และแล้วเราก็ได้นายกฯใหม่
แหะ..แหะ
คนใหม่..แต่หน้าเก่านะคะ
.
เมืองไทยเราเปลี่ยนการปกครองมาแร้วววว 73 ปี
.
73 ปีเนี่ยยย
..ประเทศสารขัณฑ์ของเราได้นายกฯคนนี้เป็นคนที่ 23 แล้วค่ะ
แต่ละคนที่ผ่านมาต่างก็มีจุดเด่น
มีเรื่องที่ให้ผู้คนได้จดจำ
.
มีคาแร็คเตอร์ที่แตกต่างกันไปตามสไตล์ส่วนตัว
เริ่มจากคนแรก
..พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรกของเรา
ในช่วงบริหารประเทศท่านได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
ให้งดใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรบางมาตรา วันที่ 10 ธันวาคม 2476
โดยท่านให้เหตุผลว่า "ความปลอดภัยของประชาชนเป็นกฏหมายอันสูงสุด"
ส่วนคนนี้พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา
เป็นบุคคลที่มีลักษณะเด่น เพราะสุภาพอ่อนโยนค่ะ
ถึงแม้จะต่อสู้กับศัตรู แต่ก็ใช้ความเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาด้วยความนิ่มนวล
จนเพื่อนร่วมงานขนานนามว่า "เชษฐบุรุษ"
ถัดมาจอมพลแปลก พิบูลสงคราม
มีความตั้งใจที่จะมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
จึงได้ริเริ่มทำสิ่งแปลกใหม่ไม่หยุดยั้ง
ไม่ว่าจะเป็น การเปลื่ยนวันขึ้นปีใหม่จาก 1 เมษายน เป็น 1 มกราคม
การเปลี่ยนชื่อประเทศสยาม เป็นไทยแลนด์
และออกคำสั่งสวมหมวก และงดกินหมาก
ก่อนที่จะมีคำขวัญตามมาว่า "เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย"ค่ะ
นายควง อภัยวงศ์ แม้จะเกิดในสกุลขุนนางเก่าที่ร่ำรวย
แต่ได้ดำเนินชีวิตอย่างง่ายๆ และเป็นคนเปิดเผย
จึงมีลักษณะพิเศษด้วยการใช้อารมณ์ขันมาช่วยแก้ไขปัญหาได้เสมอ
คนที่มีอารมณ์ขัน
เขาว่ากันว่ามักจะแก่ช้านะคะ
นายทวี บุณยเกต เป็นนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในตำแหน่งน้อยที่สุดเพียง 17 วันเท่านั้น
โดยเป็นรัฐบาลที่ตั้งขึ้นชั่วคราว ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเอเชียบูรพา
ทำให้การปฏิบัติราชการไม่ปรากฏเป็นชิ้นเป็นอัน
..
เวลาท่านน้อยค่ะ
.17 วัน
ตดยังไม่ทันหายเหม็นเลย
หม่อมพี่ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นคนที่ไม่มีลักษณะเป็นนักการเมืองมากนัก
ท่านเป็นคนที่มีวามเป็นศิลปินสูง
..ดีดเปียโนเก่ง
วาดรูปสวย
แต่ความที่เป็นคนนุ่มนวล
ท่านจึงมักเกรงใจสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
จนบางครั้งบังคับลูกน้องไม่ได้ จึงได้รับฉายาเป็น "ฤาษีเลี้ยงลิง"
นายปรีดี พนมยงค์ เป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว
โดยมีบุคลิกเด่นเป็นคนที่มีความคิดริเริ่ม และเต็มไปด้วยพลังในการบริหารงาน
พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงที่เศรษฐกิจกำลังทรุดหนัก
จึงต้องแก้ไขปัญหาด้วยการซื้อของแพงมาขายในราคาถูกให้กับประชาชน
ประมาณว่าเป็นนโยบาย เอื้ออาทร ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ค่ะ
ผู้คนมักชื่นชมเรื่องความสามารถในการพูดของท่าน
จึงมีฉายาว่า "ลิ้นทอง"
นายพจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำงานทางการเมืองได้ผลดี
เพราะความเป็นคนที่มีฐานะ..เป็นเศรษฐีมีเงิน.. จะทำเรื่องใดก็ได้เปรียบคนอื่น
จอมพลถนอม กิตติขจร ในช่วงแรกได้รับการขนานนามว่า "ยิ้มสยาม"
เพราะเป็นคนสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอค่ะ
แต่ภายหลังได้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ..ที่ทุกคนไม่มีวันลืม
มีการปราบปรามนักศึกษาประชาชนผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ
จึงถูกประณามว่าเป็น "ทรราช"
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงดังที่สุดในยุคก่อน
เพราะริเริ่มโครงการจำนวนมาก แต่เรื่องน้ำใจ ความเด็ดเดี่ยว และเด็ดขาด ไม่มีใครเทียบเท่า
ซึ่งจอมพลสฤษดิ์ พูดอยู่เสมอว่า "เมื่อตัดสินใจดำเนินการสิ่งใดแล้ว ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"
นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง
พร้อมทั้งได้รับพระราชทานคำเตือนว่าให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ และ"อย่าตกหลุมพราง"
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
จากคุณสมบัติส่วนตัวที่เป็นคนมีความใฝ่ฝันสูง
ใจถึง มีอารมณ์วู่วามฉุนเฉียวอยู่เสมอ
เป็นคนทำกับข้าวเก่ง
เขียนหนังสือแตกฉานค่ะ
.
ฝีปากคมคายอย่างชนิดใครโดนเป็นได้เลือดซิบๆ
.
สีสันทางการเมืองต่างๆในยุคของหม่อมน้องฉูดฉาดมากค่ะ
ท่านมีความสามารถพลิกแพลงเหตุการณ์ต่างๆ ให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเองได้
จึงได้รับฉายา "เฒ่าสารพัดพิษ"
นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่กวาดล้างคอมมิวนิสต์อย่างเอาจริงเอาจัง
จึงเป็นคนที่ได้ชื่อว่า "ขวาตกขอบ"
รวมทั้งถูกเรียกว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลหอย
เพราะได้รับการคุ้มครองจากคณะปฏิรูป
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ พญาอินทรี
ท่านผู้นี้นิยมชมชอบการดื่มบรั่นดีมากเป็นพิเศษ
แม้แต่การปรุงอาหารก็ชอบเติมบรั่นดีเพื่อให้ออกรสชาด จึงได้รับฉายา "เขียวหวานบรั่นดี"
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ป๋าเปรม
เป็นนายทหารที่นิยมใช้วิธีแก้ไขปัญหาแบบไม่ประจันหน้า
ป๋าเป็นคนพูดจานิ่มนวล และพูดน้อย
ในยุคนึงป๋าเคยงดให้สัมภาษณ์เป็นเวลานาน
จนบรรดานักข่าวตั้งฉายาว่า "เตมีย์ใบ้"
ป๋าชอบดูกีฬามวยสากลเป็นพิเศษ
และมักโทรไปให้กำลังใจนักมวยไทยทุกครั้งที่ขึ้นสังเวียน
ผู้คนคงยังจำประโยค เจ็บมั้ยลูก ที่ป๋าชอบพูดกับนักมวยได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบัน
ป๋าเป็นประธานองคมนตรีค่ะ
.
น้าชาติ มาดนักซิ่ง พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
ถึงแม้อายุจะมาก จนเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับบ้าน
แต่น้าชาติกลับมีความสุขกับการได้โลดแล่นไปกับมอร์เตอร์ไซด์คันโปรด
ควบคู่ไปกับการอยู่ในวงการการเมืองอย่างสนุกสนาน
น้าเป็นคนประเภทสุขนิยม
เป็นคนประเภทยิ้มได้แม้ภัยมา
น้าชอบดื่มไวน์
แกล้มซิก้าร์
และมีความสุขกับเสียงเพลง
ว่ากันว่าช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของน้า
ก็คือช่วงที่ต้องระหกระเหินไปเป็นทูตทหารที่อาร์เจนติน่า
ป่านนี้น้าแกซิ่งชอปเป้อร์อยู่บนสวรรค์แล้วมั้งค่ะ
นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรีพลเรือนที่ถูกใจคนเมืองหลวงมากที่สุด
เพราะมีท่วงท่าลีลานุ่มนวล จนได้รับฉายา "ผู้ดีรัตนโกสินทร์"
พลเอกสุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เพียง 2 เดือนกว่า ก็ต้องลาออก
เพราะเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ที่มีคนตายและสูญหายเป็นจำนวนมาก
แต่กว่าจะอำลาจากตำแหน่ง ก็มีการเปลี่ยนแปลงท่าทีหลายหน
มีดโกนอาบน้ำผึ้งนายชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรีสามัญชนที่มีอาชีพเป็นนักการเมืองเต็มตัว
ปฏิบัติหน้าที่บริหารงานราชการตามระเบียบขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
จนถูกเรียกว่า "ชวน เชื่องช้า"
นายกฯลูกแม่ถ้วนคนนี้จริงๆแล้วเป็นศิลปินนะคะ
ท่านรักสงบ
และชอบวาดรูป
ท่านเคยศึกษาที่เพาะช่าง..สถาบันที่ผลิตศิลปินดังหลายต่อหลายคน
.
นายบรรหาร ศิลปอาชา ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีพ่อค้า
ที่มักมีข้อครหาถูกโจมตีหลายเรื่อง
..
แม้กระทั้งการศึกษา และสัญชาติเกิดของบิดา
ได้รับฉายาว่าเป็นนายกฯ หลงจู๊
แต่จริงๆแล้วเจ๊ว่าท่านเป็นคนขยันนะคะ
ส่วนคนนี้
มักมีคำพูดที่สร้างความสับสนให้แก่คนฟัง
และเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจแบบไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน
ทำให้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ บิ๊กจิ๋ว หวานเจี๊ยบ
นายทหารที่เคยได้ชื่อว่าเป็นขงเบ้งแห่งกองทัพ
กลับกลายเป็นคนไม่มีความน่าเชื่อถือ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 สมัยที่ 2
เป็นนักธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จ
และเคยได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
แต่บุคคลิคคิดเร็ว ทำเร็ว และและกล้าที่จะพูดตอบโต้ทุกคน
จึงได้รับฉายาว่า "เทวดา" และ "ผู้นำจานด่วน"
ส่วนตัว
.เจ๊ชอบแบบผสมค่ะ
.
ชอบอย่างหม่อมคึกฤทธิ์ ผสมกับ พล.อ.ชาติชาย
เจ๊ชอบความแรงค่ะ
..
2 ท่านนี้หากเป็นรถ
ก็ประมาณเทอร์โบคุ่
แบบนั้นเลย
แล้วคุณๆละค่ะ
..ชอบผู้นำคนไหน
จากคุณ :
Toom McCartney
- [
10 มี.ค. 48 08:08:27
]