ความคิดเห็นที่ 1 ผมเข้าใจครับ ให้อภัยกันเถอะครับ จากคุณ : Trogon - [ 18 ต.ค. 47 06:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืมห์.... 1. นกตัวนั้น อยู่มานานแล้ว ก่อนเด็กเกิดเสียอีกมั้ง 2. เด็กคนนั้นน่าจะเคยผ่านการอบรมอนุรักษ์นกมาแล้ว 3. เด็กคะนองแบบไร้จิตสำนึกนอกคอกเพื่อนฝูง 4. สถานที่นั้นอยู่ในเขตอุทยานฯ ที่อยู่ในการดูแลของ เจ้าหน้าที่ 5. นกตัวนั้นเป็นนกหายากระดับชาติ ไม่ใช่นกกระจอก เป็นนกรับแขกของชาวต่างชาติ กับความสูญเสียไป จากเด็กคนนั้น สมควรถูกประนาม ว่า เป็นคนเหี้ยมเกรียมจริงๆ เข้าใจว่าตอนที่โพส คคห.ของ ท่านที่ไม่อยากเอ่ยชื่อนั้น ยังไม่ทราบว่าเป็นเด็ก เข้าใจว่า อาจเป็นพวกนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึก แต่พอรู้ทีหลังว่าเป็นเด็ก ก้อ....เฮ้ออ... ...แต่อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับการจัดคอนเสิร์ตกลางป่า เลยครับ มันไม่เกี่ยวกันกับท่านที่โพสมาว่าคนยิงนกตาย มันจิตใจเหี้ยมเกรียม สงสัยคุณเป็นคนที่มีปัญหาหรือเปล่า ซุ่มไปตามกระทู้ไหนๆ ก็เป็นกระทู้สุดท้ายอยู่เรื่อย เข้าใจไหมว่า...ความรู้สึกของคนที่รักนกตัวนี้เขารู้สึกอย่างไร ..แม้แต่ไข้หวัดนกที่ระบาด ก็ยังไม่สามารถทำให้นกตัวนี้ ตายได้...! นอกจากแก่ตายตามอายุขัย....ไม่มีใครคาดคิด ว่า..นกต้องมาตายเพราะน้ำมือคน ในเขตอุทยานฯ ...เพราะฉะนั้นสำหรับเด็กคนนี้...ถ้าอีก 5-6 ปีต่อไปมันก็ ยังไม่พ้น เป็นคนจิตใจเหี้ยมเกรียม ที่ฆ่านกตัวนี้ได้หรอก มันจะติดตัวเด็กคนนี้ไปจนตายน่ะแหละ... ดูหนังไทยแล้วเจอฉากข่มขืน...มันเป็นไปตามบทที่เขากำกับ คุณจะเอียนหรือจะอินก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ผมอ่านความคิดเห็นของท่านผู้มีเกียรติท่านนี้แล้ว ผมเข้าใจในอารมณ์ของเขา เพราะเขาอยู่เชียงใหม่ อยู่ในสถานที่มีนกตัวนั้นอยู่ เหมือนเป็นบ้านของเขาเอง ผมเองขึ้นดอยอินฯ ก็ต้องแวะเวียนไปเยี่ยมเจ้านกตัวนี้ อยู่เป็นประจำ เพราะฉะนั้นจึงเข้าใจในความรู้สึกเดียวกัน ผมไม่อาจห้ามไม่ให้คุณโพสกระทู้เข้ามาอีกได้หรอก แต่..ขอสนับสนุนว่า..สำหรับคุณในห้องนี้ ควรเป็นกระทู้ สุดท้ายของคุณจริงๆ. จากคุณ : chutima_ao - [ 18 ต.ค. 47 09:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องมันเศร้าค่ะ จากคุณ : tammai - [ 18 ต.ค. 47 11:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องวิถีชาวบ้านนั้นก็เข้าใจนะครับ เพียงแต่เรื่องนี้ดันเป็นวิถีชาวบ้านที่มากระทบกับการอนุรักษ์อย่างรุนแรงไปนิด ผมคิดว่าเหตุการณ์นี้เราสามารถใช้เป็นกระดานหกได้อย่างดี ในการสอนบอกให้พวกเด็กชาวเขาที่นั่นได้รู้จักความควรไม่ควร สถานการณ์เครียดๆที่ผู้ใหญ่รับรู้ย่อมบอกเขาได้ในตัวว่าสิ่งที่เขาก่อนั้นมันร้ายแรงต่อเขา ครอบครัวและชุมชนของเขาแค่ไหน ความควรไม่ควรที่ผมว่านั้น เช่น ในเขตอุทยานห้ามฆ่าสัตว์ อาจไม่ต้องไปลงลึกว่านกตัวไหนหายากหาง่าย หรือเลือกได้ว่าจะยิงนกตัวไหนหรือไม่ยิงนกตัวไหน จะถือว่าเขาซวยก็ได้กระมังที่ดันเกิดมาเป็นชาวเขากลางอุทยาน จะยึดวิถีชาวบ้านเป็นหลักดำรงชีวิตอย่างเดียวก็คงทำไม่ถนัดแล้วละ ผมเองก็โตมาแบบเด็กชาวบ้านธรรมดา เป็นเซียนหนังสติ๊กตัวยงด้วย โตมายังเสียใจต่อนกทุกตัวที่ผมเคยยิงมันเลย จากคุณ : HWAMEI - [ 19 ต.ค. 47 00:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับคุณ Chutima_ao นะ.. ชีวิตใคร ใครก็รัก ต้องฆ่าแกงกันทำไม บาปจริงๆ เป็นชาวม้งแล้วไม่รู้จักคำว่าบาปหรือไร วิถีชาวบ้านพื้นราบ ไม่น่าเอามาเปรียบกับวิถีชาวเขา ที่อยู่ในเขตอุทยานนะ จากคุณ : ตาหยอย - [ 19 ต.ค. 47 02:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วิถีชาวบ้านกับกฏเกณฑ์ของสังคม มันควรจะต้องไปด้วยกัน ถ้าวิถีชาวบ้านบอกว่าถ้าท้องหิว สามารถหยิบยืมเงินของคนอื่นได้ไม่ผิด บ้านเมืองคงวุ่นวาย บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถึงจะอ้างว่าเป็นวิถีชาวบ้าน แต่ถ้าวิถีนั้นมันทำให้กฏเกณฑ์สังคมไม่เป็นที่ยอมรับ ประสาอะไรกับกฏหมายบางข้อที่จะถูกละเมิด ถ้ายิงนกได้เพราะเป็นวิถีชาวบ้าน ก็คงขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ใส่หมวกกันน็อกได้ เพราะเป็นวิถีชาวบ้านแต่เดิมที่ขี่เกวียนไม่ต้องใส่หมวกกันน็อก ถ้าตัดต้นไม้ในเขตป่าสงวนได้เพราะเป็นวิถีชาวบ้าน ก็คงจะปลูกบ้านในเขตป่าอนุรักษ์ได้เพราะไม้ที่ตัดมาจากวิถีชาวบ้าน ไม่ผิดกฏหมายใช่หรือไม่ครับทั่นพู่มีเกลียด จากคุณ : elastic egret - [ 20 ต.ค. 47 22:58:18 A:61.90.30.250 X: TicketID:075031 ]