ความคิดเห็นที่ 1 ผมลองดูในพจนานุกรมของเว็บสเตอร์ ซึ่งออกเสียงแบบอเมริกา อ่านว่าเซเรนั้นไม่ถูกแน่นอน เขาเขียนการออกเสียงคำนี้ว่า sir (อย่าเิ่พิ่งอ่านว่าเซอร์นะครับ) โดยที่ s = ซ / i = สระอิ / r ~ ร ถ้าแบบง่าย ๆ ก็คืออ่านว่า ซี และสะบัดเสียง r ตรงท้ายพยางค์ - แต่ไม่ต้องออกเสียงสระอียาวมาก เพราะที่จริงมันเป็นเสียงสั้นแบบสระอิ (หวังว่าไม่งงนะครับ) ผมไม่แน่ใจการออกเสียงแบบอังกฤษ เนื่องจากพจนานุกรมอ๊อกซ์ฟอร์ดที่ผมใช้อยู่เป็นฉบับเก่าและไม่มีคำนี้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่อ่านยาก คือมีตัวอักษรแล้ว มีรูปพยัญชนะ มีรูปสระแล้ว ยังต้องใช้ความจำเยอะ ซึ่งถือว่าเป็นภาษาลายลักษณ์อักษรที่บกพร่อง ถ้าเทียบกับภาษาไทย ถ้าเราเข้าใจหลักการสะกด เราก็สามารถอ่านออกเสียงคำต่าง ๆ ได้ถูกต้อง แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าภาษาอังกฤษ รุ่นน้องผมเคยถามว่า on อ่านว่า ออน แล้วทำไม one อ่านว่าวัน แต่ถ้าเติมตัวอื่นเข้าไปอย่าง zone ก็กลับไปอ่านว่าโซน  (หรือ ceremony อ่านว่า เซเรอโมนี แต่ cere อ่านว่า ซีร์) ผมก็บอกว่าไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่ก็จำ ๆ ไปเถอะ จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 5 ก.ย. 48 10:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วใครเคยอ่าน Thesis (ที - สิดส์) ว่า เดธอะ-ซิดส์ เหมือนดิฉันบางคะ                         ...อายมากกกกกเลยค่ะ...                           จากคุณ : พริมพลอย - [ 5 ก.ย. 48 14:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็มักจะพลาดเรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ และคิดว่ายังมีอีกหลายตัวที่ยังผิด/พลาดอยู่บ่อย ๆ  ครับ แหะ ๆ บางครั้งเจอนักดูนกมือเก่าดูมากประสบการ์ณ ก็เลยออกจะเกร็ง ๆ เพราะกลัวเรียก Common name ผิดสำเนียงแบบตัวอย่างนี้ครับ   มีอีกมั้ยครับ ศัพท์ ที่มักผิดกันบ่อยโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับชื่อนก หรือส่วนต่าง ๆ ของนก เอามาเผยแพร่กันอีกนะขอรับ  ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : นกกะเต็น - [ 5 ก.ย. 48 22:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณ คุณจาละเม็ดดำ ผมเองก็ไม่ได้เปิด dictionary ดูหรอกครับว่าเขาอ่านว่าอย่างไร บังเอิญเคยได้ยินฝรั่งเขาออกเสียงว่า "เซียร์"  ก็เลยจำเอามาบอกกัน หากหูผมฟังผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยครับ อย่างไรก็ตาม หากอ่านว่า เซเร ไม่ถูกต้องเราก็ไม่ควรใช้คำนี้  ผมยังเห็นคนใช้ เซ-เร อยู่  เช่นในหนังสือที่เกี่ยวกับนก และในเวป ที่เกี่ยวกับนก โดยเฉพาะนกล่าเหยื่อ ผมคิดว่าไม่ถูกต้องก็เลยเขียนมาบอกกันครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 48 22:39:09 จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 5 ก.ย. 48 22:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอยกตัวอย่างคำถามนะครับ Gull (นกนางนวล)ออกเสียงว่า กัลล์ หรือ กูลล์ ครับ อันนี้ผมก็เคยสับสน และได้ยินบางคนเรียก"กัลล์" แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าต้องออกเสียงแบบไหนถึงจะถูกต้องครับ จะง่ายไปมั้ยเนี้ย... จากคุณ : นกกะเต็น - [ 5 ก.ย. 48 22:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 บังเอิญไปอ่านการเฉลยภาพเหยี่ยวปริศนาครั้งที่ 1 ของ อ. Trogon(ผู้ชำนาญเรื่องเหยี่ยว) เรื่องเหยี่ยวนกเขาจีน   ท่านก็ อ่าน cere ว่า "เซียร์" เหมือนกัน ฉะนั้นหูผมจึงยังใช้การได้ดีอยู่   cere อ่านว่า "เชียร์" นะครับ จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 5 ก.ย. 48 23:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณจะละเม็ดดำครับ ขอนอกเรื่องนิดนึง ทำไม คำว่า บัณฑิต อ่านว่า บัน-ดิด แต่ มณเฑียร กลับอ่านว่า มน-เทียน จากคุณ : Ophiophagus - [ 6 ก.ย. 48 00:08:55 A:192.168.1.51 X:202.129.52.202 TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าอิงตาม American english ควรจะอ่านว่า "เซียร์-เออะ" แต่อนุโลม (ตามความสะดวกของการออกเสียงภาษาอังกฤษของคนไทย) ว่า "เซียร์" ชื่อนกภาษาอังกฤษ อื่น ๆ เท่าที่นึกได้ตอนนี้ และฟังนักดูนกไทยออกเสียงผิดไปจากเจ้าของภาษามีดังนี้  อนึ่งที่ผมระบุมาเป็นตัวอย่าง ไม่มีเจตนาเพ่งโทษพวกเรากันเอง หากเมื่อเราใช้ภาษาอื่นควรจะใช้ให้ถูกต้องตามนั้นนะครับ  ส่วนนักดูนกบางท่านที่แผลงการออกเสียง เอาสนุกระหว่างเพื่อนฝูง โดยเจตนา ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอันใด Jaeger อ่านว่า เยเกอร์ ไม่ใช่ "เจเกอร์" (ขณะที่ออกเสียง "เกอร์" ต้องกระดกลิ้นย้อนกลับเข้าไปในคอหอย แล้วเสียงจะเปล่งออกมาได้น่าฟังมาก คำนี้ผมชอบเป็นพิเศษ) Gerygone (หรือ Flyeater ในหนังสือของหมอบุญส่ง) อ่านว่า เจอร์-รี่-โก-เน่ Liocichla อ่านว่า ไล-โอ-ซิค-คล่า Gull อ่านว่า กัลล์ จากคุณ : Trogon - [ 6 ก.ย. 48 07:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คำภาษาอังกฤษยังมีหลายคำที่คนไทยอ่านผิดๆ ถ้าใกล้ตัวมากที่สุดคือ Thrush ซึ่งเราเรียกว่า "ทัด" เช่น scaly thrush เราเรียกกันเฉยว่า สแกรี่ ทัด พอๆ กับอ่าน three ที่แปลว่า 3 ผิด คือเราอ่านว่า "ทรี" : จริงๆ ผิด ความจริงแล้วตัว th ไม่ได้ออกเสียงเป็น ท หรือ ธ แต่เสียงจะออกเป็น ส ด้วย หรือบางคนออกเสียงเป็น ต จะใกล้เคียงกว่า (อ่านว่า ซรี, ซรัช แต่ผมไม่สามารถพิมพ์ให้อ่านได้ตรง) เพราะคำว่า three กับ thrush ต่างก็มี th และ r ควบกล้ำซึ่งออกเสียงยากมากสำหรับคนไทย วิธีออกเสียงให้ใช้วิธีสังเกตว่า ฝรั่งออกเสียง one two three อย่างไร พอจะสรุป ส่วน gull ออกเสียงเป็น กัล หรือ กูล นั้น จริงๆ แล้วออกเสียงทั้งสองควบกันกลายเป็นสระ อึ หูบางคนฟังเป็น กัล บางคนก็ฟังเป็น กูล เหมือนกับชื่อพระเอก Maximus ในเรื่อง Gradiator ออกเสียง แมกซิมัส หรือ แมกซิมุส กันแน่ แต่ถ้าเราออกเสียงเป็น แมกซิมึส (สระอึ) ปัญหาก็จะหมดไป จากคุณ : siangkaen (SiangKaen) - [ 6 ก.ย. 48 08:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Ophiophagus - เป็นการนอกเรื่องที่น่าสนใจครับ ทุกภาษาที่มีภาษาเขียนจะมีระบบการสะกดและออกเสียง เมื่อคนเราเข้าใจระบบดังกล่าว เราก็สามารถอ่านออกเสียงได้ แม้เราจะไม่รู้ความหมาย อย่างเช่นผมเขียนคำว่า "ฮ่อมดง" ถึงคนอื่นจะไม่รู้ความหมาย แต่ก็สามารถออกเสียงได้ ภาษาที่อ่านง่าย คือภาษาที่ รูปพยัญชนะ 1 รูป แทนเสียง 1 เสียง เช่นพยัญชนะภาษาไทยส่วนใหญ่  ม ม้า จะอยู่ในคำไหน ก็ออกเสียงเป็น "ม" วันยังค่ำ และรูปสระ 1 รูป ก็ควรจะแทนเสียงสระ 1 เสียง เช่น สระ า จะอยู่ในคำไหน ก็ยังออกเสียง "อา" อย่างไรก็ตามภาษาทุกภาษามีข้อยกเว้น มากบ้างน้อยบ้าง อย่างที่คุณ Ophiophagus ยกมาก็ถือว่าเป็นข้อยกเว้น คือลักษณะการสะกดคล้ายกัน แต่ออกเสียงต่างกัน เช่น นิทรา อ่านว่า นิด-ทรา แต่พุทรา อ่านว่า พุด-ซา  ไม่ใช่ พุด-ทรา ยังมีข้อยกเว้นอีกลักษณะ คือการออกเสียงไม่ตรงกับตัวสะกด ในภาษาไทยก็มีบ้าง แต่บางครั้งเราก็ไม่สังเกต เพราะส่วนใหญ่คำเหล่านี้จะออกเสียงใกล้เคียงตัวสะกด เช่นคำว่า "น้ำ" อันที่จริง สระ ำ นั้นเป็นสระเสียงสั้น (ดูจากคำว่า ชำ, ช้ำ, นำ) แต่ก็ไม่มีใครออกเสียงว่า "นั้ม" จะออกเสียงใกล้เคียง "น้าม" มากกว่า หรือคำว่า สตางค์ ถ้าจะออกเสียงตามตัวสะกดก็ต้องออกว่า สะ-ตางค์ (พยางค์แรกเสียงวรรณยุกต์เอก เหมือน ส่า แต่เสียงสั้น) แต่ในการพูดจริง ทุกคนก็ออกเสียงพยางค์แรกเป็นวรรณยุกต์เสียงสามัญ ซึ่งตรงนี้ผมสะกดด้วยอักษรไทยไม่ได้ เพราะจะสะกดด้วย ซะ ก็จะกลายเป็นเสียงวรรณยุกต์ตรี แต่พูดง่าย ๆ คือเราออกเสียงว่า ซา แต่เป็นเสียงสั้น ถึงแม้ภาษาไทยจะมีข้อยกเว้นอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ภาษาอังกฤษเยอะกว่ามาก และยากต่อการอ่าน เพราะรูปพยัญชนะ 1 รูปของเขา สามารถแทนได้หลายเสียง เช่น cat, cere, หรือตัว t ใน tune กับ fortune ก็เสียงต่างกัน รูปสระในภาษาอังกฤษยิ่งสับสนหนักเข้าไปใหญ่ เช่น รูป a ที่เป็นสระ สังเกตคำว่า fat, fate, far หรือ sugar (แฟ็ท, เฟท, ฟาร์ และ ชู้เกอร์ - ไม่ใช่ชูก้าร์นะครับ) นี่เป็นจุดหนึ่งที่ผมภูมิใจในภาษาไทย ผมคิดว่าระบบตัวอักษรเราดีกว่า อ่านง่ายกว่า สมมติวันหนึ่งภาษาไทยตายไปสักร้อยปี แล้ววันหนึ่งนักภาษาศาสตร์มาพบเอกสารภาษาไทย และศึกษาจนเข้าใจระบบการออกเสียง (เหมือนการศึกษาภาษาโบราณอื่น ๆ) เขาก็จะออกเสียงภาษาไทยได้ใกล้เคียงกับที่เราพูดกัน แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ บอกได้เลยว่าออกเสียงได้ไม่ใกล้เคียงแน่ เพราะข้อยกเว้นต่าง ๆ มากมายเหลือเกิน (ถ้าเทียบภาษาอังกฤษกับภาษาทางยุโรปหลาย ๆ ภาษาอย่างเยอรมัน อิตาลี สเปน ภาษาเหล่านั้นก็มีข้อยกเว้นน้อยกว่าภาษาอังกฤษ) คำว่า gull นั้น ตามพจนานุกรมแบบอเมริกา อ่านว่า กัล ครับ (ความจริงไม่ใช่เสียง ก ไก่ แต่เป็นเสียง g) การออกเสียงคำต่าง ๆ นั้นผมคิดว่าน่าจะยึดตามพจนานุกรม เพราะถือเป็นมาตรฐาน แทนที่จะยึดตามเสียงพูดของชาวต่างประเทศ เพราะชาวอเมริกาเองก็มีหลายสำเนียง มีความเพี้ยนของเสียงในแต่ละพื้นที่อยู่บ้าง อีกอย่างการฟังของเราบางครั้งก็มีความเพี้ยนไปตามความเคยชิน เช่นเราอาจฟังว่า gull เป็นเสียง ก ไก่ เพราะภาษาเรามีแต่เสียง ก ไก่ ไม่มีเสียง g แต่ถ้าฟังดี ๆ จะเห็นว่าแตกต่างกัน ดังนั้นการยึดตามพจนานุกรมจะช่วยให้ออกเสียงถูกต้องตามมาตรฐานมากกว่า (เหมือนคนต่างชาติมาเรียนภาษาไทย ถ้าเขายึดตามที่เขาได้ยินคนไทยพูด เขาก็อาจจะบอกว่า กระทา อ่านว่า กะทา กลัว อ่านว่า กัว เพราะได้ยินคนไทยออกเสียงอย่างนั้น ผมเคยรู้จักชาวอเมริกาที่พูดจีนได้คล่องมาก คนจีนบอกผมว่า ชาวอเมริกาคนนี้พูดจีนได้มาตรฐานยิ่งกว่าคนจีนทั่วไปอีก) ตรงนี้จึงขอยืนยันว่า ในพจนานุกรมเว็บสเตอร์ ระบุว่า gull - ออกเสียงว่า gul โดยระบบอักษรโฟเนติกที่พจนานุกรมฉบับนี้ใช้ u แทนสระอะ เหมือนคำว่า cut หรือ up ส่วนคำว่า cere ออกเสียงว่า sir - โดยที่ i แทนสระอิ เหมือนคำว่า is หรือ hit แต่เนื่องจากมีการสะบัดเสียง r ท้ายพยาง (ฟังคล้าย ๆ ซีร-เออะ จึงอาจฟังดูคล้าย เซียร์ แต่ความจริงมีเสียงสระเพียงเสียงเดียวคือสระอิ ศัพท์ในวงการนกที่ผมเคยอ่านผิด ก็คือ grebe ที่ถูกอ่านว่ากรีบ ศัพท์ในวงการกินที่อ่านผิดมากคือ salmon ซึ่งอ่านว่า แซเมิ่น - ไม่มีเสียง ล แต่อย่างใด แต่บางครั้งก็ลำบากใจ เพราะพอออกเสียงถูก บริกรในร้านอาหารก็อาจงงว่าเราสั่งปลาอะไร juice อ่านว่า จู๊ซ สระอูเฉย ๆ ไม่ใช่ จุ๊ยซ์ (เหมือน ทอม ครูซ ไม่ใช่ ทอม ครุ้ยซ์) อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าออกเสียงภาษาอังกฤษผิดไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถึงคนอื่นจะหัวเราะ ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เพราะไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของเรา และอย่างที่ผมบอก ภาษาอังกฤษอ่านยากจริง ๆ และถ้ามองกลับกัน ลองนับดูเถอะครับ เรารู้จักฝรั่งที่พูดไทยสักกี่คน ขนาดฝรั่งที่พูดไทยออกโทรทัศน์ (ไม่ขอเอ่ยนาม) ผมก็ถือว่าพูดได้ในเกณฑ์ดี แต่ก็ยังไม่ชัดเหมือนคนไทย จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 6 ก.ย. 48 11:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ คุณจาละเม็ดดำ ที่เขียนยกตัวอย่างมาเสียยาว ภาษาไหนๆ ก็ยากทั้งนั้น โดยเฉพาะภาษาพ่อ ภาษาแม่ของเรา เราต้องเขียน ต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง เช่น สตางค์ อ่านว่า สะ- ตาง  นั้นถูกต้องแล้ว ใครอ่านเป็นอย่างอื่นถือว่าเป็นคนทำให้ภาษาวิบัติ ผมขอย้อนกลับมาที่ cere อีกครั้ง ผมไปเปิด Webster's New Universal Unabridged Dictionary ที่ผมพอจะหามาอ้างอิงได้ หนังสือเล่มนี้หนา 2256 หน้า มีคำต่างๆ มากกว่า  300,000 คำ ซึ่งก็น่าจะเชื่อถือได้ เขาอ่านออกเสียงคำว่า cere เหมือน กับ คำว่า ear หรือ คำว่า mere นะครับ หรือว่า Webster's ฉบับที่ผมใช้จะไม่ได้มาตรฐาน และฝรั่งที่ผมได้ยินเขาออกเสียง cere ว่าเซียร์ ก็เป็นฝรั่งคนที่นักดูนกไทยรู้จักกันดี ไม่ใช่ฝรั่งขี้นกที่ไหนเลย จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 6 ก.ย. 48 14:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ได้ความรู้ไปเต็มๆ เลยค่ะ ขอบคุณผู้รู้ทุกท่านค่ะ . จากคุณ : พริมพลอย - [ 6 ก.ย. 48 19:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 I believe 'cere' is pronounced the same as in the word 'sincere'. จากคุณ : wader (Wader) - [ 6 ก.ย. 48 19:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปเปิดพจนานุกรมมาบ้าง เป็น american heritage talking dictionary  เค้าบอกว่าออกเสียงเหมือนในคำว่า pier ค่ะ ขอบคุณที่นำมาบอกนะคะ ทำให้พลอยกระจ่างไปอีกหลายคำ อย่าง gerygone ที่คุณโทรกอนกรุณามาไข  (เรียกเกอรี่กอเน อยู่นานเลย)แต่บางทีชื่อไทยก็พลอยทำให้เราเขวนะคะ อย่างนก คัคคู ฝรั่งเค้าพูด คุกคู เลยใช้วิธีเรียกตามหนังสือค่ะว่า คัคคูมรกต เป็นต้น :) จากคุณ : จันทร์น้อย - [ 6 ก.ย. 48 20:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกท่านมากขอรับ พลอยได้ศัพท์ที่คิดไม่ถึงเมื่อวานอีกหลายตัวเลย โดยเฉพาะ Liocichla นี้ ... สงสัยมานานแล้ว แม้แต่ตอนเจอตัวจริง..ก็เรียกไม่ถูก (เพราะไม่รู้จะออกเสียงไงดี  ) แล้วสรุป cuckoo นี้ออกเสียงเป็น คุกคู หรือคัคคู ดีครับ แหะ ๆ จากคุณ : นกกะเต็น - [ 6 ก.ย. 48 21:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กระทู้นี้ดีจัง อยากขอถามผู้รู้อีกซัก 5 ชื่อที่มั่วออกเสียงมานานค่ะ ว่าถูกหรือไม่ Gould's Sunbird ออกเสียงว่า กู ธรรมดาเลยใช่มั้ยคะ? Diard's Trogon ดิอาร์ดส โทรกอน? Inornate Warbler อิ-นอร์เนท หรือไอ-นอร์เนท? Nathatch นัท-แธช หรือนัท-แฮช? Rufous-gorgetted Flycatcher กอร์เจ็ทเทต? เคยได้ยินฝรั่งออกเสียงนกนิลตวา ว่า นิล-ท้า-ว่ะ ออกเสียงเน้นหนักตรงกลางค่ะ ฟังแปลกหูดี ขอบคุณค่ะ จากคุณ : โป่งวิด - [ 6 ก.ย. 48 23:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ออกเสียงได้มากมายหลายอย่างเป็นความสวยงามและความหลากหลายของภาษาที่เป็นเสน่ห์ชวนให้ศึกษา คงเหมือนกับความหลายหลายของนกและธรรมชาติที่หลอกล่อให้เราค้นหากระมัง จากคุณ : Stonechat - [ 7 ก.ย. 48 08:33:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่างที่คุณเปรี้ยวปิ๊ด คุณ Wader และคุณจันทร์น้อย ยกมานั้นถูกต้องแล้วครับ คำว่า cere ออกเสียงสระเหมือนคำว่า ear, sincere และ pier รวมทั้งคำว่า tear ที่แปลว่าน้ำตา (tear ถ้าแปลว่าฉีก สะกดเหมือนกัน แต่อ่านว่า เทเหรอะ) ซึ่งตามที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ear ก็ออกเสียงว่าเอียร์ แต่ที่ผมจำเป็นต้องยืนยันว่าเสียงเหล่านี้เป็นเสียงสระอิ ที่มีเสียง r สะบัดท้ายพยางค์ (อิเหรอะ) ก็เพราะในระบบเสียงภาษาอังกฤษนั้น ไม่มีเสียงสระหรือสระผสมที่เป็นเสียงสระเอีย เรื่องนี้ผมคงต้องขออ้างอิง ให้เห็นที่มาที่ไป และขอออกตัวว่าผมไม่มีเจตนาจะเอาชนะคะคานโดยเอาความเห็นของตัวเองเป็นหลัก แต่เมื่อพจนานุกรม ซึ่งผ่านการศึกษาอย่างถี่ถ้วนโดยเจ้าของภาษาเอง ได้ระบุว่าระบบเสียงของเขาไม่มีเสียงสระ "เอีย" มีแต่เสียง "อิเหรอะ" ผมก็คงไม่สามารถยืนยันเป็นอื่น (ถ้าลองออกเสียงดูก็จะเห็นว่าคล้ายกันมาก) ขอให้ดูระบบเสียงสระข้างล่างนะครับ เป็นระบบอักษรสัทศาสตร์ (phonetic) ที่พจนานุกรมเว็บสเตอร์ใช้เพื่อแทนเสียงสระและสระผสมทั้งหมดในภาษาอังกฤษ (เนื่องจากคอมพิวเตอร์ผมไม่ได้ลงอักษรสัทศาสตร์ไว้ จึงต้องใช้อักษรปกติโดยมีคำอธิบายข้างท้าย) และผมได้ใส่เสียงสระไทยไว้ในวงเล็บไว้ด้วย Symbol                                                       Key Words a  (แอ)                                                        asp, fat, par rot a มีขีดข้างบน (เอ)                                        ape, date, play, break, fail a มีสองจุดข้างบน (อา)                                 ah, car, father, cot e (เอะ)                                                        elf, ten, berry e มีขีดข้างบน (อี)                                         even, meet, money, flea, grieve i  (อิ)                                                           is, hit, mirror i มีขีดข้างบน (ไอ)                                         ice, bite, high, sky o มีขีดข้าบน (โอ)                                         open, tone, go, boat                                                                   all, horn, law, oar oo มีขีดเชื่อมตรงกลาง (อุ)                            look, pull, moor, wolf oo มีขีดเชื่อมและขีดด้านบน (อู)                    ooze, tool, crew, rule yoo มีขีดเชื่อมและด้านบนตัวโอ (ยู หรือ อยู)  use, cute, few yoo ไม่มีขีดด้านบนตัวโอ (อิว)                       cure, globule oi มีขีดเชื่อม (ออย)                                       oil, point, toy ou มีขีดเชื่อม (เอา)                                       out, crowd, plow u (อะ)                                                          up, cut, co lor, flood ur มีขีดฆ่าตัวยู (เออร์)                                   urn, fur, deter, irk e กลับหัว (เออะ)                                          a in ago                                                                   e in agent                                                                   i in sanity                                                                   o in comply                                                                   u in focus er ตัวอีกลับหัว (เออะร์)                                 per haps, murder พจนานุกรมฉบับนี้จึงระบุการออกเสียงของคำที่เราคุ้นเคยไว้ว่า ear - ir (อิเหรอะ), tear - tir (ืิทิเหรอะ),sincere - sin-sir (ซิน-ซิเหรอะ) ถ้าสังเกตตัวอย่างที่พจนานุกรมดังกล่าวยกมา ก็จะเห็นว่ามีคำว่า moor อีกคำ (moorhen) ที่เราอาจคิดว่าออกเสียง มัวร์ แต่เสียงสระจริง ๆ คือสระอุ คืออ่านว่า มุเหรอะ *** หมายเหตุ เสียง "เหรอะ" ที่ผมเขียนนั้น เวลาออกเสียงจริงไม่ได้ออกเต็มพยางค์ เป็นเพียงการสะบัดเสียง r ท้ายพยางค์ ถ้าไปออกเสียงเต็ม ๆ ฝรั่งคงงงเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 48 11:48:11 จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 7 ก.ย. 48 11:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อย่างไรก็ตาม ผมลองเช็คดูกับระบบเสียงทางฝั่งอังกฤษของพจนานุกรมอ๊อกซ์ฟอร์ด ก็พบว่าเขาอธิบายต่างจากของเว็บสเตอร์ คือ ear ออกเสียงว่า อิเออะร์ คือทางอ๊อกซ์ฟอร์ด บอกว่าเสียงนี้เป็นเสียงสระผสม อิ กับ เออะ ไม่ใช่อิอย่างเดียวแล้วสะบัดเสียง r ผมได้สอบถามอาจารย์ที่สอนภาษาในมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อเทียบเสียงสระ "เอีย" กับเสียง "อิ-เออะ" และก็ได้ทราบว่าสระเอียนั้น ทางสัทศาสตร์ภาษาไทยบอกว่าเป็นสระผสม "อี-อา" (แม้ว่าตัวอักษรจะใช้ สระเอกับสระอี) ซึ่งฟังดูึคล้าย "อิ-เออะ" หรือ "อี-เออ" มาก ๆ จนผมเองก็แยกไม่ค่อยจะออก (แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว) ตรงนี้ขอตอบคุณเปรี้ยวปิ๊ดเพิ่มเติม ผมว่าพจนานุกรมที่คุณใช้น่าจะได้มาตรฐานแล้่วครับ และคำอธิบายของเขาก็ถูกต้องแล้ว คือออกเสียงเหมือนคำว่า mere แต่ขอให้ลองดูอักษรสัทศาสตร์ (phonetic) ที่เขาใช้ ถ้าเขาเขียนว่า sir, mir, ir (ear) ก็จะเหมือนพจนานุกรมที่ผมใช้ แต่บางฉบับอาจเขียน sier (e กลับหัว), mier, ier ก็จะเข้าลักษณะเดียวกับอ๊อกซ์ฟอร์ด ดังที่ผมกล่าวมาแล้ว *** ป.ล. คำว่า "จะละเม็ด" นี่ผมก็เทียบพจนานุกรมแล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 48 12:47:01 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 48 12:44:05 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 48 12:40:24 จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 7 ก.ย. 48 12:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณนกกะเต็น "cuckoo" เวลาพูดกับคนไทยให้เรียกคัคคู เวลาพูดกับฝรั่งให้เรียกคุคคู เพราะพจนานุกรมทั้งอังกฤษและอเมริกาอ่านว่า คุคคู  แต่คู่มือนกของไทยเรียกคัคคู คุณพี่โป่งวิด Gould นั้น พจนานุกรมอเมริกาอ่านว่า กูเลอะเดอะ (สระอู + เสียง L และ D ไม่เต็มพยางค์) Inornate Warbler - คำนี้ผมไม่ยืนยัน เนื่องจากพจนานุกรมผมไม่ได้ระบุไว้โดยตรง เนื่องจากเป็นคำประสมระหว่าง prefix "in-" กับ "ornate" แต่โดยตัวไป prefix "in-" จะอ่านว่า อิน และดูคำใกล้เคียงอย่าง inordinate ก็อ่านว่า อิน-ออ-ดิเนิท (แบบอังกฤษ แบบอเมริกาผมรู้สึกว่าสะกดยาก แต่ก็ใกล้เคียงกัน) คิดว่าคำนี้น่าจะอ่านว่า อิน-ออร์-เนท ครับ Nathatch อ่านว่า นัท-แหช Diard ผมไม่ยืนยันครับ ชื่อคนนี่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ขอแนะนำให้ถามฝรั่งสักสามสี่คน Rufous-gorgetted Flycatcher อเมริกาว่า กอร์จิตเต็ด แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 48 12:27:33 จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 7 ก.ย. 48 12:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นึกว่าหลงเข้าห้องผิดซะอีก 555+ ได้ความรู้ดีครับ จากคุณ : StrayBird - [ 7 ก.ย. 48 14:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เพิ่มเติมครับ   Gould ออกเสียงว่า กูล-เดอะ Nathatch สะกดผิดครับ ต้องสะกดว่า Nuthatch Diard's ออกเสียงว่า ดี-อาร์ด คำนี้เป็นชื่อคนฝรั่งเศส ผมเคยอธิบายบอร์น ฯ ไปแล้วในกระทู้ก่อน หากออกเสียงตามภาษาฝรั่งเศส จะไม่ออกเสียงตัวดี (D is silent) หรือคุยกับฝรั่งอเมริกัน จะออกเสียงว่า ได-อาร์ด ก็ได้เพราะ ตัวไอที่ใช้ในพยางค์แรก ฝรั่งอเมริกัน (ที่ผมวิสาสะมาหลายปี ขณะออกดูนกด้วยกัน) จะออกเสียงแบบ Di อย่าง ไดอาน่า (เหมือน Pileated Woodpecker ไพลีเอทเท็ด) แต่เมื่อผมถามเพื่อนชาวฝรั่งเศสที่เป็นนักดูนก (เมื่อคราวบอร์น ฯ ถามถึง) เขาจะออกเสียง -Di- ว่า "ดี" อย่าง Dietrich หรือดีทริช Gorgetted ออกเสียงว่า กอร์-เจ็ท-เท็ด รวมไปถึงคำนามที่ถูกเปลี่ยนเป็นคำขยายนามด้วยการเติม -ed- ต่อท้าย ก็ควรจะออกเสียงอย่างนี้ เช่น breasted ออกเสียงว่า เบรส-เท็ด   เสวนาเรื่องชื่อนก สนุกดีเหมือนกันนะครับ......ฮา   จากคุณ : Trogon - [ 7 ก.ย. 48 16:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Niltava ถ้าจะออกเสียงตามฝรั่งก็ต้องออกอย่างนั้นครับ  คำนี้มาจากภาษาเนปาลพื้นเมือง ซึ่งนักปักษีวิทยาคนสำคัญ 1 ใน 3 ของอุษาคเนย์ คือ Hodgson ใช้เรียกนกจับแมลงสีฟ้า (ตัวผู้) ขนาดใหญ่ ชื่อนกในบ้านเราและอินเดียที่มีชื่อแปลก ๆ และหาความหมายทางภาษาอังกฤษไม่ได้นั้น ล้วนถูกตั้งโดย Hodgson ทั้งสิ้นครับ เช่น Baza Minla Munia Tesia เป็นต้น  เพราะเขายังเป็นนักมานุษยวิทยา ที่ให้เกียรติชนพื้นเมืองอย่างมากด้วย ชีวประวัติของฮ็อดสันน่าศึกษาครับ เป็นฝรั่งที่มีอัตตาต่ำ เหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเขาศึกษาพุทธศาสนาด้วย จากคุณ : Trogon - [ 7 ก.ย. 48 16:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เสริมอีกนิดหนึ่งเรื่อง Gould เคยได้ยินนักดูนกหลายคนออกเสียงว่า "กูด" ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการจงใจเรียก และผมรู้สึกว่าตลกดี คงจะเรียกเอาสนุก ตามประสาเพื่อนสนิทน่ะครับที่คุยกันเล่น ๆ ให้ครื้นเครงกันไป น่าจะมีชื่อนกชนิดอื่น ๆ อีกที่ถูกแผลงไปอย่างนั้น ลองเขียนมาให้อ่านกัน ก็คงเพลินดีนะครับ....... จากคุณ : Trogon - [ 7 ก.ย. 48 20:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขออภัยครับ คุณจะละเม็ดดำ  ที่เรียกชื่อคุณเพี้ยนไป ผมคงนึกถึงปลาจะละเม็ดนึ่ง ที่กินอร่อยๆ มากเกินไป  ผมไม่เคยกินไข่เต่า ก็เลยไม่ค่อยคุ้นกับคำว่า จะละเม็ดดำ ซึ่งหมายถึงไข่เต่า จากคห. 18 ผมว่าหนังสือของคุณน่าจะพิมพ์เสียงตกไปเสียงหนึ่งนะครับ รวมทั้งในตัวอย่างของคุณที่ยกมาก็ไม่มีคำใดที่ออกเสียงคล้ายๆ สระเอียมาให้ดูด้วย ส่วนในหนังสือของผม เขามี Pronunciation Key ไว้ให้ด้วย และมีเสียงให้ออกเป็นเสียง สระ เอีย อยู่ด้วย(เข้าใจเอาเอง) โดยใช้สัญลักษณ์ ตัว e มีเขียดข้างบน แล้วตามด้วย ตัว r  ซึ่งออกเสียง เช่นเดียวกับคำว่า ear, mere, year, deer, cere หรือ dear ก็ออกเสียงเช่นเดียวกัน ผมไม่รู้เรื่องสัทศาสตร์ และไม่เคยเรียนด้วย แต่แปลกใจที่คุณบอกว่าเขาไม่มีเสียงสระเอีย ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก ตอนอยู่ชั้น ป. 5 สอนโดยคุณครูคนไทยแท้ๆ  เขาก็สอน คำว่า ear, year และ dear ให้ผมทราบแล้ว แล้วก็ออกเสียง สระเอีย แบบชัดๆ เสียด้วยนะครับ ลองยกตัวอย่างคำอ่านของคำว่า  ear, year, dear และ cere ในหนังสือของคุณมาดูกันหน่อยครับ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในเรื่องของการออกเสียง  เช่นเดียวกันครับ ผมก็ไม่มีอคติใดๆ กับคุณแม้แต่น้อย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกครับ จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 7 ก.ย. 48 23:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หากท่านผู้ใดสนใจ Dictionary ที่ผมกล่าวถึง ก็ลองเข้าไปดูที่ http://www.bn.com  ลองหาด้วยคำ  Unabridged Dictionary แล้วจะพบเอง ฉบับที่ผมใช้อยู่พิมพ์เมื่อปี 1996 เขาขายหมดแล้ว แต่มีฉบับใหม่ซึ่งมีภาพ และ คำเพิ่มขึ้น (ควรจะดีกว่าเล่มเก่า)  ราคาราวๆ 20 US$ ไม่รวมค่าส่ง  หากคิดว่ามีโอกาสจะต้องใช้ ผมคิดว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายครับ มีหนังสือดีๆ จะได้ไม่อ่าน cere  ว่า  เซ-เร อีกต่อไป    ผมมีรูปมาให้ดูด้วยที่ http://a1204.g.akamai.net/7/1204/1401/05080912011/images.barnesandnoble.com/images/10000000/10008684.jpg  ท่านอาจจะไปเดินดูหนังสือดังกล่าว ตามร้านขายหนังสือใหญ่ๆ  หรือร้านหนังสือของมหาวิทยาลัย หรือตามห้างใหญ่ๆ ซึ่งอาจมีวางขายอยู่แล้ว (ผมไม่ทราบว่ามีหรือไม่) หากไม่สะดวกสั่งซื้อจากเว็บ ก็ลองติดต่อสั่งจากร้านใหญ่ๆ นั้น ปกติเขาจะช่วยสั่งให้ บางครั้งจะได้ราคาที่ถูกกว่าที่เขาโฆษณาในเว็บเสียอีก เพราะร้านที่สั่งสั่งของจำนวนมากและได้ลดหลาย %  ขออภัยที่เป็นมือใหม่ของ BP อาจทำลิงค์ไม่เป็น และไม่ได้ค่าโฆษณาจากผู้ใดทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 48 09:18:54 จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 8 ก.ย. 48 09:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ Trogon ขอบคุณที่ช่วยแก้ตัวสะกด Nuthatch ให้ครับ คุณเปรี้ยวปิ๊ด ก่อนอื่นพูดเรื่องนามแฝงผมก่อน จะละเม็ดดำก็เป็นชื่อปลาครับ แต่จะเป็นเต่าหรือเป็นปลา พจนานุกรมราชบัณฑิตก็สะกดเหมือนกันครับ เรื่องเสียงที่เป็นปัญหาอยู่นี้ ผมขออธิบายเพิ่มเติมว่า พจนานุกรมที่ผมใช้นั้นไม่ได้ตกเสียงสระอะไรไป และดูเหมือนจะใช้ระบบเสียงใกล้เคียงกับพจนานุกรมที่คุณเปรี้ยวปิ๊ดใช้ เนื่องจากคุณเปรี้ยวปิ๊ดบอกว่าเขาใช้ตัว e มีขีดข้างบน (ผมเดาว่าคุณเปรี้ยวปิ๊ดสะกดผิดนะ หรือถ้าเขียดหมายถึงอย่างอื่น ก็ขอช่วยอธิบายด้วย) ตามด้วยตัว r นั่นก็แสดงว่าเขามองว่าเสียงดังกล่าวมีเสียงสระเดี่ยว คือ e มีขีดข้างบน (ซึ่งพจนานุกรมของผมใช้แทนเสียงสระอี และเข้าใจว่าถ้าพจนานุกรมฉบับไหนใช้เครื่องหมายนี้ ก็มักจะใช้แทนเสียงสระอี)  นั่นคือพจนานุกรมดังกล่าวบอกว่า เสียงนี้ออกเสียง อี และสะบัดเสียง r ท้ายพยางค์ (อีเหรอะ) (อย่างไรก็ตามขอให้ดูตัวอย่างการเทียบเสียงของสัญลักษณ์ต่าง ๆ ซึ่งมักจะอยู่ที่ด้านในของปกหน้าหรือปกหลังของพจนานุกรม แต่ผมคิดว่า ตัว e มีขีดข้างบนน่าจะเป็นเสียงสระเดี่ยว ไม่น่าจะเป็นเสียงสระผสม) อย่างที่ผมอธิบายไว้ใน คคห.19 พจนานุกรมของอ๊อกซ์ฟอร์ดอธิบายเสียงนี้ัไว้อีกอย่าง (จะเป็นเพราะเขาฟังเป็นอีกอย่าง หรือคนอังกฤษออกเสียงอีกอย่าง อันนี้ผมไม่แ่น่ใจ) คืออธิบายว่าเสียงที่เราพูดถึงนี้ เป็นเสียงสระผสม "อี-เออะ" โดยใช้สัญลักษณ์ ie (ตัว อี กลับหัว - ในพจนานุกรมฉบับนี้ ใช้ i แทนสระอิ e กลับหัวแทนสระเออะ) กล่าวคือเสียงที่เราพูดถึง เขาบอกว่าออกเสียง อิเออะร์ ตรงนี้ถ้าลองออกเสียงดูทั้งสองแบบ โดยลองด้วยคำว่า ear ก็จะเห็นว่าคล้ายกันจนแทบจะไม่เห็นความแตกต่าง แต่ทั้งสองแบบถ้าฟังดี ๆ ก็จะต่างจากเสียงสระเอียของไทยอยู่เล็กน้อย (ชนิดที่ต้องตั้งใจฟังมาก ๆ) เนื่องจากเสียงสระเอีย คือเสียงสระผสม อี-อา สำหรับคำที่คุณเปรี้ยวปิ๊ดยกมานั้น พจนานุกรมที่ผมใช้ออกเสียงดังนี้ (แบบแรกเป็นของเว็บสเตอร์ แบบที่สองเป็นของอ๊อกซ์ฟอร์ด) ear               [ir]                 [ie(r)] - ตัวอีกลับหัว year             [yir]                [j3:(r)] - 3: = สระเออ และบอกว่าแบบอเมริกาออกเสียง [jie(r)] - ตัวอีกลับหัว - เล่มนี้ใช้ j แทนเสียง ย deer             [dir]               [die(r)] - ตัวอีกลับหัว cere             [sir]                [พจนานุกรมอ๊อกซ์ฟอร์ดของผมไม่มีคำนี้] จะเห็นว่าคำเหล่านี้ทางเว็บสเตอร์บอกว่าออกเสียง อิเหรอะ อ๊อกซ์ฟอร์ดออกเสียง อิเออะร์ (ผมเดาว่าพจนานุกรมของคุณเปรี้ยวปิ๊ด น่าจะสะกดว่า er, yer, der และ cer (ตัวอีมีขีดข้างบน) ซึ่งก็หมายถึงสระเดี่ยว e = สระอี และสะบัดเสียง r ท้ายพยางค์ ผมขอยกอีกคำ คือชื่อฝรั่งที่เราคงเคยได้ยิน Ian (อย่าง Ian Rush อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล) คำนี้เราสะกดทับศัพท์ว่าเอียน (ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นวิธีสะกดที่ใกล้เคียงที่สุด - แม้จะไม่ตรงกับเสียงจริงซะทีเดียว) ที่ยกคำนี้เพราะจะไม่มีปัญหาเรื่องการสะบัดเสียง r ซึ่งไม่มีในภาษาไทย ชื่อ Ian นี้ ทางเว็บสเตอร์บอกว่าออกเสียง [e-en] อีตัวแรกมีขีดข้างบน = สระอี อีตัวที่สองกลับหัว = สระเออะ ถ้าเทียบภาษาไทยก็คือ ชื่อนี้ออกเสียง อีเอิน (ไม่ต้องแยกสองพยางค์นะครับ พูดรวม ๆ ให้เหมือนพยางค์เดียว) ทางอ๊อกซ์ฟอร์ดออกเสียง [i:en] อีตัวที่สองกลับหัว i: = สระอี e กลับหัว = เออะ แม้จะใช้สัญลักษณ์ต่างกัน แต่ก็ออกเสียงเหมือนกัน คือ อีเอิน ถ้าเราลองออกเสียงแบบนี้ และเทียบกับออกเสียง เอียน แบบภาษาไทย ก็จะเห็นว่า อีเอิน ฟังเหมือนฝรั่งออกเสียงมากกว่า สรุปคือเสียงในภาษาอังกฤษที่เราคุ้นเคยว่าเป็นเสียงสระเอีย (อีอา) นั้นเป็นเสียงสระผสม อิ-เออะ หรือ อี-เออะ ซึ่งคล้ายกันมาก ผมคิดว่าถ้าเราออกเสียงสระเอีย ฝรั่งก็ฟังเข้าใจ เพราะมันคล้ายกัน แต่ถ้าออกเสียง อิ-เออะ ก็จะเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น ดีใจนะครับที่คุณเปรี้่ยวปิ๊ดไม่ถือโกรธกันในเรื่องนี้ และหวังว่าคำอธิบายของผมจะไม่ทำให้คุณไม่พอใจ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 48 12:19:34 จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 8 ก.ย. 48 12:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องภาษา มันยากจริงๆ แค่อ่านในกระทู้นี้ ก็งง แล้ว จำไม่หมด  ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเขียนกันมา ไหนๆ เข้ามาอ่าน ขอถามค่ะ ภาษาอังกฤษคำว่า นกพญาปากกว้างออกเสียงไร Broadbills เคยไปดูนกกับสมาคมอนุรักษ์นกฯ บางคนอ่านบอดบิว  ผู้นำดูนกบางคนบอกว่าให้อ่านบ็อดบิว  อ่านบอดบิว  เดี๋ยวก็บอดกันหมด ฮา Silver-breasted Broadbill อ่านอย่างไรค่ะ จากคุณ : Bunting - [ 8 ก.ย. 48 13:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณจะละเม็ดดำครับ ต้องขออภัยที่เขียนผิดไปอีกแล้ว  "เขียดข้างบน" ไม่มีหรอกครับ มีแต่"ขีดข้างบน" และ หนังสือที่ผมใช้ก็เขียนคำอ่านของคำว่า ear (er) ตัว e มีขีดข้างบน ซึ่งผมอ่านว่า เอีย year (yer) ตัว e มีขีดข้างบน ผมอ่านว่า เยีย Deer(der)ตัว e มีขีดข้างบนตัว ผมอ่านว่า เดีย Dear(der) ตัว e มีขีดข้างบน ผมอ่านว่า เดีย cere (ser)ตัว e มีขีดข้างบน ผมอ่านว่า เซีย ผมคงต้องอ่านแบบ Thai English อย่างที่เคยเรียนมาแล้วละครับ แต่จะพยายามให้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาเขามากที่สุดหากทำได้(ลิ้นมันไม่ค่อยจะตามใจเจ้าของสักเท่าใด) หากเจอหน้าแฟน ครั้งต่อไป ผมอาจต้องร้องว่า "เฮลโล่ มาย ดี-เออะ" .........ฮา   อย่างที่บอกแล้วเรื่องภาษามันสนุก แต่เวลาผิดแล้ว ไม่ควรแก้ตัวว่ามันไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่ของเรา หากเราพยายามเขียนให้ถูก ออกเสียงให้ถูก หรือใกล้เคียงกับเสียงที่ถูกต้อง ผมก็ว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว  ยกตัวอย่างสมัยหนึ่งเพลงบัวขาว ดังมาก ก็มีนักร้องชาวต่างชาติผู้หญิงท่านหนึ่งนำไปร้อง ผมก็ว่าเขาก็พยายามร้องให้เหมือนต้นฉบับ ที่เป็นภาษาไทยมากที่สุดแล้ว แต่เราคนไทยฟังแล้วก็พบว่ามันเพี้ยนไปหลายจุด แต่ก็อภัยให้ได้เพราะเขาไม่ใช่คนไทย ในทางกลับกัน นักร้องไทยร้องเพลงฝรั่ง หากมิใช่ได้รับการศึกษามาดี ฝึกฝนมาดี หรือเลียนแบบมาดี ผมก็คิดว่าหากฝรั่งได้ฟังก็คงคล้ายกับคนไทยฟังคนต่างชาติร้องเพลงบัวขาว  นี่เขียนมาซะยืดยาว เพราะ เจ้า cere (อนุโลม)อ่านว่า เซียร์  คำเดียวเท่านั้น คุณบันติ้ง ครับ Broadbill คงต้องอ่านว่า บ๊รอด-บิว ครับ โดยเน้นที่คำหน้า และต้องไม่ลืมใส่เสียงตัว r เข้าไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะพากัน "บอด" ไปหมดอย่างที่คุณว่า คุณอย่าไปอ้างสมาคมฯ อะไรเลย มันอยู่เฉยๆ จะชั่วจะดี จะผิดจะถูกอย่างไร มันอยู่ที่คนต่างหากละครับ จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 8 ก.ย. 48 16:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณเปรี้ยวปิ๊ด ผมคิดว่าทุกภาษามีความยาก จะภาษาไหน ๆ ก็ตามการพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง แต่การพูดให้สามารถสื่อสารได้นั้นยังอยู่ในวิสัยที่คนทั่วไปทำได้ ถ้าลองมองกลับกัน ฝรั่งที่พูดไทยไม่ชัด เราก็ยังพอฟังเขารู้เรื่อง ฉันใดก็ฉันนั้น เราพูดไม่ชัดเหมือนเจ้าของภาษา แต่เขาก็ยังฟังเรารู้เรื่องได้ ถ้าคิดอย่างนี้ก็จะมีความมั่นใจในการพูดคุยกับชาวต่างชาติมากขึ้น (เหมือนคนไทยตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งไม่ได้จบภาษามาโดยตรง แต่กล้าพูด แล้วก็สื่อสารกับนักท่องเที่ยวจนทำมาหากินได้) สำหรับคำว่า Silver-breasted Broadbill ผมจะขออธิบายพอสังเขป เกรงว่าจะมีคนขอให้ย้ายไปถกกันต่อที่โต๊ะ "ห้องสมุด" ทั้งสามคำนี้มีเสียง r ซึ่งเป็นเสียงที่คล้าย ร เรือ แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว ร เรือของเรากระดกลิ้นมากกว่า เสียง r แค่ยกลิ้นขึ้นแตะเพดานปาก (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ วิชานี้ผมลืม ๆ ไปแล้ว เอาเป็นว่าถ้าไม่แตะเพดานปากก็แ่ต่ปุ่มเหงือก แต่คิดว่าเพดานปากมากกว่า) Silver - Sil อ่าน ซิล มีเสียง ล สะบัดท้ายพยางค์ ส่วน ver เป็นเสียง v (คล้ายเสียง ฝ,ฟ คือฟันบนแตะริมฝีปากล่าง แต่ทำเสียงก้องในลำคอขณะออกเสียง) เสียงสระคือสระเออะ และสะบัดเสียง r ท้ายพยางค์ (แต่เมื่อออกเสียงต่อเนื่องกัน บางครั้งเสียง r นี้ก็กร่อนหายไปจนไม่ได้ยิน) breasted ออกเสียง เบรสเต็ด หรือบางคนจะบอกว่าเบรสเถ็ด ก็แล้วแต่ เนื่องจากเสียง ต กับเสียง ถ,ท ในภาษาอังกฤษถือเป็นเสียงเดียวกัน Broadbill - อ่าน บร๊อด-บิล (ร แทนเสียง r) คือเน้นเสียงพยางค์แรก พยางค์ท้ายอาจฟังดูคล้าย บิว เพราะเป็นเสียง L ที่สะบัดท้ายพยางค์ ลักษณะการเปล่งเสียงท้ายพยางค์ หรือสะบัดเสียงท้ายพยางค์แบบนี้ภาษาไทยไม่มี อย่างเช่นคำทับศัพท์ "บิล" ถ้าเราออกเสียงตามอักขระวิธีไทย ก็ออกเสียงเหมือนคำว่า "บิน" แต่ภาษาอังกฤษมักจะเปล่งเสียงท้ายพยางค์ (แต่เขาไม่นับเป็นอีกพยางค์ นับเป็นเพียงหนึ่งเสียง) นี่เป็นจุดหนึ่งที่ยากสำหรับคนไทยในการออกเสียงภาษาอังกฤษ เนื่องจากลักษณะภาษาเดิมต่างกัน ผมนึกได้ว่ามีความคิดเห็นก่อนหน้านี้ของคุณพริมพลอยและคุณ SiangKaen ที่พูดถึงคำว่า thesis และ thrush ซึ่งคุณ SiangKaen ก็อธิบายไว้บ้างแล้ว แต่ผมคิดว่าอาจเป็นประโยชน์ถ้าจะพูดถึงวิธีออกเสียง th ไว้ ณ ที่นี้ เนื่องจากเป็นอีกสองเสียงที่ไม่มีอยู่ในภาษาไทย th ออกเสียงได้สองแบบ คือแบบคำว่า the กับแบบคำว่า thin แต่มีวิธีเปล่งเสียงคล้ายกัน คือตำแหน่งของลิ้นอยู่ระหว่างฟันบนและฟันล่าง the วางลิ้นไว้ระหว่างฟัน แล้วอัดลมให้ก้องในลำคอ (then, this, that ก็ออกเสียงลักษณะนี้) thin วางลิ้นระหว่างฟันเช่นกัน แต่ปล่อยลมออกมาทางช่องปาก (three, thesis, think ก็ออกเสียงลักษณะนี้) เสียง th ืทั้งสองแบบนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเสียงคู่กัน คือตำแหน่งของลิ้นในการเปล่งเสียงอยู่ตำแหน่งเดียวกัน แต่วิธีใช้ลมต่างกัน ถึงตรงนี้ผมก็ขอย้อนกลับไปที่เสียง v เพราะเสียง v ก็มีคู่ของมัน คือใช้ฟันบนแต่ริมฝีปากล่างเหมือนกัน นั่นคือเสียง f ซึ่งตรงกับเสียง ฟ,ฝ ในภาษาไทย และความแตกต่างก็เหมือนกับเสียง th สองแบบที่ว่า คือเสียง v เอาฟันบนแต่ริมฝีปาก และอัดลมอยู่ในลำคอ เสียง ฟ ปล่อยลมออกมาทางช่องปาก ถ้าออกเสียง v และ th ได้ถูก คนไทยก็พูดเหมือนเจ้าของภาษาขึ้นเยอะครับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 48 19:04:08 จากคุณ : จะละเม็ดดำ - [ 9 ก.ย. 48 18:59:43 ]