ความคิดเห็นที่ 6
สรุปคือ ผมเ้พ้อเจ้อครับ.... อย่าไปจำแบบนี้หล่ะครับ
A = Aperture priority โหมดนี้ เราเลือกรู้รับแสงเอง เพราะให้ความสำคัญกับความชัดลึก ชัดติ้น แล้วให้กล้องเลือกความเร็วชัตเตอร์ให้เอง
S = Shutter priority โหมดนี้ เราเลือกความเร็วชัตเตอร์เอง เพราะให้ความสำคัญกับ การเร็วในการเลื่อนของม่านชัตเตอร์ เปิด-ปิด ตามความเร็วหรือการเคลื่อนไหวของวัตถุ จะให้อยู่นิ่ง หรือ มีการเคลื่อนไหว แล้วให้กล้องเลือกรูรับแสงให้เอง..
สองโหมดนี้ ส่วนใหญ่ หลายๆท่าน จะใช้โหมด A สาเหตุหลักๆเพราะ จะให้ความสำคัญกับความชัดลึก-ชัตตื้นมากกว่า และ ช่วงค่าชัตเตอร์สปีตที่กล้องมีให้ มันกว้างกว่า ค่าของรูรับแสงมาก ทำให้ บางครั้ง ในเวลาที่รีบเร่งในการบันทึกภาพ วัดแสงไม่ได้ตามนั้น เพราะ ติดตรง รูรับแสง ลงต่ำกว่านี้ไมไ่ด้
P = Program ชื่อก็ตามตัวอยู่แล้ว ตามที่กล้องท่านจะเลือกให้ ทั้งรูรับแสง และ ความเร็วชัตเตอร์ แต่โดยส่วนใหญ่ ถ้าในสภาพแสงดี กล้องจะเลือกหรี่รูรับแสงลงประมาณ 1 - 2 stop ให้เองอยู่แล้ว แต่ กล้องหลายๆตัว สามารถล๊อกค่าแสงและ shift ค่าที่เราต้องการได้อยู่แล้ว
M = Manual Mode จะกลับกับกับข้างบน คือ ปรับเองทั้งรูรับแสง และ ความเร็วชัตเตอร์เองเลย เหมาะสำหรับ ใช้ในกรณีที่ มีค่าแสงที่คงที่ หรือ ในไฟประดิษฐ์ต่างๆ เช่น ไฟแฟลชสตูดิโอ หรือ ในกรณีที่ ไม่ต้องการล๊อกความจำแสงใหม่อยู่บ่อยๆ เมื่อต้องพิจารณาถ่ายภาพใดภาพหนึ่งที่ต้องใช้เวลามากกว่าปกติ หรือ บรรจงถ่ายแบบสุดๆ
เลือกใช้ ตามความเหมาะสมได้เลยครับ
ส่วนผม วนเวียนอยู่ 2 ตัว A และ M เท่านี้ครับ
จากคุณ :
ALG
- [
9 มิ.ย. 50 21:05:11
]
|
|
|