หลายคนคงคิดว่า
.
เหมือนเรื่องราวจะสุดแสนโรแมนติค หวานซะ ไม่เลย
แต่จริงๆมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
.
โหด มันส ์ฮา แถมเถื่อน ๆ นิด งง ละซิ
ความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่แฟน
.ไม่ใช่กิ๊ก
.เป็นแค่เพื่อนกัน
เพื่อนจริงๆ ที่รู้จักกันที่โน้น
Sydney
ผมกลับมาเมืองไทยก็
เมลย์คุยกันบ้างก็นานๆครั้ง
เคยชวนเธอมาเมืองไทยเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วเธอก็มาจริง ๆ ในปีนี้
ที่ต้องออกตัวไว้ก่อนก็เพราะว่ากลัวหลายคนจะผิดหวัง
ไม่ค่อยมีเรื่องรัก
หวาน ๆ ให้อ่านซักเท่าไร
แต่ว่าเรื่องราวที่ได้อ่านรับรอง ใครจะไปที่ลาวไม่ผิดหวังแน่นอน
.Bibleไปเที่ยวลาวฉบับย่อๆ ได้เลย
.
บททดสอบ
..
ความจริงที่เธอมา ผมก็ Surrpries สุดๆแล้ว เธอ เคยบอกว่าจะมา บอกวัน
เวลาเครื่องลง ทางอีเมล์แล้วก็
.เงียบ
หายไปเลย
อีก 3 อาทิตย์ต่อมา
Surrpries สุดๆเธอมาจริง ๆ โทรเข้ามือถือ
ตอนนี้อยู่ที่สนามบิน ไหนว่าจะมารับ
เธอก็เลยไม่รอไปพักทีบางลำภู คืนล่ะ150 บาท
แต่เธอบ่นว่าหนวกหูมากๆเสียงรถดังมาก
เช้าวันต่อมาผมก็ไปรับพาเธอมาพักที่บ้าน พาไปเที่ยวอยุธยา
ไปตลาดน้ำดำเนิน จัตุจักร เที่ยวกรุงเทพ จนทั่ว ทั้งหมด3คืน
โดยเธอมานอนที่ห้องผม ช้ั้น 2 ส่วนผมนอนข้างล่างชั้น1ห้องรับแขก
เธอเป็นคนไม่ค่อยมีแผนการเท่าไหร่ เธอแค่คิดจะไปเชียงใหม่ กับหลวงพระบาง
เพื่อจะไปดูผ้าไหมเท่านั้นเองโดยมีระยะเวลา 2 อาทิตย์
เคยถามเหมือนกันว่าทำไมไม่วางแผนเลย จะไปไหนก่อน
เธอบอกว่าที่โน้น ญี่ปุ่นทำงานค่อนข้างเครียด อาทิตย์นึง
มีวันหยุดแค่วันเดียว ไม่มีแรงๆไปเที่ยวไหน อีก มาเมืองไทย
อยากผ่อนคลายแล้วก็เป็นอิสระให้มากที่สุด
ความจริงถ้าเธอตัดสินใจไปเชียงใหม่ก่อนแล้วค่อยนั่งเครื่องไปหลวงพระบาง
ผมก็คงไม่มาที่หลวงพระบางแต่ว่าด้วยโชคชะตา
.
วันแรก การเดินทาง
ด้วยความไม่แน่นอนของเธอ เธออยากไปหนองคายกับผมซึ่งมันไม่อยู่ในแผน
การท่องเที่ยวของเธอเลย
ตอนแรกเธอจะไปเชียงใหม่ ซื้อตั๋วเรียบร้อย ผมไปด้วยไม่ได้
เพราะว่าผมต้องไปงานบวชเพื่อนก่อน เธอก็อยากไปดูบ้านเกิดผมด้วย
เราก็เลยนอนที่บ้านผมที่หนองคาย
ความตั้งใจต่อมา จะไปส่งเธอที่เวียงจันทร์
ให้ขึ้นรถทัวร์ไปหลวงพระบางเอง
แล้วให้เธอขึ้นเครื่องจากหลวงพระบางไปเชียงใหม่
ผมอาจไปหาเธอที่เชียงใหม่ เพราะผมไม่เคยไปเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่เลย
อยากไปมากแต่..ทุกอย่างมันผิดแผนไปหมด
คืนนั้นที่หนองคายก่อนออกเดินทาง ด้วยความอ่อนด้อยทางภาษาอังกฤษ .. โง่ นั้นเอง..
ที่ไม่ได้พูดนานแล้วคุยอีถ้าไหนไม่รู้เธอเข้าใจว่าผมจะไปหลวงพระบางด้วย ขอบใจเราใหญ่
ใจจริงเราก็อยากไปน่ะ สงสารผู้หญิงตัวเตี้ยๆขาวๆ อ้วนคนเดียว
อายุแค่ 22 เอง ไปลาว คนเดียว
แต่เราก็มีงานที่ต้องทำ
เพื่อการท่องเที่ยวแห่งชาติลาว
.
ไปก็ไปเป็นการไปลาวครั้งที่ 2 ของผมครั้งแรกผมเที่ยวแค่เวียงจันทร์
TIP
ใครที่จะนั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งหนองคายไปที่เวียงจันทร์เลยจะประหยัดกว่า
มีตอนเช้า8.30เพราะรถจะไปส่งที่เมืองเวียงจันทร์เลยไม่ต้องต่อรถแทกซี่
หรือสามล้อเครื่องที่ด่าน
เราสองคนเข้าเมืองลาวที่ด่านท่าเสด็จจังหวัดหนองคายประมาณบ่าย3โมง
ช่วงเช้าอยู่ที่งานบวชทำเรื่องออกเมืองไทยเสร็จเราก็นั่งรอรถบาสคันเล็ก
เพื่อไปส่งที่ด่านฝั่งลาวซึ่งห่างจากด่านที่เมืองไทยไม่ไกลนักประมาณ 2-3 กม.
ค่ารถคนละ 20 บาท
ถึงด่านที่ลาวสำหรับคนไทยก็ใช้ Passport ใช้เงิน30 บาท ก็อยู่ลาวได้ 30 วัน
ส่วนสาวญี่ปุ่นก็ 50เหรียญยูเอสง่าย ๆ ก็1500บาท เข้าไปที่ลาวได้เลย
หลังจากที่ออกมาจาก ตม.ลาว ก็จะมีทั้งรถตู้ สามล้อเครื่อง แทกซี่ เข้ามาถามคุณว่าจะไปไหน
เวียงจันทร์
หรือเปล่า ถ้านั่งสามล้อเครื่องก็ประมาณคนละ 80 บาท เพราะเราไปกัน2คนแบบbackpacerก็พยายามประหยัดเงินให้ได้มากที่สุด
เรื่องเงินใช้เงินไทยได้
คนลาวชอบมาก ๆ แต่ถ้าแลกเป็นเงินกีบของลาวก็จะประหยัดได้มากกว่า
ง่าย 1,000 บาทก็263,000กีบ
TIP ง่ายที่สุดก็ อยากรู้เงินกีบเท่ากับกี่บาทไทยก็
คูณ4หาร100
10,000กีบก็40บาท
หลังจากตกลงราคาได้แล้วเราก็บอกเขาว่าเราจะไปหลวงพระบาง
ทางเท็กซี่เขาก็เจ้าเลห์น่ะหลอกเราว่าสถานีที่เราจะไปอีกราคานึงคนละ 100 บาท ก็โอเค แต่เราบอกเขาว่าเราอยากไปด้วยรถแอร์แต่คนขับแทกซี่บอกว่ารถแอร์ หมดแล้วเพราะว่ามันเย็นมาก จากเวียงจันทร์ไปหลวงพระบางก็ประมาณ 10-12 ชั่วโมง ผมเลยเปลี่ยแผนไปค้างวังเวียงก่อน ไปวังเวียงแค่ 4-5 ชั่วโมง
TIP แต่ถ้าใครรีบร้อนจะเหมารถตู้ไปวังเวียงก็้ได้น่ะ คนละ 500 บาทแต่ไม่แนะนำแพงมาก ค่าที่พักที่เวียงจันทร์แพงโรงแรมชั้น 2-3 ก็300-400 แล้วGueshouse ถูกๆก็พอหาได้ เมืองเวียงจันทร์ สกปรกมาก ๆ ที่เที่ยวไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่
ว ังเวียงเป็นทางผ่านอยู่แล้วังเวียงเป็นเมืองที่คล้ายพัทยาบ้านเรา เมืองท่องเที่ยว
เมืองทั้งเมืองมีแต่ฝรั่ง เหมาะสำหรับล่องแก่งมาก ๆคล้ายกาญจนบุรีบ้านเรา เธอเป็นไงน่ะหรอ ผมเรียกเธอว่า นัตซึ น่ะ เธอท้องเสียเพราะว่าอาหารไทย หลับตลอดทาง ไม่มีปากเสียงทุกอย่างตามใจผมหมดก็โอเคงั้นเราไปกัน
สถานีขนส่งที่เวียงจันทร์ ก็คล้าย ๆ บ้านเราที่กรุงเทพ มีสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออก เราไปสถานีขนส่งสายเหนือ ไม่น่าเชื่อ เก่ามาก ๆ คล้ายสถานีรถต่างจังหวัดบ้านเรา
เป็นรถทัวร์ไปหลวงพระบางแต่เราลงแค่วังเวียง ถ้าไปหลวงพระบางเลยถึงดึกมากแล้วจะหาที่พักลำบากด้วย
หลังจากซื้อตั่วคนละ 150 บาทไปวังเวียง เป็นรถทัวร์ชั้น3บ้านเรา ข้างบนของเยอะมาก ๆ มากจริง ๆ
น่ะมีมอเตอร์ไซด์ 1 คัน ข้างบนคนเต็มไปหมดช่องว่างตรงกลางก็มีของวาง เต็มไปหมด
ถามเขาว่ารถปรับออากาศมีไหมเขาตอบคือ ไม่มี หมดแล้ว มีแบบธรรมดา ไปก็ไปว่ะ
น่ั่งไปซักครู่สังเกตมีคนคนนึงมีปืนเอ็ม16 ขึ้นมาด้วย งง มากใครเนี่ย สืบมาก็รู้ว่าเขา เป็นทหารมาคุ้้มกันเพราะว่าอาจมีโจรมาปล้นได้
.มันมีเหตุการณ์
เกิดขึ้นบ่อย มีข่าวว่าฝรั่งโดนยิงด้วย
.
หวังว่าเรา2คนและคนทั้งรถคงโชคดีน่ะ
ระหว่างทีรถกำลังจะออกมีน้องคนไทยอีก 4 คนขึ้นมาประสบชะตากรรมด้วย
ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมคนไทยเหมือนกันทำไมไม่คุยกัน
..ไม่ยิ้มให้กัน
อย่าว่าแต่เขาเลย
ตัวเราก็เหมือนกัน
รถทัวก็เหมือนรถทัวร์บ้านเราประมาณ 20 ปีก่อนสมัย สมบัติ สรพงษ์ ชาตรีทีชอบแสดงเป็นปลัดอำเภอปลอมตัวมาลงมาจากรถทัวร์
แต่ขอโทษครับ ระหว่างทาง ฟังไมค์ ต่ายอรทัย เพลงลูกทุ่งไทยทั้งนั้น
รถออกเดินทางได้ประมาณ 40 นาทีรถเสีย รถเสียจริงๆ รู้สึกว่า สายพาน ขาด ทุกคนลงจากรถ ซ่อมประมาณ 20 นาทีก็เดินทางต่อวิ่งอีกประมาณ30นาทีจอดซ่อมอีกรอบครับอีก 10 นาที
จะถึงไม่เนี่ย
..
นัตซึดูเธอจะเอ็นจอยไม่มากก็น้อยไม่รู้เหมือนกันว่ามันหมายความว่าไง ที่เธอเล่าว่า ที่ เบลเยี่ยม รถบาส สะอาดมาก เธอไปมาเกือบ 20 ประเทศ...
ระหว่างทางเธอก็ถ่ายรูปด้วยกล้องใช้แล้วทิ้งไปตลอดทาง ส่วนผมคนไทยใช้กล้องดิจิตอล ไม่รู้จะถ่ายอะไร ถ่ายไป ถ่ายไปใครก็คิดว่าเมืองไทยแน่ๆ
เธอมาจากTokyoเลยชอบอะไรที่บ้านๆหน่อย ส่วนผมก็นั่งตื่น ๆ หลับ เหมือนย้อนเวลากลับเมืองไทย 20 ปีก่อนระหว่างทางที่ลาวป่าไม้ยังมากมาย น้ำท่าดูสมบูรณ์กว่าเมืองไทย มีรถขนไม้มาเป็นระยะซึ่งไม้แต่ละท่อนใหญ่มาก ๆ
ประมาณ 4 ชั่วโมงลุงคนลาวที่อยู่ข้างก็ปลุกว่าใกล้ถึงแล้ว เพราะแกถามผมว่าจะไปไหน ผมก็บอกว่าวังเวียง แล้วมันอยู๋ไกลไหม ผมไม่รู้ จะถึง บอกผมด้วยน่ะ ลุง คุณลุงฟังภาษาไทยออกไม่ต่องห่วง คนลาวจะยิ้มเก่งกว่าคนไทยอีกน่ะ มีน้ำใจด้วย ถ้าไม่นับพวก สามล้อ แทกซี่ ทีเวียงจันทร์ และไม่อายที่จะคุยก่อนด้วย..แต่คนไทยสมัยนี้ ทำตัวตรงกันข้าม รวมทั้งตัวผมเอง
ออกมา 4 โมงเย็นมาถึง 3 ทุ่มนิด ๆ ไชโย
หลังจากลงมาจากรถด้วยความทุลักทุเล น้องคนไทยอีก 4 คนก็ตามมาเป็นคู่ ชาย 2 หญิง2ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปคุยทำความรู้จัก และขอคำแนะนำกับเขาเรื่องที่พัก
คนไทยมีน้ำใจอยู่แล้ว พวกเขาบอกว่าจะไปพักที่ Organic Farm เป็นGueshouseเล็กๆและพวกเขาก็จะไปที่หลวงพระบางด้วย
เพราะในกลุ่มมีหนึ่งคนเคยไปหลวงพระบางแล้ว
ผมไม่รอช้า ปรึกษากับนัตซึ ตกลงขอไปพักที่เดียวกับพวกเขาและไปหลวงพระบาง
พร้อมพวกเขา พวกเขาก็ใจดีให้เราอาศัยเดินทางไปด้วย
.
เราเหมารถสองแถวจ่ายคนละ 40 บาทก็ถึงที่พักเราก็ทานข้าว เป็นข้าวกล้องหลังจากทานข้าวกับเบียร์ลาวคนละ 1 ขวดซึ่งค่อนข้างหวาน ทางฟาร์มเขาทำเอง
เราคุยกัน แนะนำตัวเสร็จเราก็ แยกย้ายกันพัก
ส่วนผมพักกันนัตซึ เป็นห้องใหญ่ ห้องน้ำในตัว
แต่มีเตียง 8 เตียง คืนล่ะ 100 บาทถูกมาก
มีสาวอังกฤษ 1 คนพักด้วยสวยมาก ๆ คุยกันนิดหน่อยเธอมาจาก London
เธอพึ่งมาจากเมืองไทย เธอบอกว่าเธออยุ่ที่นี้ 1 อาทิตย์แล้ว เธอจะอยู่อีก 1 อาทิตย์
ผมสังเกตุเธอทั้งคืนเอาแต่อ่านหนังสือ
หลังอาบน้ำผมก็สลบนอนเหมือนคนตาย ไม่รู้ด้วยว่านัตซึหลับกี่โมง
TIPใครอยากฝึกถาษาไม่ต้องไปเมืองนอกมาทำงานที่วังเวียงหรืออยู่อยู่ Gueshouse
น่ะรับรองเห็นผลเร็วเหมือนไปSummerที่เมืองนอกเลย
ผู้ชายจะสะดวกและปลอดภัยกว่ามาก
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 48 00:36:39
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 48 00:26:18
จากคุณ :
killjoe
- [
9 พ.ค. 48 22:40:07
]