ความคิดเห็นที่ 1 ทีลอซูกลางสายฝน................กับคนเป็นสทาฟ 11 สิงหาคม การเดินทางครั้งนี้ต้องไปทำหน้าที่เป็นสทาฟ ให้กับเวปทัวร์ดอยอีกครั้ง ที่แรกเหมือนว่าทริปส์ทีลอซูจะล่ม แต่แล้วก็มีคณะทัวร์มาเต็มจนได้ พี่เสกไปเอาท่านที่เหลือจาก คันที่ไป ภูสอยดาวไม่เต็ม เลยเอามารวมไป ทีลอซู และเขาก็เต็มใจจะมาด้วย หลังจากรับปากไปแล้วก็ต้องไปทำหน้าที่ล่ะครับ เวลานัดทุ่มที่ ปั๊ม ปตท. สนามเป้า ผมต้องไปก่อนรอรับลูกทัวร์ กว่าพี่เสกสรรจะมาได้ก็ ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว ผมน่ะมาเจอคนขับรถตู้และสอบถามกันก่อนแล้ว รอลูกทัวร์อีกสี่ท่านยังมาไม่ถึง ดูรายชื่อแล้ว มีสามสาวกับอีกหนึ่งหนุ่ม ก็เป็นลูกทัวร์เก่า ของทัวร์ดอยนั้นเอง ก็มีคุณ นิด คุณน้อง พี่ตุ๊ และน้อง แนน คนนี้มาเที่ยวคนเดียวครับ เลยต้องดูแลหน่อย พอได้คุยกับเพื่อนในคณะทำความรู้จักกันแล้วก็ไม่ต้องห่วง ไปกันได้สบาย สองทุ่มกว่าพี่ท่านก็มาถึง ก็บ่นนิดหน่อยครับ ในฐานที่มาช้า เพราะ มีทริปส์ไปภูสอยดาวอีกสองตู้ เก็บตังเรียบร้อยออกเดินทางครับต้องไปรับ อีกสี่คนที่หน้า ม.เกษตร ก่อนถึงผมโทรไปแล้วครับว่ารอตรงไหน เขาบอกรอประตู่หน้า ผมก็เข้าใจว่า ประตูทางด้าน พหนโยธิน เป็นทางด้านหน้า ก็ไปทางนั้นซิครับ แต่พอถามอีกทีบอกอยู่ทาง วิภาวดี ไปกันใหญ่แล้วครับ ต้องวนออกทางด้าน วิภาฯอีก 555 พอไปถึงสะพานลอยแรกก็รอแล้วรออีกไม่เจอใครเลย เป็นอันว่า เขาไปรออีกสะพานหนึ่งครับกว่าจะคุยกันรู้เรื่องนานที่เดียว เป็นผมเข้าใจผิดเองแหละครับ(เด็กบ้านนอกก็แบบนี้ล่ะครับ นานๆเข้ากรุงที) รับเพื่อนนักเที่ยวมาอีกสี่ท่านก็เดินทางสู่อุ้มผางกันเลยครับ ทางด้านหลังรถแนะนำตัวกันไป ด้านสทาฟก็แนะนำตัวแล้ว ดูหนังฟังเพลงกันตามสะดวกครับ รถตู้เราใช้เสนทาง นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก แม่สอด มาถึงแม่สอดตอนตี่ 2 กว่าแวะเติมน้ำมันอีกรอบแล้ว มุ่งหน้าสู่อุ้มผาง สองข้างทางยังมืดสนิท ลูกทัวร์พากันหลับไปหมดแล้ว เหลือผมกับพี่เจี๊ยบคนขับรถ ถ้าพี่เขาหลับท่าจะแย่ครับ ผมพยายามไม่หลับนั่งเป็นเพื่อนกันมาแต่สุดท้ายไม่ไหว แอบงีบไปบ้าง เรามาสว่างเอาก็ตรง หมู่บ้านพม่าอพยพ ท้องฟ้าเริ่มมีแสง แต่ไม่สดใสเอาเสียเลย เต็มไปด้วยหมอกฝน ตาเริ่มสว่าง นั่งคุยกับพี่เจี๊ยบตามทาง เริ่มเรียกเพื่อนนักเที่ยวให้ตื่นมาดูบรรยากาศสองข้างมทาง แต่ไม่มีใครตื่นสักคน กว่าจะตื่นกันก็ตอนปวด เบากันแหละครับ ผมบอกให้จอดดูต้น มหาสดำ ข้างทางเพื่อแนะนำให้เพื่อนไดรู้จัก แต่ดูจะไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ สงสัยยังมืนกันอยู่ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทีลอจ่อ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น้ำตก ทีลอจ่อ อีกรูปครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผาผึ้ง จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วเราก็มาแวะตรงจุดชมวิว มีรถตู้จากคณะอื่นตามเรามาอีกสองคัน มาจอดร่วมด้วย มองลงไปด้านล่างนั้นคือ หมู่บ้านหนึ่งในเมืองอุ้มผาง และเห็นริบๆนั้นคือตัวเมืองอุ้มผาง ทุกคนเริ่มตื่นตา กับภาพบรรยากาศแล้วครับ ถึงจะมีหมอกฝนโปรยปรายลงมาบ้าง ก็พอให้ชื่นใจเมื่อได้รับกลิ่นไอของธรรมชาติ ไม่นานเราก็เดินทาง เข้าตัวเมืองอุ้มผาง ตอน 7 โมงกว่า ถามพี่เจี๊ยบว่าเคยมาหรือเปล่า บอกว่าเคย ผมเลยไม่ได้สนใจ แล้วพี่ท่านก็พาเลย รีสอร์ทที่พักครับ อ้าวนึกว่ารู้แล้ว เลยต้องวนกลับมาอีก มาครั้งนี้ เราไปพักกันที่ สวนเรือนแก้วครับ ปกติผมมาเองจะไปพักกับน้าล่ำ พอถึงรีสอร์ทฝนตกลงมาหนักครับ ต้องเอาร่มมารับกันเลย บอกให้เพื่อนๆเอาของไปเก็บแล้วลงมาท่านข้าวต้มกัน แล้วให้ไปเตรียมของที่จำเป็นเท่านั้นเข้าไปน้ำตก เสื้อชุดนอนหนึ่งชุด ก็พอแล้ว ชุดที่ใส่ไปใช้ใส่กลับด้วย เตรียมเสื้อกันฝนกันไปด้วย หลังท่านกินข้าว เก็บของเสร็จเราพร้อมเดินทาง ราวๆ 8 โมง เดินจากบ้านพักไปนิดเดียวก็ถึงแพยางที่จอดรออยู่แล้ว รีสอร์ทนี้ดีหน่อยที่ ติดแม่น้ำแม่กลองเลย เวลาลงแพไม่ต้องเดินไกล คณะเราออกเดินฝนสาเม็ดลง และหยุดตกไป ทำให้บรรยากาศ การล่องแก่งครั้งนี้สนุกยิ่งขึ้น ไปได้หน่อยเดียว กล้องดิจิม่อน ของคุณนิด ก็เกิดเสียมาครับ สาเหตุคงมาจากน้ำเข้า เพราะช่วงที่เราผ่านมามีสายน้ำตก ระหว่างทางด้วย คงเอาออกมาถ่ายรูป น้ำเลยเข้า จอภาพหายครับ ล่องไปได้สักพัก เราก็มาถึง น้ำตก ทีลอจ่อ (น้ำตกสายฝน จริงๆครับ) ลงไปถ่ายความงามกัน ส่วนเจ้าของกล้อง ใจไม่ดีแล้วครับ หมดอารมณ์ ถ่ายรูปเลย กล้องมาพังอีก ผมเลยปลอบใจ ไปว่าเดียวก็ดีขึ้นเองถ้า มันแห้งแล้วก็ใช้งานได้เหมือนเดิม เพราะพวก ดิจิฯ จะเป็นแบบนี้ ผมก็ใช้อยู่ เราล่องผ่าน ผาเลือด ผาผึ้ง ผาโหว่ และมาแวะ กันที่ บ่อน้ำพุร้อน ให้ได้ไปแช่น้ำร้อนคลายหนาวครับ ระหว่างทางที่เราล่องแพมาฝนหยุดๆ ตกๆ กล้องนี้ต้องเอาใส่ถุงกันน้ำอย่างดีครับ กลัวจะพังอีกตัว นานๆจะเอาออกมาถ่ายกันที แช่น้ำแร่พอให้คลายหนาว ไปกันต่อครับ ชมธรรมชาติ ริมทางไป ฟังนายท้าย น้าธรรม โม้ไป สนุกสนานครับ เพื่อนน่ะไม่ทันมุขแกเท่าไหร่ครับ ผมต้องคอยรับอยู่เรื่อย เดี๋ยวจะไม่มีใครขำ เริ่มหิวกันแล้วซิครับ ข้าวกล้องเราก็เตรียมมาแล้ว ทีแรกว่าจะจอดขึ้นฝั่งไปกินกัน แต่ท่าทางยุงจะเยอะครับ เราเลย กินกันบนแพเสียเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาจอด ล่องไปด้วยกินข้าวไปด้วย ชีวิตแบบนี้หาที่ไหนได้ครับ เวลาบ่ายโมงคณะของเราก็มาถึงท่าทราย ปลายทางการล่องแก่ง ครั้งนี้ ที่เหลือเราจะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 11 โล จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผาโหว่ครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:07:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลำน้ำแม่กลอง ตอนบนครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทางเดินช่วงแรกดีมากครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:09:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้ามาช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่ 1 ธันวา รถจะเข้าได้ครับไม่ต้องเดิน เท้า แต่ช่วงนี้ห้ามนำรถเข้า จึงต้องเดินกัน ทางเดินสะดวกสบายมากครับไม่เหมือนเมื่อหกปีที่แล้วต้องเดินทับรอยช้าง ติดหล่มกัน กว่าจะเดินได้แต่ล่ะก้าวลำบากแท้ ตอนนี้ทางทำใหม่ไว้เมื่อธันวาปีที่แล้ว สุดแสนจะดี ครั้งนี้เลยเดินกันสบายจริงๆครับ เดินไปชมดอกไม้สองข้างทางไปเรื่อย จะเหนื่อยหน่อยก็ตรงทางขึ้นช่วงแรกนี้แหละครับ บางท่านหน้าซีดไปเลย สองข้างทางเต็มไปด้วย ดอกว่านร่านทอง ดอกกระเจียว เอื้องหมายนา ดอกกาฝาก แววมยุรา เทียนดอย สวยงามทีเดียวครับสำหรับคนที่ชอบดอกไม้แบบผมก็ต้องเก็บภายไปให้เยอะที่สุดล่ะครับ แล้วคณะเราก็พ้นเนินแรกมาได้ หอบไปตามๆกันครับ สงสัยลูกทัวร์หลายท่านไม่เคยเดินขึ้นเขาครับ เคยแต่เดินห้างกัน ทางช่วงต่อไปก็หมดทางชันแล้วครับ เดินกันเรื่อยๆสบายๆ มีขึ้นลงบ้างแต่ก็ไม่ชัน ดูหน้าตาทุกคนสดใสขึ้นครับ ฝนที่ตกมาเมื่อเช้าก็หมดไปแล้ว แสงแดดเริ่มออกมาให้เห็นแต่ไม่แรงมาก ยังคงมีเมฆฝนมาคลุมอยู่ เราใช้เวลาเดินกันเพียงสองชั่วโมงก็ถึงครับ (เมื่อสมัย หกปีที่แล้ว ผมมาเดินกัน 5 ชม.ได้ครับ)แล้วก็พบกล้วยไม้ชนิดหนึ่งไม่ทราบชื่อครับ ไม่มีในตำราผมด้วย เลยเก็บภาพมาฝากกันครับ เผื่อท่านใดทราบ บอกกันมั้งครับ เรามาถึงที่ทำการเขตฯตอน 4 โมง ว่าจะเข้าไปน้ำตกกันเลย แต่กลัวว่าจะค่ำเสียก่อน จึงไม่ได้เข้าไป ไว้รอไปดูตอนเช้าเต็มที่ไปเลยดีกว่า อีกอย่างคนก็มากันเยอะแล้ว รีบไปอาบน้ำให้สบายตัวเสียก่อนค่ำ มืดมาแล้วจะได้ไม่ต้องแย่งกัน นั่งพักขาคุยกัน แล้วชวนไปถ่ายรูป ที่หน้าป้ายเสียก่อนครับ พรุ่งนี้ฝนท่าจะตกเดียวอด ไปถ่ายรูปเรียบร้อยเดินดูดอกไม้ตามสะดวกผม เพื่อนๆพากันไปอาบน้ำ นั่งคุยกันสบายใจแล้วผมยังตัวเหม็นอยู่เลย 6 โมงเย็น น้าธรรมก็บอกให้ไปกินข้าวกัน ตอนนี้เขาทำโรงครัว ไว้ด้านหลังเป็นทางการมากเลยครับเหมือนโรงครัวทหารเลย แบ่งๆกัน ของแต่ล่ะรีสอร์ท มื้อเย็นนี้ เรามี แกงไก่ ไข่เจียว น้ำพริกเผา และก็ต้มจืดสาหร่ายด้วยครับ ก่อนกินข้าว หิวครับเลยเอาขนมบัง มากินรองท้องก่อน กินๆไปเอะทำไม่ลูกน้องน่าล่ำมามองหน้าล่ะนี้ ไม่ได้สนใจ แต่พออีกทีเขาไปบอกพี่โก ผมเลยเอะใจสงสัยจะกินขนม ผิดเสียแล้วไปกินของน้าล่ำเฉยเลย ทั้งที่จริง เรามากับสวนเรือนแก้ว 555 งานนี้หน้าแตกครับ แต่ผมกับน้าล่ำก็รู้จักกันดีอยู่แล้วครับ เลยไม่แกรงใจแล้วไหนๆก็กินไปแล้วนี้ เลยเลียงๆไปคุยกับพี่โกแก้เขินครับงานนี้ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดอกเปราะป่า จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:13:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ว่าน ร่านทองครับ สรรพคุณ แก้ท้องเสียได้ดี โดยเอาหัวมาทุบผสมเหล้าขาวดื่มครับ หายครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดอกเทียนดอย จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากกินข้าวเย็นกันแล้ว ตบด้วยกาแฟ โอวันติน ต่างก็กลับมาที่เต็นท์ ยังไม่สองทุ่มครับ เข้าเต็นท์หลับกนหมดเลย เหลือผมคนเดียวซิครับ งานนี้ไม่รู้จะคุยกับใครก็เลยต้องเข้าเต็นท์ ดีกว่า นั่งข้างนอกยุ่งเยอะเหลือเกินเดี๋ยวจะมาเป็นไข้เลือดออกกันเสียก่อน พอดึกๆ ฝนเริ่มตกอีก หนักด้วยล่ะครับ นอนไปได้สักพักเอะ ทำไม่หลังเราเปียกๆล่ะนี้ ตกใจตื่น เสื้อเปียกไปแล้วครึ่งตัว ก็น้ำฝนนั้นล่ะครับไหลเข้ามาตามพื้นแล้วซึมเข้ามาในเต็นท์ ต้องเอาถุงนอนมารองแล้วก็นอนต่อ ไปได้งีบเดียวเท่านั้นแหละครับต้องตื่นอีก เพราะเปียกที่กางเกงด้วยครับคราวนี้ ก็ต้องถอดเสื้อถอดกางเกงนอนซิครับ เอาเสื้อกันฝนมาปูรองกันน้ำไว้ แล้วเอาถุงนอนมาห่ม ต้องทนนอนหนาวครับงานนี้ ดีที่ไม่ได้นอนหลายคนงั้นแย่เลยครับ คงมีคนเห็นผมโป๊แน่ครับ กว่าจะเช้าก็สุดแสนทรมาน เย็นมากครับ สุดท้ายต้องเอาเสื้อเมื่อตอนมาใส่แทน พอแห้งๆบ้างทนเอาครับ 6 โมงเช้าน้าธรรมมาปลุก ให้เราไปกินข้าวต้มกันครับ ฝนยังตกไม่หยุดเลยตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้มีข้าวต้มไก่ครับ หลังจากเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันกันแล้ว ผมเข้าไปจัดการยกมาให้เพื่อนๆ แล้วก็แวบๆเข้าไปในครัวไปจัดการมื้อเช้าด้านหลังกับแม่ครัวเรียบร้อยก่อนใครเพื่อน ทุกคนรู้แล้วล่ะครับว่าไม่ต้องรอผมแล้วเพราะเป็นแบบนี้จนเขาจับทางทัน พออิ่มกันดีแล้ว พักย่อย ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิมที่มาเมื่อวานซื้อบัตรซื้อตั๋วเข้าชมความงามกันเป็นที่เรียบร้อย ก็เข้าไปกันครับ เราเริ่มเอาตอน 8 โมง ทางเดินเข้าน้ำตกช่วงนี้เละมาก ยิ่งเจอฝนเข้าไปอีกตั้งแต่เมื่อคืน เดินกันต้องระวังอย่างยิ่งครับ จับกบกันหลายคน ผมต้องคอยเดินหลังสุดเพื่อดูแลเพื่อนที่ช้า ก็พอดีได้ ถ่าย รูปดอกไม้ไปด้วยในตัว เดินกันมาอย่างระวัง ท้ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา ได้ยินเสียงน้ำตกมาแต่ไกลครับ(ที่จริงเราก็ได้ยินตั้งแต่ก่อนถึง ลานกลางเต็นท์ด้วยซ้ำ) ช่วงนี้น้ำเยอะมากครับ เยอะจนน่ากลัว แล้วเราก็มาถึงหน้าน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย นามว่า น้ำตกทีลอซู(คงไม่ต้องบอกน่ะครับแปลว่าอะไร) ถึงตรงนี้แล้วก็ปล่อยให้เพื่อนได้รับเอาบรรยากาศ ความยิ่งใหญ่แห่งสายน้ำ ทุกคนต่างตะลึงกัน กับสายน้ำ มองขึ้นแทบจะไม่เห็นตัวน้ำตก ละอองน้ำปลิวลงมาแรงมาก ที่ไปถ่ายรูปก็ต้องให้เพื่อนกางร่มให้ มุงกันด้วยเสื้อกันฝน ผมก็พยายามเอา ดิจิม่อนตัวเก่งออกมาถ่ายก็พอได้บ้างบางมุม ที่หลบละอองน้ำ (ได้มาเท่าที่เห็นนี้ล่ะครับ)น้องแนนก็อดที่จะลงไปเล่นน้ำไม่ได้ ผมล่ะเชื่อเขาเลย ตอนนั้นน่ะมันหนาวครับ ยังไปเล่นน้ำอีก สงสัยจะเอาให้คุ้มกับความอยากครับ ปล่อยให้เล่นน้ำกันจนหนำใจแล้วเราก็ชวนกลับ ออกมาเอาตอน 10 โมงกว่าๆ ช่วงออกมายิ่งเละมากกว่าเดิมอีกเพราะเพื่อนๆนักเที่ยวเข้าไปกันอีกมากมายเลย กว่าจะผ่านออกมาได้ก็แทบแย่ กล้องของน้องก็มาพังอีกตัว น้ำเข้าล่ะครับ (เอื้องหมายนา ครับ) จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ว่านมหาเมฆ ครับ ลักษณะคล้ายกระเจียว แตกต่างกันตรง ช่วงของกลีบดอก จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดอกเข้าพรรษาครับ จะบานช่วงเทศกาลเข้าพรรษา คนทางภาคเหนือนิยม เอาไปไหว้พระ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดอกนี้ไม่ทราบชื่อครับ จนปัญญาครับ ตำราที่มีอยู่ก้ไม่มี ถามผู้รู้แล้วนี้ก็จนครับ สวยมากครับผมยังชอบเลย จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ออกมาถึงใกล้ 11 โมงแล้วเราเก็บของรวมกันให้คนช่วยแบกออกไป แล้วไปกินข้าวกันเสียเลย เพราะใกล้เที่ยงมากแล้ว ไปกินกลางทางเจอฝนจะลำบาก มาจัดการกับข้าวกล่อง (กระเพราไก่ ไข่ดาว อร่อยสุดๆ) อิ่มกันแล้วเดินทางกลับครับ ใครแรงดีก็ไปก่อน ใครแรงน้อยก็ค่อยๆไป แต่กว่าจะผ่านเนินแรกของขากลับก็เล่นเอา คุณน้องจะเป็นลมเสียแล้วครับ ต้องคอยประคองกันไป ดีที่ฝนเทลงมาทำให้อากาศที่ร้อน เย็นลง เดินสบายกันมากขึ้น เห็นเพื่อนเที่ยวกลุ่มอื่น ที่กำลังกินข้าวกันกลางสายฝนก็อดสงสารไม่ได้ เพราะไม่มีที่จะหลบฝนกันเลย พอผ่านเนินแรกมาได้ หมดทางชันแล้วครับ ที่นี้ก็จ้ำกันใหญ่ ทิ้งสทาฟไว้ข้างหลังเลย ผมน่ะไปเรื่อยๆอยู่แล้ว เพราะต้องเก็บภาพดอกไม้ไปด้วย ใกล้ถึงท่าทรายฝนก็หยุดตกไปแล้ว แต่ทางเดินลงช่วงสุดท้ายนี้ก็แสนจะเละ เดินจับกบกันอีก เรามาถึงที่ท่าทราย บ่าย 2 โมง แล้วเตรียมล่อแพกลับกันครับ ขากลับได้แพยางลำเดิม นายท้ายคนเดิม ผ่าน หินตา ผ่านอีกสองแก่ง คือ มอแกโด่ แก่งกรีด แต่น้ำเยอะมากๆครับเลยแทบจะไม่มีให้เล่นเลย แก่งจมไปหมด ใช้เวลาอยู่บนแพยาง ฟังน้าธรรมโม้อีก สองชั่วโมง ก็มาถึงท่า ปะละทะ ที่นี้ก็ต้องจ้ำทวนน้ำเข้ามาจอดซิครับ ก็มีนายท้าย หัวเรือ แล้วก็ผมเท่านั้นที่มีพาย ที่เหลือก็ให้กำลังใจกันอย่างเดียว กว่าจะจอดแพได้เล่นเอาแขนล้าครับ ถึงฝั่งมีรถมารับพร้อมกับโค้กเย็นๆ แต่กินไม่ได้หรอกครับ แค่นี้ก็หนาวแล้ว มาได้ข้าวต้มมัดค่อยยังชั่ว พอหายหิวได้ครับ นั่งรถสองแถวมาอุ้มผางอีกพักใหญ่ ทางผ่านช่วงดอยหัวหมด ดอกเทียนดอยกำลังบานแข่งกันเต็มดอยไปหมด ใจผมอยากจะจอดถ่ายรูป สักหน่อย แต่สงสารเพื่อนๆครับเหนื่อยกันมามากแล้วคงอยากอาบน้ำพักผ่อน เพราะยังงัยพรุ่งนี้เช้าเราก็มาอยู่ดี(ถ้าฝนไม่ตกหนัก) ถึงสวนเรือนแก้ว ก็ 4โมง ทุกคนก็รีบไปอาบน้ำครับ แต่ก็ต้องทยอยกันเพราะสบู่ มีชุดเดียว ที่เหลือยังมาไม่ถึง กว่าจะอาบน้ำกันเรียบร้อยก็เย็นย่ำแล้ว นัดไปกินข้าวเย็น 6 โมงทุกคนพร้อมไปลุย มื้อเย็นนี้กับข้าวเต็มโต๊ะไปหมด แกงอังเล แกงจืด น้ำพริกอ่อง ปลาราดพริก กินกันพุงกางล่ะครับโดยเฉพาะผม แล้วก็มานั่งที่บ้านพัก พูดคุยกัน แบบพักผ่อนอารมณ์แล้วครับ ที่กินเบียร์ก็กินกันไป ที่โม้ก็โม้ ส่วนคนที่กล้องเสียก็หน้าห้อยอยู่ ต้องปลอบใจกันไป และก็แยกย้ายกันเข้านอน จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กระเจียวครับ มางานนี้หลายสีครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นมันสวยดีครับ ใบไม้แปลกๆ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอา น้ำตกทีลอซู ช่วงน้ำเยอะมาให้ดูครับ น่ากลัว ละอองน้ำกระจายจนมองไม่เห็นน้ำตก จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตื่นมาตอนตี 4 ว่าจะปลุกเพื่อน แต่อย่าดีกว่าครับ ฝนนี้ตกหนักที่เดียว นั่งรอดูท่าว่าจะหยุดหรือเปล่า ไม่มีแววครับ เช้านี้อดไปแน่ ดอยหัวหมด (เย็นวานน่าจะแวะ เสียดายมากครับ) นั่งมองสายฝนจนเช้า ก็ไปปลุกเพื่อน ไปกินข้าวต้มกัน แล้วให้เก็บของเราจะเดินทางกลับ ตอน 8 โมง เมื่อทุกคนพร้อม ผมก็ไปลาน้าสมพรเจ้าของ สวนเรือนแก้ว(ไว้คราวหน้าจะมาใหม่) ขากลับทุกคนตะลึงกับความงามของเส้นทางสาย ลอยฟ้า บ่นอีกว่าตอนมาทำไมไม่เห็น (ก็จะเห็นได้งัยล่ะครับ พากันหลับปุ๋ยอย่างนั้น) เรามาแวะกลางทางที่ หมู่บ้านอพยพเข้าห้องน้ำ แล้วเดินทางต่อ กะไปให้ถึง น้ำตกพาเจริญ ตอนเที่ยงวัน และไปกินข้าวกลางวันกันที่นั้น แวะชมความงามของน้ำตกที่มีชั้นมากที่สุดในเมืองไทยครับ กลางวันนี้ได้ ข้าวเหนียวส้มตำ แซบหลายครับ ไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับน้ำตก จนหนำใจเพราะกล้องกลับมาดีกันทุกคน แล้วก็เดินทางต่อ เราจะไปแวะซื้อของที่ตลาดริมเมยครับ ถึงตอนบ่าย 2โมง ให้เวลาไปเดินซื้อของกัน นัดพบ 4 โมง แต่ทุกคนเดินกันเร็วมากครับ ได้ของติดมือมากันพอสมควร แต่ผมล่ะเยอะครับ เพราะตั้งใจมาซื้อผ้าคลุมเตียง ออกจากตลาด เข้าแม่สอด เพื่อไปกราบเจ้าพ่อพระวอ เจ้าเมืองแม่สอด แล้วเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ช่วงขากลับทุกคนต่างสนุกสนานกับการได้เพื่อนใหม่ แต่แล้วก็เงียบครับ หลับกันหมดเหลือ แต่คนขับกับสทาฟตามเดิม ทุ่มหนึ่งเราก็มาถึงนครสวรรค์ แวะกินข้าวเย็น ซื้อของฝาก (มื้อนี้เราให้ดูแลตัวเองครับ หลังจากกินกับข้าวบังคับมาหลายมื้อ) เสร็จสับเรียบร้อยก็มุ่งสู่เมืองกรุงฯทำหน้าที่กันต่อไปแวะส่งเพื่อนที่หน้า ม.เกษตรเหมือนเดิม และไปถึงปั๊มตอน 4 ทุ่มกว่า ผมก็กลับไปนอนที่หอพัก เช้ารอกลับระยอง หมดหน้าที่ไปครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไผ่ตง จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ที่พัก สวนเรือนแก้ว รีสอร์ท จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 24 น้ำตก พาเจริญ ครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แถมกระเจียวให้ครับ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกดอกล่ะกัน จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 20:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 การเดินทาง -ขับรถไปเอง ตามทางหลวง นครสวรรค์ -กำแพงเพชร -ตาก -เลี้ยวซ้ายเข้าแม่สอด -แล้วไปอุ้มผางครับง่ายมากๆ -ขึ้นรถ บขส. มีของ 999 กับ ทันจิตทัวร์(เก่าสักหน่อย) ราคา 350 เลือกออกสัก 20.30-22.00 น. ถึงแม่สอดมีรถสองแถวมารับ(ถ้าซื้อทัวร์ชาวบ้าน)แต่ถ้าจะไปเอง พอลงรถให้เดินมาหน้า สถานีตำรวจ แม่สอดจะมีสองแถวเข้าไปอุ้มผาง ราคา 100 (นั่งนานมากๆ) ราคาทัวร์ - ไปเองที่อุ้มผาง ราคา 1800-2000 บาทแล้วแต่ต่อรอง -ให้รับที่แม่สอด ราคา 2000-2200 บาทตกลงกันเอง เบอร์รีสร์อทต่าง - กิ๊ฟเฮ้าส์ โทร 0-5556-1181 - แค้มป์สุขเสถียร โทร 0-5556-1227,0-5556-1285 (พวกเดียวกับน้าล่ำ) - ตูกะสู คอทเทจ โทร 0-5556-1295,0-1825-8238(อยู่ในหมู่บ้าน ใกล้อุ้มผางฮิลล์) - ธวัชชัย ทีเจ ทัวร์ โทร 0-5556-1090,0-1839-0461 - บ้านสวนบุญญาภรณ์ โทร 0-5556-1093 - บ้านห้วยน้ำเย็น โทร 0-5556-1092 - บุญช่วยแค้มป์ปิ้งทัวร์ โทร 0-5556-1020 - พี เอ็ม การท่องเที่ยว โทร 0-5556-1059,0-1887-8734 - ภูดอยแค้มป์ไซท์ โทร 0-5556-1049,0-1886-8783 - วีระทัวร์ โทร 0-5556-1293,0-1284-5855 (น้องชายน้าล่ำ) - สวนเรือนแก้ว โทร -05556-1119,0-1886-5226 - อุ้มผางจังเกิลราฟ โทร 0-5556-1247 - บุญล่ำทัวร์ โทร 0-5556-1322,0-1887-0653 (อยู่ นอกหมู่บ้าน บนดอยโน้น) - อุ้มผางฮิลล์ โทร 0-5556-1064 (ผู้กองแดง หรูหน่อยอันนี้ อยู่ติดสะพานทางลงแพ) - อังเกิลทินส์ เคบิน โทร 0-5556-1117,0-5556-1411(อยู่ตรงข้ามผู้กองแดงล่ะครับ) - ทีลอซูริเวอร์ไซท์ โทร 0-5556-1010,0-1862-0533 -เสียงซึง รีสอร์ต โทร 0-5556-1031,0-1267-8361 ที่เคยไปนอนมาก็ สวนเรือนแก้ว กับบุญล่ำ ก็ใช้ได้ครับ การเตรียมตัว - เอาซื้อผ้าไปเปลี่ยน เอาเงินไปครับ อย่างอื่นมีให้ครบ แต่ถ้าใคร รวมกลุ่มเพื่อนๆไม่ได้ ไปจอแจมแล้วก็ยังไม่มี ก็ลองดูที่นี้ครับเป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาคนเดียว http://www.tourdoi.com/trip/theelorsu/trip_oct23-25.htm สนันสนุนการเดินทางครั้งนี้โดย http://www.tourdoi.com/ จากคุณ : นาย วิท - [ 15 ก.ย. 47 21:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวยมักมากเลยยย อยากไปบ้างจังงง..... จากคุณ : Mbeen - [ 17 ก.ย. 47 18:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อยากไปทีลอซูช่วงหน้าฝน (แบบราคานักศึกษา) ใครมีข้อมูลช่วยส่งให้หน่อยนะคะ,nakonsi@hotmail.com,pinkbuf@yahoo.com จากคุณ : nai - [ 13 ก.ค. 48 17:47:21 A:202.90.127.109 X: ]