คือผมว่าการบินไทยไม่ได้ตั้งใจเสนอจุดเด่นด้านการบริการออกมาในแง่ของการสื่อสารเท่าไรน่ะครับ หรืออาจจะเป็นที่ Perception ของผมคนเดียวก็ได้ คือการบินไทยน่ะเน้นบริการอยู่แล้ว และก็บริการดีมากอยู่แล้วครับ และดีกว่า SQ แน่ แต่ผมว่าน้ำหนักที่ออกมาในการสื่อสารมันไม่มาก คือไม่เคลมมากนั่นเอง แต่สิงคโปร์แอร์ไลน์นี่เคลมกันตั้งแต่การนำเสนอภาพโฆษณาเลยครับ ถ้าเคยเห็น Ad สิงคโปร์เกิรล์นี่จะเห็นได้เลยว่ามัน Warm มาก ๆ
และแม้ว่าเอาเข้าจริง ๆ คนหลายคนรวมทั้งผมจะไปรับรู้ว่าบริการของใครดีจริงหรือไม่ ก็ต้องผ่านทาง Experience อย่างที่คุณ Wonderful_day ยกมานั่นแหละครับ แต่เท่าที่ผมเคยฟัง ๆ มา ในหมู่คนที่ไม่เคยบินมาก่อน (ไม่ใช่แค่คนไทย) หลาย ๆ คนยังมองภาพว่า SQ บริการดีกว่า TG อ่ะครับ นั่นแปลว่า SQ คงสื่อสารตรงนี้ออกมาได้ชัดกว่าผ่านแคมเปญสิงคโปร์เกิร์ล หรือไม่ก็ผ่านทางข่าวสารอื่น ๆ อะไรก็ว่ากันไปครับ นั่นคือ ผมว่าสิงคโปร์ทำออกมาในแง่ของการเคลมตรงนี้ได้ดีกว่าครับ แต่ถ้ามองในแง่ Direct In - Flight Experience แล้ว ผมก็ว่าการบินไทยทำได้ดีกว่าสิงคโปร์อยู่จริง ๆ นั่นแหละ ส่วนเรื่องของ Branding ด้าน In Flight experience ทั้งหมดแล้ว สิงคโปร์ดูจะนำเสนอได้ได้ชัดเจนกว่าครับ
ส่วนเรื่องสนามบินนี่ ผมมองนะครับว่า อีกหน่อยตัวสนามบินเองรวมถึงการบริการอื่น ๆ นอกเหนือจาก Experience บนเครื่อง จะเป็นตัวแปรสำคัญในการแข่งขันเลยทีเดียว เอมิเรตส์เองก็มีจุดแข็งที่ Hub อันแข็งแกร่ง อย่าง DXB คือต่อไปนี้สายการบินโดยเฉพาะในชั้นพรีเมี่ยมอาจจะแข่งกันตั้งแต่ โทรศัพท์จองแหละครับ รอนานไหม ออกตั๋วง่ายไหม ขั้นตอนยากเย็นไหม เช็คอินเป็นอย่างไร มีรถมารับไหม ห้องรับรองเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สร้างความผิดหวังให้ผู้โดยสารได้ง่ายเหมือนกันนะครับ คนหลายคนใช้เวลาที่สนามบินไม่นานก็จริง แต่อย่าลืมนะครับ แค่สองหรือสามชั่วโมงก็เอาการอยู่ โดยเฉพาะคนที่เดินทางชั้นประหยัดและไม่สามารถเข้าไปในห้องรับรองได้ ซึ่งมีจำนวนมหาศาลครับ การมี Facility ที่สนามบิน จะเป็นสิ่งที่มัดใจคนเหล่านี้ได้ไม่น้อยทีเดียว ผมเคยรอที่ AMS สองชั่วโมงครึ่ง พูดตรง ๆ ว่าถ้าไม่ได้เข้าห้องรับรอง ก็คงเซ็งตายครับ น่าเบื่อมาก Casino ก็แสนจะเงียบ ในขณะที่เวลาผมบินผ่าน Changi ผมจะเพลิดเพลินกับการเดินดิวตี้ฟรีหรือดูนู่นดูนี่ในสนามบินมาก ไม่ต้องเข้าไปในห้องรับรองก็ได้
และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ผมว่าในยุคที่เส้นทางการบิน เครื่องบิน ตารางเวลา ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก การสร้างความแตกต่างทางด้านอื่น ๆ เช่นที่ถกเถียงกันข้างต้น จะเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ๆ ผมเองเคยคิดว่าทำไมสิงคโปร์แอร์ไลน์ต้องตั้งชื่อ 747 ว่า Big Top, Mega Top และ 777 ว่า Jubilee ทั้ง ๆ ที่มันก็เหมือนกับลำอื่น ๆ ของชาวบ้านนั่นแหละ แต่เพราะสิงคโปร์แอร์ไลน์ไม่ต้องการให้คนคิดแบบนั้นมากกว่า แต่เค้าต้องการให้คนคิดว่า นี่ไม่ใช่ 744 ธรรมดา แต่นี่คือ Mega Top เป็นยิ่งกว่า 744 ทั่วไปนะ แม้ว่าตอนนี้จะเลิกเรียกแบบนี้ไปแล้ว แต่มันก็ทำให้เราเห็นความพยายามของสายการบินในการสร้างแบรนด์ด้วยความแตกต่างในจุดที่ไม่น่าจะแตกต่างได้ อีกตัวอย่างนึงก็คือไอเดีย Pokemon Jet ของ ANA ซึ่งผมว่าเป็นการสร้างแบรนด์กับเด็กที่ฉลาดอย่างเหลือล้ำจริง ๆ
เรื่องแบรนด์ในชั้นพรีเมียร์ของการบินไทยผมมองคล้าย ๆ คุณ Wonderful Day ครับ ว่ายังไม่แข็งพอจริง ๆ แต่ผมว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะสลัดภาพลักษณ์ของ
แบรนด์เก่า ๆ เพราะจริง ๆ แบรนด์การบินไทยในชั้นพรีเมี่ยมในตลาดโลกไม่ได้แย่ เพียงแต่ไม่แข็งเท่าสิงคโปร์แค่นั้นเอง ยังเข็นกันได้ไม่ยาก
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:29:17
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:13:47
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:12:47
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:11:46
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:10:57
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:07:33
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:04:17
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:03:08
แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 48 20:02:13