ความคิดเห็นที่ 2
เพราะมี TTL โลกนี้จึงยิ่งน่าอยู่มากขึ้นไปอีก
ถ้าคิดว่าแฟลชออโต้ดีเยี่ยมแล้ว อย่างนั้นแฟลชทีทีแอล คือสิ่งที่สวรรค์ประทานมาให้ช่างภาพโดยแท้
ใช้ช่องรับแสงได้ทุกค่า ตามแต่ใจจะปรารถนา (และมีปัญญาซื้อเลนส์) อำนวยความสะดวกให้เราควบคุมความชัดลึกได้อย่างเต็มที่ (กว่าเดิมนิดนึง)
แต่อย่าฝันเฟื่องมาก เพราะระยะแฟลช แปรตามช่องรับแสง ยิ่งช่องรับแสงแคบ ระยะแฟลชที่จะไปได้ไกลที่สุด ก็ยิ่งน้อย ยิ่งใช้ช่องรับแสงกว้างมาก อีตอนถ่ายใกล้ๆ แฟลชอาจจะตัดไม่ทัน
ยังไงก็ยังเป็นไปตามกฎของ ไกด์นัมเบอร์อยู่ ...
ถ้าวัตถุไม่อยู่ใกล้ จนแฟลชตัดไม่ทัน หรือไกลจนยิงเต็มกำลังแล้วแฟลชก็ยังไม่ถึง แฟลชทีทีแอล เป็นแฟลชที่ไว้ใจได้เสมอ โอกาสผิดพลาดขนาดทำให้ภาพเสีย แทบไม่มีเลย หากการจัดองค์ประกอบ หรือสภาวะแวดล้อมไม่สุดขีดจริงๆ
ตัดโอกาสใช้ความไวชัตเตอร์ผิดพลาด สูงเกินไป ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเมื่อใช้แฟลช กล้องจะลดความไวชัตเตอร์ให้สัมพันธ์แฟลชโดยอัตโนมัติ และใช้ระบบการถ่ายภาพได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะ P, A, S, M
แถมหัวแฟลชยังซูมตามเลนส์ เพื่อปรับมุมกระจายแสงแฟลชให้พอเหมาะกับเลนส์ที่ใช้ได้ด้วย ไม่ต้องไปสนใจปรับอะไรทั้งสิ้น กดอย่างเดียว
แทนที่จะใช้เครื่องวัดแสง "ฉลาดน้อย" ที่ติดมากับแฟลช ระบบทีทีแอล จะใช้เครื่องวัดแสง "ฉลาดมาก" ที่อยู่ในกล้องแทน ซึ่งฉลาดได้มากแค่ไหน ก็แล้วแต่ระบบวัดแสงของกล้องแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ
โอกาสถูกหลอกจากฉากหน้า ฉากหลัง สีวัตถุ น้อยลงไปกว่าการใช้เครื่องวัดแสงที่แฟลชมาก เพราะระบบวัดแสงในกล้องมักจะฉลาดกว่าที่แฟลช
อย่างแย่ที่สุดก็พึ่งพาเครื่องวัดแสง "โคตรฉลาด" ที่อยู่หลังกล้อง (หรือบางเครื่อง "โคตรไม่ฉลาด") มาช่วยชดเชยให้อีกนิดหน่อย เวลาชดเชยต้องระวังให้ดีนะครับ เพราะการชดเชยจะทำให้ 2 แบบ ชดเชยแสงของภาพทั้งภาพ หรือชดเชยเฉพาะแสงแฟลช อ่านคู่มือดีๆ ว่าอันไหน ปรับอย่างไร
ถ้าไม่แน่ใจว่าเครื่องวัดแสงหลังกล้องที่มีอยู่ ฉลาดแค่ไหน ผมแนะนำให้กล้องจัดการไปตามลำพัง อย่าไปยุ่งกะมัน ใช้เครื่องวัดแสงหลังกล้องกดชัตเตอร์อย่างเดียวพอ อย่างที่ผมทำอยู่ ปลอดภัยที่สุด
จากคุณ :
อะธีลาส
- [
13 พ.ย. 49 23:57:52
]
|
|
|