ความคิดเห็นที่ 1 ไม่แปลกหรอกครับ จำนวนคนที่เรียนมากขึ้น ราคาต้องลดลงเป็นธรรมดา 10 ปีที่แล้วจะมีคนเรียนดำนั้นกันมากแค่ไหนเชียว อุปกรณ์แต่ละอย่างก็แพงๆทั้งนั้น (ทุกวันนี้ผมว่ามันก็ยังแพงอยู่ดีแหละ) ปัจจุบันตนเรียนกันมากขึ้น สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเวบ โทรทัศน์ ...... ทำให้คนสนใจมาดำน้ำกัน ธุรกิจดำน้ำกเริ่มเติบโตขึ้น จนถึงจุดหนึ่ง มันก็ต้องลงเป็นธรรมดา ราคาแพงมากคนก็ไม่อยากเรียน ก็เลยต้องตัดราคากัน คุณภาพย่อมแตกต่างกันไปอีก สรุปแล้ว ราคาน้ำมันขึ้น ราคาเรือออกทะเลมันก็ขึ้น ดังนั้นราคาค่าเรียนก็น่าจะเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดาอีก แต่คราวนี้จะอยู่หรือจะไปล่ะ เดากันเอง เฮ่อๆ จากคุณ : metoo (natona) - [ 10 ส.ค. 48 12:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยรู้จักหลักอุปสงค์ อุปทาน หรือเปล่า อะไรที่อุปสงค์มาก หรือมีคนต้องการเยอะ ราคาย่อมแพง อะไรที่อุปทานมาก หรือมีของให้เลือกเยอะ ย่อมตัดราคาแข่งขันกันอยู่แล้ว มันก็เหมือนมือถือสมัยก่อนที่เป็นทรงกระบอกน้ำน่ะ เห็นหรือเปล่าราคาเมื่อก่อนเหยียบแสนเลยนะ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์เหมือนกัน เมื่อก่อนเจ็ดแปดหมื่น แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะ เป็นไง จากคุณ : korjam - [ 10 ส.ค. 48 13:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โทรศัพท์มือถือ แต่ก่อนราคาเป็นแสน ตอนนี้ เหลือ แค่หลักพัน หลักหมื่น หลักของ ดีมานด์ และ ซัพพลาย ธรรมดาๆ แต่ก่อน Instructor จะมีซักกี่คน  คนแรกสุด ก็ครูดำรงค์ เจ้าเก่านั่นแหละครับ ตอนนี้ Instructor มันเยอะ พอๆ กะ Diver ธรรมดาซะละมั้งครับ ธุรกิจดำน้ำนี้ ใครอยู่ไม่ได้ ก็ต้องออกไป  เดี่ยวมันก็ปรับตัวเองเข้าสู่จุด Equilibrium ของมันเองนั่นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 48 13:10:43 จากคุณ : AQUANAUTS - [ 10 ส.ค. 48 13:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอ ทำไมน้ำมันยิ่งนานยิ่งแพง(ก็เขาบอกว่าจะหมด นะสิ) จากคุณ : เอ่ยรัก - [ 10 ส.ค. 48 14:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ผมก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เขานะครับ.. ว่า ราคามันตกลงมาจนเกือบจะต่ำกว่า break even point แล้ว.. ค่าเรือ ค่าบัตร ค่าสระ ค่าอุปกรณ์ แล้วยังค่าใช้จ่ายระหว่างการสอนต่างๆ อีก.. (ครูหน้าใหม่ ขอบังอาจวิจารณ์บรรดารุ่นเก่าๆ หน่อยนะครับ) สังเกตอะไรอย่างไหมครับ.. ที่เดียวที่คุณหาคอร์สสอนดำน้ำ ราคาต่ำกว่าหมื่นได้ ก็คือ กรุงเทพ ซึ่งมีแต่ร้านของคนไทย ครูไทย ในขณะที่ พัทยา เกาะเต่า ภูเก็ต ราคาต่างก็อยู่ในช่วงหมื่นบาทขึ้นไปทั้งนั้น.. แล้วร้านตามสถานที่เหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่บริหารโดยชาวต่างชาติ เขาตกลงกันในพื้นที่ ว่าจะขายที่ราคาเท่าไร แล้วก็ยืนราคาตามที่ตกลงกัน.. ในขณะที่ร้านไทยในกรุงเทพ.. ที่เคยได้ยินมา คือ ครั้งหนึ่งมีการตกลงว่า จะขายคอร์ส O/W ในงาน ที่ราคาที่ตกลงกันไว้ แต่พอเปิดงาน... ทุกร้านที่ตกลงกันไว้ ขายที่ราคาต่ำกว่านั้นหมด... (แล้วจะตกลงกันทำไมฟะ..) ในแง่การตลาด เคยได้ิยินมาว่า หากเอาแต่ใช้สงครามราคากัน ในที่สุด จะไม่มีใครเหลือรอดในตลาด ยิ่งต้นทุนสูงขึ้นทุกวันอย่างนี้.. ยิ่งน่าจะตายหมู่กันเร็วขึ้น.. ถ้าราคาคอร์ส O/W เริ่มต้นต่ำ.. ก็ขายคอร์สต่อเนื่องสูงไม่ได้ ขายทริปแพงก็ไม่ได้.. จะตายหมู่กันก็ตอนนี้ละ... (แสดงความเห็นอย่างนี้ จะโดน teen ไหมเนี่ย..) แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 48 14:33:42 จากคุณ : Wobbegong - [ 10 ส.ค. 48 14:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยคิดอยากจะไปเรียนเหมือนกันค่ะ แต่เค้าบอกว่า ถ้าว่ายน้ำไม่เป็นก็เรียนไม่ได้อะ  อดเลยเรา แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 48 14:50:57 จากคุณ : Selene - [ 10 ส.ค. 48 14:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ Selene ที่จริงว่ายน้ำไม่เป็น แต่ถ้าลงน้ำแล้วไม่ตกใจ ก็เรียนได้ครับ สอนมาหลายรายแล้ว แถมสอนว่ายน้ำขั้นต้นให้ด้วยสิ... จากคุณ : Wobbegong - [ 10 ส.ค. 48 14:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยคิดเหมือน คคห. 6 ครับ จากคุณ : ZQ - [ 10 ส.ค. 48 15:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "แล้วจะสอนนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพหรือ ???" ประโยคนี้โดนใจมากครับ เดี๋ยวนี้ครูเยอะมากขึ้น ต้องแข่งกันเรื่องราคา โดยไม่เน้นคุณภาพเท่าไหร่ ที่ผมได้คุย ได้ยิน และได้เห็นมา บางคนเรียนจบมาจะไปสอบอยู่แล้ว ยังไม่รู้เรื่องเลย แต่พวกนี้ เวลาไปสอบครูก็ต้องดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว ยังเคยคิดเลยว่า ถ้าไปดำที่อื่นไม่ได้ไปกับครู แล้วเกิดเหตุไม่คาดคิด เค้าจะแก้ไขปัญหา หรือควบคุมสติได้หรือเปล่า ครูดีๆ ก็มีอยู่เยอะ ยังไงก่อนเรียนน่าจะไปลองนั่งคุยหรือดูเค้าสอนดูก่อนครับ จากคุณ : Inlaw Man - [ 10 ส.ค. 48 15:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... เป็นธรรมดาของโลกที่ต้องแข่งขัน จะทำธุรกิจอะไรต้องมองเผื่ออนาคตไว้ด้วย จากคุณ : ตามนั้น - [ 10 ส.ค. 48 17:04:56 A:203.208.250.164 X: TicketID:073078 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับคุณ Wobbegong เคยอยู่วงการดำน้ำมาหลายปี ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าไปเท่าไหร่เลย การแข่งขันสูงมากกกก ( แข่งกันเดี้ยง!!!)ใครสายป่านยาวก็อยู่ได้  คุณภาพของ INST ก็แย่ เดินในร้านดำน้ำแทบจะชนกันตาย  ดีนะเนี่ยตอนนั้นเพื่อนชวนไปเรียน INST ไม่มีตังค์เลยอด ไม่งั้นป่านนี้เสียใจแย่ ลงทุนไปเกือบแสน กี่ปีจะคืนทุนก็ไม่รู้  จากการวิเคราะห์วงการดำน้ำกรุงเทพฯท่าจะดิ่งสุดๆ  ตอนนี้ไม่ค่อยได้ดำน้ำตังค์เหลือเยอะมากเลย จากคุณ : ปฎิทิน - [ 10 ส.ค. 48 19:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สำหรับท่านที่ดำน้ำเพื่อการสันทนาการเพียงอย่างเดียว การดำน้ำ ยังคงมีสเน่ห์อยู่เสมอครับ.. การดำน้ำ ยังคงช่วยให้คุณได้ผ่อนคลาย ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ได้สัมผัสกับโลกที่ต่างออกไปจากทุกๆ วันอยู่เหมือนเดิมครับ.. อย่าเิ่พิ่งเลิกดำน้ำ เพียงเพราะกระทู้นี้เลยครับ.. จากคุณ : Wobbegong - [ 10 ส.ค. 48 23:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าจะให้อธิบายความเห็น 6 เรื่องค่าสอนลูกค้าฝรั่งบนเกาะเต่ามีราคาสูงก็เป็นไปได้ครับ ฝรั่งที่มาเที่ยวเขาสื่อสารกับชาวต่างชาติกันเองได้ง่ายกว่า เขาก็ต้องเรียนกับฝรั่ง ทำให้ค่าเรียนดำน้ำของลูกค้ากลุ่มนี้ยืนอยู่ได้ จากคุณ : ใช่ไหมเอ่ย - [ 11 ส.ค. 48 13:06:38 A:58.10.50.123 X: TicketID:071085 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #13 อ้างถึง #5 ของผมหรือเปล่าครับ.. คือ ถึงมันจะสูงด้วยเหตุผลนั้นก็จริงอะนะ.. แต่ทำไมทั้งเกาะยืนราคาเดียวกันได้ ไม่ตัดราคากันเอง??? ประเด็นที่ผมอยากให้คิดมันอยู่ตรงนี้มากกว่าครับ จากคุณ : Wobbegong - [ 11 ส.ค. 48 14:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าจะเรื่องอุปสงค์ อุปทาน มากกว่านะคะ ความจริงต่อให้เขาตัดราคากันมาก แต่ครูของเราที่สอนเขาก็ไม่ได้บังคับให้เรารีบเรียนรีบสอบ ถ้าเรามั่นใจเรื่องทักษะต่างๆที่เรียนแล้ว ถึงไปสอบออกทะเลกลับครู (อิๆ แบบว่าครูตามใจลูกศิษย์มากกว่าอ่ะ) จากคุณ : แนน - [ 11 ส.ค. 48 16:30:59 A:202.29.77.2 X: TicketID:073690 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คือ จะตัดราคากันอย่างไรก็ตาม.. มันก็มีต้นทุนที่ตายตัวอยู่จุดหนึ่ง.. ซึ่งตอนเนี้ย.. ตัดกันลงมาจนจะต่ำกว่าระดับนี้แล้วนะครับ (ยิ่งน้ำมันขึ้นราคาไม่หยุดอย่างนี้ด้วย) ยิ่งถ้านักเรียนเรียนนาน ไม่ไปสอบซะที ต้นทุนมันก็เพิ่มเรื่อยๆ.. จากคุณ : Wobbegong - [ 11 ส.ค. 48 16:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องราคาเนี่ย  มันก็นานาจิตตัง  นะผมว่า ใครจะสอนถูก  แพงยังไง  ก็แล้วแต่ผู้สอนมากกว่า คนที่เค้าสอนถูกมากก็ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รู้เรื่องนะ  แต่การที่เค้าทำอย่างนั้น  เค้ามีวัตถุประสงค์อย่างอื่นแฝงอยู่ด้วย และนี่ก็เป็นเทคนิคทางการตลาดอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่ว่าใครจะนำเทคนิคไหนมาใช้เท่านั้นเอง วัตถุประสงค์ก็แตกต่างกันออกไป  ในแต่ละความคิดของแต่ละคนน่ะ  บางคนทำเพื่อรักษาตลาดของตัวเอง คือ ต้องการให้เป็นเอกลักษณ์   บางคนสอนถูก แต่ได้อย่างอื่นพ่วงมาด้วยเช่น  ขายอุปกรณ์  ทริป  course  ต่อเนื่อง ฯ   ขึ้นกับแต่ละคนเค้าจะคิดเทคนิคออกมายังไง  หวังผลอะไรเท่านั้นเอง อีกเรื่องนะ  ที่ราคาลดลงมาได้  เพราะปัจจุบันครูที่เป็น  freelance  มีอยู่มากมาย  ครูพวกนี้ต้นทุนต่ำครับ  ไม่เหมือนร้านดำน้ำ  ซึ่งเค้ามีต้นทุนสูง  ถ้าสอนราคาถูกก็ไปกันใหญ่น่ะซิ่ครับ  บางคนก็สอนเอามันมากกว่า  บางคนก็สอนเพื่อหาประสบการณ์ ฯ  หลากหลายครับ  เดี๋ยวนี้ร้านดำน้ำหลายร้าน  ก็ลดราคาลงมาสู้กับครู  freelance  กันก็เยอะ  ถ้าร้านค้าทำอย่างที่ผมว่ามานะ  ผมคิดว่านี่จะเป็นการฆ่าตัวตายในระยะยาวเลยละครับ   เรื่องนี้หนังยาวครับ  หลายตอนจบ  ต้องดูกันนานๆ  55 จากคุณ : ตะวันลับฟ้า - [ วันแม่แห่งชาติ 00:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พวก Freelance นี่แหละที่ทำให้วงการดำน้ำฉิบหาย ไม่มีต้นทุน ภาษีไม่เสีย ตัดราคา ขายของถูก ๆ เพราะได้ลด 25 % มา จึงเอาส่วนลดมาตัดให้ เพื่อเอาบุญคุณ สอนนักเรียนแบบให้รีบจบ ๆ แล้วไปเสี่ยงชีวิตในทะเลกันเอง จะเห็นได้ว่าพักหลังมีนักดำน้ำเกิดอุบัติเหตุตายบ่อย จากคุณ : 007 - [ 14 ส.ค. 48 09:18:56 A:203.188.31.236 X: TicketID:074924 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ 007 ก็พูดเกินไป ครู Freelance ไม่ได้เป็นแบบที่คุณว่าทุกคนหรอกครับ กรุณาอย่าเหมารวม และผมว่าออกความคิดเห็นแบบสุภาพ งดพาดพิงถึงใคร ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อก็เถอะ  ผมว่ามันไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง ในอดีตห้องBlue planet รุนแรงกว่านี้หลายเท่านัก ยุคนี้เบาลงเยอะ การทะเลาะกัน ตอบโต้ไปมามีน้อยลง พูดง่ายๆว่า น่าอยู่ขึ้นเยอะ อย่ากลับไปยุคเดิมๆเลยครับ แบบนี้ดีแล้ว ส่วนเรื่องราคาเท่าที่สังเกตุ ราคาครูFreelance บางที่ก็มีถูกมีแพงกว่าร้านDive centerทั่วๆไป ฉะนั้นผมว่า ต่างคนต่างมีปัจจัยที่แตกต่างกัน การที่ทำอย่างนี้ ไม่ได้ทำแบบนู้น ก็เหมารวมกลายเป็นคนที่ผิด เป็นคนที่ทำให้วงการดำน้ำฉิบหายตามคุณว่า ผมว่าไม่ไม่ค่อยสมเหตสมผลหรือถูกต้องเท่าไหร่นัก ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการที่น่านับถือหลายๆท่าน ที่มีคุณวุฒิวัยวุฒิบางท่าน ก็ไม่ได้ประจำที่ร้านไหน ก็ไม่ได้เป็นแบบที่คุณว่านี่ครับ เห็นท่านๆเหล่านั้นก็ทำคุณประโยชน์ให้วงการเป็นประจำ แล้วการที่กล่าวว่า เกิดอุบัติเหตุเจ็บตายกันบ่อย ตรงไหน ที่ไหน เหรอครับ ขอข้อมูลหน่อย พูดลอยๆมันเสียหายต่อภาพรวมนะครับ จากคุณ : ปลาวิซาร์ด - [ 14 ส.ค. 48 15:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ราคาค่าโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ก็ถูกลงครับ จากเดิม โทรจาก กทม ไปเชียงใหม่ยังตั้งนาทีละ ๑๘ บาท เดี๋ยวนี้กด ๑๒๓๔ เหลือแค่นาทีละสองบาทเอง ต่างประเทศกด ๐๐๘ ก่อน ก็เหลือแค่นาทีละหกบาท เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องอุปสงค์ อุปทาน ทำให้ราคาค่าดำน้ำมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เห็นอย่างวันนี้ ราคาไม่ได้ถูกใครผูกขาดเอาไว้ ส่วนเรื่องครู Freelance เค้าคงไปทำให้ใครไม่ชอบใจเรื่องผลประโยชน์แหละครับ เลยถูกพาดพิงไปแบบนี้ ใครลองเรียนดำน้ำมาจนเป็นครุได้ก็ไม่ธรรมดาทั้งนั้นแหละครับ อย่าไปว่าใครกันเลย จากคุณ : มนุษย์กบ - [ 14 ส.ค. 48 23:33:21 A:203.113.32.11 X:203.151.140.119 TicketID:054090 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมมีมุมมองแบบนี้ครับ. การที่ ครอส สอนดำนำถูกลง ไม่ได้ทำให้วงการดำน้ำ จบลงครับเพราะอะไร เพราะถ้าเราทำราคาได้ถูกลงคนก็เรียนมากขึ้น คนก็จะมีการไปใช้บริการร้านดำน้ำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทริปต่างๆ หรือ อุปกรณ์ดำน้ำที่ขายได้มากขึ้น ทำให้วงจรของการดำน้ำ ขยายตัวมากขึ้นนะครับ อย่างผมถ้าไม่ได้เรียน คอรส ดำน้ำถูกๆเมื่อปีที่แล้ว ผมก็คงไม่ ต้องเสียตังค์ ค่าอุปกรณ์เกี่ยวกับการดำนำ ทั้งหมด ไปประมาณ 40000 บ. แล้วค่า ดำน้ำ อีก 30000 - 40000 บ. ครับนีเพิ่งกลับจากเกาะเต่ามาเมื่อตอน ตี 1 เหมือนกัน ถ้าผมไม่เสีย 4500 สำหรับการเรียนดำน้ำ ปีที่ที่แล้ว เงินอีก 80000 บ.ก็จะอยู่ในกระเป๋าผม ผมมือใหม่คงมีมุมมองแค่นี้ครับ จากคุณ : AthlonVidia - [ 15 ส.ค. 48 03:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใครว่าครูฟรีแลนซ์ไม่มีต้นทุน???? ครูฟรีแลนซ์คนนี้ละ เถียงตาย.. ไหนจะค่าน้ำมันรถขับไปสอน ค่าเช่าห้อง ค่าเช่าสระ ค่าเช่าอุปกรณ์ ค่าเรือ ที่พัก ค่าโทรศัพท์นัดหมายกับนักเรียน ค่าโทรศัพท์ตามตัวเวลานักเรียนมาสาย (ไม่ได้ว่าใครเน้อ... มีนักเรียนตามอ่านอยู่ในนี้ เดี๋ยวเขาว่าไปตำหนิเขา) ค่า PIC card ค่าอุปกรณ์การสอน Member fee ทั้งหมดเนี่ย ต้นทุนทั้งนั้น จะมาว่าไม่มีต้นทุนได้อย่างไร.. ภาษีไม่เสีย แน่ใจหรือครับ.. แม้ว่าการจ่ายเงินของนักเรียนให้ครูฟรีแลนซ์จะไม่มีใบเสร็จก็ตาม ครูฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่ ก็มีงานประจำที่เสียภาษี (ในอัตราไม่ใช่น้อย) กันอยู่ ประเด็นเรื่องตัดราคา.. มันก็เหมือนไก่กับไข่นั่นละครับ ฝ่ายฟรีแลนซ์ก็มักจะอ้างว่า ถ้าร้านไม่ลดราคา เขาก็ไม่ต้องกดราคาตัวเอง ฝ่ายร้านก็มักจะอ้างว่า ถ้าฟรีแลนซ์ไม่ตั้งราคาต่ำ เขาก็ไม่ต้องลดราคา.. ทำไมไม่ตกลงกันไปเลย ในหมู่คนที่พอจะตามตัวกันได้ ว่าจะยืนที่เท่าไร แล้วค่อยพยายามขยายกลุ่มนี้ออกไป ใครจะตัดมากกว่าคนอื่น ก็คงอยู่ได้ลำบากละ "สอนนักเรียนให้จบๆ แล้วไปเสี่ยงชีวิตในทะเลกันเอง".. "คน" นะครับ อย่างไรก็มีความรับผิดชอบ อย่างไรก็สอน "ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดให้สอน" ถ้าสอนเกิน นั่นอีกเรื่อง... หันหน้าเข้าหากัน มานั่งลงคุยกันดีกว่านะครับ ว่าเราทุกคนอยากให้ธุรกิจนี้ เติบโตอย่างไร.. จากคุณ : Wobbegong - [ 15 ส.ค. 48 10:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อืมมมม..นานาจิตตังค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว ดำน้ำเพราะรักการเห็นโลกใต้ทะเลผ่านเลนส์แว่น และเลนส์กล้อง ธุรกิจดำน้ำ จะไปได้ ไม่ได้ รอด ไม่รอด อยู่ที่คุณภาพของผู้ประกอบการและตัวครูค่ะ ถ้าไม่ดีจริง ถูกให้ตายยังงัย ก็โดนธรรมชาติคัดสรรไปเอง ถ้าไม่ใช่เพราะคอร์สดำน้ำลดราคา ป่านนี้ก็คงยังไม่มีโอกาสสัมผัสโลกใต้น้ำหรอกค่ะ ธุรกิจ คือ ธุรกิจ วันยังค่ำ มีได้กำไร มีขาดทุน มีราคาขึ้น ราคาลง อยู่ที่ว่า คุณภาพของนักดำน้ำที่ผลิตออกมา จะแค่ไหนมากกว่าค่ะ จากคุณ : ++แขวน++ - [ 15 ส.ค. 48 10:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ก็แล้วแต่ความคิดเห็นของแต่ละคนแล้วกันครับ   ยังไงก็อย่างให้ถึงขนาดร้านดำน้ำของคนไทยโดยเฉพาะใน กทม.ตายหมดเพราะมัวแต่ตัดราคากัน   แล้วร้านของคนต่างชาติเค้าเจริญรุ่งเรือง เลี้ยงตัวเองสบายๆ ก็แล้วกัน จากคุณ : จ.ข.ก.ท. (Tiger Papers) - [ 15 ส.ค. 48 13:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แก้ไขนิดนึงครับ ยังไงก็อย่าให้ถึงขนาดร้านดำน้ำของคนไทยโดยเฉพาะใน กทม.ตายหมดเพราะมัวแต่ตัดราคากัน   แล้วร้านของคนต่างชาติเค้าเจริญรุ่งเรือง เลี้ยงตัวเองสบายๆ ก็แล้วกัน จากคุณ : จ.ข.ก.ท. (Tiger Papers) - [ 15 ส.ค. 48 13:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เท่าที่พอทราบ ราคาสอนดำน้ำในกทม.ต่ำกว่า break even point มานานแล้วล่ะ (อาจเป็นข่าวดีในระยะสั้น สำหรับนักเรียนดำน้ำ แต่ในระยะยาว ไม่แน่นะ ทั้งกับครู และนักเรียนด้วยก็เถอะ เพราะถ้าเจ๊งกันหมด ทุกอย่างจะปรับเข้าสู่สมดุลของมัน นั่นคือจะแพงขึ้นมาก เพื่อชดเชยสิ่งที่ผ่าน ๆ มา .. ด้วยหลากหลายวิธีที่เป็นไปได้ แม้แต่ หากจะมีแต่ธุรกิจของต่างชาติผูกขาดในที่สุด ดังตัวอย่าง ร้านโชว์ห่วย กับ lotus สมาคมร้านดำน้ำกรุงเทพ ทำอะไรได้บ้างรึเปล่านะ อุตส่าห์มีสมาคมแล้วนิ) ค่าสอนต่ำ ไม่เกี่ยวกับ คุณภาพการสอน โดยตรง... อันนี้ผมเห็นด้วย ส่วนจะเกี่ยวโดยอ้อมมากน้อยแค่ไหน คงต้องไปเก็บข้อมูลมาวิจัยแล้วว่ากันอีกที คงไม่เลวร้ายอย่างที่คุณ 007 ว่ามาหรอกครับ ถ้าจะมีก็คงไม่เกี่ยวโดยตรงเช่นกัน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาในวงการรู้กันดีครับ แต่ก็ยังตัดราคากันต่อไป ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ไม่ใช่แค่สอนดำน้ำหรอก แม้แต่ขายอุปกรณ์ หรือตัวแทนที่นำเข้าอุปกรณ์เองก็เถอะ เหตุผลนึงเท่าที่คิดได้ตอนนี้ (อยากช่วยขยายผลจากที่คุณ Wobbegong และคุณตะวันลับฟ้า ว่าไว้ข้างบน) ก็คือ หลายคนที่กำลังทำอยู่ (โดยเฉพาะครู freelance) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองขายของต่ำกว่าต้นทุนที่จ่ายไป เพราะคำนวณ costing ของตัวเองพลาด ตกหล่นไปบางรายการ ผลลัพธ์กลับไปทำร้ายวงการโดยไม่ทันรู้ตัว เชื่อเถอะว่า เราต้องหัดคิดทำบัญชีกันให้ละเอียด เหมือนนโยบายให้เกษตรกรทำบัญชีเกษตรกรรม ของทั่นนายก แหละ (อย่างที่คุณ Wobbegong ว่าแหละครับ ต้นทุนโดยตรงก็เพียบอยู่แล้ว ต้องคำนวณดี ๆ นะ) อีกเหตุนึง คือ การคาดหวังว่าจะขายทริปต่อไปได้อีกหลายทริป ทำให้ยอมลดค่าสอน ซึ่งวิธีนี้ก็เริ่มจะไม่เห็นผลแล้ว เพราะอะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงเร็ว นักเรียนอาจเปลี่ยนไปกับคนจัดเจ้าอื่น ไม่ก็คำนวณ costing การขายผิดอีก เกิดการตัดราคาทริปอีก จนไม่เหลือกำไรเท่าไหร่ กับการถูกแย่งลูกค้ากันได้ง่าย ระหว่างครูด้วยกัน (เหตุนึงก็เพราะ ธรรมเนียมทางธุรกิจที่ดี อาจไม่ค่อยมีในหมู่ครูดำน้ำ แต่ร้านดำน้ำ ก็พอมี) ในที่สุดครูเองก็โดนหางเลขตัวเองไปด้วย ระยะยาวอาจคาดหวังอย่างนี้ไม่ได้อีกเหมือนกัน แต่ผลที่เกิดขึ้น คือ ราคาตกไปแล้ว (ส่วนจะแก้ยังไง ก็กลายเป็นที่มาของกระทู้นี้) เหตุการณ์นี้ส่วนใหญ่เกิดจากครู freelance มารับ job เพราะครูกลุ่มนี้ ไม่มี cost หลายส่วน เช่น promotion, marketing, tax, vat, office ที่สำคัญ "ทุกท่านที่กำลังจะตัดสินใจเลือกเรียน เที่ยว ใช้บริการ เกี่ยวกับดำน้ำ โปรดทราบ" การดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวทุกประเภท ต้องมีการจดทะเบียนกับ ททท. ก่อน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือนิติบุคคล และระเบียบของททท. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ก็ระบุไว้ว่า 1. ผู้ให้บริการ ต้องมีการวางเงินประกันไว้กับ ททท. ก่อนด้วย หากมีการบริการที่แย่ นักท่องเที่ยวสามารถร้องเรียนให้ททท. สอบสวน และชดเชยจากเงินประกันก้อนนั้นได้ 2. ผู้ให้บริการ ต้องทำประกันการเดินทาง สำหรับทุกทริปที่จัดขึ้นด้วย (การประกันอุบัติเหตุซึ่งเรือดำน้ำได้ทำให้นั้น ไม่ครอบคลุมกิจกรรมบางส่วนนะครับ) ซึ่งแน่นอนว่า freelance หรือ นักธุรกิจขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าเล็ก) ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำตามระเบียบนี้ได้ นั่นแปลว่า พวกเขา กำลังทำผิด กฎหมายอาญา อยู่ด้วย ส่วนนี้ทำให้ต้นทุนของผู้ให้บริการกลุ่มนี้ต่ำกว่าร้านทั่วไป จริง ๆ นะ ..... ผมว่า ส่วนการตัดราคาเกิดจากใครก่อน เรื่องนี้ ผมเกิดไม่ทันครับ มิบังอาจ (สรุปว่า เป็นเรื่อง ไก่ กับ ไข่ ละกัน) ไม่นับเรื่องการทำธุรกิจที่ไม่เป็นระบบระเบียบ ธุรกิจเริ่มออกแนวลูกทุ่งมากขึ้น (ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะให้บริการได้ไม่ดีนะครับ อาจจะจัดได้ดีกว่าร้านใหญ่ ๆ ก็ได้) ขาดมารยาทมากขึ้น และตอนนี้ก็มีนักดำน้ำทั่วไปที่ยังไม่ใช่ certified instructor หันมาหารายได้พิเศษจากการจัดทริปมากขึ้นด้วย ซึ่งไม่ได้ผิดอะไร ในแง่ธุรกิจ และจะไม่ผิดจริง ๆ ถ้าดำเนินการตามที่กฎหมายบ้านเมืองระบุไว้ด้วย ก็จะช่วยเป็นกำลังในการสร้างธุรกิจดี ๆ ให้เกิดขึ้นในเมืองไทยด้วย ไม่น่าเชื่อที่ว่า ขนาดพูดกันยังงี้ ยังมีอีกบางคน ที่พยายามตั้งสถาบันของประเทศไทย แทนสถาบันแบบ inter ที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย เพื่อลดค่าใช้จ่ายการออกบัตร และจะทำให้คนไทยดำน้ำได้ราคาถูกกว่านี้อีก (ไม่ได้แย้งกับความคิดนี้นะ เพราะเป็นความคิดที่ดี ไม่ต้องว่าผม ... เดี๋ยวประเด็นจะปลี่ยน) แต่กำลังสงสัยว่า เค้ายังคิดว่า ทุกวันนี้ ธุรกิจสอนดำน้ำ มันกำไรเกินควรอยู่อีกรึเปล่าเนี่ย ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ไม่ใช่การตำหนิกัน เพราะ freelance ดีก็มี ร้านแย่ก็มี ททท. ก็งานเยอะ กฎหมาย ไม่ได้แปลว่า ถูกต้อง ประกันเบี้ยวจ่ายก็มี ลูกค้าไม่พอใจแจ้งททท. แล้วได้รับชดเชยก็มี อยู่ที่คนในวงการ เค้าจะตระหนักกันได้รึยัง แล้วก็ปรับปรุงกันซะ ยกระดับมาตรฐานการทำธุรกิจกันหน่อย คิดคำนวณค่าบริการ และ การจัดระบบงาน อย่างมืออาชีพหน่อย OPEC ของวงการดำน้ำก็มีได้ โดยที่ ไม่มีใครเสียผลประโยชน์ เอาแบบ win-win นะ จะว่าไประยะหลังนี้ ครูสอนดำน้ำหลายคน เริ่มยันราคากันบ้างแล้วล่ะ อยู่ที่ว่า ทั้งครูทั้งร้าน และทุก ๆ ครู ทุก ๆ ร้าน จะสามัคคีชุมนุมกันได้เมื่อไหร่ เราจะได้มีตัวเลขมาตรฐาน (ที่ไม่จำเป็นต้องตายตัว และไม่จำเป็นต้องแพง) ไว้ใช้กัน ======================================================== ไม่ต้องสงสัยว่า หนังยาวจริง ๆ และไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ร้าย ใครเป็นพระเอก หรือเมื่อไหร่จะมีพระเอกขี่ม้าขาว เข้ามาช่วยกันพัฒนาวงการนี้ของบ้านเรา แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 48 18:52:33 จากคุณ : ZyberDog (ZyberDog) - [ 15 ส.ค. 48 18:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 28 และระเบียบของททท. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ก็ระบุไว้ว่า 1. ผู้ให้บริการ ต้องมีการวางเงินประกันไว้กับ ททท. ก่อนด้วย หากมีการบริการที่แย่ นักท่องเที่ยวสามารถร้องเรียนให้ททท. สอบสวน และชดเชยจากเงินประกันก้อนนั้นได้ 2. ผู้ให้บริการ ต้องทำประกันการเดินทาง สำหรับทุกทริปที่จัดขึ้นด้วย (การประกันอุบัติเหตุซึ่งเรือดำน้ำได้ทำให้นั้น ไม่ครอบคลุมกิจกรรมบางส่วนนะครับ) ซึ่งแน่นอนว่า freelance หรือ นักธุรกิจขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าเล็ก) ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำตามระเบียบนี้ได้ นั่นแปลว่า พวกเขา กำลังทำผิด กฎหมายอาญา อยู่ด้วย *********************** ช่วยแจ้งสถานที่ที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีด้วย จะไปแจ้งความจับ freelance และ พวกจัดทริป จากคุณ : bluemarine - [ 15 ส.ค. 48 19:15:12 A:61.7.135.177 X: TicketID:074924 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่แน่ใจว่าแจ้งตำรวจจับได้เลยรึเปล่า แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงคือ ททท. ครับ เพราะฉะนั้น ททท. น่ะเกี่ยวข้อง แน่นอน อย่างน้อยก็ในระดับนโยบาย แต่เท่าที่เคยสนทนากับทั่น ผมจะได้ยินคำตอบทำนองว่า ผู้บังคับใช้กม. คือตำรวจ ททท. มีหน้าที่เพียง ออกกฎ ดำเนินการรับจดทะเบียน ประชาสัมพันธ์ สนับสนุน ส่งเสริม แต่ไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ ผมเองยังสงสัยว่า แม้แต่ เป็นตัวแทนในการฟ้องร้องแทนประชาชนเนี่ย ททท. ทำได้รึเปล่า และในระดับนโยบาย หรือการออกกฎหรือมาตรการทั้ง "ส่งเสริม" พัฒนา และ "แก้ไข" เนี่ย การที่กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ในฝั่งตำรวจ ททท. ควรมีมาตรการอย่างไรเพิ่มเติมหรือไม่ แนวทางที่รอมชอมก็มี เช่น พยายามดำเนินการให้คนที่อยู่นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบเสีย ไม่ต้องถึงจับกุมก็ได้ ก็ยังมีให้เลือกใช้ ถ้าจะทำ ททท. มีบริการตรวจสอบ เลขทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ว่าตรงตามที่โฆษณาหรือไม่ ค้นได้ที่เว็บไซต์ของ ททท. เลย ส่วนถ้าจะค้นลึกกว่านั้น ก็ต้องติดต่อ ททท. เอง มีบริษัทหรือบุคคลนั้น ๆ จริงหรือไม่ เคยมีประวัติเสียหายอย่างไร =========================================== เรื่อง ททท. คงพอแค่นี้อะนะครับ กลับไปว่าเรื่องธุรกิจประหลาดนี่ต่อดีกว่าครับ ;) จากคุณ : ZyberDog - [ 15 ส.ค. 48 21:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเองก็เป็น freelance  สอนมาก็นานพอสมควรครับ ส่วนตัวแล้ว  ไม่เคยลดค่าสอนเลยนะ  จะลดก็เฉพาะเวลาที่มาเรียนเป็นกลุ่ม  ถ้ามีจำนวนคนมากขึ้นก็จะลดลงบ้าง แต่ที่เห็นมาในวงการน่ะ  ร้านดำน้ำทั้งนั้นละครับที่เริ่มเข้ามาตัดราคากัน  เริ่มจาก  m...  กันในสมัยเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเนี่ยละ  ตั้งแต่นั้นมาร้านค้าส่วนใหญ่ก็เริ่มบรรเลงเพลงรบกันมาตลอด  ในระยะแรกยังไม่มีการลดราคากันเท่าไหร่  แต่พอต่อมาซักระยะนึงอยู่ไม่ได้  ก็เลยต้องลดแข่งบ้าง  ต่อมาก็เลยลุยกันเป็นเรื่องเป็นราว  โดยเฉพาะเวลาจัดงานท่องเที่ยว แล้วก็งานดำน้ำพ่วง  จะเห็นว่าในงานมีการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก 555 ก็นโยบายสอนคนแถมคนเนี่ย  มาจากไหนล่ะ  เดี๋ยวนี้ก็เลยฮิต  มีให้เห็นกันประจำเลย  2 คน  8000.- บาท  555 ผมดูแล้วก็สนุกดีครับ จริงๆ  แล้ว  เรื่องการลดราคาเนี่ย  ผลดีจะตกกับผู้บริโภคนะครับ  น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ผมอยากให้คนที่เข้ามาระบายความรู้สึกเรื่องนี้ (ครู, ผู้ประกอบการ)  ได้มองย้อนกลับไป  สมัยที่เราเคยเป็นนักเรียนดำน้ำครับ  พวกคุณคงจะไม่พูดแบบนี้กัน  แต่จะพูดในทางกลับกันแน่นอน  เมื่อก่อนสมัยผมเริ่มเรียนดำน้ำ สมัยนั้น  ราคาเริ่มกันที่  8500 - 12000.-  เป็นไงครับราคาแบบนี้  ดีกับร้านค้า  แต่ไม่ดีกับคนเรียนเท่าไหร่ เรื่องราคาเนี่ย  อย่าไปสนใจเลยนะผมว่า  คนสอนทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้นทุนเท่าไหร่  แล้วที่เค้าสอนกันราคาต่ำๆ น่ะ  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าสอนได้ยังไง  แต่จะไปสนใจทำไมครับ  เค้าสอนได้ก็ให้เค้าสอนไป  ถ้าเราสอนไม่ได้หรือไม่อยากสอนก็อย่าทำซิ่ครับ  ผมคิดว่าการที่ร้านดำน้ำมาสอนในราคาแบบนั้น  ร้านดำน้ำเองก็คงใกล้จะอยู่ไม่ได้เหมือนกัน  จึงมาทำราคาแบบนั้น  แล้วเป็นไงครับ  ทำได้ซักระยะนึง  ผลการดำเนินการของร้านขาดทุนแน่นอน  อยู่ไม่ได้หรอกครับ   เรื่องราคาเนี่ย  ขึ้นอยู่กับผู้ที่กำหนด  ใครที่ขายของก็รู้อยู่แล้ววว่าต้นทุนเท่าไหร่  เมื่อมีคนที่เค้าขายถูก นั่นเป็นเพราะเค้ายอมรับผลกำไรที่น้อยกว่าได้  แต่บางร้านที่ร้บไม่ได้  เค้าก็ไม่ลดครับ  แต่เค้าก็อยู่ได้เพราะส่วนใหญ่จะมีร้านค้าที่มีทำเลดี  คนรู้จัก  ติดต่อง่าย  เห็นมั๊ยครับว่าคนก็ซื้อครับ  ถึงจะมีคนขายถูกกว่า  แต่ส่วนแบ่งตลาดของคนขายพวกนี้ไม่สูงกว่าร้านค้า  เพราะมีหลายปัจจัย ฉะนั้นถ้าคุณมีร้านที่ดีอยู่แล้ว  หรือมีทีมงานที่ดี  สอนดีอยู่แล้ว  ไม่ต้องไปสนใจครับ  สอนของเราไป  ขายของเราไป  อย่าไปสนใจคนอื่น   เชื่อผมเถอะ  55 ใคร   ใคร่ค้า   ค้า......   ค้าวัว  ค้าควาย   ขายอุปกรณ์ ทริป course สอนดำน้ำลุย...... ขอให้สนุกกับการทำธุรกิจทุกคนครับ   เห็นมะ  หนังยาวจริงๆ  อ่ะครับ จากคุณ : ตะวันลับฟ้า - [ 16 ส.ค. 48 05:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กระผมขอแจ้งไว้ ณ.ที่นี้เลยครับ ว่าจะสอนฟรีตลอดไปครับ เพื่อความหลากหลายในสังคมดำน้ำไทยครับ และขอแจ้งว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะเข้าไปสอนในสถาบันการศึกษาอีกหลายสถาบันด้วยกัน ที่สนใจ ฟรีเช่นเดียวกัน สถาบันใดสนใจติดต่อได้เลยครับ สอนให้ทั่วประเทศครับ http://www.whalesharkthai.com/WSTCForums/viewtopic.php?t=2298 จากคุณ : สอนฟรี - [ 16 ส.ค. 48 07:57:08 A:61.7.144.225 X: TicketID:074924 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เราเรียนปีที่แล้ว รวม สอบ อะไรด้วย 4000 เอง ก็ถามเค้า ว่า คูแข่งมันเยอะ แต่ก่อน คนเรียนน้อย คนสอนน้อย ฝรั่งซะมาก ก็แพง ถ้ายังแพงอยู่ ใครจะกล้าเรียน อย่างเราคนนึง ไม่ได้อยากเรียน แค่อยากเป็ฯบั๊ดดี้กับแฟน เลยลงเรียนตาม เพราะเออ ไม่แพงมาก เหมือนแคต่ก่อน เลยพอไหวอ่ะ แต่ว่า เรื่องคุณภาพ ถูกลง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีนะ การสอบ อะไร เราว่า เค้ามีมาตรฐษนของเค้าอยู่แล้วแหละ เราเองก็ดำได้ ปลอดภัย ได้บัตรพาร์ดี้มา ก็โออ่ะ เหมือนมือถือ แต่ก่อน เคื่องเป็ฯ แสน เดี๋ยว นี้ใคร ๆ ก็ซื้อได้ ถูกลงไม่จำเป็ฯต้องห่วย เสมอไปนะคะ จากคุณ : แมวเบ๊บ - [ 16 ส.ค. 48 11:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณความเห็นที่ 31 ควรจะบอกให้ชัดไปเลยว่า สอนฟรี เนี่ยมีค่าใช้อย่างอื่นด้วยหรือเปล่า หรือไมต้องข่ายอะไรเลย ไม่งั้นคนที่มาอ่านอาจจะเข้าใจผิดได้นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ผมเอง - [ 16 ส.ค. 48 13:55:35 A:203.150.30.31 X: TicketID:096022 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สอนฟรี...????? จากคุณ : Jahoa - [ 16 ส.ค. 48 17:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 การเป็น instructor นี่ก็เป็น ego อีกอย่างหนึ่งของนักดำน้ำนะผมคิดว่า  สำหรับผมเป็นแค่ "เปิดน้ำ" มาร่วมสิบปีกะประสบการณ์อีกร่วมพันไดว์ ผมคิดว่า instructor ใหม่ ๆ ทุกวันนี้แน่นมากในเรื่องของวิชาการแต่ในด้านปฏิบัติยังคิดว่าครูสมัยก่อนทำได้ดีกว่า อ้อ ผมเรียนกะครูใหญ่สปอร์ตไทม์ครับ จากคุณ : Ikan Tanda - [ 17 ส.ค. 48 11:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชัวร์สิคับ เห็นด้วย ๆ ... ยังไงเสีย ทักษะการดำน้ำ มันก็สำคัญที่ประสบการณ์ไม่น้อยนิครับ จากคุณ : ZyberDog (ZyberDog) - [ 17 ส.ค. 48 15:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ในความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าการทำร้านดำน้ำใน กทม นั้นทำยากมาก สมัยก่อนมีไม่กี่ร้าน ตั้งอยู่ที่ไหนก็ดั้นด้นไปกัน เดี๋ยวนี้เปิดกันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ทำเลจึงเป็นสิ่งสำคัญยี่งทำเลดีค่าเช่าก็ยิ่งแพงต้นทุนก็เพิ่ม แล้วผมก็เชื่อว่ากำไรของร้านใน กทม นั้นไม่มาก แค่แต่ละเดือนมีตังมาจ่ายค่าเช่าค่าไฟเงินเดือนลูกจ้างได้ก็พอแล้ว และคนที่เป็นเจ้าของร้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลัก ที่ทำเป็นอาชีพจริงๆคงมีไมกี่ร้าน ที่คิดว่าไม่ได้เป็นอาชีพหลักเพราะแต่ละคนสายป่านยาวๆทั้งนั้น ไม่ทำร้านดำน้ำก็มีอันจะกินรายได้จากทางอื่นมากกว่าร้านดำน้ำอีก เรียกว่าทำสนุกๆเอามันแต่อย่าเจ๊งมากเป็นพอ ร้านแบบนี้มีเยอะครับผมว่า พอไม่มีเงินหมุนเวียนก็ลดราคาค่าสอนเพื่อให้คนมาเรียนเยอะๆ ทราบมาว่าบางงานได้นักเรียนมาสอนกันบางที่ 6 เดือนยังไม่หมด แต่จำนวนคนไม่ทราบแน่ชัด เพราะเขาให้เลือกเรียนวันไหนก็ได้เรียนเดือนละหนก็ได้เรียนสองเดือนหนก็ได้ถึงได้นานไง กลายเป็นภาระของร้านไป ลองดูจากงานท่องเที่ยวซิถ้าจัดบ่อยๆงานแรกๆจะมีร้านดำน้ำเยอะพองานสองงานสามร้านดำน้ำไม่ค่อยมีแล้วเพราะไม่สามารถแบ่งเวลามาสอน นร ได้ แล้วคนที่จะเรียนส่วนใหญ่ก็จะดูราคาเป็นที่ตั้งเอาถูกไว้ก่อนไม่ได้ดูรายละเอียดซักเท่าไหร่บางคนก็ไม่ได้ตั้งใจมาเรียนเห็นถูกก็ลองดู คิดว่าเดี๋ยวนี้คนที่อยากจะเรียนดำน้ำถ้าไม่มีอันจะกินมากนักก็จะรอมาเรียนกันที่งานท่องเที่ยวนี่หละ แต่คนที่ตั้งใจที่จะเรียนไม่เกี่ยงงบก็คงติดต่อตามร้านในราคาเต็ม นร ในราคาเต็มของแต่ละร้านคงน้อยลงแน่ เดี๋ยวนี้ร้านต้องวิ่งเข้าหาลูกค้าแล้วครับ ผิดกับสมัยก่อนต้องจองคิวกันเรียน      ตามแหล่งดำน้ำที่ภูเก็ต เกาะเต่า เขาทำราคาค่าสอนได้เท่ากันทุกร้านคิดว่าเขาน่าจะกำหนดราคาไว้ตายตัวเท่ากันหมดคือถ้าขายราคานี้ทุกร้านมีกำไรจะมากจะน้อยก็อยู่ที่ปริมาณลูกค้า และทุกร้านก็เคารพกติกานี้ ทำให้ราคาไม่ได้เป็นตัวตัดสินใจของลูกค้าถ้าจะเรียนต้องเสียแน่เท่านี้ แต่จะเรียนที่ไหนก็อยู่ที่ความพอใจของลูกค้าอาจจะเป็นคนชาติเดียวกัน ได้ที่พักในราคาถูกอยู่ใกล้ร้าน พูดจาน่าเชื่อถือ ฯลฯ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ผู้เรียนจะนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ สภาพแวดล้อม บรรยากาศการเรียนการสอน สภาพเรือคงมีความใกล้เคียงกันไม่น่าจะแตกต่างกันมาก ผมว่าร้านดำน้ำพวกนี้มีกำไรมาก ถ้าไม่กำไรหรือรายได้ไม่ดีคงไม่มีต่างชาติมาเปิดเยอะแยะไปหมดหรอกครับ จากคุณ : ใต้น้ำ - [ 19 ส.ค. 48 14:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เหอ เหอ ธุรกิจ มัน ก็คือ ธุรกิจ แข่งกันไปเหอะ ผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์ ก็แบบราคาเครื่อง ค่าโทรถูกๆ แต่พอตัดราคากันมากๆ มักมีปัญหาสัญญาณไม่พอ โทรไม่ออกตามมา อันนี้ก็คือธรรมชาติของธุรกิจ เหมือนกัน และธรรมชาติของธุรกิจอีกอย่างคือ ผู้ประกอบการมักทะเลาะกันเอง เหอ เหอ เหอ !!!! จากคุณ : Big Mouth - [ 20 ส.ค. 48 21:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คห ที่3 ครูคนแรกของไทยนี่ใครกันแน่ครับ ครูดำรงค์ หรือ พล.ร.ท.อุดม ครับ ขอถามเป็นความรู้ครับและต้องขออภัยที่ต้องเอ่ยชื่อครูทั้งสองครับ จากคุณ : อยากรู้ (ใต้น้ำ) - [ 22 ส.ค. 48 22:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ครูอุดม PADI OWSI 2171 ครูดำรงค์ PADI OWSI 7279 จากคุณ : ลูกศิญ์ครูทั้งสองท่าน - [ 23 ส.ค. 48 10:50:55 A:202.183.136.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณความเห็นที่ 40 มากครับ จากคุณ : อยากรู้ (ใต้น้ำ) - [ 24 ส.ค. 48 13:31:26 ]