็ไปสั่งลาเมืองเอดินเบอระ เหมือนกัน ด้วยการเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว เพื่อเก็บภาพตะวันอัสดงที่เอดินเบอระ ก่อนจะเดินทางกลับเยอรมันในวันรุ่งขึ้น จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 10 ก.ย. 47 03:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวยมากเลยค่ะ จำได้ว่า หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) เคยพาเที่ยวเมืองที่เกี่ยวกับนิทาน เรื่องชายเป่าปี่กับหนู แต่จำไม่ได้ว่าอยู่เมืองไหน ช่วยบอกอีกที่ค่ะ อยากไปเที่ยวบ้าง จากคุณ : piangjit (piangjit) - [ 10 ก.ย. 47 09:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพสวย อ่านสนุก ยอดเยี่ยมกระเทียมดอบเลยครับ ติดตามคุณหนุ่มอย่างสม่ำเสมอ ขอบคุณครับ จากคุณ : บั๊กเม่า - [ 10 ก.ย. 47 14:25:59 A:203.113.66.71 X:203.150.217.118 TicketID:070289 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพสวยมากๆ เห็นแล้วเคลิ้มไปเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากไปตามรอยบ้างจัง ^_^ จากคุณ : Blissful - [ 10 ก.ย. 47 14:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพสวยมากๆ เลย จากคุณ : นักเดินทางเท้าเปล่า - [ 10 ก.ย. 47 17:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โห.. คุณหนุ่ม มาทำให้ผมอิจฉา ผมยังไม่เคยออกนอกอียูเลย... สวยมากๆเลย อากาศก็ดี บรรยากาศก็ดี แจ๋วจริงๆ จากคุณ : Math.de - [ 10 ก.ย. 47 19:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เออแน่ะ...วันนี้คุณหนุ่มพาเที่ยวข้ามฝั่ง....ต้องชมหน่อยว่ารูปสวย...รู้สึกว่าคนหนุ่มจะเล่าเรื่องได้ยาวกว่าตอนเขียนเรื่องทางเยอรมันนะคะ.... ได้เข้าไปชมด้านใน Castle หรือเปล่า...เดือนที่ผ่านมาเค้าเพิ่งมีงาน Tattoo ที่ Edinburgh Castle แหะๆ...ดิฉันได้ดูแต่ที่เค้าถ่ายทอดค่ะ... ใครมา Edinburgh ช่วงสิงหาน่าไปดูค่ะ.....เป็นการแสดงขบวนพาเรดของทหาร เกือบเหมือน Light and Sound บ้านเรา ปีที่ผ่านมาบัตรราคา 9.5 – 30 ปอนด์แล้วแต่ที่นั่ง ขออนุญาตเจือก...ต่ออีกหน่อย.... ใครที่จะมาเที่ยว Scotland แล้วเป็นคอหนังที่ชื่นชอบ Braveheart และ Rob Roy ถ้าพอมีเวลาต้องขั้นไปเยี่ยมเมืองเล็กๆที่ชื่อ Stirling ที่นี่เป็นสถานที่เกิดเหตุ(จริง) ตอนที่ Wallace (ในเรื่อง Braveheart ) รบชนะอังกฤษ แถมในตัวเมืองมีรูปปั้น Rob Roy คนที่ชื่นชอบปราสาทมาที่นี่ก็ไม่ผิดหวัง เพราะตัว Stirling Castel ก็เป็นอีกที่ที่ควรแวะ ตัวปราสาทที่มีลักษณะคล้ายๆ กับ Edinburgh Castle แต่ขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่บนเขาเหมือนกัน จาก Stirling Castel มองลงไปจะเห็นบริเวณการต่อสู้ที่พูดไปก่อนหน้านี้ ที่นี่ออกจะเป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆ แต่ดิฉันไปแล้วชอบ...(สงสัยอินกะหนัง).... ใครไปแล้วไม่กิ๊ก...ก็โท๊ดค๊า...เพราะอีชั้นเที่ยวไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเค้าเท่าไหร่...555 พูดถึงเรื่องความเจริญและทันสมัย Edinburgh สู้ Glasgow ไม่ได้ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวง คงเหมือนๆ Bern กับ Geneva ของสวิสฯ แต่ตึกรามและตัวอาคาร (เก่าๆ) นี่ดิฉันว่า Edinburgh กินขาด แหะๆ...ขออำภัย...แบบว่าเจือกยาวไปหน่อย จากคุณ : ป้าเม้าท์ (PaMouth) - [ 11 ก.ย. 47 01:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 @ คุณ piangjit เรื่องที่ว่านั้นผมไม่ได้เล่าหรอกครับ เป็นบันทึกของน้องเรียมจากเดรสเดน ผมเล่านิทานกับเขาเป็นที่ไหนเล่าครับ อิอิ เอาตอนจบมาให้ละกันครับ ไม่รู้ว่านิทานเรื่องนี้อยู่ตอนไหนเหมือนกัน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E2956458/E2956458.html ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ คุณบั๊กเม่า คุณ Blissful แล้วก็คุณนักเดินทางเท้าเปล่า @ คุณ Math ผมก็หาโอกาสแบบนี้ไม่ค่อยง่ายหรอกครับ ตอนขอวีซ่าครั้งแรกยังไม่เกิด เหตุการณ์ 9/11 เลยไม่ต้องไปสัมภาษณ์ เพราะเอกสารก็ดูเรียบร้อยดี รุ่นน้องที่ไปหลังจากนั้น ขอเอกสารยุบยั่บไปหมด แล้วต้องเสนอหน้า ไปให้เขาสัมภาษณ์ถึง Duesseldorf โน่น ผมเลยโชคดีไปที่ขอได้ก่อน แต่อากาศวันที่ไปถึง Loch Ness โชคดีมากๆครับ ฟ้าเปิด แดดจัด รูปนี้ผมเอามาทำ Desktop ที่ PC ตั้งหลายเดือน มองกี่ทีก็ชอบครับ @ คุณ ป้าเม้าท์ ผมเดินถึงแค่หน้าปราสาทแค่นั้นแหละครับ เขามีซ่อมแซมอะไรไม่รู้ด้านหน้า แล้วฝนเริ่มตก ก็เลยเดินกลับที่พักเลย ยังนึกเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เข้า ไปกันหลายคนก็งี้แหละครับ ชอบไม่เหมือนกัน ไม่เข้าคนนึงก็เลยต้องว่าตามกัน Stirling นั้นได้แค่แวะดื่มกาแฟกันน่ะครับ ไม่ได้แวะปราสาทอะไรที่ว่านั่น แต่ผมก็ชอบ Braveheart นะ เสียดายไม่มีข้อมูลมาก่อน ไม่งั้นจะขอแวะแล้ว เพราะตอนไปครั้งนั้น มอบให้เจ้าบ้านวางแผนเดินทางทั้งหมด ไม่ได้คิดว่าจะไปไหนเองเลย เขาพาไปไหนก็ไปหมด ฮี่ๆๆ สงสัยป้าเม้าท์ต้องอยู่แถวๆนั้นแน่เลย เอารูป Glasgow มาฝากน้องๆ หลานๆ แถวนี้มั่งสิครับ ส่วนเรื่องที่ว่าฝอยยาวนั้นก็ธรรมดาครับ นานๆเจอของแปลก ในฐานะนักท่องเที่ยวก็ต้องหาข้อมูลอ่านกันเป็นธรรมดา ผมอ่านเรื่องเนสซี่ พอสมควรหลังจากกลับมา ก็ไปเจอของจริงแล้ว น้ำนิ่งสงบอย่างนั้น หากเจ้าเนสซี่มีจริง คงมองเห็นได้ไม่ยาก แต่อย่างว่าแหละครับ คนจะเห็น คงไม่สามารถกะเกณฑ์กันได้ล่วงหน้า เดี๋ยวเอารูปตอนผมทำโฮมเพจ มาแปะให้ชมครับ สำหรับเรื่องราวสั้นๆ ของเจ้าเนสซี่ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 11 ก.ย. 47 03:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบภาพ# 17 & #18 The Loch Ness Lakeมากเลยค่ะ ดูเงียบสงบสยบความเคลื่อนไหวเจงๆเลยอ่ะ Tripนี้เขียนยาวจัง เด๋วค่อยตามเก็บรายละเอียดค่า ปล. มี Pano ของ Lake มั๊ยคะ จากคุณ : redmaple - [ 11 ก.ย. 47 09:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบคห# 7,15,17,18 ที่จับภาพมาได้สวยมาก ๆ ตามมาเป็นลูกทัวร์ เที่ยวดื่มกินกับบรรยากาศเที่ยว สก็อตแลนด์ ทางสายตา ดูแล้วสดชื่น และมีความสุขค่ะ.. จากคุณ : kinaree - [ 11 ก.ย. 47 15:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอเสริมอีกหน่อยกับเรื่องราวของเจ้าเนสซี่แห่งล็อคเนส ล็อคเนสนั้นมีพื้นที่รับน้ำขนาดกว้าง และความจุมากกว่า 11 ล้านลบ.ม. สภาพทางธรณีวิทยานั้นเกิดจากรอยเลื่อนของผิวโลกที่ชื่อ the Great Glen Fault จาก Fort William ถึง Inverness ซึ่งแบ่ง Highlands ตามแนวเฉียงเหมือนในรูป ถึงแม้สภาพอากาศจะหนาวเย็นถึงจุดเยือกแข็งอย่างไรก็ตาม ไม่มีประวัติบันทึกว่า ล็อคเนสจะฟรีซจนเป็นน้ำแข็ง เพราะยังคงมีกระแสน้ำอุ่นไหลวนอยู่ตลอดเวลา (มีผู้เปรียบไว้ว่ามีพลังงานพอๆกับการเผาถ่านหิน 2 ล้านตัน) ประวัีติศาสตร์หน้าแรกของเนสซี่เริ่มเมื่อประมาณปลายปี 1933 เมื่อ Hugh Gray ผู้ซึ่งกลับมาจากโบสถ์และเดินรอบบริเวณที่แม่น้ำ Foyers ไหลมาบรรจบที่ล็อคเนส เขาได้เห็นวัตถุขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำที่นิ่งสงบ เขาเก็บภาพไว้ได้ ถึง 5 ภาพด้วยกันก่อนที่ผิวน้ำจะกลับมาสงบอีกครั้ง แต่มีเพียงภาพเดียวเท่านั้น ที่สามารถล้างมาเป็นภาพถ่ายได้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลาระบุว่าเป็นภาพคล้ายๆ กับสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่คลานได้ที่ผิวน้ำ ในขณะที่นักสัตววิทยาให้ความเห็นว่า เป็นรูปถ่ายของสัตว์จำพวกนาก ที่มาดำน้ำเล่นที่ผิวทะเลสาบ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 11 ก.ย. 47 16:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบรูปสุดท้ายมากเลยครับ แสงสวยจริงๆ รูปอื่นๆก็สวยครับ ฟ้าเป็นฟ้าดีจริงๆครับ จากคุณ : D19 - [ 11 ก.ย. 47 17:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาดูรูปจากผู้ที่อ้างว่าเคยเจอเนสซี่มาแล้วกันครับ รูปแรกประมาณได้จากคำบอกกล่าวของหลายๆคน ที่ว่ากันว่ากว่า 3000 คนทีเดียวที่เคยเห็นเนสซี่ แต่มีเพียงแค่ 200 กว่าคนเท่านั้นที่พอมีหลักฐาน ติดไม้ติดมือมาให้เราชมกัน นั่นก็คือเนสซี่จะมีคอยาวเหมือนไดโนเสาร์กินพืช มีโหนกที่หลัง 2 แห่ง ที่ขาลักษณะเป็นครีบเหมือนตะพาบน้ำ ลำตัวยาวประมาณ 40 ฟุต ว่ายน้ำเร็วมาก รูปที่ 2 เป็นคำบอกกล่าวของครอบครัว Spicer ซึ่งขับรถผ่านถนนเลียบทะเลสาบเมื่อตอนเข้าตรู่ใน เดือนกค.ปี 1933 ระหว่างหมู่บ้าน Dores กับ Inverfarigaig เป็นถนนแคบๆห่างจากริมทะเลสาบ ประมาณ 20 หลา เจ้าสัตว์ประหลาดขนาดลำตัวใหญ่กว่าช้างกำลังคืบคลานอยู่บนถนนต่อหน้า 2 สามีภรรยาคู่นี้มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบ จากที่มองเห็นแว่บแรกในระยะ 200 หลา นาย Spicer เร่งความเร็วเพื่อจะเข้าไปดูใกล้ให้เห็นชัีดๆว่่ามันคืออะไร แต่เมื่อมาถึงก็พบแค่เพียง ร่องรอยขนาดกว้างประมาณ 10-12 ฟุตของสัตว์ขนาดใหญ่ที่เพิ่งจะหายลับลงไปในทะเลสาบเท่านั้น รูปที่ 3 จากคำบอกเล่าของ Mr Grant ขณะที่เขาเดินทางกลับบ้านด้วยมอเตอร์ำไซค์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 5 ม.ค. 1934 ภายใต้แสงจันทร์คืนเดือนหงายก่อนที่เขาจะุถึงหมู่บ้าน Abriachan เขามองเห็นวัตถุขนาดใหญ่ลางๆทางด้านขวาของถนน เมื่อเข้ามาใกล้ๆ เขามองเห็นเจ้าสัตว์ประหลาด มีหัวขนาดเล็ก ลำคอยาว ทันทีที่เจ้าสัตว์ประหลาดเห็น Grant มันก็ข้ามถนนกลับไปยัง Loch Ness ทันที Grant ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยกระโดดลงจากมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ ตามรอยเข้ามอนสเตอร์นั้นไปก็พบแค่เพียงรอยกระเพื่อมของผิวน้ำเท่านั้น รูปที่ 4 จากคำบอกกล่าวของ Mrs Moir จากเมือง Inverness เมื่อเดือนต.ค. 1936 เพื่อนของเธอชวนไปเที่ยว Foyers พร้อมกับพี่ๆน้องๆ แล้วก็หลานสาวตัวน้่อยของเธอ ระหว่างเดินทางกลับ ถึงจุดที่ถนนห่างจากล็อคเนสไม่มากนัีก ทันใดนั้นน้องสาวของเธอก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ดูนั่นสิ เจ้าสัตว์ประหลาดอยู่นั่น” ทั้งหมดลงจากรถแล้ววิ่งไปยังริมน้ำ ด้วยระยะ 1 ใน 3 ของความกว้างทะเลสาบช่วงนั้น “สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเรา มันช่างน่าอัศจรรย์นัก หากเรามีกล้องถ่ายรูป ภาพที่ยืนยันความมีตัวตนของมอนสเตอร์จะถูกบันทึกไว้แน่นอน” เธอบรรยายต่อว่า “มันมีโหนกที่หลัง 3 จุด ลำคอยาวเรียว มีหัวขนาดเล็ก ยาวประมาณ 30 ฟุต ฉันไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดเกี่ยวกับดวงตา ปาก แต่โครงร่างดูสวยงาม โหนกหลังตรงกลางสูงกว่าจุดอื่น พวกเราจ้องมองมันนานราวๆ 5-8 นาที ก่อนที่มันจะว่ายหนีไปจากฝั่งอย่างรวดเร็ว” จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 11 ก.ย. 47 17:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนรูปที่ถูกบันทึกไว้ได้ิิิิอีกหลายรูปได้ถูกตีพิมพ์สม่ำเสมอตั้งแต่นั้นมา ที่ดังและฮือฮาืัีที่สุดก็คือรูปของ Robert Kenneth Wilson หรือที่รู้จักกันดี ในชื่อของ the Surgeons photo (รูปล่างขวา) มีการถกเถียงกันมากว่่าจัดฉาก จนในที่สุดก็ได้รับการเปิดเผยถึงภาพลวงโลกที่หลอกผู้คนมาจนถึงปี 1993 อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายภาพที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เจ้าเนสซี่เป็นเพียงเรื่องเล่าในตำนาน หรือว่ามีจริงกันแน่ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 11 ก.ย. 47 18:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอารูปล็อคเนสกับปราสาท Urquhart มาให้ชมอีกสักรูปครับก่อนจบ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 11 ก.ย. 47 18:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จากคุณ : WonDerFulSumMer - [ 11 ก.ย. 47 21:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่า...ป้าไม่ได้อยู่สก็อตแลนด์ดอกคุณหนุ่ม.. อยู่ด้านล่างลงมาอีกจ๊า... พอมีเวลาก็ไปเที่ยวเหมือนๆคุณหนุ่มนั่นแหละ.. รูปรึ!!! แหะๆ...อยู่เมืองไทยหมดจ๊า...ทริปพวกนั้นหน่ะไปมาหลายปีดีดักแล้ว...ซัมเมอร์ที่ผ่านมาว่าจะไปย้ำแถวๆนั้นเหมือนกัน...แต่หลานๆที่นี่มันชิงดักหน้าไว้ว่า...จะไปเที่ยวหน่ะงานเสร็จแล้วยัง???....เฮ๊ย...เบื่อจริงว๊อยไอ้พวกมือไม่พายแล้วยังเอาเท้าราน้ำเนี่ย.... จากคุณ : ป้าเม้าท์ (PaMouth) - [ 12 ก.ย. 47 08:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตามมาดูครับ สวยดี เหมือนใน edin' นี่จะหมอกลงนะครับ (รึเปล่า) ภาพมันดูไม่สีสดเหมือนเคย ทะเลสาป lochness สวยได้ใจมาก ๆ ครับ จากคุณ : dont wanna no - [ 13 ก.ย. 47 11:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ใช่แล้วครับ วันนั้นยังเช้าอยู่ แล้วก็เดือนกุมภาฯยังหนาวมากครับ มีหมอกลงสลับกับแดดออก ภาพเลยออกมาแบบนั้น จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 13 ก.ย. 47 13:18:43 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โห... สวยมากๆ เลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : JayMel - [ 14 ก.ย. 47 19:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตามมาชมภาพสวยๆของคุณหนุ่มด้วยคนค่ะ ทำไมในยุโรปมีแต่เมืองสวยๆทั้งนั้นเลยเนาะ ขอนอกเรื่องนิดนึงค่ะ อาทิตย์หน้าจะบินไป Frankfurt แล้ว ไม่ทราบว่าอากาศที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อนเค้าจะพาเที่ยว Frankfurt กับ Maiz ที่ Maiz นี่สวยแล้วก็น่าสนใจมั้ยคะ ช่วยตอบหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : VL (Reisende) - [ 15 ก.ย. 47 16:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อากาศกำลังเริ่มหนาวแล้วครับ ประมาณสัก 15-20 องศา น่าจะได้ มีฝนสลับบ้าง ตามปกติของช่วงรอยต่อฤดู พี่ VL หมายถึง Mainz หรือเปล่าครับ ลองเข้าไปดูกระทู้เก่าที่ห้อง BP ได้ครับ แต่ว่าแค่บางส่วนเท่านั้นเอง Mainz เป็นเมืองไม่ใหญ่เที่ยววันเดียวน่าจะหมดแล้ว http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E2938092/E2938092.html เที่ยวให้สนุก Gute Reise ครับ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 15 ก.ย. 47 23:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ใช่ค่ะคุณหนุ่ม เมือง Mainz พี่พิมพ์ผิดอยู่เรื่อยเลย ถ้าให้คุณหนุ่มเลือกระหว่าง Mainz กับ Ruedesheim คุณจะเลือกไปที่ไหนคะ เห็นเพื่อนบ่นว่า Ruedesheim คนเยอะเกินไปเค้าไม่ค่อยชอบ จากคุณ : VL (Reisende) - [ 17 ก.ย. 47 12:32:21 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตามความคิดผม แนะนำ Ruedesheim ครับ เพราะผมไปมาแค่ครั้งเดียวยังติดใจ หากเพื่อนหรือใครจากเมืองไทยมาก็ว่าจะพาไปเที่ยวเหมือนกันแหละครับ ได้บรรยากาศแบบเยอรมันแถบไรน์ไมน์โดยแท้ เขาเล่ากันว่าไวน์ไรน์เกา อร่อยรสชาดดี ลองเข้าไปดูกระทู้ที่ห้อง BP เก่าๆดูก็ได้ครับ **** (((( Ruedesheim am Rhein ล่องแม่น้ำไรน์คนเดียวไม่เปลี่ยวใจ )))) **** http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3011385/E3011385.html จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 17 ก.ย. 47 13:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 รูปสวยมากเลยค่ะ ทำให้นึกเสียดายที่ไม่ได้ไป เพราะต้องขับรถไกลถึง 6 ชั่วโมงจากเซฟฟิลด์ แต่ได้เห็นแค่รูปก็ดีใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ มีคำถามค่ะว่า visa เข้าอังกฤษก็สามารถเข้า้่ scotland ได้เลยใช่ไหมคะ? จากคุณ : pixp - [ 19 ก.ย. 47 00:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วีซ่า UK เข้าได้ทั้งอังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ แล้วก็ไอร์แลนด์ที่อยู่ในเครือจักรภพได้ครับ จากคุณ : หนุ่มเฮสเซ่น (Hessenboy) - [ 19 ก.ย. 47 15:16:33 ]