ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เห็นด้วยอย่างแรง บ้าไปแล้ว แล้วเมืองไทยจะไม่มีป่าจริงๆเหลือไว้เลยหรือนี่ ในเมื่อคนเห็นว่าจะต้องทำเป็นการค้าไปหมดทุกที่ โดยอ้างเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ถือว่าสัตว์ป่ามันเถียงไม่เป็น แล้วจะยัดเยียดอะไรให้มันโดยไม่สนว่าจะดีสำหรับมันไหม? --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) - [ 1 พ.ย. 48 21:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นพระเจ้าไปแล้วหรอเนี่ย จะสั่งทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง พวกเลียขาก็เลียกันหน้ามืดตามัว ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ "จะให้นำสัตว์มาโชว์ที่ห้วยขาแข้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ไม่ใช่มาเที่ยวแล้วเห็นแต่รอยสัตว์เหมือนปัจจุบัน" สัตว์ "ป่า" นะครับไม่ใช่คณะลิงละครสัตว์ที่จะมาโชว์ เก็บลูกบอล บวกเลข หาของ จากคุณ : fa_beer - [ 1 พ.ย. 48 21:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากจะทำอะไรก็ไปที่เชียงใหม่ซิ  ยิ่งมี ไนท์ซาฟารีแล้วไง  ก็ไปทำให้พอใจเสียก่อนซิแล้วค่อยมาเปิดป่า จากคุณ : นกเหงา (นกร่าเริง) - [ 1 พ.ย. 48 21:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สืบสะอื้นอีกแล้วครับ ไม่เห็นด้วยอย่างมาก ได้อ่านจากหนังสือพิมพ์แล้ว หงุดหงิดใจมาก ท่านนายกบอกว่าจะสร้างป็นสวนสัตว์เปิดห้วยขาแข้งบริเวณป่ากันชนของห้วยขาแข้งด้วยการล่อสัตว์ให้ออกมาจากห้วยขาแข้งแล้วให้คนมาดู......อึ้งครับ ท่านว่าเพื่อเศรษฐกิจที่ดีของจ.อุทัยธานี ความคิดท่านเป็นแบบพ่อค้ามาก ไม่ได้เป็นแบบนักอนุรักษ์   แล้วสัตว์จะมีชีวิตบริสุทธิ์เหมือนเดิมอย่างไรกันครับ ให้งบทำ50ล้านให้ล่อสัตว์เข้ามาในเขต ในเมื่อท่องเที่ยวแบบครึกโครมแบบนี้ ไม่ใช่แบบกลุ่มเล็กๆแอบซุ่มในบังไพรเงียบสงบ แล้วสัตว์มันจะออกมาหรือครับ...สืบ นาคะสเถียร คงจะเสียใจมากนะครับที่อุตสาห์แลกชีวิตตนเองเพื่อป่านี้ จนได้เป็นมรดกโลก แต่ความเป็นมรดกโลกกลับทำลายห้วขาแข้งเองหรือ?~ อย่างไรก็ตามรัฐบาลนี้บริหารงานได้เก่ง แต่ใส่ใจกับการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติน้อย(มาก)ไปหน่อยครับ จากคุณ : ชะมดขาสั้น - [ 1 พ.ย. 48 21:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บอกตรงๆครับ...หดหู่จริงๆ นี่จะไม่เหลือพื้นที่ไห้สัตว์ป่า ได้มีความเป็นส่วนตัวบ้างเลยหรือ? จากคุณ : พรเลิศ - [ 1 พ.ย. 48 22:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วาทะไอ้แ้ม้วอีกแล้วหรือเนี่ย.. ที่นครสวรรค์ก็ทีหนึ่งแล้ว จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 1 พ.ย. 48 23:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับคุณก้อนหิน...มาเจอกันที่นี่จนได้... ประเด็นสำคัญก็คือ  วัตุประสงค์ในการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าชัดเจนอยู่แล้ว ว่าเพื่ออนุรักษ์ถิ่นอาศัยและสัตว์ป่า รวมทั้งการสนับสนุนงานวิจัยและกิจกรรมสิ่งแวดล้อมหรือธรรมชาติศึกษา ต่างจากอุทยานแห่งชาติ....ซึ่งยังกำหนดให้มีกิจกรรมนันทนาการหรือการท่องเที่ยวได้ภายใต้ขอบเขตที่ไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม นั่นคือความแตกต่าง....แต่คนที่เป็นอธิบดีดูเหมือนเข้าใจ ไม่เช่นนั้นจะมีไปทำไมละครับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า   สู้ทำให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เที่ยวกันให้แหลกรานไปเลยให้หมดก็สิ้นเรื่อง!!!! หากทำจริงก็ถือว่าทำผิดกฏหมาย... แต่ที่น่าขยะขแยงมากกว่านั้นก็คือ....คิดที่จะแก้กฏหมายให้รับลูกกับนโยบายนายก   ตกลงว่าตำแหน่งอธิบดีทำงานเพื่อใคร....ทำงานเพื่อประชาชนหรือทำงานเพื่อนายก????  ผมยังสงสัย ทีกฏหมาย ป่าไม้ กฏหมายอุทยานแห่งชาติเก่าคร่ำครึ.....ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2540 ในเรื่องสิทธิและการมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชนในการจัดการทรัพยากรกลับไม่ยอมดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสม.... แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 48 01:13:58 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 48 01:09:13 จากคุณ : พญาไฟสีเทา - [ 2 พ.ย. 48 01:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โดยปกติถ้าอยากเข้าไปจริง ๆ ก็ทำเรื่องถึง กรม ได้นี่ครับ ไม่จำเป็นต้องมาป่าวประกาศ เพราะยังไงก็มีคนกลุ่มนึง เข้าไปเป็นประจำอยู่แล้ว เอาเป็นว่าปิดไว้อยางเดิมนั่นแหละ ส่วนใครอยากไป ก็ทำเรื่องขอกับทางกรมเอา ผมว่าน่าจะดีกว่าครับ แต่พี่น่าจะตั้งกระทู้ที่ห้องสิ่งแวดล้อมนะครับ จากคุณ : . (ซิมเปิ้ลแมน) - [ 2 พ.ย. 48 08:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนเราไม่ได้ฉลาดไปเสียทุกอย่าง บางคนฉลาดในเรื่องธุรกิจ แต่โง่เง่าเต่าตุ่นในเรื่องของธรรมชาติ เพราะคิดแต่เรื่องเงินอย่างเดียวมองอะไรเป็นเงินไปหมด ก็ต้องเห็นใจเขาและต้องช่วยจูง(จมูก) เขาไปในทางที่ถูกที่ควร  แต่คนที่ทำงานด้านธรรมชาติมาอย่างยาวนาน พอได้นั่งเก้าอี้ใหญ่หน่อยก็พยายามยึดไว้โดย เจ้านายต้องการอะไรก็จัดให้นั้น ท่านว่าเป็นคนชอบเลียแข้งเลียขา ประจบเจ้านาย หากเป็นหมาก็แลดูน่ารักดี แต่หากเป็นคนก็ไม่ควรอยู่ในสังคมต่อไป ควรจะลาออกไป   ตั้งกระทู้ห้องนี้ก็ได้ครับ เพราะห้วยขาแข้งมีนกและสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ควรรักษาไว้ให้สมกับเจตนาของกฎหมายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จากคุณ : เปรี้ยวปิ๊ด - [ 2 พ.ย. 48 10:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างเดิมก็ดีแล้วนี่คับ (หรือไม่ดีหว่า) แทบทุกเขตฯก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องทำตามกฏกติกาเท่านั้น ระวังอาการ ปากไว ใจด่วน จะส่งผลให้สักวัน จากคุณ : บ่เบี้ย บ้านไพร - [ 2 พ.ย. 48 10:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอ 7-11 ด้วยนะเพราะกลัวว่าไปแล้วจะไม่มีสโมกกี้ไบค์กินหน่ะครับ เหอ เหอ จากคุณ : ST (SSTT) - [ 2 พ.ย. 48 11:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณพญาไฟสีเทาครับ ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ   (เด็กทับแก้วใช่ไหมครับ ) จากคุณ : kipz (kipz) - [ 2 พ.ย. 48 12:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เห็นด้วยอย่างแรง ปิดไว้เหมือนเดิมดีกว่าครับ จากคุณ : หมาละเมอ - [ 2 พ.ย. 48 12:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าถ้าขืนเปิดมีหวังป่าแตก สัตว์กระเจิงครับ ปิดแบบนี้ ดีแล้วครับ จากคุณ : เขนหัวขาวท้ายแดง - [ 2 พ.ย. 48 13:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต้องถามว่าท่านรู้ไหมว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต่างจาก อุทยานแห่งชาติอย่างไร? จากคุณ : CrazyHOrse - [ 2 พ.ย. 48 14:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปัจจุบัน ไม่ได้เปิดก็เห็นมีนักท่องเที่ยวมาตรงที่ทำการกันเยอะแยะนี่คะ  แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือ นำสัตว์มาโชว์ เพราะนั่นหมายถึงต้องกักขัง ให้เสียอิสระภาพ  ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : แม่นกลูกดก (ป๋อง ราชบุรี) - [ 2 พ.ย. 48 15:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โอยยยยยยยยยย.......คิดได้ไงครับนี่........ สัตว์ป่านะครับ..ไม่ใช่สัตว์จากสวนสัตว์.....หยุดความคิด..และ..หยุดการกระทำที่นอกลู่นอกทางเถอะครับ......ลุงสืบครับ....ช่วยดลใจให้คนที่คิดและจะทำเรื่องที่น่ากลัวแบบนี้เลิกล้มความคิดเถอะครับ...........ผมไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว.............. จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ - [ 2 พ.ย. 48 17:32:42 A:58.136.224.38 X: TicketID:110355 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามา post อีกทีหงุดหงิด มีนายกแบบนี้ เซ็ง จากคุณ : fa_beer - [ 3 พ.ย. 48 00:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เห็นด้วยอย่างแรง จากคุณ : บีโกเนีย - [ 3 พ.ย. 48 04:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก็คงจะคิดแบบนักธุรกิจจริงๆ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองที่พรรคจะได้รับเลือก แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประชาชนคนไทยนี่แหละ จะยอมให้เขาเอาผลประโยชน์มาล่อ เพื่อให้เขาได้ผลประโยชน์จำนวนมหาศาลหรือไม่ จากคุณ : fon_et8 - [ 3 พ.ย. 48 08:47:43 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เห็นด้วยอย่างแรง เพราะอุทยานแห่งชาติ และสวนสัตว์ ก็มีเพียงพอแล้ว จะเอามรดกโลกไปปู้ยี่ปู้ยำทำไม จากคุณ : Ophiophagus - [ 3 พ.ย. 48 18:06:35 A:202.129.52.203 X: TicketID:036045 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เปิดบ้านนายกเป็นสวนสัตว์น่าจะดีกว่ามั้ยครับ...พื้นที่กว้างขวาง กลางเมืองใหญ่โต สิ่งอำนวยความสะดวก 5 ดาว ความปลอดภัยเป็นเลิศ .... ขาดแค่"สัตว์"ที่จะเอามาโชว์เท่านั้นเอง   อย่าไปทำอะไรกะห้วยขาแข้งเล้ย กว้างใหญ่ไพศาลซะขนาดนั้นจะดูแลนักท่องเที่ยวยังไงไหว สิ่งอำนวยความสะดวกก็ขาดแคลนเปลืองงบประมาณมากกว่าไปทำสนามหน้าบ้านท่านเป็นสวนสัตว์ซะอีกนะ จริงมั้ยครับนักอนุรักษ์ ผู้ร่วมชาติไทย ที่มีนายกกับนักธุรกิจเป็นคนเดียวกันในตอนนี้ จากคุณ : นกกะเต็น - [ 4 พ.ย. 48 00:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปัจจุบันก็เปิดให้เข้าไปอยู่แล้วนี่ครับ แต่ต้องทำตามกฎ กติกา มารยาท ของเขตรักษาฯเค้า ถ้าอยากดูสัตว์ก็เข้าไปซุ่มดูได้นี่ครับ หรือว่าไม่มีความอดทนเฝ้ารอ อยากดูแบบสบายๆไปที่สวนสัตว์ยืนดูตาของสัตว์ในกรงที่ตามันละห้อยเหมือนคนที่ติดคุกตลอดชีวิต ส่วนจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบโป่งๆชึ่ง กินเหล้าเมาร้องเพลงแหกปากโวยวาย กรุณาไปเที่ยวที่บ้านหลังหนึ่งบนถนนพิษณุโลกหรือแถวจรัญฯก็ได้ แล้วตั้งวงหน้าสนามหญ้า ดูสิงห์สาราสัตว์เดินเข้าออกจะเหมาะกว่ามั้งครับ ขอแนะนำ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 08:27:19 จากคุณ : อ้อรัตน์ - [ 4 พ.ย. 48 08:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เห็นด้วยครับ...........เหมือนกันส่วนใหญ่ในนี้ และขอยกข้อความของคุณคนที่ 15 มาย้ำอีกที "ต้องถามว่าท่านรู้ไหมว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต่างจาก อุทยานแห่งชาติอย่างไร?" แล้วคำว่า "มรดกโลก" นี่ไม่ใช่ว่า เรานึกจะทำอะไร ก็สั่งรื้อสั่งถอน สร้าง ต่อเติม กันได้ง่าย ๆ นะครับท่าน...........................การเปลี่ยนแปลงต้องผ่านคณะกรรมการมรดกโลกให้อนุมัติ ถือเป็นองค์กรระดับโลก ยกเว้น อยากจะสร้างอะไรก็ได้ตามใจฉัน...........แต่เค้าคงมา ยึดคำว่า "มรดกโลก" คืนไป จากคุณ : boy - [ 4 พ.ย. 48 10:28:15 A:58.10.26.188 X: TicketID:089817 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรียน พณฯนายกรัฐมนตรี,อธิบดีฯ ทำของที่มีอยู่เดิมให้ดีดีกว่าครับ เอะอะไรก็สร้างใหม่ๆ(แล้วกลายเปนขยะในอนาคต...)ผลประโยชน์ใครๆก็อยากมีอยากได้กันทุกคนแหละครับ แต่หาด้วยวิธีที่ดีกว่านี้หน่อยเถอะครับ ประชาชนขอร้อง จากคุณ : นกเหนือ - [ 4 พ.ย. 48 12:23:27 A:203.154.48.14 X: TicketID:100118 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรียนพณฯนายกรัฐมนตรี,อธิบดีฯ ทำของเดิมให้ดี ดีกว่ามั้งครับ เอะอะไรก็สร้างใหม่ๆ(แล้วก็โดนทิ้งกลายเปนขยะในอนาคต) ผลประโยชน์ใครๆก็อยากมีเหมือนกันทุกคนแหละครับ แต่หาด้วยวิธีที่ดีกว่านี้หน่อยเถอะครับ ประชาชนขอร้อง จากคุณ : นกเหนือ - [ 4 พ.ย. 48 12:27:09 A:203.154.48.14 X: TicketID:100118 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านความเห็นที่ 11 คุณ SSTT แล้ว มันเป็นความจริงที่น่าเศร้าใจค่ะ(เรียกว่า "ตลกร้าย" เลยนะเนี่ย)   ไปสมุยมาเมื่อเดือนก่อน เฉพาะร้านสะดวกซื้อยี่ห้อนี้  ขับรถวนรอบเกาะให้ลูกสาวนับดูเล่นๆ   20 กว่าร้าน  มีถนนวนรอบเกาะ มีผู้คนเข้าไป มีความสะดวกสบายเข้าไป มีความเจริญ   แล้วก็มี...ความเสื่อม ลองนึกถึงขยะ เสียงเอะอะรบกวน ควันไฟจากการหุงต้ม     โหวต... ไม่เห็นด้วยค่ะ  ...อยากให้เสียงเล็กๆ ดังไปถึงหู "ท่าน" จัง จากคุณ : พริมพลอย - [ 4 พ.ย. 48 15:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ป่านะครับ ไม่ใช่สวนสัตว์ จากคุณ : ฮาดิน - [ 4 พ.ย. 48 15:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เห็นด้วยครับ จากคุณ : GusTo_D7D - [ 4 พ.ย. 48 16:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ฯพณฯคงลืมไปว่าตอนนี้เหลือ375เสียงแล้วมั้ง อยากให้ฯพณฯไดรับความรู้สึกของสัตว์ป่าบ้างลองจัดให้มีทัวร์บ้านฯพณฯทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการสิครับน่าจะสนุกดีเอาแค่กันชนบ้านจันทร์ส่องหล้า(ที่จอดรถ)ก็พอดูซิว่ายังจะเปิดป่าพาวิบัติกันอีกไหม จากคุณ : ...man (...man) - [ 4 พ.ย. 48 22:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้วล่ะ อยากจะทำอะไรกับประเทศก็ได้หมดแล้ว พูดอะไรหน่อย ลูกน้องก็พลอย จะทำให้ได้หมด เฮ่อ... สืบลงทุนยิงัวตายเพื่อให้ได้สำนึกและรักษาผืนป่านี้เอาไว้ เพื่อเป็นสมดุลธรรมชาติ ของประเทศเรา จะเอามันมาย่ำยีทำไมไม่เข้าใจ จากคุณ : ชมพู่มะเหมี่ยว - [ 5 พ.ย. 48 09:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวการณ์ที่ย่ำแย่ในด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะมีคนอย่าง ฯพณฯ ทั้งหลาย ที่เชียงใหม่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะครับ ลองเข้าไปสัมผัสดูจริง ๆ จะทราบว่า อะไรคืออะไร เรื่องอย่างนี้ คนไทย ไม่ยอมครับ จากคุณ : pangfankids (pangfankids) - [ 5 พ.ย. 48 09:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ใช่ที่เชียงใหม่ ตรงไนท์ซาฟารีน่ะ  เขาเตรียมสัตว์มาไว้ปล่อยในไนท์ซาฟารี  เราไปดูงานมาเมื่อเดือนกันยายน พอไปถึงเขารีบพาไปดูสัตว์ที่อนุบาลไว้  เราตกใจแทบช็อก  มีตัว สปอร์ทไฮยีน่า ตัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าคนอีก วิ่งให้พล่านเลยอยู่ในกรง  เวลาพวกเราไปดู ก็วิ่งเข้ามาติดกรง อ้าปากขู่คำราม น่ากลัวมาก เราถามเขาว่านี่หรือจะปล่อยในไนท์ซาฟารี  ไม่กลัวนักท่องเที่ยวเป็นอันตรายหรือ แล้วเขาตอบเราไม่น่าจะเชื่อถือได้ว่าจะปลอดภัยเลย  เราคิดว่าจะไม่ส่งนักท่องเที่ยวไปแน่ แล้วพาลคิดว่า  จะมาเปิดไนท์ซาฟารีทำไมว่ะ ที่เชียงใหม่  เขาบอกว่านายกต้องการที่จะทำให้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว  เรายังเถียงว่าแล้วขนบธรรมเนียมประเพณีของเชียงใหม่หรือสถานที่ต่างๆ ในเชียงใหม่ไม่มีอะไรดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้วหรือ เขามองหน้าเรางงๆ เราก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ว่าทุกวันนี้เชียงใหม่ไร้เสน่ห์เสียแล้วหรือจึงต้องเอางบราชการซึ่งเป็นภาษีของประชาชนไปทำอะไรที่ไม่จำเป็นเสียตั้งหลายพันล้าน  แล้วจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่มีอะไรเลยละจะทำอย่างไร ปล่อยให้มันร้างไปเสียเลยท่าจะดี  ไม่ต้องให้มีการท่องเที่ยวกันหรอกเพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปดึงดูดนักท่องเที่ยว อื้มมมมมมมมมชอบความเห็นของคุณนกกะเต็นมากเลย   ว่าน่าจะเอาบ้านนายกทำเป็นสวนสัตว์ท่าจะดี  จะได้มีความรู้สึกกันบ้างว่ามันจะเป็นอย่างไร  เศร้าใจจริงๆ จากคุณ : นกเศร้า (นกร่าเริง) - [ 5 พ.ย. 48 12:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรียนทุกท่านครับ.... ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำ.... ล่าสุดมีข่าววงในมาว่าผู้ใหญ่บางคนกำลังวิ่งล๊อบบี้ให้หยุดนำเสนอข่าวนี้ตามสื่อต่างๆ ผมคิดว่าความเห็นและผลการโหวต....จะมีประโยชน์อย่างมากในกรณีที่จะต้องเอาไปถกเถียงกัน และใช้นำเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย.. โดยเฉพาะ....หากมีการทำประชาพิจารย์เพื่อเปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวจริง..ตามแผนที่อธิบดีกล่าวไว้ ผลการโหวต...และความคิดเห็นต่างๆ ของสมาชิกทุกท่านน่าจะนำไปประกอบได้  เพราะ ท่านเป็นนักท่องเที่ยว นักนิยมไพร ความคิดเห็นเหล่านี้เป็นของคนที่รักธรรมชาติ..นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า...ก็อยู่ในกลุ่มนี้ ถ้าเกิดไปประชาพิจารย์คนยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ดีพอ... ผลที่ได้อาจออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง...ยิ่งในยุคที่ประชานิยมเบ่งบานแบบนี้ ดังนั้นผมอยากจะหารือสักเล็กน้อยครับ...หากไม่รบกวนมากกรุณาส่งกระทู้นี้ไปยังเพื่อนสนิท มิตรสหายผู้รักธรรมชาติทั้งหลาย...ที่ท่านรู้จักเพื่อให้พวกเขาได้ร่วมโหวตและแสดงความคิดเห็นด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 48 18:49:56 จากคุณ : พญาไฟสีเทา - [ 5 พ.ย. 48 18:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ใช่ น่าจะส่งผลโหวตนี้ ให้รัฐบาลโดยตรงเลย โดยเฉพาะท่าน อธิบดี อยากทราบชื่อจังเลยว่า อธิบดีกรมไหนชื่ออะไร ทำไมจึงคล้อยตามง่ายอย่างนี้ ฮึ จากคุณ : ตานก - [ 5 พ.ย. 48 20:56:09 A:58.10.173.188 X: TicketID:110892 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไม่เข้าใจจริง ๆ เล๊ย...นี่ผมจะเข้าใจถูกรึเปล่า ข้าราชการ....ผมรู้สึก (เป็นความรู้สึกของการเป็นราษฎรคนหนึ่ง) ว่ามันน่าจะรับใช้ ช่วยเหลือ ดูแลทุกข์ สุข ของประชาชนคนไทย แต่ยุคนี้ สมัยนี้ ... ข้าราชการไทย ไม่ตัองสนใจใคร แค่นาย... บ่นพึมพำ ก็ต้องรีบทำ ให้ทันความ (ต้องการของ...) รึไง \\mad ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเที่ยวป่าเขา ลำเนาไพร ... ห้วยขาแข้ง ก็อยากไป แต่ถ้าการไปของผม หรือของใครที่รัก/รักษ์ธรรมชาติ ต้องทำให้ธรรมชาติของชาติ ต้องเสียหาย หรือเปลี่ยนแปลงไปในทาง - มากกว่า+ แล้วล่ะก็ ผมขอนอนอ่าน นั่งดูธรรมชาติจากรายการสารคดี หรือนิตยสารฯ ดีกว่า ....\\happy คิดจะทำอะไร ขอให้นึกถึงประเทศชาติบ้างเถอะครับ อย่าคิดเพียงเพื่อ..... และหวังอย่างยิ่งว่า แผนนี้จะไม่ใช่แผนเปิดทางเพื่ออนาคต??? นะ \\แตงโม จากคุณ : werayuta (werayuta) - [ 5 พ.ย. 48 22:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มันไม่ใช่แค่มาล่อๆสัตว์ออกมาให้นักท่องเที่ยวดู ให้อาหารมันกิน นักท่องเที่ยวสนุก กลับบ้าน แล้วก็จบนะโว๊ย.....ไอ้คุณเหลี่ยม คิดมั่งมั้ยถึงวิถีชีวิตตามธรรมชาติมันจะเสียไป สัตว์บางชนิดก็จะติดนิสัย ไม่ออกหากินเองละ  มารออาหารนักท่องเที่ยว ห่วงโซ่อาหาร และระบบนิเวศน์ก็จะเปลี่ยน พังชิบหายกันหมด ตัวอย่างก็มีให้เห็นจากลิงที่เขาใหญ่แล้ว  จนเดี๋ยวนี้เค้าต้องออกมาบอกว่าห้ามให้อาหารลิง เพราะมันเอาแต่มาขออาหารนักท่องเที่ยว จนผ่านเจนเนอเรชั่นถัดๆมา มันก็หาอาหารเองไม่เป็นแล้ว เพราะแม่มันไม่เคยสอน เคยแต่พามากินอาหารจากนักท่องเที่ยวอย่างเดียว แล้วพอไม่ได้อาหาร บางทีก็อาจขู่หรืออาจถึงทำร้ายนักท่องเที่ยวเลยก็ได้ มองอะไรอย่ามองแค่เงินวันนี้พรุ่งนี้ ผลกระทบด้านอื่นน่ะ หัดมองบ้าง ไหนชอบโชว์เต๊งนัก  ว่าตัวเองวิสัยทัศน์กว้างไกล  ทำให้คนอื่นเค้าเห็นเหมือนที่ชอบ present ตัวเองหน่อย คนโง่  บางทีเงียบๆไว้ก็ไม่มีใครเค้ารู้ว่าโง่หรอก ผิดกับคนฉลาดแต่ปากไวไม่ได้ใช้ความคิดก่อนที่จะพูดออกมา แบบนี้น่จะโดนคำพูดตัวเองมามัดคอตัวเองเข้าให้ ทำอะไรพูดอะไรน่ะ หัดคิดซะก่อน อย่าเอาแต่อ้างว่าเป็นคนตรงๆ พูดตรงไปตรงมาแล้วมาทำอย่างนี้.....เป็นถึงผู้นำประเทศทั้งที อย่าทำให้แค่คนอื่นเค้าเหม็นขี้ฟันเวลาพ่นลมออกมาจากปากเลย    อายคนอื่นเค้าทั้งโลกเปล่าๆ จากคุณ : smartpoe - [ 6 พ.ย. 48 00:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าท่านปล่อยวางเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้วลองกลับไปทบทวนถึงหลักการและเหตุผลของการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าก็จะเข้าใจได้เองว่าสิ่งที่ท่านกำลังอยากจะให้เกิดขึ้นนั้นมันขัดแย้งกันขนาดไหน โครงการกระเช้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวนั่นก็ครั้งนึงแล้วที่ท่านคิดจะพารีสอร์ทบุกขึ้นไปย่ำยีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพียงเพื่อจะได้ผลตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากการท่องเที่ยว เมื่อไหร่จะสำนึกเสียทีว่าประเทศนี้ดินแดนนี้ไม่ใช่ของท่านที่อะไรๆ ก็จะเอามาขายกินกันให้วายวอดหมดในยุคที่กอบโกยกันอย่างเบ็ดเสร็จนี้... เซ็งจริงๆ... จากคุณ : Headbanger - [ 6 พ.ย. 48 01:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สงสารสิ่งมีชีวิตหน่อยเถอะ... จากคุณ : นกสีเทา - [ 6 พ.ย. 48 03:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขนาดที่เชียงใหม่ ทำไนท์ซาฟารี ยังคิดว่าจะรุ่งหรือป่าว มีหนังสืออยู่เล่มนึง คือ "ไนท์ซาฟารี หลุมดำดูดงบ ส่อเค้าถมไม่เต็ม" แสดงถึงความไม่ชอบมาพากล และผลที่จะเกิดขึ้นต่อไป จัดทำโดย ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สนใจลองหาอ่านดู จะรู้ว่า ที่เชียงใหม่อะไรเป็นอะไร "เป้าหมายของการให้เป็นที่ท่องเที่ยวระดับโลก และไนท์ซศาฟารีที่ดีที่สุดในโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละไม่น้อยกว่า 8 แสนคน จะเป็นไปได้ตามที่ตั้งเป้าหมายหรือไม่ เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่พิจารณาตามคาดการณ์เดิมในแผนแม่บทบอกได้ว่า ปีแรกของการดำเนินการยังมีปัญหา เชื่อว่าไม่สามารถเป้นไปตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน" ปัญหาการใช้น้ำในไนท์ซาฟารี ก็ตามมา ซึ่งประเด็นอยู่ที่ว่า ตอนนี้มีการขุดน้ำบาดาลมาใช้  ซึ่งมีคนบอกว่า จะส่งผลถึงระบบนิเวศ ของป่า บริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะดอยสุเทพ นีเชียงใหม่นะครับ แล้วที่อื่นหละ จะมีอะไรตามมาอีก น่าเป็นห่วงประเทศไทยจริง ๆ จากคุณ : pangfankids - [ 6 พ.ย. 48 08:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เค้าไม่เคยรู้จักป่านี่ครับ ความคิดเค้าเลยไม่รอบด้าน ยิ่งมีลูกน้องที่ไม่นำเสนอความจริง แต่นำเสนอตามที่เจ้านายอยากฟัง แล้วพวกเรายังไม่คิดจะทำอะไรกับเค้าอีกเหรอครับ นอกจากแค่ส่งรายชื่อที่เค้าไม่เคยสนใจ เหมือนเค้าไม่เคยเชื่อในพลังของประชาชน และเหมือนเราก็ไม่มีพลังเหลือแล้วจริง ๆ อาจต้องรอให้เกิดวิกฤตรุนแรงเหมือน อาร์เจนตินา หรือเหมือนญี่ปุ่นโดนระเบิดปรมาณู เมื่อความเสียหายรุนแรงปานนั้น คนไทยส่วนใหญ่จึงจะรู้สึก กระมัง? กันไว้ ดีกว่า แก้ไข ตอนที่สายไปแล้ว ว่าแต่ว่า ในที่นี้ มีใครเป็นลูกน้องเค้าบ้างรึเปล่าน่ะ ถ้ามี อยากรู้จัง ว่าคุณคิดยังไง จะทำเพื่อใคร และคิดว่าทำตามนโยบายเค้ายังงั้นแล้ว จะมีโลกดี ๆ สังคมดี ๆ ให้คุณอยู่ไปอีกนานซักแค่ไหน จากคุณ : ZyberDog (ZyberDog) - [ 6 พ.ย. 48 12:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาลงชื่อโหวตด้วยอีกคนครับ เพราะคนเรามีความจำเป็นจะต้องรู้จักพอ การมีเงินมากก็ไม่ใช่จะมีความสุขมากตามเสมอไป จากคุณ : นายผจญภัก - [ 6 พ.ย. 48 19:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาตินำคำของผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่งมาใส่ไว้ในนี้คะ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น เขาไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปเที่ยวชม พักผ่อนดูโน่นดูนี่เหมือนวนอุทยาน หรืออุทยานแห่งชาติ .. แต่ความจริง ใครจะเข้าไปก็ได้ และดูเหมือนจะต้องขออนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานฯเป็นรายๆไป เมื่อก่อนนี้ สมัยคุณปลอดประสพเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ (สมัยนั้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า-อุทยานแห่งชาติ ขึ้นอยู่กับกรมป่าไม้) ท่านก็ดูหวงแหนพื้นที่ดี พอมาเป็นผู้อำนวยการโครงการ Night Safari ที่มีเรื่อง Marketing เข้ามาเกี่ยวข้องมากๆ ความรักพื้นที่ก็ดูจะเหือดแห้งไปตามกาลเวลา "นำสัตว์เข้าไปปล่อยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า" ว้าว!! นั่นน่ะ คุกเจ็ดปีเชียว อย่าว่าแต่จะเอาสัตว์เข้าไปปล่อยเลย ต้นไม่สักต้น ที่ไม่ได้เป็นไม้พื้นถิ่น เขายังถือเป็น Alien ที่จะไม่นำเข้าไปปลูกในพื้นที่เลย ... ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานฯบ่อยๆ หรือติดตามข่าวการปลูกป่าในเขตอุทยาน อย่างเช่น ปางสีดา ทับลาน .. ก็คงจะทราบ เช่นนำไม้โตเร็ว อย่างเช่นต้นยูคาลิปตัส ต้นกระถินณรงค์ไปปลูกเป็นร้อยเป็นพันไร่ .. ก็ไม่รู้ว่าจะให้สัตว์ป่าชนิดไหนได้ประโยชน์จากต้นไม้เหล่านั้นเหมือนกัน อธิบดีกรมอุทยานฯ คนปัจจุบัน ท่านก็รับลูกเร็วไปหน่อย ถ้าไม่ปากไว-ใจเร็ว หรือจะเอาใจนาย ก็น่าจะบอกแต่เพียงว่า กรมฯต้องเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย เพื่อรองรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยว สถานที่ - ต้องกันเขตให้ชัดเจน ว่าจะให้เข้าไปได้แค่ไหน เจ้าหน้าที่-ต้องพร้อม กฏเกณฑ์ต่างๆ ต้องรักษาไว้ สำหรับให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด .. เพราะมีความจริงอีกเหมือนกันว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบางแห่งนั้น ก็ยอมให้ประชาชนเข้าไปท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ไม่ใช่จะห้ามหวงเด็ดขาดไปเสียทีเดียว อย่างเช่นที่อุ้มผาง .. น้ำตกทีลอซู นั่นก็อยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทำอะไร เกรงใจคนไทยบ้างก็น่าจะดีนะครับ จากคุณ : Jahoa - [ 7 พ.ย. 48 10:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่เห็นด้วยครับ ท่านนายกเวลาทำธุรกิจยังตั้งทีมเก็บข้อมูลซะเท่าไร เอาความสามารถนั้นมาใช้ในการออกนโยบายเกี่ยวกับธรรมชาติบ้างน่าจะดี ไม่ใช่ได้แต่คิดแล้วพูดเลย เพราะท่านเป็นนายก พูดโดยไม่รู้นั้นคนที่รู้เขาก็หงุดหงิดซิครับ ยิ่งผู้ใหญ่ที่มีความรู้ด้านนี้โดยตรง (ถ้ามีนะครับ) ยิ่งไม่ควรตามน้ำง่ายๆอย่างนี้ เสียชื่อญี่ห้อหมด จากคุณ : Greenish (GREENISH) - [ 7 พ.ย. 48 11:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 hh จากคุณ : อินทวารี - [ 7 พ.ย. 48 11:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ี่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แค่ชื่อมันก็ให้คำจำกัดความได้อยู่แล้ว เบียดเบียนคนไม่พอ ยังจะไปเบียดเบียนสัตว์อีก จากคุณ : PaeZ - [ 7 พ.ย. 48 11:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มันก็คิดได้แค่นี้ บ้านเมืองถึงได้วุ่นวายไปหมด จากคุณ : อินทวารี - [ 7 พ.ย. 48 11:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี และตาก ประวัติความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ.2508 ป่าไม้เขตบ้านโป่งขอให้กรมป่าไม้ประกาศห้ามการล่าสัตว์ป่าในบริเวณป่าทุ่งใหญ่ เนื่องจากเห็นว่ามีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุมและมีคนเข้าไปล่าสัตว์ป่ากันมากกองบำรุง กรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการสงวนและคุ้มครองสัตว์ในขณะนั้นจึงได้ส่ง เจ้าหน้าที่ไปสำรวจและตรวจสอบในปี พ.ศ.2510 และเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แต่เนื่องบริเวณพื้นที่มีขนาดใหญ่ยังมีประทานบัตรและการอนุญาตทำประโยชน์อื่น ๆ อีกหลายอย่างในป่าแห่งนี้ จึงได้มีหนังสือขอความร่วมมือจากจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดตาก ระงับใบอนุญาตใด ๆ ที่กระทบกระเทือนต่อแผนการจัดตั้งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการเตรียมการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2516 ต่อมาได้ปรากฏข่าวอื้อฉาวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของทางราชการเครื่องหนึ่งเกิดอุบัติเหตุตกพังพินาศที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2516 มีผู้เสียชีวิต 6 คน และพบซากสัตว์ป่าปะปนอยู่กับซากปรักหักพังของเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงไปถึงกรณีที่สื่อมวลชนและนิสิตนักศึกษากลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติได้ไปพบคณะล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่ทำการล่าสัตว์โดยไม่เกรงกลัวต่อเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าเป็นคณะเดียวกันกับเฮลิคอปเตอร์ที่ตก ทำให้กรณีทุ่งใหญ่เป็นข่าวใหญ่และเป็นที่สนใจของคนทั่วไปอยู่เป็นเวลานาน คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2516 และมีมติให้ดำเนินการประกาศป่าทุ่งใหญ่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยให้ชื่อว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เคยหยุดทัพในบริเวณทุ่งใหญ่ระหว่างการยกทัพไปรบกับพม่า และได้ดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนจนเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ เล่ม 91 ตอนที่ 72 ลงวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2517 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกเมื่อพ.ศ. 2534 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และตำบลแม่ละมุ้ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 33,647.2 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,279,500 ไร่ โดยมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้ ทิศเหนือ จรดหมู่บ้านยางแดง บ้านกะเหรี่ยงมาจี บ้านกะเหรี่ยงมาจีใหม่ ในเขตจังหวัดตาก ทิศใต้ จรดแม่น้ำรันตีและแนวเขตวกลงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามลำห้วยแยกของแม่น้ำรันตึไปจรดขุนห้วยหงียาย ทิศตะวันตก จรดพรมแดนประเทศสหภาพพม่า และพื้นที่ประทานบัตรเหมืองแร่ บางส่วน ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนและเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแควน้อยและแควใหญ่ ลำน้ำแควใหญ่ไหลผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ทางด้านตะวันออกมีเนื้อที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด ระดับความสูงจากน้ำทะเลเฉลี่ยประมาณ 800 - 1,200 เมตร ยอดเขาที่สูงที่สุด คือ เขาใหญ่ สูง 1,800 เมตร อยู่บริเวณตอนกลางของพื้นที่ เป็นต้นน้ำลำธารหลายสาย คือ ห้วยโรตี่ แม่น้ำรันตี ไหลลงสู่ ลำแควน้อยทางด้านตะวันตก ห้วยเซซะโหว่ ห้วยดงวี่ ห้วยซ่งไท้ ไหลลงสู่แควใหญ่ทางด้าน ตะวันออก ห้วยหม่องดง แม่น้ำกษัตริย์ใหญ่ ห้วยทีมู ไหลลงสู่ประเทศพม่าทางด้านเหนือ ลักษณะภูมิอากาศ มีฤดูกาลเช่นเดียวกับภาคกลางของประเทศไทย แต่อากาศค่อนข้างหนาวเย็นกว่าปกติ เนื่องจากเป็นพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล ในหน้าร้อนอากาศเย็นสบายและกลางคืนน้ำค้างแรงมาก ชนิดป่าและพรรณไม้ ป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีหลายลักษณะผสมกันอยู่ตามธรรมชาติ เป็นแหล่งน้ำแหล่งอาหาร และที่หลบซ่อนป้องกันภัยของสัตว์ป่าที่สมบูรณ์ ทำให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้มีสัตว์ป่าอยู่อย่างชุกชุม ป่าเหล่านี้ประกอบด้วยทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ และป่าดงดิบเขา ทุ่งหญ้า มีกระจายอยู่ทั่วไปตามยอดเนิน บางแห่งมีขนาดใหญ่มีเนื้อที่ถึง 10 ตารางกิโลเมตร และเรียกบริเวณนี้ว่า ทุ่งใหญ่ บริเวณทุ่งหญ้าเหล่านี้มักจะเกิดไฟป่าลุกไหม้อย่าง รุนแรงทุกปี ทำให้มีไม้ยืนต้นกระจายอยู่ห่าง ๆ ไม้พื้นล่างเป็นพวกหญ้าและไม้ตระกูลปาล์ม คือ ปรงและเป้งขึ้นผสมอยู่ทั่วไป ในฤดูฝนไม้พื้นล่างในทุ่งจะเจริญงอกงามจนสูงท่วมหัว สัตว์ป่าจึงได้อาศัยหากินและซุกซ่อนอยู่ในบริเวณดงหญ้าเหล่านี้ เมื่อถึงฤดูหนาวหญ้าที่แก่เต็มที่จะแห้ง และสุมกันเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ตอนปลายฤดูหนาว-ฤดูร้อนจึงเกิดไฟป่าลุกไหม้ทั้งทุ่งจนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นหญ้าจะเริ่มแตกยอดอ่อนเป็นหญ้าระบัด และกลายเป็นแหล่งหากินที่สำคัญของสัตว์ป่าและจะมีความสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ทุ่งหญ้าที่มีชื่อเสียงรู้จักกันดี ได้แก่ ทุ่งใหญ่ ทุ่งฤาษี ทุ่งนเรศวร ทุ่งใหญ่ เป็นทุ่งหญ้าบนเนินเขาที่มีบริเวณติดต่อกันเป็นเนื้อที่ประมาณ 10 ตาราง กิโลเมตร สลับด้วยไม้ยืนต้นที่เหลือรอดจากไฟไหม้ทั้งที่เป็นกลุ่มและกระจายกันอยู่ในบริเวณทุ่งบริเวณที่ลุ่มมีแหล่งน้ำและดินโป่งหลายแห่ง ส่วนรอบ ๆ ยังเป็นป่าที่อุดทสมบูรณ์และยอดเขา หินปูนแซมอยู่ทั่วไป บริเวณนี้จึงมีสัตว์ป่าชุกชุมมากและมีทางด่านสัตว์ป่าที่ใช้เดินเป็นประจำและรอยลงกินดินโป่งอยู่ทั่วไป ป่าเบญจพรรณ มักจะขึ้นผสมอยู่กับป่าเต็งรัง ส่วนใหญ่ยังมีสภาพสมบูรณ์ มีไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น ประดู่ แดง มะค่าโมง ตะแบก ส้าน และมักจะพบไม้ไผ่ขึ้นแซมอยู่เป็นไม้พื้นล่าง เช่น ไผ่ไร่ ไผ่ไร่ลอ ไผ่รวก และบางแห่งจะปกคลุมไปด้วยป่าไผ่เกือบทั้งหมด ซึ่งมักจะเป็นกอขนาดใหญ่ ได้แก่ ไผ่ป่าหรือไผ่หนาม ไผ่ซางนวล ไผ่บง เป็นต้น ป่าเต็งรัง มักจะพบในบริเวณที่หน้าดินตื้นและมีความชื้นน้อย สภาพป่าโดยทั่วไปยังมีความอุดมสมบูรณ์และมีไม้ขนาดใหญ่กว่าที่อื่น ไม้มีค่าที่พบมาก ได้แก่ เต็ง รัง ประดู่ แดง ส่วนไม้พื้นล่างมักจะเป็นหญ้าชนิดต่าง ๆ ป่าเต็งรังบางแห่งได้เปลี่ยนสภาพเป็นทุ่งหญ้าและเกิด ไฟป่าลุกลามอย่างรุนแรง ป่าในลักษณะนี้จะมีไม้ยืนต้นขึ้นอยู่น้อย ไม้ที่พบเป็นไม้จำพวกส้านและกระโดน แต่จะมีไม้พื้นล่างตระกูลปาล์มจำพวกเป้งและปรงขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นมีลักษณะแปลกไปจากที่อื่น โดยเฉพาะต้นปรงมีขนาดโตมากและมีอายุนับร้อยปี ป่าดงดิบ มักจะพบตามที่ราบลุ่มและริมห้วย ซึ่งจะมีลักษณะทั้งป่าดงดิบชื้นและ ป่าดงดิบแล้งผสมกัน มีพันธุ์ไม้ป่าดงดิบขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ที่สำคัญและมีค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ตะเคียน อบเชย เป็นส่วนใหญ่ ไม้พื้นล่างเป็นหวาย ไม้ไผ่ และเถาวัลย์ เป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธารที่สำคัญยิ่งและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าซึ่งชอบป่าทึบ ป่าดงดิบเขา กระจายอยู่ตามยอดเนินเขาเมื่อระดับความสูงมากขึ้น ชนิดพันธุ์ไม้จะค่อย ๆ เปลี่ยนจากพันธุ์ไม้ป่าเต็งรังหรือป่าเบญจพรรณเป็นพันธุ์ไม้ป่าดิบเขาจำพวกก่อชนิดต่าง ๆ มณฑาป่า จำปีป่า ป่าดงดิบเขาเป็นป่าทึบซึ่งเขียวชะอุ่มตลอดปีและติดต่อกันเป็นผืนใหญ่ เป็นต้นน้ำลำธาร แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่สำคัญมาก สัตว์ป่า การผสมผสานของทุ่งหญ้าและป่าไม้ชนิดต่าง ๆ ตามธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าแห่งนี้ ทำให้มีแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร และที่หลบซ่อนป้องกันภัยแก่สัตว์ป่าอย่างสมบูรณ์ จึงปรากฏมีสัตว์ป่ามากทั้งชนิดและจำนวน โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวน เช่น เลียงผา ควายป่า กระซู่ สมเสร็จนอกจากนั้นยังมีร่องรอยและรายงานการพบเห็นอยู่ตามแหล่งต่าง ๆ ส่วนสัตว์คุ้มครอง อื่น ๆ ที่พบได้แก่ ช้างป่า กระทิง วัวแดง กวาง เก้ง เสือชนิดต่าง ๆ หมี ค่าง บ่าง ชะนี ลิงลม ลิงต่าง ๆ พญากระรอก ชะมด อีเห็นต่าง ๆ หมีขอ ลิ่น และสัตว์อื่น ๆ อีกหลายชนิด รวมทั้งไก่ฟ้าหลังเทา ไก่ฟ้าพญาลอ เป็ดหงษ์ เป็ดก่า นกเงือกชนิดต่าง ๆ นกแก้ว นกพญาไฟ นกขุนทอง นกกระทาดง นกหัวขวานต่าง ๆ เป็นต้น ก็พบมากในป่าแห่งนี้ สัตว์ป่าที่มีจำนวนมากและพบเห็นบ่อย ๆ ได้แก่ กระทิง ช้างป่า กวาง เก้ง ตาม ทุ่งหญ้าและดินโป่ง ตามทางรถและทางด่านสัตว์ก็จะพบชะมด อีเห็น และรอยเท้าเสือโคร่ง เป็นจำนวนมาก ในบริเวณป่าโปร่งและป่าไผ่ก็จะพบเห็นไก่ป่า ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง กวาง โดยไม่ยาก ส่วนนกชนิดต่าง ๆ และชะนีจะได้ยินเสียงร้องหรือเห็นตัวในป่าทั่วไป จุดเด่นที่น่าสนใจ ธรรมชาติที่สวยงามและมีลักษณะแปลกกว่าที่อื่น เป็นที่น่าสนใจและพบเห็นได้เฉพาะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ป่าไม้ส่วนใหญ่ยังสมบูรณ์ประกอบด้วยไม้ชั้นต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ตามคบไม้มักจะประดับไปด้วยกล้วยไม้ป่าที่ออกดอกมีมีสรรต่าง ๆ บางต้นเป็นที่เกาะทำรังของผึ้งและมีรวงผึ้งเกาะแขวนอยู่ตามกิ่งไม้เป็นจำนวนมาก บางแห่งเป็นป่าไผ่นานาชนิดที่สมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่งดงาม ทุ่งหญ้าและป่าโปร่งซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วไปตามเนินเขานั้นบางแห่งก็มีขนาดใหญ่มาก เช่น ทุ่งใหญ่ ทุ่งฤาษี ทุ่งนเรศวร ทุ่งหญ้าเหล่านี้มักจะมีไม้พื้นล่างตระกูลปาล์ม เช่น เป้ง ปรง ขึ้นแซมผสมอยู่กับไม้ยืนต้นทำให้มองดูแปลกกว่าที่อื่น ต้นปรงส่วนใหญ่มีขนาดโต และมีลักษณะงดงามตามธรรมชาติ ตามท้องทุ่งบางแห่งจะมีกล้วยไม้ดินและดอกหญ้า ขึ้นแซมสลับกับสีเขียวของทุ่งหญ้า สัตว์ป่าหลายชนิดได้อาศัยทุ่งหญ้าเหล่านี้เป็นที่หากิน จึงมักจะพบรอยเท้าสัตว์และทางด่านสัตว์เต็มไปหมด โดยเฉพาะตามน้ำซับและดินโป่งซึ่งมีอยู่ทั่วไป โป่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ โป่งซ่งไท้เล็ก โป่งซ่งไท้ใหญ่ โป่งดงวี โป่งตะเลอะเซอะ โป่งบอน โป่งไผ่ และหนองหม่องดง ซึ่งมีนกชุกชุมมาก ลำห้วยหลายแห่งมีความสวยงามตามธรรมชาติที่หาได้ยาก เช่น ลำแควใหญ่ ที่ไหลผ่านทางด้านตะวันออก ห้วยแม่หม่องดง แม่น้ำกษัตริย์ใหญ่ ห้วยเซซะโว่ ห้วยตะเลอะเซอะ ห้วยดงวี ห้วยซ่งไท้ เป็นต้น ธรรมชาติที่น่าสนใจเหล่านี้เป็นส่วนที่ได้สำรวจพบแล้วในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่มีเนื้อที่มากกว่า 2 ล้านไร่นี้ และยังไม่ได้ทำการสำรวจโดยละเอียดอีกหลายบริเวณ จึงคาดว่าจะได้พบสัตว์ป่าและธรรมชาติที่น่าสนใจอีกมากมาย ทางด้านตะวันออกมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ซึ่งอุดมด้วยสัตว์ป่า ถ้ำงู ถ้ำกระดูก บึงละกะตู บึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของเป็ดก่าซึ่งเป็นนกน้ำประจำถิ่นที่มีประชากรน้อยมากในธรรมชาติ หลักฐานที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทิ้งเอาไว้< เช่น ครกกังหันน้ำ จากคุณ : pubasten - [ 7 พ.ย. 48 11:16:38 A:203.113.67.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ประวัติความเป็นมา กรมป่าไม้ได้เข้าไปดำเนินการเพื่อจัดการป่าห้วยขาแข้งให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 แต่ในเวลานั้นทางราชการไม่สนับสนุนให้มีการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2515 เมื่อนโยบายทางราชการเปลี่ยนแปลงไป จึงได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังด้วยออกพระราชกฤษฎีกากำหนดป่าห้วยขาแข้งให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามกฏหมาย โดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 201 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2515 ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2529 ได้มีพระราชกฤษฎีกาขยายเขตเพิ่มเนื้อที่ให้มากขึ้น สืบเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และสัตว์ป่าจนเป็นที่ยอมรับของนักวิจัยชาวไทยและ ชาวต่างประเทศว่า เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ขนาดใหญ่ มีความหลากหลายของพันธุ์สัตว์และพรรณพืช ดังนั้นในปี พ.ศ.2534 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งรวมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกทางธรรมชาติของโลก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 15 ณ เมืองคาร์เถจ ประเทศตูนีเซีย สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งตั้งอยู่เชิงเขาหินแดง ริมห้วยทับเสลา ห่างจากตัวจังหวัดอุทัยธานีตามเส้นทางรถยนต์ 90 กิโลเมตร อาณาเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งครอบคลุมท้องที่ตำบลระบำ ตำบลป่าอ้อ อำเภอลานสัก ตำบลทองหลาง กิ่งอำเภอห้วยคต อำเภอบ้านไร่ ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี และตำบลแม่ละมุ้ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 1,737,587 ไร่ หรือ 2,783.3 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปมีสภาพเป็นภูเขา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลระหว่าง 200 - 1,650 เมตร เป็นต้นน้ำลำธารของลำห้วยหลายสาย ที่สำคัญที่สุด คือ ห้วยขาแข้ง ซึ่งไหลผ่านกลางพื้นที่และมีน้ำตลอดปี ทางซีกตะวันตกเป็นป่าทึบและภูเขาสลับซับซ้อน จึงก่อให้เกิดลำธารสั้น ๆ หลายสายไหลลงห้วยขาแข้ง ทางซีกตะวันออกมีลำห้วยที่ใหญ่กว่า ได้แก่ ห้วยไอ้เยาะ ที่มีต้นน้ำมาจากเขานางรำและเขาเขียว ห้วยแม่ดีเกิดจากเทือกเขาน้ำเย็น ไหลลงสู่ลำห้วยขาแข้ง และห้วยทับเสลา ซึ่งมีต้นน้ำไหลมาจากเทือกเขาในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นแนวเขตธรรมชาติของเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าทางด้านตะวันออกและไหลผ่านที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง ชนิดป่าและพรรณไม้ สภาพป่าส่วนมากยังสมบูรณ์ เนื่องจากไม่เคยผ่านการทำไม้มาก่อน บริเวณที่ลุ่ม ริมห้วยขาแข้งและห้วยใหญ่ ๆ เป็นป่าดงดิบชื้น ที่สูงขึ้นไปจะเป็นส่วนผสมระหว่างป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ บางแห่งจะมีไผ่รวกขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ หรือกระจัดกระจายเป็นหย่อม ๆ บนยอดเขาสูงมาก ๆ จะเป็นป่าดิบเขา สัตว์ป่า โดยที่ป่าห้วยขาแข้งเป็นป่าผืนใหญ่ที่มีเนื่อที่กว้างขวาง มีอาณาเขตบริเวณติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรที่เชื่อมโยงไปถึงประเทศพม่า สัตว์ป่าสามารถหลบหลีกไปถึงกันได้ จึงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม รวมทั้งบางชนิดที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ ได้แก่ วัวแดง กวางควายป่า ช้างป่า กระทิง เก้ง หมูป่า ลิง ชะนี ค่าง สมเสร็จ เสือชนิดต่าง ๆ นกยูง ไก่ฟ้า ไก่ป่า นกหัวขวาน และนกชนิดอื่น ๆ อยู่กระจัดกระจายทั่วไป ซึ่งสามารถเห็นตัวและพบร่องรอยอยู่เสมอ จุดเด่นที่น่าสนใจ ลำห้วยขาแข้ง ได้ชื่อว่าเป็นลำน้ำที่มีความสวยงามตามธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นลำน้ำสายใหญ่ให้น้ำตลอดปี นอกจากจะมีน้ำที่ใสแล้วบางตอนยังเกิดหาดทรายที่ขาวสะอาดทอดไปตามริมลำห้วย มีปลาชุกชุมมาก รวมทั้งสัตว์ป่าและสัตว์ปีกที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ตอนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ บริเวณสบห้วยไอ้เยาะไหลลงห้วยขาแข้ง น้ำตกโจน เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดปี เป็นส่วนหนึ่งของลำห้วยทับเสลาไหลผ่านช่องเขาแคบ ๆ และเปลี่ยนระดับฉับพลันก่อให้เกิดน้ำตกมีความสูงประมาณ 50 เมตร วงตีไก่ เป็นปรากฏการณ์ประหลาดของธรรมชาติที่เกิดมีก้อนหินขนาดต่าง ๆ วางเรียงกันเป็นวง ๆ หลายวง มีชื่อทางเข้าคล้ายประตู 4 ด้าน โป่งนายสอ ตั้งชื่อตามชื่อพรานป่าซึ่งเสียชีวิตเพราะถูกแรดทำร้าย อยู่ทางฝั่งขวาของลำห้วยขาแข้ง ตอนกลางของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีน้ำซับตลอดปี จึงมีสัตว์ป่าชุกชุมมาก โป่งพุน้ำร้อน เป็นโป่งใหญ่อยู่ทางตอนเหนือทางฝั่งซ้ายของลำห้วยขาแข้ง มีบ่อ น้ำพุร้อนอยู่ใกล้ ๆ สัตว์ป่าโดยเฉพาะกระทิง วัวแดง และกวาง มีชุกชุมมาก นอกจากนี้ยังมีโป่งต่าง ๆ ซึ่งมีชื่อเสียงมากอีกหลายโป่ง เช่น โป่งแสนโต๊ะ โป่งตะคร้อ โป่งหญิง โป่งเจียว โป่งสมอ เป็นต้น ที่มาของข้อความข้างต้นhttp://www.dnp.go.th/conserv/wildlife/sanctuary/sanc7.htm ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย และความคิดที่จำนำสัตว์ต่างถิ่น เข้าไปในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ ผืนสำคัญสุดท้ายของประเทศไทยค่ะ...หากต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวจริงๆ ควรพัฒนาสิ่งดี่มีอยู่แล้ว ให้ดีขึ้น พัฒนาการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ เกือบ 150 แห่งของประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อระบบนิเวศ และนักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจ ที่สำคัญควรพัฒนาและวิจัยถึงผลกระทบหลักทีอาจเกิดขึ้นต่อสัตว์ป่า พันธุ์พืชและ คำนึงถึงความเปราะบางของระบบนิเวศเป็นหลัก ไม่อยากให้มีการทุบหม้อข้าวตัวเองเหมือนที่เคยเป็นกับท้องทะเลไทย จากคุณ : pubasten - [ 7 พ.ย. 48 11:31:20 A:203.113.67.70 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 แหม่...กลับมาอ่านอีกรอบก็ขอด่าอีกรอบ ไม่เห็นด้วย ความคิดควายมากๆๆ ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เท่าที่ทุกวันนี้ก็ถือว่ายืดหยุ่นสุดตีนแล้ว ถ้ามากกว่านี้ธรรมชาติจะรับไม่ไหวแน่ คนที่ชอบไปเที่ยวที่แบบนั้นเค้าก็เข้าใจข้อนี้กันดี ไม่เห็นต้องเพิ่มต้องเปลี่ยนอะไร จริงๆแล้ว ปิดไปถาวรได้ยิ่งดี ผมยอมไม่ได้ไปเที่ยวดีกว่าให้มันถูกทำลายไป สัตว์ป่าน่าสงสารมาก ต้องทนรับชะตากรรมที่มนุษย์อื่นมอบให้มามากแล้ว อย่างน้อยถ้าคิดแบบเห็นแก่ตัวเองเราก็ต้องห่วงลูกหลานเราบ้าง อนาคตจะเป็นยังไงถ้าพวกเขาไม่มีป่า ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ จากคุณ : Greenish (GREENISH) - [ 7 พ.ย. 48 13:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยามเมื่อคุณเดินอยู่ในป่าสภาพ "ธรรมชาติ" คุณจะมีความรู้สึกสุขสบายใจเป็นที่สุด เมื่อเทียบกับ... การเดินอยู่ในสวนสาธารณะ หรือ ในสวนสัตว์ มันคนละเรื่องเลยหละ...เพราะนั่นมันไม่ใช่ "ธรรมชาติ" ไม่เชื่อก็สังเกตดูแววตาสัตว์ หรือลองฟังเสียงเขาดูสิ ถ้าคุณปล่อยให้ธรรมชาติทุกชีวิตอยู่อย่างสมดุลย์ อยู่ด้วยความ"พอดี"ถึงแม้จะเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด เขาก็จะดูแลคุณและทุกชีวิตอย่างดีโดยที่คุณไม่รู้ตัว ตรงข้าม...เมื่อคุณรุกราน หรือ อยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ผิดธรรมชาติ...ธรรมชาติก็จะลงโทษคุณ!! เหมือนที่กำลังเป็นอยู่นี่ไง "ไม่เห็นด้วย" นี่คือความคิดเห็นอีกหนึ่งเสียงของมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง แต่...อยากให้โอกาสท่านนายกฯ ลองทบทวนอีกครั้ง จะให้ดี ลองเข้าไปทบทวนในป่าห้วยขาแข้งกันดีไหม ไปลึกๆ ให้หลีกห่างจากความเจริญทางวัตถุน่ะ แล้วออกมาค่อยพูดตัดสินใจ เข้าป่าแบบนักเดินป่าที่เคารพต่อธรรมชาติ เหมือนคนทั่วไปไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ข้าวของ หรือลูกน้องมากมาย...เมื่อท่านได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ...ด้วยหัวใจจริง...แล้วจะรู้ว่า อำนาจความยิ่งใหญ่ หรือ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย ก็เทียบไม่ได้กับ "ใบไม้ใบเดียว" ฝากบอกท่านด้วยว่า "ธรรมชาติมีมากพอสำหรับทุกชีวิตบนโลก แต่ไม่พอสำหรับคนๆ เดียวที่ไม่รู้จักพอ" จากคุณ : ทานตะวัน - [ 7 พ.ย. 48 13:32:34 A:203.114.114.235 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่เห็นด้วยครับ เลิกคิดอะไรก็เป็นเงินเป็นทองได้แล้วมั้ง นี่ประเทศ คัรบประเทศ ไม่ใช่ บริษัท ที่มุ่งหาแต่รายได้ ..และกำไร ??? จากคุณ : ดอกธูป - [ 7 พ.ย. 48 14:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เอ่อ ไปเดินซาฟารีเวิรล์ดมาหรือยังคะ ถือว่าปล่อยสัตว์เหอะ ไม่ คำเดียวเท่านั้น จากคุณ : atihasita - [ 7 พ.ย. 48 16:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 และกฎหมาย มีไว้กำหนดนโยบายการทำงาน ไม่น่าจะเป็นหัวหลักหัวตอไว้กระทำย่ำยีได้ตามอำเภอใจนะ WE VOTE!! จากคุณ : atihasita - [ 7 พ.ย. 48 16:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ธรรมชาติ เป็นอะไรที่บอบบาง มนุษย์เข้าไปที่ไหน ตรงนั้นแย่ทุกที ไม่อยากให้ทำแบบนี้เลย เพราะเมืองไทยเหลือพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ไมกนัก รัฐบาลคิดอะไรของเขานะ อย่างอื่นมีไม่ไปทำ มายุ่งเกี่ยวกับสิ่งบอบบางเหล่านี้ทำไม ธรรมชาติก็อยู่ของเขาดีๆ แล้ว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เรื่องอื่นต้องจัดการอีกตั้งเยอะ จากคุณ : soda - [ 7 พ.ย. 48 16:42:20 A:202.142.218.214 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผมขอคัดค้านด้วยครับ มีประเด็นอยากแลกเปลี่ยน 3-4 ข้อ ครับ 1. ห้วยขาแข้งไม่เหมาะที่จะไปเที่ยวเพราะบ้านหลังนี้มีบรรยากาศร้อน แล้ง ไม่มีสวนหย่อมสวยงาม และที่สำคัญสัตว์ป่าที่นี่ไม่ได้มีไว้โชว์ อยากดูไปสวนสัตว์ครับ 2. ห้วยขาแข้งเขามีห้องรับแขกไว้ให้แล้ว วันดีคืนดีคุณจะไปบุกเข้าไปห้องนอนเขาได้ไง เป็นบ้านเราๆ ก็ไม่ยอมใช่ใหมครับ 3. โครงการห่วยๆ แบบนี้คิดกันไปได้ คนอำเภอลานสักริมป่าเขายังฉลาดกว่า เตรียมออกมาคัดค้านแล้วครับ เห็นเขตฯ เป็นอุทยานได้ยังไง 4. ขนาด อช.ทั่วประเทศเห็นดูแลกันแต่ที่เที่ยว กับรับใช้พวกนักท่องเที่ยว ปูผ้า ล้างห้องน้ำ ฯลฯ ป่าถูกตัด สัตว์ป่าถูกล่าหมดแล้ว ศักดิ์ศรีอนุรักษ์หายไปหมด จากคุณ : parmai6 - [ 7 พ.ย. 48 17:11:28 A:203.156.67.39 X: TicketID:110992 ]

ความคิดเห็นที่ 57 บ้าที่สุด ทำไมคนใหญ่คนโตบ้านเรา ถึงได้มีสมองเป็นแบบนี้ จากคุณ : debby the gunner - [ 7 พ.ย. 48 17:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 58 การพัฒนาเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเหมาะสม และยั่งยืน ไม่ใช่เห็นอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด บางสิ่งบางอย่างมีค่าเกินกว่าเงินมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความงามของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคุณค่าเกินกว่าจะประเมินราคา เสียไปแล้วเอาคืนไม่ได้ การฟื้นฟูธรรมชาติ เป็นิส่งที่ยากยิ่ง และต้องใช้เวลายาวนาน แต่การทำลายมันง่ายในพริบตา ดังนั้นเรามีของดีเป็นมรดกโลกเราต้องรักษา รู้ข่าวนี้แล้ว เจ็บปวด อย่าหาว่า โอเวอร์นะ ประมาณว่าน้ำตามันไหล "อยากดูสัตว์ก็ไปดูในสวนสัตว์นู่นไป รู้หน่อยสิว่าอะไรควรอะไรไม่ควร" จากคุณ : pangfankids (pangfankids) - [ 7 พ.ย. 48 22:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สัตว์มันรู้ว่าควรอยู่ที่ไหน แต่เหตุใดคนไม่รู้ใจสัตว์   คนดีหายไปไหน......... คน[^_^]ถึงเต็มบ้านเต็มเมือง ............................. จากคุณ : CM boy (pangfankids) - [ 7 พ.ย. 48 22:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มันเป็นเรื่อง  ทรัพยากรธรรมชาติ  คุณค่ามหาศาล จากคุณ : ทวนกระแส - [ 8 พ.ย. 48 13:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งมาก ๆ ถึงมากที่สุดเลย ถึงจะเป็นคนชอบเที่ยวป่ามาก ๆ เหมือนกันแต่ก็ขอไว้ให้สัตว์ทั้งหลายได้เป็นอิสระสักที่หนึ่งเถอะนะ และอย่าเอากวางที่ภูกระดึงมาเป็นข้อเสริมด้วย สัตว์ป่าควรจะมีวิถีชีวิตที่เป็นแบบของเค้าให้มันดำเนินไปตามกฎของธรรมชาติดีกว่า อย่าเอื้อประโยชน์ให้กันมากไปกว่านี้เลย ความจริงไม่น่าเปิดเป็นที่ท่องเที่ยวทั้งป่าเลยดว้ยซ้ำ จากคุณ : คนป่าคนดอย - [ 8 พ.ย. 48 17:37:42 A:158.108.145.18 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมไม่รู้ใครคิดยังไง แต่ผมก็เห็นว่า ที่ไหนเปิดให้คนเข้าง่ายๆ ธรรมชาติมันก็ไปง่ายๆ เหมือนกับทุกที่ ที่เปิดให้คนเข้าอยู่เนี่ยแหละครับ จากคุณ : นายเดินดิน - [ 8 พ.ย. 48 17:38:59 A:58.8.20.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 แค่ทำไนท์ซาฟารี ที่เชียงใหม่ก็พอมองออกว่า นายกทักษิณไม่ได้คิดอนุรักษ์อะไรเลย คิดธุรกิจหาเงินเท่านั้น สัตว์มันนอนกลางคืนให้คนเอาไฟไปไล่ส่องดูเพื่อความเบิกบานอารมณ์(สัตว์ ??) ของคน ไม่เคยคิดเห็นใจแม้แต่สัตว์ กับคนไม่ต้องพูดถึง ดูการกระทำทุกวันนี้เป็นยังไง จากคุณ : คนจริงไม่ใช่สัตว์ - [ 8 พ.ย. 48 19:09:38 A:10.90.4.180 X:202.28.181.7 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่เห็นด้วยกับทักษิณ         ถ้านายกทักษิณ เห็นชีวิต ธรรมชาติ เป็นเงินไปหมด   อยากได้เงินนัก    ก็ขอแนะนำสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ  จัดรายการ Real Show  แบบ Big Brother หรือ Academy  Fantasy ( AF)   เป็นรายการ Family Fantasy  (FF)  สู้กัน      ทำยังไงหรือ   ก็เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า 24 ชั่วโมงเป็นรายการโชว์จริง ติดกล้องทุกซอกมุมเลยดีไหม   จะได้เข้าใจชีวิตคนอื่นบ้างไง  อ้อ  แนะนำให้เปิดบ้านคุณปลอดฯ( ปลอดประสบการณ์)ด้วย แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 48 21:31:59 จากคุณ : อ้วน (อ้วนต้วมเตี้ยม) - [ 8 พ.ย. 48 21:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เห็นด้วยกับทุกความเห็นเลยครับ คนเข้าไปทำร้ายสัตว์ทีนั่นเมื่อ๓๐กว่าปีก่อนโน้น ต้องลี้ภัยออกไปนอกประเทศ ทั้งๆที่มีอำนาจมากที่สุดในตอนนั้น ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย? จากคุณ : ชาย - [ 8 พ.ย. 48 23:30:15 A:58.147.16.221 X: TicketID:049395 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ช่วยกันโหวต ขึ้นกระทู้แนะนำด้วยครับ กระทู้ ดี ๆ อย่างนี้ ควรให้ทุกคนเห็นชัด ๆ จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน - [ 9 พ.ย. 48 09:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่เห็นด้วย จากคุณ : Takalot - [ 9 พ.ย. 48 14:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 "........ณ วันนี้ห้วยขาแข้งกลายเป็นป่าที่คนไทยหวงแหนที่สุด ได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลก เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ไม่มีการบุกรุก การสร้างเขื่อน การจัดแรลลีในป่าห้วยขาแข้งถูกสาธารณชนต่อต้านอย่างรุนแรง การตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์อาจมีบ้างประปราย แต่ก็น้อยนิดเมื่อเทียบกับป่าแห่งอื่นในประเทศ สืบ นาคะเสถียร รอวันนี้มานาน นานพอจะรู้ว่า มีเพียงเสียงปืนนัดเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงได้ ......" สืบ นาคะเสถียร   เอาชีวิตเข้าแลก  เพื่อปกป้องให้สัตว์ป่าได้ดำรงชีพตามธรรมชาติของมัน   แต่วันนี้นักธุรกิจ-นายทุนบางคน   กำลังจะเอาสัตว์ป่ามาเป็นเครื่องมือ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ช่วยกันต่อสู้  คัดค้านจนถึงที่สุด  เพื่อ  วิญญาณของคุณ  สืบ  นาคะเสถียร   ด้วยเถิด..... http://www.pantown.com/board.php?id=12635&name=board1&topic=2&action=view จากคุณ : ติวเตอร์ - [ 9 พ.ย. 48 15:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อันนี้เป็นความคิดเห็นจาก http://www.naturethai.org พอดีพี่เค้าไปตั้งกระทู้ไว้http://www.naturethai.org/community/view.php?No=793 "ผมขอโหวดที่นี่แล้วกันนะครับ   ผมขอโหวดให้ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเป็น แหล่งท่องเที่ยว ได้ครับ แต่ มันต้องเป็นอย่างนี้... 1. การเข้าไปท่องเที่ยวในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในการ ศึกษาธรรมชาติ 2. ต้องจำกัดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้พื้นที่ ไม่ให้รบกวนธรรมชาติมากเกินไป 3. นักท่องเที่ยวทุกคณะจะมี เจ้าหน้าที่สื่อความหมาย ดูแล เสมือนมีไกด์ประจำ จนกว่าคณะจะเดินทางกลับ 4. นักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าวิทยากร ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าพื้นที่ ค่ากำจัดขยะ ฯลฯ ดูธรรมดาใช่ไหมครับ ไม่เหมือนกันนะ กับอุทยานแห่งชาติ ผมขอยกตัวอย่าง สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช เป็นตัวอย่างครับ ที่นั้นเป็นป่าสมบูรณ์ เต็มไปด้วยนักวิจัย และ งานวิจัย แต่ทำไมคนไปเที่ยวได้ ? เขาคุมได้ไงครับ เส้นทางต้องลำบากแบบ ห้วยขาแข้ง หรือเปล่า ? ฟ้ากับดินเลยครับ ที่นั่น ภายในสถานีเป็นทางลาดยางอย่างดี ไม่มีฝุ่น ไม่มีน้ำขัง ทางไม่กระโดกกระเดก รถก็เลยไม่ต้องตะลุย ไม่ต้องเร่งเครื่องมาก เสียงก็ไม่ดัง ป่าเลยสงบ.. ที่นั่นคุมคนเข้าออกได้ครับ ทุกคณะต้องติดต่อล่วงหน้าเสมอถ้าต้องการจะไป ไม่มีการกางเต้นท์ แต่มีอาคารที่จัดไว้ให้ อาหารไม่ต้องทำเพราะจะทำให้เกิดขยะ ให้คุณสั่งร้านสวัสดิการของสถานี แต่เลือกมากไม่ได้นะ เพราะทำไม่กี่อย่าง แล้วทุกคนที่นั่นก็จะต้องกินเช่นนี้ ไล่ลงไปตั้งแต่ หัวหน้าสถานี ไปจนถึง นักท่องเที่ยว และ คนงานตัดหญ้า   คุณจะไปตรงไหนจะมีเจ้าหน้าที่ไปด้วย ตกค่ำกินข้าวเสร็จ ถ้าจะมีกิจกรรมก็เชิญเลย ไปรวมกับกรุ๊ปอื่นเขา ไปดูแมลงกลางคืน จะแค้มป์ไฟ ไปเลย แล้วเข้านอน เช้าเจ้าหน้าที่เขาจะพาไปดูนก   ประมาณอย่างนี้ทำได้ไหม ? สะแกราชเขาทำได้นะครับ ทำไมอุทยานแห่งชาติทำไม่ได้ แล้ว ยังพยายามจะดันให้เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าซึ่งเปราะบางกว่า ทำเหมือนกันอีก ... คนเราจะไปป่า ไปหาธรรมชาติ ตั้งใจให้ดีว่าอยากไปทำไม ? ขบวนมอเตอร์ไซค์คาราวาน เสียงคำราม ไปทำไมเขาใหญ่ ? รถออฟโรดคันสูงโย่ง ทำไมต้องไปถลุงทาง ที่แสลงหลวง ? ฉิ่งฉาบทัวร์ ภายในรถเกลี้ยงเกลา เบาะนั่งสะอาดอ่อง เพราะทุกอย่างทิ้งออกทางหน้าต่าง ระหว่างเดินทางไปถ่ายรูปคู่กับ น้ำตกเหวนรก... ถามว่าบรรยากาศอย่างนี้ อุทยานแห่งชาติชอบไหม ? ก่อนที่จะถามเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าครับ เที่ยวหนะเที่ยวได้ครับ ไม่ว่าป่าไหน แต่เจ้าบ้านต้องพร้อมก่อน ต้องเข้มก่อน ต้องชัดเจนก่อน แล้วคนไปเยือนเขาจะเกรงใจ ตอนนี้ตามอุทยานแห่งชาติ มีทีมงานหนึ่งที่ดูแลเรื่องการทำงานกับนักท่องเที่ยว เรามักเรียกว่าทีมนันทนาการและสื่อความหมายครับ ฝึกคนพวกนี้ให้เข้มๆครับ คนไม่พอ จัดจ้างให้พอ แล้วให้พวกเขาดูแลนักท่องเที่ยว ไอ้ที่ว่าเงินไม่มีผมไม่ค่อยเห็นด้วย ผมว่าคุณจัดการบริหารไม่ดีมากกว่า เงินมันก็เลยไปละลายผิดที่ผิดทาง กับ สิ่งก่อสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งมันไม่ค่อยได้ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจเหตุผลของการไปท่องเที่ยวธรรมชาติเลย ดุจเดียวกัน ถ้าเราต้องการให้เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เปิดกว้างเพื่อทุกคนในสังคม ต้องทำเช่นที่กล่าวมาครับ และ ต้องเข้มข้นกว่าอุทยานแห่งชาติอีกด้วย อุทยานแห่งชาติทำหน้าที่ หย่อนใจให้กับประชาชน ก็จำต้องทำใจรองรับกับสิ่งไม่พึงประสงค์บางอย่างที่เกิดจากความไม่รู้ของนักท่องเที่ยว ฉนั้น เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าต้องทำหน้าที่ตรงข้าม ต้องอุดช่องโหว่ให้อุทยานฯ ให้ได้ โดยการ ติดอาวุธให้สังคม ให้ความรู้แก่สังคม ให้ประชาชนได้เรียนรู้ธรรมชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของป่าเขา ทะเล สัตว์ป่า พรรณไม้ ทำให้ได้ ทุ่มเทเงินทองให้ถูกทาง แล้ว ป่าจะเป็นของทุกคน ถ้าคิดได้อย่างนี้ ทำได้อย่างนี้ ป่าไหนถ้าจะทำให้คนเที่ยวได้ ผมชูสองจักกะแร้เชียร์เต็มที่ครับ.     โดยคุณ พอล น้อยวัน 202.57.160.* [ วันจันทร์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2548 เวลา 13:30 น. ] ความคิดเห็นที่ 1 ดุจเดียวกัน ถ้าเราต้องการให้เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เปิดกว้างเพื่อทุกคนในสังคม ต้องทำเช่นที่กล่าวมาครับ และ ต้องเข้มข้นกว่าอุทยานแห่งชาติอีกด้วย เห็นด้วยกับคุณพอลเต็มที่ สำคัญแต่ว่าคนของอุทยาน เขตรักษาพันธ์เองน่ะสิ ไม่รู้จุดยืนของตัวเอง พอลุกน้องเข้ม หัวหน้าไม่เข้ม ญาติโยมหัวหน้าอีกล่ะ โอละพ่อ เฮ้อ เธอ   โดยคุณ แก๋ง 203.170.132.* [ วันพุธ ที่ 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา 11:46 น. ] ความคิดเห็นที่ 5 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 16:50:53 จากคุณ : i_am_mori - [ 9 พ.ย. 48 16:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ....ไม่เห็นด้วยครับ....เพราะปัจจุบันก็มีอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และอื่นๆจำนวนมาก หลายสิบ หรือเป็น 100 แห่งที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว...รวมทั้งมีความสะดวกในการเดินทาง และสถานที่มาก(อาจสะดวกมากไปด้วยซ้ำ)....เก็บส่วนที่ควรเป็น native ไว้บ้างเถอะครับ... ....ถ้าต้องการให้ร่วมเซ็นชื่อคัดค้าน ติดต่อผมได้เลยครับ... ....ขอนอกเรื่องนิด....ว่ามักใช้งบ(เงินกู้บ้าง งบประมาณแผ่นดินบ้าง ฯลฯ)ไปกับการพัฒนาป่าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจนเกินความพอเหมาะพอควร....ซึ่งนอกจากรบกวนสัตว์ป่า(ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน)เกินไปแล้ว ยังไม่ค่อยเหลียวแลชีวิตความเป็นอยู่ของจนท.ป่าไม้ชั้นผู้น้อยเท่าที่ควร...เช่นที่เขาใหญ่ 3-4 ปีก่อน...กู้เงินเป็น 100 ล้าน สร้างศูนย์อาหารอย่างหรู ค่ายพักเยาวชนใหม่ ใหญ่โตมโหฬทึก(ทั้งที่มีค่ายเดิมอยู่แล้ว) ปรับปรุงถนนอย่างดี ฯลฯ....แต่บ้านจนท.บางส่วนยังโทรมสนิท....ขนาดสลัมเรียกเพื่อนได้เต็มปากเต็มคำ.... ....นายกฤติน สันตืพลวุฒิ 02-987-0285, 02-569-1079 01-551-5225 F.02-987-0286 e-mail : yailooksai@hotmail.com จากคุณ : yailooksai - [ 9 พ.ย. 48 22:25:54 A:202.5.86.245 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 ก่อนจะให้เปิดห้วยขาแข้งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ลองถามท่านนายกซิว่า ลองเปิดบ้านของท่านเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้หรือเปล่า เพราะว่าบ้านนายกราคาแพง 500 กว่าล้านบาท น่าเที่ยวกว่าเยอะ มีของราคาแพง รถหรู ฯลฯ ว่าไหม.. แทนที่จะไปรบกวนสัตว์ป่า ลองรบกวนท่านนายกดูดีกว่า ว่าท่านจะรำคาญไหม ถ้าท่านรำคาญหรือไม่ให้เข้า นั่นก็คือคำตอบของสัตว์ป่าและพันธุ์พืชของห้วยขาแข้งล่ะ จากคุณ : เชอรี่เข้ม - [ 10 พ.ย. 48 09:29:58 A:58.11.71.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่เห็นด้วยเลย เพราะจะไปเป็นการรบกวนธรรมชาติทุกๆ อย่าง มนุษยืมักจะนำพาสิ่งศิวิไลซ์เข้าไป แต่ทำลายธรรมชาติเสมอ จากคุณ : prasanee - [ 10 พ.ย. 48 14:54:40 A:203.113.40.10 X:203.151.140.121 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เมื่อห้วยขาแข็ง...กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 ที่จังหวัดนครสวรรค์ เห็นชอบเรื่อง “การพัฒนาและสร้างสินค้าการท่องเที่ยวที่มีอยู่หลากหลายและมีความโดดเด่นการเป็นมรดกโลกและมีความแตกต่างที่เป็นจุดแข็ง” โดยมีกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง อาทิ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี และพิจิตร เป็นกลุ่มยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนา มติดังกล่าวได้กระชากเอามรดกโลกทางธรรมชาติของชาติและของโลก คือ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข็ง” จ.อุทัยธานี เอาออกมาพัฒนา เพื่อแปรค่าเป็นสินค้าและตัวเงิน ซึ่งเป็นมุมมองในเชิงเศรษฐศาสตร์ล้วนๆ (Benefit better Environment and Natural) ไม่มีมิติทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม มาประกอบการพิจารณาเลย เป็นการสะท้อนให้เห็นความคิดของคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐบาล และลิ่วล้อในระบบราชการในยุคนี้ว่า มองทุกอย่างเป็นสินค้าและเป็นเงินเป็นทองไปหมด สิ่งสำคัญที่จะกลายเป็นผลกระทบตามมา เกี่ยวกับแผนแม่บทในการพัฒนาห้วยขาแข็งให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว คือ มติที่ให้มีกิจกรรมเร่งด่วน โดยการปรับปรุงเส้นทางเข้า เส้นทางเดินดูสัตว์ และการทำแนวป้องกันสัตว์ นอกจากนั้นจะตามมาด้วยการสร้างบ้านพักให้กับนักท่องเที่ยว การสร้างห้องอาบน้ำ ห้องสุขา ร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ แม้จะมุ่งเป้าว่าเป็นสินค้า OTOP ของชาวบ้านในจังหวัดเป็นลำดับความสำคัญต้นๆ แต่ก็ไม่อาจกีดขวางสินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าบริโภคนิยม ที่พร้อมจะกลายเป็นขยะในพื้นที่ได้ทันที หลังใช้งานแล้ว กิจกรรมบางส่วนที่กล่าวมาข้างต้น ต้องกล่าวได้เลยว่ากระทบกระเทือนต่อความเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าแน่นอน ทั้งเสียงเครื่องจักร ยานยนต์ของผู้ปฏิบัติงานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว ที่จะหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอย่างไม่มีข้อจำกัด อันที่จริงแล้วประเทศไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งอุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถาน มรดกโลกอื่นๆที่เป็นสมบัติของชาติ ที่พร้อมที่จะให้รัฐบาลนำไปแปลงเป็นสินค้าหารายได้เข้ากระเป๋าชาวบ้านและรัฐบาล ในยามที่รัฐบาลต้องการเงินไปใช้ในนโยบายประชานิยม โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็มีมากถึง 103 แห่ง ส่วนที่กำลังเตรียมการประกาศก็มีถึง 45 แห่งทั้งบนบกและในทะเล แต่สำหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น จุดประสงค์นั้นมีไว้เพื่อรักษาให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์สำคัญสำหรับสัตว์ป่าหายากและพันธุ์พืชที่ใกล้สูญพันธุ์ เพื่อให้ข้าราชการ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา ได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ลักษณะของป่าและพฤติกรรมของสัตว์ เพื่อการขายพันธุ์หรือเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นในอนาคต พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจึงต้องมีมาตรการที่เข็มงวดในการเข้าไปดำเนินกิจกรรมใดๆไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก โดยเฉพาะการควบคุมความเสี่ยงของการแพร่ขยายเชื้อโรคจากคนสู่สัตว์ป่า และจากสัตว์ป่าสู่คน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ใช่เขตที่จะห้ามไม่ให้ใครเข้าไปได้เลย เพียงแต่ผู้เข้าไปต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และทำตามระเบียบที่ราชการวางไว้อย่างเคร่งครัดหน่อยเท่านั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้าราชการที่เกี่ยวข้องในกระทรวงนี้ จะให้ข้อคิดเห็น ชี้แจง ทำความเข้าใจต่อคณะรัฐมนตรีในที่ประชุมหรือไม่อย่างไร จึงทำให้มตินี้ออกมาค้านความรู้สึกในเชิงวิชาการโดยที่ประชาชนผู้มีจิตใจอนุรักษ์ต่างวิจารณ์กันทั้งแผ่นดินเช่นนี้ แต่พอได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก็พอที่จะอนุมานได้ทันทีว่า พฤติกรรมและคำพูดแสดงออกถึงภาวะระหว่างระบบคุณธรรมกับระบบอุปถัมภ์ และความมีจริยธรรมในเชิงวิชาการ ของผู้บริหารหน่วยงานนี้เป็นเช่นไร โดยเฉพาะจุดยืนในเชิงวิชาการกับการเอื้อตามความต้องการของฝ่ายการเมือง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นมีกฎหมายเฉพาะที่ให้การคุ้มครองไว้ตามกฎหมาย (พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และฉบับไขเพิ่มเติม 2546) มีคณะกรรมการและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติเป็นผู้กำกับดูแล ตามอำนาจหน้าที่ การดำเนินการใดๆคณะกรรมการดังกล่าวต้องพิจารณาและรับผิดชอบ และต้องอธิบายให้ประชาชนทราบและเข้าใจอย่างเปิดเผย ตามหลักการการมีส่วนร่วมของประชาชน (Public Participate) นอกจากนั้นการที่ห้วยขาแข็งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติยอมมีเงื่อนไข ที่จะต้องทรงไว้ซึ่งเงื่อนไขการรักษาให้ยั่งยืนไว้เป็นจำนวนมาก หากกิจกรรมของรัฐตามมติ ครม. ข้างต้นนำมาซึ่งความเสื่อมโทรม เสื่อมสภาพ ก็ย่อมจะถูกถอดถอนมิให้เป็นมรดกโลก ความรับผิดชอบนี้จะอยู่ที่ใคร หากจะเปรียบเทียบความคุ้มค่าในทางเศรษฐศาสตร์ของป่าห้วยขาแข็งในเรื่องของ Marginal Cost -Benefit Ratio ระหว่างการท่องเที่ยว กับความยั่งยืนของธรรมชาติและสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ เช่น ควายป่า วัวแดง เสือโคร่ง นกเงือกคอแดง นกยูง สมเสร็จ ฯลฯ ย่อมจะห่างไกลกันมาก ป่าห้วยขาแข็งไม่ใช่ป่าดิบชื้นที่จะมีพรรณไม้สวยงามมากมายนัก แต่หากแต่เป็นป่าเต็งรัง พื้นดินปนทราย มีความแห้งแล้งสูง ถึงหน้าแล้งต้นไม้ก็จะทิ้งใบหมด จึงมีปัญหาเกิดไฟไหม้ป่าอยู่เนืองๆทุกปี และที่สำคัญสัตว์ป่าในห้วยขาแข็ง ไม่ใช่สัตว์ป่าเหมือนในทุ่งสะวันน่าของแอฟริกา ที่จะออกมาเดินให้ใครชมง่ายๆ เพราะป่าห้วยขาแข็งยังมีต้นไม้อยู่มากแม้จะไม่หนาทึบ แต่โอกาสเห็นสัตว์ง่ายๆ นั้นอย่าฝัน ยกเว้นจะซุ่มดูในพื้นที่ที่เป็นแหล่งอาหารที่เป็นแหล่งดินโป่ง ที่สัตว์ต้องออกมากินแร่ธาตุจากดินในยามกลางคืน ถ้าคิดอยากจะส่งเสริมการดูสัตว์ไปหาดูในสวนสัตว์หรืออุทยานแห่งชาติ ยังพอที่จะหาดูได้ง่ายมากกว่านัก และหากคณะรัฐมนตรีจะอยากพาครอบครัวและชาวบ้านทั่วไปไปเยี่ยมชมห้วยขาแข็ง ในปัจจุบันก็เปิดให้เข้าเยี่ยมชมในจุดที่ปลอดภัยไม่กระทบกระเทือนต่อสัตว์ป่าอยู่แล้วถึง 3 จุดคือ บริเวณสำนักงานเขต ฯ อ.ลานสัก ซึ่งอยู่ทางตอนบนของพื้นที่ หน่วยฯไซเบอร์ อ.ห้วยคต ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของพื้นที่ และหน่วยฯห้วยแม่ดี อ.บ้านไร่ ซึ่งอยู่ทางตอนล่างของพื้นที่ให้เข้าท่องเที่ยวและเยี่ยมชมได้อยู่แล้ว ฝากเตือนและขอร้องคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้โปรดทบทวนมติดังกล่าวเสียใหม่ ประเทศเรามีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพียงแค่ 62 แห่งเท่านั้น ช่วยกันเก็บรักษาไว้ เพื่ออนาคตของลูกหลานเราเถอะ ธรรมชาติอุตส่าห์สร้างมรดกไว้ให้กับเราได้ใช้ประโยชน์ทางอ้อมมาอย่างยาวนาน อย่าคิดหวังแค่เพียงนำมาเป็นสินค้า หาเงินเข้ากระเป๋าเพียงชั่วพักชั่วครู่มันไม่คุ้มกันวิญญาณคุณสืบ นาคะเสถียร ที่อุตส่าห์เสียสละชีวิตรักษาเขตรักษาพันธุ์ฯนี้ไว้เมื่อ 1 กันยา 2533 จะหลับอย่างเป็นสุขได้อย่างไร เมื่อได้ข่าวมติ ครม.เมื่อวันนั้น... โดย ศรีสุวรรณ จรรยา ที่มา http://www.thaingo.org/cgi-bin/content/content2/show.pl?0340 จากคุณ : พญาไฟสีเทา - [ 10 พ.ย. 48 23:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 จะให้โหวตว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยเลย คงบอกไม่ได้ เพราะรายละเอียดของการทำให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้นเรายละเอียดยังน้อยไป แต่พอจะเดาได้ว่า คงแปลงเป็นอุทยานแห่งชาติทั่วไป ตามคห. ๖๗ เราก็เห็นด้วยตรงที่ว่า น่าจะมีข้อตกลงที่ดีก่อน แต่ก็นั้นแหล่ะ ในเมื่อจิตสำนึกคนไทยยังน้อยนักกับเรื่องการอนุรักษ์ มันยากที่จะทำตามข้อตกลง เราเลยทำเป็นข้อห้ามไปเลย ง่ายกว่า่ เราเองเคยเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้งที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จะบอกว่า เขตรักษาพันธุ์ฯ หัวหน้าไม่ดีป่าและสัตว์ป่าก็ฉิบหายได้ ส่วนอุทยานฯ หัวหน้าไม่ดีก็ทำให้ป่าและสัตว์ป่าวอดวายได้พอกัน จะวอนขอรัฐบาล หากต้องใช้ทุนมากขนาดนั้นเพื่อทำให้พื้นที่ป่าบริสุทธิ์ ต้องแปดเปื้อน ก็ต้องทำให้ดี ใช่ว่าแค่อยากให้เศรษฐกิจของจ.อุทัยฯดีขึ้น อย่าทำเหมือนการแก้ไขเฉพาะหน้า แ่ค่ทำให้เศรษฐกิจดี อย่างอื่นกูไม่สนใจ อย่าให้เหมือนเรื่องประกันค่าลำใย เกษตรกรฉิบหายกันถ้วนหน้า ปีที่แล้วราคาดี เพราะรัฐบาลช่วยประกันราคา แต่มาปีนี้ราคาดีหายไปไหนไม่รู้เพราะรัฐบาลก็ไม่รู้จะทำยังไง? จากคุณ : be_life (ก้อนหินริมทาง) - [ 11 พ.ย. 48 07:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ต้องให้ความรู้แก่นักเรียนซึ่งจะเป็นผู้ใหญ่ เป็นประชนรุ่นต่อใหม่มากกว่านี้ในเรื่อง วิทยาศาสตร์ชีวภาพ นิเวศวิทยา และการอนุรักษ์ สำคัญต้องปลูกจิตสำนึก "ไม่เห็นแก่ตัว" ปัญหาคงเบาบางลงบ้าง จะทำอะไรก็คิดดูดีๆ แล้วกัน บางสิ่งบางอย่างมันไม่สามารถตีเป็นราคา เอามาขายกินกันหมด เก็บๆ ไว้บ้างเถอะครับ ใช้ไป 3 ส่วนแล้ว เก็บส่วนนี้ไว้สักส่วนเถอะ.. จากคุณ : naigod (naigod) - [ 11 พ.ย. 48 23:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มรดกโลก มรดกชาติ มรดกคุณ ดูแล ฟื้นฟู ปรับปรุง ไม่ใช่ทำลาย ไม่ใช่ธุรกิจ อีกหน่อยคงขายหุ้นและเปิดเป็น บ.ห้วยขาแข็ง จำกัด (มหาชน) คนบ้าอำนาจต้องคุยกับคนป่าบ้างจะได้เข้าใจกัน และถามเจ้าของป่าด้วยว่าเขาต้องการหรือป่าว เทคโนกับความเจริญมันไม่ทำให้มีความสุขเสมอไปหรอกนะแม้ว........... จากคุณ : คนป่า - [ 12 พ.ย. 48 10:25:57 A:61.47.101.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 รู้เรื่อง ไม่รู้เรื่องก็ว่ากันไป ผมมาว่าแค่ไม่เห็นด้วย จากคุณ : HotDuckZ - [ 13 พ.ย. 48 00:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เคยได้ยินได้ฟังเรื่อง "ตลกร้าย" จากพี่ๆ บางคนบอกว่า..... เขตรักษาพันธุ์ฯ กับ อุทยานแห่งชาติ ต่างกันตรงที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานไหนเข้าไปประกาศใช้พื้นที่นั้นก่อนกัน เขตรักษาพันธุ์ฯ ขึ้นอยู่กับ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ อุทยานแห่งชาติ ขึ้นอยู่กับ สำนักอุทยานแห่งชาติ อุทยานฯ บางแห่งน่าจะเป็นเขตรักษาพันธุ์ฯ เช่น อช.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขตรักษาพันธุ์ฯ บางแห่งน่าจะเป็นอุทยานฯ เช่น เขตฯ อุ้มผาง จ.ตาก สำหรับของต่างประเทศนั้น เท่าที่ทราบ มักจะเป็นหน่วยงานเดียวกัน ไม่แยกกันอย่างของไทย แต่จะมีการกำหนดเขตพื้นที่บริการ การดูแล แตกต่างกัน ซึ่งของไทยดูมันซ้ำซ้อนอย่างไงก็ไม่รู้ครับ ยกตัวอย่างเช่น.... อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่.......บางพื้นที่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องมีขั้นตอนการขออนุญาตอะไรให้วุ่นวาย เช่น น้ำตกเหวสุวัติ น้ำตกเหวนรก แต่บางพื้นที่ ต้องทำหนังสือของอนุญาตอย่างเป็นทางการ แจ้งทั้งจำนวนคนและวัตถุประสงค์ที่จะเข้าไปในพื้นที่นั้น เช่น เขาสามยอด เขตรักษาพันธุ์ฯ เขาสอยดาว จ.จันทบุรี......บางพื้นที่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องมีขั้นตอนการขออนุญาตอะไรให้วุ่นวาย เช่น น้ำตกเขาสอยดาว แต่บางพื้นที่ ต้องทำหนังสือของอนุญาตอย่างเป็นทางการ แจ้งทั้งจำนวนคนและวัตถุประสงค์ที่จะเข้าไปในพื้นที่นั้น เช่น ยอดเขาสอยดาวเหนือ คนไทยเราเรื่องอะไรๆ ก็พอเชื่อถือได้ แต่มักจะบกพร่องเรื่องความมักง่าย และการควบคุมดูแล นี่แหละครับ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องรถไฟฟ้าใต้ดินชนกันนั้นแหละครับ ดังนั้นการจะมีอะไรขึ้นมา จึงมักไม่มั่นใจว่าจะควบคุมดูแลได้ ผมว่าก่อนที่จะมาจัดการเรื่องกิจกรรมต่างๆ ในเขตรักษาพันธุ์ฯ....แนะนำให้ไปควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละอุทยานฯ ให้ได้เสียก่อนดีกว่าครับ เห็นช่วงวันหยุดยาวแต่ละที ตามอุทยานแห่งชาติที่เด่นๆ ดังๆ มีนักท่องเที่ยวล้นเกินกำลังรับของอุทยานฯ ทุกครั้ง น่าจะเอาอย่างอุทยานฯ ในต่างประเทศบางแห่ง ที่กำหนดจำนวนคนแน่นอน ใครจะไปพักค้างคืนบางทีบางช่วงเวลาตั้งจองล่วงหน้ากัน 1-2 ปี แต่ถ้าไปเที่ยวแบบไม่พักค้างคืนที่นั่น ก็อนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้มากสักหน่อย และเจ้าหน้าที่ของเขาจะเข้มงวดมาก ต่างจากของเรา แถมนักท่องเที่ยวบางคนบางกลุ่มก็ไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ไม่ให้ส่งเสียงดังหลังเวลา 22.00 น. ยังไม่เชื่อฟังกัน หรือทำกันไม่ได้เลยครับ และบางแห่ง บางช่วงเวลามีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักแรมเป็นร้อยๆ คน แต่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลแค่ 2-3 คน เท่านั้นเอง ผมว่าเรามารณรงค์ หรือมาดูแลเรื่องนี้กันก่อนดีกว่าไหมครับ ทั้งเรื่อง... - การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ให้พอเหมาะกับการรองรับของอุทยานนั้นๆ - การปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยว ตามกฎกติกามารยาทของอุทยานฯ - ความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และความเหมาะสมของจำนวนเจ้าหน้าที่ในการควบคุมดูแลนักท่องเที่ยว จากคุณ : ระมาด - [ 13 พ.ย. 48 03:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคับ..ถามว่ามันมีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องเปิดให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว..สัตว์ป่ามันก็ต้องการอยู่ของมันตามธรรมชาติอยู่แล้ว..โดยธรรมชาติของมันย่อมไม่ต้องการให้มนุษย์เข้าไปแทรกแซงอยู่แล้วคงไม่มีสัตว์ป่าตัวไหนอยากจะอวดโฉมตัวเองมีคนมาดูเยอะๆแล้วมีความสุข..ตรงกันข้ามครับกลับจะทำให้มันหวาดผวาไม่กล้าเข้ามาในพื้นที่แห่งนั้นอีกซึ่งยิ่งทำให้เป็นการลดบริเวณหรืออาณาเขตที่อยู่อาศัยที่หากินของสัตว์ป่าให้น้อยลงกว่าเดิมอีก..เราต้องยอมรับนะครับว่าปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเราพวกเรา(มนุษย์)เป็นผู้ใช้ประโยชน์ทั้งเป็นที่อยู่อาศัยและทำมาหากิน..แต่สำหรับสัตว์ป่าแล้วเท่าที่เห็นก็จะมีแต่ห้วยขาแข้งและทุ่งใหญ่นเรศวรเท่านั้นที่สัตว์ป่าสามารถอยู่อาศัยได้ตามธรรมชาติ..ถ้าเทียบกับพื้นที่ของประเทศเรานั้นถือว่าเล็กมากๆ........ ดังนั้นมันสมควรแล้วหรือที่เราจะเข้าไปแทรกแซงความเป็นอยู่ของเขา..ผมไม่เห็นด้วยกับการเปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งหรือที่อื่นๆให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว จากคุณ : Magician - [ 13 พ.ย. 48 07:28:52 A:10.1.9.202 X:202.44.8.98 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะผมเห็นมาหลายโครงการแล้วว่ารัฐบาลนี้ชอบทำอะไรลวกๆ ฉาบฉวย ผมไม่เชื่อว่าพอเปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วจะดูแลไม่ให้มีผลกับระบบนิเวศได้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ใช่เรื่องจะมาทำอะไรซี้ซั้วเพียงเพราะลมปากใครบางคน เก็บป่าไว้ให้ลูกหลานเราบ้างเถอะครับ จากคุณ : sedna - [ 13 พ.ย. 48 12:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตามาจากBloggangค่ะ ขอยกมือด้วยคน ไม่เห็นด้วยอย่างมากค่ะ จากคุณ : lisalee - [ 13 พ.ย. 48 14:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ปล. เห็นบางท่านโหวตว่าเห็นด้วยที่จะให้เปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อการท่องเที่ยว... รบกวนกรุณาขอความคิดเห็นสักนิดหนึ่งครับ...ว่าทำไม??? คือไม่ได้มีอะไรมาก.... เพียงแต่อยากได้ความเห็น และทัศนะในแง่มุมอื่นๆ บ้าง นะครับ จากคุณ : พญาไฟสีเทา - [ 13 พ.ย. 48 15:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มันกะจะกินทุกวงการเลยใช่ไหมเนี้ย........ จากคุณ : GF - [ 14 พ.ย. 48 01:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เอ..โปรโมชั่นใหม่อีกแล้วสิเนี่ย...โทรทุกที่ทั่วไปแม้ในป่าห้วยขาแข้ง...อยดูไปเรื่อยๆครับ โปรโมชั่นใหม่จะตามมา ตอนนี้แค่เพียงสำรวจตลาด ดูเมื่อครั้งตอน จะซื้อหุ้นหงส์แดงสิครับ คำพูดสั่วๆ แค่ไม่กี่คำก็สามารถทำให้โด่งดังไปทั่วโลก โดยไม่ต้องลงทุน(เป็นวิธีการที่ผู้นำระดับโลกเขานิยมใช้กัน..นี่คงเลียนแบบเขามา)เพราะในโลกไร้พรมแดน ความดังไม่จำเป็นต้องดีก็ได้ แค่ปากพล่อยปล่อยข่าว ก็ดังได้แล้ว โปรโมรชั่นนี้ออกมาสำหรับ Ngos สายอนุรักษ์โดยเฉพาะ(ถึงเวลาระดมทุนจากไอ้พวกหน้าโง่นี่บ้างแล้ว)ประเด็นยิ่งร้อน ก็ต้องยิ่ง say hello ยิ่งเคลื่อนไหวขยายวงกว้าง เรทติ้งโทรนานก็ยิ่งสุดคุ้ม ha-ha เห็นไหม..เปิดศึกทั้งทีมีแต่กำไร...เอ..แต่ว่า ไม่รู้ว่า ฯพณฯท่าน ส่งฝ่ายช่างไปสำรวจสถานที่ตั้งเสาสัญญาน AIS หรือยังครับ...ถ้ายังแนะนำว่า น่าจะเป็นที่เขานางรำ...ลูกค้าเยอะครับ ทั้ง ช้าง กระทิง สมเสร็จ สารพัดเสือ ฯลฯ เอาแบบที่เขาใหญ่น่ะครับ สัญญาน AIS ชัดแจ๋วครับ ขนาดเดินเขาไปในป่ายังโทรคุยกับกิ๊ก ได้เหมือนมีหล่อนแอบกระซิบอยู่ใกล้ๆข้างหู เคยเลียบๆเคียงๆถามคนใน ว่าทำไมในเขตอุทยานแห่งชาติถึงอนุญาตให้ตั้งเสาสัญญานโทรศัพท์มือถือได้ เขาก็ตอบว่า อ๋อ...เป็นนโยบายไงครับ ก่อนหน้านี้ก็ชัดทุกอำเภอมาแล้ว ตอนนี้ก็เลยขอชัดทุกป่าบ้าง เป็นนโยบายช่วยเหลือสังคมครับ... ป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวหลงป่าไงครับ...ha..ha...ha สมองห-า จริงๆ จากคุณ : buffalo bill - [ 14 พ.ย. 48 13:40:38 A:203.157.29.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่เห็นด้วย เพราะทุกวันนี้เราทุกคนก็เบียดเบียนสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้มากเกินพอแล้ว จากคุณ : Supak L. - [ 14 พ.ย. 48 16:38:51 A:203.172.59.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่เห็นด้วยอย่างแรง จากคุณ : เหยี่ยวทะเลทราย - [ 15 พ.ย. 48 10:42:27 A:203.156.68.153 X: TicketID:107439 ]

ความคิดเห็นที่ 88 นายกคนนนี้ เค้าเป็นอะไรไปเนี่ย จากคุณ : Paphmania - [ 15 พ.ย. 48 12:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่เห็นด้วยเลยค่ะ จากคุณ : เด็กน้อย - [ 17 พ.ย. 48 18:16:58 A:158.108.12.153 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ขนาดปิดอย่างนี้ ยังลักลอบเข้าไปได้ ถ้าเปิด สัตว์ป่าคงจะเหลือแต่ชื่อและภาพถ่าย คนไทยส่วนมาก โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ ยังไม่มีจิตสำนึกว่าสัตว์ป่า ต้นไม้ก็มีชีวิตจิตใจ เขาอยากพูดแต่เขาพูดไม่ได้ ทำไมไม่เห็นใจเขาบ้าง เอาแต่ประโยชน์เข้าตัว ทุกวันนี้ที่โลกมันเกิดภัยพิบัติ น้ำท่วม ฝนแล้ง ไม่ใช่เกิดจากตนเห็นแก่ตัวไม่กี่กลุ่ม ที่ลักลอบทำลายธรรมชาติหลอกหรือ หัดคิดถึงผลกระทบกับชาวบ้านตาดำๆ ที่เขาไม่มีเงินแสวงหาความสุขสบายเหมือนพวกมีอำนาจ มีเงิน เคยได้มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง อยู่แบบธรรมชาติ ไม่เข้าไปรบกวน เป็นอาสาสมัครสิ่งแวดล้อม ได้ลงไปอยู่กับธรรมชาติเป็นเดือนๆ เรารู้ว่าเขาบอบบางเพียงใด ขนาดว่าเราไปแบบไม่ให้ธรรมชาติเดือดร้อน ยังมีความรู้สึกว่า เราทำให้ธรรมชาติเขาโทรมหรือเปล่า แต่เราก็ทำดีที่สุดที่จะไม่ไปรบกวนเขามาก เราก็ได้เห็นสัตว์ป่าจริงๆ เห็นชะนีบนยอดไม้สูง เห็นนกนานาชนิด ได้ยินเสียงช้างป่าตามธรรมชาติเขาร้องเรียกหากันดังสนันป่า มันรู้สึกว่า เขามีความสุขที่ได้อยู่อย่างนั้น เราอย่าเข้าไปรบกวนเขาเลย อย่าเปิป่าห้วยขาแข้งเลย อนุรักษ์ไว้ให้สมกับการจากไปของพี่สืบด้วยเถอะ... จากคุณ : soda - [ 18 พ.ย. 48 08:29:29 A:202.142.201.131 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 เขตรักษาพันธุสัตว์ป่า ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวนะครับ ถ้าอ้างว่าเราจะจัดการอย่างโน้น ควบคุมอย่างนี้ ฯลฯ งั้นทำให้บ้านส่วนตัวของนาย ก. เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการกั้นทางเดินไม่ให้คนมือบอนเข้าไปแตะของในบ้าน มีการจัดการให้นาย ก. ให้นั่งโชว์อยู่กับที่ ไม่เดินไปไหน . เอาไหมครับ ? . ผมว่าเอางบตรงนี้ไปเพิ่มสวัสดิการ เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ หรือออกกฎควบคุมพวก 4x4 ที่เข้าไปรบกวนพื้นที่ดีกว่า จากคุณ : Conservative Progressive - [ 19 พ.ย. 48 01:26:42 A:58.64.126.107 X: TicketID:005384 ]