อยู่ในChristchurch 3 วัน ใช้รถเก๋งขนาดเล็ก ต้องอยู่นานเพราะไปเรื่องงานด้วยครับ
เรื่องสถานที่เที่ยว คงจะไม่เล่าให้ฟังนะครับ
เพราะผมเองก็อาศัยข้อมูลจากเพื่อนๆในนี้แหละครับ บางครั้งเมลไปถามเอง
เพื่อนๆก็ได้มีน้ำใจตอบมาเป็นการส่วนตัว ต้องขอบคุณทุกท่านครับ

สิ่งที่ควรเตรียมติดตัวไปด้วย
หม้อหุงข้าว ที่ผมนำไปเป็นแบบหุงด้วยไมโครเวฟ หาซื้อได้ทั่วไปครับ
แว่นกันแดด แดดที่นั่นแรงมาก
เครื่องปรุงแบบซอง ที่นั่นก็มีขาย แต่ไม่ค่อยถูกปาก และแพงกว่ามาก
ถุงมือกันแดด สำหรับคนที่ขับรถนะครับ
กล่องพลาสติกหลายขนาด สำหรับอาหารที่ทำตุนไว้
เครดิตคาร์ดซักสองใบ เพื่อใบใดมีปัญหา
หน่วยความจำสำรองของกล้อง หรือเอาโน๊ตบุ๊คไปด้วยซะเลย
ถ้าเมมเมอรี่ของกล้องเต็ม จะอัดลงแผ่นได้
แต่ค่าอัดลงแผ่นก็ แผ่นละ 10NZ$


คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
วันแรกในChristchurch หาห้างนอร์ทแลนด์(Northland)ให้พบ
ที่นั่นมีดิสเคาท์นสโตร์ อยู่สองแห่งในอาคารเดียวกันคือ
“แพคแอนด์เซฟ”และ”เคาท์นดาวน์” ที่นั่นเค้าโฆษณาว่า
อาหารสดของเค้าราคาถูกที่สุดในChristchurch
ข้าวสารของไทยโลละ2.45NZ$ ไข่ไก่ฟองละ7บาท
หมูเนื้อแดงโลละ18NZ$ พริกหนุ่มหรือพริกเขียวโลละ 50NZ$

จากนั้นก็หาซื้อ ตัวแปลงปลั๊กไฟที่นั่นแหละครับ
เค้าใช้ไฟระบบเดียวกับเรา
แต่ปลั๊กของเขาไม่เหมือนของเรา

การเช่ารถ เลือกบริษัทที่เค้าให้เรา รูดคารด์ไว้
แต่ไม่หักบัญชีโดยทันที หากมีปัญหาค่อยมาว่ากัน
บางบริษัท เค้าจะหักเงินจากคาร์ดของเราทันที
เมื่อเค้ารีฟันด์คืนมา เราจะโดนค่าธรรมเนียม+ค่าต่างของสกุลเงิน
คิดแล้วก็ต้องเสียฟรีอีกหลายพันครับ

หากท่านใดมีปัญหา แนะนำร้านอาหารไทยครับ
ชื่อร้านใบหยกไทย อยู่สี่แยกถนนColomboตัดกับถนนKilmore
เจ้าของร้านเป็นคนไทย ช่วยเหลือด้วยน้ำใจของคนไทยจริงๆ
ผมมีปัญหา เข้าไปปรึกษา ได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มรูปแบบ
กราบขอบคุณไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ

การโทรศัพท์กลับเมืองไทย ถูกที่สุดคือ
ซื้อพินโฟน แล้วใช้โทรศัพท์บ้านที่โน่น
โทรกลับมาที่โทรศัพท์บ้านที่นี่ 20NZ$ โทรได้เกือบสองร้อยนาที
ผมไปรบกวนท่านก็เรื่องนี้แหละครับ

ก่อนเข้าอาคารัว มีร้านขายผักสดผลไม้อยู่ร้านนึง
เด่นมากครับ ไม่ต้องสังเกตก็เห็น แนะนำให้ซื้อผักสดและผลไม้ที่นี่ครับ

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
ออกจากสนามบิน จะพบกับวงเวียนเล็กๆ
เลี้ยวซ้ายจะพบบริษัทรถบ้านหลายบริษัท
จะมีอยู่สามบริษัทที่รั้วติดกันทั้งสามบริษัท
คือ”อพอลโล””เกีย”และ”ยูนิเวอร์แซล”
ลุยเข้าไปเลยครับ ตามแต่ชอบรถสไตล์ของใคร
อย่าเช่ารถกับ”มาอุย(Maui)”บริษัทนี้จะถึงก่อนเป็นบริษัทแรก
รถเก่าและราคาแพงกว่าทุกแห่ง

ตุนอาหารให้เต็มตู้เย็นในรถ
ก่อนออกรถ ขอเกลือและพริกไทยจากเขาด้วย ฟรีครับ




Christchurch(เมืองแห่งสวนสาธารณะ) ไป Hokitika(เมืองแห่งหยก)
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ซื้อเสบียงที่Greymouht ตุนไว้ เติมน้ำมันให้เต็ม
เพราะเมืองข้างหน้าจะเป็นเมืองท่องเที่ยว ทุกอย่างจะแพงกว่ามาก
ก่อนออกจากGreymouht จะมีสะพานแบบทรีอินวัน
เป็นสะพานแคบ รถสวนกันไม่ได้ แล้วยังมีรางรถไฟอยู่ตรงกลางด้วย

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
ตุนไฟสำรองของกล้องและโน้ตบุคให้เต็ม
เพราะก่อนเข้า Hokitika มีที่จอดฟรีให้แต่ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้
ที่จอดนี้จะอยู่ริมทะเล พระอาทิตย์จะมาโชว์การตกน้ำในทะเลทาสมันให้ท่านชม
จอดพักที่นี่ได้เลยครับ ที่จอดรถแบบเสียตังค์จะไม่เห็นทะเล




Hokitika ไป Fox glacia(เมืองนี้เล็กที่สุดในเส้นทางนี้)
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ที่นี่มีทะสาบแมทเทอร์สัน
เป็นทะเลสาบที่มีการถ่ายรูปทำโพสท์คาร์ด มากที่สุดในเกาะใต้
และมีถ้ำหนอนเรืองแสง เข้าได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
ต้องชาร์ทไฟเข้ารถบ้างแล้วครับ
เข้าพักที่หลังไอไซท์ ในเมือง
ทางเข้าถ้ำหนอนเรืองแสงก็อยู่ตรงนั้นแหละครับ




Fox glacia ไป วานาก้า(ทะเลสาบสวย)
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ออกจาก Fox glacia มาซักครึ่งชั่วโมง
จะพบฟาร์มปลาซัลมอน ราคาถูกกว่าห้างนิดหน่อย
แต่สดกว่ามาก ลุยไปตามแต่ความพอใจเลยครับ

ปลาซัลมอน เป็นปลาที่มีเนื้อเป็นสีแดง
ไม่สามารถเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ได้ในประเทศไทย
ในประเทศเราไม่มีปลาซัลมอนสดๆขายครับ
ที่มีคือแช่แข็งมาจากที่อื่น รสชาติจะแตกต่างไปบ้างกับปลาสด
ถ้ามีเด็กๆไปด้วย อย่าพลาดพุซลิ่ง

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
ซื้อปลาเนื้อพุงมาซักกิโลนะครับ
ใส่ตู้เย็นไว้ ต่อชีวิตได้หลายวัน

วันนี้พบนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มหนึ่ง
มากับบริษัททัวร์ ได้ทักทายกันที่ Knight point
หากจำผ้าขาวม้าสีเขียวได้ก็เข้ามาทักทายกันนะครับ




วานาก้า ไป เทอานาว(เมืองนี้ใกล้มิลฟอร์ดซาวน์ที่สุด)
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ใช้เส้นทางหมายเลข 89 วิวสวยกว่าสาย 6 แต่ขับยากกว่า
บางโค้งเขาให้เข้าโค้งด้วยความเร็วแค่15 Km/H(เกียร์ 1)
วิวบนเดียร์ปาร์คสวยกว่าบนกอนโดลา
เรือเที่ยวเช้าที่มิลด์ฟอร์ดซาวน์ ราคาจะถูกกว่า เที่ยวบ่าย


คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
มีที่พักแบบไม่เสียตังค์หลายแห่งตลอดทางจาก เทอานาวไปมิลด์ฟอร์ดซาวน์
ส่วนใหญ่จะอยู่ริมแม่น้ำ มีเสียงน้ำไหลตลอดคืน ไม่ต้องไปจอดแบบเสียตังค์ครับ




เทอานาว ไป มานาพัวริ
สองที่นี้อยู่ห่างกันยี่สิบกว่าโลเท่านั้น

คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ระหว่างทางไปมิลฟอร์ดซาวน์ มีที่จอดรถริมทางให้หลายแห่ง
โดยทั่วไปที่จอดรถริมทางจะมีวิวสวยๆให้ดู
ถ้าลงไปแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย
ให้สังเกต ในป่ารอบข้าง
ถ้าโชคดีท่านจะได้พบ ทะเลสาบกระจกหลายแห่ง

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
วันนี้ต้องเติมไฟรถกันอีกแล้ว
ที่มานาพัวริ มีโรงไฟฟ้าใต้ดินและดับท์ฟูลซาวน์




มานาพัวริ ไป ครอมเวล(เมืองผักสดผลไม้)
ตามเส้นทางเราจะผ่านบันจี้และสปีดโบท แวะเก็บซะหน่อย

คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ร้านผลไม้ร้านแรกจะถูกที่สุด ร้านในเมืองจะแพงที่สุด

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
เมืองนี้มีแมลงแยะ เพราะเขาไม่ใช้ยาฆ่าแมลงกัน
รถที่เลือกใช้ ต้องมีมุ้งลวด(Flyscreen)




ครอมเวล ไป เจอราลดีน
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
เมาท์คุก หากเวลาจำกัด ก็ผ่านไปได้เลย ไม่มีอะไร
ทะเลสาบปูไกกิ ถังขยะที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดอยู่หน้าห้องน้ำ
ปลาซัลมอน สดมากและถูกมาก
ในห้างขายโลละ18NZ$ ที่นี่ขายแค่ 12NZ$
ระหว่างทางจะผ่านร้านขายของฝาก ชื่อ Tin shed
ราคาของถูกมาก เราได้ของฝากทั้งหมดถ้วนครบจากที่นี่

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
การนอนในเมืองเล็กๆ ค่าจอดจะถูกกว่าเมืองใหญ่กว่า35%




เจอราลดีน ไป ไคคารัว
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข72 อ้อมนิดแต่สวยกว่ามาก
ก่อนเข้าตัวเมืองไคคารัว จะถึงสามแยกตัวที ข้างหน้าเป็นทะเล
ข้างซ้ายไปไอไซท์ ให้เลี้ยวขวาไป ซักสามนาที
พบกับสามแยกตัววาย เลือกทางซ้าย
สุดทางจะมี โรงเก็บของเล็กๆสีขาว
ที่นั่นคือที่ขายส่ง Clayfish(กุ้งมังกรหรือกั้งหิน)
และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
มีที่พักจอดฟรีอีกแล้วครับท่าน
อยู่ริมทะเล จากไคคารัวมาตามทางหลวงสาย1 ที่จะมาChristchurch
ออกจากไคคารัวมาซัก15นาทีก็จะพบ

วันนี้พบกลุ่มนักเรียนไทย ในโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
น้องๆ น่ารักมากครับ




ไคคารัว ไป ไครส์ทเชิรท์
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
ระหว่างทางมี ทัวร์ริสต์ ไดร์ฟ ไปอ่าวกอร์
หากไม่มีเวลาก็ไม่อะไรน่าสนใจ ไปตามทางปกติดีกว่า

คำแนะนำสำหรับชาวแคมป์เปอร์แวน
บนทางหลวงหมายเลข1 เมื่อถึงไครส์ทเชิรท์
จะเปลี่ยนชื่อเป็นถนนรัสส์ลี่ย์ ขวามือมีที่พักชื่อนอร์ทเซ้าท์
น่าไปพักครับ เพราะอยู่ใกล้ที่จะคืนรถ และสนามบิน
เช้าจะต้องจัดของ ไม่ต้องรีบ




ไครส์ทเชิรท์ กลับ กรุงเทพฯ
คืนรถ ผมซื้อประกันไว้ กระจกหน้าแตกตั้งแต่เมื่อวันก่อน
เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
มาถึงดอนเมือง เราจะอยู่ที่ชั้น1 ให้เข็นรถขึ้นลิฟท์ไปชั้น3(ผู้โดยสารขาออก)
หาแท็กซี่ได้ง่ายกว่า รถใหม่กว่าและราคาถูกกว่า
ที่ชั้น1(ผู้โดยสารขาเข้า) จะมีรถแท็กซี่ที่ต้องซื้อคิวเพื่อมารับผู้โดยสาร
ค่าคิวเกือบสองแสน จะเป็นรถเก่าๆ เพราะรถใหม่จะไม่มาคอยคิว
ไม่คุ้มค่าเช่า ผู้ใหญ่อ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวต้องไปยืนรอคิวเพื่อขึ้นรถเก่า+ค่าคิว แพงกว่าปกติ
คนขับส่วนใหญ่จะพอพูดอังกฤษได้ ก็จะแปลงร่างเป็นไกด์เถื่อน
จากนั้นการท่องเที่ยวเราก็จะล่มสลาย
เพราะบุคคลแรกที่นักท่องเที่ยวเจอก็คือ “ไกด์เถื่อน”

หากเพื่อนๆต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ผมยินดีครับ attacadee@yahoo.com

กว้าง