ความคิดเห็นที่ 1 และผมก้อคิดว่าลูกหาบคงต้องตกงานด้วยคับ แล้วลูกเมียเค้าจะเอาตังค์ที่ไหนมาซื้อข้าวกิน จากคุณ : ไม่เห็นด้วยคนคับ - [ 15 ธ.ค. 47 15:07:56 A:203.144.235.195 X: TicketID:081539 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่สนว่าจะมีหรือไม่มีกระเช้าครับ สนใจแต่ว่าจะทำยังไงถึงจะรักษาสภาพภูฯไว้ไม่ให้ถูกทำลายเหมือนกับอีกหลายๆแห่ง พวกทิ้งขยะไปทั่ว พวกขีดเขียน พวกเปลี่ยนที่กินเหล้า พวกอยากแสดงคอนเสิร์ตกลางป่า ฯลฯ ทำไงให้พวกนี้ไม่มายุ่งกับภูฯได้ อยากให้ภูฯมีการจัดสรรทรัพยากรที่ดีขึ้น ทำยังไงถึงจะทำให้มีน้ำให้นักท่องเที่ยวใช้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องไปเบียดบังจากป่ามากจนเกินไป ทำยังไงจะกำจัดขยะให้ดีกว่านี้ ฯลฯ ถ้าไม่มีกระเช้าแต่ยังมีแรงเดิน ผมก็จะเดินขึ้น ถ้ามีกระเช้าแล้วผมอยากไปดูอะไรข้างบนมากกว่าผมก็ขึ้นกระเช้า ถ้าผมอยากดูอะไรในเส้นทางเดินขึ้น ผมก็เดินขึ้น ถ้าราคาค่ากระเช้ามันแพงจนไม่คุ้ม ผมก็เดินเอา และเพราะผมไม่ได้รักภูฯเพราะมีความสุขที่ได้เอาชนะภูฯด้วยการเดินขึ้นภูฯ กระเช้าคงไม่ใช่สามาระสำคัญอะไร มันเป็นแค่เครื่องอำนวยความสะดวก ตราบใดที่เจ้าเครื่องอำนวยความสะดวกไม่มาทำลายธรรมชาติแล้วก็ไม่รู้จะไปกีดกั้นมันทำไม คอยจับตาให้อย่าให้ไปสร้างกระเช้าด้วยวิธีโง่ๆแล้วทำลายสภาพป่าน่าจะเป็นประเด็นที่น่าสนใจกว่า ก็แค่ความเห็นของคนรักภูฯคนหนึ่งเท่านั้น จากคุณ : CrazyHOrse - [ 15 ธ.ค. 47 15:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่า เดี๋ยวได้เถียงกันมันหยด โดยความเห็นส่วนตัว แม้จะไม่ได้เห็นด้วย 100% แต่ก็ไม่คิดคัดค้าน ด้วยเหตุผลที่ว่า 1. การนำคนขึ้นไปได้ง่ายนั้น ก็นำคนลงมาได้ง่ายด้วยเช่นกัน เคยคุยกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เขาว่าพวกที่ไม่จองไปล่วงหน้านั้น ก่อปัญหามาก ในเวลาใดเวลาหนึ่งเขาอยากจะจำกัดจำนวนคนบนภูให้อยู่ในขอบเขตที่พอรับได้ ก็ทำไม่ได้ เพราะเดินขึ้นมาแล้ว จะไล่ลงไปก็ทำไม่ได้ เพราะป้อแป้กันมาแล้ว ก็ต้องอยู่กันไปเป็นสลัมในช่วงเทศกาล 2. การกำจัดขยะจะทำได้ง่ายขึ้น เพราะขนลงไปทำลายข้างล่างได้ง่าย แต่ในทางกลับกัน ปริมาณขยะที่ต้องทำลายก็อาจจะมากขึ้นด้วยเช่นกัน 3. ธรรมชาติระหว่างทางขึ้นอาจจะบอบช้ำน้อยลง เพราะการใช้กระเช้านั้นแยกคนออกจากธรรมชาติ คนที่อยู่ในกระเช้านั้นได้แต่ดู อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใด สำคัญกว่าประเด็นเรื่องการสร้างกระเช้าหรือไม่สร้างกระเช้าเสียอีกก็คือ การบริหารจัดการอุทยาน ทำอย่างไรถึงจะให้คนเดินกันอยู่ได้ในเส้นทาง แนวทาง และขอบเขตที่ควบคุมได้ ในปริมาณที่ไม่เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติจนยากแก่การฟื้นตัว เคยเห็นอุทยานแห่งชาติในต่างประเทศ (UNESCO ยกให้เป็นมรดกโลกด้วยซ้ำไป) ก็เห็นเขามีกระเช้า และมีทางคนเดินขึ้น ใครใคร่เดินก็เดิน ใครใคร่ขึ้นกระเช้าก็ขึ้น แต่การบริหารจัดการทำได้ดีมาก จากคุณ : นานาทัศนะ - [ 15 ธ.ค. 47 15:23:23 A:161.200.16.33 X: TicketID:074675 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนความคิดผม ผมไม่คิดหรอกว่าจะสร้างหรือไม่สร้างผมเลิกคิดไปนานแล้ว เพราะยังไงมันก็ต้องสร้าง....จบ แต่ถ้าจะให้คิดต่อว่าสร้างแล้วจะเป็นอย่างไร ผมบอกได้คำเดียวเลยว่า "ห่วย" เพราะคนไทยเคยทำอะไรได้ดีบ้าง และคนไทยมีความรับผิดชอบแค่ไหน ผมรู้ผมเองก็คนไทย ไม่ต้องมาว่าผมหรอก บอกหลายครั้งแล้วว่าคนคิดสร้างไม่ได้คิดแค่คำว่า "ขึ้นถึงภูกระดึงหรอก" เขาคิดไปไกลกว่านั้นเยอะ ที่เที่ยวแต่ละที่บนภูฯใช่ว่าเดินใกล้ๆซะเมื่อไหร่ สิ่งอำนวยความสะดวกจะมีตามมาอีกเท่าไหร่ ทุกวันนี้ยังสกัดพวกคนรวยที่เห็นแก่ตัว รวมกับพวก "อะไรๆgooก็จะเอาแต่สบาย" พอได้เพราะพวกนี้ไม่ยอมเหนื่อยเดินขึ้นภูหรอก แต่พอมันขึ้นไปได้อะไรจะเกิดขึ้น ต้องสร้างห้องน้ำ รีสอร์ท หรือว่าร้านสะดวกซื้อดี เอาวินรถสองแถวพาไปผาหล่มสักเลยไหม พอเหอะ........ ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] - [ 15 ธ.ค. 47 15:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จะสร้างไม่สร้าง ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่คน สร้างแล้ว กลายเป็นซอยนานาบนเขาก็ไม่เอาอ่ะ แต่ถ้าสร้างแล้วยังเหมือนเดิมก็มิเห็นเป็นไร จากคุณ : นั - [ 15 ธ.ค. 47 16:09:03 A:61.91.154.218 X: TicketID:002748 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ comment 2 เราเห็นด้วยมากๆเลยค่ะ เพิ่งไปมาเมื่อวันที่ 10 ธันวานี้เอง เห็นชัดเลยว่า คนที่ขึ้นไปบนภู ไม่ได้มีความรักในธรรมชาติกันซักเท่าไหร่ เพราะพอขึ้นไปถึง พวกเต๊นท์รอบข้าง เรา เค้าเอาแต่กินเหล้า แล้วก็ร้องเพลง จนเจ้าหน้าที่ประกาศหมดเวลาแล้ว ก็ยังมานั่งจีบกันร้องเพลงเสียงดังโดยที่ไม่เกรงใจ"เจ้าของสถานที่" (พวกนี้เราว่ากลับไปพวกเค้าต้องมีเหตุแน่ เพราะภูกระดึงมีเจ้าของ และไม่ใช่แค่ 1 ด้วย) ไม่เกรงใจคนที่พักอาศัยใกล้เคียง แถมพวกกินเหล้าก็มาอาเจียนเสียงดัง สร้างความสกปรกให้กับจุดกางเต๊นท์อีกด้วย นอกจากนั้นพอเช้ามา เราเดินไปที่โรงอาหารหกับพี่ชาย ระหว่างทาง เจอเศษขวดเบียร์แตกอยู่ข้างเต๊นท์ หลายจุด พ่อเราบอกว่า คนพวกนี้ เป็นพวกไม่มีวัฒนธรรม ไม่คิดถึงคนที่จะมาพักหลังจากพวกเค้า เรากเห็นว่าจริง อยากใช้คำว่า สันดานหยาบเลยล่ะ นี่ขนาดไม่มีกระเช้า ถ้ามีกระเช้าเมื่อไหร่ คงเละมากกว่านี้อีกเยอะเลย เสียดายเราอยู่แค่คืนเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว เพราเต๊นท์รอบข้าง เป็นอย่างที่บอก ไม่มีความเกรงใจ พวกเรานอนกันไม่ได้ เราก็เลยลงมาหารีสอร์ทนอนข้างล่าง กะว่าถ้าไปอีกคงจะไม่ไปช่วงวันหยุดเทศกาลแล้ว จะได้เที่ยวได้สบาย ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ เสียดายที่อุตส่าห์ขับรถไปตั้งไกล จากคุณ : InMyDream - [ 15 ธ.ค. 47 16:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เจ้าของกระทู้ ต้องเป็นพวกที่ 3 แน่ๆ คือ ไม่มีตังค์จ่ายค่ากระเช้า แล้วอิจฉา 555 จากคุณ : สบายดีจัง - [ 15 ธ.ค. 47 16:18:31 A:203.121.178.50 X: TicketID:072950 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กระทู้ล่อเป้า.....เอ๊ย... กระทู้ขวางโลก  หรือกระทู้ชวนคนตีกันแก้เซ็งครับ  บอกไว้แล้วตั้งแต่ต้น  อย่าซีเรียส คุณ คคห.4 ครับ  ถ้าคุณคิดว่า คนไทยมัน"ห่วย" เพราะไม่เคยทำอะไรได้ดี  แล้วคุณเป็นคนไทยด้วยไหมครับ       ตั้งใจด่าตัวเองด้วยหรือเปล่า   ขอบอกว่า คนเห็นแก่ตัว มันได้มีแต่เฉพาะคนรวยหรอกครับ   หรือถ้ารวยแล้วต้องกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว  มันก็ไม่ใช่เสมอไปหรอกครับ      คนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ คนไร้การศึกษา  คนไร้สำนึก   ฯลฯ  มันก็จะเป็นคนเห็นแก่ตัวกันได้เช่นกัน ครับ ขอต่อ ความเห็นแบบบ้าๆ บวมๆ ข้อ 4. ต่อจากหัวข้อกระทู้อีกครับ 4. นักท่องเที่ยวประเภทคนชรา คนที่ไม่เคยขึ้นภู   คนที่อยากขึ้นภูแต่ไม่มีปัญญาจะขึ้น เพราะบ้อลัด   หรือ ใจไม่ถึง   ก็จะได้โอกาสร้อง ฮ้อ...หอเจี๊ยะ..  ว่า ครานี้เป็นทีของพวกตูบ้างแล้ว ที่จะได้มีโอกาสขึ้นไปชื่นชมความงดงาม หรือสัมผัสอากาศแบบยุโรป โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงสวิตเซอร์แลนด์ ให้เมื่อยตุ้ม  เพียงแต่จ่ายเงินแบบโลว์คอสท์ไม่ถึงห้าร้อยบาท แป๊บเดียวก็เสียวได้แล้ว  โธ่..อย่าคิดมากน่าครับ  นั่งกระเช้าขึ้นที่สูงๆ ที่ไหนๆในโลกคนนั่งมันก็เสียวด้วยกันทั้งนั้นแหละน่า  หรือใครว่าไม่จริง คราวนี้ แหละ จะได้เห็นข้อเท็จจริงกันซะทีว่า  พวกนักท่องเที่ยวประเภทแรกที่อ้างว่ารักภูจนน้ำลายไหลน่ะ เปรียบเทียบกะพวกที่จัดอยู่ในประเภทที่กล่าวในข้อ 4 นี้  ใครมันจะมีจิตสำนึกในการดูแลธรรมชาติ หรือใครมีสันดานในการทำลายธรรมชาติมากกว่ากัน คคห. 3 มองเห็นตรงจุด ตรงประเด็นเลยครับ กระเช้า จะแยกคน จากธรรมชาติ ในช่วงหนึ่ง จากตีนภู ขึ้นหลังแป หรือถึงที่ทำการข้างบนเลย  ช่วงนี้และครับ ที่ไอ้พวกเวรตะไลทั้งหลายมันมีโอกาสทำลายธรรมชาติระหว่างทาง ในขณะที่แห่กันเดินขึ้นไปได้มากที่สุด โดยที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถควบคุมหรือดูแลได้อย่างทั่งถึง   แต่ช่วงขณะอยู่บนบน table land หรือบนหลังภูนั้น เจ้าหน้าที่ของอุทยาน ยังจะมีความสามารถที่จะดูแลควบคุมนักท่องเที่ยวได้มากกว่า แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 18:10:58 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 16:51:22 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 16:41:01 จากคุณ : AQUANAUTS - [ 15 ธ.ค. 47 16:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยในการสร้างกระเช้า ขอออกความเห็นอีกแง่ครับ ถ้าการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติสามารถไปได้โดยง่าย ความน่าสนใจขอแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆก็จะลดลงไป เช่นถ้าเราสามารถขับรถไปเที่ยวผาหล่มสักแล้วกลับได้ ภายในวันเดียว มนต์ขลังของผาหล่มสักคงเหลือเท่ากับ ทุ่งทานตะวันหรือเขาใหญ่ แต่ถ้าทุ่งทานตะวันหรือทุ่งดอกกระเจียวต้องใช้การเดินเท้า ถึงสองวันจึงจะเข้าถึงได้ ความงามหรือมนต์เสน่ห์ก็คงไม่ด้อยไปกว่ากระดึงหรือภูสอยดาวในปัจจุบัน..... จากคุณ : เตกีล่า - [ 15 ธ.ค. 47 17:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จาก คห.3 ข้อ 1.ถ้าเจ้าหน้าที่อยากจำกัดจำนวนทำไมไม่ทำซะตั้งแต่ข้างล่างละครับ คนที่จองไว้แล้วเท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้ ข้อ 2. กระเช้าทีจะสร้างมีกระเช้าสำหรับขนขยะด้วยหรือเปล่า หรือมีแต่กระเช้าขนคน ถ้าไม่ จะเอาขยะใส่กระเช้าขนคนลงมาหรือเปล่า ข้อ 3. แล้วคิดถึงตอนก่อสร้างหรือเปล่า แล้วเส้นทางหลังจากลงกระเช้าแล้วล่ะ ถ้าพูดถึงการจัดการ ถ้ายังจำกัดจำนวนคนขึ้นภูไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นแล้วครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 15 ธ.ค. 47 17:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เปิดกระทู้เพื่ออะไรเนี่ย...ถามจริงๆ แต่อยากชวนมากัดกันก็ได้หรอก ยังไงเราก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี เพราะยังไม่รู้เหตุผลจริงๆในการเอาเงินไปลงทุน ต้องการขนคนขึ้นไปเยอะๆ? ต้องการรักษาธรรมชาติระหว่างทาง? ต้องการควบคุมคนขึ้นลง? ไม่เห็นมีมาตรการจะควบคุมอะไรเลย มันไม่ใช่ประเด็นว่าคนที่ขึ้นไปมีคุณภาพหรือไม่ มันเลือกไม่ได้ จะคนเดินขึ้น คนนั่งกระเช้าขึ้น มันก็มีชั่วมีดีปนกันอยู่ดี แต่ค้านเพราะว่า ยิ่งจัดกระเช้านำคนขึ้นไปให้ได้มากขึ้น จำนวนคนเลวๆก็เพิ่มขึ้นแน่นอน คิดว่า จำนวนคนเดินขึ้นวันละ 10 คน เป็นคนเลวๆซะ 3 คน แล้วพอมีกระเช้า มีคนขึ้นไปสักวันละ 50 คน เป็นคนเลวๆสัก 15 คน แค่คิดมันก็แย่แล้ว... การควบคุมทำไมจะทำไม่ได้ บอกว่าเดินกันขึ้นไปแล้วจะไล่ลงก็ไม่ได้ ทำไมไม่ควบคุมจำนวนด้านล่างล่ะ ทำได้นี่ ยังไงทุกคนก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอยู่แล้ว อยู่ที่การต้องการควบคุมหรือไม่ต่างหาก ถ้ามีกระเช้าแล้วจะควบคุมอย่างนั้นเหรอ มีใครออกมาบอกบ้างมั๊ยว่า จะควบคุมจำนวนคนที่ขึ้นแออัดกันบนนั้นอย่างไร คนเดินข้างถนน ขึ้นรถเมล์ เดินปอกเปลือกส้มทิ้งพื้นก็มี คนนั่งรถกะบะ กินส้ม โยนเปลือกทิ้งถนนก็มี คนนั่งรถเบ๊นซ์ ก็อุตส่าห์กดกระจกไฟฟ้า ทิ้งเปลือกส้มก็เคยเห็น คนเลวๆไม่จำกัดหรอกว่าเป็นระดับไหนชั้นไหน แค่ควบคุมให้ได้ก็พอ จากคุณ : notmai - [ 15 ธ.ค. 47 17:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ย้ำอีกครั้ง กระทู้ขวางโลก โปรดอย่าซีเรียส copy รูปมาจาก E3178207 แบบนี้เลยใช่ไหมครับ แฟนพันธุ์แท้ ผู้รักธรรมชาติ รักภูกระดึงจนน้ำลายไหล จากคุณ : AQUANAUTS - [ 15 ธ.ค. 47 18:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 copy ภาพของคุณหนึ่ง จาก E3178207 มาอีกเช่นกันครับ ฮิ ๆ เห็นคนรักธรรมชาติ รักภูกระดึง แบบเนี้ยนะ หายหนาวเลยครับ จากคุณ : AQUANAUTS - [ 15 ธ.ค. 47 18:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมขึ้นช่วงนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 18:59:36 จากคุณ : siranuchit - [ 15 ธ.ค. 47 18:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากถามแบบคนขวางโลก ในกระทู้ขวางโลกนี้อีกเหมือนกันว่า พวกที่ชอบปีนภู ที่โวยวายแบบไม่อยากให้สร้างกระเช้าเนี่ย รักภูกระดึงมากกว่าใครๆกว่าพวก ที่เขาอยากให้สร้างเลยใช่ไหมครับ พวกนี้มีจิตสำนึก สูงส่งกว่าพวกที่อยากให้สร้างด้วยใช่ไหมครับ แล้วภูกระดึงเนี่ย พวกนี้จะหวงเอาไว้ชื่นชมดูเล่นกันกลุ่มเดียวด้วยเลยใช่ไหมครับ สร้างหรือไม่สร้าง ถ้าคุมไม่ได้ ผมว่า มันฉิบหายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันหรอกครับ ตอนนี้ ก็เปลี่ยนตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ แบบฟ้าผ่าไปแล้วนี่ หวังว่า คนใหม่คงมีอะไรๆที่มันใหม่กว่าเดิมด้วยก็แล้วกันครับ จากคุณ : AQUANAUTS - [ 15 ธ.ค. 47 18:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แบบนี้ครับ จากคุณ : siranuchit - [ 15 ธ.ค. 47 18:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สร้างกระเช้าใครได้ประโยชน์... ถามแค่นี้ก่อนครับ สี่ร้อยกว่าบาทไม่ใช่น้อยนะครับสำหรับคนบางคน เอาเงินสร้างกระเช้าไปพัฒนาอย่างอื่นดีกว่า จากคุณ : siranuchit - [ 15 ธ.ค. 47 18:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 และอีกอย่างภูกระดึงมีความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละกี่คนครับ มีห้องน้ำกี่ห้อง ร้านค้ากี่ร้าน เจ้าหน้าที่กี่คน แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 18:59:00 จากคุณ : siranuchit - [ 15 ธ.ค. 47 18:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมขึ้นภูครั้งแรกใช้เงินไม่ถึงพันบาท ถ้ามีกระเช้าได้แค่ค่ากระเช้าครับ จากคุณ : siranuchit - [ 15 ธ.ค. 47 18:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขึ้นครั้งแรก ปีแรก ก็ประทับใจ และเศร้ามาก เพราะดินโคลนถล่มทับ เพื่อนนิสิตร่วมสถาบันเสียชีวิต.....เนื่องจากเป็นปลายเดือนตุลาคม หลังฝนใหม่ๆ .ถ้าใครยังจำได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 โน่น ได้ปีนภูต่อมาอีก 2 ครั้ง รวมเป็นสามครั้ง ตอนอายุ สามสิบกว่า และ สี่สิบต้นๆ ตั้งใจว่า ปีหน้า อายุห้าสิบกลางๆพอดี จะปีนอีกครั้งนึงครับ ถ้าไม่ตายซะก่อน ขึ้นเลขหก เมื่อไหร่ ขอนั่งกระเช้าดีกว่าครับ เพราะเจียมสังขารแล้วไม่งั้น ลมแด๊กอยู่ที่ตีนภูหรือซำแฮกแน่นอน จากคุณ : AQUANAUTS - [ 15 ธ.ค. 47 19:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาอ่านเฉยๆ ไม่มีความเห็น แต่ก็อด จขกท. ใน คห. 20 ไม่ได้ ลมแด๊ก นึกภาพลุงได้ เลยฮับผม จากคุณ : เป็นได้แค่ในฝัน - [ 15 ธ.ค. 47 19:51:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ คงต้องสร้าง ควบคุณได้ไหม อืม ก็น่าจะอยู่ที่นโยบาย แต่ไม่ต้องกลัว เสียงข้างมากอยู่แล้วประชาชนให้การสนับสนุน แล้วเรารู้ตัวผู้บงการแล้ว (ได้ยินพูดประจำ เดี๋ยวก็ตามด้วยแหลมผักเบี้ย) จิตสำนึก อืม คงยากเพราะแค่ปกตินี่ก็ไม่ค่อยสำนึก ทำลายธรรมชาติ อืมไม่มีกระเช้าก็ทำลายอยู่แล้ว มีทางให้เดินก็ไม่เดิน ชอบลัดกันเออ แล้วขยะก็เกลือน จะพังกว่าเดิมไหม อืมก็เป็นหลักธรรมชาติ มันต้องเสือมไปตามเวลา เราเพียง ชะลอให้ช้าเท่านั้น อีกอยากพอตายไปเราก็ไม่รู้แล้ว ชาวบ้านตกงาน อืม อันนี้ก็คงเป็นไปตามกลยุทธ สู้รากหญ้า เปลี่ยนไปทำงานเป็นลูกจ้าง SME พวกโอทอปแทน กำลังส่งเสริมอยู่ คงเป็นแผนย้ายแรงงานแน่ๆเลยอืม ขาดเสนห์ไหม อืมผมว่า ไม่นะ เพราะน่าฝน ผมว่าน่าเที่ยวมากกว่าอีกแต่ทากคงเยอะ คงมีคนมาเสี่ยงน้อย(แฟนผมโดนกัดร้องใหญ่เลย) แต่เออ ก็น่าจะขาดเสนห์นะ แล้วหนุ่มๆ จะช่วยสาวๆยังไงละ ถ้ามีกระเช้า เอออดเป็นสุภาพบุรุษเลย ไหนๆก็ห้ามไม่ได้แล้ว ก็คิดแต่เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นดีกว่า หรือคิดว่าเราจะช่วยกันอย่างไร ผมว่านะน่าจะรวมตัวกันเป็นพลังบ้าง อย่างๆน้อยก็พลังปปลอบใจกันว่าไหม ตอบแบบไม่ซีเรียสแบบเจ้าของกระทู้บอก จากคุณ : รพิณ (รพิณ) - [ 15 ธ.ค. 47 21:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอให้คิดถึงระบบนิเวศน์ และระบบธรรมชาติ ที่มันเป็นไป ทุกวันนี้ก็แย่อยู่แล้ว จะทำอะไรขอให้คิดให้ดีๆก่อนนะครับ เพราะหลายอย่างที่ทำไปแล้ว เกิดความเสียหายขึ้นภายหลัง แล้วไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ให้เหมือนเดิมได้อีก จากคุณ : น้ำเชี่ยว...ไหลลึก - [ 15 ธ.ค. 47 21:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คนที่มีเงินเป็นตัวตั้ง เขาก็คงเตรียมโปรเจคต์อะไรต่อมิอะไรไว้ปั๊มเงิน ให้สอดคล้องกับการมีกระเช้าและการเพิ่มจำนวนคนแน่ เรื่องวินรถนั่นนะใช่เลย ประเด็นนักท่องเที่ยวไร้คุณภาพน่าสนใจครับ ม้นน่าจะถึงเวลาที่กรมอุทยานต้องจัดระเบียบทุกอุทยานในเรื่องนี้เสียที ไม่ว่าจะมีกระเช้าหรือไม่มีกระเช้าก็เละจากคนพวกนี้พอกัน อันนี้เห็นด้วย แต่ผมก็รู้สึกว่าการมีกระเช้า มันมีนัยเชิงสัญลักษณ์ หมายถึงความพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายที่อยากหาผลประโยชน์กับภูกระดึง แล้วทุกอย่างบนนั้นก็จะพังทลายไปเรื่อยๆ ตามความตะกละของคน จากคุณ : HWAMEI - [ 15 ธ.ค. 47 22:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทุกอย่างใน โลกนี้ ต้องมี การพัฒนาไปใน ทางที่ดีขึ้น ผมเห็นด้วย กับ การสร้างกระเช้า เพราะต้องรอบรับ กับ ปริมาณ และ ความต้องการ ของ นักท่องเที่ยว ที่มีมากมาย และ เสียเวลา เหยียบ ย่ำ ป่า กันจน พัง เป็น แถบ ๆ นักท่องเที่ยว ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ รวมถึง ตัวผมเอง อยากให้ คนน้อย ๆ จะได้ รู้สึก เหมือน ทุกอย่างเป็นของเรา ไม่ต้องเข้าคิว รอถ่ายรูป รอห้องน้ำ แต่ ทุกวันนี้ ช่วงหน้าเทศกาล ก็ เป็นแบบนี้ มาไม่รู้ กี่ปี กี่ชาติ การไป ยาก หรือ ง่าย แล้วแต่จะคิด เพราะ ถ้าไม่อย่างนั้น เรา เดินขึ้น ดอยสุเทพ ก็ได้ แต่ทำไม ถึง เลือก นั่งรถขึ้นไป คนมากมาย ไป เที่ยว ดอยตุง วันละหลายพันคน ขึ้นมา เพื่อ ชื่นชม ความงาม ของสวน แม่ฟ้าหลวง และ ตำหนัก ดอยตุง ผมเบื่อ กับ พวกนักอนุรักษ์ ภูกระดึง จน น้ำลายไหล พวกนักท่องเที่ยว โลโซ กินเหล้า แหกปากร้องเพลง มีแรง แต่ไม่ค่อย มีเงิน หรือ เรียกว่า ชนชั้นแรงงาน แน่จริง ทำแบบ คลับเมด ไปเลยดีไหม จำกัดคน เหมือน หาดส่วนตัว คนนอก ห้ามเข้า ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ แต่ การสร้าง กระเช้า เพื่อ ขึ้น ภูกระดึง เป็นการ ทำให้ พวก อยากมี โลกส่วนตัว ต้องเสีย โอกาส ไป เพราะ จำนวน นักท่องเที่ยว จะมีวันละหลาย ๆ พันคน ทำให้ ดูวุ่นวาย แต่ถามว่า ถ้าคนเหล่านี้ เป็นนักท่องเที่ยวแบบ ขึ้นมาถ่ายรูป ดูวิว สัมผัส อากาศเย้น ๆ แล้ว ลงไป นอน ข้างล่างให้ หมด เหมือน กับ อ่าว มาหยา ที่ พี พี สมัยก่อน ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ก็รู้สึก ส่วนตัว บรรยากาศ เงียบสงบดี แต่ พอทัวร์ หรือ เป็นที่รู้จัก คนเยอะ ก็ ไม่ค่อยชอบกัน แต่สำหรับ ภูกระดึง ถ้าในความคิดของผม จังหวัด เลย จะมี รายได้ จาก กระเช้ามากมาย ด้านล่าง ภูกระดึง สามารถ สร้างโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ จำนวนมากมายได้ การขึ้นไปเที่ยว บนภู ไม่ให้ นอนค้างที่นี่ อีกแล้ว ใครจะไปเที่ยวที่ไหน นั่งกระเช้า ขึ้น ตอน ตี 3 ตึ 4 แบ่งเป็น กรุ๊ป ต้องจอง ล่วงหน้า ทำเป็นระบบ ต้องยอมรับความจริงที่ว่า น้ำขึ้นต้องรีบตัก เงินที่ได้ จาก การมาของนักท่องเที่ยว จะทำให้ มีเงิน ไป พัฒนา ปรับปรุง เรื่องน้ำ ประปา ห้องน้ำ ให้สะอาด อาหารให้ถูกสุขลักษณะ ทำทางเดิน ให้เป็นมาตรฐาน ไม่ไป รบกวน ป่า และ สามารถทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญของ อีสาน และ เที่ยวได้ ตลอดทั้งปี ทุก ๆ วัน ถ้ารัฐบาล ทำไม่ได้ ให้เอกชน เข้ามาลงทุน ผมเชื่อ แน่ว่า ภูกระดึง คงจะสวย และ ดี กว่านี้แน่นอน ดีกว่า ปล่อยให้ พวก บ้าบอ กับ คำว่า ข้าคือ ผุ้ พิชิต ภูกระดึง ต่อต้านแต่ ทำอะไร ไม่ได้ เหมือน พวก ต่อต้านเขื่อน แต่ พอ น้ำท่วม เงียบ ไม่ออกมาพูดเลย ถามจริง ๆ เถอะ พวกคนแก่ หรือ เด็ก ๆ ที่ ขึ้น เพราะไม่มีทางเลือก ลองมี กระเช้า อยากจะรู้ว่า มีใครยังอยาก ปีน อีกบ้าง ผมเชื่อ แน่ว่า ต้องมี คนเข้ามา ต่อว่าผมอีกแน่นอน แต่นี่คือ หนึ่งความคิดของผม ผมเชื่อว่า การที่คนจำนวนมาก ๆ มาสัมผัส ภูกระดึง ด้วย สายตา และ ถ่ายรูป ใช้เวลาแค่ วันเดียว เพราะขึ้นลง ง่าย รวดเร็ว รองรับ จำนวนคนใน ชั่วโมง เร่งด่วนได้ เหมือน รถไฟใต้ดิน คงจะทำให้ ภูกระดึง มี การพัฒนา อย่าง ยั่งยืน ไม่เหมือน ทุกวันนี้ ที่ สภาพ อย่างใน รูปที่เห็น จากคุณ : เฮงจิมิน - [ 15 ธ.ค. 47 22:43:07 A:203.156.78.18 X: TicketID:016973 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับคุณHWAMEI ว่าอย่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง ทุกวันนี้เรามักจะทำอะไรโดยเอาเงินเป็นตัวตั้ง อย่างอื่นไว้ทีหลัง เพราะอย่างนี้ผมจึงเห็นวัฒนธรรมและระบบธรรมชาติที่ถูกทำลายลงไปเพราะเราเอาเงินเป็นตัวตั้ง ตัวอย่างง่ายๆที่เห็นคือที่ดอยปุยและดอยสุเทพ จากคุณ : น้ำเชี่ยว...ไหลลึก - [ 15 ธ.ค. 47 23:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่เคยไปครับ เข้ามาอ่านเหมือนกัน รูปที่คุณหนึ่งเอามาโพสท์ หากผมไปผมชอบนะ เพราะว่ามันได้บรรยากาศคนเยอะๆ คงได้เพื่อน ๆ สนุกดีอ่ะครับ จากคุณ : พุงป่อง-ท้องหกเดือน - [ 16 ธ.ค. 47 04:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถึงจะมีกระเช้าหรือไม่ก็ตาม การเพาะบ่มจิตใจของนักท่องเที่ยวควรจะเป็นประเด็นหลัก สิ่งที่ควรทำตั้งแต่ตอนนี้ที่คิดได้ก็มี - ก่อนขึ้นภู หรือ เข้าอุทยานแห่งชาติก็ให้มีการ brief สัก 15-30 นาทีกันก่อนเป็นชั้นเรี่ยนเลยครับ ว่า จะต้องปฎิบัติตนอย่างไรระหว่างที่อยู่ในพื้นที มีพื้นที่ไหนที่ควรจะไปดูที่เหมาะสมกับความต้องการของคนแต่ละกลุ่ม ความปลอดภัยระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ การอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ กำหนดเวลาที่จะต้องไม่มีการส่งเสียงดังเพื่อที่จะไม่รบกวนคนอื่น ฯลฯ ถ้าเคยไปเที่ยวฟาร์มโชคชัยก็พอจะเห็นเป็นแนวทางได้ครับ ว่าเค้าทำกันยังไง คิดว่าน่าจะมาปรับใช้กันได้ อ้อแล้วต้องไม่ลืมบอกบทลงโทษต่างๆใว้ให้ด้วย - ถ้าทำอย่างข้างบนที่ว่าถ้าคนไปเยอะก็จะเกิดคอขวดที่นี่ แต่ก็คิดว่ายังดีกว่าให้ไปยำกันเองข้างบนโดยไม่มีความรู้ความเข้าใจในการท่องเที่ยวพื้นที่ที่เปราะบาง หรือไม่ก็อาจจะทำกันก่อนที่สำนักงานของอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในตัวเมืองกันก่อนก็ได้ และนำเอกสารยึนยันไปแสดง - จำกัดการนำ หรือ ไม่ก็ห้าม การนำของมึนเมาเข้าไปในเขต ลองดูอย่างที่น้ำตกเหวนรก เค้าจะไม่ให้นำเข้าไปเขตทางเดินเข้าน้ำตกเลย แต่จะให้ทานกันที่ร้านอาหารกันก่อน ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เราก็สามารถจะกำหนดเวลาในการขายหรือให้กินได้ - ผมเห็นด้วยในการจำกัดจำนวนคนที่จะพักบนภู โดยมีการสร้างที่พักไว้เชิงภูสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว - เราควรจะสอนลูกหลานเราให้มีจิตใจในการที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติ เริ่มที่ครอบครัวเราก่อน ค่อยๆทำกันครับ เด็กวันนี้จะได้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า ครอบครัวเราจะคอยสอนเด็กๆ เสมอในเวลาไปเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ - สื่อสารมวลชนต่างๆ ก็ควรจะมีหน้าที่ในการสร้างจิตสำนึกในวงกว้างนะครับ เช่นการนำเสนอ(ประจาน) คนที่ไปเที่ยวและได้รับการ brief แล้วแต่ยังทำสิ่งไม่ดีต่อพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ***ถ้าล้มเค้าไม่ได้ก็ต้องเอาเค้ามาเป็นพวกซะ*** จากคุณ : XYLON - [ 16 ธ.ค. 47 08:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 นับถือ เจ้าของกระทู้ครับ ตรงใจมาก รักภูจนน้ำลายไหล จากคุณ : น้องเบียร์ - [ 16 ธ.ค. 47 09:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จขกท. จะสนับสนุนหรือต่อต้่านมันก็สิทธิส่วนบุคคลครับ ว่ากันไปตามเหตุตามผล แต่ที่คุณโพสอย่างนั้นมันเข้าข่ายเหน็บแนม เสียดสีเลยทีเีดียว ผมต่อต้่านไม่ใช่เพราะไม่ต้องการให้คนที่ไม่มีโอกาสได้ขึ้น แต่ต่อต้านพวกไม่มีวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นไปต่างหาก แม้มันจะไม่ตรงประเด็น แต่อย่างน้อยก็เป็นการชลอหรือยับยั้งเพื่อให้ธรรมชาติได้มีโอกาส พักฟื้นบ้าง เพราะอย่างน้อยความยากลำบากก็ยังทำให้พวกที่ต้องการเพียงความสะใจ เปลี่ยนสถานที่กินเหล้า พวกทิ้งไม่เลือกที่ พวกส่งเสียงฮาป่า ได้คิดว่าจะคุ้มหรือไม่กับการที่ต้องพยายามปีนป่ายแลกกับสิ่งที่ตัวเองจะกระทำ แต่หากเรามีวิธีการจัดการที่ดีกับพวกนี้ได้ บวกกับการจัดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มีการควบคุมปริมาณคนในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมก็คงไม่มีใครคัดค้าน และเป็นการไม่ถูกต้องที่บอกว่าเมื่อสร้างกระเช้าเสร็จแล้วพวกรักธรรมชาติจนน้ำลายไหลจะเดินขึ้น หรือขึ้นกระเช้าผมว่าคุณมองโลกแคบไป เป็นการไม่ควรที่คุณจะพูดแบบนั้น เพราะที่เขาค้านเขามีเหตุผลดังกล่าวที่ว่า ในทางกลับกันถ้าผมหรือเขาเหล้่านั้นรับผิดชอบไม่ขึ้นกระเช้าที่สร้างเสร็จ แต่สมมติว่าไม่มีการจัดการที่ดีหลังสร้างกระเช้าเสร็จจนเป็นเหตุให้ภูกระดึง สูญเสียไปแล้วผมอ้างว่าพวกสนับสนุนให้สร้างกระเช้ารับผิดชอบบ้าง แล้วคุณจะทำอย่างไร คุณรับผิดชอบไหวหรือ ภูกระดึงไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของคนทั้งชาติครับ ุ จากคุณ : อเนก - [ 16 ธ.ค. 47 11:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรียน คุณ เอนก ครับ เห็นด้วยครับว่า ใครจะต่อต้าน ใครสนับสนุน การสร้างกระเช้าก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขาครับ ผมไม่ว่ากัน ส่วนผมจะคิดอะไรบ้าๆบวมๆ แล้วมาแสดงความเห็นก็สิทธิของผมเช่นกัน ส่วนใครจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะเข้ามาด่าผม ผมก็ไม่ว่ากันนี่ครับ อยากจะบอกว่า เอียนกับพวกที่ชอบทำตัวเป็นนักอนุรักษ์ กำมะลอ แสดงความรักธรรมชาติจนน้ำลายไหล (ผมชอบใช้สำนวนนี้มานานแล้ว) ทำตัวในทำนองชอบอ้างสิทธิหรือเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทรัพยากรณ์ธรรมชาติซะแต่ผู้เดียว คิดว่าคนอื่นที่ไม่เคยเที่ยวไม่เคยไปนอนอุทยาน น่ะเป็นพวกไม่มีสำนึกซะละมั้ง ผมน่ะเที่ยวป่าเที่ยวเขา มาตั้งแต่ปี 2504-05 ไปอุทยานเขาใหญ่ตั้งแต่ได้รับการจัดตั้งเป็น อช.แห่งแรกของไทย และเป็นหนึ่งในห้าของโลก ในสมัยนั้น (ตั้งแต่ อ.ไพโรจน์ สุวรรณกร เป็น หัวหน้าอุทยานฯ) ทุกวันนี้ ผมก็ยังนอนเต๊นท์เหมือนเดิม เห็นมาเยอะจนแทบอ้วกแล้วครับว่า แท้ที่จริงแล้ว ไอ้พวกที่จะทำลายธรรมชาติ ในอช.นั้น ก็คือพวกที่ได้เคยไปเที่ยวและไม่มีสำนึกนี่แหละนี่แหละ ส่วนพวกที่ยังไม่เคยไปนั้น ผมก็ไม่เคยคิดว่า ทุกคนนั้น หากเขาได้มีโอกาสเข้าหรือขึ้นไปบ้างแล้ว เขาจะเข้าไปทำร้ายธรรมชาติเหมือนพวกเวรตะไลบางคนที่ชอบแสดงตัวเป็นผู้พิชิตความโหดความสูงอะไรทำนองนั้น ดังผมเห็นมาแล้วอยู่บ่อยๆ มันอยู่ที่สันดานของแต่ละคนมากกว่าครับ ที่สำคัญ ผมไม่เคยคิดว่า อช. เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คนไทยทุกคนมีสิทธิได้เข้าไปเที่ยว และผมก็ไม่เคยอ้างว่า ผมรักธรรมชาติซะจนแทบจะดิ้นตาย หรืออ้างว่า ธรรมชาตินั้นมันเป็นของกลุ่มผมแต่ผู้เดียว คนอื่นๆจะมารักมาชื่นชมบ้างไม่ได้ ที่ผ่านมา ผมแค่ทำตามกฎระเบียบของ อช. เท่านั้นก็เหลือเฟือแล้วครับ และผมไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรด้วย เมื่อสร้างกระเช้าเสร็จ ก็มันไม่ใช่ของตูคนเดียวซะเมื่อไหร่ เป็นหน้าที่ของรัฐ/ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องรับผิดชอบดูแลจัดการเอาเอง ส่วนผมหรือคนเที่ยวก็มีหน้าที่ทำตามกฎระเบียบของเขาก็น่าจะพอแล้ว ย้ำอีกเลยครับ : กระทู้นี้ตั้งใจขวางโลกจริงๆ ไม่เคยซีเรียสเรื่องสร้างหรือไม่สร้าง กระเช้าเพราะ ไม่เคยบอกว่ารักป่า รักธรรมชาติ จนน้ำลายหยดติ๋งๆ แค่ทำตามข้อกำหนด กฏระเบียบที่เขาวางไว้ ก็เกินพอ ไม่เคยอ้างว่า ธรรมชาติเป็นของพวกข้าแต่ผู้เดียว เพราะถือว่าใครๆก็มีสิทธิชื่นชมได้ และที่สำคัญไม่ชอบทำตัวเป็นนักอนุรักษ์กำมะลอ แบบปากว่าตาขยิบครับท่าน ฮา............................................. จากคุณ : AQUANAUTS - [ 16 ธ.ค. 47 12:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ชอบเจ้าของกระทู้จริง ๆ พูดได้ ตรงดี ถูกใจมาก ๆ จากคุณ : เฮงจิมิน - [ 16 ธ.ค. 47 12:36:10 A:203.156.78.18 X: TicketID:016973 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อนาคตเป็นแบบนี้ครับ สร้างแล้วภูกระดึงกลับบ้านเก่าแน่ๆ และจะไม่ใช่ภูอันดับต้นๆที่มีนักท้องเทียวคิดถึงแน่นอน ต่อไปก็จะมีแต่พวกรักสบายไปเช้าเย็นกลับเที่ยวกัน และพวกที่ชอบแบบโหดๆละไปเที่ยวไหนกัน คำตอบคือ ภูสอยดาว ทีนี้ภูสอยดาวก็จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นมากขึ้นเริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักและไปเข้าหูพวกรักสบาย พวกรักสบายทำไงโอดครวญสิทีนี้ ทำไงกรูจะขึ้นได้มั่งหว่าใช่แล้วต้องสร้างกระเช้า แล้วก็จะมีกระเช้าเกิดขึ้นตามกระแสพวกรักสบายอีกแล้ว และก็จะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนหมดทุกภูทีมีในประเทศไทย แล้วพวกชอบแบบโหดๆละจะไปไหนกันอีก ไปนรกนะสิ พวกรักสบายจะได้ไม่กล้าไปสร้างกระเช้าตามลงนรก (นักท่องเที่ยวกับนักอนุรักษ์ต่างกันนะโปรดเข้าใจ อิอิอิ) ปล.ผมเป็นนักท่องเทียวไม่ใช่นักอนุรักษ์ รู้อย่างเดียวสถานที่ท่องเทียวแต่ละทีมีเสน่และจุดดึงดูดให้คนไปเที่ยวต่างกัน ถ้าเราทำลายจุดดึงดูดเสียแล้วๆจะเอาอะไรเป็นจุดขาย (หลักการตลาดนะไม่ใช่หลักอนุรักษ์) แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 47 18:17:14 จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 16 ธ.ค. 47 18:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เฮ่อ..อ..อ.. เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้อ่านกระทู้ประเภทนี้แล้วครับ เพราะผมพยายามอ่านเหตุผลในการคัดค้านกระเช้าอย่างพยายามหาสาระที่ฟังขึ้น ฟังดูดี เชื่อไหมครับว่ายังหาเหตุผลดีๆ ไม่เจอเลย วันนี้เจอกระทู้นี้เลยลองเข้ามาอ่านเสียหน่อย ก็ดูดีครับ เบรกๆ กันไว้เสียบ้าง เวลาคัดค้านจะได้มีเหตุผลดีๆ ในการคัดค้านมาให้ฟังกันบ้าง เหตุผลในการรักธรรมชาติในภูกระดึงของหลายคนที่ผมเคยอ่านมา มันต่างกับการศึกษาและการเข้าหาธรรมชาติของผมอย่างสิ้นเชิงครับ ผมขอไม่เล่าย้อนไปเมื่อครั้งที่ต้องนอนในป่านานนับสัปดาห์ๆ เพียงเพื่อไปนั่งถ่ายภาพและวาดรูปต้นเฟิร์นและอื่นๆ เพียงเพื่อให้ฟังดูน่าเชื่อถือหรอกนะครับ แต่การที่จะยกเหตุผลว่ารักธรรมชาติรของภูกระดึง มีกระเช้าแล้วจะทำให้ความภูมใจในการถ่ายรูปกับป้าย “เราคือผู้พิชิต “ และการถ่ายภาพกับ “ผาหล่มสัก” หมดไป .. คุณจะไม่ให้ผมสลดได้ยังไง ก็เจ้าสองสิ่งที่ยกเหตุผลมานั้นน่ะ มันเทียบไม่ได้กับเฟิร์นที่ถูกเหยียบเพียงต้นเดียวเลย ยิ่งเจ้าป้ายนั่นถูก รื้อทิ้งไป ธรรมชาติก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกครับ ผมว่าหยุดนำเสนอเถอะครับ ถ้านึกเหตุผลในการรักธรรมชาติไม่ออก ก็คัดค้านในใจก็พอ เหตุผลที่ฟังไม่มีน้ำหนักยังมีอีกนะครับ แต่นี่ผมเพียงยกแค่ตัวอย่างนิดนึง พูดเสียหมด เดี๋ยวอีกหน่อยไม่มีใครกล้าเสนอความคิดเห็นกันพอดี บางคนอาจคิดว่า ก็ทำไม เจ้าหมอนรู้อะไรดีๆ เรื่องธรรมชาติแล้วไม่ช่วยกันคัดค้าน เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยร่วมคัดค้านในระทู้พวกนี้มาก่อนครับ แต่เวลานี้ได้เห็นอะไรมากขึ้น ได้เห็นเหตุผลในการสร้างมากขึ้น ข้อดีต่างๆ และข้อเสียด้วย ผมเลยไม่ค้านไงครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะสนับสนุนเต็มที่ สร้างหรือไม่สร้างผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร สร้างหรือไม่สร้างพื้นที่ที่เสียหายจากการเหยียบย่ำก็เท่าเดิม ไม่ได้ขยายวงเพิ่มขึ้น เพียงแต่เจ้าหน้าที่อย่าเพิ่มจุดศึกษาธรรมชาติใหม่ๆ บนภูกระดึงขึ้นมาก็แล้วกัน ผมได้เห็นภาพข้างบนแล้วสลดใจครับ ถึงจะเคยเห็นภาพนี้หลายครั้งแล้วก็เถอะ ย่ำกันขึ้นไปได้ยังไง คนขนาดนั้น ยังไงก็ขออย่าได้แตกแถวออกนอกเส้นทางเล้ย..ย..ย.. เดี๋ยวนี้ระบบการจัดการจะเป็นยังไงผมไม่รู้แล้ว เมื่อหลายๆ ครั้งที่ผมเคยไป ทั้งภูกระดึงและภูหลวง ตามรายทาง จะมีการวางของขายเป็นระยะมีทั้งเครื่องดื่ม อาหาร ส้มตำ ลูกอม เป็นไงล่ะครับ เส้นทางขึ้นภูกระดึงกับภูหลวงเมื่อสมัยก่อน ถ้าภูมิใจแค่ว่า โอ้ย.. ภูกระดึง ข้าเคยลุยมาแล้ว นี่ มีรูปมาให้ดูด้วย เป็นไง หลักฐาน เฮ่อ.. ในใจก็พอครับ จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 16 ธ.ค. 47 18:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอ....ทำไมถึงมองกันอคติอย่างนั้นล่ะ ทำไมเหรอรักภูจนน้ำลายไหล พวกรักกำมะลอมันก็คงมีนะ แต่พวกที่เขารักจริงก็มีนะ ทำไมไปคิดดูถูกพวกเขาอย่างนั้นล่ะ อ่านดูใหม่นะ..ในคคห.11....เราบอกว่า การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นไปก็คือการเพิ่มปริมาณคนชัดๆ มันก็คือการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเลวๆ ขึ้นได้น้อยก็เลวน้อย ขึ้นได้มากก็เลวมาก เราอยากให้ไปเน้นเรื่องการควบคุมจำนวนคนมากกว่า ซึ่ง ถ้าจะบอกว่ามีกระเช้าแล้วจะควบคุมจำนวนคน เราว่าไม่มีกระเช้าก็ควบคุมได้ แต่ไม่เห็นทำ ไม่เคยเลยที่จะมาบอกว่า อย่าสร้างกระเช้าเพราะเดี๋ยวการเดินขึ้นจะไม่มีค่า ไม่สนหรอก ไม่เคยมาโอ้อวดว่าข้าเดินขึ้นมาแล้วเฟ้ยภูกระดึงเนี่ย ทำความเข้าใจเหตุผลซะใหม่... เรายังไม่เคยขึ้นเชียงดาว และก็คงขึ้นไม่ไหวแล้วตอนนี้ ยอมรับว่าอยากขึ้นไปมาก แต่ก็ไม่สนับสนุนให้สร้างกระเช้าด้วยเหตุผลเดียวกับภูกระดึง ไม่เห็นต้องมาเรียกร้องเลยว่า ตูขึ้นไม่ไหวสร้างกระเช้าซิ อยากขึ้นๆๆๆๆ เงินภาษีตู เอามาสร้างกระเช้าให้ตูซิ อยากขึ้นๆๆๆ ขึ้นเชียงดาวไม่ไหว ก็ไปที่อื่นที่สังขารมันได้ นอนก็ตายตาหลับเหมือนกันถ้าชาตินี้ไม่ได้ขึ้นเชียงดาว จะเข้าใจกันมั๊ยเนี่ย.... จากคุณ : notmai - [ 16 ธ.ค. 47 20:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 การทำลายภูกระดึงไม่เกี่ยวกับการสร้างหรือไม่สร้างกระเช้า คนเดินขึ้นไปก็ทำลายเหมือนกันถ้าขาดจิตสำนึก โดยเฉพาะพวกขี้เหล้าบ้าบอ หรือวัยรุ่นที่แหกปากร้องเพลงรบกวนชาวบ้านจนเช้านั่นแหละตัวดี จะสร้างหรือไม่สร้างต้องจำกัดคนที่จะขึ้นภูในแต่ละวันให้ได้ และควบคุมอย่างเคร่งครัด จากคุณ : ong - [ 16 ธ.ค. 47 23:21:26 A:210.203.176.136 X: TicketID:013879 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมก็มีความคิดเหมือนเจ้าของกระทู้ครับ... เคยพิมพ์จะโพสอย่างนี้หลายครั้ง...แต่ก็ไม่กล้า...ลบทิ้งทุกที...ใจไม่ถึง เพราะคนส่วนใหญ่ในนี้แค่คุณบอกว่าเห็นด้วยว่าจะสร้างกระเช้า โอกาสจะเจ็บตัว99.99%...โดนเน่ๆ ชื่อคุณAQUANAUTS...อยู่ในนี้มานาน มีกระทู้เกี่ยวกับท่องเที่ยวและธรรมชาติเสมอ ผมคิดว่าคงเป็นผู้ที่รักธรรมชาติเช่นกัน ไม่ใช่พวกตั้งกระทู้ล่อเป้าให้มาด่ากันเล่นๆแน่ เสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของภูกระดึงคือความยากลำบากในการปีนขึ้นไป แต่มันกลับเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง เพราะปากต่อปาก ทำให้คนกระสันต์ที่จะมาปีน เพื่อเก็บไปเป็นความภูมิใจ เพื่อจะได้เอาไปคุยอวดคนอื่นบ้างว่าข้าไปมาแล้ว เหมือนกับผู้หญิงสวยที่ใครๆก็อยากจะเข้าไปจีบ ถ้าเอามีดไปกรีดหน้าให้เละ...คนที่จะไปจีบก็มีแต่คนรักจริงเท่านั้น ถ้าเราไม่ทำลายเลน่ห์ตรงนี้(ด้วยการสร้างกระเช้า)แล้ว ไม่มีทางที่จะห้ามคนไปปีนได้ ผมเคยเจอคนที่เขาบอกว่าเขาตั้งใจจะไปปีนทุกปีจนกว่าจะไม่มีแรง และเขาไปมาเกือบ10ครั้งแล้ว เขาว่ามันเป็นความภูมิใจ..... แต่ถามว่าเคยไปเขาใหญ่มั้ย...(รถขับขึ้นไปง่ายๆ) เขาตอบว่าไม่เคย ผมไม่รู้ว่ายังมีคนแบบนี้อีกเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นผลดีต่อภูกระดึงแน่ จากคุณ : NV pooh - [ 17 ธ.ค. 47 08:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบสิ่งที่เจ้าของกระทู้นำมาเปิดเผยจริง ๆ "ความคิดเห็นที่ 31...... เห็นด้วยครับว่า ใครจะต่อต้าน ใครสนับสนุน การสร้างกระเช้าก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขาครับ ผมไม่ว่ากัน ส่วนผมจะคิดอะไรบ้าๆบวมๆ แล้วมาแสดงความเห็นก็สิทธิของผมเช่นกัน ส่วนใครจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะเข้ามาด่าผม ผมก็ไม่ว่ากันนี่ครับ......." คราวนี้ได้รู้กันชัดเจนแล้วว่า เป็นคนอย่างไรแน่ ที่ว่าตัวเองจะแสดงความคิดอะไร บ้าๆ บวมๆ เป็น ของAQUA... ก็จริง แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน สติปัญญา มีเท่าไหร่ (ยังสงสัยอยู่) แต่พร้อมจะพ่น...... สารพัดออกมา คนที่เที่ยวป่าเที่ยวเขาตั้งแต่ปี 2504-05 ก็แสดงว่า หน้าแก่ ชราภาพ เป็น เฒ่า เหี่ยว หด หงอย ห้อย ยาน โทรม เดินขึ้นภูคงลำบากมากจริงๆ .....จนต้องมาเขียนเชียร์ให้สร้างกระเช้าขึ้นภู เคยได้ยินมาว่าคนแก่ ที่สมองเสื่อมมักจะเอาแต่ใจตัวเอง ขี้ใจน้อย ??? ฮา............................................. จากคุณ : enjoylife - [ 17 ธ.ค. 47 11:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาเพิ่มเติมไว้ก่อน ว่าไม่ต้องประท้วงโดยยกเหตุการเป็นคนแก่ คนแก่ มีสติ รู้จักสงวนรักษาทรัพยากรให้ลูกหลาน นั้นต้องเคารพกราบไหว้ได้แน่นอน AQUA.. เป็น...แก่ ประเภทไหน ดูจากการแสดงความคิดคงพอได้ ผู้ดี มีวิสัยทัศน์ คงไม่ใช้วิธีด่ากราดคนค้านสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงว่า "... ทำตัวเป็นนักอนุรักษ์ กำมะลอ แสดงความรักธรรมชาติจนน้ำลายไหล...." จะเป็น...แก่หัวอะไร ใครอยากคิดอย่างไรก็คิดเองได้ ....AQUA.... ไม่ว่าหรอก น่าจะนับถือ หากคนสนับสนุนบอกได้ ด้วยเหตุผล หลักฐาน ความรู้จริงแน่ชัด ว่า หลังการสร้างกระเช้าแล้วจะป้องกันผลเสียอันจะต่อเนื่องมาได้อย่างไร คนค้านสร้างกระเช้า คงมีหลากหลายเหตุผล ....พอใจกับการเดินขึ้น ... หรือ เหตุผลอย่างคุณ notmai ก็มีคนเขียนไว้เยอะ แต่ยากมากที่จะซึมผ่านเข้าไปในสมองของพวกเชียร์กระเช้า อย่าง AQUA.. มาอวดบ่อยๆว่าทำงานให้ธนาคาร ก็น่าจะพอซึมๆ ยืมๆ ความฉลาดของนายทุนมาได้บ้าง โดยเฉพาะนายทุนไทย คนลงทุนสร้างกระเช้า ต้องพยายามทุกวิถีทางให้ได้เงินคุ้มทุน โดยเร็ว ความคิดที่ว่ากระเช้าจะจำกัดคนขึ้นภูได้... จะขนขยะลงมา...นี่ เก็บไว้ไปหลอกพวกโง่เง่า เหอะ ที่แน่ๆคือต้องทั้งโปรโมท ลด แลก แจก แถม ให้มีคนขึ้นไปเยอะๆ ขึ้นไปเดินไกลไม่ไหว.... ก็มี รถลาก ม้า ช้าง มอไซ บัส ลีมูซีน รับส่งจากผาโน้นไปผานี้ มีเซเวน มีเอเอ็ม พร้อมบริการของขบเคี้ยว เครื่องดื่ม รวมทั้งไอ้ตู้เหลืองๆ ที่ AQUA.. ชอบมาอวดบ่อยๆด้วย กลางคืนเหงาก็มีเกะ มีนวด มี..... ครบทุกอย่าง เปิดบ่อนได้ก็จะเปิดให้ด้วย คนดี คนมีเงินขึ้นได้ ขึ้นเยอะๆ.... คนโกง คนหลอกลวง โจร จี้ปล้น ข่มขืน ก็ตามไปอยู่แล้ว พัทยา บางแสน พีพี มีอะไร บนภูก็จะมีอย่างนั้นแหละ นี่ไง อะไรจะเกิดขึ้น หลังจากการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง AQUA .... คิดไม่ออก หรือ ..... ไม่เห็นบอกไว้ ฮา............................................. จากคุณ : enjoylife - [ 17 ธ.ค. 47 11:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห 3 ....." 3. ธรรมชาติระหว่างทางขึ้นอาจจะบอบช้ำน้อยลง เพราะการใช้กระเช้านั้นแยกคนออกจากธรรมชาติ คนที่อยู่ในกระเช้านั้นได้แต่ดู....." ไอเดียหรูเลิศ ..... แยกคนออกจากธรรมชาติ กระเช้านี่ทำให้คนมีระเบียบวินัยสูง ขึ้นถึงหลังแปแล้วท่านเหล่านี้จะเดินกันอยู่เฉพาะในเส้นทาง ไม่ทำอะไรเลอะเทอะอย่างไอ้พวกปีนขึ้นหรอก เรายังคงสนับสนุนทั้งคุณ notmai คุณ [[[tes]]] ถึงไม่สร้างกระเช้า ก็ยังบริหารจัดการ ควบคุมนักท่องเที่ยว ได้ ถ้ารัฐแน่จริง สิ่งที่มาพร้อมกระเช้า คือ นายทุน นักลวงโลก พวกใช้คติ "น้ำขึ้นให้รีบตัก" สิ่งเหล่านี้ มีแต่จะทำให้รัฐและเจ้าหน้าที่อ่อนแอ ปวกเปียก จนไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก ที่เห็นอยู่ในบ้านเมืองนี้ ยังไม่ชัดพอหรือ จากคุณ : enjoylife - [ 17 ธ.ค. 47 11:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โดนๆๆๆๆๆ โดนจริงๆ 555555 ผมไม่ห่วงเรื่องอนุรักษ์หรอก เพราะว่ายังไงมันก็ทำลายอยู่แล้วไม่ว่าจะมีกระเช้าหรือไม่มี แต่ห่วงว่าต่อไปจุดเด่น จุดขายที่มีมานานของภูมันจะไม่มี มันก็จะเหมือนของใช้ราคาถูกไร้ค่าซื้อมาแล้วโยนทิ้งก็ยังได้ ขายได้เรื่อยๆแต่ขายได้นานๆ ดีกว่าลดราคาโครมเดียวแล้วแบรนด์นั้นก็หมดค่าไร้ซึ่งราคาไปเลย เอามาแจกฟรียังขอคิดดูก่อน เมื่อนั้นแหละถึงจะรู้ซึ้งว่าแบรนด์ที่เสียแล้วจะเรียกทศัทธากลับแทบเป็นไปไม่ได้เลย อันนี้อ่างอิง คห.นี้ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3176218/A3176218.html ความคิดเห็นที่ 37 ภูกระดึงนี่อยากไปสุดๆๆๆๆๆๆ เลยอ่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันเลยนะ แต่เคยขอแม่ไปเมื่อตอนต้นเดือนแล้วอ่ะ โดนตบกระเด็นกลับมาแทนอ่ะ วัยรุ่น (?) เซ็งอ่า จากคุณ : tiffee - [ 15 ธ.ค. 47 19:49:13 ] คุณว่าคนข้างบนทำไมกล่าวว่า "ภูกระดึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน" หน้าดีใจแทนภูกระดึงหรือเปล่าครับ น้อยที่นะครับในเมืองไทยที่คนจะพูดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันใครๆก็อยากจะไปสักครั้งในชีวิต ถ้ามีกระเช้าเกิดขึ้นก็จะไม่มีภูกระดึงติดอันดับสถานที่ในฝันอีกต่อไป จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 17 ธ.ค. 47 12:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โถ ๆ ๆ  ๆ  พุทโธ่ พุทถัง  เข้าทางปืนมาอีกคนแล้ว  คุณ enjoylife  โดนเหยียบหางเข้าหรือไง อ่านดูดีๆอีกทีซิครับ  ตรงไหนบ้างที่บอกว่าผม สนันสนุน หรือค้าน    บอกตรงๆว่ะ สร้างหรือไม่สร้าง ก็ไม่เดือดร้อน ไม่ได้สนใจด้วย  เพราะมีปัจจัยและมีปัญญาเที่ยวอุทยานหรือที่ไหนๆได้ทุกแห่งทั้งประเทศโดยไม่ต้องพึ่งกระเช้าหรือพึ่งมนุษย์อย่างพวกคุณอยู่แล้ว แต่มาโพสต์กวนโอ๊ยขวางโลกคนอย่างคุณนี่ ก็เพราะเห็นว่า ชอบอ้างเรื่องอนุรักษ์กันเหลือเกิน  จนน้ำลายหยดติ๋งๆ  บอกตรงๆ อีกอย่าง ก็เพราะรำคาญพวกกำมะลออย่างคุณนี่แหละที่ชอบดีแต่แหกปากโวยวายอยู่ในเวป แต่แท้ที่จริงคือ ตัวการแห่งการเบียดเบียนธรรมชาติอันดับหนึ่งเลยทีเดียว     หากรัฐบาลเขาตัดสินใจสร้างแล้ว  ถ้าแน่จริงก็ลองทำอะไรให้มันเป็นรูปธรรมที่จะค้านไม่ให้การสร้างกระเช้าสำเร็จดูหน่อยซิ  อย่าดีแต่เห่าอยู่ในเวปเลยครับ ผมไม่สนเรื่องการสร้างกระเช้าที่อื่นไหนๆอีกด้วยครับ  เพราะผมไม่ใช่นักอนุรักษ์ แค่นักท่องเที่ยวธรรมดา ที่ยังจะคงเที่ยวอีกต่อไปอีกเรื่อยๆ    ที่สำคัญ  ผมไม่ชอบแหกกฎระเบียบ อย่างพวกกำมะลอหลายๆคน   และไม่ชอบแหกปากโวยวายโดยที่ตัวเองก็ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ อีกอย่างหนึ่ง ลองใช้สมองเท่าที่มี คิดดูหน่อยซิ พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติน่ะ  ตามกฎหมาย ตามระเบียบ เขากำหนดว่าจะให้ทำอะไรได้บ้าง  นึกหรือว่า ธุรกิจไหนๆ ก็จะซี้ซั้วเข้าไปได้หมด ว่างๆ คุณ enjoylife ก็หัดไปเปิดหูเปิดตา หาความรู้ หาหนังสือความรู้ อ่านประดับสติปัญญา หรือหาโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆในโลกกว้างให้มันมากขึ้นกว่านี้หน่อย นะครับ  หัดไปดูชาวบ้านชาวช่องที่อื่นๆเขาซะบ้าง แล้วค่อยกลับมาเถียงใหม่ ส่วนที่คุณenjoylifeว่าผมซึมซับความคิด มาจากนายทุนน่ะ มันไม่ถูกต้องทีเดียวนักหรอกครับ   บอกให้ตรงๆว่า ความจริงแล้ว อาชีพรองของผมน่ะ มันนายทุนแท้ๆเต็มตัวเลยครับ  ธุรกิจรายได้ดีกว่าเงินเดือนแบงค์อีกหลายเท่านัก  แต่ขอโทษครับ ธุรกิจของผม ไม่ได้หากินกับคนประเภทอย่างคุณนี่เลยแม้แต่น้อยครับ เออ...แต่ว่า ผม แปลกใจอยู่อย่างนึงนะ ครับ  คุณ enjoylife  ผมอาจจะแก่หลงๆลืมๆ และขวางโลก มีความคิดบ้าๆบวม  และก็มาแสดงความคิดความเห็น(ตามสิทธิของสมาชิก) อย่างที่เห็นอยู่เนี่ย ก็จริงอยู่   แต่ก็ได้ บอกแล้ว ย้ำแล้ว ตั้งแต่ต้น ว่า "กระทู้ขวางโลกนะ อย่าซีเรียส"     แต่แล้ว ทำไม คุณ enjoylife ถึงต้องซีเรียส(Chip หาย) จังเลยวะ   ดิ้นพลาดๆ จะเป็นจะตาย หรือลงแดงขึ้นมาให้ได้   ไม่เห็นจะ enjoylife  สมชื่อเลยครับ ถามจริงๆเถอะครับ  ผมไปแทงใจดำ หรือเหยียบหางคุณเข้าจริงๆหรือเปล่าครับ ฮา......................................................... ป.ล.  คุณ enjoylife  ว่างๆ ไปเที่ยวดำน้ำ  ลุยป่า  หรือปีนเขาเที่ยวกะผมบ้างไหม   จะได้รู้ว่า  คนแก่กะคนหนุ่ม  ใครจะอึดกว่ากัน   อยากลองพิสูจน์จริงๆว่ะ  กล้าไหมล่ะครับ ฮา................................................อีกทีก็ได้ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 47 14:31:50 แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 47 14:25:49 จากคุณ : AQUANAUTS - [ 17 ธ.ค. 47 14:05:11 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ว่าแล้วเชียว เดี๋ยวได้เถียงกันกระทู้แตก อ่านความเห็นหลายคนแล้วก็อนาถใจ มัวเมาไปด้วยโทสะและอคติ แทนที่จะใช้สติและปัญญาคิดหาเหตุผลและคุยกันในหลักการ (ต่างคนก็ต่างความเห็น เรื่องปกติอยู่แล้ว) ผมว่า คุณ Aquanaut เปลืองตัวเปล่าๆ เห็นกระทู้ทำนองนี้มาหลายอันแล้ว สุดท้าย คนที่มีความเห็นต่างจากพวกอนุรักษ์จนน้ำลายไหลนี่ โดนด่าเสียๆหายๆทุกที จากคุณ : ไปดีกว่า - [ 17 ธ.ค. 47 14:53:28 A:161.200.16.33 X: TicketID:074675 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ใครจะว่าไงผมไม่รู้นะ แต่ผมแน่ใจว่า ผู้ด้อยโอกาส คนชรา คนพิการ ที่ไม่สามารถเดินขึ้นดอยได้จะสามารถได้เห็นความสวยงามของภูบ้าง ซึ่งไม่แน่ใจว่าถึงเวลานั้นจะเหลือความสวยงามจากนักอนุรักษ์ทางปากเหล่านั้นทั้งหลายสักเท่าไหร่ จากคุณ : TT@BKK - [ 17 ธ.ค. 47 15:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบพระคุณมากครับ "คุณไปดีกว่า" คคห.43 ที่ยังห่วงว่าผมจะเปลืองตัว ผมมันแก่แล้วครับ ผ่านเป็น ผ่าน(เกือบ)ตาย ในแดน ผกค. ที่ทุรกันดาร มาก็เยอะแล้ว จึงไม่รู้สึกรู้สา กับการที่ใครจะมาด่าหรอกครับ และที่สำคัญ ผมเห็นว่า เมื่ออยู่ในกระทู้นี้ มันเป็นมายา มันไม่มีตัวตน มีแต่ตัวหนังสือที่แสดงความเห็นออกมา ด่ากันไปด่ากันมาสักเท่าไหร่ มันก็ยังไม่ดิ้นตายเหมือนโดนลูกปืนหรอกครับ แล้วที่สำคัญผมก็ไม่เอามาเป็นเรื่องซีเรียสจริงจัง เพราะมันก็แค่กระทู้ Blue Planet เท่านั้นเอง เดี๋ยวก็ลืมกันไปแล้ว ในห้องราชดำเนิน ผมเล่นกันมันหยดส์ยิ่งกว่านี้อีกครับ ชีวิตจริง ผมยังคงจะเอ็นจอยกับชีวิต Outdoor ไปอีกทุกสุดสัปดาห์ครับ ว่างๆ ไปเที่ยวตั้งแค้มป์ นอนเต๊นท์กันบ้างก็ได้นะครับ จากคุณ : AQUANAUTS - [ 17 ธ.ค. 47 17:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สรุปแล้ว ผมก็ยังไม่ได้สาระมุมมองอะไรของกลุ่มคัดค้านกระเช้า ที่พอจะฟังน่าเชื่อถือไปอีกหนึ่งกระทู้ ไม่ใช่แกล้งโง่ ไม่ใช่อ่านแล้วไม่เข้าใจนะครับ ผมอ่านแล้วเข้าใจ แต่เหล่านั้นใช้เป็นเหตุผลคัดค้านแทบไม่ได้เลย เมื่อก่อนผมก็เคยไม่เห็นด้วยกับการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง แต่ตอนนั้นผมไม่ทราบข้อมูลอีกด้านมาก่อน แต่ตอนนี้ได้รู้ได้เห็นแล้วครับ ผมถึงไม่คัดค้านอะไร แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะออกมาสนับสนุนกลุ่มที่จะสร้างนะครับ ถ้าฟังกันดีๆ ด้วยเหตุและผล ผมก็จะค่อยๆ เล่าในส่วนดีของกระเช้าให้ฟัง แต่จะเอาข้อมูลที่เขาไปศึกษาความเป็นไปได้มาเผยแพร่ตอนนี้ ก็คงจะไม่เป็นการเหมาะสม เล่าที่จำเป็นแล้วกันครับ ถ้าจะยกข้อความผมขึ้นมาต่อว่า ก็ขอให้ยกทั้งหมดเลยนะครับ ไม่ใช่ยกกันแค่ประโยคที่พูดผิดพลาด อย่างแรกเลยที่กลัวกันคือ กลัวธรรมชาติจะเสียหายจากการทำกระเช้า คงต้องพูดกันตรงๆ ว่า ขณะก่อสร้าง ธรรมชาติกระเทือนแน่นอน ใครว่าไม่กระเทือนนั่นโกหกชัดๆ ผมเองก็ว่ากระเทือน พืชพันธุ์ไม้คงไม่เท่าไร เพราะพื้นที่ที่ใช้ทำฐาน น้อยมาก รวมกันทั้งหมดก็แค่สนามฟุตบอลรัชมังคลาฯ หรือมากกว่านั่นเล็กน้อย แต่ที่กระเทือนหนักก็คือบรรดาสัตว์ป่าทั้งเล็กและใหญ่ ที่อยู่ใกล้จุดก่อสร้าง คงแตกตื่นกันพอสมควร แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาอันสั้น เพราะรูปแบบก่อสร้างเขาได้เตรียมแผนการก่อสร้างที่รวดเร็วไว้แล้ว ตรงนี้ใครจะค้านก็ค้านได้ครับ ผมก็เห็นเหมือนคุณนั่นหละ อึดอัดเหมือนกัน แต่นั่นเป็นข่วงระยะการก่อสร้างที่สั้นมาก เมื่อเทียบกับผลได้ที่สัตว์ป่าน้อยใหญ่ไม่ต้องทนตกใจกับเสียงอึกทึกในการเดินขึ้นตลอดทางกว่า 10 กิโลเมตร (รวมกับทางขึ้นด้านอื่น) ของนักท่องเทียวในช่วงฤดูท่องเที่ยว และผลดีอื่นๆ ที่ตามมา ข้อห่วงใยของคนส่วนใหญ่ข้อต่อไปคือ คนจะขึ้นไปนับหมื่นๆ คน จนเนืองแน่นรับกันไม่ไหว ไม่น่ากลัวหรอกครับ กับการที่มีกระเช้าส่งขึ้นภูนั้น ใช้เวลาที่สั้น เมื่อใช้เวลาที่สั้นก็มีเวลาในการเข้าชมสถานที่ต่างๆ ได้ ถึงแม้จะไม่ทั่วก็ตาม จากนั้นกลับลงมาในเย็นวันเดียวกัน นั่นคือเป้าหมายหลัก ไม่ใช่หวังให้คนขึ้นค้างแรมหรอกครับ เพราะฉะนั้นราคาไป-กลับในวันเดียว และแบบค้างแรมก็ยังอยู่ในขั้นพิจารณา เพราะการค้างแรมต้องมีสัมภาระมากมาย ไม่คุ้มหรอกครับกับคนๆ เดียวแล้วขนกระเป๋าสัมภาระมาสามสี่ใบ ก็คงต้องพิจารณาเรื่องน้ำหนักกันอีก อย่างคุณที่ยกตัวอย่างที่ประเทศเพื่อนบ้านเราก็คงจะรู้นะครับว่า คนส่วนใหญ่ที่เคยไป รวมทั้งตัวคุณเอง ก็แค่ขึ้นไปเดินๆ มองๆ แล้วก็กลับลงมา คราวนี้นึกภาพออกหรือยังครับ จะได้ไม่ต้องถกเถียงกันอีก ข้อห่วงใยต่อไปคือ ความประทับใจต่างๆ จะหมดคุณค่าไป พูดกันตรงๆ ก็คือจุดประทับใจบนนั้นก็คือ ป้ายผู้พิชิต กับผาหล่มสักจะหมดคุณค่าไป โธ๋..คุณครับ กาลเวลาผ่านไป อะไรก็เปลี่ยน เมื่อก่อนนี้ตรงป้ายจุดหนาวสุดยอดในสยามที่ภูเรือน่ะ พวกผมเดินกันเป็นวัน ตัดไม้ทำเปลสนามหามกันกลับมาน้ำตาคลอเบ้า แต่เดี๋ยวนี้รถแทบจะจอดเทียบที่ข้างป้าย ส่วนอันนี้ต้องถือเป็นข้อกล่าวหาครับ ที่ว่าพวกทุนนิยมทั้งหลาย และพวกนักธุรกิจมาตักตวงผลประโยชน์ อันนี้เป็นธรรมดาครับ ทำธุรกิจก็ต้องเล็งไปที่ผลกำไร แต่รัฐบาลก็ต้องเล็งถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักเหมือนกันครับ ผลประโยชน์ที่ตามมา เอนกอนันต์ทีเดียว ไม่ใช่ค่าสัมปทานจากผู้ประกอบการหรอกครับ อันนั้นมันเล็กน้อย แค่น้ำจิ้มถ้วยเล็กๆ แต่ผลที่ได้ชนิดพุงปลามันก็คือ จังหวัดใกล้เคียงได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดร หรือหนองคาย ซึ่งคุณจะเห็นว่า จังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน จะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่คนคิดจะไป คนที่จะไปแถบภาคอีสานก็มีเพียงผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีสตางค์เหลือใช้ตั้งใจจะไปทำบุญตามวัดต่างๆ ไปทอดกฐินบ้าง ทอดผ้าป่าบ้าง หรือไปนมัสการบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังๆ ในแถบอีสาน จากนั้นก็แวะไปขึ้นชมภูกระดึง กลุ่มนี้ขึ้นไปแป็บเดียวครับ เข้าห้องน้ำฉี่หน่อยก็ลงแล้ว เงินทองที่กระจายสู่ภาคอีสานก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะแวะเติมน้ำมัน แวะทานอาหาร แวะซื้อสินค้าของฝาก แวะซื้อสินค้า OTOP และภูกระดึงก็อยู่ไม่ไกลจากถนนสายยุทธศาสตร์ ในเส้นทางกรุงเทพฯ สู่เวียงจันท์ และภาคเหนือสู่ภาคอีสาน ยังมีอีกเยอะครับในหมวดนี้ สาธยายไม่ไหว เวลาไม่พอ ต้องขอตัวก่อน นี่แค่เล็กน้อยครับ ยังไม่ได้เล่าเรื่องทำไมคนในพื้นที่ถึงเห็นด้วยกับการสร้างกระเช้า แล้วทำไมไม่มาสำรวจความเห็นคนกรุงเทพฯ คนภูเก็ต คนหาดใหญ่ คนนราธิวาสบ้าง และอื่นๆ อีกมากครับที่คุณๆ นึกไม่ถึงกันเลยทีเดียว ก็ดูเอาเถอะครับ ถ้ารับฟังเหตุผลกันแบบที่ผมทำก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ใช่ว่าผมจะรับได้กับเรื่องกระเช้าทั้งหมดนะครับ กระเช้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ผมก็ยังรับไม่ได้ครับ มันผูกพันกับผมยังไง ไว้ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันครับ ส่วนเรื่องภูกระดึง ไว้มีโอกาสค่อยต่อครับ แค่นี้คงต้องดูผลสะท้อนกลับก่อน ลืมบอกไป มาตรการรองรับผู้คนบนนั้นเขามีอีกเยอะครับ ไม่ใช่แค่ที่ผมบอกกล่าว ไม่ต้องห่วง แต่คงต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงเอง เดี๋ยวผมพูดไป ผิดถูกมันจะลำบาก จากคุณ : หมอนทองแท้ - [ 17 ธ.ค. 47 19:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แน่จริงๆ ด้วย ทีนี้ก็ได้รู้แล้วว่า aqua แก่ประเภทไหน ทีแรกว่า ใครจะด่าว่าก็ไม่ว่า ทีนี้ทำไมจึงใช้ถ้อยคำชวนตี.... เสียเอง คงเข้าข่าย แก่สติเลอะเลือนจริง จึงไม่อยู่ในร่องในรอยที่ควร เว้นกระทู้โฆษณาตู้สีเหลือง ที่ถนัดนักหนา (web master ไม่พิจารณาหน่อยหรือ อีกหน่อย BP จะกลายเป็น หน้าโฆษณาให้ลูกน้องแบ๊งต่างๆไปเสีย) เรื่องเหยียบหางอะไร นั่นก็เชิญทำให้ถนัดกับสุดที่รักที่บ้านของ aqua ไปเถอะ เข้าใจว่ามีเยอะไม่ใช่หรือ คลุกคลีกันมากก็ปากใกล้พวกหน้าขนเข้าไปทุกที เออ เขาว่าอีกอย่าง พวกแก่หงำเหงอะมะเขือเผาเนี่ยชอบท้าโน่นท้านี่ เจอ aqua เข้าถึงได้รู้ว่าน่าจะจริงแฮะ จากคุณ : enjoylife - [ 17 ธ.ค. 47 23:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 จขกท เอาตัวนอนขวางเลยนะคะ งานนี้ บี๋ว่า สร้างอ่ะดีแล้ว เห็นด้วยอย่างมาก แต่ต้องหาวิธีบริหารจัดการให้ดี ให้ธรรมชาติมันคงอยู่ในรูปแบบเดิมมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้...ม่ายรู้จะออกมาแบบไหนสิน่า จากคุณ : g (babie) - [ 19 ธ.ค. 47 21:55:57 ]