ความคิดเห็นที่ 1 พี่นวล เลือกโปรแกรมนี้ครับ ซึ่งเดิมเคยคุยกันไว้ว่า จะไปค้างคืน และ ชวนเพื่อนๆ ที่เคยนัดกันไปด้วย แต่เพราะเพิ่งกลับจาก เที่ยวลาวใต้มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และ จะพาคุณแม่ ของเราไปเที่ยวด้วย เลยเปลี่ยนโปรแกรมเป็นเที่ยววันเดียว ยังไงต้องขอโทษเพื่อนๆ ที่น่ารัก ไว้ ณ ที่นี้อีกทีนะครับ นึกขึ้นมาที่ไร รู้สึกผิดยังไงไม่รู้ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:38:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรานัดเจอกัน 8.30 น. ที่นี้ครับ ปั๊ม TPI ลงทางด่วนพระราม 2 ปั๊มแรก แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 23:40:06 จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มากันตรงเวลาดีมาก ตอนแรกนัดกันว่าจะทานอาหารเช้าร้านนี้ครับ เพราะเพื่อนๆ เคยแนะนำไว้ว่าอร่อย ให้ลองไปกินดู แต่เสียดายตอนมาถึง ร้านยังไม่เปิดเลยครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 23:42:39 จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เลยต้องเปลี่ยนแผน มาร้านนี้แทน จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อาหารเช้าของเราวันนี้ครับ แต่ไม่ทุกคนนะครับ บางคนก็หาของทาน จากร้าน มินิมาร์ทในปั๊ม แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 23:45:07 จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็เริ่มเดินทาง เป้าหมายแรก วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ลองอ่านรายละเอียดประวัติของวัดได้ที่นี้ครับ http://www.chonglom.com/ จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวสมุทรสาคร ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร การเดินทางมาวัด ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) จากตัวเมืองมหาชัยไปทางสมุทรสาคร เลยสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนไป ประมาณ 200 เมตร สังเกตซ้ายมือมีปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งเป็นปั๊มขนาดใหญ่ เลี้ยวซ้ายผ่านปั๊มน้ำมันเข้าไปยังสุขาภิบาลท่าฉลอม ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดช่องลม จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วัดช่องลม หรือวัดสุทธิวาตวราราม ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย มีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม มีลมทะเลตลอดทั้งวัน จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ภายใน บริเวณวัดยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่ จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วิหารหลวงปู่แก้วครับ อยู่ข้างโบสถ์ใหญ่ จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ด้านหน้าวิหาร จากคุณ : AUN_SAP - [ 12 พ.ย. 48 23:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หลวงปู่แก้วอดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวมหาชัย เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จึงได้นำสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงทองอย่างสวยงาม พร้อมทั้งหล่อรูปเหมือนของท่านในท่านั่งสมาธิ ประดิษฐานไว้ภายในวิหาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ากราบนมัสการ   และระลึกถึงคุณความดีที่ท่านทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิต จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ในวิหารหลวงปู่แก้ว มีนกแอ่นกินรังอาศัยอยู่นับพันตัว จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดูกันใกล้ๆ สีดำๆ นั้นนกนะครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพนี้จะเห็นรัง ชัดหน่อยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รังนกที่เก็บลงมา ให้ชมกัน จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นอ่างเล็กวางอยู่มุมห้อง เลยลองเข้าไปดูใก้ลๆ อ้อ อาหารนกครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีวิหาร หรือ โบสถ์ กี่แห่งในประเทศไทย ที่มีนกแอ่น มาอาศัยทำรังอยู่ ผมว่าแปลกนะครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณ ข้อมูลจาก Web http://www.samutsakhon.go.th/mis/tour/tour7.htm ไว้ ณ ที่นี้ครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 00:09:55 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากนมัสการ หลวงปู่แก้ว และชมนกแอ่นกันแล้ว เราเดินทางต่อไปยังด้านหลังโบสถ์ ข้ามถนนไปอีกด้าน จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เดินเลยมาไม่ไกล จะเห็น องค์เจ้าแม่กวนอิม เด่นเป็นสง่าอยู่ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม อยู่ตรงข้ามวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ตั้งอยู่ในเขตตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง สมุทรสาคร พระโพธิสัตว์กวนอิม ชาวสมุทรสาครสร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ ๕๐ ปี จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โคมไฟภายใน เห็นสวยดี เลยเก็บภาพมาฝากครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พระโพธิ์สัตว์กวนอิม ประสูติวันที่ ๑๙ เดือนยี่จีน เป็นเทพธิดาที่จุติมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาช่วยปลดเปลื้องทุกข์ภัยแก่มวลมนุษย์ เป็นราชธิดาองค์ที่สามของกษัตริย์เมี่ยวจวง ชื่อ เมี่ยวซ่าน ทรงเป็นพุทธมามกะแต่เยาว์วัย มีความรู้แจ้งในหลักพุทธธรรมอย่างลึกซึ้ง ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะบำเพ็ญภาวนา เพื่อความหลุดพ้นจากสังสารวัฏ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านรายละเอียดประวัติได้จาก Web http://www.tourthai.com/gallery/ancient/pic13207.shtml ต้องขอขอบคุณข้อมูลต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ครับ เราเข้าไปดูภายในฐาน องค์พระโพธิ์สัตว์กวนอิมกันเลยนะครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีเทพ อยู่หลายองค์ เลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นมัสการเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เพื่อความเจริญก้าวหน้า จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วเราก็อำลา วัดช่องลม และ อุทยานพระโพธิ์สัตว์กวนอิม ก่อนจากเก็บภาพหมู่ไว้เป็นที่ระลึกสะหน่อยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ระหว่างทางผ่านวัดหลังศาลประสิทธิ์ วัดสวยอีกแห่งของเมืองมหาชัย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แต่ด้วยแสงแดดที่ร้อน ทำให้พรรคพวก ลงความเห็นว่า ไม่ลงรถครับ ขอไหว้พระและเก็บภาพ จากบนรถครับผม จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พระองค์นี้ สวยและ ใหญ่มากๆ เห็นกันแต่ไกลเลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วเราก็เดินทางต่อไปยัง สมุทรสาคร ระหว่างทางเจอ TOYOTA INNOVA ทำเป็น TAXI แล้วครับ   ดูท่าทางการวิ่งแล้วแรงดีไม่เบาเลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วเราก็แวะ วัดศรัทธาธรรม หรือวัดมอญ จังหวัดสมุทรสงคราม การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ถึงจังหวัดสมุทรสงครามตรงไป ทางจังหวัดเพชรบุรี (ไม่เข้าตัวเมือง) ตรงไปอีกประมาณ 2 กม. ก่อนข้ามสะพานสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เลี้ยวซ้ายตรงที่กลับรถ เลยไปประมาณ 200 เมตร มีถนนแยกเล็ก ๆ ให้เลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปอีกประมาณ 1 กม วัดอยู่ทางขวามือ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 01:39:18 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 01:38:31 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นวัดที่มีอุโบสถสร้างด้วยไม้สักทองฝังมุกแท้แห่งเดียว ในสยาม จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ชมลวดลายกันใกล้ๆ เลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วัดศรัทธาธรรมสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2341 ด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา   ของชาวมอญประมาณ 12 ครอบครัวที่หนีสงครามกลางเมืองในพม่าเข้ามาพึ่งความร่มเย็นบนผืนแผ่นดินไทย แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 01:31:30 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 00:57:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 วัดศรัทธาธรรม เลยเป็นศูนย์รวมจิตใจ และศูนย์กลางการพัฒนาทั้งทางด้านการศึกษาและสังคม ของชุมชนชาวมอญ ณ ตำบลบางจะเกร็ง จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พระพุทธชินราช องค์จำลอง เป็นองค์พระประธาน จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:03:51 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ภายในอุโบสถ ประดิษฐ์ด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังฝังมุก แสดงเรื่องราวพุทธประวัติและภาพด้านล่างคือ ภาพวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ พระประธานคือพระพุทธชินราชหน้าตักกว้าง 61 นิ้ว ด้านหลังพระประธาน คือภาพพระประจำวันเกิด ภาพเพดานอุโบสถปิดทองลายไทย งบประมาณในการก่อสร้างเกือบหนึ่งร้อยล้านบาท จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ข้อมูลจาก http://www.maeklongtoday.com/tour/watsatthatum.htm ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ด้านหน้าโบสถ์ มี ช้าง ให้ยกเสี่ยงทายด้วยนะครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนกลับแวะซื้อของฝากสักหน่อย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ในบริเวณวัด จะมีขนมของชาวมอญ "กาละแม" จัดจำหน่าย โดยกลุ่มแม่บ้านในละแวกวัดรวมตัวกันผลิตขึ้น เพื่อนำรายได้มาเป็นสวัสดิการแก่สมาชิก ซึ่งมีความอร่อยเพราะผลิตจากสูตรดั้งเดิม จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถุงขายกันครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขนมจากก็มีนะครับ ปิ้งขายกันสดๆ ร้อนๆ จ้า! จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ออกจากวัดมาก็ประมาณ 11.00 น. หาข้าวเที่ยง ทานกันดีกว่า ร้านคุณเป๋า ดอนหอยหลอด จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ร้านที่เพื่อนสมาชิกพันทิป เคยแนะนำไว้ เลยมาลองดูครับ บรรยากาศร้าน OK เลย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 47 หน้าร้านแต่งร้านด้วยต้นไม้ สวยดีครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มีน้ำตกจำลองด้วย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราเลือกนั่งโต๊ะ ใกล้ริมทะเล จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อาหารยอดฮิตของที่นี่คือ ปลาทูซาเตี๊ย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อาหารอร่อยเกือบทุกอย่างครับ แต่เสียดายไม่ได้เก็บภาพมาฝาก เก็บได้แต่ภาพใบเสร็จรับเงินมาฝาก เพราะมัวแต่รับประทาน รายการอาหารมื้อนี้ หอยหลอดผัดฉ่า ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ ปลาทูซาเตี้ยะ ปลาหมึกนึ่งมะนาว ปลากระพงสามรส ต้มยำกุ้ง ทอดมันปลากราย ทอดมันกุ้ง กุ้งอบวุ้นเส้น ข้าวเปล่า 3 โถ   น้ำ + น้ำแข็ง รวม 1,410.00 บาท ผมว่าราคาก็สมเหตุสมผลนะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 01:54:43 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็นั่งพักบริเวณหน้าร้าน ก่อนเดินทางต่อ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 แผนที่แหล่งท่องเที่ยว ที่วางอยู่หน้าร้าน จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ต้มไม้สวยๆ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ดอกไม้งามๆ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เดินทางกันต่อเลยดีกว่าครับ มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองแม่กลอง หรือชื่อทางการ จังหวัดสมุทรสงครามครับผม จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 01:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เราถึงตัวเมืองแม่กลองประมาณ 13.30 น. จุดหมายแรกที่ไป สถานีรถไฟแม่กลองครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 09:35:44 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถึงแล้วครับ สถานีแม่กลอง จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:37:46 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ห้องจำหน่ายตั๋วรถไฟ ดูย้อยยุคดีนะครับ อนุรักษ์ของเก่าไว้ได้ดีทีเดียว จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:39:01 ]

ความคิดเห็นที่ 60 บรรยากาศสถานี จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เป้าหมายของเราไม่ได้มาดูสถานีแม่กลองหรอกครับ   แต่เรามาดูนี้เลยตลาดหุบร่ม ที่ออกรายการทีวี แต่ที่เห็นกันบ่อยๆ น่าจะเป็นตลาดที่มหาชัยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ดูจากตารางเดินรถ และ ถามพ่อค้าแถวนั้น   ได้ความว่า รถไฟเที่ยวต่อไป จะเข้ามาประมาณ 14.30 น.   แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 09:43:24 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เวลายังเหลืออีกเยอะ เราจึงเปลี่ยนโปรแกรม   ไปวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ก่อน โดยใช้เส้นทางลัด   ด้านหลังสถานีรถไฟ เดินไม่ไกลก็ถึงวัดครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 64 วัดเพชรสมุทรวรวิหาร เดิมชื่อ "วัดศรีจำปา" สร้างขึ้นในราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา   ตามตำนานเล่าว่า ในปี พ.ศ.2307 ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรี อพยพหนีพม่ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณตำบลแม่กลองเหนือวัดศรีจำปา และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านแหลม"   ตามชื่อหมู่บ้านเดิมของตน ชาวบ้านแหลมได้ช่วยกันบูรณะวัดศรีจำปาและเรียกวัดนี้ใหม่ว่า "วัดบ้านแหลม" ต่อมาวัดบ้านแหลมได้ยกฐานะขึ้นเป็นอารามหลวงชั้นวรวิหาร ได้รับพระราชทานนามว่า "วัดเพชรสมุทรวรวิหาร"   แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 09:50:06 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 09:49:13 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ด้านหน้าทางเข้าวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อบ้านแหลม" จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 66 วันที่เดินทางไป คนเยอะครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เข้าไปด้านในกันดีกว่า จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 09:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 พลวงพ่อบ้านแหลม พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพเลื่อมใสของคนทั่วไป เป็นพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริง (ในภาพจะเป็นองค์ทางด้านขวาสุดนะครับ) สูงประมาณ 167 เซนติเมตร ตามตำนานเล่าว่า ชาวประมงบ้านแหลมออกไปลากอวนในอ่าวแม่กลอง ได้พระพุทธรูปติดมา 2 องค์   องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง อีกองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปยืน พระพุทธรูปนั่งได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี ส่วนพระพุทธรูปยืนนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม เรียกกันว่า "หลวงพ่อบ้านแหลม" ตอนที่ชาวประมงพบในอ่าวแม่กลองบาตรนั้นสูญหายไปในทะเล สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ที่ได้เคยเสด็จมานมัสการ ได้ถวายบาตรแก้วสีน้ำเงินถวายหลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพุทธบูชา และยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธาหลวงพ่อบ้านแหลม จึงพระราชทานผ้าดิ้นทองแก่หลวงพ่อจำนวนสองผืน แต่ละผืนมีขนาดหน้ากว้าง 6 นิ้ว ยาวประมาณ 10 ฟุต ปัจจุบันทางวัดได้จัดแสดงไว้ในพระอุโบสถที่ประดิษฐานหลวงพ่อบ้านแหลม ในวันสำคัญ เช่น วัดสงกรานต์ วันทอดกฐินพระราชทาน จะนำผ้าดิ้นทองพระราชทานมาประดับองค์หลวงพ่อบ้านแหลมด้วย "หลวงพ่อบ้านแหลม" เป็นที่เคารพบูชาในหมู่พุทธศานิกชนโดยทั่วไป ในแต่ละวันจะมีผู้ศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศมากราบนมัสการอย่างเนืองแน่น   มีการเปรียบเปรยว่า หากใครไปเมืองสมุทรสงคราม ไม่ได้ไปนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลมก็เสมือนไม่ได้ไปเมืองสมุทรสงคราม ใครพูดถึงเมืองสมุทรสงคราม ไม่กล่าวถึงนามหลวงพ่อบ้านแหลมก็เสมือนไม่รู้จักสมุทรสงคราม   คนสมุทรสงครามคนใดไม่เคยเห็นหลวงพ่อบ้านแหลม ก็เปรียบเสมือนลูกกำพร้าไม่เคยเห็นหน้าพ่อ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 10:09:52 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 10:09:18 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอโทษครับที่ไม่มีภาพชัดๆ ให้ชมกัน ยังไงเข้าไปชมภาพและข้อมูลได้ที่นี้ครับ http://www.maeklongtoday.com/tour/watphechsamut.htm ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ครับผม ทริปนี้ยืมข้อมูลจาก Web ต่างๆ มาเยอะมากครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 70 บรรยากาศด้านนอก มีคณะละครแก้บน คล้ายวัดหลวงพ่อโสธร เลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ร้านค้าขายของฝากด้านนอกครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 72 พันธุ์มะพร้าวกะทิ ก็มีขายครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 73 หมากฝรั่งย้อนยุค ทำให้คิดถึงสมัยเด็กๆ ยังมีขายจนถึงวันนี้ หลายสิบปีแล้วครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สองโมงกว่าแล้ว ใกล้เวลารถไฟ จะเข้าสถานี เราจึงเดินกลับไปยังสถานีแม่กลอง ระหว่างทางเห็นดอกไม้สวยๆ เลยเก็บภาพมาฝาก จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อีกภาพครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ใกล้ 14.30 น.แล้ว แต่ร้านค้าก็ยังขายของกันตามปกติ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ร้านนี้ ขายบนรางรถไฟเลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 10:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ได้เวลา 14.30 น.แล้ว รถไฟกำลังจะเข้าสถานี เจ้าหน้าที่การรถไฟ มารอกั้นถนนแล้ว จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 79 รอกันอยู่นานมากเลยครับ วันนี้จังหวะไม่ดีรถไฟเสียเวลา   กว่าจะเข้าสถานีเกือบ 15.00 น.ครับ รอจนเมื่อยเลย พ่อค่าแม่ค้า ทะยอยเก็บร่มกันแล้วครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เหล็กกั้นถนน ลงมาแล้ว มาแน่นอน จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เตรียมตัวเลยครับ ได้ยินเสียงรถไฟแล้ว จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นหัวรถไฟแต่ไกลแล้วครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ถึงแล้ว แต่น่าแปลกใจ แม่ค้า พ่อค้า เก็บแต่ร่ม แต่ของที่วางติดรางรถไฟ ไม่เก็บกันเลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 84 รถไฟผ่านไปด้วยดี ของที่วางกับพื้นติดรางรถไฟก็ไม่เสียดาย   มองใกล้ๆ ถึงรู้ว่า ล้อเหล็กรถไฟ จะอยู่แค่ด้านบน กับด้านในราง ส่วนด้านนอกราง ไม่มีขอบเหล็กครับ เลยไม่ทับของที่วางอยู่ ติดราง จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 11:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ออกจากสถานีแม่กลอง ไปต่อกันเลยครับ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 12:23:41 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ชมโบสถ์คริสต์ ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ลวดลายสวยงามมากครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ลวดลายบานประตู แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 12:25:15 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 89 วัดแห่งนี้ตามประวัติ น่าจะสร้างเมื่อปี พ.ศ.2393 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 12:27:02 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 90 โดยในปี พ.ศ.2433 คุณพ่อเปาโลซัลมอน หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า "คุณพ่อเป่า"   ได้เริ่มลงมือสร้างวัดหลังนี้ให้เป็นรูปร่างขึ้นมา โดยได้รับทุนสนับสนุนจากญาติพี่น้องของท่านในฝรั่งเศส จากคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส จากกรุงโรม และผู้ใจบุญ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 12:34:46 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โดยสร้างไปหาทุนสนับสนุนไป จนแล้วเสร็จ ทำพิธีเสก และเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2439 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อาสนวิหารนี้ เป็นศิลปะแบบโกธิค จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:38:44 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สร้างด้วยอิฐเผาผนัง ฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยใสสีดำ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ประดับด้วยกระจกสี ที่สวยงามจากประเทศฝรั่งเศส จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ไม่มี update  ต่อหรือค่ะรอค่ะ จากคุณ : น้องชวน(ป๋วย) - [ 13 พ.ย. 48 12:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 96 กระจกสีสวย เป็นเรื่องเล่าของพระนางมารีพรหมจารีย์จากพระคัมภีร์ และภาพของบรรดานักบุญชายหญิง จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ครั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 มีบางส่วนของวัด และภาพกระจกสีได้รับความกระทบกระเทือนเสียหาย ดังนั้นคุณพ่อเจ้าอาวาสจึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมเรื่อยมา จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ในปี พ.ศ.2537 สังฆมณฑลราชบุรี ได้ทำการบูรณะวัดครั้งใหญ่เพื่อเตรียมฉลองครบ 100 ปี ในปี 2539   ภาพถ่ายที่ลงในกระทู้จะไม่สวยเท่าไรนะครับ ยังไงต้องมาชมด้วยตาตนเอง จะรู้เลยว่าสวยมากๆๆๆๆๆๆ   แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 12:52:15 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 99 จึงทำให้อาสนวิหารแห่งนี้ สวยและเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ขอขอบคุณ ข้อมูลจากเอกสาร ที่ได้รับจากทางอาสนวิหารแม่พระบังเกิดครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 12:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณ คุณน้องชวน(ป๋วย) ครับที่ติดตาม ยังไงรอหน่อยนะครับ เครื่องที่ใช้อยู่มันช้าครับผม ไปต่อกันเลยแล้วกัน ที่นี้เลย ค่ายบางกุ้ง ตำบลบางกุ้ง  อำเภอบางคนที เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ค่ายบางกุ้ง เรียกว่า "ค่ายบางกุง้" โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร ภายหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ร้างไป จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานี จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี รวบรวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่าย จึงมีชื่อเรียกอีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง" ในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่าทำให้ข้าศึกแตกพ่าย หลังจากนั้นค่ายบางกุ้งแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี จนมาถึง พ.ศ.2510 กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ตั้งเป็นค่ายลูกเสือขึ้น (ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว) และได้สร้างศาลพระเจ้าตากสินไว้เป็นอนุสรณ์ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:04:49 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี   จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง มองจากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน อยู่บริเวณค่ายบางกุ้ง แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:11:38 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 102 รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้ความขรึมขลังอีกด้วย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี) จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 104 และเรียกโบสถ์ว่า "โบสถ์ปรกโพธิ์" จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 105 โบสถ์ในต้นไม้ หนึ่งใน Unseen in Thailand จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 106 การเดินทางมาค่ายบางกุ้ง จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. เลยวัดบางกะพ้อม (ยังไม่ถึงตลาดอัมพวา) ให้สังเกตทางแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง(สะพานสมเด็จพระศรีสุริเยนทร์)   ตรงไปถึง ถึงสามแยกเลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดภุมรินทร์ จนถึงสามแยก (มีวัดบางแคใหญ่อยู่ขวามือ)   เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดบางแคน้อย วัดปากน้ำ ข้ามสะพานคลองแควอ้อม สังเกตค่ายบางกุ้งอยู่ซ้ายมือ จะเห็นแนวกำแพงของค่าย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ข้อมูลจาก Web http://www.maeklongtoday.com/tour/bangkung%20camp.htm ขอขอบคุณครับ มุม Unseen in Thailand จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ก่อนจะอำลา โบสถ์ปรกโพธิ์ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ลืมแนบรูป จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เราข้ามไปยัง วัดบางกุ้ง จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ไปชมวังมัจฉา จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ยื่นดูอยู่สักครู่ใหญ่ๆ ไม่เห็นมีปลาเลยครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ชมวิวแทนแล้วกันเน้อ สงสัยมาผิดเวลาครับ ปลาไม่ขึ้นเลย จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ใกล้หกโมงแล้ว เราเลยตรงไปยังตลาดน้ำยามเย็น เราจอดรถแถวอุทยาน ร.2 เสียดายเวลามีน้อย เลยไม่ได้แวะ   แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:25:17 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น" แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:30:18 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:30:10 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ตลาดน้ำยามเย็น จะมีทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:33:16 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 119 อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มีขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขนมปัง จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 121 นักท่องเที่ยว มามากพอควร แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:38:27 จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขนมปังห่อไส้กรอกทอด จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ของที่ขายบนบก จะเยอะกว่าที่ขายบนเรือในน้ำครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ร้านขายภาพที่ระลึก จัดร้านน่ารักดี จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 125 OTOP ก็มีครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 126 สำนักงานเทศบาลตำบลอัมพวา จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ดูสวยแบบเก่า Classic สวยดีเน้อ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ผลไม้ก็มีขายครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เดินซื้อขนม ชมตลาดได้สักพัก เราก็ต้องหาอาหารทานกันแล้ว เพราะใกล้เวลาลงเรือชมหิ่งห้อย เราลงเอย ที่ร้านบะหมี่ครับ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เส้นหมี่ลูกชิ้น จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 131 กระเพาะปลา ทุกอย่าง 15 บาท รสชาดอร่อย อีกด้วยครับ อร่อยและถูก หาไม่ได้ในกรุงเทพแล้วเน้อ จากคุณ : AUN_SAP - [ 13 พ.ย. 48 13:49:13 ]