CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ภูเก็ตส่วนที่ไม่น่าสงสาร

    วันนี้ได้อ่าน นสพ.ไทยรัฐคอลัมณ์หมายเหตุประเทศไทย
    ของคุณ ลม เปลี่ยนทิศ แล้วเห็นว่าสะท้อนภาพความเป็นจริงของการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
    จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดให้ได้อ่านกัน
    เผื่อว่าใครยังไม่ได้อ่าน
    หรือถ้าหากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อ่านแล้วนำไปปรัปรุงแก้ไข
    ก็จะเป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ
    รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมในท้องถิ่นด้วยครับ
                                             ภูเก็ตส่วนที่ไม่น่าสงสาร
    วันสุดสัปดาห์ที่ผ่าน ผมไปที่จังหวัดภูเก็ตกับพรรคพวกหลายคน เลยถือโอกาสนั่งรถสำรวจแหล่งท่องเที่ยวภูเก็ตแถวหาดป่าตอง กะรน และสัมผัสปัญหาบางส่วนเท่าที่จะหาได้ ซึ่งหาดป่าตอง กะรน วันนี้แทบจะฟื้นหมดแล้ว มีเหลือเพียงบางส่วนที่กำลังซ่อมแซม และบางส่วนที่ต้องสร้างใหม่
    แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติบางตาอย่างเห็นได้ชัด
    เรื่องที่ผมอยากฝากไปถึงคนภูเก็ตตรงนี้ก็คือ ถ้าเจ้าของโรงแรมและผู้ประกอบธุรกิจบริการในภูเก็ต ยังเห็นแก่ได้อย่างนี้ โขกราคากับนักท่องเที่ยวอย่างนี้ เห็นทีคนไทยด้วยกันเองก็ไม่อยากไปเที่ยว
    แม้สิ่งที่พบเห็นมาจะเป็นเพียงบริการผิวเผิน แต่มันก็ได้ “ทำลายความรู้สึกดีๆ” ที่ผมมีความตั้งใจแต่ต้นไปโดยสิ้นเชิง
    ผมก็เหมือนคนไทยอีกมากมาย ที่รู้สึกเห็นใจในชะตากรรมของคนภูเก็ต ถูกคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ ทรัพย์สินเสียหาย ผู้คนล้มตายหลายพันคน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของภูเก็ตและของประเทศ มีโอกาสเมื่อไรก็จะชวนกันไปสนับสนุนภูเก็ต ช่วยกันคนละไม้ละมือเท่าที่จะช่วยได้
    คนต่างชาติไม่มาเที่ยวภูเก็ต คนไทยไปเที่ยวกันเองก็ได้
    ยิ่งเห็นโฆษณาลดแลกแจกแถม เพื่อให้คนไทยทั่วไปได้ไปสัมผัสแหล่งเที่ยวราคาแพงระดับห้าดาว ก็ยิ่งชวนให้คนไทยไปลิ้มลองบ้าง
    แต่จากสิ่งที่ผมและพรรคพวกไปสัมผัสมา ต้องบอกว่าทำให้ความรู้สึกสงสารเห็นใจอยากช่วยหดวูบไปทันที
    ค่ารถจากโรงแรมแถวหาดกะรนไปที่สนามกอล์ฟบลูแคนยอน เที่ยวเดียว โขกราคา 1,700 บาท ค่าแท็กซี่มิเตอร์ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร เที่ยวเดียว เรียกค่าโดยสาร 1,000 บาท
    บางคนไปเล่นกอล์ฟมา อยากอุดหนุนหมอนวดในโรงแรม เพราะเห็นแขกน้อย แต่เจอค่านวดแผนไทย คิดชั่วโมงละ 1,900 บาท เล่นเอาหายเมื่อยไปทันที เลยขอลดลงมานวดเท้าอย่างเดียว ยังคิดค่านวดชั่วโมงละ 1,600 บาท
    อะไรจะโขกแพงกันขนาดนั้น นี่ขนาดโลว์ซีซั่น แขกน้อย แถมยังเจอมหันตภัยสึนามิ ทำให้ลูกค้าในแถบเอเชีย ไม่ว่าญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน หลีกลี้หายหน้าไปเพราะความกลัวทั้งผีและภัยธรรมชาติ
    หลายคนเถียงว่า ราคาแค่นี้คิดเป็นเงินดอลลาร์ ยูโร หรือเยน ถือว่าไม่แพง ก็ใช่ครับ ผมไม่เถียงเลย ถ้าภูเก็ตวันนี้อยู่ในยุคบูม ก่อนคลื่นยักษ์กระหน่ำ ช่วงนั้นคนไทยน้อยคนจะมีโอกาสไปเที่ยวภูเก็ต เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างแพงกว่าบินไปเที่ยวที่ฮ่องกงและสิงคโปร์เสียอีก
    แต่วันนี้ คนภูเก็ตกำลังร้องให้รัฐบาลช่วย เพราะการท่องเที่ยวซบเซา แต่พอมีคนไทยไปช่วยอุดหนุน กลับเจอราคามหาโหดอย่างนี้ อย่างมากช่วยแค่ครั้งเดียวก็เข็ด
    ผมว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาล โดยเฉพาะ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ผู้ว่าฯภูเก็ต ตลอดจนสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมทั้งหลาย จะต้องช่วยกันดูแล ก่อนที่คนไทยจะเมินไม่ไปเที่ยวภูเก็ตอีกกลุ่ม
    ปกติช่วงไฮซีซั่นของภูเก็ต จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะยุโรป จะเริ่มทยอยบินมาเที่ยวภูเก็ต
    แต่วันนี้ เดือนมิถุนายนแล้ว อีก 3 เดือนกว่าก็จะถึงไฮซีซั่นแล้ว การจองห้องพักเท่าที่ผมสอบถาม ยังมีมาน้อยมาก ทุกวันนี้ อัตราการเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 15 ยกเว้นโรงแรมของท่านประธาน วิจิตร ณ ระนอง เขาบอกว่า อัตราการเข้าพักสูงสุดถึงร้อยละ 75 ตลอดเวลา เล่นเอาคนอื่นอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน
    อยากให้ “ไทยช่วยไทย” ในยามเดือดร้อนเช่นนี้ ผมว่า “ภูเก็ต” จะต้องมี “ราคาคนไทย” ที่คิดจากฐาน “เงินบาท” ครับ ไม่ใช่คิดจากฐานดอลลาร์ ยูโร หรือเยน อย่างที่คิดกันทุกวันนี้.
                                                           ลม เปลี่ยนทิศ

    จากคุณ : rraiwa - [ 6 มิ.ย. 48 16:01:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป