ไม่ได้ช่วยแต่ง ขอช่วยก๊อบมาไว้นี่ละกันค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
^ ^ ^ ^ ชู้รัก เรือล่ม ตอน ดอกท้อ ซ่อนเงื่อน ^ ^ ^ ^
ทีมสี (คาน) ทอง
ขอนำเสนอ
เรื่องสั้น ฉบับร่ายยาว
" ชู้รัก เรือล่ม ตอน ดอกท้อ ซ่อนเงื่อน "
ผลงานโครงเรื่องและแรงบันดาลใจจาก.... น้องแบงค์ ครีเอทีฟหัวเห็ด
สร้างสรรค์ ต่อโดย ........ ข้าพเจ้าเอง ...คำปู้จู้
สนับสนุน และให้กำลังใจโดย เจ้านางน้อย ณ นางนอน
เชิญติดตามได้ ณ บัด Now
แต่น แตน แต๊น
.........................................................................................
ปี พ.ศ. 2499
ณ เมืองบางกอก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพุทธ ท่ามกลาง สายฝน
ที่โปรยปรายลงมา ประหนึ่งจะชะล้าง ความแห้งแล้ง ให้หายไป นำความชุ่มชื้น มาสู่ผืนดิน
หญิงวัยกลางคน คนหนึ่ง นั่ง เหม่อลอย ตากฝน อาเฮีย
..อาหลิง อั๊วรักลื้อ นะ อั๊วขอโทษ
..
ภาพเรื่องราวในอดีต ก็ลอยขึ้นมาหล่อนยังจำได้ดี
5 ปี ก่อน ครอบครัวของเขา เกือบจะพบจุดจบ พร้อมๆ กันที่นี่
..และในวันนั้น ฝนก็ตกปรอย ๆ เช่นนี้
.
( ตัดภาพ ย้อนกลับไป เมื่อ 5 ปี ก่อน )
เฮียตี๋ หนุ่มวัยฉกรรจ์ อายุอานามก้อเลยดอนเมืองมาหน่อย แห่งท้องทุ่งดอนอีแร้ง
สมัยหนุ่มๆ เป็นหัวหน้าโจร หากินอยู่แถบภาคกลางตอนบน
ด้วยความเป็นหนุ่มจีน รูปร่างสูง สันทัด ใบหน้าคมเข้ม
ละม้ายคล้าย เหลียง เสียว เว้ย
..เอ้ย ! เหลียง เฉียว เหว่ย พระเอกหนังจีน
จึงได้รับสมญานามว่า เพชรฆาตหน้าหยก มันจะฆ่าเจ้าทุกข์ ทุกครั้ง
แม้ร้องขอวิงวอน เพียงใด ก็ตาม แต่แปลก ศพที่ถูกแทงตาย
ไม่มีเลือดออกเลย ข่าวลือว่า เฮียตี๋ มีอาจารย์ดี ให้อาวุธ คู่กายเป็น มีดหมอ ลงอาคม
เหยื่อที่ถูกแทงไม่ทรมาน และเลือดจะแข็งตัวทันที
ทำให้ไม่เปรอะเปื้อน และน่ากลัว จะดูเหมือน คนนอนหลับ
มาวันหนึ่ง เฮียตี๋วางแผนจะไปปล้นโรงสี ที่ปากน้ำโพ ซึ่งเป็นของ เถ้าแก่เส็ง
เถ้าแก่เส็ง เป็นม่าย เมียตายไปตั้งแต่ ลูกสาวยังเล็กๆ แกมีลูกสาว 2 คน คือ อาท้อ และอาหลิง
ขณะไปดูลาดเลา บังเอิญ ได้พบอาท้อ
จึงเกิด ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ( ร้องแบบพี่เบิร์ด นะ ) ขึ้นมา
จึงวางแผนให้ ลูกน้อง เข้าไปปล้น และเผาโรงสี ส่วนตนเองเข้าไปช่วย อาท้อ กับน้องสาว ออกมา พาวิ่งไปอีกทาง
เมื่อถึงที่หมายแล้วจึงได้หยุดพัก และ พูดคุยกัน
เฮียตี๋ : เอ่อ
สวัสดีครับ ผมชื่อ ตี๋ ครับ คุณกับน้องสาวเป็นอะไรหรือเปล่า ผมเสียใจด้วย กับครอบครัวของคุณ
ตอนนี้บ้านคุณพวกโจรมันเผาไปหมดแล้ว คุณจะไปอยู่ที่ไหนครับ ผมจะไปส่ง
อาท้อ : เรา เอ่อ ท้อ และ อาหลิง ก็ไม่มีญาติ เลยค่ะ หากไม่เป็นการรบกวน ท้อขอไปอยู่กับคุณได้มั้ยคะ
เฮียตี๋ หันข้าง แอบยิ้ม และ รีบเอาแขนเสื้อ ซับน้ำลาย ที่มันเกือบจะไหลฟูมปาก
..
เฮียตี๋ : หากคุณไม่กลัวลำบาก ผมยินดีมากครับ ตัวผม เป็นคนจน บ้านช่องเป็นหลัก เป็นแหล่ง ไม่มี
พ่อ แม่ ก็ตายหมดแล้ว ทำงานหาเช้า กินค่ำ ไปวันๆ ตามประสา แต่หากมีคุณ
..ผมก็จะตั้งหลักแหล่ง ซะที
ผมยินดี ทึ่คุณไว้วางใจ ให้ผมได้ดูแลคุณ และน้องสาวครับ
จากนั้น เฮียตี๋ ก็พาสองสาว ลงไปอยู่ที่บ้าน ที่ทุ่งดอนอีแร้ง ชานเมืองบางกอก และหลังจากการปล้นครั้งนั้น
เฮียตี๋ ก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ กับอาท้อ อยู่กันมา จนมีลูกชาย หนึ่งคน ชื่อ โซ้ยตี๋ ชีวิตครอบครัว ก็ราบรื่น มาโดยตลอด
แต่มาปีหลังๆ ท้องทุ่ง ดอนอีแร้ง ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก
เมื่อถึงฤดูฝน เฮียตี๋ จึงพาครอบครัว ประกอบด้วย อาท้อ โซ้ยตี๋ และ อาหลิง ซึ่งเป็น น้องเมีย อพยพไปบางกอก
สำหรับอาหลิงนั้น มีหนุ่มๆ ในย่านนั้น มาติดพันหลายคน แต่ เธอ ก็ไม่ได้ตัดสินใจ จะตกแต่งกะใคร ซ๊ากกะที
เฮียตี๋ พายเรือ อีแป้น ล่วงเข้าใกล้ กลางเมืองบากกอกยามแสงสุดท้ายพอดี ผ่านสะพานซังฮี้
( ที่ใครหลายๆ คน ในห้องนี้ ติดใจการไปล่องเรือชมบรรยากาศ เมืองบางกอก ริมฝั่งเจ้าพระยา และแด๊นซ์ กระจายมาหลายรอบแล้ว )
ฟ้าก็เริ่ม
..ร้อง
..คะลึ่ง คะลึ่ง ฝน ก็เริ่ม
..ตกลงมา พรำ พรำ ใบหน้าที่หล่อเหลา เริ่มคิ้วขมวดเข้าหากัน
กระแสลมแรง ทำให้น้ำค่อนข้างเชี่ยว ลำบากต่อการพายเรือยิ่งนัก
แต่เอาน่า นะ อีกนิดเดียวก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว น่า เฮียตี๋
เมื่อผ่านสะพานพระปิ่นเกล้า ก็ล่วงเข้าย่าน สะพานพุทธ เฮียตี๋ ก็หันหัวเรือ เพื่อจะเข้าเทียบท่า
ขณะที่กำลังเลี้ยวเรือ เข้าหาท่า
( เอ้อ
..คุณสิ่งมีชีวิตจากดาวดวงอื่นตรับ ไม่ทราบตอนี้ เรือคุณเลี้ยวได้หรือยัง )
ต่อ ครับ ต่อ
ขณะที่กำลังเลี้ยวเรือ เข้าหาท่า เรืออีแป้นเกิดชนเข้ากับท่อนไม้ใหญ่ ที่ลอยมาตามน้ำ อย่างแรง
อกอีแป้นแตก
..ทุกคนจึงตกน้ำไปคนละทิศ ละทาง
ด้วยพลัง ประหนึ่งคชสาร เฮียตี๋ ที่ดื่ม ยาบำรุงกำลัง "เก็ก เบน เบอรี่ โยเกิรต์ มิกซ์" เป็นประจำทุกวัน
จากฝีมือการปรุงแต่ง ของ อาท้อ ซึ่งเป็นสูตรเด็ด E M W ( East Meet West ) ซึ่งประกอบด้วย
น้ำเก๊กฮวย 1 จ๊อก
ยาสตรีเบนโล 1 จ๊อก
ผลเบอรี่รวม 2 จ๊อก และ โยเกิรต์ 1 จ๊อก
สูตรนี้ ม้ากระทืบโรง ก็ ม้ากระทืบโรงเถอะ รับรอง วิ่งไม่เป็น ม้าเรยยยย
สรรพคุณ : ควรดื่ม เมื่อตื่นนอน เบิ่งตาปุ๊บ ดื่มปั๊บเลย วันละ 1 จ๊อก จะทำให้มีกำลังวังชา ดั่งช้างสาร ใบหน้าอ่อนวัย
ดุจละอ่อนน้อย
ข้อควรระวัง : ไม่ควรแปรงฟันก่อนดื่ม และ ไม่ควรดื่เกินวันละ 2 จ๊อก เพราะจะทำให้ คุณ ค่อยๆ Back to the baby ทุกๆ อย่าง
เฮียตี๋
..ช่วย อาท้อ และ โซ้ยตี่ ขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย
จากนั้น จึง กระโดด ตีลังกาหน้าใส่เกลียว 1 รอบครึ่ง
ลงน้ำไปตามหา น้องเมีย หรืออาหลิง
เฮียตี๋ เห็นถังน้ำสีขาวลอยอยู่ และได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย ใกล้ๆ ตอม่อของสะพาน จึงรีบว่ายน้ำไปหา
เมื่อเข้าไปถึงตัว อาหลิง ซึ่งใกล้จะหมดแรงที่จะลอยตัวแล้ว เงยหน้าขึ้นมาเห็น เฮียตี๋ พี่เขย
จึงเป็นลมสลบไป
เฮียตี๋ จึง พยุง พาขึ้นไปนอนพักที่ตอม่อ ของสะพาน เมื่อนอนพักไปได้สักพัก
อาหลิงลืมตาตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้ โผเข้ากอดเฮียตี๋
..จากนั้น
..( ไม่อยาก จะคิดสงสาร ไม่อยากจะคิดสงสาร
.อาท้อ )
เฮียตี๋ แม้อายุจะล่วงเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่ด้วย เก็ก เบน เบอรี่ โยเกิรต์ มิกซ์ ทำให้รูปร่าง
กำลังวังชา และจิตใจ ประหนึ่ง หนุ่มวัยฉกรรจ์ เมื่อบรรยากาศ ฝนปรอย และอยู่ในที่ลับ กับสาวรุ่น
หุ่นอวบอั๋น กลิ่นหอม ดุจ ดอกท้อ เช่นนี้ มีฤา จะหักห้ามใจตนเองได้ จึงได้ . . . . . อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ
อาหลิง ด้วยความรักที่มีต่อเฮียตี๋ อยู่ลึกๆ เพราะเฮียตี๋ ยังหล่อเหลา เอ็นดู และดีกับตนมาตลอด
ทำให้จิตใจของหญิงสาว อดที่จะรัก ไม่ได้ จึงได้โอนอ่อนผ่อนตาม
.โดยมิได้ขัดขืน
.
เมื่อฝนหยุดตกสักพัก
ก็มีเสียงเรือวิ่งมาทางนี้ เฮียตี๋ จึงได้ตะโกนร้องเรียก
ปรากฎว่า อาท้อ ได้จ้างเรือออกมาตามหาสามี และน้องสาว
เมื่อสองพี่น้องเจอกัน ก็กอด ดีใจร่ำไห้ กันยกใหญ่
เมื่อถึงฝั่ง เฮียตี๋ พาทุกคน ไปกินข้าวต้มโต้รุ่ง และเดินเท้าไปยังบ้าน ซ้อเจ็ด
ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางย่านเยาวราช ซ้อเจ็ด ให้ เฮียตี๋ ไปอยู่ที่ ห้องเช่า หลังหนึ่ง ริมถนน มังกร
ซึ่งต่อมา เฮียตี๋ ก็ได้เปิดร้านขายกาแฟโบราณ
ร้านกาแฟโบราณ ของเฮียตี๋ ขายดิบ ขายดี มีลูกค้ามากมาย ทั้ง ขาประจำ ขาจร และขาโจ๋
หนึ่งในนั้น ก็คือ แก๊งค์สิบแปดนรกหมวยยกล้อ ที่ โซ้ยตี๋ แอบให้สมญานาม
แก๊งค์นี้ ประกอบด้วย ลูกสาวชาวจีนในย่านนี้ สิบแปดคน ที่เกิดปีเดียวกัน พบปะกันบ่อยๆ ตามงานของสมาคม
เมื่อมีงานของสมาคม สาวๆ สิบแปดคนนี้ก็จะรวมกลุ่มกันทำงาน ต่อมาเมื่อเรียนจบ ก็แยกย้ายกันไปทำมาหากิน
แต่จะมานัดพบปะสังสันต์กัน เสมอๆ ที่ร้านของเฮียตี๋ ส่วนเครื่องดื่มที่โปรดปรานของอาหมวยทั้งหลาย ก็คือ
ยกล้อ ซึ่งเป็น โอเลี้ยง ใส่นมสด นั่นเอง
วันหนึ่ง พายุร้ายได้พัดถาโถมเข้าใส่ครอบครัว อาท้อ
..
ระยะหลัง อาท้อ สังเกตุเห็นพฤติกรรมผิดปกติบางอย่างของน้องสาว และ สามี
ตอนแรกที่ชาวบ้านมากระซิบ กระซิบ ตนไม่เชื่อ
.แต่ก็ได้แอบสังเกตุ จนแน่ใจว่า
มัง เป็ง อย่าง ที่ อาเง๊ก อี บอก อั๊ว เลย ฮ่อ
เมื่อความอดทนสิ้นสุด วันนั้น อาท้อขอเฮียตี๋ ไปดูงิ้ว ที่ศาลเจ้า โดยชวนโซ๊ยตี๋ ไปด้วย
และได้นัดอาจื้อ ให้มาช่วยดูแล โซ้ยตี๋
ส่วนตัวเอง บอกว่า อากาศมันเย็นๆ ขอกลับบ้าน ไปเอาผ้าคลุม
เมื่อกลับมาเห็นภาพบาดตา บาดใจ ของสามีสุดที่รัก และน้องสาวของตน
อาท้อ : โอ้ว!!!!!!! พระเจ้าจอร์จ มันเป็นไปได้ไง อั๊ว ทง ม่าย หวาย แล้วววว มรึงงงงงงง ตายยย
ว่าแล้ว จึงดึงมีดหมอ ของเฮียตี๋ ออกมา และตรงไปแทง เฮียตี๋
เฮียตี๋ พยายามจะต่อสู้ แต่หารู้ไม่ว่า เก็ก เบน เบอรี่ โยเกิรต์ มิกซ์ ที่ดื่มระยะหลังๆ นั้น
อาท้อได้เพิ่มตัวยา เข้าไปอีก 2 ตัว ทำให้ ร่างกายกำลังวังชา ค่อยๆ ลดน้อยถอยลง
จนเจ้าตัวไม่รู้สึก ในยามปกติ แต่หากอยู่ในภาวะคับขัน ตื่นตกใจ ฤทธิ์ ยา ที่เพิ่มขึ้นมา คือ
แมงกระพรุนน้ำมันงา ก็จะออกฤทธิ์ ได้เร็วขึ้นเป็น ร้อยเท่า
เฮียตี๋ จึงไม่สามารถต้านทานพละกำลังของอาท้อได้ จึงจบชีวิตลงอย่างสงบ
จากนั้น อาท้อจึงได้ หันกลับไปจัดการ กะน้องสาว ตัวดี ซึ่งตกใจสิ้นสติไป
และได้ยกศพ ของอาหลิง กลับไปห้องนอน และจัดแจงศพ ประหนึ่งนอนหลับตาย
จากนั้น ได้นำ มีดหมอ ไปทิ้ง ที่แม่น้ำเจ้าพระยา และเดินกลับไปที่โรงงิ้ว
โซ้ยตี๋ เมื่อดูงิ้ว ไปสักพักใหญ่ ก็ง่วงนอน จึงชวนอาม่า กลับบ้าน ขณะที่ โซ้ยตี๋ กำลังจะเคลิ้ม หลับ
ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง ของ อาม๊า จึงรีบวิ่งไปที่ห้อง ก็เห็นภาพ อาม๊า กำลังร้องไห้กอดอาปา ปากก็พร่ำ
อาท้อ : อาเฮีย
.อาเฮีย ลื้อ ตื่ง ซี ลื้อ จา ทิ้งอั๊ว ปาย หนาย
โซ๊ยตี๋ จึงรีบวิ่งไปตาม อาซิงแซ ข้างบ้าน มาตรวจดู พบว่า เฮียตี๋ ได้ตายแล้ว
แต่ไม่ปรากฎว่า ตายเพราะอะไร
ขณะเดียวกัน โซ๊ยตี๋ ก็แปลกใจว่า ทำไม เสียงดังขนาดนี้ แต่ไม่เห็นอี๊หลิง จึงวิ่งไปดูที่ห้อง
ปรากฎว่า เห็นอี๊หลิง นอนหลับ จึงเข้าไปปลุก แต่ ไม่มีปฏิกริยา ใดๆ จึงวิ่งมาขอให้ ซิงแซ ช่วยไปดู
ซิงแซ ได้สรุปว่า ทั้งสองคน เสียชีวิต แล้ว แต่ด้วเพราะอะไร ยังหาสาเหตุ ไม่ได้
เมื่อตำรวจมา ก็เข้าตรวจที่เกิดเหตุ ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ จึงสรุปเรื่อง ตามที่ซินแส บอกมา
โซ๊ยตี๋
ต่อมา อาท้อ จัดการงานศพ ของสามี และน้องสาว อย่างเงียบๆ
และได้ย้ายบ้าน ไปอยู่ ย่านคลองเตย ใช้ชีวิต ทำมาค้า
ขาย เลี้ยงดู บุตรชาย คนเดียว ต่อไป อย่างเงียบๆ
และไม่ได้แต่งงานอีกเลย
.The End
...
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 48 19:38:10
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 48 19:38:08
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 48 19:35:05